[International] รักนี้...นอกสัญชาติ

9.9

เขียนโดย uraNus

วันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 13.41 น.

  9 chapter
  3 วิจารณ์
  12.60K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 เมษายน พ.ศ. 2557 21.21 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) ค่ายคณะ(2)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
.
.
.
 
                    [ Etarn Talk ]
 
                    พอผมเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาก็ตอนที่ได้ยินเสียงของพี่ลุคกับพี่ฝ้ายคุยกัน งุงิๆ แล้วสลึมสลือลืมตาขึ้นมา ก็เห็นพี่แม็กกับพี่ฝ้ายยืนอยู่ตรงหน้าเพราะผมนั่งเบาะหน้าสุดติดกับคนขับ แล้วก็ประตูทางลงพอดี   พี่ลุคกับพี่ฝ้ายยิ้มขำๆมองผม ผมเริ่มรู้สึกตัวว่าหัวผมพิงอยู่กับคนข้างๆเลยค่อยๆหันไปมอง ก็พบกับกลุ่มผมของนายแลนเอียงมาทางผม เผลอดมไปจนได้แน่ะ -0-   
                     " แหม่ๆ นอนพิงกันซะน่ารักเชียวนะ อิอิ "        
                     พี่ฝ้ายกับพี่ลุคยิ้มกรุ่มกริมมองผมกับนายแลนสลับกัน
                     " ปากก็บอกว่าเกลียดแต่ก็เข้ากันได้ดีนี่ หึหึ "   
                      ผมจึงยกหัวออกมาจากมัน จนทำให้คนที่นอนข้างๆหัวแทบทิ่มลงบนขาผมแต่มันก็ตื่นมาพอดีกับมองหน้าผมอย่างหาเรื่อง
                     " เอ่อ  คือผมเผลอหลับไปน่ะครับ แห่ะๆ "     ผมบอกแก้เก้อ แล้วหันไปมองรอบตัวก็ไม่พบใครเลยสงสัยลงกันไปหมดแล้วมั้ง 
                     " ฮ้าววววว∼∼  ถึงแล้วเหรอวะ "      นายแลนถามอย่างสลึมสลือ
                     " ถึงกันจนพวกมันรวมตัวกันนานแล้ววะเพื่อน มีแต่มึงนั่นแหล่ะที่นอนอู้อ่ะ "   พี่ลุคว่ายิ้มๆ บอกมัน 
                     " แล้วทำไมไม่รีบเรียกวะ "       มันว่าอย่าเคืองๆ
                     " นี่พวกฉันอุตส่าหวังดีมาปลุกนะเนี่ย ยังจะมาบ่นอีก "     พี่ฝ้ายบอก  
                     " เออๆ  ก็ไปกันดิ มัวรออะไล่ะ "          นายแลนว่าพลางลุกขึ้นหยิบกระเป๋าสะพายแล้วเดินลงรถไป  ผมจึงรีบลุกเดินไปรวมตัวกับพวกเพื่อนบ้าง   
 
                     
                     " อ้าวๆๆ  รีบจับกลุ่มแล้วเอาสัมภาระไปเก็บไว้ในห้องของแต่ละคนได้ครับ! " 
                     พอลงมาจากรถก็ได้ยินเสียงของพี่มายที่ยืนคุมพวกปีหนึ่งอยู่ผมจึงรีบเดินไปหาเจสันทันทีเพื่อเข้าพวกบ้าง 
                     " เฮ้ย ไมมาช้าจังอา ฉันรอแกตั้งนานนะ เกือบโดนพี่แม็กว่าแน่ะว่ายังไม่มีกลุ่ม "
                     พอผมเดินมาหาเจสันมันก็ว่าผมทันที
                     " แห่ะๆ  ขอโทษนะเจสัน พอดีฉันเผลอหลับไปน่ะ "     ผมบอกมันพลางเกาหัวเก้อๆ 
                     " - -  เฮ้ออ  เอาเถอะๆ รีบๆจับกลุ่มกันได้และ เขาให้แบ่งกลุ่มละ 4 เพื่อจะแยกนอนกันเป็นห้องๆน่ะ "       มันบอกผมจึงพยักหน้ารับ 
                     " เหลืออีก 2 อ่ะดิ แล้วจะหาใครกันดีอ่ะ "    
                     " อืม....  "     เจสันมองไปรอบๆเพื่อที่จะหาเพื่อนมาจับกลุ่มอีก 2 คน 
 
                     " เฮ้! พวกนายอ่ะ มีกลุ่มกันยัง "       อยู่ๆก็มีผู้ชายมาสะกิดผมให้หันไปหา เป็นคนดูดีมากเลยล่ะครับสูงขาวออกแนวจีนๆที่ค้วงมากับอีกคนที่ออกแนวนักกีฬาเพราะว่ารูปร่างเขาดีมากเลยล่ะครับ ผมเห็นตอนแรกแล้วยังตะลึงเลย
                     " เอ่อ ยังอ่ะ ขาดอีก 2 คน "      ผมบอก 
                     " ดีเลยๆ งั้นพวกเราขออยู่ได้มั้ยเราก็มีแค่ 2 คนน่ะ "    หนุ่มตี๋บอก ผมจึงหันหน้าไปขอความเห็นจากเจสัน
                     " ได้สิๆ จะได้ครบๆสักที "    เจสันพยักหน้ายิ้มๆ 
                     " ฉันชื่อ หลง นะ "   หนุ่มตี๋บอก 
                     " ฉัน โต้ง "    ส่วนอีกคนที่ยืนข้างๆแนะนำบ้าง 
                     " ฉันเจสัน ส่วนนี่ อีธาน นะ "       เจสันจึงแนะนำบ้าง หลงกับโต้งพยักหน้ารับ ผมก็มองเขายิ้มๆอย่างเป็นมิตร 
                     " ป่ะ งั้นเราไปลงชื่อกันก่อนเฮอะ "    หลงว่า
                     " อืมๆ "     ผมกับเจสันจึงเดินตามไป เพื่อที่จะลงชื่อเข้าห้อง เอ่อ ห้องพักน่ะครับ  
                     
 
                     " นี่นายเป็นลูกครึ่งหรอ "    โต้งถามขณะ ที่พวกเรากำลังนั่งรอรวมพลอยู่หลังจากที่แบกของขึ้นไปเก็บไว้ในห้องกันเรียบร้อยแล้ว 
                     " อื้ม "     ผมเลยหันไปพยักหน้ารับ
                     " แล้วพูดไทยได้ใช่มั้ยเนี่ย "      โต้งยังคงซักอย่างสงสัย 
                     " ได้สิ นายนี่ก็ถามแปลกๆ "     ผมขมวดคิ้วมองมันยิ้มๆ  โต้งจึงหัวเราะขึ้นมา
                     " ฮ่าๆๆๆ อ่าวหรอโทดที ก็เห็นเงียบๆ นึกว่าจะพูดไม่ได้ แต่สำเนียงก็เปล่งอยู่นะ ต้องไปฝึกพูดเยอะรู้ป่าว "       โต้งว่า
                     "  อื้ม ก็ทำไงได้ฉันเพิ่งย้ายมาจากอเมริกา ไม่ถึงเดือนเลยนี่ พูดได้แค่นี้ก็ดีแล้ว "     ผมบอกอย่างงอนๆ
                     " โห ก็จริงอ่ะ พูดเก่งนะเนี่ย "    โต้งว่าแล้วเอามือมากอดคอผมไว้อย่างสนิทสนม ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะมันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว
                     " แหม่ สนิทกันไวจริงนะสองคนนี้ "    เจสันที่เพิ่งเดินลงมากับหลงเอ่ยแซว
                     " ก็นะ สงสัยเคมีจะตรงกันมั้ง "      โต้งว่ายิ้มๆแล้วเหลือบมามองผม
                     " คร้าบๆ แล้วพวกนายสองคนสนิทกันมาก่อนเหรอ "     เจสันว่าพลางหันไปถามหลงที่ยืนข้าง
                     " อื้ม ก็เราย้ายมาจากมอปลายที่เดียวกันน่ะ "      หลงตอบ แล้วเดอนมานั่งข้างๆผม
                     " โห ดีจังเลยเนอะ "     ผมบอกอย่างนึกอิจฉา ก็ดีจริงๆแหล่ะมีเพื่อนที่สนิทอยู่แล้วมาจากที่เดียวกันจะได้ไม่เหงา คิดแล้วก็นึกถึงไอพวกเพื่อนๆผมที่อยู่อเมริกาขึ้นมาเลยครับ ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นไงกันบ้าง เฮ้ออออ  กะว่าถ้าปิดเทอมจะบินกลับไปหาพวกมันซะหน่อย
                     " อื้ม  แล้วพวกนายล่ะ "     โต้งถาม
                     " ก็เพิ่งมาเจอกันที่มหาลัยนี่แหล่ะ "      ผมบอก 
                     " อ่อ ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ ไม่ว่าจะพบกันเวลาไหนมันไม่สำคัญเท่ากับการที่สร้างความทรงจำให้กันในช่วงเวลานี้อยู่แล้ว จริงมั้ยโต้ง "    หลงหันไปยิ้มให้โต้ง
                     " ช่ายๆ  สำคัญที่สุดคือปัจจุบันต่างหากถ้าเราไม่สร้างเพื่อนในปัจจุบันแล้วจะมีอดีตได้ไงเนอะ "     โต้งยิ้มให้ผมกับเจสันเพื่อสร้างมิตรภาพที่ดีให้แก่กันและกัน
                     " อื้ม ขอบใจ พวกนายมากนะ "     ผมหันไปบอกหลงกับโต้ง แล้วมองหน้าเจสันอย่างสื่อความหมายดีๆให้กัน  แค่นี้ผมก็ดีใจแล้ว ไม่ต้องมีเพื่อนมากมายเป็นสิบขอแค่มีเพื่อนที่จริงใจกับเราแค่คนสองคนก็พอ 
 
                     
                     " มารวมกันได้แล้วครับ !! "       เสียงของพี่แม็กตะโกนเรียกให้พวกปีหนึ่งมารวมตัวกันที่โรงไม้  ผมยังไม่ได้บอกใช่มั้ยครับว่าที่ที่เรามากันเป็นบ้านพักในป้าบนภูเขา วึ่งออกไปทางแนวบ้านๆมากเลยไฟฟ้าแทบจะไม่มี แถมยังต้องอาบน้ำกลางแจ้งกันอีก ผมไม่เคยเจอสถานที่แบบนี้มาก่อนเลยล่ะครับ ทำไมเขาไม่พาไปทะเลนะ อยากเล่นอ่า-0-
 
                    " ก่อนที่จะไปทำกิจกรรมกัน พี่จะขอบอกตารางเวลากันก่อนนะครับ ว่าจะต้องทำอะไรกันบ้าง "    พี่แม็กพูดขึ้น
                    " ตารางของวันนี้ก็ไม่มีอะไรมากครับ หลังจากน้องๆทานข้าวเที่ยงกันเสร็จแล้ว พวกพี่ๆก็จะพาไปเดินสำรวจป่ากันนะครับแล้วก็จะได้เล่นน้ำตกกันด้วยอยากเล่นกันมั้ยเอ่ย^^ " พี่มายที่ดูท่าทางใจดีสุดแล้วพูดขึ้น
                    " อยากคร้าบ/ค่า "     พวกเราจึงขานรับเป็นเสียงเดียวกัน
                    " หลังจากนั้นก็ไปช่วยกันทำอาหารเย็นจัดโต๊ะ แล้วเราจะได้ทำกิจกรรมรอบกองไฟกันตอนหัวค่ำนะครับ "     พี่มายพูด  ส่วนพวกพี่ฝ้าย พี่ลุค พี่จาคอบ รวมถึงนายแลนที่นั่งกันบนโต๊ะไม้ยาวกำลังเขียนอะไรกันยิกเลยก็ไม่รู้ 
                    " ส่วนอาหารจะมีร้านข้าวแกงอยู่ตรงทางลงเขาเดินจากนี้ไปไม่ไกลมาก ระหว่างนี้พี่จะให้น้องๆพักรับประทานอาหารกันก่อน มารวมตัวกันอีกทีตอน บ่ายสอง นะครับ เชิญแยกย้ายกันได้ " 
                    " คร้าบ/ค่า "     
 
                    พวกผมจึงลุกจากพื้นแล้วเดินกันไปที่ร้านอาหาร
 
                    " หิวจังๆ มีอะไรให้กินบ้างน้า "     เจสันบอกอย่างตื่นเต้น 
                    " เฮ้อ ขี้เกียจเดินอ่ะ "     หลงบ่น  ตอนนี้พวกเรา4คนกำลังเดินไปที่ร้านอาหารตามที่พี่มายบอก ไหยว่าใกล้ไง นี่มันเกือบ 500 เมตรแล้วนะ
                    " อย่าบ่นน่านายรีบเดินเฮอะ "    โต้งที่ดูท่าทางเป็นผู้นำที่สุดพูดขึ้นมองหลงอย่างเอือมๆ  
                    " ไหนบอกไม่ไกลไงวะ "     หลงบอกเซ็งๆ ผมหันไปมองรอบๆก็เห็นพวกปีหนึ่งหลายคนบ่นๆกันมั้งแล้วจึงถอนหสยใจออกมา ทำไงได้ล่ะมันไม่มีรถนี่นา 
                    " แกจะบ่นทำไมวะ ดูอย่างเจสันกับอีธานดิ เขาตัวเล็กกว่าแกยังไม่บ่นสักคำเลย "      โต้งว่า  ผมอยากจะบอกมันเหลือเกินว่าตอนนี้เมื่อยโคตรแถมยังหิวอีก แต่ก็ต้องจำใจยอมเดินไปอย่างอดทน 
 
 
                    เฮ้อออ กว่าจะเดินไปถึงกว่าจะได้กินข้าวกันเล่นเอาพลังงานแทบหมดครับ ตอนนี้พวกผมกลับมาที่พักกันแล้ว กำลังนั่งเล่นนอนเล่นกันในห้องอย่างเซ็งๆ   ระหว่างที่ผมกำลังนอนตีพุงเล่นอยู่ก็ได้ยินเสียง 
                    แชะ!!  แชะ!! 
                    " เฮ้ยนี่นายทำอะไรน่ะ "      ผมหันไปถามดต้งที่นั่งอยู่ใกล้ๆ มันยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปพวกผมที่กำลังเหม่อๆอยู่ยิ้มๆ
                    " ก็ถ่ายรูปไง "       โต้งยกมือถือให้ดูภาพในจอ ซึ่งเป็นภาพผมกำลังนอนตีพุงกับภาพเจสันนั่งเล่นมือถือและภาพหลงนอนเอาแขนก่ายหน้าพาก  ซึ่งเป็นภาพที่เป็นธรรมชาติมากทีเดียว
                    " ฮ่าๆๆๆ โธ่ จะถ่ายก็บอกก่อนดิ จะได้เก๊กท่าเท่ๆ "      ผมบอกโต้ง มันจึงเดินเข้ามาหาผมแล้วนั่งข้างยกมือถือขึ้นเพื่อให้ได้องศาการถ่ายรูปหันเข้าหาตัวเองกับผม 
                    " งั้นจะถ่ายล่ะนะ "      มันบอก ผมจึงรีบยิ้มกว้างแล้วชูนิ้วโป้งกับนิ้วชี้แนบคางตัวเองเพื่อความเท่ 
                     แชะ!!   
                    " ไหนๆขอดูหน่อยดิ "      ผมรีบชะโงกหน้าเข้าไปใกล้เพื่อที่จะดูรูปที่ถ่ายแต่มันกลับชักมือหนีผม
                    " เอาไอจี เฟสบุ๊คมาดิ เดี๋ยวแท็กไปให้ "           ผมแบมือบอกผม ผมจึงบอกชื่อไอจีกับเฟสไป  
                    " ก็ขอดูก่อนไม่ได้ไงเล่า เผื่อหน้ามันออกมาไม่หล่อจะทำไงหะ "     ผมหันไปหน้างอใส่มัน 
                    " เอาน่า น่ารักอยู่แล้วล่ะ "     มันบอกยิ้มๆ ผมจึงหมั่ยไส้ยอมือขึ้นไปหยิกแก้มมัน มันก็จะเอื้อมมือมาหยิกผมคืนมั้งแต่ผมไวกว่าวิ่งหนีมัน  มันก็วิ่งตาม
                    " นี่ อย่าหนีนะ มาให้หยิกคืนซะดีๆ "      มันไล่ตามจนผมวิ่งมาสุดตรงประตูผมเห็นมันจะวิ่งมาเลยเปิดประตูหนีวิ่งออกไป แต่ต้องชะงักตกใจทันทีเมื่อพบสายตาเแียบคมจากร่างสูงของนายแลน ที่กำลังเดินผ่านประตูไป มันมองมานิดด้วยสายตาเฉือยๆ  แต่ลืมอะไรไปรึเปล่าเนี่ย
                    " นี่แน่! จับได้แล้ว มาให้หยิกคืนซะดีๆนะ "       โต้งที่กำลังไล่จับผมอยู่โผเข้ามารวบกอดตัวผมจากด้านหลังทำให้ผมตกใจ  เผลอมองหน้านายแลนที่มองมาที่ผมกับดต้งสลับกัน
                    " เฮ้ย! "     
                    " หึ ร่าน "     มันพูดใส่หน้าผมคำเดียวก่อนจะเดินผ่านหน้าผมไปอย่างไม่สนใจ
                    " เอ๋ เมื่อกี้นี้ใช่พี่แลนรึเปล่าอ่ะ "       นี่มันเพิ่งรู้เหรอ-0- 
                    " เออดิ "       ผมบอกก่อนจะถอนหายใจออกมาอน่างเซ็ง  ทำไมผมต้องไปสนใจคำด่าของมันด้วยนะ แล้วไอความหมายนั้นมันแปลว่าอะไรกันอะ  
                    " อ่าว นายเป็นอะไรรึเปล่าอีธาน ถอนหายใจทำไม "     โต้งถามอย่างเป็นห่วง  ผมจึงส่ายหน้ารัว
                    " หี ไม่เป็นไรซะหน่อย "   
 
 
                    [ Lan Talk ]
                   
                    หึ่ย! หงุดหงิดเว้ย ทำไมต้องไปเจอไอเด็กฝรั่งนั่นระหว่างเดินตรวจดูสถานที่ด้วยวะ แถมยังเห็นตอนที่มันกำลังอยู่กับไอเด็กคนนั้นอีก เห็นแล้วยิ่งหงุกหงิด รำคาญใจยังไงไม่รู้แหะ ว่าแต่เราจะไปใส่ใจมันทำไมเนี่ย ชิ เรื่องของมันสิมันจะไปคั่วผู้ชายที่ไหนก็ไม่เกี่ยวกับเราซะหน่อย 
                     " เป็นห่าไรวะแลน หน้าบูดเป็นตูดลิงเลย "     แม็กที่นั่งอยู่บนโต๊ะไม้ถามผมขณะที่เพิ่งเดินมาถึง
                     " ป่าว "       ผมบอกกลับไปแล้วนั่งลงข้างมันแล้วจ้องมองลงไปที่กระดาษ
                     " แล้วมึง เมื่อไหร่จะเรียกรวมวะ "  
                     " ห่า ใจเย็นดิไอแลน นี่ยังไม่บ่าย2เลยนะเว้ย "    แม็กบอก
                     " เหลือเวลาอีกตั้งครึ่งชั่วโมงมึงจะรีบไปไหนวะ "      มายว่า
                     " เออ เป็นไรมากปะแก "      ฝ้ายถามอย่างข้องใจ
                     " ก็.... เปล่านี้ กูกลัวเข้าป่าแล้วฟ้าจะมืดซะก่อนน่ะ "     ผมเลยบอกแก้เก้อไปก็จริงเดี๋ยวเข้าไปเดินป่าตอนมืดๆอาจเกิดอันตรายได้
                     " ฮ่าๆๆๆ เรื่องนั้นมึงไม่ต้องเป็นห่วงหรอกเรามีคนเชี่ยวชาญนำอยู่แล้วมึงก็รู้ ไฟฉายก็มีมึงจะกลัวอะไรวะ "       ลุคบอกขำๆกับความเป็นห่วงของผม
                     " เออ ห่วงมากไปแล้วมึงอ่ะ "       จาคอบว่ายิ้มๆ  
 
 
 
                     ตอนนี้พวกเราเดินมาถึงน้ำตกกันแล้วครับหลังจากสำรวจป่าไม้กันมา นี่ก็บ่าย3กว่าๆแล้ว  พี่เจ้าหน้าที่ที่เดินนำพวกผมอีกทีก็บอกว่าให้พักเล่นน้ำกันได้แล้วครับเพราะ เห็นน้องๆที่เดินตามกันมาเริ่มเหนื่อยกันบ้างแล้ว 
                     " ตอนนี้ก็แยกย้ายกันเล่นน้ำได้เลยครับแต่อย่าเลยเขตไปไกลมากนะเดี๋ยวจะพัดหลงกันได้ ช่วยๆกันดูแลเพื่อนด้วยนะครับ "      
                      มายตะโกนบอกพวกน้องๆ  ส่วนผมก็นั่งพักเหนื่อยอยู่ริมลำธานน้ำตกมองดูเขาเล่นน้ำกันไป ไอพวก เพื่อนๆผมมันก็ลงไปเล่นกันเรียบร้อยแล้วด้วย เฮ้อออ 
                      ผมเผลอไปมองเด็กฝรั่งนั่นที่เล่นน้ำอย่างสนุกสนานกับเพื่อนๆของมันอย่างร่าเริง สงสัยไม่เคยเล่นน้ำตกมั้ง มันใส่แค่เสื้อกล้ามสีขาวเท่านั่นซึ่งทำให้เห็นเรือนร่างขาวสะอาดตาของมันอย่างชัดเจน   ใส่เสื้อผ้าดีๆไม่เป็นรึไงกันวะ   ผมคิดในใจ แต่ก็ช่างเฮอะไม่ใช่เรื่องของผมนี่  ผมสะบัดหัวแล้วลุกเพื่อจะเดินไปตรงที่พวกเพื่อนๆเล่นน้ำกันแต่ต้องทรุดลงนั่งที่เดินทันทีเมื่อเท้าของผมก้าวไปเหยียบหินคม ข้างๆ ผมก้มลงไปมองเท้าก็พบกับเลือดที่ไหลนองเต็มไปหมด โว้ย ทำไงดีวะเนี่ย  
                      ผมนั่งกวักน้ำมาล้างเลือดที่ไหลอาบเท้าอยู่ลวกๆ  แต่มันก็ยังคงไหลไม่หยุดจะทำไงวะเนี่ย
 
 
                     [ Etarn Talk ]
 
                     ผมกับพวกเจสันเล่นน้ำกันอย่างสนุกเลยล่ะครับผมก็เพิ่งจะเคยได้เล่นน้ำตกครั้งแรกซะด้วย  น้ำเย็นสดชื่นดีจริงๆเลย แถมกลินก็ธรรมชาติสุดๆเลยล่ะะครับ 
                     " ฮ่าๆ นี่แน่ะๆ "     เสียงของเจสันที่กำลังสาดน้ำใส่หลงกับโต้งอย่างสนุกสนาน
                     " นี่ๆ ลงไปเลย "    หลงดันเจสันที่ยืนในที่ตื้นๆเท่าหัวเข่าลงไปในบ่อที่ลึกระดับคาง จึงทำให้เจสันที่ตัวเล็กกว่าจมลงไป
                     ตูม!!!  
                     " ฮ่าๆๆๆๆ สมน้ำหน้า "     หลงหัวเราะออกมาอย่าซะใจ ผมจึงส่ายหัวยิ้มๆกับความปัญญาอ่อนเหมือนเด็ของเพื่อน 
                     
                     ผมมุดลงไปใต้น้ำแล้วก็แหวกว่ายเล่นสักพักเมื่อลมในปอดเริ่มหมดจึงโผล่หัวขึ้นมาหายใจบนผิวน้ำ  ผมสะบัดหัวไลน้ำออกจากหูแล้วก็เหลือบไปเจอกับนายแลนที่กำลังนั่งอยู่ริมธารน้ำบนโขดหิน  นายนั่นกำลังก้มมองเท้าของตัวเองแล้วขมวดคิ้วมุ่นอย่างเครียดๆ ผมรู้สึกสงสัยขึ้นมาเลยแกล้งดำน้ำแล้วว่ายไปทางมัน 
 
                     พรวด!! 
                      ผมโผล่ออกมาจากน้ำอย่างรวดเร็วเพื่อจะแกล้งให้มันตกใจ
 
                     " เฮ้ยย  อะไรวะเนี่ย "      มันร้องออกมาอย่างตกใจ
                     " อุ๊บ! ฮ่าๆๆๆๆๆๆ  "       ผมเผลอหัวเราะออกมาอย่างขำๆกับท่าทางของมันที่มองผมเหวอๆ 
                     " นี่ มึง.. ทำบ้าอะไรวะ "       ท่าทางมันคงจะยั๊วมากครับมองผมด้วยสายตาเคืองๆแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร   แต่ผมสังเกตเห็นมันพยายามประคองเท้าของตัวเองไว้อย่างห่วงๆ ผมก็เหลือบไปเห็นเลือดที่มันไหลอาบเท้าของมัน
                     " เฮ้ย นี่คุณเป็นอะไรน่ะ "      ผมถามมันอย่างตกใจ ก็ว่ามันไม่ได้ทำอะไรเพราะยังงี้นี่เอง 
                     " ยุ่ง! ไปไกลๆเลยนะ "      มันบอกแล้วหันหน้าหนี    ผมจึงมุดลงน้ำแล้วว่ายกลับไปเพื่อจะไปหยิบพลาสเตอร์ในกระเป๋าสะพายที่วางอยู่อีกฝาก
                     แล้วก็เดินอ้อมกลับมาหามันเพื่อที่จะเอาพลาสเตอร์มาปิดแผลของมันที่เลือดไหลอาบเท้า จริงๆก็ไม่อยากช่วยหรอกนะแต่อดสงสารไม่ได้แหะ 
                     ผมเดินมาถึงตัวมันแล้วหย่อนก้นลงนั่งข้างๆมันขณะที่ตัวยังคงเปียดโชกอยู่
                     " นี่ มึงจะทำอะไรหะ "      มันมองผมอย่างสงสัยแต่ยังคงใช้มือกดแผลไว้อยู่ 
                     " ก็ผมไปเอาพลาสเตอร์มาให้ไง "       ผมพูดพลางชูมือที่ถือพลาสเตอร์อยู่แล้วจะก้มลงติดแผลให้มัน  มันมองผมอึ้งๆ
                     " เฮ้ยยย มะ..ไม่ต้อง เดี๋ยวกูทำเอง "         มันบอกแล้วดึงพลาสเตอร์ในมือผมไปเพื่อจะติดเอง  ผมเลยยอมให้มันไป แต่เห็นท่าทางติดที่เงอะๆงะๆ ของมันแล้วอดจะถอนหายใจไม่ได้
                     " เฮ้ออออออ "          
                     ผมดึงพลาสเตอร์ออกมาจากมือมันจับไว้แล้วก็ก้มลงที่จะติดแผลให้มัน  โหแผลใหญ่เหมือนกันแหะ ตรงฝ่าเท้าพอดีเลยแล้วยังงี้มันจะเดินได้เหรอวะเนี่ย
                     พอติดเสร็จผมก็เงยหน้าขึ้นมาตอนมันกำลังมองผมอยู่พอดีจึงทำให้เราผสานสายตามองกันอยู่เนิ่นนานเลยทีเดียว หัวใจบ้าๆของผมมันก็เริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะขึ้นเรื่อยๆ
                     
                     ตึกตัก  ตึกตัก   ตึกตัก
 
                     " เอ่ออ....สะ...เสร็จแล้วก็ไปสิ "       มันพูดขึ้นเก้อๆ แล้วหันหน้าหลบไป   ผมได้แต่อมยิ้มมองมัน แล้วก็หงอยลงทันที
                     " อ่า ครับ งั้นผมไปก่อนนะ "        ผมหันไปยิ้มให้มันน้อยแล้วลุกขึ้นเพื่อจะกลับไปหาเพื่อนๆต่อ
                     " ดะ..เดี๋ยว! "        แต่มันจับแขนผมไว้ก่อนผมจึงก้มลงมามองมือที่มันจับไว้อย่างสงสัย 
                     " เอ่อ.. ขะ.... ขอบใจ "          มันพูดด้วยเสียงแผ่วเบาพลางหลบหน้าผมแล้วก็ปล่อยแขนเป็นอิสระ  
                     " ครับ ?  ว่าไงนะ "         ผมแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินถามมันอีกรอบ
                     " นี่ มึง คิดจะกวนกูหรอไง "         แต่มันกลับหันหน้าโหดมาให้ซะงั้น
                     " ฮ่าๆๆๆๆๆ ล้อเล่นครับ  ไม่เป็นไรหรอกครับผมเต็มใจ งั้นผมไปแล้วนะ "      
                     ผมบอกแล้วหันหลังเดินไปต่อ แต่ไม่รู้เหมือนกันกะะอีแค่คำว่า ขอบคุณ ของมันคำเดียวเบาๆ ทำไมถึงทำให้ผมยิ้มไม่หุบขนาดนี้ก็ไม่รู้  รู้สึกเหมือนคนบ้าเลยแหะ 
 
                     
 
 
 

 
 
**************************
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา