เกมส์ปริศนานัยย์ตาปีศาจ

10.0

เขียนโดย Selty

วันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 11.41 น.

  4 บท
  4 วิจารณ์
  7,563 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 เมษายน พ.ศ. 2557 15.39 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) บทที่ 1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ณ ราชวังเชสไวท์
      เช้าวันใหม่อากาศสดใสไร้เมฆบดบังแสงของพระอาทิตย์ในยามเช้า เหล่าคนใช้และทหารในวังเดินขวักไขว่หางานทำ อาการง่วงหาวหงาวนอนของพวกเขายังไม่จางหาย ทหารที่เฝ้าเวรตอนกลางวันก็ไปผลัดเปลี่ยนการเฝ้ายามหรือราดตระเวรกับทหารตอนกลางวัน
     “อรุณสวัสดิ์เพคะ ควีนอลิซาเบธ วันนี้ควีนคามิเรีย จากเมืองเชสแบล็คกำลังเสด็จมาหาพระองค์เพคะ”หญิงสาวผมสีฟ้า นัยย์ตาสีแดงเดินมาทักทายควีนที่กำลังเดินลงบันไดมา
     “อรุณสวัสดิ์ จัสมิน”ควีนยิ้มให้เธอน้อยๆก่อนที่จะลงบันไดมาหมดขั้น
     “เพคะ เช้านี้จะรับชาหรืออะไรดีเพคะ หม่อมฉันจะได้ไปบอกสาวใช้ให้”จัสมินยิ้มให้ควีน
     “ขอชาฝรั่งก็แล้วกัน ข้าจะไปนั่งรอที่สวนดอกไม้นะ”พูดจบควีนก็เดินตรงไปที่สวนดอกไม้ที่อยู่ห่างจากวังไม่มาก
           --------------------------------------------------------------------
 
ณ บนรถม้าของควีนคามิเรีย
    รถม้าสีดำกำลังแล่นไปยังเมืองเชสไวท์ที่เป็นเมืองพันธมิตรมายาวนานกว่า 50 ปี ขบวนรถม้านั้นไม่ได้ใหญ่มาก เพียงแต่เหมือนการเดินทางที่ธรรมดาเหมือนขุนนาง  ควีนคามิเรีย กับคนใช้ประมาณ 2 คน และองครักษณ์ นั่งอยู่ในรถม้า พร้อมพูดคุยอะไรบางอย่าง
     “อีกซักพักก็ใกล้ถึงเมืองเชสไวท์แล้วนะเพคะ”สาวใช้ผมสีทองหันไปมองเมืองสีขาวที่ตั้งอยู่ไม่ไกลมากนัก
     “งั้นหรอ พวกเจ้าคิดว่าควีนอลิซาเบธนิสัยเป็นอย่างไงหรอ?”ควีนคามิเรียเอ่ยถามสาวใช้ทุกคน
     “เป็นคนดูเงียบๆนะเพคะ”สาวใช้ผมสีทองคนเมื่อกี้ตอบ
     “ใช่ๆ ไม่ค่อยยิ้มด้วย”สาวใช้ผมสีเทาเสริม
     “เมื่อก่อน ควีนอลิซาเบธเป็นคนที่ร่าเริงมากเลยล่ะ”ควีนคามิเรียเอ่ยเศร้าๆ
     “แล้วทำไมพระนางถึงได้เป็นแบบนั้นล่ะเพคะ”สาวใช้ผมสีทองเอ่ยถาม
     “ก็เพราะว่า.........”
โครม!!
ทันทีที่ควีนคามิเรียจะพูดต่อก็เกิดเสียงรถม้าไปชนอะไรกับบางอย่างเข้า
     “เดี๋ยวกระหม่อมจะลงไปดูเองพะย่ะค่ะ รออยู่บนนี้ก่อน”ชายองครักษ์ผมสีดำเปิดประตูรถม้าออก แล้ววิ่งลงไปดูสถานการณ์ข้างหน้า
     “อืม ฝากด้วยนะ โทนี่”ควีนคามิเรียกล่าวประโยคสุดท้ายแต่ชายองครักษ์ไม่ได้อยู่ฟังซะแล้ว
     “เกิดอะไรขึ้น?”โทนี่เดินถามคนขี่ม้า
     “แค่กระรอกวิ่งตัดหน้า น่ะขอรับ” ชายผู้ขับรถม้าตอบ
     “อืม งั้นหรอ ระวังๆด้วยล่ะมีอะไรเกิดขึ้นตะโกนบอกไม่ก็หยุดรถม้าได้ทันทีเลยนะ”โทนี่บอกแล้วเดินกลับไปที่รถม้า
     “ขอรับ”ชายขับรถม้ารับคำ
     “เกิดอะไรขึ้นหรอ?”ควีนคามิเรียเอ่ยถามโทนี่ที่พึ่งเดินกลับนั่งบนรถ
     “แค่กระรอกตัดหน้ารถน่ะขอรับ”โทนี่ยิ้ม
     “อืม โล่งอกไปที”ควีนคามิเรียถอนหายใจ
    ไม่นานนักรถม้าคันสีดำก็แล่นเข้าประตูราชวังของเชสไวท์อย่างช้าๆ ทหารและคนใช้ต่างทำความเคารพต้อนรับควีนพันธมิตรเป็นอย่างดี เมื่อรถม้าหยุดเคลื่อนตัว โทนี่ก็เดินลงจากรถมามาเปิดประตูให้ควีนคามิเรียลงจากรถ
     “ยินดีต้อนรับสู่พระราชวังเชสไวท์เพคะ” เหล่าบรรดาสาวใช้ในวังเรียงแถวหน้ากระดานต้อนรับ
     “สวัสดี ^^”ควีนคามิเรียเอ่ยทักทายเหล่าสาวใช้อย่างเป็นมิตร
     “มาแล้วหรอ มาเรีย”ควีนอลิซาเบธเดินออกมาต้อนรับ
     “จ้า อรุณสวัสด์นะ อลิซาเบธ”ควีนคามิเรียยิ้มทักทายอลิซาเบธ
     “อืม ไปที่สวนดอกไม้กันเถอะ มาเรีย”ควีนอลิซาเบธเอ่ยชวน แล้วเดินไปยังสวนดอกไม้
     “อืม”ควีนคามิเรียรับคำแล้วเดินตามหลังควีนอลิซาเบธไป
 
ณ สวนดอกไม้
      ผีเสื้อในยามเช้าบินไปมาตามดอกไม้หลากสี กลิ่นหอมของดอกไม้ลอยไปทั่วบริเวณ ทำให้อากาศร่มรื่นและสดชื่นในยามเช้า ควีนอลิซาเบธและควีนคามิเรียกำลังนั่งดื่มชากันอยู่ท่ามกลางสนามหญ้าสีเขียวขจีดูแล้วสดชื่นตา
     “อลิซาเบธ ช่วงนี้เจ้าดูไม่สดชื่นนเลยนะเป็นอะไรหรือเปล่า”ควีนคามิเรียเอ่ยถาม
     “ข้าแค่........อ่านหนังสือเยอะแล้วก็ทำงานไปหน่อยน่ะ”ควีนอลิซาเบธตอบเบาๆ
     “อย่างน้อย เจ้าก็ควรพักซะบ้างนะ มีอะไรที่ข้าพอจะช่วยได้บ้างมั๊ยล่ะ?”ควีนคามิเรียยกชาขึ้นมาดื่ม
     “ข้าคง....ไม่รบกวนเจ้าหรอก”ควีนอลิซาเบธยิ้มบางๆ
     “ควีนอลิซาเบธ เอลริค มาขอเข้าเฝ้าเพคะ”จัสมินเดินมาทำความเคารพแล้วพูด
     “งั้นหรอ งั้นเข้ามาได้เลย”ควีนอลิซาเบธตอบ
     “อรุณสวัสดิ์เพคะ ควีนอลิซาเบธ”เด็กสาวผมสีแดงอมชมพู นัยย์ตาสีเดียวกับสีผมของเธอ เดินมาหยุดยืนตรงหน้าควีนอลิซาเบธแล้วทำความเคารพแล้วยืนตรงเช่นเดิม
     “มีอะไรหรอ เอลริค?”ควีนอลิซาเบธเอ่ยถาม
     “เมื่อเวลารุ่งเช้า มีชาวบ้านพบศพชายแก่และหญิงสาวอายุ 23 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ตามถนนเพคะ”เอลริครายงาน
     “แล้วใครเป็นฆาตกรล่ะ?”ควีนอลิซาเบธถามต่อ
     “การตายผิดปกติมาก แทบจะไม่มีเลือดเลยด้วยซ้ำ จะขาดอากาศหายใจก็ไม่ใช่  สีหน้าของพวกเขาไม่มีความเจ็บปวดเลยโดยเฉพาะศพของผู้หญิง.....”เอลริคทำหน้าเคร่งเครียด
     “เป็นการตายที่แปลกมาเลยนะ อลิซาเบธ ข้าว่าไม่ใช่ผีมือคนธรรมดาแน่”ควีนคามิเรียเอ่ยขึ้น
     “มีคนนึงที่จะรู้เรื่องนี้ดีนะ”ควีนอลิซาเบธหันไปมองเอลริคที่ทำหน้าเหมือนกับรู้อยู่แก่ใจว่าเขาเป็นใคร
     “หมายถึงบาทหลวงโรคจิตฟรานซิสน่ะหรอเพคะ”เอลริคเหงื่อตก
     “ใช่”ควีนอลิซาเบธตอบ
     “งั้นเรื่องนี้ขอให้ข้าช่วยด้วยคนเถอะ”ควีนคามิเรียหันไปพูดกับควีนอลิซาเบธ
     “เจ้าเป็นถึงควีนนะ มาเรีย เจ้าจะไปทำภาระกิจไม่ได้นะ”ควีนอลิซาเบธรีบห้าม
     “ใครว่าข้าจะลงไปทำล่ะ แต่ข้าจะส่งม้าของข้ามาต่างหากล่ะ”ควีนคามิเรียยิ้ม
     “รีเวียร์ สินะเพคะ”เอลริคถามควีนคามิเรีย
     “ใช่ รีเวียร์เพื่อนเก่าเจ้าไงล่ะ เพราะเวลาพวกเจ้าทำภารกิจร่วมกันแล้ว มีภารกิจไหนไม่สำเร็จบ้างล่ะ?”ควีนคามิเรียตอบ
     “งั้นก็ตามนั้นล่ะ เอลริคระหว่างรอคำสั่งเจ้าจงไปหาเบาะแสของเรื่องนี้มาซะ”ควีนอลิซาเบธให้คำสั่งพร้อมลุกขึ้นยืน
     “เพคะ”เอลริครับคำแล้วเดินไปทำภารกิจ
                 ------------------------------------------------------
 
 ณ ราชวังเชสแบล็ค
     ภายในห้องโถงราชวังที่อันเงียบสงบ ไร้ซึ่งผู้คนเดินผ่านมา ตรงนั้นช่างดูแล้วเงียบเหงาเป็นอย่างมาก มีเพียงเก้าอี้สีทองลวดลายสวยงามบ่งบอกถึงสถานะและยศบรรดาศักดิ์เป็นอย่างดี ชายหนุ่มอายุ 20 ปี ผมสีดำ นัยย์ตาสีดำอมม่วง นั่งเท้าคางกับเก้าอี้สีทองนั่น เขาส่วมมงกุฏสีทอง นั่นบ่งบอกถึงบรรดาศักดิ์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองแห่งนี้นั่นคือ ‘พระราชา’ หรือ ‘คิงแบล็ค’ นั่นเอง
     “ฝ่าบาทมีอะไรให้หม่อมฉันรับใช้หรอเพคะ”เด็กสาวผมสีม่วง นัยย์ตาสีน้ำเงิน เดินมายืนตรงตรงหน้าคิงแบล็ค
     “รีเวียร์ ควีนคามิเรียส่งข่าวมาบอกให้เจ้าไปสืบคดีการตายปริศนาของเมืองเชสไวท์กับเอลริคน่ะ”คิงแบล็คตอบ
     “แล้วจะให้ข้าออกเดินทางวันไหนหรือเพคะ?” รีเวียร์ถาม
     “ตอนนี้เลย”คิงแบล็คตอบ
     “เพคะ”รีเวียร์รับคำ เธอดูกระตือรื้อล้นมากเพราะจะได้ทำภารกิจกับเอลริคเพื่อนรักของเธอ
                   --------------------------------------------------
 
 เวลา 12.50 นาที ที่หน้าประตูเมืองเชสไวท์
    เหล่าเรือส่งสินค้ามาทำการวาณิชญ์ที่ท่าน้ำเมืองเชสไวท์เหล่าประชาชนจึงมุ่งหน้าไปที่ท่าเรือเพื่อหาสินค้าดีๆของต่างชาติ ทำให้บริเวณหน้าเมืองมีแต่ทหารเฝ้าเวรยามอยู่เท่านั้น ไม่กี่อึดใจต่อมาก็มีหญิงสาวผมสีม่วงขี่ม้าสีดำตรงมาที่ประตูเมือง สักพักนางก็มาหยุดตรงทหารที่เฝ้าประตูทางเข้าเมืองอยู่
     “ข้า รีเวยร์ ทหารม้าของเชสแบล็ค”รีเวียร์ยื่นใบคำสั่งให้ทหารดู
     “เข้าไปได้”ทหารเวรยามหหลีกทางให้เธอควบม้าเข้าประตูไปอย่างช้าๆ
     “สวัสดี เอลริค”รีเวียร์ควบม้าไปได้สักพักก็พบเอลริคยืนพูดคุยกับชาวบ้านอยู่
     “ไง รีเวียร์ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”เอลริคทักทาย
     “อืม เจ้ารู้หรือยังว่าพวกรามีภารกิจ”
     “ข้ารู้แล้ว รีบไปรายงายตัวเถอะจะได้เริ่มภารกิจไวๆ”พูดจบเอลริคก็ก้าวเท้าเดินไป
     “เดี๋ยวเอลริค เจ้าอยากเริ่มภารกิจไวๆหรอ?”รีเวียร์ถาม
     “ใช่”
     “ข้าว่าเจ้าขึ้นหลังม้าข้าดีกว่านะ จะได้ไวขึ้น”
     “นั่นสิ”เอลริคเดินกลับไปซ้อนท้ายบนหลังม้าของริเวียร์
     “เกาะแน่นๆล่ะ”พูดจบรีเวียร์ก็กระตุกสายบังเหียนที่คล้องม้าอยู่อย่างแรงเพื่อให้มันวิ่งอย่างรวดเร็ว
     “เห้ย!!!เดี๋ยวสิ!!อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!”เอลริคเป็นโรคที่ไม่ถูกกับความเร็วสูง จึงกลัวความเร็วเป็นอย่างมากนี่แหละจุดอ่อนของเธอ
                       --------------------------------------------
 
ณ ห้องโถงพระราชวังเชสไวท์
     “รีเวียร์มาแล้วเพคะ”จัสมินเดินเข้ามารายงานควีนอลิซาเบธที่นั่งอยู่บนเก้าอี้สีเงินที่ตั้งอยู่สูงสุด พร้อมกับรีเวียร์ที่เดินตามหลังมา
     “เอลริคล่ะ”ควีนอลิซาเบธเอ่ยถาม
     “นอนพักอยู่ที่ห้องพยาบาลเพคะ”จัสมินตอบ
     “รีเวียร์เจ้าขี่ม้าไวอีกแล้วใช่มั๊ย?”ควีนคามิเรียที่นั่งอยู่ข้างๆควีนอลิซาเบธหันไปถามรีเวียร์
     “แหะๆๆๆ เพคะ”รีเวียร์ยิ้มแห้งๆ
     “นี่คือคำสั่ง ข้าให้เจ้าและเอลริคไปสืบคดีฆาตกรที่สังหารชาวบ้านที่ตายอย่างปริศนา”ควีนอลิซาเบธออกคำสั่ง
     “เพคะ”รีเวียร์รับคำสั่ง
                   -----------------------------------------------
 
เวลา 13.35 นาที ณ โบสถ์เชสไวท์
     
ปึง!!!
เสียงประตูโบสถ์เปิดออกอย่างแรงด้วยแรงจากเท้าของเอลริค  จัสมินที่ยืนเหงื่อตกอยุ่ห่างจากเอลริคไม่มาก เดินเข้าไปข้างในโบสถ์ที่ถูกประดับด้วยกระจกหลากสีหลากลายบางๆที่หน้าต่าง เมื่อแสงสีขาวของพระอาทิตย์ส่องมาที่กระสกหลากสีทำให้ประกฎสีสันที่ตกกระทบที่พื้นและม้านั่งไม้ที่วางเรียงอย่างมีระเบียบไว้สองฝั่ง เพื่อให้เหล่าสาวกมาสวดมนต์ให้เทพเจ้าที่พวกเขานับถือกัน แต่ตอนนี้ภายในโบสถ์ไม่มีสิ่งมีชีวิตอะไรอยู่เลย มีแต่ความว่างเปล่า
     “เฮ้!!เจ้าบาทหลวงโรคจิตฟรานซิสอยู่ไหน!!?!!”เอลริคตะโกนไปลั่นโบสถ์
     “นี่เบาๆหน่อยสิเอลริค เดี๋ยวพระตกใจ =w=”รีเวียร์กระซิบ
     “มีอะไรกันเหรอจะ สาวๆ”เสียงทุ้มๆแห้งๆดังขึ้นจากข้างหลังของเอลริคและรีเวียร์
     “โอ้!!พระสงฆ์!!”เอลริคและรีเวียร์ตกใจวิ่งไปที่ข้างในสุดของโบสถ์
     “เอลริค เขาเป็นใครหรอ?”รีเวียร์เอ่ยถามเอลริคที่ถอนหายใจอยู่ ทั้งที่ตัวเองหลบอยู่หลังไม้กางเขนขนาดใหญ่อยู่
     “บอกแล้วไง เจ้าบาทหลวงโรคจิตว่าอย่าโผล่มาแบบนี้น่ะ!!”เอลริคตะโกนพร้อมชี้หน้าชายใส่แว่น ผมสีดำสนิท สวมชุดเสื้อคลุมสีขาวยืนหัวเราเบาๆอยู่
     ‘ห๋า นั่นอ่ะนะบาทหลวง’รีเวียร์พุดในใจ
     “ปกติเจ้าจะรู้ทันข้าตลอดเลยนี่ แต่วันนี้เป้นอะไรไปล่ะหืม?”ฟรานซิสถามพลางขำไปด้วย
     “มาเข้าเรื่องกันดีกว่า เมื่อเช้าเจ้าได้รับข่าวจากควีนอลิซาเบธหรือยัง”เอลริคถาม
     “โอ้ ....... ข่าวความตายที่ไร้ความเจ็บปวดน่ะหรอ ช่างเป็นความตายที่แสนวิเศษจากพระผู้เป็นเจ้าเหลือเกิน........”ฟรานซิสเอ่ยยิ้มๆ
     “ควีนให้มาปรึกษาท่านน่ะ”รีเวียร์เดินมาอยู่ข้างๆเอลริค
     “งั้นหรอ ควีนก็บอกให้ข้ามาช่วยพวกเจ้าอีกแรงน่ะ หึหึหึ งั้นเชิญที่ห้องหนังสือกันเถอะ ไปนั่งคุยกันในนั้นเถอะ....”พูดจบฟรานซิสก็เดินนำเอลริคและรีเวียร์ไป
     “จะเชื่อได้หรอ”รีเวียร์หันไปกระซิบถามเอลริค
     “ถึงจะออกโรคจิต แต่เขาก็รู้ในเรื่องที่เราไม่รุ้เยอะแยะเลยนะ”เอลริคตอบพร้อมเดินตามฟรานซิสไป
     “...........”จากนั้นรีเวียร์ก็เดินตามพวกเขาไป

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา