LOVE YOU! รักกว่านี้ มีอีกมั้ย?

9.9

เขียนโดย BlacXRabbiT

วันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 22.13 น.

  16 chapter
  11 วิจารณ์
  20.59K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 มีนาคม พ.ศ. 2558 21.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) ง้อ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Chapter 4ง้อ

 

            หลังจากที่หนังจบ ผมดันตัวออกจากตักของของลี ยอมรับเลยว่าผมโกรธมันมาก! ผมรู้ด้วยว่าทำไมสองแถวหลังถึงไม่มีคนนั่ง ผมว่าลีมันต้องเหมาทั้งสองแถวไว้แน่ๆ รวยๆอย่างทำแค่นี้ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก

            “กัส” ลีเรียกผมที่เดินลิ่วๆออกจากโรงหนัง มันดึงแขนผมไว้ บอกขอโทษผมไม่หยุด มันก็รู้ว่าผมอาย แต่มันก็ยังทำ ผมว่ามันไม่ได้ชอบอะไรผมหรอก มันก็แค่อยากแกล้งผมซะมากกว่า

            “ปล่อยกูได้ละ กูจะกลับ!” ผมสะบัดแขนออกจากการกุม แต่ลีก็ยังคงไม่ปล่อย

            “มึงจะกลับยังไง? ไหนบอกไม่ได้เอาตังค์มา”

            “กูมีขา เดินกลับเองได้”

            “แต่บ้านมึงไม่ใช่ใกล้ๆนะ ถ้าจะกลับเดี๋ยวกูไปส่ง” ลีคว้าแขนผมไว้แล้วพูด มันยังคิดว่าผมจะไว้ใจมันได้อีกเหรอ ดูมันทำกับผมดิ ถ้าเกิดมีใครสักคนเห็นล่ะก็ ผมจะอายขนาดไหน อย่างไอ้ลีน่ะ ต่อให้มากกว่านี้มันคงไม่รู้สึกอะไรหรอก หน้าด้านอย่างมันน่ะ!

            “ไม่!” ผมตะคอกเสียงดัง จนอื่นๆหันมามอง ลีจ้อมผมเขม็งจนผมเริ่มจะกลัว ก่อนที่จะอุ้มผมพาดบ่า เดินไปที่ลานจอดรถ ยัดผมใสรถ หัวผมกระแทกหลังคาดังปัก ไอ้เชี่ยนี้!

            “ถ้ามึงลุกออกมานะ กูปล้ำมึงตรงนี้นี่แหละ” ลีพูดเสียงเย็น ผมที่กำลังจะลุกออกก็หดตัวกลับมานั่งลงตามเดิม

            รถแล่นออกไปแล้ว ผมเบ๊ปาก น้ำตาคลอเบ้า รันทดกะชีวิต แม่ง ทำไมผมต้องโดนทำอะไรแบบนี้ด้วย ไอ้ลี ไอ้ชั่ว ไอ้เลว! กูขอให้ตามึงตี่ลงเรื่อยๆจนมองไม่เห็น ไอ้ตาแคบ ไอ้ตาเส้นด้ายยยยย!

            “กูขอโทษ มึงก็รู้ กูชอบทำอะไรแผลงๆอ่ะ อีกอย่างก็ไม่มีใครเห็นซะหน่อย” ลีพูดเสียงจริงจัง หึ! ต้องให้มีคนเห็นก่อนใช่มะกูถึงมีสิทธิ์โกรธน่ะฮะ?! ไอ้หื่นกาม!

            “อย่าเงียบดิ ด่ากูก็ได้” ทำมาเป็นพูดว่าด่ากูก็ได้ อะโด่ กูลองด่ามึงให้ได้ยินดิ กูคงได้กลายเป็นศพก่อนวัยอันควรแน่ กูถึงได้ด่ามึงในใจนี่ไง ไอ้เชี่ย!

            “กัส ด่ากูดิ จะทุบจะตีกูก็ได้ แม่งเงียบงี้กูไม่ชอบอ่ะ” หึ! ทำเป็นพูดดี กูก็อยากกระทืบมึงจนใจจะขาดตายอยู่แล้ว แต่กูลองทำดูดิ ศพกูคงกลายเป็นหมูสับ ไม่ดิ คนสับ! เป็นแน่แท้แบบไม่ต้องสงสัย

            เมื่อเห็นว่าผมไม่ตอบเอาแต่เงียบมองออกไปนอกกระจก ลีก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วขับรถไปเงียบๆจนกระทั่งถึงบ้าน ผมลงรถได้ก็เดินเข้าบ้าน ปิดรั้ว ล็อกกุญแจ แล้วมองหน้ามัน

            “ ไอ้ตาตี่ ไอ้ไส้ติ่งหมา ไอ้ชั่ว เลวระยำ มึงทำกะกูยังงี้ได้ไง ไปตายแล้วเกิดใหม่ไป๊ มึงจะหื่นกามไปไหนฮะ ไอ้ตาแคบไม่มีจะมองโลก ไอ้สมองเท่าเม็ดงาพิการ มึงคิดวิธีอุบาทว์ๆแบบนั้นได้ไงฮะ คิดได้งั๊ยยย ไอ้ลำไส้ใหญ่ ตับไตพิการ สันดานชั่ว มั่วเซ็กส์ ถุย ไม่เกี่ยว ไอ้ตับอ่อนเป็นตะคริว!!!!” ผมด่าเสร็จก็หันหลังพุ่งเข้าบ้านก่อนที่ไอ้เชี่ยลีมันจะปีนรั้วเข้ามาขย้ำคอผม =_=

            ผมปิดประตูห้องเสียงดังปัง แล้วก็ได้ยินเสียงรถวิ่งออกจากหน้าบ้านไป ผมคิดสภาพตอนที่วิ่งเข้าบ้านไม่ทันออกเลย แต่ช่างดิ ใครจะหาว่าผมขี้ขลาดไม่กล้าเผชิญหน้า แอบอยู่หลังรั้วก็ช่าง ต่อให้คุณเป็นแรมโบ้ ไอ้ลีมันก็จะแปลงร่างเป็นก็อซซิล่า มาขย้ำคุณอยู่ดี!

            ผมถอดกางเกง ถอดเสื้อโยนใส่ตะกร้า หยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ อาบน้ำจนเสร็จก็ใส่เสื้อยืดตัวใหญ่จนหลวมกับกางเกงขายาว ล้มตัวลงนอน อยากจะบ้าตาย

            นอนหลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ ผมตื่นตอนที่พี่กันขึ้นมาเรียกให้ลงไปกินข้าว ผมก็บอกไปว่าไม่กิน กลับมานอนต่อ ดูนาฬิกา หนุ่งทุ่ม ผมนอนไม่หลับหลังจากที่นอนมาหลายชั่วโมง จึงคว่ำหน้าลง ซุกกับหมอน

            ไอ้เชี่ยลี แม่งนิ ทำกูได้เจ็บแสบมาก อ๊ากกกกกกก!!!!!-///-

 

            เสาร์อาทิตย์ผ่านไป ไวจนน่ารำคาญ ผมเรียนหนังสือโดยที่ไม่สนใจไอ้ตัวที่อยู่ข้างหลัง ไม่ว่ามันจะเตะขาเก้าอี้ผม เอาสมุดเคาะหัวผมหรือกระทั่งเดินมาสะกิดตอนเปลี่ยนวิชาเพื่อเรียกร้องความสนใจ อย่างตอนนี้ที่มันเอาคางมาเกยขาผมโดยที่ไม่อายสายตาคนในห้อง ไม่รู้รึไงว่าสร้างศัตรูให้ผมโดยไม่รู้ตัว เอ๊ะ หรือรู้ตัวแต่ตั้งใจ ดูเหมือนจะเป็นอย่างหลังมากกว่า

            “กัสจังครับ ไปกินข้าวกับลีนะ” มันนั่งกับพื้นเอาแขนคล้องขาผม เอาคางถูๆแถวต้นขา นี่ขนาดกูโกรธมึงอยู่มึงยังหื่นได้อีกนะ!

            “ฮู่ววว ลงทุนอ่ะ” ได้ยินเสียงนนท์นี่ลอยมาเบาๆพร้อมกับเสียงผิวปากอย่างชอบใจจากนิกกี้

            ผมลุกขึ้นดึงขาออกจากแขนมัน อยากเตะแต่ไม่กล้า เชี่ยนี่ก็เหนี่ยวจริงอะไรจริง กอดไม่ปล่อยจนผมต้องลากขาออกมาได้เมตรนิดๆก็รู้สึกเหนื่อย มึงจะเอาอะไร้?!

            “เชี่ยลี กูหิวข้าว”

            “ไปกะกูดิ ถ้ามึงไม่ตกลงเพราะเพื่อนกูเยอะไป กูไล่มันไปกินที่อื่นก็ได้นะ นะๆๆๆ” ผมไม่อยากบอกเลยว่าโหดๆอย่างลีเวลาทำตัวอ้อนแล้วดูอ้อนไม้อ้อนมือชอบกล

            “อยู่กะมึงสองคน สักวันกูต้องเสียตัวแน่ ถ้าจะไปก็รีบลุกได้ละ กูหิว!” ตลอดเวลากินข้าว ไอ้แม่งพล่ามอะไรไร้สาระไม่หยุด ไอ้ผมก็ฟังอยู่แต่ทำเป็นไม่ได้ยิน

            “โอ๊ย” ลีร้องเสียงดัง เมื่อนั่งกินข้าวอยู่ดีๆถ้วยน้ำซุปร้อนๆก็ถูกเทลงบนหลังของมัน เพื่อนๆของลีรวมทั้งตัวมันลุกฮือ นนท์นี่ผลักอกของรุ่นพี่คนหนึ่ง ถ้าดูดีๆเหมือนจะเป็นพี่คนที่บอกขอคบกับผมเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ผมว่าน่าจะเป็นคนคนเดียวกัน

            “ไอ้บาส มึงมีปัญหาไรกะเพื่อนกูวะ!” นิกกี้ตะคอก คนทั้งโรงอาหารมองที่พวกเราเป็นตาเดียว ลีเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มบ่งบอกความหงุดหงิด มือก็จับที่หลังที่โดนน้ำลวก

            “เอ่อ มันเป็นอุบัติเหตุ” พี่ที่ชื่อบาสพูดเสียงเรียบ

            “เหตุพ่อง โต๊ะมึงอยู่โน่น มึงจะเดินเลาะมาที่นี่ทำไม แล้วกูก็ไม่เห็นว่าจะมีใครหรือหมาตัวเดินไปเตะขามึงซักคน รึมึงเตะขาตัวเอง ฮะ!” ไอซ์ตะคอกอีก ผลักอกอีกฝ่าย พี่บาสก็เริ่มเดือดผลักอกไอซ์คืน คราวนี้เทมส์ที่ดึงแขนไอซ์ไว้เมื่ครู่ ออกหมัดขวาใส่หน้าพี่บาสเต็มๆจนล้มลง

            เพื่อนพี่บาสเห็นก็แห่กันมาที่โต๊ะเรา พวกเขามีกันเยอะกว่า คราวนี้ก็ตะลุมบอนกันสิครับ! ดูเหมือนพี่บาสกะลีจะมีความแค้นส่วนตัวกันมาก ไปเดี่ยวกันเฉย ก่อนที่ลีจะโดนเพื่อนที่บาสต่อยหน้าจนเซไปพิงโต๊ะ

            ผมเห็นดังนั้นก็โกรธพี่บาสกะเพื่อนตงิดๆ โดยเฉพาะพี่คนที่ต่อยลี ถึงตอนแรกผมจะอยากให้ใครต่อยมันโดนซักหมัดสองหมัดก็เถอะ แต่เอาเข้าจริง ผมก็ใจหายวาบ รีบพุ่งเข้าไปดึงลีที่พุ่งเข้าไปจะต่อยหน้าคนที่ต่อยตัวเองเมื่อครู่

            “ปล่อยกูนะ” ลีพูดสะบัดแขนจะเข้าไปต่อ แต่ผมก็ดึงแขนลีไม่ปล่อย ใช้แรงทั้งหมดลากมันออกจากกลุ่ม

            “มึงบ้ารึไง ไปต่อยกะเค้าทำไมฮะ?!” ผมตะคอก

            “ไอ้เชี่ยนั่นต่อยกูก่อนอ่ะ” ลีพูด แต่ผมก็ลากมันออกมา มันก็ขืนจะเข้าไปต่อ แรงผมก็สู้มันไม่ได้ ผมลากมันไปได้ก้าวเดียว ไอ้เชี่ยนี่ขืนตัวมาได้ตั้งสองก้าว

            “ลี!” ผมเรียกชื่อมัน ลีหันมามองผม ก่อนที่จะเดินตามแรงที่ผมลาก ผมดึงข้อมือลีเดินไปที่ห้องพยาบาลอาจารย์ก็ไม่อยู่ ผมพาลีไปนั่งที่เตียงบอกให้มันถอดเสื้อออก

            “หืม ฮั่นแน่ อยากจะต่อจากวันก่อนก็ไม่บอก” ว่าแล้วก็ถอดเสื้อนักเรียนออก

            “ต่อพ่องสิ หันหลัง” ลีทำปากขมุบขมิบแล้วหันหลัง ตั้งแต่ช่วงไหล่ลงมาจนถึงกลางหลังแดงเถือก ผมเอากะละมังไปใส่น้ำ เอาผ้าชุบแล้วเช็ดที่หลัง

            “อ้า รู้สึกดีจัง >_<” ลีแม่งทำตัวกระดี้กระด้าจนน่าหมั่นไส้

            “ดีพ่องสิ เจ็บตัวแล้วยังไม่เจียม”

            “อ้ะๆๆๆ พูดถึงญาติผู้ใหญ่ยังงี้ได้ยังไง ไม่ดีนะจ้ะ”

            “=_= ”

            “กัส หายโกรธกูแล้วเหรอ” แล้วอยู่ๆลีก็ทำเสียงจริงจัง หันหน้ามามองผม แล้วจับมือผมขึ้นลูบๆ ทำหน้าแบ๊ว รู้สึกใจเต้นตึกตัก -///-

            “ยัง” ผมพูดกระแทกเสียง แล้วบอกให้มันหันหลัง ไอ้เชี่ยนี่ก็มึน บอกให้หันหลังแล้วยังจ้องตาเป็นประกายอีก

            “แต่กูดีใจนะ ที่มึงเป็นห่วงกูอ่ะ”

            “ไม่ได้ห่วงซะหน่อย อย่ามาหลงตัวเอง -///-” ผมพูดจบแทนที่ลีมันจะหันหลังให้ กลับล้มตัวลงนอนหนุนตักผมซะงั้น

            “ไม่ห่วงแล้วลากกูออกมาทำไม ไม่ปล่อยให้กูอยู่กระทืบมันต่ออ่ะ” ลีว่าแล้วหอมหลังมือผมทีนึงแล้วก็หงายขึ้นมาจูบที่กลางฝ่ามือ หน้าผมร้อนฉ่า ไอ้บ้านี่

            “แสบหลังว่ะ” แล้วมันก็บ่น ตอนกูจะทำให้แม่งลีลา

            “ลุกดิ เดี๋ยวกูไปเอาว่านหางจระเข้มาทาให้” ผมดันหลังลีมันก็ไม่ยอมลุก ผมเลยดึงตัวเองขึ้นพรวด ตัวมันตกใส่เตียงทันที มันก็เลยผลิกตัวลงนอนคว่ำ

          “โรงเรียนเรามีด้วยเหรอวะ” อ้าว นี่มึงไม่เคยรู้อะไรเลยใช่มะ?

            “อ้อ ชีวิตนี้มึงคงเคยไปแต่ตึกมอหกล่ะสินะ ว่างๆก็หัดไปเดินเล่นแถวแปลงเกษตรมั่งนะไอ้ตี่!” พูดจบผมก็เดินหนีลีออกมาจากห้องพยาบาล

 

……………………………………………………………

 

To be continued

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา