Past-memories อดีต-ความทรงจำรักวุ่นๆกับยัยตัวร้าย

7.7

เขียนโดย Ryoko

วันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 21.34 น.

  25 ความทรงจำที่
  44 วิจารณ์
  25.29K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 20.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

10) พี่น้อง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

พี่น้อง 

 

          "นี่ น้องสาวที่อยู่ตรงนั้นน่ะ หน้าตาสวยใช้ได้เลยนิ~" ชายหนุ่มวัยกลางคนที่เมาจนแทบเดินไม่ไหวแต่ยังคงดันทุรังเดินมาหาหญิงสาวที่สวมชุดนักเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่ง เส้นผมสีดำสะท้อนแสงสวย นัยต์ตาสีแดงกล่ำจับจ้องมองไปยังชายหนุ่มที่เดินเข้ามาหายังไม่วางตา

          "ตายจริง~ ขอบคุณค่ะพี่ชาย..." เธอเอ่ยขึ้นขอบคุณคำชมที่ชายหนุ่มคนดังกล่าวได้มอบให้กับเธอพลางยกมือขึ้นุมแก้มแสดงท่าทีเขินอายเล็กน้อย

          "นี่..น้องสาวสนใจไปกับพวกพี่ไหม~?" ชายหนุ่มอีกคนที่เพิ่งเดินตามเข้ามาสมทบกับเพื่อนอีกคนหนึ่งเอ่ยชวนหญิงสาวด้วยน้ำเสียงที่ลากยาวบ่งบอกได้ว่าเขาเองก็เมาไม่แพ้กับชายหนุ่มคนแรก

          "หึ! แหม่~ อย่าบอกนะว่าพวกพี่ชายอยากมีอะไรกับดิฉันน่ะค่ะ" หญิงสาวพูดออกมาตรงๆอย่างรู้ทันก่อนจะยกยิ้มออกมาอย่างพึ่งพอใจในอะไรบางอย่าง

          "แหม่...ตรงจัง ก็ประมาณนั้นล่ะสาวน้อย~" ชายหนุ่มคนที่สามเอ่ยพูดพลางไล่น้วเกี่ยแก้มหญิงสาวไปมาอย่างหลงใหล

          "ตายจริง~ งั้นไปหาที่ไม่มีคนดีกว่านะคะ ตรงนี้มันดูจะโล่งแจ้งไปหน่อย ฮึๆ.." หญิงสาวออกความเห็นก่อนจะแสยะยิ้มและหัวเราะออกมาอย่างพอใจ

          "เอาสิ~" ชายหนุ่มทั้งสามลงความเห็นตรงกันโดยไม่ได้นัดหมายก่อนที่หญิงสาวจะไพาชายหนุ่มทั้งสามคนเดินตรงไปยังซอยเปลี่ยวที่ไม่มีผู้คนสันจรผ่านไปมา หลังจากที่หญิงสาวนำชายหนุ่มทั้งสามให้เดินตามมันยังซอยเปลี่ยวทีเธอคาดว่าหน้าจะลึกพอที่ทำให้ไม่มีใครเห็นกิจกรรมต่อจากนี้ได้ หญิงสาวหยุดเดินและหันกลับมามองชายหนุ่มทั้งสามที่หลงกลเธอเดินตามมาอย่างไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดีเสียก่อน

          "พวกโง่!" หญิงาสวเอ่ยเสียงหนักแน่นก่อนที่นัยต์ตาสีแดงฉาดทั้งสองข้างของเธอจะเปร่งแสงออกมาราวกับปีศาจที่กำลังออกล่าเหยื่อ

          "เฮ้ย! จะ..จะทำอะไรน่ะ!? อย่านะ! ไม่! หยุดด!---"

          ฉึบ!!!

          ชายหนุ่มทั้งสามยังไม่ทันจะได้เอ่ยคำพูดที่จบประโยค เสียงของพวกเขานั้นก็ได้หายไปเสียก่อน... หายไป...อย่างไม่มีวันหวนกลับ...

          "ขอบคุณสำหรับอาหารค่ะ ฮึๆ..."

 

  

 

          วันต่อมา....

          จิ๊บ...จิ๊บ...

          ฉันค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นช้าๆ เพราะเสียงของนกน้อยที่ดังมาจากด้านนอกระเบียงของเรา แสงอาทิตย์ส่องผ่านม่านมาบางๆชวนให้คิดถึงเรื่องราวสมัยก่อนที่จะฉันจะมาอยู่ที่แห่งนี้เสียเหลือเกิน ลมจากเครื่องปรับอากาศทำให้ฉันหนาวจนตัวสั่นก็จริง... แต่ว่าไม่มีเวลามาเศร้าใจและหนาวตายในที่แบบนี้และเวลาแบบนี้หรอกนะ...ถึงจะคอยเตือนตัวเองว่าแบบนั้น แต่ลึกๆในใจ ก็แอบเหงาอยู่บ้างเหมือนกัน

     

          "ง่วงเลยจังเลย~ วันนี้มันหยุดแท้ๆ แต่ทำไมฉันต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยล่ะ -0-" ฉันหาวพลางบ่นออกมาเบาๆ

          "เอาน่าาา~ ถือซะว่าคายเครียดจากที่ทำงานแล้วกัน เนอะ? ^^" พี่เรียวเอ่ยยิ้มๆ

          "ฉันจะหายเครียดง่ายกว่านี้ถ้าฉันไม่ต้องมาทำอะไรแบบนี้!!" ฉันขึ้นเสียงอย่างไม่พอใจเล็กน้อย เหตุผลที่ฉันโมโหน่ะเหรอ!? ก็มีอยู่อย่างเดียวเนี่ยแหละ ก็คือ..!! อีตาพี่เรียวเนี่ยดันเข้ามาปลุกฉันถึงห้องนอนด้วยท่าทางรีบร้อน ไอฉันก็นึกว่ามีเรื่องใหญ่อะไรเกิดขึ้นก็เลยยอมลากสังขารแหกขี้ตาตื่นขึ้นมา แต่ผลกลับเป็นอย่างนี้!! มาปลุกฉันถึงที่นอนและลากให้ฉันออกมา เพื่อที่จะ กินไอติมตรงร้านหน้าโรงเรียนที่เพิ่งเปิดใหม่แค่นี้เนี่ยนะ =[]=! น่าโมโหสิ้นดี!

          "ชิชะ!"

          : รายงานข่าวสดค่ะ เมื่อวานนี้ทางเราได้พบกับรอยเลือดปริศณาที่ปรากฏอยู่ตรงซอยเปรี่ยวที่ย้านการค้า***ค่ะ แต่ทางเจ้าของเองได้ออกมายืนยันแล้วว่าซอยนั้นไม่ได้เปิดให้ใช้งานแล้วจริงๆ เพราะสถานที่นั้นได้มีคดีเกิดขึ้นมากมายไหนจะฆ่าข่มขืน ชิงทรัพ ทางรัชได้ลงมัสติว่าอันตรายเกินไปแล้วปิดให้ใช้งานและจะทุบสร้างใหม่ให้เปิดโรงแรมค่ะ :

          : และสถานที่เกิดเหตุกับไม่พบแม้แต่ศพเพียงศพเดียวเลย แต่กองเลือดที่กองอยู่กับพื้นบ่งบอกได้ชัดมากเลยครับว่าคนที่ตายไม่ได้มีเพียงคนเดียว แถมเลือดออกขนาดนั้นดูท่าว่าไม่มีทางที่จะรอดได้เช่นกันครับ :

          : แต่ศพหายไปไหน ก็ต้องติดตามกันอีกทีแล้วนะคะ :

          "อะไรกัน? ข่าวชวนให้ปวดจิตนี่!" ฉันบ่นอุบอิบกับตัวเองเบาๆ แต่พี่เรียวดันได้ยิน

          "ก็นะ...อย่าไปดูเลยถ้าดูไปก็มีแต่จะปวดจิตน่ะ" พี่เรียวพยายามบอกให้ฉันเลิกสนใจข่าวไร้สาระที่ยิ่งทำให้ฉันปวดจิตมากยิ่งขึ้น

          "ที่ฉันสงสัยก็คือรอยเลือดมากขนาดนั้น แล้วศพหายไปไหน?" ฉันเอ่ยขึ้นพลางมุ่ยหน้าเล็กน้อย เพราะถ้ามีกองเลือดมากขนาดนั้น ต่อให้ลากหรือยกศพไปไหนมันก็น่าจะมีรอยเลือดหยดตามทางบ้าง แต่นี่กลับไม่มีอะไรเลยมีแค่กองเลือดมหาศาลนี้อย่างเดียว มันไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย...!

          "อืม...จะว่าไปก็น่าคิดนะ ท่าจะไม่ใช่ฝีมือมนุษย์ธรรมดาแล้วมั้งอย่างนี้น่ะ" พี่เรียวเอ่ยขึ้นเบาๆ อ่าว! แล้วไหนบอกว่าอย่าดูเลยถ้าดูไปแล้วปวดจิต แต่ตัวเองกลับพูดให้มันดูมีลับลมคมในชวนให้ปวดหัวปวดจิตมากกว่าเดิมเนี่ยนะ - -!

          "แสดงว่ามีคนที่ใช้เวทย์เก่งพอๆ กับพวกเรา?" ฉันเอ่ยถามอย่างสงสัยเล็กน้อย

          "ก็น่าจะเป็นแบบนั้นนะ..." พี่เรียวเอ่ยสนับสนุนความคิดเห็นของฉัน

          "งั้นเหรอ...?" ฉันพรึมพรำกัยตัวเองเบาๆ 

          หลังจากนั้นฉันกับพี่เรียวก็ได้ออกจากร้านไอศครีมและไปเดินเล่นกันที่สวนสาธารณะ เพื่อให้สบายจิตสบายใจเพราะพวกเราคิดว่าคนที่ฆ่าศพที่หายไปนั้น ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา อย่างแน่นอน แต่ตอนนี้มันก็มีหลายๆ เรื่องให้คิด จนทำให้ปวดหัวไปหมด

          ฉันได้บอกเรื่อง สิ่งสำคัญที่พวกนั้นอยากได้ กับพี่เรียวแล้วเรียบร้อย พี่เรียวรับปากว่าจะช่วยหาอีกแรงแต่ก็ไม่รู้ว่าจะเจอเมื่อไหร่เพราะนักเรียนก็มีไม่ใช่น้อยๆ ถ้าจะให้พวกเราหากันแค่สองคนมันก็คงหาไม่เจอเลยกะว่าจะไปขอความรวมมือกับอาจารย์บางท่านที่คิดว่าไว้ใจได้ เพราะอาจจะ...มีสปายเข้ามาหาข้อมูลก็ได้ ในตอนนี้ใครก็ไม่ไว้ใจไม่ได้ทั้งนั้น...

          "แคลอ...แคลอ" พี่เรียวเอ่ยเรียกฉันอย่างแผ่วเบา

          "หะ..หืม??" ฉันที่กำลังคิดอะไรเพลินๆจึงต้องหลุดจะห้วงภวังศ์ความคิดนั้นในทันที

          "เป็นอะไรไปน่ะ? พี่เรียกตั้งนานแล้วแต่ไม่ยอมตอบเลย" พี่เรียวถามอย่างเป็นห่วง

          "อ่อ! ขอโทษทีพอดี...หนูกำลังคิดอะไรอยู่น่ะ.." ฉันตอบอย่างแผ่วเบา เพราะพี่เรียวอุสาห์บอกว่าไม่ให้ฉันคิดว่าแต่ฉันดันคิดมาดแถมยังคิดไม่ยอมหยุดสักทีด้วย

          "งั้นเหรอ..." เสียงของพี่เรียวดูแผ่วลงกว่าเมื่อกี้มาก

          "ขะ..ขอโทษนะพี่เรียว แฮะๆ หนูจะไม่คิดมากแล้วล่ะ ^^" ฉันเอ่ยด้วยน้ำเสียงสดใสเพื่อให้พี่เรียวสบายใจ

          "งั้นก็ดี ^^" พี่เรียวยิ้มบางๆออกมา

          "อ่อใช่! พี่เรียวทีหลังอย่าเรียกหนูว่า 'แคลอ' อีกนะ เพราะถ้าใครรู้ความจริงขึ้นมาว่า พวกเราคือใคร มีหวังยุ่งแง้ๆ ^^" ฉันยิ้มบางๆ ให้กับพี่เรียว

          "ได้สิ ^^" พี่เรียวยิ้มตอบกลับและเอื้อมมือมาลูกหัวของฉันเบาๆ

          ทุกคนคงแปลกใจใช่มั้ยล่ะ? ว่าทำไมฉันถึงต้องใช้ชื่อปลอมๆกับประวัติปลอมๆ แต่พี่เรียวกับสามารถใช้ชื่อจริง และประวัติจริงได้เลย...ก็เพราะว่า ถึงจะบอกว่าเราเป็นพี่น้องกันแต่ก็ไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน และพี่เรียวก็ไม่ได้มีประวัติศาสตร์ถูกจารึกว่าเป็นบุคคลสำคัญที่อยู่ในอาณาจักรฮิว พี่เรียวมีชื่อจริง ยารางิ เรียว เป็นตระกูลชั้นสูงในอาณาจักรฮิว พวกเราได้เจอกันตอนเด็กๆและหลังจากนั้นก็สนิทกันมาตลอด พวกเราเล่นด้วยกันจนเหมือนจะกลายเป็นพี่น้องกันจริงๆเลยล่ะ แต่ถึงยังไง... ก็ไม่ใช่พี่แท้ๆอยู่ดี

          จริงๆฉันมีพี่ชายอยู่คนหนึ่ง พวกเราเคยเล่นด้วยกันบ่อยๆก่อนที่จะมาเจอกับพี่เรียว พวกเราสนิทกันมากแต่จู่ๆ... พี่เขาก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ตามหายังไงก็ไม่เจอ พวกเราจึงสรุปว่าเขาได้ตายไปแล้ว เพราะอย่างนั้นฉันก็จำไม่ได้แล้วล่ะว่าชื่อของเขาคืออะไร จำอะไรที่เกี่ยวกับเขาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย สิ่งที่จำได้เกี่ยวกับเขาก็มีแค่ 'ผมสีดำ' เท่านั้น นอกนั้นก็ลืมหมด...เฮ้อออ~ ถ้ามีอะไรที่มันเด่นกว่านี้ก็น่าจะหาตัวได้อยู่หรอก แต่นี่มันแค่ผมสีดำ - -

          คนทั้งประเทศทั้งโลกก็มีผมสีดำกันเกือบหมดจะมีไม่กี่คนที่แปลกประหลาดออก ฉันนี่มันบ้าหรือโง่เนี่ย..ที่เคยคิดจะตามหาพี่ทั้งๆที่มีเบาะแสแค่นี้ - -.

          "เฮ้อออ..." ฉันเผลอถอนหายใจออกมาแต่ก็เล่นความสนใจจากพี่เีรยวได้เป็นอย่างดี ...อุ๊บ! กรรมล่ะฉัน! อุสาห์บอกพี่เรียวว่าจะไม่คิดมากแต่ดันถอนหายใจออกมาซะ ฉันนี่มันแย่จริงๆ เลย - -.

          "..." พี่เรียวหันมามองฉันด้วยสายตาเรียบนิ่ง

          "อะ..เอ่อ คะ...คือว่า.." ฉันอึมๆอำๆ ก็แหม่! ใครเขาจะไปพูดออกล่ะ ก็ทั้งที่ตัวเองเพิ่งบอกว่าจะไม่คิดมากแล้วหาอะไรมาทำให้สบายจิตสบายใจ เพื่อไม่ให้เขาพลอยไม่สบายใจไปด้วย แต่ดัน..ทำให้เขาพลอยไม่สบายใจไปด้วยได้ - -

          "ถ้าเหนื่อยจะกลับก็ได้นะ.."

          "อะ..อื้ม" ฉันขยักหน้าและก้มหน้าลง อา...สู้หน้าพี่เรียวไม่ได้เลยแฮะ 

          "ไม่ต้องคิดว่าก็ได้ มา..กลับกันเถอะ ^^" พี่เรียวลูกหัวฉันเบาๆ ก่อนจะคลี่ยิ้มให้

          "อะ...อื้ม ^^" ฉันฉีกยิ้มออกและจยักหน้าเชิงตกลง "งั้น..ขอแวะซื้อไอติมก่อนนะ ><!" ฉันว่าพลางออกวิ่งไปยังร้านไปติมทันที แต่ก็ยังไม่วายได้ยิมเสียงพี่เรียวที่พูดขึ้นอยากเหนื่อยใจนิดเล็ก

     "กินอีกแล้วเหรอ? ก็เพิ่งจะกินกันไปนี่นา - -"

     ฮ่าๆ ก็นะ เวลาเครียก็ต้องดับทุกข์ด้วยของกิน(?)สิ เนี่ยแหละผู้หญิงงงงงงงง >///<! (เฉพาะเธอคนเดียวรึเปล่า - -.)

 

 

          "..."

          ท่ามกลางท้องฟ้าที่เริ่มจะมืดครึ้มเหมือนว่าฝนกำลังจะตกลงมา มีเพียงชายหนุ่มคนหนึ่งที่ไม่ยอมเดินไปไหน 

          "เฮ้อ.." เขาถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยและเบื่อหนาย ก่อนจะเงยหน้ามองท้องฟ้าที่มืดครึ้มพร้อมกับเม็ดฝนที่ค่อยๆตกลงมาทีล่ะหยดสองหยด ใบหน้าของเขาบ่งบองถึงความโศกเศร้าอย่างชัดเจน เขายกมือขึ้นกุมขมับของตัวเองไว้ พร้อมบ่นกับตัวเองเบาๆ ว่า..

          "พี่ไม่อาจที่จะแทนพี่ชายของเธอได้สินะ...แคลอ" สิ้นคำของชายหนุ่มฝนที่เคยตกลงแค่ไม่กี่หยดก็เริ่มที่จะเทกันตกลงมาอย่างถี่ๆ ชายหนุ่มไม่มีทีท่าว่าจะยอมเข้าไปหลบฝนในที่ใกล้ๆนี้เลย...จนกระทั่งมีเสียงหนึ่งดังขึ้น เสียงที่ทำให้ชายหนุ่มได้สติขึ้นมา

          "เหวอ! พี่เรียว! ไปทำอะไรตรงนั้นน่ะ? ฝนตกลงมาแล้วนะรีบเข้ามาหลบฝนก่อนเร็ว! เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก!" เสียงใสๆตะโกนที่แสนจะคุ้มเคยดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มได้สติและก้าวเท้าเดินเข้าไปหลบฝนในที่เดียวกับร่างบาง ร่างบางยิ้มบางๆให้กับเขา ทำให้เขายิ่งรู้สึกผิดไปกันใหญ่ที่ไม่อาจทำให้เธอลืมความเหงาได้ เขาผิดเองที่ไม่ใส่ใจเธอให้มากกว่านี้..

          หมับ!

          "อะ..เอ๋?" ร่างบางอุทานออกมาเบาๆ เมื่อเขาดึงร่างของเธอเขาไปกอด เขาสวมกอดเธอแน่นยิ่งขึ้นจนทำให้เธอรู้สึกอึดอัดนิดๆ แต่แล้ว..น้ำตาของลูกผู้ชายก็ได้ปรากฏ

          "อึก!..."

          "พะ...พี่เรียว.."

          "พี่ขอโทษแคลอ..ที่ทำให้เธอลืมความเหงาที่เคยมีหมดไปไม่ได้..เพราะพี่ไม่ใส่ใจเธอ เธอถึงได้เกิดเหงาขึ้นมาอีกครั้ง..พี่นี่มันเป็นพี่ชายที่ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ.."

          "มะ..ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกนะ!" เธอรีบพูดโผมขึ้นมาทันที "พี่เรียวไม่ใช่พี่ชายที่ไม่ดีหรอก พี่เรียวทำหน้าที่พี่ชายได้ดีแล้วล่ะ หนูต่างหากที่ไม่ดี หนูยังทำหน้าที่น้องสาวที่ดีไม่ได้เลย.."

          "..."

          "ทั้งๆ ที่หนูมีพี่ชายที่แสนดีอย่างพี่เรียวแล้ว แต่หนูกลับยังคงคิดถึงเขาคนนั้น...หนูเองล่ะที่ไม่ดี ทีพี่เรียวยังลืมน้องสาวคนสำคัญของตัวเองเพื่อหนูได้เลย แต่หนูกลับ..ลืมพี่ชายคนสำคัญ..เพื่อพี่เรียวไม่ให้ ฮึก! นะ..หนูเองล่ะที่ไม่ดี พะ..เพราะฉะนั้น..." สายน้ำตาค่อยๆไหลรินออกจากตาของเธอ

          "..."

          "พี่เรียว..อย่าโทษตัวเองเลยนะ.." เธอสวมกอดตอบเขา อ้อมกอดที่เธอมอบให้กับเขามันทำให้เขารู้สึกอบอุ่นขึ้นทันที ใช่...เขาก็เคยยอมลืมทุกสิ่งที่เกี่ยวกับน้องสาวอีกคนเพื่อเธอเหมือนกัน...แต่ตอนนี้น้องสาวคนนั้นไม่ใช่คนสำคัญสำหรับเขาแล้ว ก็เพราะคนที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ของเขาน่ะ...ก็ยืนอยู่ในอ้อมกอดของเขาแล้วนี่ไงล่ะ

          เขากับเธอโอบกอดกันท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาหนัก....แต่ไม่นาน ท้องฟ้าที่เคยมืดครึ้มก็กลับเปิดช่องว่างให้แสงสว่างส่องผ่านเข้ามา พวกเขาถอดอ้อมกอดที่แสนจะอบอุ่นเมื่อกี้ของกันและกันออก พร้อมกับมองไปยังท้องฟ้าที่ตอนนี้ได้ส่องสว่างขึ้นอีกครั้ง..

          ใช่แล้ว...มีทุกข์ก็ต้องมีสุข มีน้ำตาก็ต้องมีรอยยิ้ม มันเป็นธรรมดาของมนุษย์ เธอและเขาไม่ใช่ภูตปีศาจ แต่เธอและเขาก็คือมนุษย์คนหนึ่งในตอนนี้ มนุษย์ที่มีจิตใจที่อยากจะช่วยเหลือกันและกันพร้อมกับคนอื่นๆ ที่เดือดร้อน ในความทุกข์ย่อมมีความสุขตามมาเสมอ เปรียบดั่งชีวิตของเธอ...ที่ครั้งหนึ่งเคยสูญเสียคนสำคัญไป แต่ก็มีคนมาแทนที่และช่วยเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายของเธอให้กลับมาเต็มดั่งเช่นเคย

 

          ชีวิตที่แสนสุข..มันเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น...

 

 

 

          I'll make you crazy

 

                              In memory next

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา