The Revenge ความแค้นที่หอมหวาน

9.2

เขียนโดย MeTang

วันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 04.06 น.

  36 ตอน
  10 วิจารณ์
  37.08K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 15.09 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

33) ตอนที่ 33 [Love Scene]

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

               บาดแผลของปอนด์ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงมากนัก นอกจากรอบแดงและความเมื่อยล้าจากการถูกมัดในท่ายืนอยู่นาน โดยภาพรวมแล้วเขาก็ดูเป็นปกติดีอยู่ ส่วนริวนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย เขามีเพียงแค่รอยแดงเล็กๆจากกระสุนที่พุ่งฝังเข้าไปยังเสื้อเกราะเท่านั้น บาดแผลนอกกายของทั้งคู่อาจจะยังไม่หายดีแต่แผลในใจนั้นกลับสมานตัวขึ้นจนเกือบเป็นปกติ

                เป็นเช่นเดิมที่เจสันต้องอยู่เพื่อเคลียร์เรื่องราวต่างๆกับตำรวจแทบริวกิ คืนนี้อาจจะมีเรื่องยุ่งให้เจสันทำมากมาย ไม่ต่างกับปอนด์และริวกิ ที่คงต้องมีอีกหลากหลายเรื่องราวที่ต้องทำให้เสร็จในคืนนี้

                หลังจากที่ริวกิอาบน้ำเสร็จเขาปล่อยให้ปอนด์นอนผ่อนคลายอยู่ในอ่างน้ำวนกลิ่นกุหลาบ ส่วนตัวเขาก็มานั่งคิดถึงเรื่องราวที่เพิ่งพบเจอ ริวกิเพ่งพิจารณาไปยังไมค์ดักฟังขนาดเล็กที่เพิ่งแกะออกจากใต้โต๊ะ เขาไม่เข้าใจถึงความกังวลที่ตัวเองกำลังเผชิญหน้าอยู่ ทั้งๆที่เมื่อก่อนริวกิไม่เคยหวาดหวั่นไม่ว่าจะอันตรายแค่ไหน แต่พักนี้เมื่อมีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นกับชีวิตของเขาและปอนด์อยู่บ่อยครั้ง มันทำให้ริวกิเริ่มที่จะกลัวการสูญเสียขึ้นมา

                ภาพของซินดี้ที่คอยตะโกนด่าทอตอนที่เธอถูกตำรวจจับตัวไปยังวนเวียนอยู่ในหัวของริวกิ มันทำให้เขากังวลกับเรื่องนี้นิดหน่อย เพราะนอกจากเขาจะสูญเสียสายข่าวมือดีที่สุดเท่าที่จะเคยมีไปแล้ว เขายังตระหนักถึงปัญหาเดิมที่คอยกัดกินชีวิตเขาอยู่ทุกวัน ริวกิไม่รู้ว่าคนอื่นที่หมายจะทำลายชีวิตของเขามีใครอีกบ้าง

                “คิดอะไรอยู่เหรอครับ” ปอนด์เดินออกมาในสภาพชุดคลุมอาบน้ำสีขาวเช่นเดียวกับริวกิ เขามองใบหน้าที่ไม่แสดงอาการใดๆของริวกิ แต่สัญชาตญาณบางอย่างกลับบอกกับตัวเองว่า ริวกิกำลังมีเรื่องในใจอย่างแน่นอน

                “เปล่า” ริวกิปฏิเสธความจริงเพราเขาไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี

                “คุณคิดเรื่องของคุณซินดี้อยู่ใช่มั้ยล่ะครับ” ปอนด์เดินผ่านริวกิไปยังข้างหลังเก้าอี้ที่เขานั่งอยู่ ปอนด์คาดเดาจากเรื่องล่าสุดที่เพิ่งผ่านพ้นไป “ผมอยากให้ริวกิเปิดใจคุยกับผมบ้าง ผมยินดีรับฟังทุกเรื่องเท่าที่ริวกิอยากจะบอก”

                ปอนด์แหวกผ้าม่านให้เปิดกว้างออก เขามองทะลุกระจกใสจากตึกชั้นที่ยี่สิบสี่ไปยังท้องฟ้าที่มองไม่เห็นดวงดาว ปอนด์เพิ่งเคยเห็นวิวจากหลังโต๊ะทำงานของริวกิเป็นครั้งแรก แม้มันจะดูสวยงามระยิบระยับจากแสงไฟตามท้องถนน แต่เมื่อจ้องมองไปนานๆกลับทำให้รู้สึกเหงาและอ้างว้างอยู่ไม่ใช่เล่น

                “ผมเข้าใจว่าริวกิไม่เปิดใจให้ใครง่ายๆ แต่ผมเริ่มเข้าใจแล้วครับที่ริวกิเป็นแบบนี้” ปอนด์เหม่อลอยไปยังวิวข้างนอก “ผมจะรอสักวันหนึ่ง วันที่ริวกิจะไว้ใจผมด้วยหัวใจทั้งดวงนะครับ”

                “ช่างพูดช่างงอนนะ”

                เสียงกระซิบที่ข้างใบหูทำให้ปอนด์สะดุ้งเล็กน้อย คางของริวกิที่เรียวยาววางไว้บนบ่านุ่มนิ่มของปอนด์ นั่นทำให้ปอนด์เริ่มใจสั่น ดอกกุหลาบจากครีมอาบน้ำบนตัวของริวกิเริ่มส่งกลิ่นละมุนกระตุ้นอารมณ์ของปอนด์ให้เกิดประกายขึ้น

                “จะตีสามแล้วนะ ถ้าไม่รีบนอนพรุ่งนี้จะตื่นไปเรียนไม่ไหว” ริวกิสวมกอดปอนด์จากทางข้างหลังจนตัวแนบชิดกันอย่างแน่นหนึบ

                “ถ้าจะตื่นไม่ไหวคงไม่ใช่เพราะนอนดึกหรอกครับ” ปอนด์เอียงหน้าไปหาริวกิจนสมูกสัมผัสกัน

                “ถ้าอย่างนั้นเพราะอะไรล่ะ” ริวกิยื่นปากเข้าไปกระซิบใกล้ใบหน้าปอนด์มากขึ้น

                “ก็เพราะคุณ” ปอนด์ยื่นรสจูบให้ริวกิอย่างโหยหา เขาใช้มือข้างซ้ายกุมมือของริวกิที่วางไว้บนท้องของเขาไว้ ส่วนมืออีกข้างปอนด์ประคองศีรษะของริวกิให้โน้มลงมารับริมฝีปากที่เผ็ดร้อนของเขา

                ปลายลิ้นที่แข็งแรงของริวกิพยายามควานหารสหอมหวานในปากของปอนด์อย่างซุกซน มันซอกซอนสำรวจทุกพื้นที่ในช่องปากที่หอมกรุ่นด้วยความถวิลหา ปอนด์รู้สึกอ่อนระทวยราวกับน้ำแข็งที่กำลังจะละลาย เขาใช้มือข้างซ้ายดันหน้าต่างกระจกบานใหญ่ไว้ เพื่อประคองร่างที่กำลังจะทรงตัวไม่อยู่

                “อึก” ปอนด์ส่งเสียงในลำคออย่างมีอารมณ์

                ริวกิปลดโบว์ที่คาดชุดคลุมอาบน้ำของปอนด์ออก เปิดให้ร่างที่ขาวเนียนของวัยหนุ่มแน่นสะท้อนกับแสงไฟสีส้มจากนอกตึก เขาเริ่มใช้ฝ่ามือของเขาปลุกเร้าอารมณ์บีบเค้นไปตามกล้ามหน้าอกที่เต็มไม้เต็มมือของปอนด์ อารมณ์ของทั้งคู่เริ่มพุ่งสูงขึ้นไปพร้อมกันอย่างรวดเร็ว

                “อึก… อืม….” ปอนด์ถอนลิ้นออกจากปากของริวกิ ริมฝีปากของเขาแดงเข้มจากการบดขยี้ “ไม่ได้นะครับริวกิ ตรงนี้เดี๋ยวก็มีคนเห็น”

                “นี่มันชั้นที่ยี่สิบสี่นะ” ริวกิใช้จมูกซุกไซร้ไปตามหัวไหล่และซอกคอของปอนด์อย่างไม่ลดละ

                ปอนด์พลิกตัวเข้าหาริวกิอย่างเหนียมอาย แม้จะมีกระจกใสขนาดใหญ่กั้นเอาไว้บนตึกที่สูงขนาดนี้ แต่เขาก็ยังรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะโชว์พลอดรักต่อหน้าประชาชนในที่สาธารณะ

                “ไม่ได้หรอกครับ ผมไม่อยากให้ริวกิต้องเจอเรื่องยุ่งยากอีก” ปอนด์คล้องแขนไว้ที่รอบคอของริวกิ

                “ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว เก็บเสียงของนายไว้ทำอย่างอื่นดีกว่า” ริวกิประกบปากกับปอนด์อย่างรวดเร็ว เขาสอดมือของปอนด์ไว้ในอุ้งมือของเขา และดันร่างเข้าแนบชิดจนแขนของปอนด์ตรึงไว้กับกระจกใส

                “อ... อื้อ...” ปอนด์กุมมือริวกิไว้           

                ความรู้สึกตื่นเต้นเร้าอารมณ์จนคนทั้งคู่ตื่นตัวไปกับความกระหาย ปอนด์หลับตาพริ้มพยายามดูดรับทุกสิ่งจากปลายลิ้นที่ริวกิยื่นให้ ความหวานแผ่ซ่านไปทั่วทั้งปากของปอนด์ มันเป็นความรู้สึกที่ทำให้เขารู้สึกดีจนไม่อยากจะหยุด เวลาแบบนี้แหละที่ปอนด์ถวิลหา

                ภาพในหัวของปอนด์ค่อยๆย้อนระลึกถึงเหตุที่เกิดในวันนี้ เหตุการณ์ที่เขาเพิ่งประสบพบเจอมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว ปอนด์ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขาและริวกิจะเรียกมันว่าอะไรดี ปอนด์รู้สึกแค่ว่าเขาไม่อยากสูญเสียริวกิ หากวันหนึ่งชีวิตของเขาไม่มีผู้ชายที่ชื่อริวกิ โลกทั้งใบของปอนด์คงมืดมิดต่างจากท้องถนนที่ไม่มีแสงไฟ

                น้ำตาค่อยๆไหลออกมาจากดวงตาผ่านทั้งสองแก้มนวลๆของปอนด์ ปอนด์ไม่รู้ว่าทำไมอยู่ดีๆเขาถึงคิดถึงเรื่องไม่ดีแบบนี้ขึ้นมาได้ อาจจะเพราะตอนนี้เขารู้สึกมีความสุขมากเกินไป จนกลัวว่าวันหนึ่งเขาจะต้องสูญเสียสิ่งเหล่านี้

                “ร้องทำไม?” ริวกิถอนริมฝีปากออกมาเมื่อสัมผัสถึงน้ำตาอุ่นๆของปอนด์ด้วยแก้มของเขา “อึดอัดใจหรือเปล่า ฉ... ฉันขอโทษ”

                “เปล่าครับ” ปอนด์ซบหน้าลงตรงกลางอกของริวกิ

                “แล้วนายเป็นอะไร เจ็บตรงไหนมั้ย เราพอแค่นี้ก่อนก็ได้นะ”

                “ม... ไม่ครับ ผมอยากจะทำมันจริงๆ” ปอนด์ยื่นปากเข้าประกบเข้ากับริมฝีปากของริวกิอีกครั้ง

                “อื้อ... ไม่เอา ขืนนายร้องไห้โดยไม่รู้ว่าเพราะอะไรแบบนี้ ฉันเองก็ไม่มีอารมณ์จะทำอะไรต่อหรอกนะ” ริวกิดึงตัวปอนด์ออกไป

                “ผมแค่กลัวว่าวันหนึ่งคุณจะไม่ได้อยู่กับผมแบบนี้อีก ผมไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้เลย”

                “ปอนด์” ริวกิใช้สองมือปาดน้ำตาจากแก้มของปอนด์ “ฉันไม่รู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น ฉันไม่อยากรับปากกับเรื่องที่แม้แต่ตัวฉันเองก็ไม่มั่นใจ แต่ขอให้นายรู้ไว้ ว่าฉันจะทำทุกวินาทีของเราให้มีคุณค่าที่สุด ฉันจะทำให้นายมีความสุขเพื่อชดเชยสิ่งเลวร้ายที่ฉันเคยทำกับนาย ไม่ต้องห่วงนะ... ฉันยอมทำร้ายตัวเองดีกว่าจะทนเห็นนายต้องเจ็บปวด ฉัน... เชื่อใจนาย”

                นิ้วมือที่อบอุ่นและความเชื่อใจที่ริวกิมอบให้ ถือเป็นของขวัญสุดพิเศษที่คุ้มค่าสำหรับปอนด์ อาจจะจริงของซินดี้ที่บอกไว้ว่า ความรักทำให้คนเราโง่มากขึ้นและฉลาดน้อยลง แต่ปอนด์ก็ยอมเป็นคนโง่ที่มีความสุขที่สุดบนโลกใบนี้ ฟ้าเองก็เคยบอกกับเขาเช่นเดียวกันว่า ความรักมักไม่มีเหตุผล มันเกิดขึ้นและจากไปโดยไม่ทันตั้งตัว เราจึงควรตักตวงความสุขจากความรักไว้ให้ได้มากที่สุด เผื่อว่าวันหนึ่งเมื่อความรักจากไป... เราจะได้ไม่ต้องร่ำไห้เรียกร้องให้มันกลับมา ปอนด์ไม่สนใจแล้วว่าใครจะคิดอย่างไร แม้กระทั่งเรื่องที่เขาและริวกิต่างก็เป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ ปอนด์สนแค่ว่า... ริวกิจะคิดอย่างไรกับเขา

                “ครับริวกิ ผมคงคิดมากไปเอง” ปอนด์ยิ้มอย่างร่าเริง “สำหรับผมแค่นี้ก็เพียงพอแล้วครับ”

                “แต่สำหรับฉันแค่นี้ยังไม่พอ” ริวกิฉีกปากกว้างอย่างทะเล้น ก่อนจะเริ่มบรรจงฝากรอยจูบเข้าไปที่ริมฝีปากของปอนด์อีกครั้ง เขาล้วงมือเข้าไปใต้เสื้อคลุมของปอนด์และโอบรัดเด็กหนุ่มในอ้อมแขนไว้แน่น

                ริวกิวาดลวดลายที่เผ็ดร้อนอย่างเต็มที่ เขาค่อยๆดึงร่างกายของปอนด์ให้ขยับไปพร้อมกับเขา การจูบกันในขณะที่เคลื่อนไหวอยู่ทำให้ปอนด์รู้สึกตื่นเต้นกับความแปลกใหม่นี้มาก

                “กลัวคนเห็นไม่ใช่เหรอ” ริวกิถอดชุดคลุมอาบน้ำของปอนด์ออก

                “ค... ครับ” ปอนด์ที่ร่างกายเปลือยเปล่าตอบกลับด้วยสีหน้าที่แดงระเรื่อ แม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ริวกิเห็นเขาทุกซอกทุกมุม แต่ปอนด์ก็ยังคงเขินอายอยู่ดี

                “ถ้าอย่างนั้นก็มาตรงนี้” ริวกิจูงมือปอนด์ไปที่โต๊ะทำงาน เขาวางตัวของปอนด์ให้นั่งตรงกลางโต๊ะที่ล้อมรอบไปด้วยแฟ้มเอกสารมากมาย ก่อนที่ตัวเขาเองจะล้มลงนั่งบนเก้าอี้สีดำ

                ปอนด์รู้สึกประหม่าอย่างบอกไม่ถูกที่ตัวเองต้องนั่งอยู่บนโต๊ะในสภาพที่ไม่ได้ใส่อะไร โดยมีริวกินั่งจ้องมองอยู่เบื้องหน้า เขารีบใช้มือทั้งสองปิดไปที่จุดซ่อนเร้นด้วยความขวยเขิน ตรงกับข้ามกับริวกิที่เงยหน้ามองปอนด์ราวกับกำลังพินิจดูงานศิลปะชั้นสูงอยู่อย่างไม่สะทกสะท้าน

                “อย่าเอาแต่จ้องอย่างนั้นสิครับ ผมก็อายเป็นนะครับ” ปอนด์ก้มหน้าหลบสายตาของริวกิ

                “ทำไมล่ะ?”

                “ก็ริวกิไม่พูดอะไรได้แต่มองแล้วก็ยิ้ม ผมก็ไม่รู้สิว่าริวกิคิดอะไรอยู่ แบบนี้ผมก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกันนะ”

                “ฉันก็แค่คิดว่าไม่รู้ว่าเพราะอะไรฉันถึงได้รู้สึกอะไรแบบนี้กับนาย มันเป็นอารมณ์ที่ฉันเองก็บอกไม่ถูก ครั้งแรกที่ฉันทำอะไรแบบนี้กับนาย ฉันทำไปเพราะความสะใจ ฉันแค่อยากทำให้นายอับอายเพื่อเป็นการสั่งสอน แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่” ริวกิขยับเก้าอี้เข้าไปให้ใกล้ปอนด์มากขึ้น เขาอ้าขาของปอนด์ให้กว้างขึ้นเพื่อแทรกตัวเข้าไปยังช่องว่างระหว่างนั้น ริวกิจับมือของปอนด์ที่ปกปิดความรู้สึกไว้ออกไปข้างๆ “ครั้งนี้ฉันอยากจะทำอะไรแบบนี้เพราะฉันต้องการมันจริงๆ”

                ริวกิครอบปากเข้ากับส่วนปลายของจุดบอบบางของปอนด์ เขาใช้ปลายลิ้นเกลี่ยรับความหวานของส่วนนี้จนเปียกชุ่มไปทั่ว ปอนด์ที่เก็บอาการมานานก็ไม่อาจทนทานต่อการรุกคืบของริวกิที่รุนแรงได้

                “อา... ริวกิ” ปอนด์ก้มตัวลงไปจับที่หัวไหล่ของริวกิทั้งสองข้าง ในขณะที่ริวกิประสานมือทั้งคู่ของตัวเองไว้ที่บั้นท้ายงอนงามของปอนด์ และค่อยๆดันร่างที่น่าทะนุถนอมนี้ให้เข้ามาใกล้

                ยิ่งริวกิดูดกลืนเข้าไปลึกเท่าไหร่ปอนด์ก็ยิ่งฝากรอยบีบแน่นขึ้นที่ริวกิมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งปอนด์ก็มั่นใจว่ารอยบีบคั้นเช่นนี้จะต้องมีขึ้นที่แก้มก้นทั้งสองข้างของเขาเช่นกัน

                หัวใจของปอนด์เต้นเร็วตามจังหวะขยับปากของริวกิ และดูเหมือนริวกิเองก็รู้สึกสนุกกับสิ่งที่ทำอยู่จนไม่ทันได้สังเกตสีหน้าของปอนด์ทีแสดงอาการเสียซ่านออกมา

                “ริวกิครับ... โอย... พอก่อนครับ ผมไม่ไหวแล้วจริงๆ” ปอนด์ร้องขอริวกิเมื่อรู้สึกว่าร่างกายผลิตน้ำขาวใสเข้าไปในปากของริวกิหลายรอบ ถ้าหากริวกิยังไม่หยุดใช้ปากเล่นซุกซนกับเจ้านั่นของเขา รอบหน้าคงจะเป็นของจริงที่ต้องหลั่งออกมา และมันอาจทำให้ร่างกายของปอนด์ไปต่อไม่ไหว

                ศีรษะที่สั่นไหวของริวกิค่อยๆหยุดลงอย่างช้า เขาคายสิ่งที่อมเก็บไว้ออกมาทั้งหมด ปล่อยให้น้ำลายยืดเหนียวไหลเป็นสายหยดลงไป แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมแพ้ต่อความไวในอารมณ์ของปอนด์ ริวกิแค่ชะลอความกระหายของเด็กหนุ่มให้ทรงตัวพอที่จะให้ทั้งคู่ถึงจุดหมายพร้อมกันได้

                “แฮ่ก... แฮ่ก...” ปอน์หอบเบาๆเมื่อเริ่มรู้สึกเหนื่อยจากการครางอยู่หลายนาที

                ริวกิเริ่มใช้ปลายลิ้นของเขากระตุ้นอารมณ์ใคร่อยากของปอนด์อีกครั้ง เขากวาดลิ้นไปรอบๆสะดือและตามลอนท้องของร่างที่เนียนแน่น ก่อนจะค่อยๆโน้มตัวปอนด์ให้นอนลงไปบนโต๊ะที่ปกติเขาจะใช้ตรวจงานเอกสาร

                ปอนด์ขบเม้มริมฝีปากไว้อย่างเก็บอารมณ์ เสียงครางจากในลำคอดังขึ้นสลับกับเสียงหายใจแรงๆ ใบหน้าที่ร้อนผ่าวลุกลามไปทั่วทั้งลำตัว เขาใช้มือทั้งคู่เกาะแน่นที่ขอบโต๊ะทำงานทั้งสองฝั่ง เพื่อหายึดเหนี่ยวให้อารมณ์มั่นคงมากขึ้น

                ลิ้นที่ซุกซนกำลังไล่ต้อนอารมณ์ของปอนด์ให้ขึ้นสูงอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง มันลากน้ำลายเหนียวๆไปเกือบทั้งร่างของปอนด์ จนมาวนเน้นย้ำอยู่ตรงส่วนยอดที่ชมพูใสบนหน้าอก ก่อนที่ริวกิจะประทับรอยจูบลงไปให้จุดเล็กๆที่ตั้งแข็งนี้ สัมผัสกับลมหายใจอุ่นๆในช่องปากเขา

                แรงดูดเล็กๆที่ปอนด์ได้รับส่งผลไปถึงส่วนที่ไวต่อความต้องการของปอนด์ เขาจำเป็นต้องปลดปล่อยน้ำสีขาวใสออกมาอีกครั้งเพื่อระบายความรุ่มร้อนนี้ให้บรรเทา ปอนด์ไม่สามารถเอื้อนเอ่ยความรู้สึกออกมาเป็นคำพูดได้ เขาได้แต่เพียงปล่อยลมหายใจอุ่นๆออกมาถี่ๆเท่านั้น

                ริวกิคลานขึ้นมาบนโต๊ะและอ้าขาคร่อมร่างของปอนด์ไว้ เขามองใบหน้าที่แสนจะยั่วยวนตรงหน้าด้วยความรู้สึกตื่นเต้นไม่แพ้กัน หากในโลกนี้เขาต้องศูนย์เสียอะไรก็ตามแต่ ริวกิยอมได้ทุกอย่าง... ยกเว้นปอนด์

                “มีอะไรมั้ยครับ” ปอนด์ใช้ข้อศอกดันตัวให้ลุกขึ้น โดยมีชายร่างใหญ่คุกเข่าคร่อมร่างไว้

                ไม่มีเสียงตอบใดๆนอกจากรอยยิ้มของริวกิ เขาค่อยๆปลดผ้าคลุมอาบน้ำสีขาวของตัวเองออก เพื่อให้ปอนด์รับรู้ถึงความหิวกระหายในตัวเขา เจ้าสิ่งนั้นเปียกชุ่มไปด้วยของเหลวที่ไหลเยิ้มจากส่วนปลาย ปอนด์รู้ได้ทันทีว่าอาการเหล่านี้ที่เกิดขึ้น เขาควรจะรับมืออย่างไรดี

                “ผมขอกินมันได้มั้ยครับ” ปอนด์ร้องเรียกหาความเร่าร้อนจากริวกิ เขาค่อยๆเปิดปากออกเล็กน้อยเพื่อรอรับสิ่งที่กำลังจะถูกหยิบยื่นให้

                “เต็มที่เลย” ริวกิค่อยๆส่งมอบตัวปัญหาขนาดใหญ่เข้าไปภายในปากของปอนด์อย่างช้าๆจนมิดสุดขอบโคน

                “อึก...” ปอนด์พยายามกลืนกินสิ่งที่ริวกิยัดเข้ามาให้อย่างยากลำบาก

                “นายกินได้ตามเท่าที่ต้องการเลย เพราะมันเป็นของนายคนเดียว” ริวกิโยกเอวเป็นจังหวะ ให้ปากของปอนด์รูดผ่านแท่งเนื้อของเขาอย่างช้าๆ ความอบอุ่นเริ่มแผ่ซ่านไปจนถึงหัวใจของริวกิ มันทำให้เขาตื่นตัวมากขึ้นเรื่อยๆ

                ความร้อนของปอนด์และริวกิที่มอบให้กัน ทำให้ความหวานในการร่วมรักละลายกระจายไปทั่วทั้งตัวของพวกเขา ความขมขื่นถูกหลอมระเหยหายไปจนหมดสิ้น ในหัวของคนทั้งคู่ต่างโลดแล่นอยู่ในความสุขที่ไม่มีวันสิ้นสุด ริวกิเริ่มตระหนักและหวงแหนแล้วว่า การจะมอบเรือนร่างให้ใครสักคน มันไม่ใช่แค่เรื่องของการอยากได้ แต่เป็นเป็นเรื่องของหัวใจ ที่ควรจะมีความปรารถนาไปในทิศทางเดียวกัน

                กลิ่นหอมของความสุขแผ่ซ่านไปทั่วช่องว่างในปากของปอนด์ เขาขมิบริมฝีปากลงไปแนบแน่นกับเนื้อหนังของริวกิที่ลื่นเหนียว เกิดเสียงเป็นจังหวะตามการสั่นหัวและการโยกย้ายของริวกิ

                เสียงครางทุ้มต่ำดังออกมาจากลำคอของริวกิอย่างหยุดไม่อยู่ เขาเงยหน้าสูดอากาศเข้าไปให้เต็มปอดเพื่อพยายามข่มอารมณ์ที่เริ่มทวีคูณของตัวเอง

                “พอก่อนนะคนดี” ริวกิกลั้นใจพูดออกมา เมื่อรู้สึกถึงร่างกายภายในที่เริ่มจะไม่อาจทนทานต่อความอบอุ่นของริมฝีปากปอนด์ได้ เขาดันตัวปอนด์ให้นอนลงบนโต๊ะทำงานที่ระเกะระกะ “ได้เวลาแล้วล่ะ”

                “ค... ครับ” น้ำลายขาวใสไหลยืดเป็นทางจนเปรอะไปทั่วแผ่นอกขาวเนียนของปอนด์

                ริวกิคลานลงจากโต๊ะทำงานอย่างช้าๆ ก่อนจะฉีกขาของปอนด์ทั้งสองข้างให้กางออก ปอนด์เริ่มเนื้อตัวสั่นไหวมากขึ้นเรื่อยๆ

                “บนนี้เลยเหรอครับ” ปอนด์ยกตัวขึ้นเล็กน้อยมองไปยังริวกิผ่านช่องว่างระหว่างขาของตัวเอง

                “นายไม่ชอบเหรอ”

                “เปล่าครับ ผ... ผมแค่เกรงใจ นี่มันโต๊ะทำงานของริวกินะครับ”

                “ถ้าเกรงใจฉันก็ไม่ต้องกังวลอะไรอีกแล้ว เตรียมสะโพกไว้รอรับของขวัญจากฉันดีกว่า”

                “อ่า...” ปอนด์ครางออกมาเบาๆ เมื่อรู้สึกถึงอะไรบางอย่างพยายามเล็ดลอดผ่านช่องกล้ามเนื้อทางด้านหลังของเขา “ฮึบ... อา...”

                “เจ็บเหรอ”

                “น... นิดหน่อยครับ” ปอนด์กลั้นใจตอบ

                “สงสัยทางเข้าของนายยังไม่พร้อมเปิดต้อนรับฉันเท่าไหร่” ริวกิจับแท่งเนื้อของตัวเองไว้แน่น เขาใช้ส่วนปลายของมันวนไปรอบๆกล้ามเนื้อที่ยังไม่คลายตัวออกของปอนด์ “ไม่ต้องเกร็งนะ เชื่อใจฉัน”

                ริวกิพาดขาข้างขวาของปอนด์ไว้บนไหล่ ก่อนจะฝากรอยรักจางๆไว้ที่ต้นขาขาวผ่องของปอนด์จนเป็นสีแดงจ้ำๆ มืออีกข้างก็จับเนื้อท่อนแข็งของปอนด์เพื่อเร้าอารมณ์ ปอนด์สั่นสะท้านอย่างแผ่วเบา เขากำขอบโต๊ะไว้แน่นเพื่อระบายอารมณ์ที่ยากจะเก็บซ่อน

                แท่งขนาดใหญ่ของริวกิปลดปล่อยน้ำสำหรับหล่อลื่นไปรอบกล้ามเนื้อที่ถูกถูวนรอบจนชุ่มฉ่ำ เช่นเดียวกันกับแท่งขาวอวบของปอนด์ที่ส่วนปลายสร้างน้ำชนิดเดียวกันนี้ออกมาจำนวนมาก

                “นายพร้อมเร็วกว่าที่คิดนะ” ริวกิเริ่มพยามเด้งตัวเบาๆเพื่อทดสอบกล้ามเนื้อของปอนด์ว่าพร้อมจะรับศึกแล้วหรือยัง เขาปาดเอาน้ำหล่อลื่นที่ยืดเหนียวของปอนด์มาชโลมอาวุธประจำกายของตัวเองให้ง่ายพอจะมุดเข้าไปสำรวจภายในพื้นที่ที่อบอุ่น

                “ครับผมพร้อมมากแล้วด้วย ช่วยเอาไอ้นั่นของริวกิเข้ามาในตัวผมนะครับ ผ... ผมรอไม่ไหวแล้ว”

                เสียงครางและเสียงหายใจที่เร่าร้อนของปอนด์ กระตุ้นอารมณ์ความใคร่ได้อย่างที่สุด ริวกิตอบสนองการ้องขอด้วยการจ่อส่วนปลายเข้าไปยังตัวของปอนด์อย่างช้าๆ จนมันหายวับเข้าไปโดยไม่รู้ตัว

                “อา...” ปอนด์ร้องลั่นออกมา “ม... หมดหรือยังครับ”

                “ยังครับ” ริวกิจับขาทั้งสองข้างของปอนด์ไว้แน่น “แค่หัวเอง”

                “โอย... กระแทกมาเลยครับริวกิ ผมอยากให้มันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในตัวผม”

                “นายมีความต้องการมากขนาดนั้นเลยเหรอ”

                “อ... อื้อ... ครับ”

                คำขอของปอนด์ได้รับการจัดการในทันที ริวกิดันร่างแทงทะลุเข้าไปอย่างรวดเร็ว จนต้นขาแน่นๆของเขากระทบไปกับบั้นท้ายเด้งๆของปอนด์จนเกิดเสียง ปอนด์เกร็งตัวยกเอวลอยขึ้นด้วยอารมณ์ที่เกินจะทานทน ความตื่นเต้นสะท้านสั่นไปทั่วทั้งร่างกายเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างอุ่นๆในร่างกาย

                บั้นท้ายของริวกิโยกไหวไปตามจังหวะหายใจ ยิ่งหายใจหอบถี่มากเท่าไหร่ การเสียดสีของเนื้อหนังก็เร็วขึ้นเท่านั้น โต๊ะทำงานสั่นไปตามจังหวะหนักเบาของทั้งคู่ แฟ้มเอกสารหล่นกระจัดกระจายลงเต็มพื้น แต่นั่นก็ไม่อาจทำให้จังหวะรักสะดุดลงได้

                “อา... อา... อา...” ปอนด์ทั้งครางและหอบสลับกันไปเมื่อรับแรงกระแทกกระทั้นของริวกิ

                “อือ... ซ... อึก...” ริวกิเองก็ปลดปล่อยอารมณ์มาตามลำคอเมื่อสัมผัสถึงการบีบรัดที่แน่นหนาทุกครั้งยามที่เด้งสะโพกเข้าออก

                ทั้งคู่ต่างบรรเลงเพลงแห่งความปรารถนาด้วยเครื่องดนตรีสุดแสนจะวิเศษ ทั้งเสียงบั้นท้ายที่กระทบกับต้นขา เสียงโต๊ะที่สั่นไหวไปตามแรงโยก เสียงครางและหอบที่ปอนด์และริวกิต่างช่วยกันผสมจนเกิดเป็นตัวโน๊ตที่ทั้งคู่ร่วมบรรเลงกันมานานหลายนาที สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่งแต้มให้ชีวิตของพวกเขาไม่เงียบเหงา

                เม็ดเหงื่อพร่างพราวเต็มร่างที่เปลือยเปล่าของทั้งสอง ริวกิเร่งจังหวะการสอดใส่ให้ถี่เร็วมากขึ้นเมื่อใกล้เวลาที่ต้องปลดปล่อย ปอนด์เองก็สุดจะทานทนเมื่อรู้สึกถึงแรงดันน้ำจำนวนมหาศาลจากภายในร่างกายที่พยายามจะเล็ดลอดผ่านแท่งหลอดของเขา

                “ร... ริวกิ ผ... ผม... ผมจะ ม... ไม่ ไหว แล้ว” ปอนด์พยายามบีบแท่งเนื้อของเขาไว้ไม่ให้ของเหลวเหล่านั้นเคลื่อนที่ออกมาได้ เขารอสัญญาณจากริวกิเพื่อจะขึ้นสู่จุดสุดยอดไปด้วยกัน

                “เรามา... เสร็จ พ... พร้อมกัน”

                ในที่สุดแรงดันจากภายในก็ขับเคลื่อนของเหลวสีขาวขุ่นออกมาจากปลายทางคามือของปอนด์ เขาร้อนรุ่มไปทั่วทั้งตัวและร้องเสียงหลงเมื่อในที่สุดต้องยอมพ่ายแพ้ต่อความเสียวกระสัน ปอนด์เกร็งตัวจนทำให้กล้ามเนื้อทุกสัดส่วนบีบรัดริวกิให้แน่นขึ้น จนเขาต้องปลดปล่อยน้ำรักที่อัดอั้นไหวให้พุ่งปรี๊ดทะลักไหลเข้าสู่ตัวของปอนด์อย่างห้ามไม่อยู่ ริวกิโยกตัวเบาๆทิ้งท้ายอีกเล็กน้อยทำให้น้ำขาวข้นซึมย้อยออกมาหยดลงยังพื้น

                ปอนด์รู้สึกถึงน้ำอุ่นๆที่ยังไหลเข้ามาในตัวไม่หยุด มันชื้นแฉะไปทั่วช่องหลังของเขาจนสัมผัสได้ หัวใจปอนด์ยังคงเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ เขาได้นอนหอบอยู่บนโต๊ะอย่างเหนื่อยอ่อน

                “ข... ขอโทษนะ ท... ที่เสร็จในตัวนาย ซ... ซ... อา... อีกแล้ว อา...” ริวกิยังคงกระแทกบั้นท้ายของปอนด์อย่างต่อเนื่อง

                “ไม่เป็นไรครับ” ปอนด์ยกมือที่เลอะเทอะไปทั่วขึ้น “น้ำยังไม่หมดอีกเหรอครับ”

                “เกือบแล้ว” ริวกิหอบเบาๆ

                ใบหน้าของริวกิยังคงแดงระเรื่อ เขาปล่อยเสียงร้องยาวออกมาก่อนจะทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ ปล่อยให้น้ำรักที่เขาฝากไว้กับปอนด์ไหลล้นออกมาสู่ภายนอก

                ปอนด์เอนตัวขึ้นเหนื่อยล้า ร่างกายที่ร้อนผ่าวๆค่อยๆปรับตัวให้เป็นปกติ แต่ยังคงเหลือของเหลวบางส่วนที่ยังคงคั่งค้างอยู่ภายในตัว

                “เลอะไปทั้งตัวแบบนี้สงสัยต้องอาบน้ำอีกรอบแล้วสินะ”

                “เดี๋ยวฉันไปอาบด้วย”

                “ผมขอโทษนะครับที่ทำเละเทะไปหมด” ปอนด์กวาดสายตาไปรอบๆโต๊ะทำงานที่มีข้าวของตกกระจัดกระจายเต็มพื้น

                “ฉันคงออกแรงเยอะไปหน่อย ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันค่อยให้เจสันจัดการ” ริวกิมองไปยังสายตาที่ใสซื่อของปอนด์ “พรุ่งนี้เราไปดูหนังกันมั้ย”

                “ค... ครับ” ปอนด์รู้สึกตกใจเมื่อได้ยินคำชักชวนจากริวกิ “แต่ว่าผมขออะไรหน่อยได้มั้ยครับ”

                “อะไรล่ะ? อีกยกเหรอ”

                “จะบ้าเหรอครับพรุ่งนี้ผมมีเรียนนะ ขืนต่ออีกรอบนอกจากจะไม่มีแรงเรียนแล้ว อาจจะไม่มีแรงเดินด้วยซ้ำ” ปอนด์ทำหน้ามุ่ย

                “แล้วจะเอาอะไร”

                “ผมอยากชวนเพื่อนสนิทสองคนไปด้วยกันได้มั้ยครับ”

                “ทำไม?”

                “ผมทิ้งเพื่อนสนิทคนหนึ่งไว้นานมากจนผมเองก็รู้สึกผิดกับเขา ส่วนเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่งเธอก็คอยเตือนสติและให้กำลังใจผมมาโดยตลอด” ปอนด์ยิ้มเมื่อคิดถึงโจ๊กกับฟ้า “ผมอยากให้พวกเขาเหล่านั้นได้รู้จักกับริวกิบ้าง ผมเชื่อว่าพวกเขาเป็นคนดีพอดีจะเติมเต็มชีวิตริวกิให้สมบูรณ์ครับ”

                “นายคนเดียวก็เติมเต็มชีวิตของฉันได้แล้วนี่”

                “ก็... ก็แล้วแต่ริวกินะครับ ผมไม่อยากบังคับอะไรริวกิหรือทำให้ชีวิตริวกิวุ่นวายไปกว่านี้ จะว่าไปมีผมเข้ามาในชีวิตริวกิก็สร้างเรื่องวุ่นวายมากพอแล้ว”

                “ฉันไม่เคยคิดว่านายทำให้ฉันเดือดร้อนเลย ตรงกันข้าม... น่าจะเป็นฉันมากกว่าที่ทำให้นายต้องเจอแต่เรื่องเดือดร้อน” ริวกิลุกขึ้น เขาฝากรอยจูบไว้ที่หน้าผากของปอนด์เป็นการปลอบใจ “อย่าคิดมากนะครับคนดี”

                “ครับ… ถ้าอย่างนั้นผมขออีกเรื่องได้มั้ยครับ”

                “อื้อ”

                “พรุ่งนี้ตอนไปดูหนังริวกิไม่ใส่สูทสักวันจะได้มั้ยครับ ผมอยากเห็นริวกิแต่งตัวธรรมดาบ้าง” ปอนด์อมยิ้ม

                “ได้สิ”

                รอยยิ้มที่อบอุ่นของริวกิที่มอบให้ปอนด์ เป็นสิ่งที่หายากที่สุดเท่าที่โลกนี้จะเคยมี ผู้ชายที่ทั้งชีวิตแทบจะไม่เคยยิ้มหรือหัวเราะ กลับเปลี่ยนไปด้วยเด็กหนุ่มที่ชีวิตไม่มีอะไรนอกจากหัวใจที่สดใสร่าเริง ความแตกต่างของทั้งคู่กลับหล่อหลอมเข้ากันได้ดี เหมือนจิ๊กซอว์ที่แหว่งเว้า สามารถเติมเต็มได้ด้วยจิ๊กซอว์อีกอันที่เข้ากันได้ ความรักล้วนเป็นเรื่องแปลกประหลาดที่ใครก็คาดไม่ถึง

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา