Yesterday อาถรรพ์ วันวาน

10.0

เขียนโดย digitoon

วันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 21.30 น.

  21 ตอน
  3 วิจารณ์
  34.42K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 เมษายน พ.ศ. 2558 10.17 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) บทที่หนึ่ง รวมสหาย (อาจ) ตายพร้อมกัน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
                ร้านกาแฟเล็กๆ ที่ ‘แมกซ์’และเพื่อนๆได้ลงทุนหุ้นกับเพื่อนเพื่อสร้างมันขึ้นมาแม้ว่าจะเหนื่อยแต่แมกซ์ก็ชอบในสิ่งที่ตนเองได้ทำร้านกาแฟที่ขายเบเกอรี่และให้เช่าหนังสือการ์ตูนไปในตัวภายในร้านตกแต่งสไตล์ย้อนยุคนิดๆรอบบริเวณรั้วของร้านที่แทบจะติดกับตัวบ้านนั้นยังมีบริเวณไว้ให้ปลูกต้นไม้พอร่มรื่น ตัวร้านนั้นอยู่ในบริเวณปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งในย่านชานเมือง
                ร่างสูงในชุดพนักงานซึ่งตนเองก็เป็นหุ้นส่วนของร้านกำลังเช็ดโต๊ะที่ลูกค้าเพิ่งจะลุกออกไปเมื่อครู่ ใบหน้าธรรมดาแต่หากพิจารณาดูดีๆเขาคือชายหนุ่มหน้าตาดีที่เข้าขั้นหล่อเลยทีเดียว
                “ ไอแมกซ์ ไอแมกซ์ !” เสียงเรียกของเพื่อนหุ้นส่วนดังมาจากหน้าร้านทำให้เจ้าตัวที่ถูกเรียกเดินตามเสียงไปทันที
                “ อะไรวะ ไอก้าน? ”แมกซ์ถามเพื่อนตัวแห้งที่กำลังจะเดินเข้ามาตามเขาออกไป
                “ มีคนอยากเจอแกวะ ” ร่างผอมพูด ก่อนที่แมกซ์จะถามกลับ “ ใครวะ ? ”
                “ ไม่รู้วะแกไปคุยธุระเหอะ เดี๋ยวฉันทำที่เหลือเอง ”ก้านพูดกับผู้เป็นหุ้นส่วนก่อนที่จะหยิบผ้าเช็ดโต๊ะในมือของแมกซ์แล้วเดินเข้าไปในร้านทันทีแมกซ์ลังเลนิดๆ เขาไม่ค่อยมีเพื่อนที่ไหน ถึงมีก็ไม่เคยมาหาเช่นนี้เจ้าหนี้ก็ไม่มี พ่อกับแม่ก็อยู่ที่ต่างจังหวัดดังนั้นเขาจึงเดาไม่ออกเลยว่าใครจะมีธุระกับเขาในยามที่ร้านจะปิดเช่นนี้
                แมกซ์เดินออกไปที่หน้าร้านก็พบกับชายคนหนึ่งเขารู้สึกคุ้นหน้าคนคนนี้เป็นอย่างมาก แต่เขาก็จำไม่ได้ว่าเป็นใครแน่นอนละสิก็เขาไม่ได้ติดต่อหรือพบปะกับเพื่อนเลยเป็นเวลานานไม่แปลกที่เขาจะจำไม่ได้
                “ สวัสดีครับ คุณมีธุระอะไรกับผมหรอครับ? ”แมกซ์ทักทายคนแปลกหน้าอย่างสุภาพ
                “ หวัดดีแมกซ์ จำเราได้ไหม? ” ชายใส่แว่นพูดก่อนที่จะขยับแว่นเล็กน้อยแล้วยิ้มอย่างอายๆก่อนที่ความทรงจำในสมัยมัธยมของแมกซ์จะแล่นเข้ามาในหัวของชายหนุ่ม
                “ อ่าว เชน ”
 
                แมกซ์เชื้อเชิญเพื่อนเก่าเข้าไปนั่งในร้านในขณะนั้นหุ้นส่วนของร้านกลับไปกันหมดแล้วโดยเขาอาสาที่จะปิดร้านเองเพราะเขาว่าจะคุยธุระกับเพื่อนสมัยเก่าสักครู่
                “ เฮ้ย! เป็นไงบ้างวะเชน?  ขอโทษนะเว้ยที่ฉันไม่ค่อยได้ติดต่อกับเพื่อนเก่าอย่างที่แกเห็นวะ ช่วงนี้ฉันยุ่งๆ เพราะร้านยังไม่เข้าที่เข้าทางดีเท่าไร ” แมกซ์พูดแล้ววางถ้วยกาแฟลงบนโต๊ะหน้าเพื่อนในอดีตถอดผ้ากันเปื้อนของทางร้านออกแล้วเอาไปแขวนก่อนที่จะถามเพื่อนเนิร์ดเก่ากลับอย่างติดตลก
                “ แล้วแกเป็นไงมั่ง? เดี๋ยวนี้หล่อที่หว่าถ้าไม่เนิร์ดแบบเดิม ”
                ฝ่ายถูกถามหัวเราะนิดๆ ก่อนจะตอบ “ เราก็สบายดีตามประสานั่นแหละพอดีเราจบสัตว์แพทย์น่ะ ก็ยุ่งๆ เหมือนกัน ไม่ค่อยได้คุยกับใครสักเท่าไรหรอก ”
                “ อ่าว งั้นก็ยังไม่มีแฟนดิวะ?   เฮ้ย หัดกล้าๆ จีบหญิงหน่อยดิ๊ ” แมกซ์แซวก่อนที่จะนั่งลงบนโซฟาตรงข้ามกับเพื่อน
                “ แล้วว่าแต่มาหาฉันมีอะไรหรือเปล่าวะ? ”
                “ คือว่า นายจำเจนได้ไหม? ”  เชนถามก่อนที่จะสบตาอีกฝ่าย
                “ อือ...อ้อๆ เจนจิราใช่ไหม? ”
                “ คือว่าตอนนี้เจนถูกรถชน ” คำพูดของเชนทำเอาหน้าหล่อของแมกซ์เบิกตากว้าง “ ไม่ต้องห่วงอาการน่ะดีขึ้นมากแล้วแต่อาการทางจิตเนี่ยสิ ”
                เชนถอนหายใจยาวๆ ครั้งหนึ่งก่อนที่แม็กซ์จะถามคำถามต่อไป
                “ เจนเป็นอะไรวะ? ” แมกซ์ถามเสียงเครียด
                “ เจนบอกว่าถูกผีไมค์กี้หลอก ” คำตอบของเชนทำเอาคนฟังตาค้างทันทีก่อนจะครางออกมาเบาๆ
                “ ไมค์กี้เนี่ยนะ? ”
 
                ชั้นเจ็ดของโรงพยาบาลหรูแห่งหนึ่งที่คนมีเงินเท่านั้นที่จะส่งเข้าไปรักษาได้การบริการอย่างดีตามประสาที่เหล่าหมอและนางพยาบาลต้องเอาอกเอาใจเหล่าบรรดาคนรวยต่างจากคนธรรมดาที่หากเป็นอะไรขึ้นมาต้องรอเดี๋ยวเสมอ
                ห้องของเจนอยู่ในห้องพิเศษซึ่งตอนนี้เจนกำลังนั่งอยู่บนเตียงดูทีวีอย่างสบายใจราวกับว่าดาราสาวคนนี้ไม่เป็นอะไรเลยสักอย่างแต่หากตกกลางคืนเมื่อใดเจนจะมีอาการวิตกจริตกลัวว่าคนที่ชื่อ ‘ไมค์กี้’จะมาเอาชีวิต เลยต้องมีพยาบาลเฝ้าอยู่ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อป้องกันการทำร้ายตนเองของคนไข้และเพื่อความสบายใจของเจนเองเช่นกัน
                “ เจนอยู่ห้องนี้แหละเเมกซ์ ”เชนบอกแมกซ์ก่อนที่จะเปิดประตูเข้าห้องที่หน้าประตูเขียนชื่อของดาราสาว
                “ แมกซ์! ”  สาวผมทองเรียกก่อนที่จะเดินเข้าไปจับมือเช็คแฮนด์ก่อนที่จะกอดเบาๆ อีกหนึ่งครั้งตามประสาสาวจบนอกที่ไม่ถือตัวแมกซ์จำได้อย่างดีว่าเธอคือ‘ มิร่า ’
                เธอส่งยิ้มให้กับชายหนุ่มอีกครั้งก่อนที่จะเดินจับมือเข้าไปหาเหล่าเพื่อนเก่าสมัยมัธยม ซึ่งแมกซ์ใช้ความจำไม่มากก็จำได้ว่าทุกคนคือใคร ‘เอ็ม ตี๋ เจนบาส มิร่า เชนและ ตัวเขาเอง คือกลุ่มเพื่อนเก่า’
                “ นี่...กว่าจะมาได้ ปาไปกี่โมงแล้วล่ะ? ” ตี๋ปลายตามองแมกซ์อย่างกับคนที่เหม็นขี้หน้ากัน เชนที่เห็นว่าจะมีบรรยากาศมาคุเขาจึงรีบเปลี่ยนเรื่องทันที
                “ คือที่เราตามทุกคนมาวันนี้ เพื่อที่จะคุยเรื่องไมค์กี้น่ะ ” เชนย้ำถึงความสำคัญของการรวมตัวกันของเพื่อนเก่าที่ก่อนจะแตกคอกันเองเพราะภาพเด็กใหม่ในอดีตยังอยู่ความทรงจำยังไม่ลบเลือนหายไปจากหัวของทุกคน ทั้งรักทั้งสนุก ทั้งเจ็บ ไปพร้อมกัน
                “ เรื่องมันเป็นยังไงละเชน?...นายก็รีบๆ บอกมาสิ ฉันมีเวลาไม่ค่อยมาก! ” บาสพูดใส่อารมณ์อย่างหัวเสียก่อนที่จะมองลงไปยังนาฬิกาเรือนหรูของตนเองทำให้คนฟังยิ่งต้องกระชับเรื่องราวให้เร็วขี้นกว่านี้
                “ ก่อนอื่นมันเป็นความผิดของฉันเองแหละที่ขับรถไม่ดูทางไปชนกับเพื่อนเลยทำให้เพื่อนต้องเจ็บตัว...ฉันขอโทษเธอจริงๆ นะเจนฉันไม่ได้ตั้งใจ ” เชนพูดก่อนที่จะหันไปทางเจนแล้วกล่าวขอโทษอีกเป็นครั้งที่ร้อยในความรู้สึกของเจน
                “ พอแล้วเชน...นี่แกจะขอโทษฉันจนฉันจะออกจากโรงพยาบาลอยู่แล้ว! ” เจนเสียงเข้ม เธอไม่ได้โกรธเชนที่เชนขับรถชนเธอแต่เธอรำคาญที่เชนมีความรู้สึกผิดมากจนเกินพอดี แล้วเธอก็หันไปหาเพื่อนๆที่นั่งอยู่บนโซฟา ก่อนที่จะเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างให้ฟัง
                “ คือว่าฉันกำลังนั่งทำธุระอยู่ในห้อง แต่แล้วก็มีเบอร์ปริศนาโทรเข้ามาฉันรับแล้วมันก็พูดว่าถ้าไม่อยากตายให้อยู่ในนี้ในตอนแรกฉันก็ไม่คิดอะไรเพราะคิดว่าคงเป็นโรคจิตแต่ว่าดันมีก่อนหินปริศนาพร้อมกับจดหมายน่ากลัวๆ ติดมาด้วยในตอนนั้นฉันยังคิดว่าเป็นพวกโรคจิตอยู่เลยเดินลงมาดูที่รั้วหน้าบ้านแต่แล้วฉันฉันก็เห็นผีไอไมค์กี้ตัวเปียกปอน บอกว่าให้ฉันจำกูได้ไหมฉันเลยวิ่งหนีออกมาแล้วโดนรถของเชนชนเข้าเลยต้องเข้าโรงพยาบาลอยู่แบบนี้ ” เจนอธิบายยาวเหยียดในเหตุการณ์ที่เธอพบเจอ
                “ คือว่าในตอนนั้นนะ เรากำลังขับรถเอาจีจี้ หมาของเจนมาให้ แต่ว่าอยู่ๆเราก็จามแล้วจนแว่นตกลงไปที่พื้น เลยทำให้ไม่เห็นว่าเจนกำลังวิ่งอยู่ ” เชนอธิบายอีกรอบพลางทำหน้าเศร้าราวกับว่าผู้เป็นเพื่อนเสียชีวิตเพราะตนเองเขาหลุบตาลงนิดๆ  เพื่อไม่อยากให้ใครรู้ด้วยว่าเขากำลังโกหกอยู่
                “ จริงๆ เลยนะนายเนี่ยมีสี่ตายังจะหาเรื่องให้เพื่อนตายอีก! ”  ตี๋ซ้ำเติม
                “ เอาเถอะน่า ก็เชนไม่ผิดนิ มันเป็นอุบัติเหตุ ” มิร่าเสริมก่อนที่จะยื่นมือไปจับมือเชนอย่างให้กำลังใจ
                “ ฉันไม่เอาความเชนหรอกนะ...แต่หลังจากนั้นนี่สิฉันเห็นผีไมค์กี้ตามมาหลอกหลอนฉันทุกคืน แล้วยังบอกอีกว่าระวังตัวให้ดีๆซ้ำๆ จนฉันแทบจะประสาทหลอนอยู่แล้ว! ” เจนอธิบายอีกครั้งแล้วมองไปรอบๆห้องอย่างหวาดกลัวอันที่จริงเธอไม่กลัวผีแต่เรื่องแบบนี้ใครไม่เจอกับตัวไม่รู้จริงๆ
                “ เพ้อเจ้อ! ”บาสโพล่งพูดขึ้นมาหลังจากที่ฟังเรื่องราวทั้งหมดจนจบ
                 “ เรื่องมันนมนานมาแล้ว...เธอเอาอะไรมาพูดเนี่ยเจน?ฉันว่าเธอละเมอมากกว่านะ พวกดาราน่ะเวลารับบทอะไรมักคิดว่าตนเองเป็นแบบนั้นดูอย่างไอคนที่รับบทโจ๊กเกอร์ในแบทแมนซิ โรคจิตจะตาย ” บาสพูดแล้วยักไหล่อย่างไม่เชื่อในสิ่งที่เขาได้ยิน
                “ นี่นายหาว่าฉันทำงานจนเพี้ยนหรอบาส? ”เจนหันว่าขึ้นเสียงใส่เพื่อนในอดีต
                “ พอๆ ให้ฉันมาฟังเรื่องไร้สาระอะไร...ฉันไปนะ อีกยี่สิบนาทีมีประชุม! ” บาสบอกกับเพื่อนอย่างอารมณ์เสียแล้วลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องทันที
                “ หรือว่าเขาจะมาแก้แค้นพวกเรา? ”  มิร่าพูดขึ้นมาพลางเอามือทาบอกอย่างตกใจ
                “ แล้วไมค์กี้มีอะไรที่เขาต้องแค้นเธอละ?...ถ้ามีก็คงเป็นพวกฉันมากกว่า ”แมกซ์ที่ฟังเรื่องราวมาทั้งหมดแสดงความเห็นบ้างหลังจากที่นั่งเงียบไปนานเขาแทบจะสนิทกับไมค์กี้มากที่สุดหรือจะเรียกอีกอย่างหนึ่งคือคนรู้ใจของไมค์กี้เลยก็เป็นได้
                “ มีเหตุผลนะ...เราว่าไมค์กี้ไม่ทำอะไรเธอหรอก?”  เชนพูดขึ้นเสริม  “ หรือว่าพวกเธอไปทำอะไรให้ไมค์กี้หรือเปล่าล่ะ? ”
                คำพูดของเชนทำเอา มิร่า เจน เอ็ม และ ตี๋ มองหน้ากันอย่างไม่ได้นัดหมายคนทำอะไรไว้มักรู้ดีอยู่แก่ใจไม่ว่านานสักเท่าใดความชั่วที่ทำไว้ยังวนเวียนอยู่ในใจของเพื่อนกลุ่มนี้เสมอมาอย่างไม่มีวันลบเลือน
                “ เอาอย่างนี้เพื่อความสบายใจ...พรุ่งนี้เราไปทำบุญให้ไมค์กี้กันดีไหมทุกคนเลย ”  ตี๋พูดพร้อมกับสบตาทุกคน ก่อนที่จะหันมาหาแมกซ์  “ นายด้วยนะ...หวังว่าฉันคงไม่ต้องให้การ์ดเชิญ ”
                “ ในตอนนี้ไม่มีอะไรตัดสินได้ว่าสิ่งไหนจริงหรือไม่จริงเพราะในความเหลือเชื่อก็ยังมีสิ่งที่ยังเลี่ยงไม่ได้ว่ามันไม่มีอยู่จริง ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปียังพิสูจน์ไม่ได้ว่ายังมีโลกแห่งความตายอยู่ไหมเราก็ยังจะคอนเฟิร์มไม่ได้ว่าไมค์กี้ยังไม่ไปไหน ”  เชนพูดขึ้นมา  “ ไปทำบุญให้เขาก็ดีเหมือนกันเพราะพรุ่งนี้ก็เป็นวันเกิดของไมค์กี้ด้วย ”
                “ อืม...งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะ เดี๋ยวฉันโทรนัดไอบาสเอง ”  ตี๋สรุปก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วหันไปทางเอ็ม “ เฮ้ย...วันนี้รำลึกความหลังกันสักหน่อยไหมเพื่อน? ”
                เอ็มยิ้มกว้างในความที่ตี๋ยังเป็นเหมือนเดิมแล้วลุกเดินขึ้นตามตี๋ออกจากห้องเจนไปในตอนที่ตี๋กำลังจะเอื้อมมือหันไปจับลูกบิดในห้องนั้นเขาก็ต้องขนลุกชันขึ้นทั้งตัวทันที เพราะเขาเห็นเด็กมัธยมในชุดนักเรียนชายตัวเปียกปอนใบหน้าและลำตัวขาวซีดกำลังเอาคางเกยกับไหล่ของแมกซ์อยู่จากด้านหลังในตอนนี้
                “ ไอตี๋เร็วดิวะ...หิวข้าวนะเนี่ย ไปหาไรกินกัน! ” เสียงของบาสทำให้ตี๋สะดุ้งออกจากภวังค์ทันทีตี๋รีบปิดประตูห้องของเจนและเมื่อได้มองเข้าไปในห้องผ่านกระจกใสก็ไม่เห็นคนคุ้นตาแล้ว เขาได้แต่พึมพำเบา          
                “ ไมค์กี้...คงแค้นพวกฉันมากน่ะสินะ? ”
 
                เช้าตรู่ของวันจันทร์เป็นวันที่ควรจะเร่งรีบของมนุษย์เงินเดือนเพื่อที่จะได้ไปทำงานวันธรรมดาๆ ของเช้าวันนี้กลับเป็นวันที่ไม่ธรรมดาของแมกซ์เขาตื่นเช้าเพื่อที่จะได้ไปให้ทันนัดกับเพื่อนๆ
                ในขณะที่เขากำลังอาบน้ำชำระร่างกายในตอนเช้าในหัวสมองกลับคิดแต่เรื่องราวในอดีตที่เขาเคยทำผิดกับคนคนหนึ่งที่เขาเคยรักมากมาย ปล่อยให้สายน้ำไหลไปตามสรีระแกร่งของร่างกายเพื่อให้จิตใจสงบลงเขาหลับตาลงเพื่อให้ความเย็นของน้ำทำให้เขาผ่อนคลาย
                นานเท่าไรไม่ทราบได้แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อเสียงหนึ่งดังเข้ามา
                ‘ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง’
                 เสียงเคาระประตูดังขึ้นมาชายหนุ่มหยิบผ้าเช็ดตัวมาเช็ดอย่างลวกๆก่อนจะพันกายในส่วนที่ไม่ควรเปิดให้ใครดูพลันทันทีที่เปิดประตูห้องน้ำออกมาเขาก็พบกับร่างที่คุ้นชินตาและชินใจ
                “ ไมค์กี้ ”แมกซ์เรียกชื่อคนตรงหน้าออกมาอย่างไม่รู้ตัว
                คิดถึงกูไหม? ”  เสียงเยือกเย็นเล็ดลอดออกมาจากปากที่แห้งผากน้ำที่หยดลงมาจากตัวทำให้แม็กซ์ไม่แน่ใจว่าเขากำลังฝันไปหรือคือเรื่องจริง
                “ ทะ..ทำไม? ”  ชายหนุ่มเสียงตะกุกตะกักก่อนจะถอยกรูดตัวเองจนหลังชนกับกระเบื้องของผนังกำแพง“มะ... ไมค์กี้  ปะ...ปล่อยพวกราไปเถอะ ”
                แมกซ์พูดเสียงตะกุกตะกัก  แต่เหมือนว่าสิ่งตรงหน้าจะไม่รับรู้ถึงความขอร้องของเขาเลยสักนิด  “ วันนี้พวกเราจะไปทำบุญให้นายนะ ”
                หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ ลมหายใจเริ่มถี่กว่าปกติก่อนที่ร่างตรงหน้าจะทรุดลงที่พื้นแขนทั้งสองข้างกำลังใช้แทนขาลากร่างที่เปียกปอนค่อยๆเข้าไปใกล้แมกซ์ทีละนิดๆ แล้วจับไปที่ขาของแมกซ์
                “กู...ไม่...เอา! ”  เสียงของวิญญาณเพื่อนเก่าดังขึ้นอีกครั้งแล้วค่อยๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนกลายเป็นตะโกนเต็มหูแม็กซ์
                ร่างแกร่งสะดุ้งลืมตาขึ้นนี่เมื่อกี้เขาฝันหรือมันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเขาเองกันแน่ร่างเปลือยเปล่าของชายหนุ่มบัดนี้สั่นสะท้านด้วยความหนาวของสายน้ำจากฝักบัวมือหนายื่นไปหมุนก๊อกน้ำจนน้ำจากฝักบัวหยุดลงก่อนจะสะบัดหัวไล่ความคิดเพื่อเรียกสติกลับมาแล้วใช้ผ้าเช็ดตัวมาซับร่างกายหางตาของเขาเหลือบไปเห็นฝ้าจากไอน้ำตรงกระจกที่บัดนี้เหมือนมีรอยคนเอานิ้วมาเขียนอะไรบางอย่างเมื่ออ่านดูอย่างพิจารณาแล้วมันเป็นคำว่า
                ‘ตาย’

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา