Thank For Your Smile...น้ำตา...ความฝัน...ความหวัง

-

เขียนโดย MightySoul

วันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.50 น.

  26 บท
  0 วิจารณ์
  25.05K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 เมษายน พ.ศ. 2557 11.57 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

21) บทที่ 20 พายุใหญ่

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
บทที่ 20
พายุใหญ่
“ทำไมอยู่ดีๆฝนถึงตกได้น้า ว่ามั้ยริกะ?” ฮานะหันมาถามฉันขณะที่สายตาจ้องมองไปยังก้อนเมฆหน้าตาประหลาดที่ค่อยๆเคลื่อนตัวออกไปช้าๆ
“นั้นสิ ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยเห็นเมฆหน้าตาประหลาดอย่างนี้มาก่อนเลย”
ฉันมองไปยังฟีลและน้องสาวรวมถึงอากิที่ยังคงคุยกันอย่างออกรสออกชาติ เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง และอากิน่าจะปกปิดความลับเรื่องตัวจริงของฉันเอาไว้ได้ ฉันจึงชวนฮานะกลับไปที่ห้องแต่งตัวเนื่องจากเป็นห่วงเจ้าแมวตัวป่วนที่หลับเป็นตายอยู่ในห้อง
ทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดีหลังจากนั้น ไม่มีปัญหาอะไรเข้ายุ่มย่ามวุ่นวายอีก การซ้อมและการร้องรวมถึงการเข้าขาระหว่างฉันและฮานะก็ดีอย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้เราทั้งคู่มีความมั่นใจในงานคอนเสิร์ตที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันต่อจากนี้
และแล้วเวลาก็ล่วงเลยไปจนถึงเวลาอาหารเย็น อาหารกล่องถูกแจกจ่ายให้กับพนักงานทุกคน แน่นอนรวมถึงฟีลและพลอย น่าแปลกตรงที่แทนที่พลอยจะถือข้าวกล่องไปกินกับผู้เป็นพี่ที่นั่งเหม่ออยู่ใต้ต้นไม้ แต่กลับตรงมาหาฉันที่ปลอมตัวเป็นนาโอะแทน
“คิเซกิซัง” เสียงหวานๆของเธอราวกับมีมนต์สะกดให้หลงใหล
“อากิบอกเธอแล้วเหรอ เรื่องแผนปกปิดตัวจริงของฉันน่ะ”
“ค่ะ ฉันเอาด้วย อยากจะหาวิธีแก้เผ็ดพี่ชายจอมป่วนคนนี้มานานแล้ว แต่ก็โดนจับได้ตลอดเลย” พลอยนั่งลงข้างๆฉันก่อนที่จะเปิดกล่องอาหารที่ภายในบรรจุทาโกะยากิสองลูก และไข่ม้วนสีเหลืองทองดูน่ากิน
ฉันถึงกับโล่งอกเมื่อรู้ว่าอาหารกล่องทั้งหมดนี้ถูกสั่งเข้ามา ไม่ได้ถูกทำโดยแม่ครัวคนเดียวกับเมื่อตอนอาหารกลางวัน
“คิเซกิซังไม่กินเหรอคะ” พลอยพูดพลางคีบไข่เจียวเข้าปากช้าๆอย่างมีมารยาท
“ปะ...เปล่าหรอก แค่คิดผิดไปหน่อยเรื่องอาหารน่ะ” ฉันพูดกลบเกลื่อน อาหารกล่องในมือที่ถูกปิดอยู่ ถูกเปิดขึ้นพลางให้เห็นถึงรายการอาหารที่ไม่แตกต่างจากเด็กสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ
“แต่ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าเด็กสาวเงียบๆอย่างหนูพลอย จะแก่นแก้วมีความคิดอยากแกล้งพี่ชายอยู่ด้วย”
พลอยละสายตาจากข้าวกล่อง พลางอมยิ้มเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่คนเดียว “ก็เป็นแต่กับเฉพาะพี่ฟีลนั้นแหละค่ะ ใครจะไปทนเงียบอยู่ได้เล่า ตัวก่อเรื่องก่อปัญหาไม่เว้นแต่ละวันซะขนาดนั้น”
ฉันหัวเราะเห็นด้วยกับคำพูดของเด็กสาว “นั้นสินะ ป่วนซะขนาดนั้น ทนเงียบอยู่ได้ก็แปลกแล้วล่ะ”
เราทั้งคู่สบตากันก่อนที่จะหัวเราะออกมา อาหารในกล่องค่อยๆลดหลั่นไปตามบทสนทนาที่มากขึ้นระหว่างฉันและพลอย ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่บทสนทนาส่วนใหญ่ระหว่างเราทั้งคู่จะเอนเอียงไปทางเด็กหนุ่มที่กำลังนั่งเหม่อลอยอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่พอจะให้ร่มเงาได้อยู่บ้าง
“จริงสิพลอย ฉันลืมบอกไปเลยว่าฟีลกำลังเจอกับปัญหาใหญ่อยู่”
“ปัญหาใหญ่?” พลอยทวนคำพูดด้วยท่าทีสุภาพเรียบร้อย
“ฟีล...ดันไปท้าแข่งคีย์บอร์ดกับคนที่ไม่น่าจะไปยุ่มย่ามด้วยเข้าน่ะสิ” ฉันปิดกล่องข้าวลง การพูดเรื่องนี้ทำให้จิตใจของฉันกระวนกระวายขึ้นมาอีกครั้งอย่างช่วยไม่ได้
“ฉันยอมรับว่าฝีมือคีย์บอร์ดของฟีลก็จัดว่าไม่ธรรมดา ถ้าวัดกันแค่ที่ฝีมือก็อาจจะพอมีสิทธิลุ้นอยู่บ้าง แต่ว่า...” ฉันพูดต่อไม่ออกเมื่อเห็นใบหน้าอันสวยงามที่กำลังตั้งใจฟังอย่างใจจดใจจ่อ
“แต่ว่าอะไรเหรอค่ะ” เด็กสาวเร้าเมื่อเห็นฉันหยุดพูดไป
ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่คล้ายจะขับไล่ความอดกลั้นให้ออกไป “เธอรู้จัก คานาเอะ ยูกิมั้ยล่ะ”
“คานาเอะ ยูกิ...” พลอยทำท่าคล้ายคิดอยู่สักพัก ก่อนที่จะตาโตตื่น
“อย่างบอกนะว่า คานาเอะ ยูกิ นักคีย์บอร์ดรูปหล่อไฟแรงที่กำลังมีชื่อเสียงอยู่ในขณะนี้เหรอคะ”
ฉันพยักหน้า “อืม ฟีลไปท้าแข่งกับเขานี่แหละ ใครที่มีคนสนใจมากกว่า ฝ่ายนั้นจะเป็นฝ่ายชนะไป”
สายตาของฉันไม่กล้าสบตากับพลอย เพราะกลัวว่าจะเจอกับสายตาที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวล แต่ดูเหมือนว่าฉันจะคิดผิด
ทันที่สายตาของฉันสบกับพลอย เธอกลับไม่มีความขุ่นหมองข้องใจปรากฏออกมาให้เห็นเลย ผิดกับฉันที่รู้สึกเครียดกับเรื่องนี้จนกินไม่ได้นอนไม่หลับ
“ไม่กังวลเลยเหรอ?”
พลอยหันมา พร้อมส่งยิ้มที่ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องหลงใหล “กังวลค่ะ”
“แล้วทำไมถึง...”
“เพราะเชื่อยังไงล่ะค่ะ เชื่อว่าถ้าเป็นพี่ฟีลล่ะก็ ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก” คำพูดของพลอยทำให้ฉันอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“อย่างงั้นเหรอ ท่าทางฉันจะยังรู้จักฟีลไม่มากพอสินะ”
“อย่าพูดอย่างงั้นเลยค่ะ ขนาดหนูเองก็ยังรู้สึกไม่ค่อยจะเข้าใจสิงที่พี่เขาคิดอยู่เหมือนกัน”
ความสวยของพลอยเริ่มดึงดูดสายตาหนุ่มๆรอบข้างให้จ้องมองไม่วางตา ถึงแม้ว่าฉันจะสังเกตเห็น แต่ดูเหมือนว่าพลอยจะยังไม่สังเกตได้ถึงสิ่งนั้น
“พลอย...เธอคงไม่ได้มาที่นี่เพราะแค่อยากจะเจอฟีลหรอกใช่มั้ย?” อยู่ดีๆฉันก็อดไม่ได้ที่จะถามคำถามที่ค้างใจมานานตั้งแต่เจอพลอยครั้งแรก
พลอยถึงกับอึ้งไปสักเล็กน้อย ถ้าจะให้พูดถึงความเหมือนระหว่างฟีลกับพลอย ก็คงจะเป็นเรื่องเก็บความลับไม่อยู่นี่แหละ ที่เหมือนกันซะเหลือเกิน
“ไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไรนะ”
“มะ...ไม่ใช่ค่ะ แค่รู้สึก...อายนิดหน่อย” หน้าของพลอยแดงระเรื่อๆทำให้ชายหนุ่มที่จ้องมองอยู่รอบข้างหน้าแดงตามไปด้วย
“หนูแค่...อยากจะลองทำตามความฝันของตัวเองดูสักครั้ง” พลอยไม่กล้าสบตา ได้แต่ก้มหน้าหน้าแดงก่ำต่อไป
“ความฝันอะไรล่ะ” ดูเหมือนผู้ชายที่แอบจ้องมองพลอยอยู่จะรู้ว่าฉันกำลังแอบเหล่มองพวกเขา พวกเขาจึงละสายตาจากพลอยและทำท่าทีเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
“หนูอยากเป็นไอดอล” เด็กสาวขี้อายพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เบาจนต้องตั้งใจฟังถึงจะสามารถจับใจความได้
“อ่า เหมาะดีนะ เหมาะดีจริงๆ”
“เหมาะงั้นเหรอคะ?”
ฉันอดยิ้มไม่ได้ “ไม่มีอะไรหรอก ไม่มีอะไร อย่าใส่ใจไปเลย”
พลอยพยักหน้าคล้ายเข้าใจ “อาหารอร่อยดีนะคะ”
“อือ รสชาติใช้ได้เลยล่ะ แต่เหนือสิ่งอื่นใด การที่ได้คุยกับพลอย ทำให้ฉันรู้สึกมีความสุขจริงๆ เหมือนกับว่าเคยรู้จักกันมาก่อนที่ไหนสักแห่งเลย” ฉันพูดไปตามความรู้สึก
พลอยหันหน้าขึ้นมามองฉัน “คิเซกิซังก็รู้สึกเหมือนกันเหรอค่ะ?”
“กรี๊ด!!!!!!” เสียงกรี๊ดดังสนั่นหยุดบทสนทนาระหว่างเราทั้งสองคนเอาไว้ ทั้งฉันและพลอยต่างพาจ้องมองไปที่ต้นตอของเสียงที่อยู่ไม่ห่างจากจุดที่ฟีลกำลังนั่งกินอาหารอยู่มากนัก
“อย่าบอกนะว่า...”
“อือ คงจะเป็นยูกินั้นแหละ เฮ้อ เจ้าหมอนี้มันแฟนคลับเยอะจริงๆ” ฉันมองผ่านทะลุฝูงชนแฟนคลับเข้าไป ภาพที่เห็นก็เป็นเพียงแค่ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่กำลังทำท่าทีคล้ายไม่แยแสแฟนคลับรอบข้างเลยแม้แต่น้อย
“อย่าไปหลงเสน่ห์มันเชียวล่ะ พลอย” ฉันพูดเตือนสติเด็กสาวที่กำลังจ้องมองยูกิตาไม่กระพริบ
พลอยดูเหมือนพึ่งจะได้สติ “ตะกี้คิเซกิซังว่าอะไรนะคะ”
ฉันถึงกับถอนหายใจกับท่าทีของพลอยก่อนที่จะหันกลับไปมองยูกิ ในใจได้แต่คิดสงสัยว่าทำไมคนนิสัยอย่างนี้ถึงได้มีคนมากมายชอบนัก
หลังจากยูกิรับประทานอาหารเสร็จ เขาก็รีบเดินทะลุฝูงแฟนคลับออกมา ด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์เป็นที่สุด แต่ไม่ว่าเขาจะทำท่าทีอย่างไร เหล่าแฟนคลับก็ยังคงเดินตามกรี๊ดเขาไปเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าเขาจะทิ้งกล่องข่าวเปล่าเอาไว้ใต้ต้นไม้ แต่ก็ไม่มีใครคิดที่จะเตือนเขาในสิ่งที่ผิดนี้เลย
“ยูกิซัง...ท่าทางนิสัยไม่ดีเลยนะคะ” ฉันโล่งใจไม่น้อยที่พลอยพูดประโยคนี้ออกมา เพราะมันแสดงให้เห็นว่าเธอยังไม่ถูกของเสน่ห์ของยูกิครอบงำ
“อย่าไปยุ่งกับมันมากล่ะ”
“ค่ะ” ถึงแม้พลอยจะพูดอย่างไร แต่สายตาของเธอก็ยังอดไม่ได้ที่จะจ้องมองยูกิเป็นพักๆ
แต่แล้วที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ก็มีเหตุการณ์ที่ควรค่าแก่การสนใจเกิดขึ้น หลังจากที่ฟีลรับประทานอาหารเสร็จ สิ่งที่เขาทำต่อจากนั้นไม่ใช่การนำกล่องไปทิ้ง แต่สิ่งที่เขาทำ กลับเป็นอะไรที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีคนอย่างนี้อยู่ในโลก
ฟีลไล่เก็บกล่องข้าวทุกกล่องไปทั่วทั้งบริเวณ มีพนักงานจำนวนไม่น้อยที่ทิ้งข้าวกล่องเอาไว้เรี่ยราด แต่กล่องทั้งหมดนั้น ฟีลกำลังเก็บมันอยู่ แน่นอนแม้แต่กล่องที่ยูกิทิ้งเอาไว้ก็ไม่ยกเว้น
“พลอย พี่ชายเธอนี่มันบ้าจริงๆแฮะ”
พลอยไม่ตอบแต่กลับหัวเราะออกมาเบาๆ
ถึงแม้จะไม่มีใครเห็น แต่ฉันกลับสัมผัสได้อย่างชัดเจน บางสิ่งบางอย่างที่แผ่ออกมาจากตัวฟีล บางสิ่งบางอย่างที่ไม่สามารถสัมผัสได้จากยูกิ บางสิ่งบางอย่างที่จุดไฟในใจของฉันให้โหมลุกโชน บางสิ่งบางอย่างที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าถ้าเป็นฟีลล่ะก็ อาจจะชนะยูกิก็เป็นได้
ถ้าเป็นฟีลล่ะก็ จะต้องเป็นนักดนตรีมืออาชีพได้แน่ๆ ฉันคิดอย่างนั้นจริงๆ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา