ตามล่ามนตรา

8.0

เขียนโดย Next1412

วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 14.28 น.

  9 บท
  0 วิจารณ์
  9,462 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 10.34 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) บท 2

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
    แสงอาทิตย์ยามเย็นสาดแสงสีแดงสีสุดท้ายมาสะท้องกับท้องทะเลทำให้ทะลกลายเป็นสีแดงออกส้มๆสวยงามในเวลาพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน ชาวประมงต่างก็พากันกลับบ้านไปหาครอบครัวและพักผ่อนหลังจากเหนื่อยมานาน ดวงดาวก็เริ่มปรากฏบนท้องฟ้าเป็นระยิบระยับเหมือนดังเช่นวันวาน เหล่าพวกนักวาณิชย์ต่างก็เดินกลับมาบนเรือของตนเองโดยไม่ต้องไปเช่าห้องที่มีราคาแพงของจักรวรรดินิโคลเรียแห่งนี้ นาเอลที่เดินกำลังจะเดินกลับเรือของตนเองก็กลับแวะไปที่ร้านขายเหล้าที่เคยแวะประจำเพื่อเช็คของว่าขาดเหลืออะไร เพราะร้านนี้เป็นร้านที่ขายเหล้าทุกชนิดสั่งตรงมาจากทุกแดน และนาเอลก็มาส่งเหล้าที่ร้านนี้บ่อยเพราะร้านนี้จะสั่งเหล้าของชาวตะวันออกโดยเฉพาะ
 
“สายันต์สวัสดิ์นะ นาเอล ว่าจะไปหาที่เรือสักหน่อยแต่ลูกค้าเยอะชะมัดเลยนี่สิ”ชายวัยชราร่างท้วมหันมาทักทายนาเอล พลางใช้มือที่แห้งเหี่ยวจับเรียงแก้วบนชั้นวางแก้วอย่างมีระเบียบ
 
“ไม่เป็นไรหรอก นานๆทีข้าจะได้แวะมานั่งในร้านท่านบ้าง ช่วงนี้ขาดเหลืออะไรมั้ย?”นาเอลเดินมานั่งเก้าอีไม้ที่ถูกจัดไว้ที่หน้าเคาน์เตอร์ พร้อมกับเอ่ยถามพลางกวาดสายตาสังเกตไปรอบๆร้าน
 
“ก็ขาดแค่เหล้างาขาวเฉยๆน่ะ”
 
“อ่า เดี๋ยวเย็นนี้จะสั่งให้ลูกเรือมาส่งของให้ถึงที่ก็ละกัน”นาเอลเคลื่อนสายตากลับมามองที่ชายชราแล้วยิ้มให้เล็กน้อย
 
“ขอบใจ ทำตัวตามสบายนะ”ชายชราพูดแล้วยิ้มให้นาเอลอย่างอบอุ่น แล้วหันกลับไปทำงานของตัวเองต่อ
 
“เจ้าอีกแล้วหรอ”เสียงที่เคยผ่านหูของนาเอลเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วก็ดังขึ้นจากด้านหลังของนาเอลทันที
 
“หืม? รูจนี่น่า เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้ไง?”นาเอลหันไปมองต้นเสียงแล้วอึ้งนิดๆเพราะดูท่าทางเงียบขรึมของชายผมแดงรูปร่างสูงกำยำจะมาอยู่ที่ร้านเหล้าได้
 
“ข้าควรถามเจ้ามากกว่า  นาเอล เป็นผู้หญิงแต่มานั่งในร้านเหล้าได้ยังไง?”รูจเดินมานั่งข้างนาเอลพลางขมวดคิ้วราวกับไม่พอใจ
 
“ทำงานสิ ข้ามาขายเหล้าน่ะ แต่ ทำไมเจ้าถึงรู้ชื่อข้าได้ล่ะ”
 
“ก็ข้าน่ะเป็นชนเผ่าที่มีสัมผัสพิเศษอยู่ ประสาทที่กว่ามนุษย์เป็น 10 เท่า คุยกันอยู่ในระยะแค่หน้าร้าน กับข้าที่นั่งอยู่หลังร้าน แค่นี้ข้าได้ยินว่าเจ้าพูดอะไร”
 
“แล้วเจ้ามาทำอะไรในร้านนี้?”
 
“ก็...มาพักผ่อนที่นี่น่ะ เผอิญข้างบนมีห้องให้เช่า ข้าก็เลยมานอนที่นี่ แล้วตอนนี้กำลังจะกลับแล้ว”
 
“กลับ?”นาเอลสะดุดใจตรงประโยคหลังๆของรูจ
 
“กลับไปเที่ยวที่อื่นต่อ ข้าไม่มีที่ให้กลับไปหรอก ตอนนี้กะว่าจะไปจักรวรรดิโรมาเนียสักหน่อย แต่ว่ามันต้องเดินทางด้วยเรือ”
 
“สนใจจะติดเรือไปกับข้ามั้นล่ะ เพราะพรุ่งนี้ข้าก็จะเดินเรือไปทำการค้ากับโรมาเนีย”
 
“ไปแน่ถ้าเจ้าไม่เก็บเงิน.....”รูจเหล่ตามองนาเอล
 
“ก็ข้าไม่ชอบติดหนี้บุญคุณใครนี่.......ข้าให้เจ้าติดเรือไปฟรีๆเลย”
 
“ถ้าข้าไม่ได้ช่วยเจ้าไว้ ข้าคงต้องจ่ายเงินอยู่ดี.......วาณิชย์นี่งกจริงๆ”รูจหันหน้าไปพึมพำอีกทางอยู่คนเดียว
 
“อะแฮ่ม จะไปกันได้หรือยัง”นาเอลกระแอมเล็กน้อยเพราะได้ยินคำพูดเพ้อลอยๆมาจากรูจ
 
“.......”รูจสะดุ้งตัวนิดแล้วลุกขึ้นยืนเพื่อเตรียมตัวเดินทางไปพร้อมกับนาเอล
 
“ไปกันเถอะ”นาเอลยิ้มเล็กน้อยแล้วเดินนำออกไปจากร้านไปพร้อมๆกับรูจที่เดินตามหลังมาด้วย
             -----------------------------------------------------ณ พระราชวังของจักรวรรดินิโคลเรีย
 
“เป็นไงหาตัวเจอมั้ย”ชายผมสีดำคลับยืนอยู่ที่หน้าระเบียงห้องนอนของตนเอ่ยถาม อนีมูน ฑูตแห่งจักรวรรดิของตน
 
“ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันเพคะฝ่าบาท ว่าใช่คนที่พวกเราตามหาอยู่หรือเปล่า แต่ได้ข่าวมาว่าเป็นทาสมาก่อน แต่ก็ไม่มีอะไรยืนยันว่าเธอสามารถใช้เวทย์ได้เลย”อนีมูนตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
 
“แล้วคนที่เจ้าสงสัยเป็นวาณิชย์จากชนชาติใดล่ะ”
 
“ตะวันออกเพคะ พรุ่งนี้คงจะเดินเรือมุ่งไปที่จักรวรรดิโรมาเนีย”
 
“งั้นเจ้าช่วยทำให้นางมาหาข้าได้หรือไม่?”ชายผมดำหันมามองอนีมูนแล้วเลิกคิ้วเล็กน้อย นัยย์ตาแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ที่ผู้คนต่างก็มองในสายตาเดียวกันว่าเป็นพระราชาที่โหดร้าย
 
“ด...ได้เพคะ”อนีมูนรีบรับคำแล้วเดินออกไปจากห้องทันที
                      ----------------------------------------------------
 
        หญิงสาวผมสีทองยาวไปถึงเอวเดินยิ้มให้กับดอกกุหลาบมาตลอดทาง แล้วหวนนึกถึงเหตุการณ์ตอนกลางวันไปมาราวกับเป็นเรื่องสำคัญ ถึงแม้จะเป็นระยะเวลาสั้นๆแต่เอเลเนอร์ก็จดจำมันได้ดีกว่าเรื่องอื่น ตอนนี้เธอเดินมุ่งหน้าที่จะกลับเรือไปอย่างช้าๆ ในความคิดและในใจกำลังเพ้อหาใครบางคนแบบไม่รู้ตัว
 
‘.......นี่ข้า.......หลงรัก......เขาไปแล้ว..........สินะ.......อยากเจออีกสักครั้ง.....’
 
“ว่าไง ท่านเอเลเนอร์”เสียงที่กำลังคิดถึงของเอเลเนอร์ก็ดังมาจากด้านหน้าของเธอทันที
 
“ฟ....เฟิง...”เอเลเนอร์ประหลาดใจจนหน้าแดงระรื่อไปทั้งหน้า ทำอะไรไม่ถูกเพราะเรื่องที่อยากจะให้เกิดขึ้นกลับเกิดขึ้นอย่างน่าประหลาด
 
‘ขอบคุณ.......พระเจ้า…..’
 
“ยังไม่กลับเรือหรอขอรับ นี่ก็เย็นมากแล้วนะ”เฟิงเดินเข้ามาหาเอเลเนอร์อย่างกับเป็นคนคุ้นเคย
 
“ก...ก็....ก็...”เอเลเนอร์กรอกตาไปมาพร้อมกับพูดติกๆขัดๆ
 
“ดอกกุหลาบยังไม่ทิ้งหรอขอรับนั่น”เฟิงมองดอกกุหลาบที่อยู่ในมือของเอเลเนอร์แล้วยิ้มกว้าง
 
“.....”เอเลเนอร์ขมวดคิ้วทันทีและความคิดที่โรแมนติกในหัวเมื่อกี้ก็หายวับไปทันที
 
“อ...เอ่อ.....ยังไงก็ไปท่าเรือเหมือนกันงั้นกลับพร้อมกันเลยมั้ย?”เฟิงมองท่าทางของเอเลเนอร์แล้วเปลี่ยนเรื่องคุย
 
“กลับสิ”เอเลเนอร์กลับมายิ้มแบบเดิมแล้วเดินนำไปที่ท่าเรืออย่างร่าเริง
 
“อารมณ์เปลี่ยนไวชะมัด..........”เฟิงยิ้มน้อยๆแล้วเดินไปข้างๆกับเอเลเนอร์
 
ณ ท่าเรือของจักรวรรดินิโคลเรีย
 
“ท่านนาเอล!!!กลับมาแล้วหรอครับ!!”มีลูกเรือนายหนึ่งวิ่งแจ้นมาหานาเอลที่เดินคุยกับรูจมา
 
“มีอะไรทำไมวิ่งแตกตื่นขนาดนั้นเชียว?”นาเอลแปลกใจเล็กน้อยแล้วมองลูกเรือตัวเอง
 
“ท่านทูตแห่งจักรวรรดินิโคลเรียเรียกตัวท่านไปพบน่ะครับ”
 
“ไง นาเอล ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้าน่ะ”อนีมูนเดินมาพูดแทรกบทสนทนาของลูกเรือกับนาเอล
 
“เรื่องอะไรหรอ?”นาเอลเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ
 
“พระราชาเอนดรีอาสเรียกตัวเจ้าไปคุยเรื่องสินค้าของเจ้าน่ะ”อนีมูนยิ้มให้นาเอลอย่างเป็นมิตร
 
“ท...ทำไมล่ะ?”
 
“พระราชาเอนดรีอาสคงสนใจสินค้าของเจ้ามั้ง”
 
“ว้าว อย่างงี้คงต้องฉลองงงงงงงง!!”ลูกเรือของนาเอลโพล่งออกมาแล้ววิ่งแจ้นกลับไปทีเรือจนลืมอาการเหนื่อยหอบไปเมื่อกี้
 
“งั้นจะให้ข้าไปพบพระราชาวันไหนล่ะ?”นาเอลแอบหัวเราะลูกเรือของตนเองเบาๆแล้วหันไปถามอนีมูนต่อ
 
“ตอนนี้เลยน่ะ ตามข้ามาสิ”อนีมูนบอกแล้วเดินนำกลับเข้าไปในเมือง
 
“อืม”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา