The Mysterious…หนียังไงก็ไม่พ้นเธอ

8.0

เขียนโดย Illusion

วันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 19.35 น.

  6 ตอน
  6 วิจารณ์
  8,964 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 19 กันยายน พ.ศ. 2557 02.21 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) ตอนที่ 5: เลือด

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
“พรุ่งนี้วันเปิดเทอมใช่ไหม…” ยัยทามถามฉันขึ้นในขณะที่ฉันยังคงมองเธอดูบรรยากาศข้างล่างนั่นด้วยความสบายใจ
                                “ใช่….”
                                    “คนเยอะมากไหม…”
                                     “ก็เยอะอยู่นะ…ทำไมหรอ”
                                     “กลิ่นมนุษย์มันเหม็น…”
                                     “ห๊ะ…หอมจะตายไป”
                                     “……..”             
                                     “ยังมีแวมไพร์แบบเธออยู่ไหม…ที่ไม่ดื่มเลือดมนุษย์เป็นอาหารอะ”
                                     “มี…แต่น้อย ส่วนมากจะดื่มเลือดมนุษย์เป็นอาหารเพราะว่ามันมีรสชาติที่ดี”
                                     “ไหนเธอบอกว่าเลือดมนุษย์มันเน่าไง”
                                     “………..”
                                     “เดี๋ยวก่อนนะ…ในโลกนี้ยังมี แวมไพร์อยู่อีกหรอ”
                                     “ใช่…พวกมนุษย์ไม่รู้หรอก ถ้าไม่ลองสังเกตดีๆ”
                                     “น่ากลัวชะมัดเลยอะ…มีแวมไพร์ แล้วจะมีมนุษย์หมาป่าไหมน้า~ ฮ่าฮ่า~ นี่มันหนังเรื่อง Vampire Twilight   ชัดๆ”
                                     “…….”
                                     “เธอ…ไม่ถูกกับมนุษย์หมาป่าใช่ปะ ฮ่าฮ่า~”
                                     “ไม่ใช่ไม่ถูก แค่กลัว….”
                                     “………” 0_0!  กลัวงั้นหรอ…หมายความว่ายังไงกันนะ อย่าบอกนะว่ามนุษย์หมาป่ามีอยู่จริงอะ
                                 “เธอเคยเจอ…มนุษย์หมาป่าด้วยหรอ”
                                      “เคย…เหมือนมนุษย์มาก ทั้งเรื่องการกิน การใช้ชีวิตแค่แววตามันไม่ใช่ ส่วนมนุษย์ก็โง่อีกเช่นเคย ที่ไม่ลองสังเกตดีๆ”
    เธอว่ามนุษย์อย่างฉันอีกแล้วหรอเนี่ย L“เป็นอะไรกับมนุษย์มากปะ…”
                                      “……….”
                                      “หนึ่งในทั่วโลก จะมีเพียงคนเดียวที่พิเศษที่สุดและไม่มีใครเหมือน เมื่อเขาอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ เลือดของคนๆนั้นจะมีพลังพิเศษมากมายมหาศาลให้กับแวมไพร์อย่างฉัน ถ้าแวมไพร์คนไหนได้ดื่มเลือดของคนๆนั้นได้หมดตัวแล้วละก็ แวมไพร์คนนั้นจะมีพละกำลังที่แข็งแกร่งมากเลยทีเดียว ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ปราบแวมไพร์ผู้นั่นไม่ได้”
                                     “ห๊ะ!...เอ่ออ….แล้ว…คนที่พิเศษคนนั้นอะ จะตายไหม”
                                     “ก็ต้องตายสิ ต้องดูดเลือดให้หมดถึงจะมีพลังที่แข็งแกร่งที่สุด”
                                     “โห้วว…คนที่พิเศษคนนั้นจะต้องเป็นคนที่โชคร้ายมากที่สุดแน่เลย…ถ้าฉันเป็นละก็ ฉันขอตายดีกว่า“  
                                 “……….”
ฉันกับยัยทามลงมาจากกระเช้านั่นเรียบร้อย ตอนนี้ก็ใกล้เวลาที่สวนสนุกกำลังจะปิด จากเดิมที่มีผู้คนมากมายตอนนี้กลับเหลือเพียงกันอยู่แค่ไม่กี่คน บรรยากาศที่หนาวบวกกับสายลมที่พัดมาอย่างกระหน่ำทำให้ฉันต้องยกมือมากอดตัวเองโดยอัตโนมัติ
                                 “หนาวหรอ…”
                                      “อืม…”
บรรยากาศที่เหน็บหนาว มีฉันกับยัยทามเดินกันอยู่สองคนด้วยความเงียบ บริเวณที่ฉันเดินกันอยู่มีเพียงแสงสว่างจากเครื่องเล่นก็เท่านั้นเอง ความหนาวเย็นจากบรรยากาศข้างนอกทำให้เวลาพูดมีควันออกปากได้เลยทีเดียว ตอนนี้ยัยทามกำลังถอดแจ็คเกตหนังมาคลุมให้ฉันเพื่อทำให้อบอุ่นขึ้นแต่ฉันกลับรู้สึกว่าแค่มีเธออยู่ข้างๆ ก็นับว่าอุ่นใจแล้ว ใจฉันเต้นรัวไม่เป็นจังหวะทุกครั้งที่เธอมาทำดีกับฉันแบบนี้แต่คิดๆดูแล้ว ตระกูลฉันทำร้ายพี่สาวเธอขนาดนั้น เธอคงไม่คิดอะไรเกินเลยกับฉันเหมือนอย่างที่ฉันคิดหรอก จริงไหม อีกอย่างเราก็เป็นผู้หญิงด้วยกันทั้งคู่ คงไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน แต่ทำไมฉันถึงเข้าข้างตัวเองแบบนี้ ในความคิดนึงเธอก็ต้องชอบฉันอยู่แล้ว ไม่งั้นจะมาทำดีกับฉันทำไมกัน แต่อีกความ คิดนึงมันกลับขัดแย้งว่า มันคงเป็นไปไม่ได้ที่เราสองคนจะมารักกัน…นี่มันความคิดของคนที่กำลังมีความรักชัดๆ นี่ฉันชอบเธอจริงๆหรอเนี่ย
       ระหว่างที่ฉันเหม่อลอยคิดอะไรอยู่คนเดียว จู่ๆก็มีเสียงเอี๊ยดอ๊าดดังขึ้นมาอย่างสนั่นทำให้ฉันต้องหันขึ้นไปมองเสียงๆนั่นด้วยความประหลาดใจ นั่นเป็นเสียงของเครื่องเล่นชิงช้าสวรรค์นี่เอง เป็นเครื่องเล่นที่มีขนาดใหญ่มากและไม่คิดไม่ฝันเลยว่ามันกำลังจะตกลงมา ในขณะที่ฉันกำลังยืนมองด้วยความตกใจทำอะไรไม่ถูก….เครื่องเล่นนั่นกำลังจะเอนมาทับฉันที่อยู่ข้างล่างแล้วตอนนี้ ฉันก้าวขาไม่ออกเลยทันทีเพราะไม่รู้ว่าจะไปทางไหนดี เครื่องเล่นนั่นมันใหญ่มาก ถึงฉันจะวิ่งหนีไปทางไหนก็คงโดนทับอยู่ดี ร่างที่กำลังยืนมองมันด้วยความตกใจถูกดึงไปด้วยความรวมเร็วก่อนที่ฉันจะดึงสติกลับมาอีกครั้งและยืนมองสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นตรงหน้า เครื่องเล่นนั้นค่อยล้มลงมาทับสิ่งของที่อยู่ข้างล่างอย่างพังพินาศ เศษเหล็กเศษกระจกแตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ ฉันยืนตัวแข็งทื่อมองภาพๆนั่นอย่างหวาดกลัวก่อนที่จะใช้มือป้องกันเศษต่างๆที่กำลังกระเด็นมาโดนฉันในตอนนี้                                 “กลิ่นนี้มัน…”
ฉันหันไปหายัยทามที่กำลังยืนพูดในสิ่งที่ฉันไม่เข้าใจเธอเลยสักนิด เธอจับมือฉันขึ้นมาพร้อมกับหาอะไรบางอย่างที่มือฉันอย่างร้อนรน จนกระทั่งเธอหยุดการกระทำทันทีที่เห็นสิ่งที่ต้องการ นั่นก็คือแผลนั่นเองซึ่งฉันก็ไม่รู้ตัวว่าไปโดนอะไรมาตอนไหน เลือดซิบๆนั่นทำให้ฉันต้องดึงมือตัวเองกลับมาดูว่ามันเป็นอะไรมากรึเปล่า ถ้าแผลลึกมีหวังเป็นแผลเป็นแน่เลย….
                               “เธอ…คือยูเนค!”
                                   “ห๊ะ...เห้ออ~ จะเป็นแผลเป็นไหมเนี่ย”
                                   “เธอ!....คือคนพิเศษ”
                   ตึกตึก ตึกตึก
ฉันมองหน้ายัยทามอย่างสงสัย จู่ๆเธอดันมามองว่าฉันคือคนพิเศษแบบนี้ได้ไงกัน ฉันก็เขินเป็นเหมือนกันนะ ฉันหลบสายตาที่จริงจังนั่นทันทีพลางเบื่อนหน้าหนีและยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
                               “กลิ่นนั่น…มันช่างหอมเหลือเกิน”
                                   “หอมไร ไหนบอกกลิ่นมนุษย์เหม็นไงเล่า >.<”
                                   “กลิ่นเลือดนั่น…ฉัน…อดใจไม่ไหวแล้ว”
จู่ๆร่างของเธอก็พุ่งเข้ามาหาฉันโดยที่ฉันได้ไม่ทันระวังตัว ทำให้ฉันล้มหงายหลังลงไปกองอยู่กับพื้น โดยมีร่างของเธอทับตัวฉันอยู่ ฉันตกใจและตื่นกลัวมากเพราะตอนนี้เขี้ยวสองซีของเธอนั่นยาวออกมาอีกครั้งนึงแล้ว เหมือนเธอจะกระหายอะไรบางอย่างในตัวฉัน ซึ่งฉันเดาว่าเธอต้องหิวหรืออยากดื่มเลือดฉันแน่เลย อาจจะเป็นเพราะว่าแผลเล็กๆที่มีเลือดซิบๆนั่น เลยทำให้เธออยากดื่มเลือดก็ว่าได้ แต่ไหนเธอบอกว่าเธอไม่ชอบดื่มเลือดมนุษย์นี่หน่า แล้วไหงเป็นแบบนี้ได้ละ ฉันพยายามดันหน้าเธอให้ห่างจากลำคอของฉัน ที่ตอนนี้เธอพยายามจะกัดหรือพยามจะเข้ามาหาฉันอย่างไม่มีสติ
                              “ทามม…ทามม!”
 ฉันพยายามเรียกชื่อเธอให้ตั้งสติขึ้นมาได้บ้าง แต่ก็กลับไร้ประโยชน์ ตอนนี้ฉันแทบไม่เหลือเรี่ยวแรงที่จะต้านทานเธอได้อีกต่อไป
                               “ทาม…ได้โปรด”
ตอนนี้ฉันลองพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอครั้งสุดท้ายก่อนจะหยุดการขัดขืนการกระทำใดโดยทั้งสิ้น น้ำตาแห่งความกลัวและความผิดหวังไหลรินออกมาอย่างไม่ขาดสาย นี่เธอเป็นอะไรไป…เมื่อกี้เธอยังช่วยชีวิตฉันอยู่เลยจำไม่ได้หรอ ฉันร้องไห้ออกมาอย่างกระหน่ำ ให้การกระทำของเธอ
                               “ทำอะไรกันอยู่หรอครับ…”
เสียงผู้ชายคนนึงดังขึ้นทำให้เธอหยุดการกระทำนั่นลงทันที เราทั้งคู่หันไปมองเสียงนั่นโดยไม่ได้นัดหมาย เผยให้เห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังยืนมองพวกฉันสองคนอย่างไม่ละสายตา ผิวที่ซีด ดวงตาที่แดงก่ำ ทำให้ฉันตกใจเล็กน้อยกับสิ่งที่ฉันเห็นอยู่ตอนนี้ ยัยทามรีบพุ่งเข้าหาผู้ชายคนนั้นทันทีที่เห็น การต่อสู้ที่กลหลกำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว…ขณะนี้ฉันดูการต่อสู้ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ความรวดเร็วของทั้งคู่ทำให้ฉันมองแทบไม่ทันว่าตอนนี้ใครอยู่เหนือกว่ากันเลยทีเดียว ร่างที่ล้มลงกับพื้นอย่างรุนแรงทำเอาฉันตกใจเอามากๆพลางรีบลุกไปประคองร่างเธอโดยทันที   เธอหันมามองฉันด้วยสีหน้าที่เรียบนิ่งแต่ฉันมองหน้าเธอกลับไปด้วยท่าทีที่เป็นตกใจเล็กน้อย พร้อมกับจับแผลของเธอด้วยความเป็นห่วง จู่ๆร่างของฉันก็ถูกแรงกระชากจากใครอีกคนนึงเข้าอย่างจัง ทำให้ตอนนี้ร่างของฉันตกเป็นเหยื่อของผู้ชายคนนั้นเข้าให้แล้ว ฉันตาโตทันทีที่เห็นผู้ชายคนนั้นเริ่มแยกเขี้ยวยาวและกำลังเข้ามากัดที่คอฉัน ตอนนี้ฉันพยายามสู้อย่างเต็มที่แต่ก็ทนแรงของเขาไม่ได้สักเท่าไร่ ฉันหลับตาปี๋พร้อมกับหยดน้ำตาแห่งความกลัวได้ไหลรินอาบแก้มของฉันทั้งสองข้าง ตอนนี้คงไม่มีใครช่วยฉันได้เลยใช่ไหม ขนาดเธอเองก็ยังจะทำร้ายฉันด้วยเหมือนกัน ฉันคิดก่อนที่จะยอมให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่พวกเขาต้องการ เสียงร้องอันเจ็บปวดดังขึ้น ฉันรีบลืมตาขึ้นมาก็พบกับแขนขาวๆของเธอโดนผู้ชายคนนั้นกัดอยู่ เผยให้เห็นเลือดที่ค่อยๆไหลออกมาอย่างกระหน่ำ ฉันแปลกใจมากที่เธอมาช่วยฉันแต่นั่นก็กลับทำให้ฉันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เธอเอาแขนของเธอมารองรับตอนที่หมอนั่นจะกัดฉันได้อยู่แล้ว วินาทีนั่น สายตาของทั้งคู่จ้องมองกันอย่างเขม็ง ก่อนที่ยัยทามจะผลักฉันล้มไปกองอยู่กับพื้น ทั้งคู่ก็เริ่มต่อสู้กันอีกครั้งแต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ยัยทามจะดูเหนือกว่าหมอนั่นเป็นร้อยเท่า ร่างของหมอนั่นปลิวไปไกลและกระแทกกับเสาไฟฟ้าเข้าอย่างจัง ความไวของทั้งคู่ทำเอาฉันแทบมองไม่ทันว่าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้นแต่เท่าที่รู้ว่าหมอนั่นคงจะหมดแรงเสียแล้ว
                        “คุณ คุณครับเป็นอะไรรึเปล่าครับ”
เสียงของคนที่ดูแลที่นี้พูดขึ้นและกำลังวิ่งเข้ามาหาฉัน ทำให้พวกเขาทั้งคู่ต้องหยุดการกระทำลงทันที น่าเสียดายที่หมอนั่นหนีไปได้ส่วนยัยทามก็หายวับไปโดยทันที ทิ้งให้ฉันตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่คนเดียว…ตำรวจและบรรดานักข่าวแห่มากันเต็มไปหมด การให้สัมภาษณ์สื่อต่างๆก็ไม่พ้นที่ต้องเป็นฉันและฉันคนเดียวสะด้วยที่อยู่ในเหตุการณ์นี้ ช่วงเวลาอันน่าปวดหัวให้เริ่มต้นขึ้น แสงแฟลตจากกล้องหลายตัวทำเอาฉันตาลายไปเลยทีเดียว ยัยทามนะยัยทาม หายไปไหนเนี่ยย ฉันคิดก่อนจะแหวกว่ายฝูงชนพวกนั้นเพื่อมารับการทำแผลจากรถโรงพยาบาลที่ทางสวนสนุกรับผิดชอบเรื่องการเจ็บตัวของฉันทั้งหมดงานนี้มีหวังฉันดังใหญ่แน่ T^T   ตอนนี้ฉันนอนอยู่ที่บ้านในห้องส่วนตัวของฉันเอง ได้แต่คิดแล้วคิดอีกว่าเหตุการณ์เมื่อกี้มันช่างน่ากลัวสะเหลือเกิน แต่ทำไมยัยทามถึงไม่ฆ่าฉันนะ แปลกจัง ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นเธอพยายามดื่มเลือดฉันอย่างกระหาย                           “เป็นไงบ้าง…”
จู่ๆเสียงคนที่ฉันนึกถึงก็มาพอดีแต่คราวนี้ฉันไม่ตกใจแล้วแหละ การที่เธอเล่นเดี๋ยวไปเดี๋ยวมาอย่างรวดเร็วเหมือนผีแบบนี้ทำให้ฉันชินไปกับมันแล้ว ฉันนอนนิ่งอยู่อย่างนั้นทำเหมือนไม่สนใจเธอเลยสักนิด มิหน่ำซ้ำยังนอนหันหลังให้เธออีกตั้งหาก หึหึ เธอจะได้รู้ซะบ้างว่าเธอทำอะไรลงไป ! ทำให้ฉันกลัวมากแค่ไหน!                           “หลับอยู่หรอ…”
โอ๊ะ…เธอเป็นแวมไพร์ทที่โง่หรือฉันเป็นมนุษย์ที่ฉลาดที่สุดในโลกกันนะ นี่เธอไม่รู้หรอว่าฉันกำลังโกรธเธออยู่ ก็อย่างว่าเธออ่านความคิดของฉันไม่ได้ ไหนๆก็มาถามว่าฉันหลับแล้วหรือยัง ฉันเลยขอแกล้งหลับไปเลยจะดีกว่า…ความเงียบเริ่มมาปกคลุมทำให้ฉันอึดอัดกับการแกล้งหลับตัวแข็งทื่ออยู่แบบนั้น ตอนนี้เวลาผ่านไปสักพักไม่มีเสียงใดๆเล็ดลอดออกมาจากปากเธอเลย คงคิดว่าเธอไม่น่าจะอยู่ในห้องๆนี้แล้ว ฉันค่อยๆลืมตาอย่างช้าๆ ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าก็ไม่มีเธออยู่จริงๆด้วย นั่นก็ทำให้ฉันรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก                          “เธอ…แกล้งหลับหรอ”
เสียงนิ่งๆของเธอทำให้ฉันต้องสะดุ้งและหันไปมองยังต้นตอเสียงนั่น ก็พบกับเธอที่กำลังมองหน้าฉันอย่างไม่สบอารมณ์อยู่ข้างๆฉัน ที่สำคัญเธอกำลังอยู่บนเตียงฉันด้วยสิแววตาที่จ้องเขม็งของเธอทำเอาฉันขยับตัวไปไหนไม่ได้เลยทีเดียว
                          “เธอกลัวฉันทำไม…”
                             “ก็…ก็…เธอ จะฆ่าฉันนิ๊”
                             “ฆ่า…ฆ่างั้นหรอ นี่ยัยมนุษย์คุณหนูช่วยเข้าใจใหม่ด้วยนะ ว่าเมื่อกี้ฉันช่วยชีวิตเธอ”
                          “ใช่ ฉันรู้ แต่ว่า…ฉันไม่เข้าใจ ว่าทำไมจู่ๆเธอก็ดันมาเปลี่ยนใจที่จะช่วยฉันทั้งๆที่ก่อนหน้านั้น เธอ…พยายามจะดื่มเลือดฉันเห้ยย น่ากลัวอะ”
                          “……..”
                              “แถมเธอ…ก็เกลียดตระกูลฉันมากด้วย”
                              “เพราะว่าก่อนหน้าเกิดเรื่องเผาครอบครัวฉัน ตระกูลเธอก็ทำดีกับครอบครัวฉันไว้มากอยู่เหมือนกัน ถือว่านี่…คือการคืนบุญคุณไปละกัน”
                              “แล้ว…ผู้ชายคนนั้น ทำไม…เขาดูเหมือน…อยากดื่มเลือดฉันขนาดนั้นละ”
                              “เพราะว่าเธอคือ ยูเนคไงละ”
                              “คืออะไร…”
                              “คนที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน”
                              “นี่! เธอช่วยขยายความให้มันชัดขึ้นหน่อยได้ไหม”
                              “เธอ…มีเลือด ที่แวมไพร์ทต้องการมันมากที่สุด”
                              “ห๊ะ!!”
                           “หมอนั่นคงเพิ่งเป็นแวมไพร์ท เลยไม่รู้จักควบคุมอารมณ์”
                               “หมายความว่าไง…”
                               “คนที่เพิ่งเป็นแวมไพร์ทใหม่ๆ มักจะกระหายเลือดเป็นพิเศษ แล้วยิ่งกลิ่นเลือดอย่างเธอ ถ้าเป็นแวมไพร์ทที่อยู่มานานก็ใช่ว่าจะห้ามใจอยู่เหมือนกัน”
                                “เธอกำลังบอกว่า…ฉันมีเลือดที่สามารถทำให้แวมไพร์แข็งแกร่งได้งั้นหรอ”
                                “ไม่ใช่แค่แข็งแกร่ง…แต่ไม่มีใครสามารถฆ่าแวมไพร์ทตัวนั้นได้เลย ถ้าหากดื่มเลือดเธอจนหมดตัว”
                                “โอ๊ยยยย~ ทำไมฉันเกิดมาซวยแบบนี้นะ” หลังจากฟังที่ยัยทามพูด ฉันถึงกลับรับไม่ได้กับสิ่งที่ฉันเป็น เห้ออ~ ทำไมฟ้าถึงทำแบบนี้กับฉันนะ ทำไมฉันต้องเป็นคนที่พิเศษกว่าใครด้วยละ ฉันคิดก่อนจะฟุบหน้าและหลับลงไปในที่สุด ฉันไม่อยากจะรับรู้เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นกับฉันอีกต่อไปเลยว่ามันจะเป็นยังไง
         เข้าสู่การเปิดเทอมวันแรกของมหาลัยของฉันแล้ว นับเป็นวันที่บรรยากาศไม่ค่อยจะเป็นใจสักเท่าไหร่ เพราะวันนี้ฝนดันตกลงมาอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว แต่ที่หน้าหงุดหงิดไปกว่านั้นคือ ตอนนี้มันสายมากแล้วที่จะไปมหาลัย ฉันนั่งลุกลี้ลุกล้นคอยยัยทามมานานแล้วด้วย ตอนนี้ยัยทามก็ไม่มีวี่แววที่จะโผล่มาเลยสักที เสียงฝนที่ตกอย่างกระหน่ำทำให้ฉันยิ่งอารมณ์เสียเข้าไปใหญ่เลยว่า ฝนตกหนักขนาดนี้รถจะต้องติดแน่ๆ เห้ออ~ยัยทามนะยัยทาม ทำไมไม่มาสักทีนะ
                     กริ้งงงง กริ้งง
เสียงโทรศัพท์ได้ดังขึ้นขณะที่ฉันนั่งชะเง้อมองหายัยทามอยู่หลายต่อหลายครั้งแต่ก็ไม่มีวี่แววเลยสักนิด ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็พบว่านายเลย์กำลังโทรเข้ามา
                           “ควีน…อยู่ไหนแล้วอะ”
                               “โห้วว~ เลย์ ยังไม่ออกจากบ้านเลยเนี่ย รอยัยหน้าจืดคนนั้นอยู่อะดิไม่รู้ทำไมไม่มาสักที”
                               “อ๊าวว เธอตื่นสายหรอ ทำไมไม่รีบไปเร่งละ พูดยังกะอยู่คนละบ้าน”
                               “เอ่ออออ…อ๋อ อืมๆ เดี๋ยวจะรีบไปนะ”
ให้ตายสิ ฉันรีบจัดเลยพูดไม่ทันระวังปากออกไป แต่โชคดีที่นายเลย์ไม่สงสัยเท่าไหร่ การรอคอยยัยทามก็ยังคงดำเนินต่อไป…เสื้อนักศึกษาสีขาวบวกกระโปรงพีทจีบรอบตัวทำให้ฉันสวยมากอย่างบอกไม่ถูก โชคดีที่ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ฉันเป็นคนผิวขาว เลยทำให้ฉันมีผิวพรรณที่ใครๆต่างก็อิจฉาไปตามๆกัน ฉันกำมือแน่นและทุบไปที่โซฟาอย่างโกรธแค้น ที่ตอนนี้ยัยทามยังไม่มาสักที และฉันก็โมโหตัวเองด้วยว่าทำไมต้องมานั่งรอเธอแบบนี้ด้วย ทั้งๆที่เธอก็ไปเองได้รวดเร็วกว่าฉันเป็นร้อยเท่า เห้อออ~ นี่ฉันโง่ใช่ม่ายยยยว่าแล้วฉันก็มุ่งหน้าขับรถออกไปยังมหาลัยอย่างหัวเสีย

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา