Tsundere ซึนอย่างนี้รักตายล่ะ!

7.0

เขียนโดย HaRUnA

วันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 16.23 น.

  4 บท
  1 วิจารณ์
  6,688 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2557 19.07 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) คู่หมั่นกับสถานการณ์ที่ไม่เป็นใจ I

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

  ยามเช้าของวันอังคารที่แสนจะสดใจได้มาถึงในวันต่อมา แสงจากดวงอาทิตย์ลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาในห้องนอนของยูจิซึ่งกำลังนอนหลับอยู่บนเตียงของตน แสงนั้นตกกระทบเข้ากับใบหน้าของยูจิจนทำให้แสบตาแม้ว่าจะหลับตาอยู่ก็ตาม เขาพยายามจะพลิกตัวและเอามือมาบังตาเอาไว้ แต่ก็ทำไม่ได้เพราะเหมือนมีอะไรบางอย่างทับเขาอยู่จนขยับไม่ได้ สัมผัสที่อ่อนนุ่มและอบอุ่นนี้มันคืออะไรกันแถมยังหนักอีกตากหาก

 

  "อะไรมันหนักๆเนี่ย!"

  ยูจิตื่นขึ้นมาพร้อมกับบ่นออกมาในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่นพลางขยับตัวไปมาเพราะความเมื่อยแต่ทำได้เพียงเล็กน้อยเพราะเหมือนจะติดอะไรซักอย่าง

 

  "หือ? ทำไมผ้าห่มมันนูนๆขึ้นมาล่ะ"

ผ้าห่มที่นูนสูงขึ้นมาผิดปกตินั้นทำให้ยูจิเกิดความสงสัยขึ้นมา นึกในใจว่าซากุระแกล้งอะไรอีก เขาจึงเปิดผ้าห่มออกเพื่อดูว่าอะไรอยู่ข้างในแต่ทว่า มันกลับทำให้เขาตกตะลึงกับสิ่งที่เห็นมากกว่าที่คิด

 

  "ท...ทำไมเธอมานอนอยู่บนเตียงของชั้นได้ละ?!"

  ยูจิสะดุ้งตัวขึ้นมาพร้อมกับหน้าแดงก่ำจนถึงใบหูด้วยความตกใจ เพราะมีคนมานอนทับตัวเขาอยู่นั่นเอง แถมคนที่นอนทับเขาอยู่นั้นไม่ใช่ซากุระแต่กลับเป็นฮารุนะที่กำลังกอดตัวเขาอยู่แทน เธอใส่เสื้อยืดสีขาวเพียงตัวเดียวส่วนท่อนล่างไม่ได้ใส่กางเกงหรือกระโปรงเอาไว้ ขาอันเรียวยาวของเธอพันเกี่ยวกับขาของยูจิเอาไว้อย่างแนบชิดจึงทำให้ขยับไม่ได้ อุณหภูมิจากตัวของเธอส่งมาถึงตัวของยูจิโดยตรง จึงทำให้เขารู้สึกแปลกๆกับสัมผัสความอบอุ่นนี้ ยูจิพยายามทำใจในร่มก่อนที่จะพยายามลองนึกย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ตอนที่เธอมาหาที่บ้าน......

 

  "หาาาาาาาาา!"

  ยูจิและซากุระตะโกนเสียงดัง และตกใจกับคำพูดของฮารุนะที่พูดออกมา โดยเฉพาะยูจิที่หน้าแดงก่ำเป็นพิเศษกับคำพูดนั้น เพราะปกติตัวเองก็ไม่ได้มีอะไรดีเป็นพิเศษถึงขนาดมีผู้หญิงสวยๆอย่างนี้มาสารภาพรักกับเขาเลยซักครั้ง แต่นี้ถึงขั้น "คู่หมั่น" แถมยังเป็นคนที่ต่อยเขาเมื่อตอนเที่ยงอีกตากหาก เลยทำให้เขาแปลกใจยิ่งไปกว่าเดิม ยูจิจึงถามกลับไปด้วยความสับสน

 

  "หมายความว่าไงน่ะ? ทำไมฉันจะต้องไปเป็นคู่หมั่นให้กับเธอด้วย!"

  "ก็มันช่วยไม่ได้หนิ ฉันก็ไม่อยากเป็นซักหน่อย""แล้วใครบอกให้เป็นล่ะ?""ระ...เรื่องนั้นคือว่า...."

  "....?"

  ฮารุนะเหมือนจะไม่ค่อยอยากพูดเรื่องนี้ซักเท่าไหร่นัก แต่เธอก็ค่อยๆล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าแล้วหยิบซองจดหมายขึ้นมา แล้วยื่นไปให้ยูจิ

  "อ่านข้อความที่อยู่ในจดหมายนี้สิ แล้วจะเข้าใจเอง"

  "....?"

  ยูจิหยิบจดหมายฉบับนั้นขึ้นมาอ่าน มันจ่าหน้าซองถึงฮารุนะ ข้อมูลที่จ่าหน้าซองครบถ้วนเหมือนจดหมายปกติทั่วๆไป แต่พออ่านชื่อผู้ส่งก็เกิดแปลกใจขึ้นมา....

 

  ___อาสุมะ ริโตะ....หือเดี๋ยวก่อนนะ.......อาสุมะ ริโตะ......อาสุมะ....!

  "อาสุมะ ริโตะ งั้นเรอะ!!!"

  "คุณพ่อน่ะเหรอ!!!?"

  ยูจิแล้วซากุระตะโกนเสียงดังขึ้นมาอีกครั้ง เพราะอาสุมะ ริโตะ คือพ่อแท้ๆของทั้งสองคนที่กำลังไปทำงานต่างประเทศกับ อาสุมะ ฮานะผู้เป็นแม่อยู่ในขณะนี้ แต่ทำไมชื่อของพ่อถึงได้เป็นชื่อผู้ส่งจดหมายให้กับฮารุนะได้ล่ะ ยูจิรีบเปิดซองจดหมายขึ้นมาอ่านทันที

 

  "ถึงยูกิโนะ ฮารุนะ ฉันอาสุมะ ริโตะ เป็นเพื่อนสนิทกับพ่อของเธอที่ทำงานอยู่ด้วยกัน พอดีว่า...คือ...จะอธิบายยังไงดีหล่ะเอาแบบง่ายๆเลยละกัน พ่อของเธออยากให้แต่งงานกับลูกชายบ้านของฉันน่ะ แค่นี้แหละลูกชายฉันถึงแม้จะไม่ค่อยได้เรื่อง แต่ก็เป็นคนใจดีและอ่อนโยนมากเลยนะแถมยังอายุเท่ากันกับหนูด้วย ถ้ายังไงๆก็ลองไปหาเขาดูก็แล้วกัน"

  (ไม่เห็นเข้าใจเลยซักนิด! นี่มันบังคับกันชัดๆ ไม่ถามความเห็นคนทางนี้บ้างเลยรึไง!)

  "ปล. ถ้าไปถึงแล้วลองขึ้นไปบนห้องของเขาแล้วลองมองไปใต้เตียงก็จะเจอกับหนังสือ...."

  ยูจิหยุดอ่านแต่เพียงเท่านั้นก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมามองฮารุนะด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลและถามขึ้นมาว่า

 

  "เอ่อ...คุณฮารุนะครับ เธอได้อ่านจดหมายจนจบรึปล่าวครับ?"

  ฮารุนะสงสัยและมึนงงกับคำถามที่ยูจิพูดออกมาก่อนที่จะส่ายศีรษะปฏิเสธไป

  "เปล่าหลอกแค่อ่านเกือบจบน่ะ ยังไม่ได้อ่านตรง 'ปล.' เลย กะจะอ่าน.......น...นี่นายกำลังทำอะไรเนี่ย!?"

  "!"

  "!"

  ฮารุนะและซากุระถึงกับยืนอึ้งไปเลย เพราะยูจิกำลังฉีกจดหมายที่อ่านไปเมื่อซักครู่นี้จนไม่เหลือชิ้นดีและปล่อยรังสีอมหิตออกมา เพราะข้อความที่เขียนต่อจากนั้นคือที่ซ่อนหนังสืออย่างว่าที่ยูจิซ่อนเอาไว้นั่นเองที่ แต่ทำไมอีตาพ่อคนนี้ถึงได้รู้เรื่องนั้นได้ ยูจิคิดในใจ

  "เอ่อ....คือว่า....?"

  "หืม? มีอะไรงั้นหรอ..."

  ยูจิหันไปมองฮารุนะด้วยสีหน้าที่นิ่งๆแต่ดูก็รู้ได้เลยว่ากำลังโมโหอยู่

  "นะ...นี่นาย ชั้นยังอ่านไม่จบเลยนะ!"

  "มันไม่มีอะไรสำคัญหรอกน่า"

 

  ยูจิถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ แล้วบอกให้ซากุระเข้าไปในบ้านก่อนเพราะอากาศข้างนอกเริ่มหนาวแล้ว ก่อนที่จะทำใจให้ร่มแล้วกลับไปคุยต่อกับฮารุนะ

  "ยังไงก็เถอะ ลืมเรื่องจดหมายนั่นซะ เราเข้าบ้านกันดีกว่าขืนยืนอยู่ข้างนอกนานๆจะเป็นหวัดเอา ส่งกระเป๋ามาสิเดี๋ยวช่วยถือเข้าไปให้"

  "หา!.... แล้วทำไมฉันจะต้องเข้าไปในบ้านของอีตาโรคจิตอย่างนายด้วยล่ะ?!"

  "แล้วเธอมาที่นี่ทำไมล่ะ?"

  "อึก!..."

  ฮารุนะนิ่งไปอยู่ซักพักเพราะตนเองพูดเองว่าจะเป็นคู่หมั่นให้กับยูจิ แต่กลับบอกว่าไม่อยากเข้าบ้านของยูจิซะงั้น

 

  "ช.... ชั้นแค่เอาจดหมายมาให้เฉยๆเองย่ะ ตอนนี้ฉันก็หมดธุระกับนายแล้ว งั้นชั้นขอตัวกลับก่อนล่ะ"

  "เหรองั้นก็โชคดีละกัน เดินคนเดียวในที่มืดก็ระวังตัวด้วยล่ะ หรือว่าจะให้ไปส่ง?"

  "พ.... พูดอะไรของนายน่ะ ไม่ต้องมาทำเป็นห่วงชั้นเลยนะ!"

  "หึหึ ตามสบายละกันนะ ถ้าเป็นอะไรไปอย่ามาโทษฉันก็แล้วกัน"

  "หนวกหู หนวกหู ชั้นไม่อยากเจอหน้านายอีกแล้ว!"

  ฮารุนะตะโกนกลับมาเสียงดัง แล้ววิ่งออกห่างจากยูจิโดยไม่หันกลับมามองซักนิด

 

  "เข้าใจยากจริงๆแหะ อารมณ์ของผู้หญิงเนี่ย "

  ยูจิพึมพัมออกมาเบาแล้วมองแผ่นหลังของฮารุนะจนละสายตาไป จากนั้นจึงเดินกลับเข้าบ้านไปยูจิกลับไปนั่งดูทีวีต่อตามเดิม ส่วนซากุระกลับไปห้องของตนเองเพราะตอนนี้เวลาเกือบจะสี่ทุ้มแล้ว และระหว่างที่ยูจิกำลังเปลี่ยนช่องทีวีไปเรื่อยๆด้วยความเบื่ออยู่นั้น ก็มีข่าวที่บอกว่าตอนนี้มีฆาตกรต่อเนื่องกำลังหลบหนีอยู่นั่นเอง

  "อยู่ใกล้ๆนี้เองไม่ใช่เหรอนั่นน่ะ ต้องบอกให้ซากุระปิดหน้าต่างให้ดีๆแล้วสิ...."

  ยูจิลุกจากโซฟาและกำลังจะขึ้นบันไดไปชั้นสอง แต่ก็ต้องหยุดกลางคัน เพราะยูจินึกถึงหน้าของใครบางคนที่เพิ่งจะกลับไปเมื่อซักครู่นี้ คนที่บอกว่า'ไม่อยากเจอหน้ายูจิอีก' แต่ยูจิอดเป็นห่วงคนๆนั้นไม่ได้จริงๆ เขาไม่เข้าใจกับความรู้สึกนี้จริงๆ มันอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ถึงคนๆนั้นจะเป็นคนที่ยูจิไม่อยากสนใจมากที่สุดก็เถอะ และคนๆนั้นก็คือ ฮารุนะนั่นเอง

  ยูจิรีบเดินจากลงบันไดทันทีแล้ววิ่งออกจากบ้านด้วยความกังวลใจ ตรงไปทางที่เห็นฮารุนะครั้งสุดท้ายก่อนที่จะลับตาไป ยูจิไม่เข้าใจกับความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้เลย แต่เขาก็ยังวิ่งต่อไป วิ่งไปหาเธอคนนั้น! วิ่งไปหาฮารุนะ!

 

  ยูจิวิ่งนานหลายนาทีแล้ว แต่ก็ไม่เจอฮารุนะซักที ไม่แปลกเพราะนี่ก็ผ่านมา 30 นาทีกว่าๆแล้ง หลังจากที่เห็นข่าวนั่น

  "แฮ่กๆ..."

  ยูจิหยุดวิ่งพักหายใจแล้วเอามือยันกำแพงเอาไว้เพราะความเหนื่อยล้าของร่างกาย เพราะปกติก็ไม่ใช่คนที่จะออกกำลังกายอยู่แล้ว และยังต้องมาวิ่งเป็นเวลานานๆหลายนาทีแบบนี้อีกก็เกินความสามารถของร่างกายมากกว่าที่เขาคิด ยูจิตั้งสมาธิแล้วพยายามคิดว่ายัยนั่นน่าจะไปที่ไหน เขาย้อนคิดกลับไปตอนที่เจอกับฮารุนะเป็นครั้งแรก..... และเขาก็คิดออก ที่นั่นก็คือทางเดินกลับจากร้านสะดวกซื้อนั่นเอง ยูจิจึงออกแรงวิ่งอีกครั้งแล้วตรงไปทางร้านสะดวกซื้อ

  เมื่อยูจิวิ่งมาถึงร้านสะดวกซื้อก็ถึงกับหอบจนแทบหายใจไม่ทัน เขามองไปรอบๆบริเวณร้านสะดวกซื้อเพื่อจะหาฮารุนะ แต่ก็ไม่มีวี่แววแม้แต่น้อย ตอนนี้เวลาก็สี่ทุ้มกว่าๆแล้วเธอคงกลับไปถึงบ้านแล้วก็เป็นได้ ยูจิคิดในใจก่อนที่จะตัดใจแล้วหันหลังเดินกลับบ้าน

 

ทันใดนั้นเอง! เมื่อยูจิหันหลังกลับมาก็มีหญิงสาวคนหนึ่งมายืนอยู่ตรงหน้าของยูจิ เธอมีสีผมสีบานเย็นกับดวงตาสีฟ้าคราม ทรงผมทรงทวินเทลที่ปล่อยผมด้านหลังให้ตกลงมา แต่ที่ขัดกันคือเธอกำลังยืนกอดอกพร้อมกับทำหน้าไม่สบอารมณ์อยู่นั่นเอง และเธอคนๆนั้นก็คือ....

  "ฮ.. ฮารุนะ!"

  ฮารุนะที่อยู่ตรงหน้าของยูจินั้น พอได้ยินเรียกชื่อขึ้นมาก็ทำท่าตกใจเล็กน้อยก่อนที่จะกลับไปทำหน้าไม่สบอารมณ์ตามเดิม

  "อะไรกันยะ! ทำไมถึงต้องทำหน้าตกใจแบบนั้นด้วยล่ะ ชั้นไม่ใช่ผีสักหน่อย"

  "โทษทีๆ ไม่นึกว่าเธอจะมาอยู่ที่นี่ก็เลยตกใจนิดหน่อยน่ะ ฮา ฮา ฮา"

  (ก็แหงล่ะเล่นโพล่หน้าออกมาแบบนี้ไม่ตกใจก็บ้าแล้วยัยบ๊อง) ยูจิคิดในใจ

 

  "ให้ตายสินายเนี่ยน้า... แล้วมีอะไรกับชั้นอีกล่ะ ที่ออกมาตอนกลางดึกแบบนี้คงไม่ใช่ออกมาวิ่งเล่นเฉยๆใช่ไหม?"

  ยูจิทำใจให้ร่มเพื่อระบายความเหนื่อยออกไปให้หมดก่อนที่จะเริ่มอธิบายถึงข่าวที่เขาได้เห็นก่อนที่จะวิ่งออกมา ว่ามีฆาตกรกำลังหลบนี้อยู่แถวๆนี้ และคิดว่าเธอจะเป็นๆอะไรรึปล่าวจึงออกตามหา....

  "ฮา ฮา ฮา....."

  หลังจากที่ฮารุนะยืนฟังยูจิบรรยายจู่ๆเธอก็ระเบิดหัวเรอะออกมา จนยูจิต้องหยุดบรรยายและหันมาสนใจกับเสียงหัวรำเราะของฮารุนะ

  "เธอหัวเราะอะไรของเธอน่ะ มันน่าขำขนาดนั้นเลยรึไง?"

  "หึ หึ โทษที มันอดหัวเราะไม่ได้น่ะ แค่มีฆาตกรอยู่แถวๆนี้เนี่ยนะ ถึงขั้นออกมาตามหาฉัน มันจะไม่ขำได้ยังไงกันล่ะ"

  "และนั่นมันน่าขำตรงไหนกัน ถ้าเธอเป็นอะไรไปรู้ไหมว่าจะมีคนเป็นห่วงแค่ไหน พ่อกับแม่ของเธอจะรู้สึกยังไงล่ะ!"

  "เรื่องนัั้นไม่ต้องห่วงไปหลอกน่า เห็นอย่างนี้ฉันก็เก่งในด้านกีฬาเหมือนกันนะ แค่วิธีป้องกันตัวน่ะฉันรู้อยู่แล้ว อะ!... หรือว่านายเป็นห่วงชั้นรึไง?"

  "...อึก!"

 

  พอยูจิได้ยินประโยคนั้นก็ถึงกลับนิ่งไปเลยทีเดียว เพราะฮารุนะก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลย ถึงจะถูกมัดมือชกให้มาเป็นคู่หมั่นกันก็เถอะ แต่ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องวิ่งออกจากบ้านกลางดึกเพื่อออกตามหาเธอแม้แต่น้อย

  "ใครบอกว่าฉันเป็นห่วงเธอกันล่ะ แค่มาดูให้แน่ใจว่าไม่เป็นอะไรก็แค่นั้นเอง"

  "มันก็ไม่ต่างกันหลอกน่า ยอมรับมาซะว่านายนะหลงชั้นเข้าให้แล้วยังไงล่ะ"

  "ใครหลงเธอกันมิทราบ? คิดเหรอว่าฉันจะหลงเธอง่ายๆน่ะ!"

  "น..นายนี่มัน...."

  ระหว่างที่ทั้งสองกำลังยืนเถียงอยู่นั้นเองก็มีเสียงของบุคคลที่สามแทรกเข้ามา

  "เห้ย! พวกแกน่ะมาทำอะไรแถวนี้กัน?"

  "หือ/หือ!?"

 

  ยูจิและฮารุนะฉงักแล้วหันมามองบุคคลที่สามที่แทงเข้า เป็นชายสูงผอมใหญ่ใส่เสื้อกันหนาวมีฮู้ดปิดหน้าเอาไว้ ท่าทางแปลกๆ

  "หนุ่มสาวออกมาข้างนอกตอนกลางดึกแบบนี้มันไม่ดีนะจ๊ะ ไม่กลัวบ้างเหรอ"

  ฮารุนะไม่ค่อยเข้าใจกับคำพูดทั้งหมดซะทีเดียวแต่ก็มีบางประโยคที่มันขัดใจ เธอจึงตอบกลับไปแบบไม่สบอารมณ์

  "ที่พูดน่ะหมายความว่ายังไง และอีกอย่างฉันกับอีตานี่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันซักหน่อย คนนอกอย่าเข้ามาแทรกจะได้ไหม ทำยังกะเป็นฆาตกรที่กำลังหลบหนีอยู่อย่างนั้นแหละ"

  "นี่เธอระวังคำพูดหน่อยก็ดีนะ ถ้าเกิดมันเป็นฆาตกรที่กำลังหลบหนีจริงๆล่ะจะทำยังไง"

  "นายน่ะเงียบไปเลย ถ้าไอฆาตกรมันมาจริงๆชั้นไม่กลัวมันหลอกนะ ชั้นจะต่อยมันให้กระจุยไปเลย""ทำเป็นพูดดีนะเธอน่ะ ท่ามันจริงล่ะก็......"

  "หึ.. หึ.. หึ.. ปากดีกันนักนะพวกแกน่ะ...!!!"

  "หือ?....อ..โอ้ย!!"

 

  ผู้ชายคนนั้นเข้ามาใกล้ยูจิตอนไหนก็ไม่รู้และเอาของมีคมที่น่าเป็นมีดฟันเข้าที่หัวไหล่ขวาของยูจิจนเขาทรุดตัวลงไปทันทีและมีเลือดไหลออกมาจากแผลของยูจิเล็กน้อย ถือว่าโชคดีที่ไม่ลึกมาก ฮารุนะยืนอึ่งกับสิ่งที่เห็นเพราะเป็นสิ่งไม่ทันตั้งตัวจริงๆ ยูจิเอามือกดแผลเอาไว้และเงยหน้าขึ้นมามองชายคนนั้นที่กำลังถือมีดที่มีเลือดของยูจิติดอยู่ ด้วยสายตาที่แค้นเคือง

  "หรือว่าแกคือ...."

  "เป็นความผิดของยัยผู้หญิงคนนั้นเองนะที่พูดอะไรแบบนั้นออกมา จนฉันหยุดความอยาก'ฆ่า'จนทนไม่ไหวเลยจริงๆ"

  ความหวาดกลัวเริ่มเข้าครอบงำยูจิ แขนและขาสันจนหยุดไม่ได้ อารมณ์เมื่อครู่นี้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที จนตอนนี้ทำอะไรไม่ถูกแล้ว เพราะชายที่ยืนอยู่ต่อหน้าทั้งสองคือ......

 

"อย่าบอกนะว่าแกคือ.... ฆาตกรที่กำลังหลบหนีอยู่ตัวจริงอย่างงั้นเรอะ?!!"

 

 

 

 

***************

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา