LOVE YOU! รักกว่านี้ มีอีกมั้ย?

9.9

เขียนโดย BlacXRabbiT

วันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 22.13 น.

  16 chapter
  11 วิจารณ์
  20.58K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 มีนาคม พ.ศ. 2558 21.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) กูบอกว่าไม่สบายเว้ย!

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Chapter 5 กูบอกว่าไม่สบายเว้ย!

 

            ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ผมกลับเข้ามาที่ห้องพยาบาล ในมือถือว่านหางจระเข้สีเขียวๆมาด้วย ผมเดินเข้าไปหาไอ้ตาเส้นด้าย เปิดประตูเข้าไปก็ต้องสะดุดกึก เพราะข้างๆมันมีรุ่นพี่สาวสวยคนหนึ่งนั่งเช็ดหลังมันอยู่บนเตียง

            รุ่นพี่คนนั้นมองผม รู้สึกเหมือนรู้จักแฮะ เหมือนเคยเห็นหน้าที่ไหนสักที่ในโรงเรียนนี่แหละ อืม อ้อ พี่แพร รองประทานชมรมเชียร์รีดเดอร์น่ะเอง เกือบจำไม่ได้

            “เอ่อ โทษที แค่เอานี่มาให้น่ะ” ผมพูดแล้วยื่นว่านหางจระเข้ให้พี่เขา พี่แพรรับไปแล้วส่งยิ้มให้ผม

            “กัส กูไม่ได้..”

            “ผมไปเรียนต่อนะครับ” ลีพูดยังไม่ทันจะจบ ผมก็ขัดขึ้นก่อนแล้วเดินออกจากห้องไป ลีทำท่าว่าจะลุกเดินตามมาแต่ถูกพี่แพรกอดแขนรั้งตัวเอาไว้

            รู้สึกแปลบๆในใจชอบกลแหะ

 

[ Lee’s part ]

 

            หลังจากที่ไอ้ตัวเล็กที่น่ารักของผมบอกว่าจะไปเก็บว่านหางจระเข้มาให้ผมแล้วก็เดินออกจากห้องไปโดยที่ไม่วายกัดผมเล็กน้อย พี่แพร สาวสวยรองประทานชมรมเชียร์รีดเดอร์สุดเซ็กซี่ ก็มาหาผมที่ห้องพยาบาล ข่าวไวดีจังเลยวุ้ย

            “ลี พี่ได้ข่าวว่าเธอถูกน้ำร้อนลวก เป็นอะไรมากรึเปล่า” พี่แพรนั่งลงข้างผมที่นอนคว่ำอยู่ ผมหันไปมอง ต้องรีบกำจัดพี่คนนี้ออกไปจากห้องก่อนที่ออร์กัสจะกลับมา ไม่งั้นผมซวยแน่

            “อ่า จิ๊บๆครับ ผมไม่เป็นไร” ผมตอบยิ้มๆทั้งที่จริงแล้วแสบจะตายอยู่รอมร่อละ

            “ทำไมเดี๋ยวนี้ไม่รับโทรสัพท์พี่เลยล่ะ” แล้วก็เปลี่ยนเรื่องเฉยเลยอ่ะ แล้วจะให้ผมตอบไงอ่ะ ผมเบื่อพี่แล้วครับ เลิกมาวุ่นวายกะผมซักทีงี้เหรอ ดูใจร้ายไปหน่อยนะ

            “ผมไม่ค่อยว่าง นี่ก็ใกล้จะได้เวลาเข้าเรียนแล้วนี่ครับ ตึกมอหกอยู่ตั้งไกลถ้าไม่รีบไปเดี๋ยวเข้าเรียนสายนะครับ” ผมพูดยิ้มๆ

            “อะไรกัน ไล่พี่แล้วเหรอ ลีใจร้ายจังนะ” พี่เขาว่าหน้างอนๆ ถึงผมจะเริ่มเบื่อแต่ถ้าแก้ขัดก็พอไหวอยู่ผมจึงยังไม่ออกปากไล่โต้งๆ

            “เปล่าครับผมแค่ห่วง”

            “ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวพี่เช็ดให้นะ” ว่าแล้วก็หยิบผ้าผืนเล็กในกะละมังใบที่กัสเป็นคนเอามาวาง พี่แพรเช็ดที่หลังของผมเบาๆแต่ในใจของผมนี่อยู่ไม่สุขละ ถ้ากัสกลับมาเห็นสภาพนี้นะ มีหวังเข้าใจผิดอีกชัวร์เลย

            “พี่แพรครับ ไม่เป็นไรหรอกครับ คือ”

            “ไม่รู้ล่ะ พี่จะทำ” อะไรฟะ พวกผู้หญิงนี่ ผมกำลังจะอ้าปากห้ามอีกรอบ ประตูห้องพยาบาลก็เปิดออกเผยให้เห็นเด็กหนุ่มสวมแว่นถือว่านหางจรเข้อยู่ในมือ มองมาทางพวกเราอย่างตกใจนิดๆ ผมเห็นมันตัวสั่นหน่อยๆก่อนจะพูด

            “เอ่อ โทษที แค่เอานี่มาให้น่ะ” ซวยละไงกู

            “กัส กูไม่ได้..”

            “ผมไปเรียนต่อนะครับ” ผมพูดยังไม่ทันจบไอ้เตี้ยนี่ก็พูดแทรกผมแล้วหันหลังเดินออกไปจากห้องทันที อ้าวเฮ้ย ผมรีบลุกขึ้น กำลังจะก้าวขาตามไปแต่พี่แพรก็คว้าแขนผมไว้ก่อน

            “จะรีบไปไหนน่ะ ลี” อ๊าก อยากบ้าตายเว้ยเฮ้ย จะมาเกาะแขนกูทำม้าย ว่าที่เมียวิ่งไปนู่นแล้วนะเฮ้ย

            ผมสะบัดแขนที่ถูกเกาะออกแล้วหยิบเสื้อเดินออกจากห้องพยาบาล แสบหลังก็แสบแต่ทำไงได้ล่ะ ผมสวมเสื้อขณะเดินตามทางเดินกลับไปที่ห้อง อีกห้านาทีก็หมดเวลาพักเที่ยงแล้ว

            “กัสล่ะ” ผมถามพวกไอ้นิกกี้ เมื่อเดินเข้าห้องมาไม่เห็นกัส

            “โหย ไอ้เชี่ยลี เข้ามาปุ๊บก็ถามหาเด็กเลยนะ ทีพวกกูละไม่เห็นถาม” ไอ้ไอซ์ที่แปะพลาสเตอร์รูปเต่าน้อยสีเขียวใต้ตาพูด

            “พลาสเตอร์มึงแบ๊วมาก ไม่ได้จะเข้ากะหนังหน้ามึงซักนิดอ่ะเชี่ยไอซ์” ผมว่าหน้าเซ็งๆ

            “ของไอ้เทมส์มันนู่น ไม่เกี่ยวกะกู” มันว่าแล้วชี้หาไอ้คนที่นั่งอยู่ข้างมันอื้อหือ ของไอ้เทมส์ ตัวโตยังกะควายละดันพกของน่ารัก นี่ถ้ากูไม่ใช่เพื่อนมึงนะ

            “ของผัวมึงก็เหมือนของมึงนั่นแหละทำเป็นพูดมาก ไอ้กัสไปไหน” ใช่ครับ ไอ้สองตัวนี้มับแอบกิ๊กกันโดยที่ไม่บอกใคร นี่ถ้าไม่จับพิรุธมันนะ ชาตินี้มันจะบอกผมรึเปล่าก็ไม่รู้

            “กลับบ้านแล้ว” เมื่อไอ้ไอซ์ทำหน้างอไอ้เทมส์ก็เป็นฝ่ายตอบแทน ส่วนไอ้แฝดสองตัวนั่นกำลังโซ้ยแหลก เห็นแล้วกูหิวตามเลย แม่งกินได้ไม่กี่คำเอง คอยดู เดี๋ยวเราได้เจอกันแน่ไอ้บาส!

            “กลับได้ไงวะ” หงุดหงดเว้ย นี่ขนาดผมรีบตามมาแล้วนะ ไหงไปไวจังวะ

            “กูจะไปรู้มั้ย ถามหัวหน้าห้องดิ” ไอ้ไอซ์พูดพลางบุ้ยไปที่หน้าห้อง ผมเดินไปหากานติมาทันที

            “กานต์ ไอ้กัสกลับบ้านได้ไง” ผมถามเสียงเรรียบ แต่หน้านี่หงุดหงิดสุดขีดอ่ะ

            “กัสบอกว่าไม่ค่อยสบาย ขอกลับก่อน” เท่านั้นล่ะ ผมก็เดินออกจากห้องตรงไปยังหน้าโรงเรียน เห็นหลังมันอยู่ไกลลิบๆ แล้วก็เลี้ยวออกจากหน้าประตูไปต่อหน้าต่อตาผม เชี่ยกัส! แม่ง เห็นขาสั้นๆ ทำไมเดินเร็วจังฟะ!

            “จะออกไปไหนน่ะ” ผมหยุดกึก เมื่อยามหน้าโรงเรียนขวางทางแล้วถามเสียงเข้ม

            “ผมรีบ ลุง ขอทางหน่อย” ผมพูดแล้วก็จะเดินต่อ แต่ลุงยามก็ทำหน้าที่ได้ดีเหลือเกิน จับแขนผมไว้ซะงั้น

            “นี้เวลาเรียน ถ้าจะออกไป เอาใบลามาดูหน่อยสิ” วุ้ย ผมหน้างอ แล้วหันหลังเดินกลับไปสี่ห้าก้าว ลุงยามกำลังจะเดินไปนั่ง ผมหมุนตัวร้อยแปดสิบองศา วิ่งผ่านหน้าลุงยามไป แล้วกระโดดข้ามรั้วกั้นที่สูงถึงหน้าอกไปอย่างไม่ยากเย็น

            “เฮ้ จะออกไปไหนน่ะ!” บ๊าย บาย ซาโยนาระเน่อ ผมรีบสาวเท้าตามไอ้กัส อีกร้อยเมตรก็จะถึงตัวมันแล้ว ถามว่าทำไมผมถึงไม่เรียกมันน่ะหรือ ก็เพราะว่าถ้าเกิดส่งเสียงออกไป มันต้องวิ่งหนีผมชัวร์ เพราะงั้น หลังจากที่ตามมาได้จนอีกแค่ยี่สิบเมตรเท่านั้น ไอ้เตี้ยก็รู้ตัว มันหันมามอง แล้วโกยแนบ มึง!

            “เชี่ยกัส มึงหยุดนะ!” ผมตะโกน

            “หยุดพ่อง มึงก็หยุดเองเดะ!” มันตะโกนกลับมาขณะเลี้ยวเข้าซอยซอยหนึ่ง

            “แล้วมึงจะหนีกูทำไมฮะ!?”

            “ก็แล้วมึงจะตามกูทำไมอ่ะ!?” อ้าวย้อน

            “ก็มึงจะกลับบ้านทำไมวะ!?”

            “แล้วกูจะกลับมันหนักหัวมึงไง!?” ไอ้เชี่ยกัส อย่าให้กูจับได้นะ!

            “เออ!” ระยะห่างเหลือเพียงเมตรนิดๆ ผมยื่นมือออกไปหวังคว้าคอเสื้อมัน อีกนิดดียว อีกนิดนะ

            “โอ๊ย ปล่อยกูนะ!” กัสร้องแล้วดิ้น ตอนที่ผมคว้าคอเสื้อมันได้ กัสหงายหลังดีที่ผมไว ใช้มืออีกข้างคล้องเอวมัน และปล่อยมือที่จับคอเสื้อไปคว้าเสาไฟข้างถนนกันล้ม เพราะฉะนั้น ตอนนี้พวกเราเลยกอดกันกลมอยู่ข้างเสาไฟฟ้า

            “มึงก็หยุดดิ้นดิ” คนบนฟุตบาทมีไม่ค่อยเยอะ แต่รถนี่ดิ เต็มถนนเลย มึงอยากดิ้นก็ดิ้นไป กูหน้าด้าน ไม่อายหรอกนะ

            “มึงก็ปล่อยดิ”

            “มึงหยุดก่อนดิ”

            “มึงก็ปล่อยยกูก่อนดิ”

“มึงหยุดเมื่อไหร่กูก็ปล่อยมึงเมื่อนั้นแหละ”

            “ไอ้ลี ปล่อยกูนะ คนมองเต็มเลยไม่เห็นไง?” ไอ้กัสโวยวาย แต่ก็ยังดิ้นไม่เลิก เออเนอะ ดิ้นเข้าไป

            “เออ ดิ้น ดิ้นเข้าไป ดิ้นเข้าไปอีก มึงรู้มั้ย ว่าที่ทุกครั้งที่มึงดิ้นน่ะ มึงโดนมันอยู่นะ” ผมพูด ไอ้กัสก็แงะมือผมอยู่นั่น รู้ว่าทำไม่ได้แล้วยังจะซ่าส์

            “โดนไรของมึง?”

            “น้องกู” เงียบสิครับ หลุดดิ้นด้วย วุ้ย ลีน้อยนี่ก็ขลังแฮะ

            “ปล่อยกูดิ” มันพูดเสียงอ่อย ผมค่อยๆคลายแขนออกจนมันเป็นอิสระ มันทำท่าจะวิ่งอีก ผมก็คว้าหมับเข้าที่คอเสื้อมัน

            “ถ้ามึงหนี กูจะจูบมึงโชว์ต่อหน้าประชาชีกลางถนนนี่แหละ เอาเดะ” กัส หันมามองผม กัดริมฝีปาก อั๊ยยะ เห็นแล้วอยากจับจูบจริงจริ๊ง

            “มึงจะตามกูมาทำไม”

            “ก็มึงกำลังเข้าใจกูผิดนี่ กูก็ตามมาเคลียร์ดิ” ผมจูงข้อมือกัสให้เดินตามไป ผมโบกแท็กซี่ แล้วลากมันขึ้นมา มันขัดขืนเล็กน้อยแต่ก็ตามมาจนได้ สรุปคือ มึงจะขัดขืนกูทำเพื่อ

            “ไปที่คอนโดxxxxครับ” ผมบอกคนขับแล้วก็ต้องหันไปมองไอ้คนพูดมากที่แว้ดๆอยู่ข้างหูผมเนี่ย

            “มึงจะพากูไปไหนน่ะ?”

            “ก็บอกว่าไปแล้ว จะถามอีกทำไมวะ” ผมพูดแล้วเบือนหน้าหนี

            “พี่ครับ ช่วยจอดหน่อยครับ” กัสหันไปบอกคนขับ

            “ไม่ต้องจอด ขับต่อไป ถ้าซิ่งอีกหน่อย ผมให้เงินเพิ่ม” ผมพูดแล้วยักคิ้วหลิ่วตาให้ เมื่อความเร็วของรถเพิ่มขึ้น

 

[ End Lee’s part ]

           

            ผมเม้มปากแน่น ไอ้ลี มึงจะตามกูมาทำไมวะ ไม่ไปอยู่กะพี่แพร เด็กมึงอ่ะ ไอ้มาร ไอ้ปีศาจไม่มีตา โธ่เว้ย

            “อย่านอยด์น่า ยิ้มดิๆ” ไอ้ตาตี่ลีพูดแล้วดึงแก้มผมจนย้วย แม่งเจ็บ!

           

            ผมเงียบมาตลอดทางที่รถแล่นจนมาจอดอยู่หน้าคอนโดแห่งหนึ่ง ซึ่งผมว่าก็คงเป็นของมันอ่ะแหละลี่จ่ายค่าแท็กซี่ หลังจากที่ฉุดกระชากลากถูกันนานผมก็ถูกไอ้ตี่นี่แบก ย้ำว่าแบก! ขึ้นลิฟไปที่ชั้นสิบสาม (โห มึงเลือกชั้นได้บรรเจิดมาก!) ซึ่งผมเองก็โวยวายตลอดทาง

            ตุบ!

            ลีเหวี่ยงผมลงบนเตียงดับเบิ้ลเบดสีเทา ถึงเตียงจะนุ่ม แต่เล่นทุ่มลงมาขนาดนี้มึงเอาสปตามาสับหัวกูเถอะ เจ็บชิบ!

            “ไรของมึง ลากกูมาห้องมึงทำไม” ผมแหกปากทันทีที่ตั้งตัวได้ มันมองผมนิ่งๆ อะไรวะ วันนี้มึงมาหลายอารมณ์นะ -_-

            “แล้วมึงคิดว่าทำไมล่ะ?” เอ้า ไอ้นี่ พูดจบลีก็เข้ามาประชิดจนผมต้องเอนตัวลงเรื่อยๆจนนอนราบไปกับเตียง แล้วมันก็ขึ้นคร่อมผม มึงคงไม่คิดจะทำอะไรแบบที่มึงถนัดกะกูตอนนี้หรอกนะ -0-

            “เฮ้ย ลุกออกไปนะ!” ผมทั้งร้องทั้งดิ้นทั้งผลักทั้งดันทั้งถีบ แต่แม่งไม่มีขยับอ่ะ จะแรงควายไปมะ?

            “มึงหนีกูทำไม” ผมหยุดกึกเมื่อมันไม่ได้โน้มลงมาใกล้มากไปกว่านี้ แล้วยังถามด้วยเสียงเรียบๆ

            “กะ กูไม่ได้หนี กูไปหนีมึงตอนไหน” ผมพูดเบาๆ

            “ห๊า ไม่ได้หนี แล้วที่มึงหอบกระเป๋าวิ่งกลับบ้านนั่นอ่ะ?” ลีขึ้นเสียงสูง เมื่อกี้มึงยังเสียงเรียบอยู่เรยนะ

            “ก็กูไม่สบาย” ผมตอบเสียงอ้อมแอ้ม

            “หือ เรอะ ไหนๆ” แล้วมันก็เอามือมาทาบกับหน้าผากของผม ก่อนจะหรี่ตาแล้วพูดต่อ

            “ตัวแม่งก็ไม่ร้อนนี่ รึมึงเป็นไข้ใจ? ^_^” มันพูดเสียงกระดี๊กระด๊า อารมณ์มึงเปลี่ยนไวเนาะ เหมือนประจำเดือนมาไม่ปกติงั้นแหละ

            “ไข้ใจพ่องเหอะสัส ลุกออกจากตัวกูไปได้แล้ว กูจะกลับบ้าน” ผมดันมันออก แต่ลีกลับชักสีหน้าเล็กน้อยแล้วพูดเสียงอ่อน

            “กูกะพี่แพรไม่ได้เป็นอะไรกันนะกัส” เหอะ กอดซะหน้าอกจะรวมร่างกะแขนมึงอยู่ละ ยังมาบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน หลอกเด็กไป๊แต่พูดแล้วแม่งก็จี๊ด หุบปากไปเลยมึง

            “เหอะ แล้วมึงมาบอกกูทำไม” ผมบอกแล้วเบนหน้าหนี

            “ก็มึงกำลังเข้าใจกูผิดนี่” มันว่าต่อ มีเหตุผลอะไรให้กูเข้าใจผิด แม่งเห็นเต็มสองตาขนาดนั้นน่ะ

            “กูไม่ได้เข้าใจอะไรผิด มึงจะคบกะใครก็ไม่เกี่ยวกะกู แล้วกูก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกะมึง ต่อให้กูเข้าผิดจริงมึงก็ไม่เห็นจะต้องแคร์นี่” ลีมองผมนิ่งๆ

            “ทำไมจะไม่เกี่ยว มึงเป็นแฟนกู จำไม่ได้แล้วเหรอ?”

            “หึ! แขนมึงก็ไม่ได้เจ็บจริงซะหน่อย สัญญาเป็นโมฆะ!” ผมว่า ก่อนที่ลีจะตะคอกสวนขึ้นมา

            “ไม่!”

            “อะไรของมึง กูไม่เห็นจะเข้าใจมึงเลย แฟนมึงมีเป็นร้อย มีแต่พวกสวยๆทั้งนั้น กูมันก็แค่ไอ้แว่นงี่เง่า มีดีอะไรให้มึงมาชอบกูฮะ!” ผมพูดเสียงดัง

            “ไม่ใช่แฟนเว้ย นั่นแค่กิ๊ก!” เอ่อ มึงพูดได้เต็มปากเต็มคำดีเนอะ

            “หา กิ๊ก กิ๊กพ่อง กูว่ายิ่งกว่าแฟนอีก เมียได้แล้วมั้ง”

            “แล้วมึงจะไปพูดถึงผู้หญิงพวกนั้นทำไมวะ ตอบกูมา มึงเลิกหึงกูยัง!?” เงิบครับ อะไรดลใจให้มันคิดว่าผมหึงมัน มึงน่ะหลงตัวเองเกินไปแล้วนะ มีใครกล้าบอกมึงมั้ย?

            “ กูไม่ได้หึง!” ผมตะโกนใส่หน้ามัน ลียักคิ้วแล้วถาม

            “งั้นมึงชิ่งออกจากห้องพยาบาลไปหาพ่อตากูเหรอ” พ่อตามึง? ใครวะกูเห็นมึงพูดถึงนี่รอบที่สองละนะ

            “ก็กูไม่อยากขัดเวลาสวีทมึงนี่ แล้วพ่อตามึงเป็นใคร ทำไมกูจะต้องไปหาด้วยไม่ทราบ!”

            “พ่อมึงไงไอ้โง่! เรื่องนั้นช่างก่อน ถ้ามึงไม่อยากขัดเวลากูสวีท แล้วมึงหนีกลับบ้านทำไม?” มันถามเสียงเย็นลงจากเดิม ก็กูบอกไปแล้วว่าไม่สบาย ไอ้เชี่ยนี่แล้วไหงพ่อตามึงถึงได้เป็นพ่อกูวะ!?

            “ก็กูไม่สบาย” ผมตอบ

            “ก็กูบอกมึงอยู่นี่ไงว่ามึงหึงกูกะพี่แพรน่ะ!” เอ่อ มึง -­­­_-

            “กูบอกว่ากูไม่สบายแล้วกูไปหึงมึงตอนไหน?” เอ้อ เอาเข้าไป คนบอกว่าไม่สบายยังจะบอกว่าหึงอีก ถึงจะโกหกว่าไม่สบายก็เถอะ แต่แม่ง มันโยงไปเรื่องหึงได้ไงวะ!

            “มึงบอกว่าไม่สบาย แต่ตัวมึงไม่ร้อน งั้นมึงก็ต้องเป็นไข้ใจ ไข้ใจก็คือหึง!” เหอะๆ มึงนี่มัน เข้าข้างตัวเองสุดๆ

“ไร้สาระ” ผมว่าแล้วเบนหน้าหนี

“อะไรดลใจให้มึงคิดว่ากูหึง” ผมเม้มปากแน่น ไอ้เชี่ยนี่ จ้องอยู่ได้ กูเขินนะเฮ้ย -///-

“สาเหตุก็คือ มึงหึงกูกะพี่แพรตอนอยู่ห้องพยาบาล มึงรับไม่ได้ ก็เลยหนีกูกลับมาที่ห้อง แต่มึงก็ทำใจไม่ได้ก็เลยไปโกหกหัวหน้าห้องว่าป่วย แล้วมึงก็หนีกลับบ้านไปร้องไห้ฟูมฟายว่ากูไม่รักมึงยังงั้นกูไม่รักมึงยังงี้ เหอะ ทำไมชอบคิดเองเออเองอยู่เรื่อย!” เอ่อ กูว่าคนที่คิดเองเออเองน่ะ มันมึงมากกว่ามั้ย? พูดเป็นฉากเชียว

            “เหอะ ทำไมกูต้องหึงด้วย?” ผมว่า

            “ก็เพราะมึงชอบกูไง” ผมสะอึกกับคำพูดของลี หัวใจของผมเต้นโครมครามแต่ก็รู้สึกแปลบๆเมื่อนึกไปเห็นหน้าของพี่แพร

            “กูไม่ได้ชอบมึง แล้วก็ไม่ได้หึงด้วย”

            “ ไม่ยอมรับความจริง!” ลีตะคอกจนผมสะดุ้ง ไรอีกวะ?

            “กูไม่ยอมรับที่ไหน?” ผมถามเสียงอ้อมแอ้ม

            “งั้นมึงก็หันหน้ามา มองตากู แล้วพูดดิว่าไม่ได้ชอบกู ไม่ได้หึง ทั้งหมดนั่นกูคิดเองคนเดียว ทุกครั้งที่กูจูบมึง ก็ไม่เห็นทำท่ารังเกียจอะไรเลยนี่!” มันตะคอก ซึ่งหูผมจะแตกอยู่แล้วเพราะหูผมนี่ตรงกะปากมันพอดีเลย หยุดเถอะกูขอร้อง ไม่งั้นกูได้พิการแน่

            “กูไม่ได้หึง แล้วก็ไม่ได้…ชอบ..มึงด้วย” ผมหันหน้าไปเผชิญกับลี ผมสบดวงตาแข็งกร้าวคู่นั้นแล้วพูดเสียงแผ่ว ก่อนที่จะเบนสายตาออกตอนคำสุดท้าย ไม่รู้ทำไม แต่มันเป็นเองอัตโนมัติอ่ะ ไม่ได้อยากหันหนีนะ

            “ มึงหันมามองกูดิ!” ผมตกใจสะดุ้งเฮือก จู่ๆลีก็ของขึ้น ตะคอกแล้วใช้มือจับคางผมให้หันหน้ามองมัน ผมกลืนน้ำลายลงคอ ไม่ได้เห็นมันของขึ้นมาตั้งอาทิตย์นึง ทำไมต้องมาขึ้นในสถานการณ์นี่ด้วยวะ?

            “พูดใหม่ดิ ว่ามึงไม่เคยรู้สึกอะไรเลย!” ผมเจ็บจนน้ำตาเล็ด แรงของมันน้อยที่ไหน บีบจนคางผมจะสลายคามือมันละ

            “อึก กู ไม่ได้…..ชอบมึง” โอ๊ย ตาหนอตาตอนแรกก็มองตามันดีๆอยู่หรอกพอคำว่าชอบหลุออกมาทีไร เป็นต้องหันหนีทุกที ขนาดหันน้าไปไม่ได้ ขอแค่ตาก็ยังดี เออเนอะ บางทีเป็นเพราะผมทนเห็นสีหน้าน่ากลัวของมันไม่ไหว เพราะผมคงยอมรับไม่ได้หรืออาจจะไม่อยากยอมรับว่า ทนไม่ได้ที่เห็นสายตาที่แข็งกร้าวนั่นมีแววเจ็บปวดเจืออยู่

            “ไอ้เชี่ยกัส! มึงจะกลอกตาหนีทำไม มองกูดิ ทำไมมึงต้องทำให้กูเจ็บด้วย ถ้ามึงมองก็ตรงๆกูอาจพอรับได้ แต่กูรับไม่ได้ที่มึงเองก็ชอบกูแต่กลับโกหก!” ผมสะอึก เมื่อเห็นแววตาของลี มันทั้งน่ากลัวและเจ็บปวดในเวลาเดียวกัน

            “แล้วมึงจะให้กูทำยังไง! กูไม่อยากเจ็บเหมือนผู้หญิงที่มึงทิ้งนี่!” ผมหุบปากกลอกตาเลิกลั่ก เผลอพุดอะไรออกไปวะเนี่ย

            “กูไม่ทิ้งมึงเหมือนผู้หญิงพวกนั้นหรอกน่า!” กูจะเชื่อมึงได้มั้ย? -_-

            “กูจะกลับบ้าน ฮึก” ผมเริ่มจะสะอื้นละ แม่งเจ็บ แรงควายเว่อร์อ่ะ ตะคอกกูอยู่ได้ อยู่ใกล้แค่นี่เอง หูกูจะแตกแล้วเฮ้ย มึงอย่าตะคอกได้มั้ย รู้อยู่ว่ากูกลัว!

            “กูไม่ให้กลับ! ถ้าวันนี้มึงไม่คบกับกู กูจะเอามึงตอนนี้นี่แหละ!” เอี๊อก นั่นไง สันดานมึงออกแล้ว เชี่ยเอ๊ย ทำไมกูต้องตกอยู่ในสภาพนี้ทุกทีเลยวะ

            “อย่านะ!” ผมตกใจผลักอกลีออก ก่อนที่มันใช้มื้อซ้ายรวบแขนผมไว้เหนือหัว

            “กูทนมาพอแล้ว” ลีกระซิบเสียงต่ำ ผมใจหายวาบเมื่อมันใช้ลิ้นเลียคอของผม

            “ฮึก กูจะเชื่อใจมึงได้งั้นเหรอ?” ผมสะอึกสะอื้น ลีชะงักแล้วเงยหน้ามามองผมที่เริ่มจะร้องให้แล้ว จะหาว่าผมขี้แยก็ได้ แต่ผมเป็นคนขี้ตกใจ

            “………………….” ลีเงียบ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

            “มึงคิดว่ากูจะเชื่อใจมึงได้งั้นเหรอ? กิ๊กมึงมีตั้งเยอะ พวกนั้นน่ะเป็นผู้หญิงแล้วก็สวยๆทั้งนั้น นมก็ใหญ่ เอวก็ดี แล้วดูกูดิ เป็นผู้ชาย มีทุกอย่างเหมือนมึง นมก็ไม่มี มีลูกก็ไม่ได้ กูจะเอาอะไรรั้งมึงไว้เวลาที่มึงเบื่อกู ฮือ” ลีคลายมือที่จับข้อมือของผมออก แล้วดึงผมเข้าไปกอด มันกดหัวของผมให้ซุกกับอกแกร่งของมันแล้วกระซิบเสียงแผ่วที่ดูอ่อนโยนกว่าทุกทีแต่ไม่รู้ว่ามันรู้รึเปล่าว่าผมหายใจไม่ออก ดูท่าจะไม่รู้วุ้ย ไม่บอกก็ได้ ไม่อยากขัดอารมณ์ซึ้ง -_-

            “กูไม่ทิ้งมึงหรอก” ผมสะอื้นฮักแล้วกอดมันแน่นขึ้น ต่อให้มันโกหกผม ผมก็จะยอมโง่ให้มันหลอก

            “มึงสัญญาแล้วนะ” ลีพยักหน้าแล้วตอบรับเสียงเบา ทิ้งตัวลงบนเตียงกว้าง แล้วลากผมขึ้นไปซบกับอกแข็งแรงนั่นก่อนจะพูด

            “กูรักมึงนะ รักมาตลอด”

 

…………………………………………………………………….

 

To bo continued

 

Talk จร้า

ฮูเร่ ฮูร่ เป็นแฟนกันแว๊ววว เป็นแบบมึนๆ งงๆ เพราะผู้เขียนกำลังสิ้นคิด ขออภัยอย่างสูงที่หายหัว อุ้ย หน้าไปนาน และขอขอบคุณที่คิดตามอ่านมาจนถถึงตอนนี้ (พูดเหมือนดูดี ที่จริงมีห้าตอน -.,-) จะสี่ทุ่มอีกแล้วเน่อ นอนดึกอีกแล้ว ช่วงนี้ก็รักษาสุขภาพกันดีๆน้า >_<

หนึ่งเมนต์เท่ากับหนึ่งกำลังใจ

ด้วยรัก

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา