Creepypasta Family The Broken Myth

9.5

เขียนโดย Leragan

วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 20.43 น.

  24 chapter
  9 วิจารณ์
  38.22K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 14.07 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

11) โรค (Disease)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
               ภายในป่ารกร้างต้องคำสาปของชายไร้หน้านามสเลเดอร์แมน เหล่าสัตว์น้อยใหญ่ต่างหลบในรูบ่อใต้หินและรากไม้ พวกมันต่างกลัวกับผู้อาศัย ผู้มีร่างกายยืดยาว และสูงผิวแปลกไปจากมนุษย์ธรรมดา แม้แต่เหล่ามนุษย์ไม่ว่าจะต่ำต้อยหรือสูงศักดิ์ หรือแม้จะมีความกล้ามากเพียงใด ก็ไม่เคยมีความคิดที่ไร้ความสร้างสรรค์ที่เดินย่างกรายเข้าไปในป่า เพราะถ้าหากเขาทำไปย่อมไม่มีวันได้หวนกลับมาอีกเป็นแน่นอน เพราะเรื่องเล่าบางอย่างที่ถูกกล่าวขานถึงฆาตรกรปริศนา ผู้ได้รับนามว่า เจฟ เดอะคิลเลอร์ นั่นทำให้ทุกคนเกรงกลัวและหวาดผวาต่อคนกลุ่มนี้มากจนไม่กล้าบุกรุกดินแดน แต่ในความจริงนั้นมันไม่..ช้ะ...โอ๊ย!!!
               "เธอตีหัวชั้นทำไมเนี่ย!!" นักวิจัยแห่งองค์กรเอสซีพีตะโกนใส่หญิงสาวในชุดกี่เพ้าที่ประดับไปด้วยคิวตี้มาร์คของเหล่าโพนี่ ลอสต์ลูบบริเวณจุดเกิดเหตุหลายครั้ง พร้อมกับปรากฎกล่องข้อความสามมิติพร้อมกับรูปไอคอนน้ำตาไหล
               "ก็นายดันเล่าซะจนทำให้พวกคนอ่านกลัวกันหมดแล้ว..อย่างนี้จะมีใครกล้าอ่านนิยายเรื่องนี้ต่อล่ะย่ะ" หญิงสาวผู้มีเรือนผมสีชมพูกล่าวขึ้น "แล้วอีกอย่างนะ..นายควรจะบอกคนอ่านด้วยว่าเราอยู่ที่ไหนกัน ถ้าเล่นไม่บอก แล้วพวกเขาจะไปรู้มั้ยล่ะ"
               "คร้าบบ..แม่" ลอสต์ก้มหน้าและเอ่ยด้วยเสียงเบื่อหน่าย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นและพบกับจุดจบของชีวิตเขา หญิงสาวทำแสดงสีหน้าอำมหิตใส่เขา เธอดีดนิ้วหนึ่งครั้งบังเกิดมีดอันแหลมคมจำนวนมากจนแม้แต่ลอสต์ก็ขี้เกียจนับ พวกมันกองอยู่กับพื้นจนเกิดเป็นเนินขึ้น
               "ใคร..แม่แกย่ะ!" หญิงสาวเอ่ยจบ เธอก็ยกฝ่ามือขึ้นสูงเหนือศีรษะ แล้วจึงดีดนิ้วครั้งนึง ทำให้เหล่ามีดที่กองอยู่กับพื้นนั้นลอยขึ้นมาอยู่ข้างหลังของเธอทันที
               "เฮ้! ใจเย็นๆก่อนนะ..พิงกี้" เพียงลอสต์พูดจบ พิงกาเมน่าก็เกิดอาการคิ้วกระตุกถี่รัว ใบหน้าอันงดงามของเธอถูกแทนที่ด้วยใบหน้าของนางมารจักรวาล ตาสีฟ้าใสของเธอได้หายไป เหลือเพียงแต่ตาสีขาวโพลนดูน่าสยดสยอง
               "ใครชื่อพิงกี้กันย่ะ!!!" หญิงสาวผมชมพูมองไปที่ลอสต์ ด้วยความโกรธสุดขีด ก่อนที่เธอจะลงมือฆ่าเขา เธอก็หันมาทางผู้อ่านด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่งเย็นชา เธอจับไปที่ประตูมิติที่เปิดระหว่างฝั่งของผู้อ่าน นักเขียนและเนื้อเรื่อง "ฉันขอปิดประตูมิติสักแปปนะค่ะ เดี๋ยวฉันจะเปิดให้ใหม่ถ้าเหตุการณ์นี้จบแล้ว..เพราะมันอาจไม่เหมาะกับเด็กที่ยังอายุไม่ถึง 18 ปี ดังนั้นโปรดรอสักครู่ค่ะ"
               หลังจากที่หญิงสาวเอ่ยจบ เธอก็ปิดประตูมิติลง ทำให้เบื้องหน้าเหลือเพียงแต่ความว่างเปล่าภายใต้ความมืด พร้อมกับเสียงที่เล็ดลอดออกมาจากอีกฟาก
               "อ๊ากกก!!! โอ๊ยยย!! อุ๊!!! อั๊กก!! ถ้าจะ..โอ๊ย! เล่นกันขนาดนี้..อั๊ก! ตูตายเองก็ได้ คร็อก!!!"
               ไม่นานนักก็เกิดเสียงดีดนิ้วเกิดขึ้น ก่อนที่มือของหญิงสาวจะทะลุผ่านมิติแหวกช่องว่างเพื่อเปิดประตูอีกครั้ง แสงอาทิตย์บางๆจากภายในถูกสาดส่องออกมา ปรากฏสถานที่ขึ้นในป่าใหญ่ดูรกร้างไร้ผู้คน หญิงสาวเบือนหน้าไปทางลอสต์ที่ตอนนี้ทั้งร่างเต็มไปด้วยมีดจำนวนมหาศาลจนไม่สามารถมองไม่เห็นแม้แต่ร่างจริงของเขา
               หญิงสาวยังคงแสดงสีหน้าเย็นชา เธอเบือนหน้าออกจากทิศทางเดิม เธอกวาดสายตาไปทางเหล่าชายหญิงที่กำลังแอบอยู่บริเวณพุ่มไม้ แอบซุ่มมองบางอย่างที่อยู่อีกฝั่ง เธอก้าวเข้าไปหาคนกลุ่มนั้นแล้วเอ่ยถามขึ้น
               "เจ้าลอสต์..ให้ใครมาทำภารกิจที่สามบ้างน่ะ คล็อกเวิร์ค" เมื่อหญิงสาวผู้มีดวงตาข้างหนึ่งเป็นนาฬิกา เธอเบือนหน้ามาหาพิงกาเมน่าแล้วจึงตอบคำถาม
               "คนที่จะมาทำภารกิจที่สามก็จะมีชั้น โทบี้ เจฟ นิน่า อีเจ ไอโอน่า และคุณฮีโร่บราย.." คล็อกเวิร์คเอ่ยจบ พิงกาเม่าก็เกิดอ้าปากค้างเล็กน้อยเมื่อได้ยินนามสุดท้ายของผู้ที่จะมาทำธุรกิจ เธอเลื่อนมือไปจับหน้าผากของตนเองคล้ายกับกำลังครุ่นคิดถึงบางอย่าง
               "..นี่เจ้านั่นให้ผู้ชายคนนั้นมาทำอะไรที่นี่กันล่ะเนี่ย บางครั้งมันจะหนักเกินไปแล้วนะ..เจ้าลอสต์ก็น่าจะรู้อยู่แท้ๆว่าพลังของท่านเค้ามันมากกว่าที่โลกนี้จะรับไหว ไม่สิ..จักรวาลนี้เลยต่างหาก"
               "มีอะไรหรือเปล่าค่ะ..คุณพิงกาเมน่า" คล็อกเวิร์คแสดงสีหน้าสงสัย พิงกาเมน่าจึงรีบหันกลับมาแล้วตีสีหน้าเย็นชากลบเกลื่อน แต่ก็ยังแสดงถึงความมีพิรุธจนทำให้คนรอบข้างเริ่มสงสัย
               "ป่าววว..ไม่มีอะไร ก็แค่คุยกับตัวเองเฉยๆ" เม็ดเหงื่อปรากฏอยู่บนใบหน้าของหญิงสาวเพิ่มขึ้นอย่างถี่รัว
               "ไม่มีอะไรจริงง่ะ.." เสียงกวนๆที่คุ้นเคยดังขึ้นจากทางด้านหลัง คนอื่นๆต่างหันไปมองในทิศทางของเสียง เว้นแต่พิงกาเมน่าที่ก้มหน้าลง 
               "โดนมีดแทงขนาดนั้นยังกลับมาพูดกวนๆได้อีกนะ แกนี่มันถึกยิ่งกว่าแมลงสาบจริงๆ" พิงกาเมน่าเอ่ยออกมา ในขณะกำลังก้มหน้าลง
               "ไม่ต้องชมครับ..ไม่ต้องชม" ลอสต์ผายมือไปข้างหน้าแล้วจให้เคลื่อนไหวไปมา "ชั้นรู้ว่าชั้นมันถึก แต่ก็ถึกไม่เท่าเธอหรอกนะ..พิงกี้"
               "ว่ายังไงนะ!!" หญิงสาวพรวดพราดหันไปหาลอสต์ ทำให้มือของลอสต์ประทับอยู่บนหน้าอกของเธอทันที เมื่อพิงกาเมน่าถูกสัมผัสภูเขาไฟขนาดยักษ์ที่ถูกตั้งใกล้ชิดกัน หน้าของเธอก็แดงขึ้นมาทันที
               "อะไรว่ะ..ทั้งใหญ่ทั้งนุ่ม ทำไมมือจับไม่หมดหว่าาา" ลอสต์ที่ยังคงไม่รู้เรื่องเพราะถูกมีดจำนวนมากบดบังการมองเห็น เริ่มคลำสิ่งบางอย่างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันพิงกาเมน่าก็พยายามจะกลั้นเสียงร้องของเธอไม่ให้ออกมาทั้งๆริมฝีปากของเธอนั้นถูกเม้มไว้และใบหน้าที่แดงยิ่งกว่ามะเขือเทศที่พึ่งล้างมาหมาดๆ แต่เธอก็ทนได้ไม่นานนักเสียงร้องของเธอก็ดังขึ้น
               "อิย๊าาาา!!!"
               เสียงที่เปล่งออกมานั้นทำให้พวกของคล็อกเวิร์คหน้าแดงก่ำ ลอสต์ก็เริ่มสงสัย เขาจึงใช้พลังสลายมีดทั้งหมดที่ปักร่างของเขาจนไม่เหลือแม้แต่เศษซากของอะตอม ก่อนจะซ่อมแซมเสื้อผ้าของเขาให้กลับมาเหมือนใหม่ แล้วจึงมองไปในสิ่งที่เขาสัมผัส ก็พบกับหน้าอกที่ถูกปกคลุมด้วยผ้าของกี่เพ้า ลอสต์รีบเบือนหน้าไปทางต้นตอก็พบกับพิงกาเมน่าที่กำลังหอบหายใจ นัยน์ตาของเธอเปลี่ยนเป็นวังวนที่ไร้จุดจบ เธอดูคล้ายกับไร้เรี่ยวแรงมาก ลอสต์รีบเคลื่อนที่ไปประคองร่างของหญิงสาวมาอุ้มไว้
               "เซนซิทีฟก็ไม่บอก" ลอสต์ที่อุ้มหญิงสาวผมชมพูอยู่นั้นได้เบือนหน้าไปทางคล็อกเวิร์ค แล้วจึงเอ่ยสั่งการต่อ "ถ้ามากันครบแล้วก็เริ่มแผนการได้เลยนะ..ชั้นไปก่อนล่ะ ต้องพายัย 'Cup H' นี่ไปพักผ่อนก่อน"
               ลอสต์กล่าวจบ ร่างของเขาและพิงกาเมน่าก็อันตรธานหายไปทันที เหลือเพียงแต่เหล่าชายหญิงอีกหกคนไว้
               "นี่..นิน่า เธอคับอะไรเหรอ" คล็อกเวิร์คเอ่ยถามเรื่องที่ไม่ควรจะกล่าวต่อหน้าเหล่าผู้ชายตรงๆ นั่นทำให้ใบหน้าของชายทั้งสามแดงขึ้นมาเล็กน้อย
               "ชั้นแค่คับซีเอง" นิน่าเอ่ยตอบออกไป พร้อมกับเอามือมาสัมผัสหน้าอกของตน โดยไม่ได้สนใจสามหนุ่มที่กำลังนั่งยิ้มเหม่อมองหญิงสาวทั้งสอง
               "อิอิ..สงสัยเธอจะเล็กกว่าชั้นนะ" นาตาลีเอ่ยจบ นิน่าก็แสดงสีหน้าสงสัย
               "นี่..เธอคับอะไร" นิน่าเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความโกรธเล็กน้อย
               "Cup D จ๊ะ.." คล็อกเวิร์คเอ่ยจบ ก็แลบลิ้นออกมา ปิดตาลงข้างหนึ่ง พร้อมกับยกสองนิ้วของตนมาไว้บริเวณแก้ม แสดงท่าทางออกแบ๊วผสมกวน
               "บังอาจมาใหญ่กว่าชั้นได้ยังไง!.." นิน่าเอ่ยยังไม่ทันจบ ร่างของเธอได้พุ่งออกมาจากจุดเดิมอย่างรวดเร็ว มือสองข้างถูกเล็งพิกัดไปที่เป้าหมาย พร้อมกับโจมตีอย่างรุนแรงด้วยท่าฉกภูเขา สร้างความเจ็บปวดให้กับนาตาลีอยู่ไม่น้อย "เอามาแบ่งให้ชั้นบ้างเลย!"
               "นี่เธอจะทำอะไรน่ะ..อ๊าาาา!" เสียงใสของคล็อกเวิร์คถูกเปล่งออกมา เจฟที่นั่งดูอยู่ถึงกับเลือดกำเดาพุ่งและหมดสติไปหนึ่งราย ส่วนโทบี้กับอายเลส แจ็คก็รีบมาห้ามเหล่าสองสาวที่กำลังจะทำสงครามแย่งภูเขาคู่(บนหน้าอก)
               อายเลส แจ็คนำร่างของนิน่าให้ออกห่างจากคล็อกเวิร์ค ส่วนโทบี้ก็รีบดึงร่างของนาตาลีที่กุมไปที่หน้าอกทั้งสองข้างด้วยท่าทางเจ็บปวด
               "นาตาลีชอบเล่นซนอยู่เรื่อย.." โทบี้เอ่ยด้วยเสียงโกรธเล็กน้อย "ถ้ายังซนอย่างนี้อีก..ระวังแฟนคนนี้จะไม่รักนะ"
               "เค้าขอโทษนะ..ดาร์ลิ้ง" นาตาลีเอ่ย พร้อยกับแสดงสีหน้าหน้าสงสาร ประกอบกับน้ำตาที่คลอจากความเจ็บปวด ทำให้ดูเหมือนกับท่าทางการอ้อนที่สมบูรณ์แบบ
               แต่ในขณะที่โทบี้กับคล็อกเวิร์คกำลังหวานกันอยู่ อีกด้านหนึ่งดูท่าจะยังไม่อยากจบเรื่องจบราว
               "ปล่อยชั้นนะ..อีเจ" หญิงสาวผมดำปลายชมพูเอ่ยขึ้นพร้อมกับเคลื่อนที่ไปมาคล้ายกับพยายามจะหนีออกมาจากการพันธนาการของอายเลส แจ็ค แล้วไปซัดคล็อกเวิร์คต่อ
               "หยุดได้แล้ว..นิน่า" ชายผิวสีเทาพยายามกีดกันไม่ให้หญิงสาวในพันธนาการของเขาหลุดรอดไปซัดกับคล็อกเวิร์ค
               "ชั้นบอกให้ปล่อยไง!..." แม้ว่าอายเลส แจ็คจะเกลี่บกล่อมไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้ผล
               หญิงสาวเริ่มดิ้นรนมากขึ้นจนอายเลส แจ็คเริ่มจะรับไว้ไม่อยู่
               "นิน่า.."
               "นิน่า!.."
               "นิน่า!!.."
               "นิน่า!!!.." อายเลส แจ็คขึ้นเสียงใส่นิน่าด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย แต่กลับทำให้หญิงสาวกลับมาชำเลืองมองเขาอยู่บ้างด้วยสีหน้าแลดูเศร้า
               "เล็กกว่าเค้านิดเดียว..ทำไมต้องทำท่าทางเครียดแค้นเขามากขนาดนั้น..ฮ่ะ"
               "ก็สมัยนี้ผู้ชายคนไหนก็ชอบหน้าอกใหญ่ๆนิ แต่ชั้นกลับเล็กไป..แล้วใครจะมาสนใจชั้นล่ะ ถึงแค่จะอยากมีเพื่อนชายที่จริงใจก็ตาม แต่ยังไงผู้ชายมันก็ดูที่หน้าตาและทรวดทรงเหมือนกันหมดนั่นแหละ" หญิงสาวเอ่ยออกมา เธอกวาดตาลงมองที่พื้นด้วยท่าทางเศร้า
               "ผู้ชายน่ะ..ไม่ได้ดูแต่ร่างกายเหมือนกันทั้งหมดหรอกนะ" นิน่าหันขวับมองที่ใบหน้าของแจ็คทันที ดวงตาของเธอแลดูเปล่งประกายกว่าครั้งใดๆ
               "และชั้นก็เป็นหนึ่งในผู้ชายที่ไม่มองเพียงแค่ร่างกายของผู้หญิง.." อายเลส แจ็คเอ่ยจบ ก็เบือนหน้ามาทางนิน่า พร้อมกับปล่อยเธอออกจากพันธนาการแล้วเปลี่ยนมาอยู่ในอ้อมกอดแทน ในขณะที่ทั้งสองกำลังแลมองหน้ากัน ดวงตาของหญิงสาวเปล่งประกายออกมาดั่งดวงดาวระยิบระยับ อายเลส แจ็คเปิดหน้ากากของเขาให้ช่วงปากของเขาโผล่ออกมา ทั้งสองกำลังเลื่อนหน้าเข้ามาอยู่ใกล้ชิดกัน
               ..แต่กลับถูกขัดจังหวะโดยเพื่อนรักปากเสียของทั้งสอง
               "แหวะ! น้ำเน่าว่ะ" เจฟที่กลับมามีสติเช่นเดิมเอ่ยขึ้นโดยไม่ทันคิดว่าจะได้รับผลอะไร เพราะแจ็คและนิน่าได้กำมือแน่น ก่อนจะพุ่งตัวไปที่พิกัดของคนปากเสีย
               "เฮ้ๆ หยุดก่อน! อย่าพึ่ง!..อั้ก" เจฟถูกหมัดของหญิงชายทั้งสองกระทุ้งใส่ใบหน้า กระเด็นออกไปชนกับต้นไม้หลายสิบต้นหักโค่นล้มลงมา
               "ไปตายซะ..เจ้าปากเสีย" อายเลส แจ็คและนิน่าเอ่ยออกมาพร้อมกัน
               "เออ..." เสียงของหญิงสาวผู้มีดวงตาข้างหนึ่งถูกแทนที่ด้วยหน้าปัดนาฬิกา นิน่าได้ยินเสียงออกมาก็รีบหันขวับไปพร้อมกับแสดงสีหน้าเรียบนิ่ง
               "ชั้นขอโทษนะ..ที่ยุเธอให้โกรธน่ะ" นาตาลีย่างก้าวเข้าใกล้คู่กรณี แล้วจึงกล่าวเอ่ยคำขอโทษ
               "ไม่ต้องมาขอโทษชั้นหรอกนะ..ชั้นนี่แหละผิด ที่ไม่ยอมควบคุมอารมณ์ตัวเองน่ะ" นิน่ากล่าวขอโทษนาตาลี ก่อนที่ทั้งสองจะหันหน้ามามองหน้ากันสักครู่ใหญ่ครู่หนึ่ง แรงกดดันจากความเงียบถูกเพิ่มขึ้นมาอย่างมหาศาล เหล่าสองหนุ่มเริ่มรู้สึกกังวลกับท่าทางที่สองสาวกำลังมองหน้ากันด้วยท่าทางเย็นชา แต่ไม่นานก็...
               "พวกเรานี่ติงต๊องจังเลยนะ..ดันมาทะเลาะกันเรื่องขนาดหน้าอก" หญิงสาวทั้งสองกลับมาคุยกันประสาผู้หญิง ส่วนทางสองหนุ่มก็ล้มนอนกองไปอยู่กับพื้น
               พวกเธอทั้งสองพูดคุยกันไปได้สักพัก คลื่นลมขนาดใหญ่ก็พัดผ่านร่างของทั้งสองไป ทำให้เสื้อผ้าของทั้งสองปลิวไปตามแรงลม เหล่าหนุ่มสาวหันไปมองจุดสิ้นสุดของแรงลมนี้ก็พบกับสตรีนางหนึ่งที่ใส่ชุดรัดรูปสีดำเผยให้เห็นทรวดทรงที่เด่นชัดบริเวณต้นขาทั้งสองมีมีดเลเซอร์และปืนพกถูกติดตั้งอยู่ บริเวณส่วยของรองเท้าคล้ายกับเป็นเทคโนโลยีรุ่นใหม่ ด้านหลังของเธอทั้งธนูเทคโนโลยีขั้นสูง กับปืนไรเฟิลรุ่นใหม่ถูกแขวนไว้พาดไหล่ ส่วนฝ่ามือของเธอมีรูปสัญลักษณ์บางอย่างคล้ายวงกลมที่ภายในมีสามเหลี่ยม พวกมันมีแสงออร่าเปล่งประกายออกมา ส่วนศีรษะและใบหน้าของเธอถูกปิดบังด้วยหน้ากากจากโลหะแบบพิเศษ ซึ่งก็น่าจะเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงเช่นกัน แต่หน้ากากนี้กลับปล่อยให้ผมสีฟ้าใสดั่งน้ำทะเลออกมา
               เหล่าชายหญิงทั้งสี่หยิบอาวุธของตนออกมาเตรียมตั้งท่าพร้อมต่อสู้กับสตรีเบื้องหน้า แต่ทันใดนั้นหน้ากากก็ถูกเปิดออกมา เผยให้เห็นใบหน้าของหญิงสาวที่พวกเขาคุ้นเคย
               "จำชั้นไม่ได้แล้วหรือไงทุกคน" เสียงใสของหญิงสาวถูกเปล่งออกมา หญิงสาวผมสีฟ้ายกหมวกที่สวมใส่ออกมาไว้อยู่ลำตัว "ถ้ายังจำไม่ได้..ชั้นจะทวนความจำให้"
               "สวัสดีทุกคน..ชั้นไอโอน่า นอร์ทสตาร์จะมาช่วยพวกเธอในภารกิจนี้เอง"
               ทันทีที่หญิงสาวเอ่ยจบ สีหน้าของทุกคนก็กลับมายิ้มแย้มเหมือนเดิม เหล่าอาวุธก็ถูกนำกลับไปเก็บไว้ที่เดิม
               "ไอโอน่านี่เอง.." ชายหนุ่มผู้มีปากที่ควรปิดไปตลอดกาลย่างก้าวเข้ามาทางด้านหลังของไอโอน่าในสภาพที่หัวชุ่มเลือด ร่างกายถูกกิ่งไม้ทิ่มแทงอยู่หลายจุด
               "ไม่ได้เจอกันไม่กี่สิบวัน..ก้นใหญ่ขึ้นเยอะเลยนะ" ชายหนุ่มเอ่ยเสร็จก็เอื้อมมือไปสัมผัสก้นของหญิงสาว
               แต่ไม่ทันที่จะได้บีบหรือทำอะไร สีผมของหญิงสาวผู้นี้ก็ถูกเปลี่ยนเป็นสีขาวราวหิมะ ก่อนที่ร่างของหญิงสาวจะอันตรธานหายไปอย่างรวดเร็วแล้วเพียงชั่วพริบตาก็ปรากฏตัวขึ้นมาข้างกายของเจฟ พร้อมกับหมุนเตะก้านคอใส่ชายหนุ่มผู้นี้ทันที แต่ร่างของไอโอน่ายังคงค้างไว้บนอากาศเช่นเดียวกับเจฟที่ยังคงยืนอยู่นิ่งเหมือนทั้งคู่ถูกหยุดเวลา แต่ก็ไม่นานนักก้อนแสงสีขาวถูกบีบอีดตัวอยู่ที่ต้นขาที่เตะใส่ก้านคอของเจฟ เสริมแรงดันปะทะทำให้เจฟกระเด็นออกไปสู่ท้องฟ้า แต่ร่างของหญิงสาวผู้ถูกกระทำก็อันตรธานหายไปอีกครั้ง ไปปรากฏ่างอยู่เบื้องบนฟ้าก่อนที่ร่างของเจฟก็พุ่งขึ้นมา หญิงสาวที่แสดงสีหน้าเกรี้ยวโกรธรวบรวมพลังบังเกิดแรงลมมหาศาลหมุนวนไปมาโดยมีหมัดของหญิงสาวเป็นจุดศูนย์ ไม่กี่วินาทีไอน้ำถูกแรงลมพัดผ่านไปมาจนเกิดเป็นน้ำและก้อนน้ำแข็งถูกลมพายุขนาดเท่าทอร์นาโดงวงช้างพัดไปมาโดยแรงลมพายุนั้นถูกชี้ไปข้างบนฟากฟ้า เหล่ากลุ่มก้อนอิเล็กตรอนถูกแรงลมพัดไปมาจนเกิดการเสียดสีและแบ่งตัวกันในระดับอะตอม เกิดสายฟ้ารายล้อมพายุและก้อนพลังงานสีขาวที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเพียงครึ่งเมตร
               ไม่กี่วินาทีร่างของเจฟก็ได้พุ่งขึ้นมาสู่จุดประหาร หญิงสาวผู้มีเรือนผมสีขาวพุ่งร่างลงมาจากท้องนภาแล้วต่อยไปที่กลางใบหน้าของเจฟอย่างรุนแรง ร่างของทั้งสองร่วงหล่นลงมาสู่พื้นอย่างรวดเร็วด้วยแรงปะทะอย่างมหาศาล แรงลมกระจายไปทั่วทุกมุมของป่า เหล่าสัตว์เล็กน้อยใหญ่ หรือแม้แต่ก้อนหินขนาดหินขนาดใหญ่และต้นไม้ถูกพัดปลิวหายไปจนไกลจากระยะสายตา เหล่าหนุ่มทั้งสองรีบมาโอบอุ้มสองสาวหนีไปหลบด้านหลังภูเขาที่พวกเขาคิดว่าทนต่อแรงปะทะนี้ได้ทันที
               เวลาผ่านไปได้สักพักหนึ่ง เหล่าหญิงชายทั้งสี่ที่หลบอยู่ภายใต้ร่มเงาของเนินเขาลูกใหญ่ได้ออกมาจากที่กำบังพร้อมกับมามองความพินาศของป่าที่พวกเขาทั้งสี่ได้มาสอดแนมเพื่อทำภารกิจ แผ่นดินยุบคล้ายอุกกาบาตขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ตกลงมาสู่พื้นโลก เหล่าต้นไม้และก้อนหินถูกกวาดเรียบหายไปจนแผ่นดินราบเป็นหน้ากอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเพียงเพราะ..เจฟไปจับก้นของไอโอน่า
               หญิงสาวผู้ทำลายแผ่นดินเดินก้าวออกมาโดยมือข้างหนึ่งถือหมวกของเธอเอาไว้ หญิงสาวมองมาทางทางพวกของนาตาลีพร้อมกับยิ้มให้ ในขณะเดียวกันผมของเธอก็ถูกเปลี่ยนเป็นสีฟ้าเช่นเดิม แต่สิ่งที่เธอไม่คาดคิดกลับย่างก้าวเข้ามาใกล้เธอ มือข้างหนึ่งถูกวางมาสัมผัสบริเวณไหล่ของไอโอน่า หญิงสาวหันขวับกลับไปก็พบร่างไร้หัวของเจฟเดินเข้ามาสัมผัสร่างกายเธอ ก่อนจะผลักเธอให้ล้มและเริ่มจะทำบางอย่าง เหล่าพวกของโทบี้ก็รีบวิ่งไปดึงร่างของเจฟมารุมประชาทัณฑ์อย่างรวดเร็ว
               "เฮ้! ใจเย็น..เย๊นนนน!!" เจฟฟื้นฟูร่างกายของตนให้กลับมาเหมือนเดิม แล้วจึงรีบเอ่ยให้เหล่าเพื่อนของเขาหยุดก่อนที่ร่างของเขาจะเต็มไปด้วยรอยรองเท้า
               "เฮ้อ! เกือบถูกรุมกระทืบตายแล้วไงล่ะ" ชายหนุ่มอุทานออกมา
               "เฮ้ย! หยุด..อย่าขยับ" เสียงของบุรุษที่อยู่เบื้องหลังของเจฟดังขึ้นมา "ที่นี่ถูกผู้คุมและกองทหารรุมล้อมไว้หมดแล้ว"
               ทั้งห้าคนเบือนหน้าหันไปมองเหล่าผู้คุมทันที แต่ช่วงหนึ่งก็เกิดเรื่องผิดปกติเมื่อเสี้ยววินาทีแรกที่พวกเขาเห็นเหล่าผู้คุมนั้นมีอยู่เกือบเป็นแสน แต่เมื่อเสี้ยววินาทีตอมาเหล่าผู้คุมและกองทหารเหล่านั้นกลับล้มตายไปเอาเฉยๆ
               "นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย!" โทบี้อุทานออกมาด้วยความฉงน เช่นเดียวกลับหลายๆคนที่แสดงท่าทางสงสัย..เว้นแต่คล็อกเวิร์คที่ดวงตาเบิกกว้างค้างคล้ายกับเห็นอะไรติดตาอยู่
               "นาตาลี..เธอเป็นอะไรหรือเปล่า" โทบี้เอ่ยขึ้นอย่างกังวล เมื่อเขาได้หันมาพบกับนาตาลีในท่าทางอึ้งกับบางสิ่ง
               "ผู้ชายคนนั้น..." หญิงสาวพูดสั้นๆออกมาจนไม่รู้ถึงใจความใดๆ
               "...หยุดเวลาแล้วกำจัดพวกทหารนั่นตายไปภายในการโจมตีเพียงครั้งเดียว" คำพูดที่นาตาลีผู้มีพลังแห่งเวลาเอ่ยออกมา ทำให้เพื่อนอีกสี่คนถึงกับอึ้งนิ่งค้างไปตามๆกัน
               "แล้วเจ้านั่นมันใครกันล่ะ..นาตาลี" โทบี้เอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง
               "ฮีโร่บรา..." ไม่ทันที่หญิงสาวจะเอ่ยจบ ร่างของทั้งห้าก็ถูกวาร์ปกลับมาที่คฤหาสน์ด้วยฝีมือของใครบางคน
               "อ้าว! กลับกันมาแล้วหรือ" ลาฟฟิ้ง แจ็คเดินออกมาพร้อมกับแขนข้างที่ขาดไป แต่ตอนนี้กลับถูกแทนที่ด้วยกลุ่มหมอกควันสีดำในรูปลักษณ์คล้ายมือ "แล้วภารกิจล่ะเป็นยังไงบ้าง"
               "เอ่อ..."
               "ภารกิจเสร็จสมบูรณ์..ข้าปกป้องเหล่าคนพวกนั้นไว้ได้แล้ว" เสียงของชายผู้หนึ่งดังออกมา ร่างของชายวัยกลางคนที่มีมัดกล้ามเนื้ออยู่เต็มร่างกายก้าวเท้าออกมาจากเงามืด ดวงตาที่มีสีขาวโพลนไร้นัยน์ตาอันเป็นจุดเด่นมีแสงสีขาวไหลออกมาคล้ายแก๊ส เมื่อชายผู้นี้เดินออกมา นาตาลีก็แสดงสีหน้าหวาดกลัวขึ้นมา ร่างของเธอสั่นไหวกว่าปกติ ชายผู้นี้จึงสังเกตเห็น เขาเดินเข้าไปใกล้ๆเด็กสาวที่กำลังหวาดกลัวเขาอยู่
               "สาวน้อยเอ๋ย..ไม่ต้องกลัวข้าหรอกนะ" ชายวัยกลางคนคุกเข่าลงมองหญิงสาว ก่อนจะนำมือข้างหนึ่งไปลูบบริเวณศีรษะของนาตาลี "อย่าได้กลัวข้าเลย..ข้าและพวกเจ้าทุกๆคนก็เหมือนกันหมด พวกเราเป็นเพื่อนพ้องกัน"
               คำพูดของชายกลางคนผู้มีดวงตาสีขาวทำให้นาตาลีนั้นสั่นน้อยลง ก่อนจะเลิกสั่นไหวไปในที่สุด
               "อุตส่าแต่งมาซะเต็มยศ..อดเล่นเลยอ่ะ" ไอโอน่าเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย
               "คิดในแง่ดีไว้สิ..อย่างน้อยพวกเราก็ไม่ต้องออกแร...อั้ก อ๊ากกกก!" ยังไม่ทันที่เจฟจะเอ่ยจบร่างของเขาก็ล้มลงไปนอนกับพื้น พร้อมกับส่งเสียงกรีดร้องที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดอย่างมหาศาล ชายหนุ่มกุมไปที่หน้าอกบริเวณหัวใจ
               "เจฟ!!!" ทุกๆคนในห้องต่างรีบเคลื่อนที่มาทางเขาทันที
               ในสถานที่แห่งหนึ่งในไซต์ย่อยของสถาบันเอสซีพี ภายในห้องคุมขังของ SCP-49 บุรุษที่ถูกเรียกว่าหมอกาดำกำลังหัวเราะเบาๆ แต่แฝงไปด้วยความบ้าคลั่งและวิปริต
               ...ทำได้ดีมากครับคุณหมอ เท่านี้เหล่าพวกผู้ต่อต้านก็จะขาดคนสำคัญในกลุ่มไปคนนึงได้แล้ว...
               "ไม่เป็นไรครับ..ท่านมาสเตอร์มายด์" เสียงแหบแห้งถูกเอ่ยออกมาจากปากที่ถูกปิดบังโดยหน้ากากของหมอกาดำ "มันเป็นหน้าที่ของกระผมอยู่แล้วครับ..ฮ่าฮ่าฮ่า!!!"

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา