ภารกิจพิชิตหัวใจยัยเทพเจ้าแห่งดอกไม้

9.3

เขียนโดย khanom_thai

วันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 04.35 น.

  16 ตอน
  36 วิจารณ์
  16.65K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 20.26 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

11)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Chapter9

 

 "อืมมีแวมไพร์ไปด้วยข้าก็ค่อยอุ่นใจหน่อย" ฉันตอบยิ้มๆ

 "เคเคียวจ๊า" เสียงของสมายด์ทำให้ฉันหันไป

 "โอ้มัมมี่" เจ้าชายทีเฟียร์ร้องออกมาอย่างตกใจ

 "ไอ้เจ้าชายบ้า" สมายด์แห้วใส่แล้วเดินมาหาฉัน

 "เออสมายด์เจ้าเป็นอะไรมากไหม ทำไมเจ้าถึงถูกพันเป็นมัมมี่ขนาดนี้" ฉันมองผ้าพันที่พันตั้งแต่คอลงมาจนถึงเท้า

 "อ้อก็ฉันโดนเล็บของพวกแวมไพร์ใจจืดข่วนน่ะสิ" สมายด์แอบพูดเหน็บเจ้าชาย

 "555 ไม่เอาน่าเขาก็แค่ทำตามหน้าที่" ฉันเดินไปจูงมือสมายด์มานั่ง

 "นี่ข้าถามอะไรพวกเจ้าหน่อยสิ" เจ้าชายทีเฟียร์เอ่ยถามแล้วมองมาที่ฉันเพียงคนเดียว

 "พวกเจ้าเป็นอะไรกับเคเคียว" เจ้าทีเฟียร์ปรายตามองทั้งสองอย่างรอคำตอบ

 "เพื่อน" สมายด์ และ เรเทลตอบพร้อมกัน

 "แล้วทำไมถึงมาอยู่ด้วยกันได้" เจ้าชายทีเฟียร์ถามอย่างไม่ลดล่ะ

 "ท่านโทโมกิ นำเคเคียวมาเลี้ยงดู ข้ากับเคเคียวจึงรู้จักกัน" เรเทลตอบพลางอมยิ้ม

 "ส่วนข้าก็คงจะเป็นท่านป้า เนมิโกะ ที่นำพาเรามาเจอกัน และเราก็มาเจอกันอีกครั้งตอนที่ท่านพี่โอเซียพาตัวเคเคียวมา" สมายด์อมยิ้ม

 "งั้นหรอ แล้วพวกเจ้าพอจะรู้ชาติกำเนิดของเคเคียวบ้างไหม" เจ้าชายทีเฟียร์เลิกคิ้วมองแล้วทำหน้าตื่นเต้น

 "มีเพียงท่าป้า เนมิโกะเท่านั้นที่รู้ชาติกำเนิดที่แท้จริงของเคเคียว" สมายด์มองฉัน แล้วถอนหายใจออกมา

 "ท่านแม่หนอ" ฉันพึมพำ

 "งั้นหรอ" เจ้าทีเฟียร์เอ่ยออกมาเบาๆ

 "ทำไมหรอ หรือเจ้ารู้อะไรมากกว่านี้" เรเทลตวัดสายตาไปมองเจ้าทีเฟียร์

 "ไม่มีข้าว่ากลับคฤหาสน์ก่อน ก่อนที่เจ้าพวกแวมไพร์ตนอื่นมันจะมารุมกินเลือดเจ้า" เจ้าชายทีเฟียร์เดินนำหน้าพวกเราไป

 "อะไรของเขานะ" สมายด์ทำหน้างง

 "มันคงไม่กล้ามากินเลือดแวร์วูฟล์หรอกนะ" เรเทลเอ่ยขำๆ

 "ก็ลองมันมาดิมายด์จะฟัดให้เดี้ยงเลย" สมายด์พูดอย่างมีอารมณ์

 "พอเลยป่ะ เธอน่ะไม่กลัวแต่ฉันกับเคเคียวน่ะกลัวจนจะตายอยู่ตายแล้ว" เรเทลพูดแล้ววิ่งแจ้นไปทันที

 "เฮ้ยรอข้าด้วย" ฉันกางปีกแล้วรีบบินตามไป

 "อ้าวๆรอมายด์ด้วย" สมายด์วิ่งตามเราทั้งสองมา

 "กว่าจะกลับมานะ" เสียงร้องทักของผู้ชายในเสื้อคลุมสีดำสนิทหันมาเอ่ยทักหลังจากที่เราเดินเข้าไปในคฤหาสน์

 "เจ้าชายทีเฟียร์" ฉันเบิกตาอย่างตกใจเมื่อเจ้าองค์นี้ใส่ชุดแวมไพร์ ขอยกมือยอมรับเลยว่าหล่อมาก ผมที่ตั้งชี้โด่เด่ ทำให้บุคลิกดู ซุกซน กะล่อน และเฟี้ยวๆ ในคราเดียวกัน ผิวขาวจัดราวกับหิมะ ( เหมือนไม่ใช่ผู้หญิง ) ตัดกับชุดคลุมที่ดำสนิทแล้วไหนดวงตาสีฟ้าครามน้ำทะเลอ่อนๆที่แสนคมเฉียบที่หันมาสบตาของฉัน

 "ชื่นชมพอหรือยัง" เสียงของเจ้าชายทีเฟียร์ทำให้ฉันสะดุ้ง แล้วรีบก้มหน้างุดอย่างเขินอาย

 "ข้าก็แค่มองว่าเจ้าชายทีเฟียร์แห่งอาณาจักรแวมไพร์ผู้ที่แสนจะเย็นชาจะหล่อเหลาถึงเพียงใด" ฉันเอ่ยชมจากใจแล้วเงยหน้าสบดวงตาสีฟ้าครามน้ำทะเลอ่อนๆนั่น

 "เข้าไปในคฤหาสน์ได้แล้ว" เจ้าชายทีเฟียร์เดินนำหน้าฉันไปทันที

 "เจ้าชายทีเฟียร์ ท่านเป็นคนยังไงกันแน่" ฉันพึมพำเบาๆ แล้วมองแผ่นหลังของเจ้าชายทีเฟียร์ ก่อนจะเดินตามเข้าไปในคฤหาสน์

 "กว่าจะมากันนะ" ผีสาวปากชีก อย่าง คุซึซาเกะอนนะ เอ่ยขึ้นแล้วเดินไปรินน้ำใส่แก้วให้ฉัน

 "ไม่เป็นไรหรอก ข้าทำเองได้" ฉันเดินไม่แย่งเหยือกในมือของคุซึซาเกะอนนะ

 "เคเคียว" เสียงของโอเซียทำให้ฉันค่อยๆให้ไปช้าๆ ฉันสบตากับดวงตาสีอเมทิสต์ของโอเซีย

 "เจ้ามีอะไร" ฉันหลุบตาลงมองมือของเชอร์บี้ที่เกาะอยู่ที่แขนของโอเซีย

 "ออกไปไหนมากับทีเฟียร์" โอเซียถามด้วยน้ำเสียงไม่จริงจังนัก

 "ข้าจะออกทำอะไรมันก็เรื่องของข้า" ฉันตวัดตาไปมองอย่างเคืองๆ ทำไมทำไมฉันถึงรู้สึกร้อนในใจแบบนี้

 "นี่เคเคียวข้าไปเก็บดอกไม้มาเจ้าชอบไหม" ยูกิ อนนะเข้ามาแทรกกลางวงระหว่างฉันกับโอเซียแล้วชูดอกไม้ในมือให้ฉันดู

 "สวยจัง" ฉันมองดอกไม้อย่างชื่นชมโดยไม่สนจะเถียงต่อกับโอเซีย

 "มีในห้องครัวอีกเยอะเลยไปดูกันป่ะ" ยูกิ อนนะจูงมือฉันออกมาทันที

 "ว้าวๆๆๆๆๆๆสวยๆทั้งนั้น" ฉันมองตระกร้าดอกไม้ที่มีดอกไม้มากมาย

 "อย่างกินอันไหนเป็นพิเศษไหม" ฮานาโกะเดินมาถามฉัน

 "อืมขอซากุระนะ" ฉันยิ้มแล้วหยิบดอกไม้มาพิจารณา

 "อืมเดี๋ยวเตรียมไว้ให้นะ" ฮานาโกะหยิบจานใส่ดอกซากุระออกไป

 

 "อร่อยจัง" ฉันยิ้มแล้วเริ่มจัดการดอกไม้ตรงหน้าอีกครั้ง

 "โอ๊ะๆ ค่อยๆกินเดี๋ยวจะติดคอ" เทเคเทเค เอ่ยเตือนฉัน

 "แค่กๆๆๆ" ฉันลำลักออกมาทันที

 "พูดยังไม่ทันขาดคำเลยนะ เจ้านี่จริงเลยๆเลยอ่ะ" เจ้าชายทีเฟียร์เดินถือแก้วน้ำมาให้ฉัน

 "ขอบใจ" ฉันจัดการดื่ม แล้วก็หันไปขอบคุณเจ้าทีเฟียร์

 "อืม ไปดูดาวกันไหม" เจ้าชายหันไปถามทุกคน และสิ่งได้ตอบแทนคือการส่ายหัว

 "ทุกคนคงเจ็บแผลน่ะ ก็พวกของเจ้าชายจัดซะ" ฉันอมยิ้มแล้วหันไปค้อนเจ้าทีเฟียร์

 "งั้นเจ้าไปกับข้านะ" เจ้าชายทีเฟียร์เอ่ยชวนแล้วเดินเข้ามากุมมือฉัน

 "อ่ะ แฮม" เสียงของท่านพี่เซนอนทำให้ฉันหันไปมอง

 "ข้าจะไปด้วย เรเทลเจ้าไปกับข้า ถ้าเราปล่อยให้เจ้าชายทีเฟียร์อยู่กับเคเคียวสองคนข้ากลัวว่าเจ้าชายทีเฟียร์จะจัดการดูดเลือดของเคเคียว" ท่านพี่เซนอนหันไปมองโอเซียแวบหนึ่ง

 "อ้าว ทำไมต้องเป็นฉันด้วยล่ะ" เรเทลท้วงขึ้นมา

 "พวกเจ้าไว้ใจข้าเถอะ ข้าเอาหัวเป็นประกันเลยข้าคงไม่ทำร้ายหรือดูดเลือดหรอก" เจ้าทีเฟียร์กุมมือของฉัน

 "ท่านพี่ไม่คิดจะเอ่ยชวนข้าเลยหรอ" เชอร์บี้หันมาถามด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก

 "เจ้าก็มีคนพาไปดูแล้วนี่ เจ้าชายโอเซียไง" เจ้าชายทีเฟียร์ตวัดตาไปทางโอเซีย

 "ใช่ถ้าเจ้าอยากออกไปข้าไปเป็นเพื่อนเจ้าดีกว่า" โอเซียหันมาสบตาของเชอร์บี้

 "จริงหรอ" เชอร์บี้กอดแขนของโอเซีย

 "ข้าว่าเรารีบไปกันเถอะ" ฉันกระตุกมือเพื่อบอกให้เจ้าทีเฟียร์เดิน

 "อืม" เจ้าชายทีเฟียร์จึงจูงมือฉันออกไป

 "เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า" เจ้าชายทีเฟียร์เอามือมาแตะหน้าผากของฉัน

 "ข้าไม่ได้เป็นไข้นะ" ฉันปัดมือของเจ้าชายทีเฟียร์ออก

 "เจ้ายังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้หรอ" เจ้าชายทีเฟียร์นอนลงบนพื้นหญ้า

 "เรื่องอะไรหรอ" ฉันล้มตัวไปนอนตาม แล้วเงยหน้าขึ้นบนท้องฟ้าสีเต็มไปด้วยดวงดาว

 "ช่างเถอะ ซักวันไม่ใช่สิวันที่พวกเราได้ดอกกุหลาบสีเงินมาเจ้าจะรู้เอง" เจ้าชายทีเฟียร์พูดทิ้งท้ายก่อนจะหลับตาลง

 "หรอ แล้วกุหลาบสีเงินมันเกี่ยวอะไรกับข้า" ฉันเลิกคิ้วมองแล้วหันไปทางเจ้าชายทีเฟียร์ที่หลับตาพริ้ม

 "เคเคียว" เจ้าชายทีเฟียร์เอ่ยเรียกชื่อฉันหลังจากเราที่เขาเงียบไปนาน

 "อะไรหรอ" ฉันถามทั้งที่ยังหลับตาอยู่

 "ถ้าเจ้ารู้ความจริงทุกอย่างเจ้าต้องตัดใจจากเจ้าชายโอเซีย" เจ้าชายทีเฟียร์เอ่ยขึ้นแล้วยกมือมาลูบหัวของฉัน

 "ทำไมข้าต้องตัดใจงั้นหรอ" ฉันลืมตาขึ้น

 "ก็เพราะว่า เออ" เจ้าชายทีเฟียร์ลากเสียงยาวแล้วเงียบไป

 "อะไรหรอ" ฉันเลิกคิ้วมอง พลางจ้องอย่างรอคำตอบ

 "เมื่อถึงเวลาเจ้าจะรู้เอง" เจ้าทีเฟียร์ตอบแบบปัดๆก่อนจะหลับตาลงอีกครั้ง

 "นี่ กุหลาบสีเงินนั่นมันอยู่ที่ไหนกันหรอ" ฉันเอ่ยถามแล้วพยายามนึกภาพดอกกุหลาบสีเงิน

 "หุบเขาทางฝั่งของอสูรและปีศาจ" เจ้าชายทีเฟียร์เอ่ยเสียงเรียบ

 "แล้วชื่อหุบเขาอะไรหรอ" ฉันหันไปมองจ้าชายทีเฟียร์ที่ยังหลับตาพริ้มอยู่

 "หุบเขา เซบลูซ่า"

 "ชื่อพิลึกจัง" ฉันพึมพำเบาๆ

 "เป็นหุบเขา ต้องห้ามน่ะ อยู่ทางฝั่งตะวันออกของเมืองชาโดว์"

 "ชื่อเมืองมันก็ฟ้องแล้ว ว่ามันเป็นเมืองพวกอสูรกาย กับปีศาจที่น่าขยะแขยง" ฉันใช้มือลูบขนแขนตัวเองทันที

 "เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า" เจ้าทีเฟียร์ลืมตาขึ้นแล้วมองฉันที่กำลังลูบขนแขน

 "สยองน่ะสิข้าเกลียดเจ้าพวกอสูรกายจะตาย" ฉันทำหน้าสะอิดสะเอียน

 "เป็นงั้นไป" เจ้าชายทีเฟียร์หลับตาลงอีกครั้ง

 "นี่เจ้าชายคิดว่าจะนอนตรงนี้หรือไง" ฉันเอ่ยถามหลังจากมองดวงดาวบนท้องฟ้า

 "เคเคียว เจ้าตัดใจจากเจ้าชายโอเซียนั่นซะ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป" เจ้าชายทีเฟียร์ไม่ตอบคำถามแต่เอ่ยบอกในสิ่งที่ทำให้ฉันงงเข้าไปอีก

 "เจ้าพูดอะไร" ฉันลุกนั่งแล้วเอียงคอมองเจ้าชายทีเฟียร์

 "เจ้ารักเจ้าชายโอเซียนั่นใช่ไหม" เจ้าชายทีเฟียร์หันหน้ามาแล้วลืมตาขึ้น ฉันมองดวงตาสีฟ้าครามน้ำทะนั่นด้วยแววตาชื่นชม

 "ดวงตาเจ้าสวยกว่าดวงตาของโอเซียอีกนะ" ฉันเอ่ยชมยิ้มๆ

 "ทำไมหรอดวงตาข้ามันมีอะไรเหนือกว่าดวงตาของเจ้าชายโอเซียนั่น" เจ้าชายทีเฟียร์เลิกคิ้วมองอย่างสงสัย

 "ดวงตาของโอเซียเวลามองมันรู้สึกอบอุ่นนะ" ฉันหันลงไปมองเจ้าทีเฟียร์อีกครั้ง

 "แล้วดวงตาข้าล่ะ" เจ้าชายทีเฟียร์แหล่ตามองฉัน

 "ข้ารู้สึกว่าเวลามองแล้วมันรู้สึกสดใสและรู้สึกถึงความห่วงใยของเจ้าของแววตา" ฉันเอ่ยยิ้มๆ

 "หรอ ข้าขอถามอะไรหน่อยสิ" เจ้าชายทีเฟียร์หันมาสบตาของฉัน

 "ว่ามาสิ" ฉันเอียงคอมอง

 "ดวงตาของเจ้าทำไมถึงเป็นสีขาว"

 "ไม่รู้สิ มันแปลกๆเนาะว่าไหม ข้าไม่เคยคิดจะหาคำตอบเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้ สำหรับเทพ เทพทุกตนจะมีดวงแค่สีเทาเท่านั้น ไม่ขาวโพลนอย่างข้าเลย" ฉันคิดถึงดวงของท่านแม่แล้ววิจารณ์ดวงตาของตัวเองไปพร้อมๆกัน

 "เจ้าอาจจะไม่ใช่ลูกเทพจริงๆก็ได้" เจ้าชายทีเฟียร์พูด

 "เจ้ากำลังจะบอกข้าว่าเป็นลูกครึ่งอย่างนั้นหรอ" ฉันมองอย่างจับผิด

 "ฉลาดมากๆ555" เจ้าชายทีเฟียร์หัวเราะอย่างชอบใจ

 "ถ้าสมมุติว่าข้าตอบไม่ได้เจ้าคงจะว่าข้าโง่นะสินะ" ฉันมองค้อนเจ้าชายทีเฟียร์อย่างหมั้นไส้

 "รู้ทันข้าอีก" เจ้าชายทีเฟียร์ยิ้มเบาๆ

 "อ้าวข้าก็มีสมองเหมือนกันนะ" ฉันใช้มือทุบลงไปที่แขนของเจ้าทีเฟียร์

 "โอ๊ย เจ็บนะ" เจ้าชายทีเฟียร์ดีดตัวลุกขึ้นทันที

 "เจ็บบ้างเจ้าจะได้จำ" ฉันยิ้มร่าอย่างมีความสุข

 "กระผมยอมแล้วขอรับ" ฉันชายทีเฟียร์ทำเสียงล้อก่อนจะลุกแล้ววิ่งหนีฉันไปทันที

 "รอข้าด้วย" ฉันวิ่งตามไปทันที

  เช้าวันต่อมา

 "สวัสดีพระอาทิตย์ วันนี้เจ้าสบายดีไหม" ฉันเอ่ยสวัสดีแล้วถามทุกข์สุขของพระอาทิตย์

 "ยังเหมือนเดิมเลยนะ" เสียงของโอเซียทำให้ฉันหันไปมอง

 "สวัสดี" ฉันกล่าวสั้นๆแล้วค่อยๆเดินจากที่ตรงนั้น

 "ขอโทษนะเคเคียว" เสียงของโอเซียไล่ตามหลังฉันมา

 "เรื่องอะไร" ฉันเลิกคิ้วมอง

 "ทุกคนหายดีหรือยังไ โอเซียไม่ตอบแต่เฉไฉไปเรื่องอื่น

 "ไม่รู้สิข้าไม่ได้เข้าไปดู" ฉันเอ่ยตอบเสียงห้วนโดยไม่มีสาเหตุ

 "เจ้ากำลังโกรธข้าอยู่หรือเปล่า" โอเซียเอ่ยถาม

 "แล้วทำไมข้าจะต้องโกรธเจ้า" ฉันสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ

 "เคเคียว เจ้าชายโอเซีย" เสียงของเจ้าชายทีเฟียร์ทำให้ฉันหันไปหา

 "สวัสดีเจ้าชาย" โอเซียเอ่ยแล้วเดินจากไป

 "เจ้าชายโอเซียมาพูดอะไรกับเจ้า" เจ้าชายทีเฟียร์เลกคิ้วเป็นเป็นเชิงถาม

 "มาขอโทษอะไรข้าก็ไม่รู้" ฉันตอบแล้วสะบัดไปมา

 "ขอโทษงั้นหรอ" เจ้าชายทีเฟียร์พูดแล้วหันไปมองทางที่โอเซียเดินผ่านไป

 "ใช่ข้าล่ะงง" ฉันใช้มือเคาะหัวตัวเอง

 "อ้าวๆมาเขกหัวตัวเองเล่นทำไม" เจ้าชายทีเฟียร์ดุอย่างไม่จริงจังนัก

 "ไม่มีอะไรทำ55" ฉันยิ้ม แล้วก็หัวเราะ

 "ขนาดนั้นเชียวข้าชักสงสัยแล้วสิว่าผู้หญิงในโลกเทพเป็นอย่างงี้ทุกคนหรือเปล่า" เจ้าชายทีเฟียร์ทำหน้าครุ่นคิด

 "แหมะ แหม" ฉันพูดเหน็บ

 "ท่านพี่เคเคียว" เสียงของเชอร์บี้ทำให้เจ้าชายทีเฟียร์หันไป

 "มีอะไร" เจ้าชายทีเฟียร์เอ่ยถามเสียงเรียบ

 "เออท่านพี่เคเคียวค่ะข้าขอถามอะไรหน่อยสิ" เชอร์บี้ไม่สนใจเสียงของเจ้าชายทีเฟียร์ แล้วหันมาถามฉันแทน

 "อะไรล่ะ" ฉันหรี่ตามองอย่างสงสัย

 "เออเจ้าชายโอเซียเป็นอะไรกับท่านพี่" เชอร์บี้เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยจะพอใจนัก

 "เราก็แค่" ฉันสะอึกกับคำพูดของตัว แค่คำว่าเพื่อนฉันก็ยังพูดออกมาไม่ได้

 "แค่อะไรค่ะ" เชอร์บี้มองฉันด้วยแววตาริษยาแวบหนึ่ง แค่แวบเดียวเท่านั่นก็เปล่าเป็นสงสัย

 "แค่ พะ เพื่อนนะ" ฉันเอ่ยตอบตะกุกตะกักและพยายามข่มน้ำเสียงไม่ให้สั่น

 "งั้นหรอค่ะ" เชอร์บี้หันหลังกลับไปแต่ใครจะรู้ว่าเธอลอบยิ้มอย่างมีความสุขอยู่

 "เป็นอะไรมากไหม" เจ้าทีเฟียร์เอ่ยถามเมื่อสังเกตสีหน้าของฉัน

 "ไม่รู้สิอยากจะร้องไห้" ฉันพยายามข่มไม่ให้สั่น

 "ร้องมันออกมาเถอะไม่ว่าเหตุผลใดๆเจ้าร้องมันออกมาให้พอ" เจ้าชายทีเฟียร์กุมมือของฉันเอาไว้

 "ฮึกๆๆๆๆ ฮือๆๆๆๆ" ฉันปล่อยน้ำตาให้ไหลทะลักออกมาโยไม่เกรงกลัวอีกแล้ว ตอนนี้มีเพียงความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก

 "เจ้าจะต้องเข้มแข็ง" เจ้าชายทีเฟียร์ดึงฉันเข้าไปอยู่ในอ้อมกอด

 "ข้าเป็นอะไรไปกันแน่ ฮือๆๆๆ" ฉันร้องออกมาอย่างไม่อาย

 "เจ้าอย่าท้อนะ" เจ้าชายทีเฟียร์กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น

 "เจ้าชาย!!!!!" เสียงของเรเทลดังขึ้น

 "ระ เรเทล" ฉันหันไปทางเรเลที่ยืนมอง

 "เคเคียวเธอร้องไห้ทำไม" เรเทลเดินเข้ามา เจ้าชายทีเฟียร์จึงส่งตัวฉันให้กับเรเทล

 "ฮึกๆ ฮือๆๆๆๆๆๆ" ฉันปล่อยน้ำตาให้ไหลรินลงมาโดยไม่สนใจจะตอบคำถามของเรเทล

 "ว่าไงเจ้าชายหรือว่าท่านรังแกอะไรเคเคียวอีก" เรเทลหรี่มองเจ้าชายทีเฟียร์ด้วยแววตาจับผิด

 "เชอร์บี้" เจ้าชายทีเฟียร์เอ่ยสั้นๆ

 "เชอร์บี้ทำไม" เรเทลจ้องหน้าเจ้าทีเฟียร์อย่างไม่เข้าใจ

 "เชอร์มาถามว่าเคเคียวกับเจ้าชายโอเซียเป็นอะไรกัน" เจ้าทีเฟียร์ถอนหายใจออกมา

 "แล้วเคเคียวเธอตอบว่าไง" เรเทลเบิกตาแล้วก้มลงมองฉัน

 "พะ ฮึก เพื่อน ฮือๆๆ" ฉันตอบแล้วร้องไห้ออกมา

 "เคเคียวเธอทรมานไหม" เรเทลจ้องหน้าฉันอย่างอ่อนโยน ไม่วันไหนไม่มีครั้งไหนเลยที่เพื่อนคนนี้จะทิ้งฉัน

 "ฉันเจ็บ ฉันรู้สึกเจ็บที่หัวใจ" ฉันเอ่ยออกมาแล้วจ้องหน้าเพื่อนรักทั้งน้ำตา

 "โธ่ อย่าร้องเลยนะ" เรเทลใช้มือเกลี่ยน้ำตาออกจากหน้าของฉัน

 "ฉันเป็นอะไรไม่รู้มันรู้สึกเจ็บขึ้นมาทันที" ฉันยกมือกุมหัวใจของตัวเอง

 "ความรัก" เจ้าชายทีเฟียร์เอ่ยพลางย่อตัวนั่งลง

 "เพราะว่ารักจึงเจ็บ" เรเทลเอ่ยขึ้นแล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาของฉันอย่างอ่อนโยน

 "ข้าน่ะหรอรักโอเซีย" ฉันเอ่ยถามคล้ายคนละเมอ

 "ความรักมันไม่เข้าใครออกใครแต่เคเคียวโปรดจำไว้นะไม่ว่าเคเคียวจะล้มหรือจะเป็นอย่างไร ฉันจะไม่มีมีวันทิ้งเคเคียวไปฉันสัญญา" เรเทลร้องไห้ออกมาแล้วกอดฉัน

 "ความรักคือสิ่งที่สวยงาม แต่หากเราใช้มันในทางที่ผิดมันก็จะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง" เจ้าทีเฟียร์หันไปตรงพุ่มไม้แล้วเอ่ยวาจาเชือดเฉิอนออกมา

 "ขอบคุณ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างเรเทล ฉันขอบคุณจริงเธอเป็นเพื่อนแท้ของฉัน" ฉันมองหน้าเรเทลผ่านม่านน้ำตา

 "ดีใจนะที่พวกเจ้าสองคนไม่ทิ้งกัน" เจ้าชายทีเฟียร์ลูบหัวของฉันอย่างอ่อนโยน

 "ไม่ว่าเคเคียวจะท้อเรเทลและทุกคนจะเป็นหลักให้ขอแค่เคเคียวพยายามพยายามที่จะลืมพวกเราจะอยู่ข้างๆเคเคียวนะ" เรเทลใช้มือปาดน้ำของตัวเองออก

 "อย่าลืมสิ" เจ้าชายทีเฟียร์ดึงพวกเราทั้งสองเข้าไปในอ้อมกอด

 "ขอบคุณนะ เจ้าชายทีเฟียร์ เรเทล" ฉันหลับตาลงเอ่ยคำขอบคุณทั้งสอง

 "อย่าลืมว่ายังมีพวกเราสิ" เสียงของจูออนทำให้เจ้าชายทีเฟียร์คล้ายอ้อมกอดออกจาพวกเราแล้วยืนขึ้นมองทุกคนยิ้มๆ

 "ขอบคุณพระเจ้า" ฉันตะโกนออกไป

 "ก็แค่ความรัก ถ้าเขาไม่รักก็ตัดใจ" ผีพรายเดินมาใช้มือปาดน้ำตาของฉันออก

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา