[YAOI] Lessons Of Loves รักเร้นลับ ฉบับคุณครู

9.8

เขียนโดย ดลณกร

วันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 13.39 น.

  16 Lesson
  28 วิจารณ์
  19.09K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2557 18.42 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

16) 014th คนกลาง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 


Lesson 014th คนกลาง

 

ทั้งที่เมื่อคืนกว่าจะหลับตาลงนอนได้ก็ปาไปเกือบตี 2 แต่วันนี้ผมกับอ้นก็ตื่นเช้าแล้วก็ออกมาจากบ้านอ้นตั้งแต่ยังไม่มีแสงสว่างจากพระอาทิตย์ อ้นพาผมขับรถขึ้นไปบนทางด่วนเส้นบางนา – ตราด ซึ่งมันเลยทางยูเทิร์นกลับบ้านพักผมไกลอยู่ พอถามไปก็หันมายิ้มตอบแบบยั่วประสาท เลยขี้เกียจจะถามละ พอไปถึงซักระยะของถนน อ้นก็จอดรถอย่างไม่มีสาเหตุ

“จอดทำไมวะ” ผมถามมันด้วยความไม่เข้าใจในความอาร์ทตัวพ่อของมัน

“ลงไปด้วยกัน ตอนนี้รถยังไม่เยอะ เร็วๆ พี่” แล้วอ้นก็เปิดประตูรถนำผมลงไปก่อน ผมเห็นมันหยิบกระเป๋าอะไรของมันไม่รู้ตรงหลังรถ แล้วเดินมาหาผมที่ยืนรอมันอยู่ตรงริมทางด่วน แล้วอ้นก็เปิดกระเป๋าคว้าเอากล้องถ่ายภาพตัวใหญ่ออกมา

“มึงถ่ายรูปเป็นด้วยหรอวะ โห นั่นกล้องหรือฐานปรมณูวะ ใหญ่ชิบหาย” อันนี้สงสัยจริงๆ ครับ ว่ามีอะไรที่มันทำไม่เป็นบ้าง

“กล้องของผมใหญ่กว่านี้ พี่ก็จับมาแล้ว จะมาตกใจอะไร ฮ่าฮ่าฮ่า”

“กวนตีนละ ทะลึ่ง” ผมทุบหลังมันไป 1 ที ตอบแทนความกวนตีนของมัน

“มาๆ พระอาทิตย์กำลังจะขึ้นแล้ว เดี่ยวถ่ายไม่ทัน”  แต่ด้วยความอยากรู้ ผมเลยเดินตามไปดูมันถ่ายรูปพระอาทิตย์ ผมยืนมองสังเกตอ้น ที่ตอนนี้มันทำท่าทางถ่ายรูปตลกๆ มันเป็นท่าทางที่ผมเคยเห็นแต่ในกระทู้พันธุ์ทิพย์ หรือรวมภาพขำๆ เพิ่งเคยเห็นจริงๆ ก็วันนี้แหละ แถมเด็ดกว่านั้นคือมันทำท่าพวกนั้นบนทางด่วน

“พี่ขำอะไร มานี่ดิ” ผมยังคงยืนเฉย เพราะอยากจะรู้ว่ามันจะใช้ท่าไม้ตายอะไรร่ายมนต์ใส่ผม

“มาเร็ว ....นะคร๊าบบบบบบ” มันทำเสียงอ่อย พร้อมกระพริบตาถี่และยิ้มหวาน

“เออ” ผมยักคิ้วแล้วเดินตามมันไปเพราะท่าไม้ตายแสนน่ารักของมัน เมื่อเดินไปถึง มันชี้ให้ผมชะโงกไปดูพระอาทิตย์ที่กำลังโผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมาจากมุมหนึ่งของฝั่งทางด่วน ที่ตอนนี้แสงสีทองตัดกับสีมืดครึ้มของขอบฟ้า ขณะที่ผมกำลังตื่นตากับพระอาทิตย์ตรงหน้า เพราะนาน น๊านนนน จะตื่นเช้าแบบนี้ (แต่ถึงจะตื่นก็ไม่มีทางได้ดูหรอกครับ) อ้นก็แอบจุ๊บที่แก้มผมเบาๆ

Morning Kiss ครับ

“ไอ้ฟายยยยย นี่บนทางด่วนนะมึง” ผมฟาดหน้ามันไปทีนึงเบาๆ ทั้งที่หน้าผมแดงๆ ด้วยความอาย

“นานๆ จะได้ตื่นมาแล้วเจอพี่แบบนี้ มีความสุขอ่ะ”

“บางที...มึงอาจไม่ได้อยากรู้สึกแบบนี้หรอกว่ะ” ผมบ่นพึมพำกับตัวเอง

“อะไรนะพี่”

“ไม่มีอะไรหรอก ถ่ายรูปเร็วๆ ดิ อยากเห็น” ผมฝืนยิ้มให้อ้น อ้นยิ้มกว้างจนผมรู้สึกอบอุ่นไปทั่วหัวใจ ผมก็แค่อยากเห็นรอยยิ้มสดใสตรงหน้าของคนที่ผมรู้สึกดีก็เท่านั้น

----------------------

“อืม ขอบใจนะอ้น” ผมขอบใจมัน เมื่อรถของมันมาจอดนิ่งสนิทข้างบ้านพักของผม

“ทำไมวันนี้พูดเพราะจังเลยครับคุณครู” 

“....” ผมมองหน้ามัน เผื่อคำด่าจะทะลุแววตาไปหามันได้บ้าง

“ก็กูเป็นครูนี่หว่าก็ต้องพูดเพราะๆ ดิ” แล้วผมหันหน้าไปเตรียมเปิดประตู และป่านนี้ผมก็น่าจะเดินลงไปถึงประตูบ้านพักแล้ว ถ้ามือของมันไม่ได้เอื้อมมารั้งหน้าผมไปจูบ ริมฝีปากอ้นกดทับปากผมอย่างเร่าร้อนเหมือนเดิม แต่ผมก็ไมชินสักที ผมรู้สึกว่าร่างกายของผมมันร้อนผ่าวๆ ตามอ้นเหมือนกัน ผมค่อยๆ ดันตัวมันออก แล้วตัดบทพิศวาสนี้ซะ

“พอเหอะมึง แล้วขับรถกลับดีๆ ล่ะ” 

“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ” มันบอกขณะกำลังหันไปหยิบถุงของของผมที่อยู่เบาะคนนั่งด้านหลัง

“อ้น....” 

“ครับ” อ้นหันกลับมาตอบรับผมด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำแล้วเงยหน้ามองผม

“ดูแลตัวเองดีๆ นะมึง” อ้นยิ้มรับกับคำพูดสุดท้ายของผมท่าทางงงๆ  ผมคว้าถุงของที่อ้นยื่นให้ แล้วเดินลงจากรถโดยไม่ได้หันหลังกลับไปมองอีก ผมทำได้ดีที่สุดแค่นี้จริงๆ

------------------------------------

“โอ้โห......  ไปเอาของที่รถถึงไหนมาคะคุณพี่” ผมหันหลังกลับไปมองต้นเสียงที่กรีดร้องตามหลังผมมาขณะกำลังจะง้างประตูห้องธุรการ เปรี้ยว เจ้เค้ก และครูเอก นี่มาทำอะไรที่โรงเรียนในเวลาแบบนี้เนี่ย

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ผมจะตอบยังไงดีวะครับ

“แล้วนี่ทำไมครูอ้นมาส่งซะเช้าเลย... ไปไหนมา พูด?” เจ้เค้กยังคงถามอย่างไม่ลดละหลังจากที่ผมไม่ได้ตอบประโยคแรก

“แล้วมาทำไมกันแต่เช้าเนี่ย โรงเรียนเปิดวันจันทร์หน้านะครับเจ้” ผมถามกลับบ้าง ก่อนที่จะโดนทำร้ายมากกว่านี้ เจ้เค้กกับเปรี้ยวหันหน้ามองกันหัวเราะลั่น

“พี่นัทครับ วันนี้ประชุมผู้ปกครองตอน  8 โมงครึ่งนะครับพี่” ครูเอกครับ มึงล้อเล่นกูใช่ไหมครับ  ผมมองนาฬิกาที่ข้อมือตัวเอง เข็มนาฬิกาบอกเวลาว่าตอนนี้ 08.10 น.

ไฟไหม้โรงลิเก! ผมลืมได้ไงว่าวันนี้มีประชุมผู้ปกครอง

“ชิบหายแล้วววววว” ผมใส่เกียร์หมาตะกุยขาหลังวิ่งย้อนกลับบ้านพักครูเพื่อเตรียมตัวประชุมผู้ปกครองด้วยความไวแสง

ผมวิ่งลัดเลาะมาตามสวนหย่อมโรงเรียน ถึงหน้าบ้านพักด้วยความไวเกินกว่าโอลิมปิคกำหนด ขณะที่ผมกำลังเอื้อมมือไปเปิดประตูบ้านพักออก มันก็เป็นขณะเดียวกันกับที่ใครบางคนกำลังดันประตูออกมาเช่นกัน โป๊ก.... หน้าผมโขกกับขอบประตู หงายหลังก้นจ้ำเบ้า

“อ้าวนัท พี่ขอโทษ พี่ไม่รู้” พี่อิสวิ่งมาดูผมที่ตอนนี้ที่นั่งหงายกองอยู่บนพื้น

“ไม่เป็นไรพี่” ผมเองก็ไม่รู้ว่าตอนนี้จะคลำหัว หรือคลำก้นตัวเองก่อนดี

“เจ็บมากไหม? หัวแตกเปล่า? พี่พาไปใส่ยาไหม?” 

“ไม่หรอกพี่ แค่โนๆ แต่ถ้าพี่อยากช่วยผมจริงๆ พี่ช่วยไปดู ม.2 ให้ผมแป๊บนึง ผมจะถือเป็นพระคุณอย่างสูง ผมขออาบน้ำแล้วจะรีบไป  ไปแล้วนะพี่” ผมยันตัวลุกขึ้นแล้ววิ่งเข้าบ้านไปโดยไม่ได้รอฟังคำตอบจากพี่อิส เพราะผมก็ทราบอยู่แล้วว่ามันได้ชัวร์ๆ

------------------------------------

กิจกรรมประชุมผู้ปกครองผ่านไปแล้วด้วยการอำนวยความสะดวกของพี่อิส ที่อยู่ดูแลผู้ปกครอง ชั้น ม.2 ของผม และวิ่งวุ่นไปชั้น ม.3 ของเค้า เพราะวันนี้ผมเองที่แม้จะวุ่นพอกัน แต่ด้วยความเบลอ ทำให้การปฏิบัติหน้าที่ค่อนข้างเสียศูนย์ จนพี่อิสไม่อาจละทิ้งผมไปได้ ผลคือหลังจากกิจกรรมเสร็จสิ้น ผมก็รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวคล้ายๆ จะจับไข้จากการที่ไปยืนทำมิวสิคบนทางด่วนรับน้ำค้างยาวเช้ากับอ้น

“นัทเป็นอะไรหรือเปล่าจ๊ะ ดูไม่สดชื่นเลย” พี่อิสถามผมซึ่งตอนนี้นั่งเป็นหมาป่วยอยู่ในห้อง ม.2 ของตัวเอง

“หรอพี่ ผม....” 

“ง่วงน่ะ” พี่อิสตอบแทนผมทั้งที่ผมยังพูดไม่จบ แล้วยิ้มตาหยีจนตีนกาขึ้น ฮ่าฮ่าฮ่า (ขอโทษก๊าบ)

“ขอนั่งด้วยคนนะจ๊ะ” ผมพยักหน้าแทนคำตอบแล้วฟุบหน้าลงบนโต๊ะทำงาน ถ้าว่ากันตามมารยาทแล้ว ที่ผมทำตอนนี้มันโคตรน่าเกลียด

“อดนอนที่ไหนมาจ๊ะ” พี่อิสถามผมเบาๆ

“เหนื่อยงานมั้งพี่ เลยง่วง....” 

“แล้วเมื่อคืนนอนที่ไหนมา พี่รอปิดประตูจนดึก” พี่อิสยังยิงคำถามต่อจนผมต้องเงยหน้ามองพี่เค้าว่าตอนนี้สีหน้าเค้าอยากรู้คำตอบจริงๆ หรือแค่หยอกล้อผม

“.....” 

“นัท ไปสนิทกับอ้นตอนไหนหรอ ทำไมพี่ไม่เคยรู้เลย” นี่มันวันตอบคำถามโลกของผมหรือไงวะครับ

“ไม่ได้สนิทหรอกพี่ แค่เคยคุยกันเวลามีงานน่ะ” 

“อืม... หรอจ้ะ” น้ำเสียงพี่อิสยังเต็มไปด้วยความสงสัย

“ไปนอนที่บ้านพักดีกว่าไหม พี่ว่าจะเข้าบ้านแล้ว” 

“ม่ายอ่ะ พี่ไปเหอะ เดี๋ยวผมตาม...” ผมโบกมือหยอยๆ ให้พี่อิส ทั้งที่ยังก้มหน้าฟุบกับโต๊ะเหมือนเดิม จนเสียงพี่อิสเงียบหายไป

“ทำไมต้องเป็นแบบนี้วะ ไอ้ห่าอ้น ไอ้เลว มีคนอื่นอยู่แล้ว มายุ่งกับกูทำไม...” ผมหลับตาพึมพำคนเดียวเพื่อระบายความในใจออกไปบ้าง ขืนเก็บไว้แม่งอึดอัดตายชัก

“ว่าไงนะพี่” ผมเงยหน้าขึ้นมาตามเสียงที่ถามผม

“เปรี้ยว....มะ มะ มาทำอะไรที่นี่” ผมถามด้วยความตกใจ แต่เปรี้ยวคงตกใจกว่า

“เอาหนังสือมาให้พี่เซ็นต์ วันนี้ครูโชยลาป่วยน่ะ” 

“เซ็นต์ตรงไหน เรื่องอะไร” 

“มี 2 เรื่องค่ะ ลองอ่านดู หนูก็ยังไม่ได้อ่าน” เปรี้ยวบอกพร้อมยิ้มตาหยี ทำให้ผมโล่งใจว่าเธออาจไม่ได้ยินอะไร

“พี่ทะเลาะกับพี่อ้นหรอคะ” 

“เปล่านี่ ทำไมถามงั้นอ่ะ” 

 “หนูได้ยินอ่ะ เอ๊ะ ยังไง” เปรี้ยวยิ้มมีเลศนัย

“อ้ะ เซ็นต์ครบแล้ว ไปทำงานต่อเลย” ผมดันแฟ้มหนังสือคืนเปรี้ยว แล้วฟุบหน้าทำไม่สนใจ

“มีอะไรก็รีบเคลียร์นะพี่ ทำตัวห่างมาก มันจะห่างกันจริงๆ ...ไปละ” แล้วเปรี้ยวก็เดินหายไป

 

ก็นั่นแหละครับ มันก็คือสิ่งที่ผมต้องการ

 

-------------------------------------------

 

ผมเปิดประตูเข้าบ้านพักมาก็พบกลิ่นแปลกๆ ภายในบ้าน จะว่าหอมก็ไม่หอม จะว่าตุๆ ก็ไม่เชิง ผมปิดประตูบ้านแล้วเดินเข้ามาในส่วนครัวพบพี่อิสถอดเสื้อโชว์หุ่นล่ำ กำลังเก้ๆ กังๆ ทำอะไรอยู่หน้ากระทะ

“มาแล้วหรอจ๊ะ? พี่เห็นว่านัทดูป่วยๆ เลยต้มข้าวต้ม ผัดผักบุ้งแล้วก็ทอดปลาสลิด เดี๋ยวมาทานกันนะ” พี่อิสหันมาขณะเหลือบมองกระทะเพราะกลัวน้ำมันกระเด็น

“นี่พี่นึกยังไงทำกับข้าวเนี่ย แล้วถอดเสื้อทำเนี่ยนะ ฮ่าฮ่าฮ่า”

“มันร้อนน่ะจ้ะ งั้นเดี๋ยวพี่ไปใส่เสื้อก่อนก็ได้ เดี๋ยวนัททานข้าวไม่ลง”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่เป็นไรพี่ ตามสบายเลย ผมขอไปเก็บของก่อน เดี๋ยวลงมาช่วยละกัน”

ผมเก็บของเสร็จก็รีบลงมาจากห้องเพราะคิดว่าการที่จะปล่อยให้พี่อิสทำกับข้าวคนเดียวคงไม่เหมาะเท่าไร แต่พอลงมาก็พบว่ากับข้าววางบนโต๊ะอาหารรอการมาของแขกเรียบร้อย ส่วนพี่อิสยืนล้างจานอยู่หลังบ้านด้านนอก พี่อิสยังคงไม่ใส่เสื้อ เผยให้เห็นแผงหลังล่ำแกร่งที่มีมัดกล้ามเนื้อสมส่วน มองเผินๆ พี่อิสน่าจะลำกว่าอ้นอยู่นิดหน่อย ผมยืนมองดูพี่เค้าล้างจานได้ความรู้สึกร้อนๆ ที่ผิวหน้า จนรู้ตัวอีกทีเจ้าของแผ่นหลังที่ผมจ้องมองก็ส่งเสียงเรียกผม

“นัท นั่งเลย แต่จะทานลงไหมเนีย เสื้อมันเปียกเหงื่อ พี่เลยไม่ได้หยิบมาใส่” แล้วพี่อิสก็เดินมานั่งลงตรงโต๊ะกินข้าว

“ไม่ถือๆ” ผมตอบไปเพราะตอนนี้หิวข้าวกว่าสิ่งใดๆ ในโลก  

“กินละนะ น่ากินจัง” ด้วยความหิว ผมจัดการตักข้าวต้มให้พี่อิส รินน้ำแล้วก็ตักผัดผักบุ้งกินอย่างเอร็ดอร่อย ผัดผักบุ้งเนี่ยอาหารโปรดผมเลย

“อร่อยไหม?”

“ก็ดีนะพี่ พี่ทำกับข้าวเป็นกี่อย่างเนี่ย”

“ที่ทำแล้วกินได้ก็ผัดผักบุ้งเนี่ยแหละ ชอบไหม” ผมพยักหน้าร้อยทีเห็นจะได้ เพราะปากไม่ว่างกำลังสูดผักบุ้งเข้าปาก

“งั้นพี่ทำกับข้าวให้กินทุกวันเลยเอาไม๊?” แล้วพี่อิสก็จ้องหน้าผม ขณะที่ผมเงยหน้าสบตาพี่อิส มันเนิ่นนานจนกระทั่ง

ซู๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด .... เสียงสูดผักบุ้งของผมทำลายความเงียบ

“เอ้าๆ งั้นทานเลย หิวเหมือนกัน นัททานน่าอร่อยจัง”

แล้วขณะที่เรากำลังทานข้าวกันอยู่ เสียงเคาะจากประตูหน้าบ้านก็ดังขึ้น มันถี่กระชั้นจนผักบุ้งจะติดคอผมตาย

“เดี๋ยวพี่ไปเปิดเองจ้ะนัท” พี่อิสว่าพลางเดินเปลือยท่อนบนไปเปิดประตูหน้าบ้าน ผมก็ยังนั่งจัดการข้าวในจานของผมอย่างเมามัน

“กินแบบนี้เดี๋ยวก็ติดคอตายหรอกพี่” เสียงโคตรคุ้น ผมหันมองต้นเสียงแล้วพบว่า

“ไอ้อ้น” ไอ้อ้นยืนยิ้มเผล่โดยมีพี่อิสเดินตามหลังมา

“ครับ ผมซื้อเป็ดพะโล้ของชอบพี่มาฝาก พี่อิสบอกกำลังทานข้าวกันพอดี งั้นผมขอกินด้วยละกันนะ” พูดจบมันก็นั่งแหมะตรงเก้าอี้ข้างๆ ผม

“ดีเลยจ้ะ ทานหลายๆ คน สนุกดี เดี๋ยวพี่เอาเป็ดไปแกะให้นะ” พี่อิสคว้าถุงเป็ดแล้วเดินไปในครัว

“ผมโทรหาพี่จะ 200 สายแล้ว มัวนั่งกินข้าวหวานกับผู้ชายหุ่นล่ำนี่เอง ถึงไม่รับสายผม”

“ไอ้อ้น...ไอ้สะ....”

“เป็ดมาแล้วครับเด็กๆ” พี่อิสเดินถือจานเป็ดมาวางตรงหน้าแล้วนั่งลงที่เดิมทำให้เสียงผมต้องหรี่เงียบลง ทันทีทีจานเป็ดวางลงไอ้อ้นก็รีบตักเนื้ออกเป็ดใส่จานผมทันที

“อ้ะ พี่ชอบกินเนื้อตรงอก ผมสั่งมาให้พี่ ค น เ ดี ย ว เลย” ทำไมมึงต้องเน้นตรงคนเดียวด้วยว๊า

“เพิ่งรู้นะครับ ว่านัทชอบทานเป็ด วันนี้พี่ก็ผัดผักบุ้งให้นัททาน นัทเค้าก็ชอบเหมือนกัน” ผมหันทองหน้าพี่อิส

“ผมก็เพิ่งรู้ว่าเวลาทำกับข้าวต้องถอดเสื้อทำด้วย”

“มันร้อนน่ะครับ เลยถอดเสื้อ คืนกำไรให้ลูกค้าไอ้อ้นชำเลืองมองหน้าผม ที่ตอนนี้ผมว่าหน้าผมคงซีดมาก มากที่สุดกับคำตอบที่ไม่คิดว่าพี่อิสจะตอบออกมา

“อีกอย่าง เวลาอยู่บ้าน ผมก็ถอดเสื้อแบบนี้ จนนัทเค้าชินแล้วครับครูอ้น ฮ่าฮ่าฮ่า” พี่อิสยังคงตอบยียวนจนคนฟังที่เคยหน้าขาวๆ บัดนี้หูแดงอย่างเห็นได้ชัด 

ครับ มันร้อนจริงๆ ครับ อุณหภูมิห้องตอนนี้ มันร้อนจริงๆ ร้อนจนผมต้องปาดเหงื่อเลยครับ

 

To be continue

ตอนนี้ทีแรกจะอัพตั้งแต่เมื่อ 2 วันที่แล้ว แต่บังเอิญมาป่วยซะก่อน พอเริ่มดีขึ้นก็อัพเลย
ช่วงหลังๆ มานี่ ครูนัทเองก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ กับคตัวเองและคนรอบข้าง
ครูอิสเองก็มีท่าทีแปลกๆ อีกครั้ง ส่วนอ้น บอกเลย ตามไม่ละสายตาแน่ๆ
ตอนหน้าจะมีตัวละครเข้ามาบทบาทสำคัญอย่างมาก
อยากให้ติดตามกันนะครับ

ขอบคุณนะครับ สำหรับการติดตาม ดีไม่ดี อย่างไร ติชมได้น้า

น้อมรับคำวิจารณ์ครับ


 รักคนอ่านนะครับ 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา