Thank For Your Smile...น้ำตา...ความฝัน...ความหวัง

-

เขียนโดย MightySoul

วันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.50 น.

  26 บท
  0 วิจารณ์
  25.08K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 เมษายน พ.ศ. 2557 11.57 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

17) บทที่ 16 ความเป็นจริงอันน่ากลัว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
บทที่ 16
ความเป็นจริงอันน่ากลัว
ส่วนตัวแล้วฉันเป็นคนที่ไม่ชอบที่จะนั่งรถนานๆสักเท่าไหร่ แต่ก็โชคดีที่จังหมัดไซตามะที่ถือเป็นที่แรกในการจัดไลฟ์ทัวน์ของดูโอแองเกิ้ลนั้น เป็นจังหวัดที่ไม่ได้อยู่ห่างไกลจากกรุงโตเกียวมากนัก ฉันจึงใช้เวลาแค่ชั่วโมงกว่าๆในการเดินทางในครั้งนี้ และควรจะเร็วกว่านี้ด้วยซ้ำถ้าการจราจรปลอดโปร่งราบรื่นไม่ติดขัดตลอดทาง
ฮอลล์ขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่กลางสนามหญ้าที่ถูกตกแต่งไว้อย่างเป็นระเบียบสวยงาม ต้นไม้ที่ถูกดูแลรดน้ำพรวนดินอย่างดีสวยงามราวกับต้นไม้พลาสติกประดับสีสดใส เคล้ากับเหล่ามวลดอกไม้สีต่างๆที่ขึ้นแสมตัดกับหญ้าเขียวขจี เป็นภาพที่ไม่ว่าใครได้เห็นแล้วก็ไม่อาจลืมลง
“เอาจริงเหรอ...ริกะ” เสียงของฮานะเปี่ยมไปด้วยความกังวล
“ไม่เป็นไรหรอกน่า แค่นิดเดียวเอง” ฉันค่อยๆใช้ปลายนิ้วกดปิดปลายด้านหนึ่งของหลอด หลังจากที่มันดูดน้ำขึ้นมาจนเต็มเปี่ยมแล้ว
“ไม่ตื่นนักใช่มั้ย คุณชาย”
“โอ๊ย ฉันจะกลั้นไว้ไม่อยู่อยู่แล้ว” ฮานะพยายามใช้มือปิดปากกลั้นหัวเราะ
“ชู่ว์ เงียบๆสิ ถ้าเขาเกิดดันตื่นขึ้นมาตอนนี้ก็เสียแผนกันพอดี”
น้ำเย็นเจี๊ยบที่กักเก็บไว้ในหลอดค่อยๆไหลลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลก หลังจากที่นิ้วที่ปิดปลายถูกปล่อยออก
ทันทีที่มันกระทบกับหน้าของเด็กหนุ่มที่กำลังนอนหลับอย่างมีความสุข คงไม่ต้องบอกว่าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น ฟีลตะโกนร้อง จ๊าก ตามแผนที่พวกเราวางเอาไว้ไม่ผิดเพี้ยน
ฉันและฮานะกลั้นหัวเราะไม่ไหว จนปลดปล่อยออกมาดังลั่นไปทั่วทั้งรถ
“นี่พี่สาวเล่นบ้าอะไรเนี้ย”
“ตื่นแล้วเหรอค่ะ คุณชายขี้เซา”
ฟีลหันซ้านหันขวาไปมาด้วยอาการมึนงง ธรรมดาของคนเพิ่งตื่นนอน
“ที่นี่คือ...”
“ถึงแล้วล่ะ คนอื่นเขาลงไปกันหมดแล้วด้วย” เจ้าแอนนาที่นั่งอยู่บนไหล่ของฉันตะโกนร้องขู่ฟีลตามนิสัยของมันที่ดูจะไม่ค่อยถูกกับเขาสักเท่าไหร่
“ขะ..ขอโทษครับ ฮานะซัง ที่นอนเพลินไปหน่อย”
“ไม่เป็นไรหรอกฟีลซัง รีบลงไปสักทีเถอะ คนอื่นเขารอกันหมดแล้ว”
ในที่สุดพวกเราทั้งสามคนก็ได้ฤกษ์เดินลงจากรถที่บัดนี้ไร้ซึ่งผู้คน ดูเหมือนสถานที่จัดคอนเสิร์ตแห่งนี้จะเป็นที่ตื่นตาตื่นใจของเด็กบ้านนอกเข้ากรุงข้างๆพอสมควร
“ที่นี่ใหญ่จังเลยนะครับเนี้ย อากาศก็ดี ทิวทัศน์ก็สวย” เขาวิ่งไปมาด้วยความตื่นตาตื่นใจจนไปชนกับพนักงานที่กำลังขนของออกจากรถ จนต้องขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ ซึ่งเป็นภาพที่ทำให้ฉันอดหัวเราะไม่ได้จริงๆ
“เป็นไง โดนด่าเลยล่ะสิ” ฟีลวิ่งกลับมาด้วยใบหน้าที่ไม่สู้ดีนัก
“ผมขอโทษแล้วแท้ๆนะเนี้ย ทำไมต้องด่ากันด้วยก็ไม่รู้”
“เอาน่าๆ อย่าใส่ใจเลย”
ในที่สุดฮานะที่แยกตัวออกตั้งแต่ลงจากรถก็เดินกลับมาคล้ายว่าเธอจะเพิ่งไปทำธุระบางอย่างกลับมา
“ฮานะซัง แล้ว...ริกะซังมาถึงรึยังครับ”
ฮานะหันมาจ้องมองที่ฉันวูบหนึ่งก่อนที่จะตอบกลับไป
“อ่า ถึงแล้วล่ะ แต่ว่าเธอไม่ค่อยสบายน่ะ ก็เลยไปพักผ่อนอยู่ที่โรงแรมแล้ว” สมกับเป็นฮานะ เป็นคำตอบที่ไร้ซึ่งช่องโหว่ และไม่มีทางที่ฟีลจะสงสัยอะไรได้
“ละ...แล้วเธอ...เป็นอะไรมากเหรอเปล่าครับ”
“ไม่เป็นอะไรมากหรอก แค่เมารถไฟน่ะ เป็นอาการประจำของเธออยู่แล้ว”
“อย่างงั้นเหรอครับ” ฟีลถอนหายใจ ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงต้องทำแบบนั้น แต่ดูเหมือนว่าสีหน้าเขาจะเปลี่ยนไป ทันทีที่พูดถึงตัวฉันในนามริกะ
“แหมๆเป็นห่วงจังเลยนะ ริกะเนี้ย สงสัยคงอยากเจอมากสินะ” ฮานะถามคล้ายจะแกล้งฉัน
ฟีลนิ่งไปสักพักก่อนที่จะพยักหน้าหงึกๆจนฮานะหัวเราะออกมาคล้ายกำลังสนุก ผิดกับฉันที่ใบหน้าเริ่มมีสีแดงเรื่อๆ
“กะ..ก็ ริกะซังเป็นเพื่อนของฮานะซังนี่ครับ ผมจะห่วงนิดห่วงหน่อยก็เป็นเรื่องธรรมดาไมใช่เหรอครับ” ฟีลพูดคล้ายพยายามกลบเกลื่อน ก่อนที่จะวิ่งออกไปช่วยพนักงานคนอื่นยกของเพื่อไม่ให้ฮานะถามอะไรไปได้มากกว่านี้โดยที่ไม่ลืมแสดงความเปิ่นโดยการสะดุดล้มกระแทกพื้นแต่ก็ยังลุกขึ้นมาได้และวิ่งต่อไปโดยที่ไม่หันหลังกลับมามอง
“ฟีลซังเนี้ย น่ารักจังเลยนะ ถึงจะดูซุ่มซ่ามบ้าๆบอๆ แต่ก็ดูเหมือนจะเป็นสเน่ห์อย่างหนึ่งทีเดียว”
“นั้นสิ ฉันก็คิดเหมือนกัน”
“ฉันว่าก่อนที่เขาจะไป เธอน่าจะบอกความจริงกับเขาได้แล้วล่ะมั้ง”
“ไม่เอาอ่ะ กำลังสนุกได้ที่เลย ยังไงๆฟีลก็ต้องอยู่กับเราไปอีกสักระยะหนึ่งอยู่แล้ว”
ฮานะทำหน้าประหลาดใจเมื่อได้ยินคำพูดของฉัน
“หมายความว่าเขาจะยังไม่ออกผจญภัยงั้นเหรอ”
“อืม เป็นความต้องการของเจ้าตัวที่อยากจะอยู่จนกว่างานนี้จะจบน่ะ”
“นี่เธอจะบ้าเหรอเปล่าเนี้ย!!!” ฮานะตะโกนเสียงดัง
“ทะ...ทำไมล่ะ”
ฮานะหันซ้ายหันขวาก่อนที่จะเดินเข้ามากระซิบที่ข้างหู “เธอไม่มีเวลามากพอที่จะเล่นบทริกะและนาโอะพร้อมๆกันตลอดทัวน์ได้หรอกนะ แค่บทริกะบทเดียวก็แทบจะไม่มีเวลาอะไรอยู่แล้ว”
“ตะ...แต่ว่า” สิ่งที่ฮานะพูดมาเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
“ถ้าเธออยากจะให้เขาอยู่ต่อไป เธอจะต้องบอกความจริงเขาไปซะ”
ข้อเสนอของฮานะเป็นสิ่งที่น่าสนใจและควรจะเป็น แต่ก็ดูเหมือนมีบางอย่างในตัวฉันที่ยังพยายามดื้อดึงไม่ให้เปิดเผยตัวจริงสักที
“เอาน่าฮานะ ฉันจัดการเวลาได้น่า อีกอย่างเขาก็คงไม่มายุ่งอะไรกับฉันมากหรอก แค่ทำตัวห่างๆเอาไว้ เดี๋ยวฟีลก็ลืมเองแหละ”
“แล้วถ้าเขาไม่ลืมล่ะ อย่าลืมสิว่าในที่นี้เขาสนิทกับเธอที่สุด”
ฉันมองหน้าฮานะที่เปี่ยมไปด้วยความจริงใจ ซึ่งไม่ง่ายนักที่จะได้เห็น
“ฮานะจัง อย่าคิดอะไรมากเลย อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด แล้วอีกอย่าง ถ้าช่วงไหนที่ฉันยุ่งมากๆจนเป็นนาโอะไม่ได้ ก็แค่บอกเขาไปตรงๆ หรือทำอะไรก็ได้ที่ทำให้นาโอะไม่สามารถปรากฏตัวต่อหน้าได้ช่วงนั้น ก็ได้ไม่ใช่เหรอ”
“แล้วถ้ามันไม่ได้ผลล่ะ”
“ก็หาวิธีอื่น หรือไม่ก็ไปตายเอาดาบหน้า” ฉันพูดอย่างไร้ซึ่งความกังวล
“ริกะ ไม่ว่าจะกี่ปี เธอก็เป็นคนที่คิดอะไรง่ายจริงๆ”
“งะ...งั้นเหรอ”
ในที่สุดเพื่อนสาวก็ถอดหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะยิ้มให้มา “แต่ก็แบบนี้แหละ ถึงสมกับเป็นริกะ”
ฉันมองหน้าฮานะผ่านแว่นกันแดดสีดำ ถึงแม้เลนส์ของมันจะสามารถบดบังรังสีของดวงอาทิตย์ได้ในระดับหนึ่ง แต่มันกลับไม่สามารถป้องกันสิ่งที่เรียกว่า ความเจิดจรัส ที่เปล่งออกมาจากตัวฮานะได้เลย
“จะทำอะไรก็ทำไป ฉันจะคอยช่วยเท่าที่ทำได้ก็แล้วกัน”
“ขอบใจนะ ฮานะ”
“เป็นเพื่อนกับเธอนี่มันเหนื่อยๆจริงแหะ ต้องมาตามช่วยเรื่องอะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมด”
“ชินแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ก็นะ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาอยู่กับเธอนี่มีแต่เรื่องปวดหัว วุ่นๆเกิดเต็มไปหมดจริงๆ”
“แหะๆ ตราบใดที่เธอยังคู่กับฉัน ก็คงต้องทนเอาล่ะ”
ฉันและฮานะหัวเราะออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน ไม่มีใครเป็นคู่ได้ดีเท่าฮานะแล้วจริงๆ เพราะมีเธอฉันถึงมายืนอยู่ ณ จุดนี้ได้
“เอาล่ะ ได้เวลาที่เธอต้องเปลี่ยนกลับไปเป็นบทริกะเหมือนเดิมแล้ว ฉันจะคอยดู ว่าเธอจะรอดแผนแตกไปได้อีกสักกี่น้ำ”
“รู้แล้วน่าๆ จะรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวนี้แหละ”
ฉันวิ่งเข้าไปในฮอลค์ขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าพร้อมกับเพื่อนสาวและเจ้าแอนนาที่เปลี่ยนจากนั่งยืดตัวสบายบนไหล่มาเป็นวิ่งด้วยขาเรียวเพรียวทั้งสี่ขา แต่ฉันยังไม่ลืมที่จะหันมามองฟีล ที่ตอนนี้ดูเหมือนกำลังจะทำอะไรเปิ่นๆซุ่มซ่ามๆจนถูกเทศน์หนักอยู่เบื้องหลัง
ฟีล...ตอนนี้เทียนไขในใจของฉันกำลังลุกโชติช่วงจริงๆ บางอย่างในตัวนาย กำลังส่งต่อมาถึงฉันโดยที่ไม่ทันจะรู้ตัวซะด้วยซ้ำ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา