ทาสรักเพลิงเเค้น

9.8

เขียนโดย ลูกแก้ว

วันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 10.15 น.

  8 ตอน
  0 วิจารณ์
  11.92K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2558 13.55 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ไฟเเค้น

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
“ไอ้ภัทร ฉันพูดด้วยทำไมต้องเดินหนี  นี่แกคิดจะลองดีกับฉันหรอ ห๊ะ”  แพรวามองคนที่ไม่พูดไม่จาด้วยสายตาเหยียดหยาม หึ  เป็นแค่เด็กเก็บมาเลี้ยงแต่กลับทำตัวราวกับเป็นลูกเจ้าของบ้านไอ้หมาข้างถนน เอ้ย!!”
 
“ผมไม่มีอะไรจะพูด” เขาเบื่อหน่ายเต็มทีกับการที่ถูกเธอพูดจาแบบนี้ใส่เขาทุกวันถ้าเกลียดกันนักก็ต่างคนต่างอยู่ไปซิ ทำไมต้องคอยมาตามหาเรื่องด้วย
 
“ที่ไม่มีอะไรจะพูดก็เพราะว่าฉันพูดแทงใจดำแกใช่ไหมหละ” แพรวายืนกอดอกส่งสายตาดูแคลนไปที่เขา
 
               “ก็แล้วแต่คุณหนูจะคิดครับ”ภัทรเดินเข้ามาใกล้แพรวาแล้วยื่นหน้าเข้าไปหาพร้อมกับพูดว่า “หรือว่าที่คุณหนูแพรวาคนสวยคอยมาตามต่อว่าผมนี่จะเป็นเพราะว่าจริงๆแล้ว สนใจผมอยู่รึเปล่าครับ” ภัทรเลิกคิ้วแล้วถามพลางกอดอกแล้วสงสายตาเจ้าเล่ห์มายังเธอ
 
               “เชอะ ใครมันจะไปสนใจ ผู้ชาย จนๆอย่างแก ย่ะ ฉันไม่ลดตัวลงไปชอบคนชั้นต่ำอย่างแกหรอก...ที่ฉันมาคอยตามดูแกเนี่ย ก็เพราะกลัวว่าคนที่คุณพ่อชมนักชมหนาจะดีแตกเมื่อไหร่” แพรวายังคงตอบกลับด้วยคำพูดและท่าทางที่เย้ยหยัน “ขอให้ดีแบบนี้ตลอดไปจริงๆเถอะ” เมื่อเอ่ยจบเธอก็เดินเข้าบ้านทันที
 
                ตั้งแต่วันนั้นมาธีรภัทรก็แวะไปหาใยไหมทุกวันเพื่อจะรับไปส่งบ้านตามที่ได้บอกหญิงสาวไว้ และไม่พ้นการจ้องจับผิดของคุณหนูคนสวยที่มักจะมายืนรอต่อว่าเขา จนกระทั้งวันหนึ่งเธอไม่เพียงแค่ดักรอเหมือนอย่างทุกวันแต่เธอขับรถตามชายหนุ่มไปที่ผับจนกระทั้งเขาไปส่งใยไหมที่บ้าน
                “นึกแล้วเชียวว่าต้องมีอะไรแกถึงได้กลับบ้านดึกทุกคืนที่แท้ก็แอบซุกเมียไว้ที่นี่เองก็ดูเหมาะสมกันดีนะ คนใช้กับกับผู้หญิงกลางคืน”แพรวายืนกอดอกมองใยไหมตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าพร้อมกับเบ้ปากให้
 
                “มันไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ/มันไม่ใช่อย่างที่คุณหนูคิด”ทั้งคู่ปฏิเสธพร้อมกันทันที
 
                “แหมๆ ไม่ต้องปฏิเสธหรอกน่า ก็เห็นๆอยู่  นี่ถ้าจะแต่งกันรีบๆเข้านะเดี๋ยวท้องมันจะโตซะก่อนอายคนอื่นเขาน่ะ”เป็นแบบก็ดีฉันจะได้มีวิธีไล่แกออกจากบ้านได้ง่ายขึ้น  “ฉันไปก่อนแล้วกันคงไม่อยู่รบกวนความสุขของเธอแล้วหละ”พูดด้วยท่าทางยิ้มเยาะก่อนจะเดินขึ้นรถแล้วขับออกไป
 
                เมื่อรถหรูขับออกไปแล้วธีรภัทรจึงหันมามองใยไหมด้วยความรู้สึกผิดที่ทำให้เธอถูกเข้าใจผิดและถูกมองไม่ดี “พี่ขอโทษนะไหมทำให้ถูกคุณหนูต่อว่า”
 
                “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่เรารู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ก็พอแล้วค่ะไหมไม่โกรธเธอหรอกค่ะ”ใยไหมพูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม  เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะการคุยของหนุ่มสาว
 
                “สวัสดีค่ะ พี่หมอ”ใยไหมกดรับสายนายแพทย์หนุ่มที่เป็นเจ้าของไข้มารดาแต่ด้วยความที่เธอพูดคุยกับชายหนุ่มบ่อยจึงทำให้ทั้งคู่สนิทกันและด้วยนิสัยที่น่ารัก เรียบร้อยของใยไหม จึงทำให้หมอหนุ่มเริ่มมีใจและเดินหน้าสานสัมพันธ์  ซึ่งหญิงสาวเองก็ไม่ได้ปิดกั้นหัวใจ ทั้งคู่ศึกษากันอยู่หลายเดือนจึงตกลงเป็นคนรักกัน ซึ่งตอนนี้คบกันมาได้ปีกว่าแล้ว
 
หมอหนุ่มเองเตรียมที่จะขอหญิงสาวแต่งงานเพราะด้วยความที่เป็นห่วงหญิงสาวซึ่งต้องทำงานหนักและอยู่บ้านคนเดียวเขาเลยอยากจะให้เธอมาอยู่ด้วยกันซึ่งตัวเขาได้ปรึกษาบิดาและมารดาแล้วท่านก็ไม่ขัดข้องโดยเฉพาะมารดา ชอบใยไหมมาก จึงรีบไปหาฤกษ์ ทันทีที่ได้ยินบุตรชายบอก แต่เรื่องนี้ยังไม่ได้เปิดเผยให้เธอทราบ จะรอให้มารดาหมอหนุ่มมาสู่ขอกับแม่หญิงสาวให้เป็นเรื่องเป็นราวก่อนแต่คาดว่าไม่น่าจะเกินสิ้นเดือนนี้
 
“[ถึงบ้านหรือยังครับ]”ตลอดทั้งเดือนนี้หมอหนุ่มมีคนไข้เยอะและต้องอยู่เวรด้วยจึงทำให้ไม่ค่อยมีเวลาไปรับแฟนสาว แต่ก็หมั่นโทรหาบ่อยๆเพื่อเช็คความปลอดภัย และเล่าถึงชีวิตประจำวันให้กันและกันฟัง หมอหนุ่มจึงได้รู้จักกับธีรภัทร และนัดเจอกันบ่อยขึ้นยามที่ชายหนุ่มแวะไปเยี่ยมมารดาแฟนสาว บางครั้งถ้ามีเวลาว่างเยอะหน่อยทั้งสามก็จะทานข้าวด้วยกันตามแต่โอกาสจะเหมาะ
 
“ถึงแล้วค่ะ พี่ภัทรมาส่ง”ร่างบอกบอกด้วยน้ำเสียงสดใส
 
“พี่ขอตัวกลับก่อนนะไหม เข้าไปคุยกับพี่หมอในบ้านเถอะ”ธีรภัทรเห็นว่าตนมายืนนานแล้วเกรงว่าใยไหมจะถูกคนแถวนั้นมองไม่ดีและตอนนี้หญิงสาวก็มีคนคุยด้วยแล้วเขาจึงไม่อยากขัดความสุขของทั้งคู่
 
“ขอบคุณค่ะพี่ภัทร เดินทางปลอดภัยนะคะ”ใยไหมบอกลาชายหนุ่มก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน
......................................................................
“ทำไมต้องเป็นวันมะรืนด้วยค่ะ”น้ำเสียงแสดงความไม่พอใจของหญิงสาวเอ่ยถามเมื่อบิดามารดาบอกว่าจะต้องเดินทางไป ทำสัญญากับลูกค้าชาวญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของเธอที่อายุครบ 24 ปีพอดี “ทำไมไม่ให้นายภัทรไปแทนหละคะคุณพ่อ” เธอพยายามที่จะหาทางออกที่จะได้อยู่กับบิดามารดาในวันสำคัญนี้และเธอก็เคยเห็นบิดาให้เขาทำหน้าที่เจรจากับลูกค้ารายสำคัญๆมาแล้ว
 
“ก็เพราะว่าลูกค้ารายนี้เขาต้องการคุยกับเจ้าของบริษัทเองและก็เชิญให้แม่เราไปด้วย” นายเกริกพลพยายามอธิบายให้ลูกสาวเข้าใจ  ซึ่งลูกค้ารายนี้ได้แจ้งความประสงค์มาโดยตรงว่าจะเจรจากับตัวเขาเองและเพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีจึงได้เชิญภรรยาเขาไปร่วมรับประทานอาหารกับทางนั้นด้วย
ซึ่งถือว่าเป็นข่าวดีที่เขาจะได้ขยายการส่งออกได้กว้างขึ้นอีกเพราะญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เจริญแล้วในหลายๆด้านซึ่งจะมีส่วนทำให้บริษัทตนมีกำไรเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว
 
“คุณพ่อก็ขอเลื่อนการเจรจาออกไปสิคะ”แพรวาแย้งบอกอย่างคนเอาแต่ใจ
 
“อย่าคิดอะไรง่ายๆอย่างนั้นซิแพร ถ้าพ่อเลื่อนได้ก็เลื่อนไปแล้ว ถ้าเราปฏิเสธ เราจะเสียลูกค้ารายใหญ่เลยนะลูก และวันสำคัญของลูกทั้งที พ่อกับแม่ก็อยากอยู่กับลูก แต่มันทำไม่ได้งั้นเอาอย่างนี้นะแพร พ่อกับแม่จะซื้อของขวัญวันเกิดจากญี่ปุ่นมาให้เป็นการชดเชยดีไหม”นายเกริกพลพยายามพูดเกลี้ยกล่อมให้ลูกสาวคล้อยตามโดยมีสิ่งของเป็นแรงจูงใจ
 
“และช่วงที่พ่อกับแม่ไม่อยู่ แพรก็ไม่ได้อยู่คนเดียวนะลูก ยังมีแม่บ้านอยู่อีกตั้งหลายคน และไหนจะภัทรอีก พ่อได้บอกให้ภัทรเขามาคอยดูแลลูกเป็นพิเศษช่วงนี้ด้วย”
 
เมื่อได้ยินคำบอกกล่าวของบิดาแล้ว เธอมีความคิดบางอย่างเข้ามาในหัวทันที  ไอ้ภัทร ไอ้ขี้ข้า งานนี้ฉันจะทำให้แกอับอายและขายหน้าต่อหน้าเพื่อนๆที่มาในงานวันเกิดฉัน แพรวาตาเป็นประกายกับความคิดนี้ แค่คิดก็สนุกแล้ว  “ก็ได้ค่ะ  คุณพ่อกับคุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงแพรนะคะ” แพรวาบอกบิดมารดาด้วยท่าทางมีความสุข ฉันอยากจะให้ถึงวันนั้นเร็วๆจังเลย  ด้านบิดามารดาเมื่อเห็นท่าทางมีความสุขของลูกสาวกลับคิดว่าเธอเข้าใจเหตุผลนี้ดี  แต่บิดามารดาไม่อาจรู้ว่าสิ่งที่ลูกสาวคิดที่จะกระทำนั้นจะนำมาซึ่งความเจ็บปวดและทรมานของตัวเธอเอง
 
“แล้ววันนี้ลูกแต่งตัวจะไปไหนเอ่ย สวยเชียว” เมื่อเคลียร์ เรื่องที่จะไปญี่ปุ่นกับลูกสาวแล้วมารดาหันมาถามลูกสาวเมื่อสังเกตเห็นว่าวันนี้แพรวาแต่งตัวสวยกว่าทุกวันในชุดเดรสสีชมพูหวานกระโปรงบานสั้นเหนือเข่า แขนตุ๊กตา ลายดอกไม้สีขาวดอกเล็กๆ
“พอดีพี่กรโทรมาชวนแพรไปทานข้าว แล้วก็ดูหนังค่ะ” พี่กรที่เธอเอ่ยถึงคือ นายชินกร วรดิษฐ์  เจ้าของโรงแรมห้าดาวของตระกูล ที่เธอรู้จักตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัยตอนปี 4 เนื่องจากเขาเป็นพี่ชายของเพื่อนในคณะเธอซึ่งวันนั้นชินกรแวะมาหาน้องสาวที่ตึกคณะแล้วบังเอิญพบเธอเข้าจึงเข้ามาทักทาย และเริ่มทำความรู้จักกันมาเรื่อยๆเป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว เธอเองก็รู้ดีว่า ชินกรคิดยังไงกับเธอแต่เธอยังไม่พร้อมที่จะมีแฟนจึงขอเป็นพี่น้องกันไปก่อน
 
แพรวาชอบความเป็นอิสระมากกว่าและเธอเองก็ไม่ได้รู้สึกกับชินกรไปมากกว่าพี่ชาย แต่ก็มีใครหลายคนเข้ามาจีบ แต่ก็ถูกหญิงสาวปฏิเสธ บ้างก็ไม่สามารถทนรอที่ให้เธอรับรักจึงมีลดหลายลงไปบ้าง  แต่หญิงสาวก็ไม่แคร์แถมยังรู้สึกดีซะอีกจะได้ไม่ต้องมาคอยแสดงท่าทางและคำพูดไพเราะกับการมีมารยาท
 
ยังไม่ทันที่มารดาจะถามอะไรต่อก็มีเสียงรถเข้ามาจอดที่หน้าตึกพอดีคนที่ขับเข้ามาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ชินกรคนที่ครอบครัวกำลังเอ่ยถึงอยู่พอดี
 
“สวัสดีครับคุณอา”เมื่อเดินเข้ามาด้านในตัวบ้านแล้ว ชินกร กล่าวสวัสดีพร้อมกับยกมือไหว้อย่างนอบน้อมกับบิดามารดาของแพรวา
 
“สวัสดีจ้ะ กร”นางพิมพ์แข เอ่ยทักตอบพร้อมกับรับไหว้ “วันนี้จะพาน้องไปเที่ยวยังไงอาฝากน้องด้วยนะกร อย่าตามใจนักหละ ถ้าน้องดื้อมาบอกอานะ” นางพิมพ์แขพูดติดตลกเพราะรู้จักนิสัยลูกสาวดีว่าเป็นเช่นไร
 
“คุณแม่ก็แพรไม่ได้แย่ขนาดนั้นนะคะ  แพรไปดีกว่า แล้วเย็นๆแพรจะกลับนะคะ” เธอลุกขึ้นเดินมาหอมแก้มบิดามารดาก่อนจะเดินไปที่รถของชินกรที่จอดรออยู่ด้านหน้าตึก
 
แต่ก่อนที่จะไปถึงรถแพรวาหันไปเห็นธีรภัทร กำลังล้างรถให้บิดาเธออยู่ เธอจึงเดินไปหา ด้านชินกรก็แปลกใจที่เธอเดินไปอีกทางที่รถจอดอยู่แต่เมื่อเห็นจุดมุ่งหมายที่เธอจะไปจึงรู้ทันทีว่าเธอจะทำอะไร เพราะตัวเองก็ไม่ถูกชะตากับชายหนุ่มตั้งแต่แรกเห็นแล้ว
 
“ไงไอ้กระจอก  ล้างรถให้คุณพ่ออยู่หรอ  ถ้าล้างเสร็จแล้วอย่าลืมเอาน้ำยาล้างรถที่เหลือมาล้างตัวบ้างนะเผื่อจะล้างกลิ่นคนจนออก”เธอพูดเหน็บแนมด้วยคำพูดแสนหยาบคายและทางท่ารังเกียจ เธอเอามือมาปิดจมูกทำราวกับว่าตรงที่เธอยืนอยู่ใกล้ๆนั้นไม่ใช่เขาที่เป็นคนแต่กลับเป็นขยะเน่าเหม็นยังไงอย่างงั้น
 
“ไปกันเถอะน้องแพร  เราอย่าไปอยู่ใกล้เลย เดี๋ยวกลิ่นคนจนจะติดตัวเรา” ขณะที่ชินกรพูดเขาก็ส่งสายตาดูถูกดูแคลนส่งมาที่ธีรภัทร
 
“ค่ะพี่กร ถ้าติดตัวขึ้นมาล้างไม่ออกแน่ๆค่ะ” เธอหันไปพูดกับชินกร ก่อนจะหันกลับมาพูดทางที่ธีรภัทรยืนอยู่อีกครั้ง “แหวะ! เหม็นกลิ่นสาปคนจน” เธอเอามือที่ปิดจมูกไว้ออกมาทำท่าพัดบริเวณจมูกแทน ซึ่งแสดงถึงความรังเกียจมากขึ้นกว่าเดิม ก่อนจะเดินตามชินกรไปขึ้นรถ
 
“ยัยคุณหนู!! ซักวันผมจะเอาคืนให้สาสม ส่วนแกไอ้ชินกร คิดว่าฉันไม่รู้หรอว่ามันรวยแต่เปลือก” ธีรภัทรสืบรู้มาว่าชินกรเป็นหนี้การพนันหลายสิบล้าน แถมยังเอาโรงแรมไปจำนองเป็นหลักประกันไว้อีกด้วย   ซึ่งตอนนี้เจ้าหนี้กำลังเร่งทวงมา ชินกร จึงต้องเร่งหาวิธีที่จะเป็นแฟนกับแพรวาให้โดยเร็ว แล้วจะได้รีบแต่งงานและนำเงินที่เป็นสมบัติของเธอมาช่วยปลดหนี้ก้อนโตนี้  แต่ธีรภัทรยังไม่อยากจะบอกเรื่องนี้ให้ท่านทั้งสองรู้ เพราะจะทำให้ชินกรรู้ตัวซะก่อน  แต่ธีรภัทรนั้นยังไม่รู้ว่าชินกร นั้นคิดแผนที่จะทำชั่วๆกับแพรวาไว้  ถ้าหากเขายังไม่ได้แต่งงานกับแพรวาภายในเดือนสองเดือนนี้
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา