▲เจ้าชู้นัก...เดี๋ยวจัดให้▼(YAOI)

9.6

เขียนโดย AMINOKOONG

วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.25 น.

  20 ตอนที่
  10 วิจารณ์
  31.53K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2557 21.55 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) ▲เจ้าชู้นัก...เดี๋ยวจัดให้▼(YAOI) : ตอนที่2

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
▲เจ้าชู้นัก...เดี๋ยวจัดให้▼




ตอนที่2 : งานเข้า





หลัง จากที่ได้รับโทรศัพท์ผมก็มาที่โรงพยาบาล มาถึงก็นั่งมองสภาพของโยด้วยความสมเพชเวทนา กับสภาพที่เห็น หน้าตาบวมเป่ง แขนขาอย่างละข้างพันด้วยผ้าอะไรก็ไม่รู้ ที่หัวยังมีผ้าก็อตพันรอบๆอีก สภาพมันตอนนี้ไม่ต่างจากมัมมี่เลยก็ว่าได้ ผมจ้องมองมันซักพักจนมันตื่นขึ้นมาเห็นผม ก็ตกใจ พูดติดๆขัดๆ

“ปะ ปะ เป้ เอ่อ...คือ”


“หืม...มี ไรครับ ไหนบอกว่านอนป่วยอยู่ แล้วทำไมสภาพถึงเป็นแบบนี้ได้ครับ” ผมแสร้งถามโยธินผมล่ะตลกกับสีหน้าเหรอหราของมัน ดูซิว่ามันจะแก้ตัวว่ายังไง

“เอ่อ.... คือ...ก็....ผมลงไปซื้อยาข้างล่างคอนโด แล้วโดนโจร....ใช่โจรมาจากไหนก็ไม่รู้มาขโมยโทรศัพท์ผมไป แล้วก็ทำร้ายผมแบบนี้ เป้ เป้ครับอย่าทิ้งโยไปนะ โยกลัว” แหม่ม! กูอยากจะยกรางวัลตุ๊กตาทองสาขาจอมแถดีเด่นให้เมิงจริงๆ

“เอ๋ โทรศัพท์หรอ แล้วทำไมพยาบาลที่โทรมาบอกว่าโยนอนอยู่โรงพยาบาลโดยเช็คในโทรศัพท์ของโยว่า เบอร์ผมเป็นเบอร์โทรล่าสุดได้ล่ะครับ หืม ไหนบอกมาซิ” ยอมแสร้งโง่ตามเกมส์มันหน่อยล่ะกัน

“ก็.... ก็...ก็เพราะโยสู้ไงครับ ถึงได้เป็นแบบนี้ ที่โยยอมเจ็บตัวแบบนี้ก็เพราะว่าในโทรศัพท์มีรูปของเราที่เป็นความทรงจำดีๆ ทั้งนั้น โยไม่อยากจะเสียมันไป” มันพูดแสร้งตีหน้าเศร้าผมเลยส่งยิ้มเพชรฆาตรให้มันไปทีนึงก่อนจะถามมันออกไป เสียงเรียบ

“แล้ว ทำไมพลเมืองดีเค้าถึงได้ไปเจอโยที่ ม่านรูด ในสภาพล่อนจ้อนได้ล่ะครับ ตอบมาซิครับ คุณโยธิน” เน้นคำว่า ม่านรูด ให้มันฟังชัดๆ แต่ยังคงน้ำเสียงเรียบแต่แฝงไปด้วยความเย็นยะเยือก จนมันมีสีหน้าตกใจ

“เอ่อ.......คือ.......”

“พอ เถอะโย.... ไม่เหนื่อยบ้างรึไงที่ต้องคอยโกหกเป้แบบนี้ โยเห็นเป้เป็นตัวอะไร เห็นความรู้สึกของเป้ไม่มีค่าเลยใช่มั๊ยถึงได้ทำกันแบบนี้ ไหน บอกเหตุผลให้เป้ฟังหน่อยสิว่าทำไม” ผมยังคงน้ำเสียงเรียบนิ่ง จะมีก็แต่น้ำตาที่ไหลออกมาจนโยมันต้องยกมือที่ไม่ค่อยจะมีแรงเท่าไหร่ขึ้นมา เช็ดให้

“คือ ว่า....เค้ามาให้ท่าผมเองนี่ครับ ผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับเค้าเลยด้วยซ้ำ ออกจะรำคาญซะอีก เล่นตามตื้อผมตลอด เสนอมาซะขนาดนั้นผมก็เลยสนองให้แค่นั้นเอง แล้วเป้จะให้ผมทำยังไง ผมก็ผู้ชายคนนึงนะ ไม่ได้เป็นเกย์มาแต่แรก มันก็มีเผลอๆไปบ้าง ที่สำคัญผมก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่ครับ จริงมั๊ย หืม” ผมตอบพร้อมส่งรอยยิ้มบางๆมาให้ นี่มึงยังไม่สำนึกผิดเลยใช่มั๊ยเนี่ย


“ครับ ผู้ชาย แล้วมาจีบเป้ทำไมล่ะโย ถ้าโยยังอยากจะคบผู้หญิงอยู่ เอาแบบนี้นะ เป้ว่าเราเลิกกันเถอะ โยจะได้ไปค้นหาตัวเองว่าจริงๆแล้วโยต้องการอะไรกันแน่ดีมั๊ยครับ” ผมแสร้งยิ้มกลับ

“ไม่ นะครับ.....ฮึก....โยไม่เลิกเด็ดขาด กว่าเป้...ฮึก...จะยอมเป็นแฟนโย โยต้องพยายามมากขนาดไหน เป้ไม่รู้หรอก เป้ๆอย่าทิ้งโยไปนะ นะครับ...ฮึก....ฮึก....จะให้โยทำอะไรก็ได้ โยยอมทำทุกอย่าง เป้ไม่เสียดายวันดีๆที่เราเคยมีร่วมกันมา...ฮึก...เลยรึไง มันไม่มีความหมายกับเป้เลยใช่มั๊ย....ฮือๆๆ” โยธินพูดพร้อมสะอื้นไปด้วย

“นั่น สินะ ทุกอย่างที่ผ่านมามันไม่เคยมีความหมายเลยรึไง แค่เขามายั่ว ก็มั่วไปกับเขาถึงม่านรูด กี่ครั้งแล้วล่ะโย กี่ครั้งแล้วที่ทำแบบนี้ นอกจากคนนี้แล้วยังมีคนอื่นอีกมั๊ยที่เป้ไม่รู้ ยังมีใครอีกมั๊ยที่เค้ามายั่วแล้วโย เผลอ แล้วไปจบกันที่ม่านรูดน่ะโย” เน้นคำว่าเผลอให้ชัดๆ แต่ยังคงน้ำเสียงเรียบแบบเย็นชาใส่มันอยู่

“เป้ นี่เป้ไม่ไว้ใจโยเลยรึไง โยไม่เคยนอกใจเป้เลยนะแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเองนะเป้ เป้จะให้อภัยโยไม่ได้รึไงกัน ทำไมเป้ใจแคบแบบนี้ล่ะครับ ทำไม ห๊า!!!!” โยมันตะคอกใส่ผมเบาๆ นี่สรุปทั้งหมดนี่เป็นผมผิดใช่มั๊ยที่ไม่ให้อภัยมัน

“งั้น โยลองคิดกลับกันดูบ้างสิ ว่าถ้ามีคนมายั่วเป้แล้วเป้ก็เผลอไปกอด จูบ ลูบ คลำ ยอมให้เค้าอยู่บนตัวเป้ นอนบนเตียงด้วยกัน หอมแก้มๆที่ควรจะเป็นของโยคนดียว เป็นโยๆจะรู้สึกยังไง โยพูดแบบนี้มันไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยเลย เอาแต่พูดดีเข้าตัวแบบนี้ยังจะกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นลูกผู้ชายอีกหรอ” ผมตะคอกกลับบ้างไป ชักไม่ไหวล่ะ ไม่รู้ผมไปรักคนแบบนี้ไงกัน ให้ตายสิ

“ไม่ มีทาง ถ้าเป็นแบบนั้นโยเอามันตายแน่ เป้....โยๆ ขอโทษ โยเข้าใจความรู้สึกของเป้แล้ว ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆโยคงได้ฆ่าไอ้คนนั้นแน่ๆ แค่คิดโยก็แทบคลั่งแล้ว  เป้ครับ เป้ให้โอกาสโยซักครั้งเถอะนะ โยสัญญาว่า......”

“พอ เถอะโยอย่ามาสัญญาพล่อยๆอีกเลย เป้ไม่อยากฟัง ดึกแล้ว เป้กลับก่อนนะ ดูแลตัวเองล่ะ” ผมพูดจบแล้วหยิบมือถือที่แอบอัดเสียงไว้มากดเซฟก่อนจะลุกขึ้นแต่โดนโยมัน เจ็บแขนผมไว้ก่อน

“เป้จะไม่เฝ้าโยหน่อยเหรอ โยเจ็บอยู่นะ” มันทำหน้าหมาหงอยใส่

“แล้วทำไมถึงไม่ให้มินทร์เค้ามาเฝ้าล่ะครับ นี่มันไม่ใช่หน้าที่ของเป้ซักหน่อย”

“เป้รู้ได้ไงว่าเป็นมินทร์” มันถามผมด้วยสีหน้าประหลาดใจ

“นั่นสินะ เป้รู้ได้ไง คิดว่าไงล่ะครับ” ไหนๆก็จะไปล่ะ ขอทิ้งระเบิดไว้ให้มินทร์มันหลบเล่นๆหน่อยล่ะกัน อิๆๆ

“มะ มะ ไม่รู้สิ”

“ไปกินไอติมกันที่ไหน ม่านรูดแถวไหน เอากันท่าไหนบ้าง ลองคิดสิครับว่ามีใครบ้างที่รู้เรื่องนี้” ขอใส่ไฟอีกซักหน่อยเถอะ

“มิ นทร์หรอ มินทร์ทำแบบนี้ทำไมกัน ไหนตกลงกันไว้แล้วไงว่าจะไม่บอก........” โยทำสีหน้าตกใจทันทีที่รู้ตัวว่าเผลอพูดอะไรออกมา แต่ก็โป๊ะเชะ! นี่แหละที่ผมต้องการ

“ไป เคลียร์กันเอาเองนะ และขอให้มีความสุขกับรักครั้งใหม่นะครับ เป้ไปล่ะ” เป็นประโยคสุดท้ายที่พูดกับโยแล้วยิ้มบางๆให้พร้อมก้มลงไปจูบที่หน้าผากของ โยก่อนจะเดินจากมา ยังได้ยินเสียงตะโกนเรียกผมปนเสียงสะอื้นคล้อยหลังตามมา แต่ผมไม่แม้แต่จะเหลียวหลังไปมอง มินทร์แกเตรียมหาหลุมหลบภัยจากระเบิดลูกนี้ให้ดีล่ะกัน

~ จำไว้นะครับถ้าเราจะทำให้เค้ารู้สึกผิดหรือเสียใจที่ต้องเสียเราไปจงแสร้งทำ เป็นคนดีเข้าไว้อย่าไปวีนด่ากราดหรือตบตีเค้า ใจเย็นๆพยามพูดหว่านล้อมให้เค้าลองกลับไปมองในมุมของเราบ้าง แค่นี้มันก็ทำให้เค้าเจ็บยิ่งกว่าโดนเราตบเป็นพันๆครั้ง ~

นี่ ก็ผ่าน มาเกือบสองอาทิตย์หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ทุกๆวันโยจะโทรมาหาผมวันล่ะหลายสิบรอบ แต่ผมไม่เคยคิดจะรับ บางทีก็ส่งข้อความมาบ้างวันนึงก็เกือบๆ10ข้อความด้วยประโยคเดิมซ้ำๆว่า “โยขอโทษ”  “ให้โอกาสโยนะครับ คนดี”  “อรุณสวัสครับ” “กินข้าว ยัง”  “ฝันดีครับ” “ดูแลตัวเองด้วยนะ”  และก็จะมีน้องรหัสของโยเอาเค้กที่ผมชอบมาให้ทุกวันตอนเที่ยง แต่ผมก็เอาไปทิ้งขยะต่อหน้าน้องมันทุกครั้งเช่นกัน


ลืมแนะนำตัว ไป ครับ  ผม เป้ ปรมิณทร์ xxxx อายุ19ปี สูง176 หนัก60 ผิวขาว ร่างบาง ผมว่าผมก็ดูหล่อนะ แต่คนส่วนใหญ่มักจะบอกว่าผมน่ารัก มีใบหน้าสวยซะงั้น มีคนมักทักว่าผมเป็นทอมอยู่เรื่อยๆจนชินล่ะ จริงๆผมไม่ได้ออกสาวอะไรมากนะครับแต่ลักษณะการพูดคุยในกลุ่มของเราจะคุยกัน แบบนี้ แรงๆกันทั้งกลุ่มผมมีน้องชายอยู่ 1 คนชื่อป็อบ ตอนนี้อายุ17ปี เรียนโรงเรียนชายล้วน และพักที่คอนโดที่ผมซื้อให้แถวๆโรงเรียนนั่นแหละ วันหยุดน้องก็จะมาหาผมประจำ เราสองคนรักและสนิทกันมาก จนหลายๆคนที่ไม่รู้จักคิดว่าเราเป็นแฟนกันซะอีก ส่วนแม่ของผมท่านเสียไปได้เกือบ3ปีแล้วครับท่านตรอมใจเพราะพ่อพาผู้หญิงเข้า มาอยู่ในบ้าน โดยแนะนำว่าแม่ผมเป็นเมียและบอกแม่ว่านังนั่นเป็นแฟน นังผู้หญิงแพศยาคนนั้นมันทั้งใช้มารยาออดอ้อนและกลั่นแกล้งพวกเราลับหลังพ่อ สารพัดและนั่นก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ผมเกลียดคนเจ้าชู้ เกลียดแม้กระทั่งคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อบังเกิดเกล้าของตนเอง ถ้าไม่จำเป็นเราสองคนพี่น้องแทบไม่กลับไปเหยียบบ้านหลังนั้นเลยก็ว่าได้

 

พอ พักเที่ยงผมกับเพื่อนๆ ในคณะนิเทศศาสตร์ชั้นปีที่ 2 อันประกอบไปด้วย เอก หนุ่มน่ารักทะเล้นขี้เล่นเป็นบางเวลา นาวสาวสวยสุดมั่นดีกรีดาวคณะไม่หวั่นแม้วัน(ผู้ชาย)มามาก (แต่ถึงยังไงชีก็ยังรักษาเวอร์จิ้นมาได้จน19ปี โดยอ้างว่า ถ้าไม่รักกูไม่ให้) เปอร์ หนุ่มหล่อสุดเนี๊ยบ แถมรวยอีกต่างหาก พ่วงดีกรีเดือนมหาลัย สาวๆกรี๊ดตรึม เที่ยงทีไรขนมนมเนยไม่เคยขาดลาภปากผองเพื่อนทั้งหลาย จอย สาวน่ารักอารมณ์ดี มีความจำเป็นเลิศ และคนสุดท้ายคุณคงรู้จักกันอยู่แล้วกับแมน หรือชื่อในวงเก๊งก็คือเจ้แมนนี่ ก็มานั่งรวมตัวกันที่แคนทีนคณะ ในขณะที่พวกเรากำลังปรึกษากันว่าจะกินอะไรกันดีก็งานเข้าซะก่อน


“นี่ แกไปพูดอะไรกับพี่โย เค้าถึงกล้ามาตบชั้น และยังไม่ยอมคุยกับชั้น แกคงจะใช้มารยามาหลอกล่อเค้าล่ะสิ เค้าถึงไม่ยอมออกมาเจอ โทรไปก็ยังไม่รับ หน้าด้านจริงๆ” อุ๊ต๊ะ โดนตบซะด้วยเกินคาดแฮะ แต่เล่นด่ามาเป็นชุดแบบนี้ก็มึนๆอยู่เหมือนกัน พอตั้งสติได้ผมก็พิมพ์ข้อความแล้วส่งไปยังเป้าหมาย

“น้อง ค่ะ จะพูดจะจาอะไรให้เกียรติสถานที่บ้าง อีกอย่างพวกเราเป็นรุ่นพี่ เคารพกันบ้างนะ” นาวคงของขึ้นออกตัวแทนผมไปก่อนล่ะ ทุกคนในกลุ่มรู้เรื่องของผมหมดแล้ว คือเราแทบไม่มีอะไรปิดบังกัน พวกเราปรึกษากันได้ทุกเรื่อง

“เสือก” วอนโดนตบซะล่ะอิเด็กเปรต

“อ้าวอีนี่” อิเจ๊ของขึ้นอีกคนกำลังจะถลาเข้าไปตบผมเลยดึงแขนมันไว้ก่อนจะเดินเข้าไปประจันหน้ากับอิเด็กมิณทร์ จนมันถอยกรูดไป2-3ก้าว

“นี่ น้องจ๊ะ พี่กับพี่โยน่ะเลิกกันตั้งแต่จับได้ว่าน้องลากเค้าไปกินที่ม่านรูดทั้งๆที่ ตัวเองก็มีผัว เอ๊ย!คู่หมั้นแล้วล่ะจ๊ะ เอ่อ...แล้วที่บอกว่าใช้มารยาหลอกล่อเนี่ยทำไมน้องไม่ลองตักน้ำใส่กระโหล กชะโงกดูเงาหัวตัวเองก่อนจะมาว่าคนอื่นล่ะจ๊ะ เพราะเท่าที่พี่จำได้คนที่น้องพูดถึงน่ะ เค้าเคยเป็นคนของพี่มาก่อนไม่ใช่เหรอ ไอ้ที่โทรไปแล้วโยเค้าไม่รับ ทำไมไม่คิดว่าเค้าคงเบื่อหรือไม่ก็รำคาญน้องบ้างล่ะ อีกอย่างที่บอกว่าหน้าด้านน่ะเก็บคำนั้นไว้ด่าแล้วเตือนสติตัวเองเถอะนะ” ผมด่าแบบผู้ดี ด้วยเสียงเรียบแต่แฝงด้วยความเฉียบขาด อุตส่าห์ไม่ไปหาเรื่องแล้วนะ ยังตามารังควานกันอยู่ได้

“ไม่ จริง แกโกหก พี่โยเค้าบอกว่าเค้ารักชั้น เค้าไม่มีทางเบื่อรึว่ารำคาญชั้นหรอก แกต่างหากที่เค้าเบื่อแล้วอยากจะเขี่ยทิ้ง แกอย่ามามั่ว” ตอนนี้มันด่าผมไม่ค่อยเต็มเสียงเท่าไหร่คงเกิดความลังเล และคงจะกลัวว่าที่ผมพูดจะเป็นความจริงซินะ

“เฮ้อ! โง่จริงๆด้วย งั้นน้องฟังนี่นะจ๊ะ” ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดเสียงที่แอบบันทึกไว้คืนนั้น ก่อนจะเร่งเสียงเสียงให้ดังที่สุดจนคิดว่าได้ยินเกือบทั้งแคนทีนให้หล่อนฟัง

 

“คือ ว่า....เค้ามาให้ท่าผมเองนี่ครับ ผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับเค้าเลยด้วยซ้ำ ออกจะรำคาญซะอีก เล่นตามตื้อผมตลอด เสนอมาซะขนาดนั้นผมก็เลยสนองให้แค่นั้นเอง แล้วเป้จะให้ผมทำยังไง ผมก็ผู้ชายคนนึงนะ ไม่ได้เป็นเกย์มาแต่แรก มันก็มีเผลอๆไปบ้าง ที่สำคัญผมก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่ครับ จริงมั๊ย หืม”  พอจบประโยคนี้นางก็  กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด ก่อนจะปล่อยโฮออกมาแบบไม่แคร์สื่อ  จนผมต้องเบรคเอาไว้เมื่อถึงประโยคที่อยากให้มันได้ยินชัดๆ

“หยุดหอนซะที แล้วฟังนี้ซะ” ผมตะคอกเสียงดังจนเจ้าหล่อนตกใจก่อนจะหุบปาก เหลือแต่เพียงเสียงสะอื้นเบาๆ

 

“ไม่ นะครับ.....ฮึก....โยไม่เลิกเด็ดขาด กว่าเป้...ฮึก...จะยอมเป็นแฟนโย โยต้องพยายามมากขนาดไหน เป้ไม่รู้หรอก เป้ๆอย่าทิ้งโยไปนะ นะครับ...ฮึก... จะให้โยทำอะไรก็ได้ โยยอมทำทุกอย่าง เป้ไม่เสียดายวันดีๆที่เราเคยมีร่วมกันมา...ฮึก...เลยรึไง มันไม่มีความหมายกับเป้เลยใช่มั๊ย....ฮือๆๆ”

“คราวนี้ยังจะหาว่าพี่โกหกอีกหรือป่าวล่ะครับ คุณน้องมินทร์” พอจบประโยคนี้ผมก็จัดการส่งเป็นข้อความเสียงไปให้มัน

“ที่ พี่ส่งไปให้น่ะไม่ได้คิดจะซ้ำเติมหรอกนะ พี่ก็แค่อยากให้น้องเก็บเอาไว้ฟังซ้ำๆจะได้เตือนสติตัวเองว่าสุดท้ายก็เป็น ได้แค่ที่ระบายความอยากของเค้าเท่านั้นแหละ เอาเวลาไล่ล่าผู้ชายไปตั้งใจเรียนดีกว่ามั๊ยครับ หืม” พอผมพูดจบมันก็ปรี่เข้ามาทำท่าจะตบ พวกเพื่อนๆของผมที่นั่งฟังอยู่กำลังจะลุกขึ้นมาช่วย แต่ต้องชงักเมื่อมีเสียงตะโกนมาจากด้านหลังผม

“หยุดเดี๋ยวนี้นะมินทร์ จะทำบ้าอะไรของเธอน่ะ ห๊า!” รู้ตัวอีกทีโยมันก็เดินมาผลักยัยมิณทร์ออกจนเซเบาๆก่อนมายืนข้างๆผม

“เค้า ทำอะไรเป้รึป่าว เจ็บตรงไหนมั๊ย ไหนบอกโยซิครับ” มันจับผมพลิกไปมาด้วยความเป็นห่วงโดยไม่สนใจมินทร์มันเลยซักนิด ปล่อยให้ยืนร้องไห้สะอึกสะอื้นเสียภาพพจน์ดาวทันตะหมดเลย

“ผมไม่เป็นไร คุณไปดูคนของคุณเถอะ” ผมพยามแกะมือของโยออกจากตัวด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

“ก็กำลังดูอยู่นี่ไงครับ” โยยิ้มให้ผม โดยไม่ดูเลยว่าเด็กนั่นมันโกรธจนหน้าเขียวจะกินหัวผมอยู่แล้ว

“ผิด คนแล้วล่ะ ก็เค้าเพิ่งมาบอกเมื่อกี้ว่าคุณเป็นคนของเค้า แล้วเท่าที่ผมจำได้ เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วนะครับ” โยหุบยิ้มทันทีหลังจากที่ผมพูดจบแล้วร้องไห้ออกมาก่อนจะคุกเข่าลงตรงหน้า แล้วกอดเอวผมไว้เมื่อเห็นว่าผมกำลังจะเดินหนี ถึงตอนนี้คนเริ่มมองกันทั้งแคนทีนล่ะ ดี! เอาให้มันรู้กันทั่วไปเลย อยากมาประจานความร่านของพวกแกเองนะ ถามว่าผมอายมั๊ย แล้วมีเหตุผลอะไรที่ผมต้องอาย ผมไม่ได้ทำอะไรผิดหนิ ผมเป็นผู้ถูกกระทำ มันสองคนต่างหากที่สมควรจะอาย ถูกมั๊ย

“เป้ ครับ โยผิด....ฮึก...ไปแล้ว อย่าเย็นชากับโยนักเลย...ฮึก....โยใจจะขาดแล้วนะครับ ให้โอกาสโย.....ฮือ......ได้แก้ตัวบ้างไม่ได้เลยหรอครับ ฮือออออ”

“คุณ ฟังผมนะ คุณยังจำสิ่งที่ผมเคยบอกก่อนที่เราจะคบกันได้มั๊ย ผมบอกว่าไง ถ้าคุณนอกกายหรือนอกใจผมแม้แต่ครั้งเดียว เราเลิกกันทันที คุณจำได้ใช่มั๊ย ” ผมตอบและพยายามแกะมือขอโยออกจากเอวตัวเองก่อนจะหันไปถามมินทร์ที่ตอนนี้ เบือนหน้าหนีคงทนเห็นภาพบาดตาบาดใจตรงหน้าไม่ได้สินะ

“น้องมินทร์ครับ น้องไปกับพี่โยมากี่ครั้งแล้วครับ”

“ไม่รู้ ไปบ่อยจนจำแทบไม่ได้ จะถามทำไม” มันตอบพลางทำหน้าเหวี่ยงใส่กูอีก

“งั้นพี่เปลี่ยนคำถามใหม่แล้วกัน นานรึยังที่ที่แอบไปสมสู่กันในม่านรูดน่ะ” พอเจอคำถามทั้งโยและมินทร์ถึงกับสะดุ้ง

“3-4เดือนนี่แหละที่ชั้นตกเป็นเมียของพี่โย” มันตอบพร้อมยิ้มเยาะมาใส่ผม ชวนให้อวัยวะเบื้องล่างลอยไปกระแทกปากมันจริงๆ

“ดู น้องจะภูมิใจกับการลักกินขโมยกินของคนอื่นจังเลยนะ ถ้าพ่อแม่รู้คงภูมิใจพิลึกที่ส่งน้องมาเรียนแต่น้องกลับมาถ่างขาให้ผู้ชาย เอาเป็นว่าเล่นแบบนี้ หึ” พอจบประโยคนี้นางหุบยิ้มแทบจะทันที ก่อนที่เพื่อนๆและคนอื่นๆในแคนทีนจะหลุดขำออกมาเบาๆ

“ปล่อยผมซักที ผมอึดอัด” ผมหันมาพูดกับคนที่มัวแต่กอดเอวผมพร้อมๆกับเสียงสะอื้นเบาๆ

“ไม่.... จนกว่าเป้จะยอมอภัยให้โย” โยยังคุกเช่าและกอดเอวผมไว้ไม่ยอมปล่อย

“หยุดทำแบบนี้ซักที คุณไม่มีสิทธ์ในตัวผมอีกแล้วจำไว้”ผมแกะแขนของโยออกจนหลุดก่อนจะผลักโยจนล้มไปกับพื้น

“ฮึก...ฮือ...พี่โยเจ็บมั๊ยค่ะ นี่แกกล้าดียังไงมาทำกับพี่โยแบบนี้”มิณทร์มันวิ่งมาช่วยพยุงโยขึ้นมาก่อนจะหันมาด่าผมอีกที

“มากกว่า นี้ชั้นก็ทำได้ถ้าพวกเธอสองคนยังไม่เลิกยุ่งกับชั้นอีก จำไว้”ผมยังยืนด่าสองคนนั่นแต่ใบหน้ายังเรียบนิ่งไม่แสดงอาการใดๆอออกมา

“แก.......”มิณทร์เดินเข้ามาและ

 

เพี๊ยะ! ผมรู้สึกชาและหน้าหันไปตาบแรงตบของมัน ทุกคนยังอึ้งอยู่ และหล่อนกำลังจะตบผมอีกครั้งแต่
 

 

พี๊ยะ! “นี่สำหรับที่แกกล้าดีที่มาตบชั้น” ผมจับมือที่หล่อนกำลังง้างจะตบผมไว้และใช้มือข้างฝาดไปที่ใบหน้าของหล่อน

 

เพี๊ยะ! “และ นี่ถือว่าเป็นดอกเบี้ยที่แกริอาจมาทำให้หน้าของเป็นรอยแดง และจำเอาไว้ถ้าใครมันทำชั้นเจ็บ มันต้องเจ็บกว่าชั้นเป็นสองเท่า” ใบหน้าของมิณทร์หันไปอีกด้านเพราะครั้งนี้ผมใช้หลังมือตบหล่อนไปอีกที ก่อนจะเดินเข้าไปหาโยธิน


เพี๊ยะ! “แล้ว นี่สำหรับปัญหาวุ่นวายที่คุณพามันมาป่วนชีวิตผม” ฝ่ามือบางๆของผมปะทะกับใบหน้าหล่อคมของโยธินจนเกิดเสียงดังทำให้คนที่ เหตุการณ์ยืนอึ้งแม้กระทั้งยัยมิณทร์เองคงคิดไม่ถึงว่าผมจะกล้าทำ

 

เพี๊ยะ!“ส่วนนี่ที่คุณทำให้ผมต้องเจ็บตัว”และตบด้วยหลังมือแบบเดียวกับยัยมิณทร์


“กรี๊ด ดดดดดดดดดด! แกๆ.......กล้าตบพี่โยหรอ”มิณทร์ธารากรี๊ดแล้วปรี่จะเข้ามาตับผมอีกแต่ผมหลบ ทันก่อนจะผลักหล่อนจนล้มไปกองกับพื้นผมกำลังจะเดินเข้าไปตบซ้ำอีกซักรอบ เพราะตอนนี้อารมณ์โกรธ โมโหจนแทบคุมสติไม่อยู่ ก่อนจะหยุดชะงักเมื่อมีเสียงคนตะโกนห้ามมา


“หยุดนะ นี่มันอะไรกัน ห๊า!” ชายหนุ่มอีกคนเดินเข้ามาก่อนที่ยัยมิณทร์ธาราจะตะโกนเรียกชื่อของหนุ่มคนนั้น


“ปอนด์!…ปอนด์นค่ะช่วยมิณทร์ด้วย มันตบมิณทร์ๆเจ็บ”มิณทร์ธารลุกขึ้นแล้วเดินไปกอดแขนออเซาะปอนด์


“เจ็บมากมั๊ย” ปอนด์ถามขึ้นมาแต่ตายังมองมาที่ผมอยู่


“เจ็บ สิค่ะ ดูสิ ไม่รู้จะบวมรึเปล่า ฮึก...ปอนด์ต้องจัดการมันให้มิณทร์นะค่ะ” โอ๊ย อีนกสองหัวตอแหลเก่งซะจริง เออกูยอม ส่วนโยธินได้แต่ยืนมองตาปริบๆ คงนึกไม่ถึงว่าคนที่ตัวเองคั่วอยู่จะมีสันดารแบบนี้ ปอนด์ค่อยๆแกะมือของมิณทร์ออกและเดินเข้ามาหาผม ก่อนจะเดินมาจับมือผมไว้ไว้ ยัยมิณทร์นั่นยิ้มเยาะด้วยความสะใจ ส่วนเพื่อนๆผมตอนนี้ลุกขึ้นเดินมาสมทบด้านหลังผมจนคนทั้งแคนทีนเริ่มตีวงออก ห่างคงกลัวโดนลูกหลง


“ไหน ดูสิครับ เจ็บรึป่าว ดูซิมือแดงหมดเลย คราวหลังไม่เอาน่ะครับ มีอะไรบอกปอนด์สิดี๋ยวปอนด์จัดการให้เอง” ปอนด์ยกมือฝ่าผมขึ้นมาจูบก่อนจะเป่าเบา ผมก็ส่งยิ้มบางๆให้ปอนด์ แหละเหลือบมิงมิณทร์ธารากับโยธินที่กำลังงง กันอยู่


“นะ นะ...นี่ หมายความว่าไงค่ะปอนด์” ยัยมิณทร์ถามขึ้นทำลายความงุนงงของคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก่อนจะปรายตามาจิกใส่ผม








 

 

 

 

 

“หึ ไม่เห็นมีอะไรที่ต้องเข้าใจยากเลยหนิ ผมกับเป้ เรากำลังคบกัน จริงมั๊ยครับ” ปอนด์หันไปตอบยัยยมิณทร์และวางมือบนไหล่ของผมก่อนหันมาถามและกระชับกอดที่ ไหล่ผมแน่นขึ้น










 

 

 

 

 

 

 

 

“จริงครับ”







 

 

 

- - - - - TBC - - - - -




มาต่อให้ตอนที่2 แบบยาวจุใจ

ไม่รู้ว่าจะชอบกันรึป่าว ตัวนายเอกอาจดูแรงไปหน่อยนะครับ

ที่ตบผูหญิง แต่จริงๆที่เป้ เป็นแบบนี้เค้ามีปมนะครับ

อยากให้ลองติดตามกันต่อไป

หวังว่าคงจะแซ่บถูกใจนะคราฟฟฟ


 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา