ภารกิจพิชิตหัวใจยัยเทพเจ้าแห่งดอกไม้

9.3

เขียนโดย khanom_thai

วันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 04.35 น.

  16 ตอน
  36 วิจารณ์
  16.63K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 20.26 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

12)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

Chapter 10

 

 "เคเคียว" เสียงของท่านพี่เซนอนดังขึ้นทำให้ฉันค่อยๆลืมตา

 "ข้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง" ฉันกวาดตามองรอบๆห้องแล้วก็พบแต่ความว่างเปล่า

 "เจ้าร้องจนสลบไป เรเทลก็ด้วย" ท่านพี่เซนอนเอ่ยแล้วพยักเพยิดไปทางเตียงอีกเตียงหนึ่ง

 "อ่ะ อ้าวเรเทล" ฉันเบิกตามอง

 "เคเคียว เจ้าทานดอกไม้หน่อยไหม" เจ้าทีเฟียร์หอบดอกไม้เข้ามา และยังมีเชอร์บี้ที่เกาะแขนของโอเซียตามมา

 "อืม" ฉันสนใจที่วางอยู่ตรงหน้ามากกว่าสองคนนั้น

 "จริงสิเรเทลชอบอะไรหรอ เจ้าชายเซนอน" เจ้าทีเฟียร์หันไปมองท่านพี่เซนอน

 "อะไรก็ได้ แต่ถ้าชอบเป็นพิเศษก็คงพวกขนม" ท่านพี่เซนอนเดินไปนั่งข้างๆเตียงของเรเทล

 "อ้อ เชอร์บี้เจ้าไปเอาขนมมาซิ" เจ้าชายทีเฟียร์หันไปสั่งเชอร์บี้ที่ยืนอยู่ข้างหลัง

 "ป่ะ เจ้าชายโอเซีย" เชอร์คล้องแขนโอเซียออกไป

 "สู้ๆนะ" เจ้าชายทีเฟียร์เดินใกล้ๆแล้วเอ่ยให้กำลังใจฉัน

 "หิวแล้ว" ฉันมองดอกไม้มากมาย

 "กินสิ" เจ้าชายทีเฟียร์หยิบดอกไม้ให้ฉัน

 "ขอบใจจ๊ะ" ฉันยิ้มแล้วรับดอกไม้มากัดกิน

 "เจ้าชอบกินดอกไม้อันไหนเป็นพิเศษ" เจ้าชายทีเฟียร์ถามแล้วยืนดอกไม้ให้ฉัน

 "ก็คงจะเป็นคาร่าลิลลี่ล่ะ" ฉันเอ่ยยิ้มๆแล้วกัดกินดอกไม้ที่เจ้าชายโอเซียส่งให้

 "คาร่าลิลลี่" เจ้าชายทีเฟียร์ทวนคำช้าๆ

 "ไม่ใช่หน้าวัวนะ" ฉันแย้งขึ้นมาก่อนถึงรูปร่างมันจะเหมือนก็เถอะแต่ว่ารสชาติมันไม่เหมือน ขืนเอาหน้าวัวมาให้ฉันกินฉันขอบายดีกว่า

 "อ้าวหรอ ดักคอข้าทันจัง" เจ้าชายทีเฟียร์พูดยิ้มๆ แล้วหันมาหยิบดอกไม้ส่งให้ฉันอีก

 "เคเคียว" เสียงของโอเซียทำให้ฉันเงยหน้าขึ้น

 "มีอะไร" ฉันตอบเสียงห้วนแล้วหันไปสนใจดอกไม้ในมือแทน

 "เจ้าโกรธข้าอยู่หรือเปล่า" โอเซียเอ่ยถาม

 "ก็ไม่นี่นา" ฉันมองโอเซียก่อนจะเหลือบมองเชอร์บี้ที่เกาะแขนอยู่ด้วยหางตา

 "มีมารยาทไหมเชอร์บี้" เจ้าทีเฟียร์เอ่ยเตือนเสียงดุ

 "อะไรค่ะท่านพี่" เชอร์บี้เถียงเจ้าชายทีเฟียร์

 "อย่าพึ่งทะเลาะกันได้ไหมขอรับ รักกันสักวันมันคงไม่ตายหรอกนะขอรับ" ทาบีลัสเดินเข้ามาพร้อมถ้วยอาหารที่หอมกรุ่นใสมือ

 "เจ้าเอาอะไรมาน่ะ" ฉันเอียงคอมองสิ่งที่กำลังหอมในถ้วยสองใบ

 "ข้าเอามาให้องค์หญิงและเรเทลขอรับ" ทาบีลัสวางถ้วยอาหารที่หอมกรุ่นลงบนโต๊ะข้างๆเจ้าชายทีเฟียร์ก่อนจะเดินเอาไปให้ท่านพี่เซนอน

 "เดี๋ยวข้าป้อนนะ" เจ้าทีเฟียร์อาสาแล้วยกถ้วยอันหอมกรุ่นขึ้น

 "เคเคียวข้าไปนะ" โอเซียหันมาลาฉันด้วยแววตาสำนึกผิดแล้วเดินออกไปกับเชอร์บี้

 "แล้วเจ้ามาลาข้าทำไม" ฉันเอ่ยถามเสียงยียวน

 "อ่ะๆๆๆหม่ำๆก่อน" เจ้าชายทีเฟียร์ยกช้อนขึ้นแล้วป้อนเข้าปากฉัน

 "55" ฉันหัวเราะเสียงใสแล้วค่อยทานอาหารที่เจ้าชายทีเฟียร์ป้อน

 "บางเวลาเจ้าก็ดูเหมือนเด็กจัง" เจ้าชายทีเฟียร์เอ่ยยิ้มๆแล้วยกช้อนขึ้นป้อนฉัน

 "หรอ" ฉันเอียงคอมองขณะเคี้ยวอาหาร

 "ใช่เหมือนมนุษย์จัง" เจ้าชายทีเฟียร์เอ่ยยิ้มๆ แล้วอมยิ้มเบาๆเมื่อฉันเอียงคอมอง

 "งั้นข้าก็เป็นมนุษย์ในร่างเทพ" ฉันพูดขำๆแต่นั่นกลับทำให้เจ้าชายทีเฟียร์ชะงัก

 "จะบ้าหรอ แต่ก็มีส่วนนะ" เจ้าชายทีเฟียร์วางถ้วยลงแล้วทำหน้าครุ่นคิด

 "แล้วข้าจะได้กินไหมเนี่ย" ฉันบ่นเบาๆ

 "อ่ะๆๆๆ ข้าขอโทษอ้ำๆๆๆๆๆๆ" เจ้าชายทีเฟียร์ยกช้อนขึ้นมาป้อนฉันอีกรอบแล้วเราสองคนก็ยิ้มและหัวเราะด้วยกันอย่างมีความสุข

 ( บันทึกของทีเฟียร์  )

 ผมเดินออกห้องหลังจากที่เคเคียวหลับไปแล้ว และพบก็พบกับใครคนหนึ่งเข้า

 "เจ้าชายโอเซีย" ผมพึมพำชื่อนั้นเบาๆ แล้วกวาดตามองผู้ชายตรงหน้า

 "เคเคียวเป็นยังไงบ้าง" เจ้าชายโอเซียเอ่ยถามผมเสียงเรียบ

 "ร่างกายอาจจะไม่เป็น" ผมหยุดพูดแล้วยืนมองหน้าเจ้าชายโอเซีย

 "หืม" เจ้าชายโอเซียหรี่ตามองผม

 "แต่ถ้าเป็นไข้ใจตอนนี้กำลังหนักน่าดู" ผมพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกไป

 "ข้าลืมเคเคียวไปแล้ว" เสียงของเจ้าชายโอเซียทำให้ผมชะงักแล้วหันไปมอง

 "แล้วทำไม" ผมเอียงคอมอง

 "ฉันรักเชอร์บี้" เจ้าชายโอเซียตอบเสียงอ่อย

 "แล้วจะมีประโยชน์อะไรที่จะไปตามหากุหลาบสีเงิน" ผมเลิกคิ้วแล้วมองหน้าของเจ้าชายโอเซีย

 "ไม่รู้เมื่อก่อนข้าคงตอบได้เต็มปากว่าข้าต้องการให้เคเคียวหันมารักข้า" เจ้าโอเซียก้มหน้าลง

 "แล้วถ้าความทรงจำกลับมา เคเคียวก็คงจะเจ็บกว่าตอนนี้" ผมมองหน้าเจ้าชายโอเซียชั่วอึดใจก่อนจะเดินออกไป

( จบบันทึกของทีเฟียร์ )

 

 ฉันลืมตาขึ้นมาในความมืดและได้ยินเสียงของใครบางคนอยู่ที่หน้าห้อง      

  "ข้าลืมเคเคียวไปแล้ว" เสียงของโอเซียทำให้เบิกตาขึ้น

  "แล้วทำไม" เสียงของเจ้าทีเฟียร์ดังขึ้น

  "ฉันรักเชอร์บี้" เสียงของโอเซียทำให้ฉันลุก

  "แล้วจะมีประโยชน์อะไรที่จะไปตามหากุหลาบสีเงิน" ฉันหันไปทางประตู

  "ไม่รู้เมื่อก่อนข้าคงตอบได้เต็มปากว่าข้าต้องการให้เคเคียวหันมารักข้า" เสียงของโอเซียทำให้น้ำตาฉันไหลริน

  "แล้วถ้าความทรงจำกลับมา เคเคียวก็คงจะเจ็บกว่าตอนนี้" ฉันไม่รับรู้ในน้ำเสียงของเจ้าชายทีเฟียร์สักนิดเพราะตอนนีฉันยกมือปิดหน้าแล้วปล่อยเสียงสะอื้นออกมา

 "เคเคียว" เสียงของเรเทลทำให้ลดมือลงและพบว่าเธอกำลังเดินเข้ามาหาฉัน

 "ตัดใจซะนะ" เรเทลเข้ามานั่งกับฉันแล้วเอ่ยปลอบ

 "ทำไมข้า" ฉันชะงักคำพูดเมื่อเรเทลดึงตัวฉันเข้าไปกอด

 "สักวันเคเคียวจะเจอคนที่รักเคเคียวจริงๆ" เรเทลเอ่ยยิ้มๆ

 "ฉันก็คงรักโอเซียสินะ" ฉันพูดอย่างที่ใจคิดด้วยเสียงเศร้าๆ

 "ใช่แต่รักในเวลาที่สายเกินไป" เรเทลผลักฉันออกแล้วจ้องหน้าของฉัน

 "สายเกินไป" ฉันทวนคำช้าๆอย่างเหม่อลอย

 "ตัดใจซะนะเพื่อนรัก" เรเทลใช้มือเกลี่ยน้ำตาของฉันอย่างเบาๆ

 "ข้าจะลองดู" ฉันรับคำเสียงหนักแน่น

 "สู้ๆ" เรเทลส่งยิ้มจางๆให้ฉัน

 "ขอบใจเรเทล" ฉันเอ่ยยิ้มแล้วยกมือปาดน้ำออก

 เช้าวันต่อมา..........

 "เอาเป็นว่าเราจะไปตอนบ่ายๆเลยนะ" เจ้าชายทีเฟียร์บอกทุกคนอย่างใจเย็น

 "แล้วเราจะถึงหุบเขานั่นเมื่อไหร่" แฟรงเกินสไตน์เอ่ยถาม

 "คงพรุ่งนี้ แต่พวกเจ้าคืนนี้พักที่เมืองชาโดว์ก่อนจะดีที่สุด" เจ้าชายทีเฟียร์หันมามองฉัน

 "แล้วเมืองชาโดว์น่ากลัวไหม" สมายด์เอ่ยถามแล้วจ้องเจ้าชายทีเฟียร์อย่างรอคำตอบ

 "ไม่ เออทาบีลัสเอาดอกไม้ด้วยนะเดี๋ยวเคเคียวอดกินข้าวดอกไม้ที่นั่นเป็นดอกไม้พิษน่ะ" เจ้าชายทีเฟียร์หันไปสั่งทาบีลัสแล้วลากสายตามาที่ฉัน

 "ขอรับ" ทาบีลัสเอ่ยแล้วเดินออกไป

 "พวกเจ้าแยกย้ายกันไปเก็บของก่อนเถอะ"  เจ้าชายทีเฟียร์หันไปสั่งทุกคน

 "เจ้าชายทีเฟียร์" ฉันเอ่ยเรียกเมื่อเขาทำท่าจะออกนอกห้อง

 "เคเคียว" เจ้าชายทีเฟียร์หันมาวบตาสีขาวที่ทอแสงอ่อนลงของฉัน

 "อยู่เป็นเพื่อนข้าก่อนได้ไหม" ฉันหลุบตาลงต่ำแล้วเอ่ยบอก

 "ได้สิ เจ้าเป็นอะไรมากไหม" เจ้าชายทีเฟียร์นั่งลงข้างๆฉัน

 "ข้าจะลองตัดใจดู" ฉันเอ่ยอย่างที่ใจคิดออกไป

 "ข้าจะอยู่เป็นกำลังใจให้เจ้านะ" เจ้าชายทีเฟียร์ยกมือของฉันขึ้นมากุม

 "ขอบใจ เจ้าเป็นเจ้าชายที่ดีทีสุดเท่าที่ข้าเคยเจอมา" ฉันมองหน้าเจ้าชายทีเฟียร์ด้วยแวตาชื่นชม

 "ข้าก็เพิ่งเคยเจอเทพกินดอกไม้ที่แสนจะอ่อนไหวอย่างเจ้า" เจ้าชายทีเฟียร์ขยี้หัวฉันเบาๆ

 "หยุดเลยนะ" ฉันจับมือที่ขยี้หัวฉันออก

 "เจ้าหญิงหัวฟู" เจ้าชายทีเฟียร์ยิ้มร่าแล้วชี้มาที่ฉัน

 "เจ้าชายบ้า" ฉันกระโดดหวังจะใช้กลิ่นดอกไม้ให้สำลักตายแต่เจ้าชายทีเฟียร์กระโดดหลบทันฉันจึงลงไปจ๊ะเอ๋กับพื้นจ๊าสุดที่รัก

 "เคเคียว" เจ้าชายทีเฟียร์อุ้มฉันขึ้น

 "เจ็บจัง" ฉันยกข้อศอกขึ้นแล้วต้องเบิกตาเมื่อ มีเลือดสีแดงสดไหลออกมา

 "เอาแล้วไง" เจ้าชายทีเฟียร์สบถขึ้นมา

 "ฮือๆๆๆๆ" ฉันมองเลือดที่ไหลออกมาจากแผลตัวเองแล้วร้องไห้ก็คนมันกลัวเลือดนี่นา

 "เออคือ ข้าจะเช็ดเลือดให้นะ" ไม่ว่าเปล่าเจ้าชายทีเฟียร์ก็ก้มลงเลียเลือดของฉัน

 "โอ๊ย" ฉันสะดุ้งเมื่อรู้สึกแสบที่แผล

 "เสร็จแล้วเลือดเจ้าหวานจัง" เจ้าชายทีเฟียร์เงยหน้าขึ้นแล้วบอกฉัน

 "เดี๋ยวข้าร่ายมนตร์ให้แผลปิดดีกว่า" ฉันค่อยๆร่ายมนตร์ลงที่แผลของฉันและมันก็ค่อยๆปิดลง

 "เจ้านี่เก่งจัง" เจ้าชายทีเฟียร์เอ่ยชมฉัน

 "ขอบใจ แล้วเจ้าจะรีบไปเก็บของไหม" ฉันคิดขึ้นได้เลยถามเจ้าทีเฟียร์

 "ไปเป็นเพื่อนข้าหน่อยก็ดี" เจ้าชายทีเฟียร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แสนจะห่วงใย

 "อืม ข้าขอตามเจ้าไปทุกที่จะได้ไหม" ฉันเอ่ยขอแล้วจ้องหน้าเขาอย่างรอคำตอบ

 "เพื่อที่จะลืม หรือยังมีเหตุผลอย่างอื่นอีก" เจ้าชายทีเฟียร์เลิกคิ้วมองฉัน

 "ข้าสับสน" เจ้าพูดเพียงแค่นั้น โดยไม่สนใจตอบคำถาม

 "ตกลง ข้าจะอยู่ข้างๆเจ้าแล้วเจ้าก็จะได้ไปกับข้าทุกที่" เสียงของเจ้าชายทีเฟียร์ทำให้ฉันยิ้มออกมาโดยไม่มีสาเหตุ

 "เจ้าน่ารักที่สุดเจ้าชายทีเฟียร์" ฉันกระโดดกอดเจ้าชายแล้วยิ้มบางๆ

 "555" เจ้าชายทีเฟียร์เราะออกมา

 "ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่เจ้ามีให้ข้า" ฉันหลับลงซุกแผงอกของเจ้าชายทีเฟียร์

 "ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับเจ้าว่าจะลืมหรือไม่ จงจำไว้เคเคียวเจ้าจะยังมีข้า" เจ้าชายทีเฟียร์ดันฉันออกและตาเราประสานเขาหากัน

 "ข้าจะพยายาม" ฉันสบตาของเจ้าชายทีเฟียร์อย่างขอบคุณ

 "สู้ๆ" เจ้าชายทีเฟียร์ยิ้มตาหยี แล้วโอบกอดฉัน

และแล้วเวลาบ่ายๆก็มาถึง พวกเราทุกคนเตรียมตัวออกเดินทาง ซึ่งตอนนี้เราก็รวมตัวกันอยู่ตรงสนามหญ้าหน้าคฤหาสน์

 "พร้อมกันหรือยัง" เจ้าชายทีเฟียร์เอ่ยถามเพื่อเป็นการเช็คความพร้อม

 "อืม" พวกเราพยักหน้ารับ แล้วเริ่มกลายร่างทันที

 "งั้นไปนะ" เจ้าชายทีเฟียร์กลายร่างเป็นค้างคาวแล้วบินโฉบขึ้นบนท้องฟ้า พวกเราจึงบินตามไป พวกเราบินตามมาเรื่อยๆ จนเข้าใกล้อาณาเขตของเมืองอสูรและปีศาจความเย็นยะเยือกก็เริ่มแผ่เข้ามา ช่างสมกับเป็นเมืองแห่งความตายเสียจริง

 "พวกเจ้า" เสียงของยักษ์ใหญ่สองตนดังขึ้นให้ฉันเงยหน้าขึ้นไปมอง

 "พวกข้าจะเข้าไปยังดินแดนของพวกท่านได้หรือไม่" โอเซียบินไปกล่าว

 "ได้หากเพียงแต่" ยักษ์สองตนนี้เหลือบตามองมาที่ฉัน

 "คนของข้า" เจ้าชายทีเฟียร์เอ่ยขึ้น

 "งั้น....." ยักษ์สองตนเปิดประตูเวทย์ให้พวกเราได้เข้าไปทันที

 "น่ากลัว" เทเคเทเคบ่นหลังจากที่พ้นประตูนั่นมาแล้ว

 "ตัวโตชะมัด" แฟรงก์เกินสไตน์หันไปมองแล้วสบถออกมา

 "เคเคียว" เจ้าทีเฟียร์บินมาหาฉัน

 "หืม" ฉันเอียงคอมอง

 "ไปข้างหน้ากับข้าเถอะ" เจ้าทีเฟียร์กลายร่างเป็นมนุษย์แล้วจับมือฉันบินนำหน้าขบวนไป

 "เมืองชาโดว์นี่อยู่ไกลไหม" ฉันเลิกคิ้วถามแล้วมองไปยังหนทางข้างหน้าที่ดูไปแล้วก็มีแต่หมอกสีดำจางๆ และไอเย็นยะเยือกที่แผ่ออกมา

 "ไกลสิ ข้าเคยไปมาสมัยตอนเด็กๆมันดูวังเวงและน่ากลัวอย่าประหลาดเลยล่ะ" เจ้าชายทีเฟียร์เอ่ยฉันก่อนจะจูงมือให้บินตามไป

 "ขนาดนั้นเชียว" ฉันร้องออกอย่างแผ่วเบา

 "เจ้านี่ก็แปลก" เจ้าชายทีเฟียร์หันมาส่งยิ้มเทห์ๆให้ฉัน

 "ทำไมหรอ" ฉันหันขวับกลับมามอง

 "ก็เพราะเจ้ายอมไว้ใจข้าน่ะสิ" เจ้าชายทีเฟียร์เอ่ยยิ้มๆ

 "อืม ข้าคงเป็นอย่างที่เจ้าว่าจริงๆแหละ แต่ข้าอยู่กับเจ้ามันรู้สึกอบอุ่นนี่นา" ฉันสารภาพตามความจริงไป

 "หรอ" เจ้าชายทีเฟียร์เอ่ยสั้นๆก่อนที่จะหันไปข้างหน้าและเราก็ไม่ได้คุยกันเลยระหว่างทาง

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา