The Coven ชุมนุมแม่มด First Season

6.2

เขียนโดย LoosDim

วันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 22.37 น.

  7 ตอน
  6 วิจารณ์
  11.52K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 มีนาคม พ.ศ. 2557 19.14 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) THE COVEN ชุมนุมแม่มด EPISODE 1: REUNION

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
“ถ้าสมมุติว่าทุกสิ่งในโลกใบนี้ไม่ได้มีเพียงแค่มนุษย์ สรรพสัตว์ วิทยาศาสตร์และสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่ามีอยู่จริงจับต้องได้ล่ะ คุณจะทำยังไง ใช้ชีวิตยังไง?”
“เป็นหนังสือที่ดีนะเนี้ย” หญิงสาวผมยาวสีบลอนเบส หน้าบานเหมือนคนจีน เธอชื่อว่าละมุดกำลังอ่านหนังสือที่ประพันธ์โดยนักเขียนชื่อดังคนหนึ่งอยู่และคิดในใจ
“สถานที่ต่อไปสยาม...........” เสียงประกาศสถานีใน BTS ดังขึ้น
ละมุดเดินออกจากรถไฟฟ้าตรงไปที่ประตูทางออกฝั่งสยามที่ทะลุถึงลานน้ำพุของห้างพารากอน วันนี้อากาศดีแดดไม่ออกมากผู้คนเลยมานั่งเล่นถ่ายรูปกัน ส่วนละมุดเธอยืนรอเหล่าเพื่อนสาวอย่างใจจดใจจอ เธอในเสื้อสีครีมลายอินเดียแดงเปิดข้างเห็นซับในทรงเต่อ โชว์เอว กระโปรงชีฟองสั้นสีดำรองเท้าหนังเสริมส้นสีส้มอมน้ำตาล ยืนอยู่คนเดียวอย่างไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่
“แบร่!” ผู้หญิงคนนึงโผล่มาข้างหลังเธอ แกล้งทำให้ตกใจ เธอคือแซลลี่เพื่อนสนิทของละมุดนั้นเอง
“โหยยยยยยย ไอลี่ตกใจหมด 5555” ละมุดเอ่ยขึ้น
“อะไรวะ แค่นี้ตกใจเหรอ 555 ว่าแต่คนอื่นอยู่ไหนอะ?”
“ยังไม่มากันเลย ไม่รู้อยู่ไหนว่ะ ชักช้าตลอด”
“เออหมุด ชั้นมีสูตรใหม่มาให้แกลองเว้ย เพิ่งทำเสร็จเมื่อวานนี้เอง” แซลลี่เรียกชื่อเพื่อนด้วยความสนิทสนมพร้อมกับหยิบกระปุกสีขาวไม่มีสโลแกน ข้างในใส่เหมือนหญ้าแห้งบด แซลลี่ผมยาวสีดำตัวแห้งๆ ใส่เสื้อสีดำไม่มีลายคอกลมแล้วใส่เสื้อยีนส์ทับอีกที กางเกงขาสั้น รองเท้าผ้าใบสีดำ สะพายกระเป๋าสีขี้ม้า
“อะไรอะ ชาเหรอ?” ละมุดถามด้วยความสงสัย
“ไม่ใช่ มันคือ มะพร้าวกวาวเครือขาว เสาวรส ฟะ......”
“เห้ยๆ พอๆ เอาเป็นว่ามันมีประโยชน์อะไร?” ละมุดเบรก
“ก็นี้ไง ชั้นร่ายคาถาสกัดไอเจ้าพวกเนี้ยเป็นผงมาผสมกับใบฟอลวูที่ชั้นปลูก มันเป็นสมุนไพรที่ช่วยให้คุณสมบัติของทุกอย่างที่ถูกมันผสมจับตัวรวมเป็นเนื้อเดียวกัน ส่วนไอเจ้าผลไม้พวกเนี้ยนะ ก็ช่วยเรื่องบำรุงผิว ชั้นเลยขอตั้งชื่อมันว่า ก้นเด็ก” แซลลี่สาธยายคุณสมบัติ เธอเป็นแม่มดที่เก่งมากเรื่องสมุนไพร
“ห๊ะ! อะ..ไอ้ ก้นเด็กเนี้ยนะ แล้วไอ้ก้นเด็กมันใช้ยังไงอะ?” ละมุดตกใจกับชื่อที่แซลลี่ตั้งขึ้น
“ก็แค่นำไอก้นเด็กเนี่ยไปผสมกับพวกโลชั่น ครีมบำรุง รองพื้นที่แกใช้แล้วก็ทาปกติเนี้ยล่ะ รับรองนะว่าผิวแกหรือว่าหน้าแกเนี่ยจะขาวใส นุ่มเนียน เหมือนก้นเด็กเลย ลองดูๆ”
“อ๋อ~ ให้ฟรีใช่ป่ะ? 555”
“เห้ย ฟรีดิ 555555”
“เอ่อออ ดีจัง แกนี่น่าจะไปเรียนเภสัชเนอะ” ละมุด ยิ้มกว้าง เพราะได้ของฟรี
“หื้มมมมว่าแต่โทรหาไอเอมดิ ป่านนี้ล่ะยังไม่มาอีก ดาวด้วย”แซลลี่ดึงอารมณ์กลับมาเรื่องเดิม
“เออว่ะ” ละมุดหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรหาชะเอม
“ฮัลโหล อยู่ไหน ยังไม่ถึงอีกเหรอ?”
“อยู่ข้างหลังแกนี่ไง” เสียงของหญิงสาวที่พูดผ่านโทรศัพท์แต่ว่ามันดังเกินที่จะอยู่ในโทรศัพท์ ละมุดจึงหันไปด้านหลังของเธอ
“โห ไอเอมแล้วแกจะให้ชั้นโทรทำไมวะ มันเปลื้อง!!” ละมุดบ่นหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า
“อะไรวะ แค่ 2-3 บาทเอง ทำเป็นบ่นไปได้” หญิงสาวคนนั้นคือชะเอม เพื่อนสนิทของพวกละมุดอีกคนนึง ผมของเธอซอยสั้นถึงบ่าสีดำ แต่งหน้าจัด ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้นพับขึ้น กางเกงขาสั้นยีนส์ รองเท้าผ้าใบสีเทาเสริมส้นกระเป๋าสะพายใบเล็ก
“2-3 บาทก็มีค่านะเว้ย” ละมุดรับมุขต่อ
“เออๆ แล้วไอดาวอะยังไม่ถึงเหรอ?” ชะเอมเอ่ยถามหญิงสาวคนสุดท้าย ยังไม่ทันขาดคำก็มีเหมือนดาวหางสีขาวอมฟ้าตกลงมาข้างๆตรงที่พวกละมุดยืนอยู่ทำเอาผู้คนแถวนั่นตกใจแตกตื่นกันไปหมด พอพลังจากดาวหางค่อยๆคลายลงปรากฏว่ามันคือดาว เธอมีความสามารถพิเศษในการเปลี่ยนร่างให้เหมือนกับดาวหางจรวด
“อื้มหื้มม ไอดาวเลือกที่จะลงหน่อยดีมั้ยเพื่อน?” ละมุดถามเชิงใส่อารมณ์นิดๆ
“ทำไมวะ?” ดาวถาม
“โอ้โหยังมีหน้ามาถามอีก แหกตาดูสิเนี้ย พื้นห้างเขาร้าวหมดแล้วจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายห๊ะ?” ชะเอมต่อยอดเพิ่มเข้าไปอีก
“เออว่ะ 55555 ทำไงดีอะ?” ดาวตีใส เธอเป็นเพื่อนสนิทในแก๊งสาว 4 คนและสวยที่สุดในกลุ่มด้วย ผิวขาวผุดผ่องเป็นยองใย ผมยาวสีคาราเมล ใส่เสื้อสีขาวเอวลอย กางเกงขาสั้นเอวสูงสีดำกับรองเท้าคัทชูน่ารัก
“เดี๋ยวชั้นลองดู” ละมุดพูดขึ้นพร้อมกับยืนมือออกไปแล้วค่อยๆกำมันขึ้น จากนั้นพื้นปูนที่ร้าวๆแตกๆก็ค่อยๆก่อตัวมาสมานกันแต่ก็ยังเหลือล่องลอยของความเสียหายอยู่ ละมุดมีความสามารถในการควบคุมธาตุทั้ง 4 ที่เธอทำเมื่อกี้คือการควบคุมธาตุดิน
“เอาแล้วไง รปภ.มาแล้ว” แซลลี่พูดขึ้นพร้อมหันไปมองเจ้าหน้าที่ที่กำลังวิ่งเข้ามา
“คุณครับ คุณทำอะไรกันครับ รู้มั้ยว่าเขามีกฎหมายห้ามใช้เวทมนตร์หรือพลังวิเศษในห้างสรรพสินค้า แล้วเนี่ยพวกคุณทำพื้นของทางห้างเสียหายแบบนี้ คุณจะรับผิดยังไงครับ?” เจ้าหน้าที่มากัน 3 คน 1 ใน 3 คน พูดขึ้นมา
“เอิ่มเดี๋ยวเราจะซ่อมให้นะค่ะ” ดาวพูดขึ้น ในขณะที่เพื่อนๆทุกคนหน้าเสียไปตามๆกัน
“ทางเราต้องขอเชิญคุณไปที่โรงพักด้วยนะครับ เชิญออกจากบริเวณด้วยครับ ไปคุยกันที่ห้องสำนักงาน” เจ้าหน้าที่พูดขึ้นอย่างเด็ดขาด
“เห้ยอะไรวะ แค่นี้ต้องไปโรงพักกันเลยเหรอ เดี๋ยวก็เผาแม่งเลย!!” ชะเอมขึ้น
“เห้ยใจเย็นดิวะ เอม” เพื่อนทุกคนห้ามไว้ พร้อมกับดึงตัว
“เอางี้ เดี๋ยวพวกเราซ่อมให้ เราเป็นแม่มด ใช้เวทมนตร์ซ่อมก็หายแล้ว” ละมุดหาทางออก
พวกเจ้าหน้าที่ทำหน้าเมินใส่
“เร็วดิมาช่วยกัน” ละมุดสะกิดสาวๆให้มาช่วยกัน พวกเธอยืนล้อมรอบรอยร้าวแล้วเริ่มร่ายคาถา
“เอรา พิทูเร่ อิทตาตูราบู ซีวิตาเตส เดเซทตา ฮาเรเนส.....เอรา พิทูเร่ อิทตาตูราบู ซีวิตาเตส เดเซทตา ฮาเรเนส.....เอรา พิทูเร่ อิทตาตูราบู ซีวิตาเตส เดเซทตา ฮาเรเนส” แล้วรอยร้าวก็ค่อยๆถูกเคลือบเป็นเนื้อเดียวกัน จนกลับมาเป็นปกติ
เจ้าหน้าที่เสียหน้านิดๆ “โชคดีไปนะพวกคุณ ขอโทษที่รบกวนครับ ขอตัวก่อน”
“แหม~ หน้ามือเป็นหลังมือเลยนะ หึ” ชะเอมพูดแดกดัน
“เออเอาน่า เข้าไปข้างในกันต้องไปซื้อของขวัญให้เฟรมอีก” ดาวพูดขึ้นมาพร้อมกับให้เพื่อนๆทุกคนเดินเข้าไปในห้าง
“หมุดคิดยังจะซื้ออะไร?” แซลลี่ถามลองเชิง
“ยังเลยว่ะ เดินไปเรื่อยๆก่อนล่ะกันเนอะ” ละมุดตอบพร้อมกับคิดไอเดียบางอย่างขึ้นมา
“คอยดูนะ” ละมุดเอ่ยขึ้นพร้อมกับหันไปหาพวกรปภ.ที่กำลังเดินไปทำให้ทุกคนสงสัย จากนั้นท้องฟ้าก็มืดครึ้ม ก่อเป็นเมฆเหมือนฝนจะตกมีกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านเมฆพวกนั้นแล้วเกิดเสียงฟ้าแล่บดังสนั่นไปทั่วทำเอาพวกรปภ.ตกใจสะดุ้งไปตามๆกัน ใช่นั้นคือความสามารถอีกอย่างหนึ่งของละมุด เธอสามารถควบคุมสภาวะทางธรรมชาติได้
“55555555555” พวกละมุดขำกิ๊กกั๊ก แล้วเดินเข้าไปในห้าง สาวๆหาซื้อของขวัญให้กับเพื่อนคนสำคัญคนนึงของละมุด

 
ตัดมาที่สถาบันการบินพลเรือน ในห้องเรียนห้องใดห้องหนึ่ง นักศึกษานั่งกันเต็มชั้นเรียน
“โอเค วันนี้ก็มีแค่นี้ล่ะ นักศึกษาทุกคน เจอกันใหม่ในคลาสเรียนหน้า” อาจารย์พูดสอนพูดขึ้น นักศึกษาทุกคน ก็ค่อยๆลุกออกจากห้อง บางคนก็ยังนั่งอยู่หันไปคุยกับเพื่อนวางแผนไปที่ไหนกันต่อหลังเลิกเรียนแล้วก็มีชายหนุ่มรูปหล่อคนนึงลุกขึ้น เขาสูงและหุ่นดี ใส่ชุดฟอร์มของสถาบันดูเท่มากๆ
“เห้ย ไอสิทธิ์ มึงรีบไปไหนวะ?” เพื่อนคนนึงของเขาถามขึ้น
“เออ วันนี้กูขอตัวว่ะไปงานวันเกิดเพื่อน เจอกันๆ” หนุ่มรูปหล่อคนนั้นร่ำลากับเพื่อนแล้วเดินจากออกมาพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นรับสายคนที่โทรมา
“พี่สิทธิ์คร้าบบบบ อยู่ไหนแล้วพี่ ผมกับไอรุจถึงเซนปิ่นแล้วนะ เดี๋ยวไปรอที่ชั้น 5” บุคคลปลายสายในโทรศัพท์พูดขึ้น
“เออๆ กำลังไป ไอขาวมาป่ะ?” สิทธิ์ตอบกลับ
“ไม่มาว่ะพี่ ไม่รู้หายไปไหน”
“เออๆ ให้ไอรุจจองตั๋วหนังไปเลยก็ได้ เดี๋ยวรีบไป”
“โอเคครับพี่” พอจบบทสนทนา สิทธิ์ก็รีบไปหารถที่จะไปเซ็นทรัลปิ่นเกล้า

 ตัดมาที่วัยรุ่นหนุ่ม 2 คนยืนรอสิทธิ์ที่เซนปิ่นชั้น 5 ตรงที่จองตั๋วหนัง นั้นคือโจและรุจ ทั้งสองอยู่กลุ่มเดียวกันมีสิทธิ์และขาวเป็นสมาชิกด้วย ชายทั้ง 4 คนสนิทกันมาตั้งแต่เด็กแต่อายุต่างกัน ขาวเป็นพี่ใหญ่สุด รองมาคือสิทธิ์ โจและรุจ โจคือคนที่โทรไปหาสิทธิ์ เขาหล่อ เท่ สูง หุ่นดี ใส่เสื้อเชิ้ตลายสก็อตติดกระดุมพับแขนเสื้อ กางเกงยีนส์ รองเท้าหนังปลายแหลม ส่วนรุจไม่สูงมาก ล่ำๆ ตันๆ หล่อพอใช้ได้ เข้มๆ ใส่เสื้อคอปกสีเทาอมน้ำตาล กางเกงยีนส์ รองเท้าคอนเวิร์สและแล้วสิทธิ์ก็มาถึงด้วยชุดฟอร์มที่เด่นมาแต่ไกลและสะดุดตา
“โห่ กว่าจะมานะพี่ ยังไม่ปิดเทอมอีกเหรอ?” รุจทัก
“ปิดแล้วแต่ต้องเรียนเสริมว่ะ” สิทธิ์ตอบกลับ
“130 บาท เอามา” รุจสวนขึ้นอย่างเร็ว
“โหไอน้อง มาถึงมึงทวงค่าตั๋วเลยเหรอวะ ห๊ะ?” สิทธิ์ตื่นเลยทันทีจากการนั่งรถเมล์นาน
“ไม่ได้พี่ช่วงนี้เงินไม่เข้าใครออกใคร”
“ค่อยให้ ได้รอบไหนอะ” สิทธิ์ถาม
“บ่ายสองสามสิบห้าอะ เรามีเวลาอีก 25 นาที” โจพูดขึ้น
“งั้นก็รีบไปดูของขวัญให้เฟรมเหอะ” สิทธิ์พูดขึ้น 
ระหว่างที่กำลังเดินลงชั้นล่างไปดูของขวัญรุจก็ถามสิทธิ์ขึ้น
“เออ พี่ พี่ว่าพวกพี่ละมุดจะมามั้ย?”
“รายนั้นเขาไม่พลาดหรอกงานวันเกิดเพื่อนซี้ทั้งที”
“ถ้าพี่ละมุดไม่มาอะดิแปลก 5555” โจสวนขึ้น

 
ตัดมาที่บ้านของเฟรม หมู่บ้านต้นฝัก เมืองชาน เขตปกครองเมทาโพลิส เฟรมคือเพื่อนสนิทที่สุดในหมู่บ้านของละมุด ทั้งคู่รู้จักกันได้ไม่นานแต่ก็สนิทกันมาก เธอเป็นคนสวย ผิวขาว ผมยาวสีน้ำตาล เธออยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงขาสั้น ปล่อยผมสบายๆ วันนี้บ้านเธอจัดงานเนื่องในวัดเกิดของเธอและเชิญแต่เพื่อนในหมู่บ้านเท่านั้น ตอนนั้นเอง สิทธิ์ โจและรุจก็มาถึงเป็นกลุ่มแรก ทั้งสามคนให้ของขวัญเธอพร้อมกับพูดคุยสังสรรค์กัน สวัสดีญาติผู้ใหญ่พ่อและแม่ของเฟรม
“ไอขาวยังไม่มาเหรอ เฟรม” สิทธิ์ถามขึ้น
“ไม่นะ ยังไม่มีใครมาเลย” เฟรมตอบกลับ
“เออนี่มากันก็ดีแล้ว สิทธิ์ จุดไฟแก๊สให้หน่อยจะตั้งหม้อสุกี้” แล้วเฟรมก็ยื่นหม้อสุกี้ให้กับโจ 
“ไปใส่น้ำมา”
“พี่เฟรมมีอะไรให้ผมช่วยมั้ย?” รุจถามขึ้นเพราะอยากมีหน้าที่กับเขาบ้าง
“มี ไปนั่ง รอกินไป” เฟรมพูดหยวนประสาท
“โห่ พี่ผมอะมีประโยชน์นะ” รุจยังต่อยอด
“ไม่อะ เดี๋ยวทำบ้านชั้นพัง 555555” ทั้งเฟรมและทุกคนหัวเราะไปตามๆกัน
สิทธิ์เดินไปที่เตาแก๊สแล้วมองจากนั้นไฟก็ติดขึ้นมาทันที ใช่แล้วเขามีความสามารถในการควบคุมธาตุไฟ ส่วนโจก็เปิดฝาขวดถังน้ำแล้วใช้มือเปล่าๆควบคุมน้ำให้ออกมาเทใส่ลงไปที่หม้อเป็นความสามารถในการควบคุมธาตุน้ำ ขณะนั้นเองก็มีเสียงบางอย่างที่หน้าบ้าน พวกเฟรมเดินออกไปดูปรากฏว่ามันคือเสียงของการใช้ความสามารถพิเศษของชายหนุ่มอีกคนนึงนั้นคือขาว เขาสามารถเทเลพอร์ตได้หรือว่าการหายตัวดีๆนี่เอง เขาใส่ชุดนักศึกษา
“โอ้โห กว่าจะมาไปไหนมาจ๊ะ?” รุจพูดกวน
“เปล่า ก็ไม่ได้ไปไหน เพิ่งมาจากมอ” ขาวสวนขึ้นเชิงแก้ตัว
“ใช่เหรอออออ” โจต่อมุข
“เอ้อ” ขาวพยายามจะปิดการสนทนาเพื่อเปิดการสนทนากับหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า
“สุขสันต์วันเกิดครับ เฟรม” ขาวพูดพร้อมกับยื่นของขวัญให้มันถูกใส่อยู่ในถุงของแบรนด์ Topshop เป็นแบรนด์ชื่อดังของเกาะอังกฤษ
“โอ้โห ถ่อไปถึงเมืองผู้ดีเลยเหรอฮะ” รุจแซวขึ้นมา
“เห้ย ไมใช่ของแถวมออะล่ะ พอดีไม่มีถุงใส่” ขาวรีบแก้ตัว
“ขอบคุณค่ะ เข้ามาข้างในก่อนสิ พี่ขาว” เฟรมทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดี
ทั้ง 3 คนแซวขาวยกใหญ่เพราะรู้ว่าขาวทุ่มเทมากถึงขนาดหายตัวไปซื้อถึงอังกฤษ ขณะนั้นเองแขกล็อตสุดท้ายก็มาถึงเมื่อรถแท็กซี่ขับเข้ามาจอดที่หน้าบ้านของเฟรมคนที่ลงมาจากรถไม่ใช่ใครก็คือ ละมุด แซลลี่ ชะเอมและดาวนั้นเอง ทั้ง 4 คนเข้าไปในบ้านสวัสดีญาติผู้ใหญ่ให้ของขวัญกับเฟรม เฟรมยิ้มหน้าบานดีใจใหญ่ เธอโผเข้าไปกอดละมุด ทั้งสองกอดกันกลมและในขณะที่ทั้งสองดีใจกันอยู่นั้นเองก็มีเด็กสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาในงาน เป็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญ
“เห้ย มาได้ไงเนี่ย” รุจทักด้วยน้ำเสียงที่ตกใจ
“เอาล่ะไง คู่กรณีแกมาอะ หมุด” ชะเอมหันไปพูดกับละมุด ส่วนละมุดก็ไม่ได้พูดอะไรกำลังอึ้งนิดๆเหมือนกับคนอื่นๆ 
“สุขสันต์วันเกิดนะค่ะ พี่เฟรม มีความสุขมากๆนะ วาโยมีของขวัญมาให้” หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้านั้นคือว่าวาโย เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องกับรุจ อายุมากกว่า 2 ปีและเป็นแฟนเก่าของสิทธิ์แต่คบกันไม่นานก็ต้องเลิกกัน เธอคือสาเหตุที่ทำให้สิทธ์กับละมุดเลิกกันในสมัยม.ต้น แม้จะเลิกกันไปนานแล้วแต่วาโยก็ไม่เคยหมดรักในตัวสิทธิ์ เธอผมยาวสีทอง ตัวเตี้ย ในเสื้อกล้ามสีขาวแล้วก็เสื้อคลุมแขนยาวสีชมพูใส่ทับอีกทีนึง กางเกงยีนส์ขาสั้น รองเท้าแตะธรรมดา
“ขอบใจมาก วาโยแต่พี่ไม่ได้เชิญเรามางานนะ” เฟรมขอบคุณตามมารยาท แล้วก็ยิงไป1 ประโยค
“อ๋อ ไม่เป็นไรค่ะ พี่เฟรม โยเชิญตัวเองได้ค่ะ” วาโยยิ้มร่าเริงตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ไม่สะทกสะท้านอะไรเลย จากนั้นเจ้าหล่อนก็พุ่งตรงไปหาสิทธิ์ปล่อยให้เฟรมยืนงงนิดๆ
“พี่สิทธิ์ใส่ชุดฟอร์มแล้วดูหล่อมากเลยนะค่ะ” เธอพูดชมด้วยน้ำเสียงที่ภาคภูมิใจ
“ขอบคุณนะ วาโย” สิทธิ์ตอบรับอย่างสุภาพ
“ให้ชั้นใส่หญ้าแบมแบนแกรสลงไปในแก้วน้ำนางมั้ย? เพื่อน” แซลลี่คิดแผนเด็ดขึ้นและตอนนั้นเองวาโยก็เบนความสนใจไปที่ละมุดและเธอก็พุ่งเข้ามาหา
“พี่ละมุด สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีจ่ะ”
“พี่ละมุดเป็นไงบ้างค่ะ สบายดีมั้ย? ไม่เจอกันตั้งนาน สวยขึ้นนะเนี้ย”
“ก็สบายดีจ่ะ เรื่อยๆ” ละมุดพูดคุยด้วยเสียงนิ่งๆ
“แต่จะดีกว่านี้ถ้าแกไม่มา” ชะเอมสวนขึ้นทันที
“เห้ยใจเย็น” ดาวห้ามไว้ วาโยยังคงยิ้มอยู่
“งั้นวาโยขอตัวนะค่ะ จะไปคุยกับพี่สิทธิ์ต่อ มีเรื่องให้คุยเยอะเลย” แล้วเจ้าหล่อนก็เดินไป
“โหยยยยย หมุดยอมมันทำไมวะ เป็นชั้นนะจับเผาแม่งเลย!” ชะเอมขึ้น
“ก็ไม่ได้อะไรกันแล้ว อีกอย่างน้องเขาก็มาคุยปกติ ไม่ได้อะไร เรื่องมันก็จบมาตั้งนานล่ะ ชั้นกับไอสิทธิ์ก็สนิทกันเหมือนเดิม จะไปทำอะไรน้องเขาล่ะ” ละมุดพูดขึ้น
“แกฟังไม่ออกจริงๆเหรอว่ามันกัดแก เห้ย ทำไมเรื่องความรักเพื่อนชั้นมันโง่อย่างงี้วะเนี้ย” แซลลี่เริ่มหงุดหงิด
“อย่าไร้สาระน่า วันเกิดไอเฟรมนะ” ละมุดตัดบท หลังจากที่สังสรรค์รับประทานอาหารกันเรียบร้อยแล้วก็ถึงช่วงเวลาสำคัญ คือการเป่าเทียนวันเกิด
“Happy Birthday to You Happy Birthday to You…………….” หลังจากร้องเพลงจบก็ให้เฟรมอธิษฐานแล้วก็เป่าเทียนบนเค้กที่หน้าตาสวย น่ากินแต่สิ่งเกิดขึ้นคือวาโย เธอหงายเงิบลงกับพื้นแววตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีฟ้าขึ้นมาทันทีซึ่งนั้นก็หมายถึงความสามารถพิเศษของเธอทำงานแล้ว ในนิมิตที่วาโยเห็นนั้นมีสงคราม ผู้คนมากมายล้มตาย มีปีศาจและเธอเห็นผู้หญิงคนหนึ่งลอยขึ้นบนฟ้ามีพลังงานบางอย่างห่อหุ้มร่างเธอเหมือนรูปนก แล้วก็แตกสลายหายไป นั้นคือละมุดในนิมิตที่เธอเห็น
“วาโย วาโย วาโยเป็นอะไรหรือเปล่า?” เฟรมพยุงตัวของวาโยไว้ ดูเหมือนเธอจะเริ่มได้สติแล้วก็เริ่มพูด
“มันน่ากลัวมาก ความตาย หายนะ สงคราม” เธอยังอึ้งกับภาพที่ได้เห็น
“วาโยตั้งสตินะแล้วเล่าให้พวกพี่ฟัง เธอเห็นอะไร?” สิทธิ์พยายามเรียกสติของวาโย
“โยเห็น......”
“เห็นอะไร” แซลลี่สวนขึ้น
“โยเห็น ความตายค่ะ ผู้คนล้มตาย สงครามบนโลก เทวดากลายเป็นปีศาจ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงสั่น
“เทวดากลายเป็นปีศาจเนี้ยนะ?” รุจแทรกขึ้นมา
“จริงนะ ชั้นเห็นเทวดากลายเป็นปีศาจ แล้วแล้ว.........”
“แล้วอะไร” ชะเอมเริ่มเค้น
“แล้วโยก็เห็น....เห็น....เห็นพี่ละมุดตายค่ะ”
“อย่าพูดจาหมาๆแบบนี้นะ แกคิดว่าแกเห็นอนาคตแล้วจะมาแช่งให้เพื่อนชั้นตายเหรอ ไอเด็กบ้า” ชะเอมโมโหยกใหญ่ ทุกคนพยายามห้ามและรั้งตัวไว้ ในขณะที่ละมุดอึ้งกับสิ่งที่วาโยพูดไปในใจเริ่มคิดว่าคำพูดเชื่อได้หรือเปล่าแต่พลังของวาโยคือตาทิพย์ชั้น 1 ไม่เคยผิดพลาดและแม่นยำเสมอ
“โยไม่ได้โกหกนะ มันกำลังจะเกิดขึ้น พี่ละมุดต้องตาย” เธอเริ่มเถียงกลับซึ่งทำให้ชะเอมโมโหมากขึ้น ดวงตาของเธอกลายเป็นประกายไฟสีแดงฉาดร่างกายเริ่มร้อนระอุ
“พอเถอะ เอม” ละมุดเอามือไปแตะที่บ่าของชะเอมให้เธอใจเย็นลง
“แต่.....” ชะเอมหันไปพยายามพูด
“อื้มม ชั่งเหอะ เรื่องมันยังไม่เกิด ชั้นยึดติดกับปัจจุบันมากกว่า” ละมุดพูดปลอบใจตัวเองไป หลังจากนั้นทุกคนก็กินเค้กแล้วก็เก็บกวาดทำความสะอาด ละมุดนั่งล้างจานที่หน้าบ้านเพราะไม่อยากไปแย่งพวกไอรุจที่ล้างกันอยู่หลังบ้านแล้วสิทธิ์ก็เดินเข้ามาคุย
“เครียดเหรอ?” เขาพูดขึ้น
“เครียดอะไร?” ละมุดตอบกลับ
“ก็เรื่องที่วาโยเห็นไง”
“เปล่าไม่ได้เครียดอะไร ไม่มีอะไรต้องเครียด”
“แน่ะ หมุด เราคบกันมา 7 ปี ทำไมเราจะไม่รู้ว่าหมุดเครียดหรือไม่เครียด”
“เออ เออ เออเครียดก็เครียด นิดหน่อยอะ” ละมุดยอมรับ
“นั้นไง ไหนบอกว่าเรื่องยังไม่เกิด ยึดถือกับปัจจุบันไง” สิทธิ์เริ่มกวนเพื่ออยากให้ละมุดอารมณ์ดีขึ้น
“อ่า สรุปแกจะมาพูดให้ชั้นเครียดกว่าเดิมใช่มั้ย?”
“เปล่า แค่กวนเฉยๆ ก็ไม่อยากให้หมุดเครียดไง” แล้วสิทธิ์ก็เอามือลูบที่หัวของละมุด
“อย่าดิ ไม่ชอบให้คนลูบหัว” ละมุดปัดมือออกทำเสียงรำคาญ
“แหน่ะๆ” ทั้งสองคนพูดคุยกันอย่างสนิทสนม หลังจากที่ทุกคนทำอะไรเสร็จก็เตรียมตัวแยกย้ายกันกลับบ้านซึ่งส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านต้นฝักยกเว้น ดาว ชะเอมและแซลลี่ที่ต้องเดินทางกลับบ้านแต่ก็ไม่ไกลมากนัก
“ลี่ว่ามั้ย ไอดาวกับไอหมุดเนี่ยน่าอิจฉาเนอะ บ้านก็ใกล้กัน” ชะเอมหันไปพูดกับแซลลี่
“ไม่ต้องมาอิจฉาเลยพวกแก เห้ย ดาวฝากส่งมันสองคนด้วยนะ” ละมุดพูด
“ไม่ต้องเป็นห่วงถึงบ้านแน่นอน” ดาวรับมุข
“หื้อออ แค่หน้าปากซอยเนี้ยนะเพื่อน” แซลลี่ต่อมุข
“เออๆ กลับดีล่ะ” ละมุดตัดบท
“รุจ วันนี้ชั้นนอนห้องพี่ต้านะ” วาโยเดินออกมาพร้อมกับพูดกับรุจ
“อ่าวเจ้ ไม่กลับบ้านเหรอ? นึกว่ากลับ” รุจพูด
“ไม่อะ พรุ่งนี้ชั้นจะตื่นมาวิ่งพร้อมพี่สิทธิ์” เธอพูดแล้วหันมายิ้มให้สิทธิ์
“หายปวดหัวแล้วรึไง?” รุจเริ่มแขวะ
“ก็ยังนะ มึนๆอยู่” วาโยเกือบกู้กลับมาไม่ทัน
“เจอกันนะ” สิทธิ์หันมาพูดกับละมุด
“อื้ม ไปล่ะ ไอเฟรมเจอกันเด้อ” ละมุดตอบสิทธิ์แล้วหันไปร่ำลาเฟรม
“เออๆ เจอกันอย่าคิดมากล่ะ” เฟรมพูดจบแล้วเดินเข้าบ้าน
  EPISODE 2:WALK LEANING
COMING SOON

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
3.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา