Zodiac Fate I (ภาคเปิดตำนานสิบสองราศี)

9.8

เขียนโดย esther

วันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 13.20 น.

  10 ตอน
  5 วิจารณ์
  11.96K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 00.22 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

10) Leroy:ปราการแห่งทิฐิ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ณ ทุ่งกว้าง ธาธ่าพื้นที่ราบลุ่มแสงแดดยามเช้าเทือกเขาสูง นภากระจ่างไร้เมฆหมอกขนานไปกับพื้นหญ้าเขียวขจีไปสุดลูกตาบนเนินที่ราบต้นไม้ใหญ่มีลำธารน้ำเล็กๆไหลผ่านใต้ร่มเงาต้นไม้ใหญ่นั้นเองจะพบนักเดินทางสี่คนที่กำลังนั่งสนทนากันอยู่

"Lucifer!!"
เทพราศีทั้งสามองค์เอ่ยขึ้นประสานเสียงพร้อมกันดวงตาต่างก็เปิดกว้าง"นางหลงรักลูซิเฟอร์เหรอค่ะ...ได้ไง""โอ้ คุณพระ!! หล่อนชอบเล่นของแรงอยู่นะนั้น""........อืม"แม้กาบริเอลจะหลับตาฟัง ก็พอเดาได้ว่าใครพูดอะไรออกมาบ้างท่ามกลางคำถามมากมายที่ ถาโถมเข้าใส่นางฟ้าสาวชุดใหญ่ด้วยความสงสัยใคร่รู้กาบริเอลลืมตาขึ้น กวาดสายตามองไปที่ใบหน้าทุกคน พร้อมยกฝ่ามือขึ้นหมายให้ทุกคนสงบลง
 
"เป็นมนุษย์นี่...ไม่ว่าอย่างไรก็ยังคงเต็มไปด้วยความสงสัยใคร่รู้เรื่องของผู้อื่นตกลง ข้าจักเล่าเรื่องราวของพวกเขาทั้งสามนี้ให้พวกท่านฟัง"
 
พูดจบประโยค เอรอส อดามิน่า ฟิลเดลโล่ รู้ดีว่าสิ่งที่ตนควรทำคือ....เงียบ
"ก่อนที่พระบิดาจะสร้างพวกท่านและเทพองค์อื่นๆพระองค์ก็ได้สร้าง 7 อัครเทวทูตแห่งสวรรค์ขึ้นมาก่อนนั้นคือ ข้า กาบริเอล เทพแห่ง ความเมตตา การเกิดใหม่หน้าที่ของข้าคือ "การส่งสารจากพระผู้เป็นเจ้า" ราฟาเอล เทพแห่งการ "รักษา" มิคาเอล เทพแห่งการ "ปกป้อง"อูรีเอล เทพแห่ง "แสงสว่าง" มีหน้าที่เฝ้าดูมนุษย์ ซารีเอล เทพแห่ง"ความกล้า" และ "การควบคุม"เรมีเอล เทพแห่งความ"แท้จริง" มีหน้าที่การบอก "ความจริง"แก่ผู้คนและคอยจำกัดปีศาจรากูเอล เทพแห่ง "ความยุติธรรม" "ความถูกต้อง" และ "ความเท่าเทียม"มีหน้าที่รักษาความสมดุลในภพต่างๆ"
"อ้าวแล้วลูซิเฟอร์ละค่ะ ข้านึกว่าเค้าอยู่ในเจ็ดอัครเทวทูตแห่งสวรรค์ด้วยเสียอีก"อดามิน่าพูดแทรกขึ้น ทำให้กาบริเอลต้องส่ายหน้าอย่างช้าๆ แทนการปฎิเสธ
"Lucifer นั้น ถือได้ว่าเป็นอัครเทวดาองค์หนึ่งและเป็นอัครเทวดาองค์แรก ที่พระบิดาได้สร้างขึ้นมาให้มีรูปงามมากที่สุดเหนือเทวดาทั้งหมดเพื่อต้องการให้เป็นผู้ช่วยงานส่วนใหญ่ของพระองค์อย่างใกล้ชิด...Lucifer ก็ได้รับความรักจากพระองค์มากที่สุด ถึงแม้ถือว่าเป็นอัครเทวดาองค์หนึ่งแต่ก็ไม่ได้จัดให้อยู่ใน 1 ใน 7 อัครเทวทูตเพราะส่วนใหญ่จะทำงานใกล้ชิดพระบิดามากกว่า"
"Aquarius ไปเจอกับมันได้ไงอะ เกบบี้"เอรอสที่นอนกลิ้งไปกลิ้งมา หันหน้ามาถามขึ้นด้วยแววตาเปล่งประกาย
"อย่างที่ข้ากล่าวไปเมื่อครู่พระบิดาต้องการให้Luciferเป็นผู้ช่วยงานของพระองค์อย่างใกล้ชิดดังนั้นตอนสร้างพวกท่านทั้งสิบสองขึ้นมา Lucifer จึงได้อยู่ดูการสร้างสรรพวกท่านขึ้นมาด้วย ส่วน Aquarius และ Piscesนั้นจำเป็นต้องให้ 7 อัครเทวทูตมากันพร้อมหน้าจึงจะเริ่มสร้างพวกนางขึ้นมา"วงน้ำวนแห่งการจุติ"คือแอ่งน้ำศักสิทธิ์ที่ใช้สร้างกายทิพย์ของบรรดาเทพต่างๆเนื่องจากพวกนางเป็นตัวแทนของ "แสงและเงา" ของพระองค์ จึงต้องคอยระวังเป็นพิเศษ..."
กาบริเอลกล่าวจบประโยคนั้นด้วยเสียงแผ่ว...ก่อนจะนั่งนิ่งไป

"อ่อ...เป็นอะไรเหรอครับ?"ฟิลเดลโล่ เห็นท่าทางที่อึดอัดใจของหญิงสาวจึงถามขึ้น
"อืม...Lucifer เป็นอัครเทวดาที่ถูกสร้างขึ้นมาจาก เปลวเพลิงของดวงอาทิตย์เจ็ดดวงบนโลกมนุษย์เขาจึงเป็นผู้ที่หยิ่งยะโส จองหองอวดดี และทรนงตนเป็นอย่างมากมักจ้องมองผู้อื่นด้วยสายตาที่ดูหมิ่นจึงเป็นที่ชิงชังของเทวดาหลายองค์บนสวรรค์ ...แต่ถึงกระนั้นแล้ว..."

 
นางฟ้าก้มหน้าลงมองไปยังพื้นดินที่มีหญ้าขึ้นเขียวชอุ่ม ถอนหายใจออกยาว
 

"ในวันที่สร้าง Aquarius ข้าจำได้ดี นาทีที่นางก้าวขึ้นมาจากวังน้ำวนที่เปลี่ยนเป็นสีดำสนิทแค่เพียง Lucifer เห็น  Aquariusไม่ว่าจะเป็นดวงตารึสีหน้าของเขาก็แลดูนุ่มนวลลง อย่างน่าแปลกประหลาดและนั้น...เป็นครั้งแรกในชีวิตของข้าเลยที่ได้เห็นดวงตาอันจองหองนั้น....ฉายแววอ่อนโยนพวกข้ารู้ได้ในทันที Lucifer หลงรัก  Aquarius...แต่ด้วยเหตุที่ว่าพวกท่านทั้ง12ถูกสร้างให้มีคู่ครองของตนAquarius จึงตกเป็นของ Leo อย่างเสียมิได้"
"ฮืมมม ท่านมิได้มีคู่ครองหรอกหรือเกบบี้"นางฟ้าได้ยินที่ อดามิน่า ถามขึ้นก็หันมาให้ยิ้มหญิงสาวนัยต์ตาสีชมพูใส
"พวกข้าเป็น 7 อัครเทวทูตมีหน้าที่รับใช้พระบิดาและช่วยเหลือมนุษย์ล้วนถูกสร้างให้อยู่เหนือความรักในเชิงกามอารมณ์ของชายหญิง....ความรักของพวกข้ามีเพียง ความรักที่บุตรทั้งหลาย ควรพึงกระทำต่อ บิดามารดาคือ ความรักที่จงรักภักดีต่อพระเจ้าเท่านั้น..และอันที่จริง Lucifer เองก็ควรจะเป็นเช่นนั้น....บางทีอาจเป็นเพราะ Aquarius จำต้องถูกสร้างมาให้ครองคู่กับLeoเรือนร่างรูปหน้าล้วนเป็นดังที่เขาต้องการซึ่งLeoเองก็ถูกสร้างจากไฟของดวงอาทิตย์เช่นเดียวกับLuciferในความ ทรนง หยิ่งยะโส รักในเกียรติยศและศักดิ์ศรีเขามีนิสัยใจคอ คล้าย Lucifer อยู่ไม่น้อย เลยทีเดียวAquarius จึงกลายเป็นหญิงสาวในแบบที่ Lucifer ต้องการไปด้วย"
"แต่ Aquarius ถูกกำหนดในรักกับ Leo แล้วทำไมถึงไปมีใจให้ลูซิเฟอร์ได้ละ"ชายหนุ่มผมแดงยังคงไม่เข้าใจเรื่องราวอันซับซ้อนนี้เท่าใดนัก
"ก็อย่างที่ข้าบอกไป Aquarius นั้นกลไกในใจนางซับซ้อนยากที่จะเข้าใจตามนิสัยนางก็ไม่ชอบแสดงออกทางอารมณ์ แม้แต่จะทำสิ่งที่ดีๆให้กับคนที่ตนรักมิหน่ำซ้ำยังโกหกหน้าตาย ยากนักที่จะจับได้เรื่องใดจริงรึเท็จLeo ที่มีความหยิ่งทรนงตนมากจิตใจจึงเต็มไปด้วยทิฐิ ไม่คิดจะ ไกลเกลี่ย ใดๆทั้งสิ้น ยามใดมีปัญหากันเขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยย่อมต่างจาก Lucifer ที่ยอมเปลี่ยนแปลงได้ทุกสิ่งเพื่อนางนั้นคงเป็นโอกาศที่ดีของเขาที่จะเข้าใกล้นางทุกคืนทั้งสองจะนัดเจอกันที่สวนอีเด็น เพื่อพบปะสนทนากัน"
"สนทนากันอย่างเดี่ยวเหรอ...ไม่ทำอะไรอย่างอื่นเลยเหรอ"เอรอสพูดเสียงสูงด้วยสีหน้ากรุ่มกริ่ม ทำให้ อดามิน่าต้องหัวเราะออกมาใบหน้าแดงเล็กน้อย
"บนสวรรค์เทพทุกองค์ล้วนเกรงกลัวต่อบาป ผิดพลาดนิดเดียวอาจกลายเป็นธุลีดินได้ความรักของทั้งสอง ผู้ที่รับรู้และเฝ้าดูล้วนมีแต่เห็นอกเห็นใจ......ข้าเองก็เช่นกัน....อืม...เมื่อเกิดเหตุการณ์สวนแอปเปิ้ลในสวนอีเด็นAquarius นางยืนกรานเสียงแข็งว่า Lucifer มิได้เป็นผู้ก่อขึ้นแน่ๆแต่การหาหลักฐานรึสิ่งต่างๆมาเป็นข้อพิสูจน์ก็จำเป็นต้องใช้เวลาจึงไม่อาจช่วย Lucifer ไว้ได้ทันกาล...สุดท้ายLucifer ก็กลายสภาพเป็น Demons และต้องตกสวรรค์ในที่สุด"

สายลมจากทุ่งหญ้า พัดผ่าน เสียงต้นหญ้าที่ลู่ไปตามลมผ่านความเงียบที่เกิดขึ้นใต้ร่มเงาต้นไม้ใหญ่
 
 
 
"เจอกันในทุกค่ำคืน...เพียงแค่ได้คุยกันก็ยังดีสินะ...เฮ่อ"หญิงสาวผมเงิน ถอนหายใจออกมาด้วยนัตย์ตาสงสารคิ้วชนกัน"แล้วตอนนี้พวกเราต้องเดินทางไปที่ไหนกัน ถึงพบ Leo ละเกบบี้"เอรอส ถามขึ้นเพื่อเตรียมใจรับศึกครั้งนี้นางฟ้าสาวชี้ไปที่ภูผาสูงแนวที่ราบลุ่มนั้น"ขึ้นไปยังเทือกเขานี้มีแอ่งภูเขา ภายในนั้นมีคฤหาสน์ร้างอยู่ที่นั้นเอง เป็นที่พักของ Leo "ฟิลเดลโล่ที่นั่งเงียบฟังเรื่องราวทั้งหมด เขาไม่มีความคิดเห็นใดใดเกี่ยวกับเรื่องนี้เขาลุกขึ้นเดินไปหยิบ ออสวอท หุ่นสังหารของอดามิน่าขึ้นมาใส่ถุงหนังใบใหญ่คว้าอาวุธตนสะพายด้านหลัง ก่อนจะกระโดดขึ้นอาชาสีดำ"เฮ้ เฮ้ จะไปไหนน่ะ"เอรอส รีบลุกขึ้นยืนตะโกนลั่น"เจ้าก็รู้อยู่แล้วนี่นา"เสียงทุ่มต่ำตอบด้วยสีหน้าปกติ"ท่าน แน่ใจแล้วหรือ...ฟิลเดลโล่"กาบริเอล พูดพร้อมจ้องไปในตาสีเขียวอมฟ้าน้ำทะเลคู่นั้น
 
"การถือทิฐิ เป็นเรื่องของคนเขล่า เพราะทิฐินั้นมันไม่มีตัวตน ...ดังนี้นการที่ Leo เลือกที่จะอยู่กับสิ่งนั้นมากกว่าAquariusก็ย่อมต้องเสียนางไปให้ Lucifer เป็นเรื่องสมควรอยู่แล้วข้าต้องรีบไปพบคนรักของข้าScorpioและจะไม่ยอมเสียเวลาไปกับชายผู้โง่เขลา"
 
สิ้นประโยคนั้นฟิลเดลโล่กระแทกบังเหียนเร่งควบม้าออกไปไกล หายไปในสุดขอบที่ราบลุ่ม"ไม่เป็นไรแน่เหรอ เกบบี้"เอรอสมีสีหน้าที่ไม่ค่อยดี แววตาเป็นห่วงเพื่อน"ไม่หรอก ฟิลเดลโล่เป็นคนใจเย็นย่อมรู้ดีว่าตนทำอะไรอยู่...แต่เพื่อความแน่ใจว่า ฟิลเดลโล่จะทำสำเร็จ ข้าคงต้องเปิดจักรราศี"ขณะที่หนุ่มสาวทั้งสองยัง งง อยู่กับประโยคที่เธอพูดขึ้น
กาบริเอลกล่าวจบก็ยกมือขึ้นนำแหวนมาแนบกับริมปีปากของเธอท้องฟ้ากระจ่างนั้นค่อยๆมืดมิดลง สายลมหยุดพัด แม้แต่ธารน้ำก็นิ่งสนิทเอรอสและอดามิน่ายืนมองสภาพแวดล้อมโดยรอบที่กลายเป็นสีขาวดำและร่างของนางฟ้าที่ส่องประกายจนเป็นขาวโผล่นไปทั่วร่าง
"พระบิดา...พระองค์ผู้สถิตบนสรวงสวรรค์พระนามพระองค์ เป็นที่สักการะแด่ข้า...กาบริเอลโปรดทอดพระเนตรมองลงมายังข้า ผู้รับใช้เพื่อรับฟังคำวิงวอนนี้ ข้าปรารถนาให้หมู่ดาวราชสีห์นั้นเปิดออกเรียกความทรงจำ เมื่อครั้งยังอยู่เคียงข้างพระองค์...บนสรวงสวรรค์ ณ ยามที่ Leo เข้าสู่ห้วงนิทรา"

เสียงใสใสกังวาลไปทั่วทุ่งกว้างพร้อมกับลำแสงสีทองที่ถูกปลดออกมาจากหน้าผากนางฟ้า พุ่งไปบนนภาที่มืดมิดและทุกสิ่งก็กลับคืนสู่สภาวะปกติกาบริเอลหลับตาลงทรุดล้มลงไปนอนกับพื้นในทันใด

"เกบบี้!!"
เสียงเอรอสและอดามิน่าตะโกนดังก้องอดามิน่าวิ่งเข้าประครองร่างของนางฟ้าที่เหนื่อยอ่อน"ข้าไม่เป็นไร ขอพักผ่อนเพียงชั่วครู่ก็คงหายดีแล้ว""แน่ใจเหรอ เกบบี้ ตัวเจ้าเย็นมากเลยนะ"เอรอสถามเสียงดังอย่างร้อนรน นางฟ้ายิ้มพยักหน้าแทนคำตอบก่อนจะเปรยกับตัวเองเบาเบา
 
"ฝากด้วยนะ...ฟิลเดลโล่"
 

 
......
 

 
เสียงที่เข้ามายังโสตประสาทนั้นอีกแล้วรึเนี่ย...ไม่ใช่สิ...นี่มันไม่ใช่แค่เสียง......ที่นี่ที่ไหน........หมอกหนาชะมัดทำไมถึงมีทั้งดวงจันทร์และดวงอาทิตย์อยู่บนฟ้า?ต้นไม้ที่มีใบไม้สีน้ำเงิน...มันช่างเหลือเชื่อ นี่ข้ากำลังเดินไปที่ไหนกัน...แล้วทำไมควบคุมตัวเองไม่ได้เลย
ลีรอยเผลอหลับเมื่อไหร่เขาไม่ทันได้สังเกตุแต่ที่ชายหนุ่มแน่ใจได้อย่างหนึ่งคือตอนนี้เขากำลังอยู่ในความฝันณ ศาลาริมน้ำ ที่มีลวดลายสวยงาม และมีต้นกุหลาบสีน้ำเงินเลื้อยขึ้นรอบๆเสาทั้งสี่กลางศาลาริมน้ำมีชุดเก้าอี้ โต๊ะที่สร้างจากหินอ่อนถาดเงินที่มีองุ่นแดงอยู่พูนชาม แก้วน้ำและแจกันคริสตัลใบสวย วางอยู่บนโต๊ะหินอ่อนและเหนือสิ่งอื่นใด สาวผมเงินชุดดำยาวที่หันหลังยืนอยู่ตรงระเบียงรูปร่างได้สัดส่วน สีผิวขาวซีดเซียวราวกับพรายหิมะ เงยหน้ามองฟ้าด้วยท่าทางเหม่อลอย
"กำลังคิดถึงมันอยู่ละสิท่า"หนุ่มสิงห์ได้ยินเสียงตัวเองตะโกนดังก้องดูเหมือนว่านอกจากมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วเขาก็ไม่อาจควบคุมอะไรได้ทั้งสิ้น"น่าแปลกเสียจริง...ราชสีห์เช่นเจ้ากลับเห่าเก่งเยี่ยงสุนัขจรจัด"หญิงสาวลึกลับตอบเสียงเย็นโดยไม่หันหลังกลับมามองคู่สนทนาเลยแม้แต่น้อยชายหนุ่มกัดฟันแน่น และที่น่าแปลกก็คือ ตัวเขาเอง ก็รู้สึกเจ็บกับคำพูดของหญิงสาวด้วยเช่นกัน"ลูซิเฟอร์ล่อลวง อีฟและอดัมให้กินผลไม้ปีศาจการที่มันต้องตกสวรรค์กลายสภาพเป็นปีศาจนั้นนับว่าเป็นเรื่องสมควรยิ่ง"ลีรอยฟังประโยคกระแทกกระทั่นปนขบขัน ที่ออกมาปากของตนแต่ก็ไม่ได้รับคำพูดใดๆตอบกลับมานอกจากความเงียบหญิงสาวตัดบทสนทนาโดยการกลับหันหลังเดินเลี่ยงไปอาจเป็นเพราะภาพในความฝันมันช่างเลือนลาง และสายหมอกที่ลงหนาทำให้ไม่อาจเห็นหน้าหญิงสาวได้ชัดเจนเท่าใดนักแต่ระหว่างที่หญิงสาวเดินสวนทางไปแล้วนั้นเองลีรอยก็พบว่า อุ้งมือของเขาเอื้อมคว้าแขนเธอจากทางด้านหลังฉุดกระชากร่างบางเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนตน พร้อมยิ้มเยาะเย้ย"ทำไม?ถึงกับทนฟังไม่ได้เชียวรึ แสดงว่าติดใจมันมากเลยละสิท่า"ด้วยอารมที่เกรียวกราดของชายหนุ่มจึงหลุดปากพูดออกไปคำพูดที่มิควรจะเอ่ยต่อหน้านางผู้นี้เสียด้วยหญิงสาวพยายามสะบัดตัวออกมาจากอ้อมแขน วินาทีที่นางเงยหน้ามองชายหนุ่มนั้นเอง เพราะอยู่ในระยะที่ประชิดกันมากลีรอยจึงได้เห็นดวงตาส่องประกายสีม่วงเข้มฉายแววโกรธเคือง แม้รูปหน้าจะเป็นภาพล่างๆก็ตามที"ข้าและลูไม่เคยกระทำการต่ำทราม เฉกเช่นที่มันมีอยู่แต่ในหัวเจ้าเลย Leo"หญิงสาวยังคงตอบด้วยเสียงเรียบ"ขอให้มันจริงเถอะชายหญิงที่แอบลักลอบพบกันตามสวนอีเด็นจะไปทำอะไรกันมิทราบ"ชายหนุ่มเอยขึ้นโดยไม่สนใจแรงดิ้นรนในอ้อมแขน"ลักลอบ?ช่างน่าขำผู้ที่ล่วงรู้เห็นประจักมีมากมายจะเรียกลักลอบได้เช่นไรแต่ก็นะหึ...Leo เพราะในกระโหลกบางๆเจ้ามันคงมีแต่เรื่องพรรณนี้"ประโยคที่ก่อเปลวเพลิงแห่งความโกรธแค้นแก่ฝ่ายชายในทันใด"การที่เจ้าต้องมาเป็นภรรยาของข้านั้นก็เป็นเพราะเจ้าเองก็พร้อมรับเรื่องแบบนี้ได้ทุกโมงยามเลยสินะ!"ลีรอยได้ยินตนกล่าวเสียงเหี้ยมจากนั้นก็เห็นได้ชัดว่า ตนได้กระชากร่างหญิงสาวมาไว้ในอ้อมแขนใบหน้าของตนเข้าไปใกล้ริมฝีปากที่แดงดุจทับทิมผ่าครึ่งไล้สันจมูกตนไปกับแก้มเนียน แขนที่โอบหญิงสาวอีกข้างเลื่อนสูงขึ้น สัมผัสผ่านเส้นผมสลวยสีเงินดุจแสงจันทร์นั้น กดศรีษะของหญิงสาวไว้ ไม่ให้อีกฝ่ายเบือนหน้าหนี เขาขยับใบหน้าเข้าไปอีกเพื่อครอบครองเรียวปากสีแดงเงาระเรื่อทว่าร่างบางหญิงสาวกลับแน่นิ่งเย็นเฉียบราวกับธารน้ำแข็งขณะที่ริมฝีปากชายหนุ่มกำลังเข้าไปประกบนั้น มือเขาก็เข้ากอดรัดร่างบางนั้นอย่างร้อนแรงราวกับจะใช้จุมพิตนี้บันดาลโทสะตนไปด้วย  ลีรอยรู้สึกได้ถึงลมหายใจของหญิงสาวที่รดลงบนใบหน้าตนยิ่งกระตุ้นความต้องการของเขา...ให้ยิ่งเดือดพล่าน "จะไม่ปลดเปลื้องชุดนี้ก่อนเลยรึ...Leo?"ประโยคที่แทรกขึ้นมาของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มถึงกับหยุดชะงักในระยะหายใจประชิดหญิงสาวเธอลูบไล้เรียวปากของเธอที่ร้อนผ่าวไล่ไปตามลำคอชายหนุ่มจนถึงใบหู"ทำไมถึงหยุดกลางคันเสียละ ยอดรัก...ฉีกอาภรนี้เสียสิด้วยกำลังความเป็นชายยังไงซะกายนี้ก็ทำให้เจ้าหายอยากได้ทุกเมื่อได้มิใช่รึ?"พร้อมเอ่ยเสียงกระซิบอันอ่อนหวานที่แช่แข็งชายหนุ่มได้ทั่วทั้งร่างลีรอยรู้สึกเหมือนถูกเข็มพิษทิ่มแทงเข้าภายใน มิอาจทนสบตาสีม่วงคู่งามนั้นต่อไปได้"เอาซิ...Leo...เอาเลย...แสดงความเป็นชายของเจ้าโดยการย่ำยีร่างบางที่ไร้ทางสู้นี้"คำพูดที่ฉีกหัวใจชายหนุ่ม สร้างความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสจนเขาต้องปล่อยตัวเธอออกจากอ้อมแขน"ทำไมละ? ยังไงเสียข้าก็ขัดขืนเจ้าไม่ได้อยู่แล้วจะย่ำยี?รึจะสำเร็จความใคร่ ณ ที่นี่ เดี๋ยวนี้ เจ้าทำได้ทุกสิ่งตามใจเจ้าปรารถนา..."สาวงามลึกลับไม่พูดปากเปล่าเธอเลิกชายกระโปรงสีดำนั้นขึ้นไล้นิ้วยาวเรียวกับกับต้นขาเรียวขาวของเธอ"..ข....ข้า"เสียงที่ออกมาจากปากตนราวกับโดนเชือกแขวนคอความทรมาณเหมือนกลืนหินนี้คืออะไร มีคำพูดมากมายที่เอ่ยออกไปมิได้สิ่งที่ข้าต้องการบอกนาง แท้จริงแล้วคืออะไรกันแน่"เจ้าก็เหมือนมนุษย์เพศชายชอบทำร้ายอิสตรีเพื่อกลบเกลื่อนความอ่อนแอของตัวเอง"เธอกล่าวจบเชิดหน้าขึ้น ก่อนจะใช้มือที่ลูบไล้ขาอ่อนสะบัดชายกระโปรงยาว(ไม่ใช่ ...ไม่ใช่อย่างนั้น...เจ้ากำลังเข้าใจข้าผิด)แม้เสียงในใจจะร้องดังก้องแต่ร่างนั้นกลับเพียงถอยห่างออกมายืนนิ่งอึ่ง"เจ้ารู้สึกดี กับการได้เปรียบอิสตรีผู้ที่อ่อนแอกว่า ไม่ว่ากำลังกายรึอิสระภาพบุรุษ ล้วนถูกสร้างสรรค์มาให้เหนือกว่า ทั้งที่เป็นเช่นนั้นเหล่าบุรุษก็ยังคงหาทางเอาเปรียบอิสตรีอยู่วันยัง ค่ำ...ไม่ต่างจากเจ้าเลย LEO"เมื่อถูกนัยต์ตาสีม่วงนั้นจ้องมองก็ราวกับถูกแช่แข็ง หญิงสาวสะบัดผมหันหลังเดินจากไป(เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งไป...เดี๋ยวฟังข้าก่อน)โครมมมม!!?ลีรอยมองร่างของตัวเอง ถีบโต๊ะหินอ่อนบนศาลาล้มลง เครื่องเรือนทั้งหมดแตกกระจาย เกลื้อนพื้นหญิงสาวมองการกระทำดังกล่าวจากหางตา หยุดชะงักเพียงชั่วครู่เหลือบสายตามองมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น"ข้าทนปฎิเสธความรู้สึกของตัวเองต่อไปไม่ได้อีกแล้วรู้ดีว่าการจากนี้แหละคือทางออกที่ดีที่สุด ถึงจะขัดแย้งกับตัวเองตลอดมาก็ตามรอคอยจังหวะเวลาที่จะได้บอกกับเจ้าเสียที่ โลกของเรามันผุผังลงอย่างช้าๆนั่นทำให้ข้าตัดสินใจที่จะหนีไปจากที่นี่ ปล่อยให้ปัจจุบันกลายเป็นอดีตแม้ว่าข้าจะต้องเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม""สมเป็นเจ้าจริงๆAquarius...ไม่ลังเล อาลัยเลยซักนิด"เขาพูดแทรกขึ้นทั้งที่ยังยืนหันหลังให้หญิงสาว มองถ้วยแก้วที่แตกละเอียดบนพื้นหินอ่อนเธอไม่ได้เดินกลับมาหาเขาในทางตรงกันข้ามเธอมองตรงไปด้านหน้าพลางกล่าว"ความลังเลนั้นมันช่างน่ากลัว มันทำให้ดวงตาพร่ามัวอาจเลือกทางผิดซ้ำร้ายยังทำให้ผู้ที่เฝ้ารอคำตอบทุกข์ทรมาณจมอยู่กับความคิดในแง่ลบข้าเองก็ไม่ได้เข็มแข็งเช่นที่เจ้าเห็น ...ทั้งๆที่ข้าเตรียมใจรับความเจ็บปวดนี้แล้วแต่ทำไม...เมื่อต้องพูดจริงๆใจข้าก็ยังคงเจ็บมากอยู่ดี...พอที..ให้มันจบลงแค่นี้เถอะ"แล้วหญิงสาวก้าวขาออกไปก็ค่อยๆเดินหายไปกลางสายหมอกทิ้งไว้เพียงความเงียบและเสียงน้ำริมไหลเอื้อนที่ริมฝั่ง(เดี๋ยวฟังข้าก่อน ...ขอร้องได้โปรดเถอะ....มันไม่ใช่อย่างนั้น)..(ทุกสิ่งที่ข้าทำไปเพียงเพราะข้าต้องการชิงตัวเจ้าคืนมา)...(เพียงเพราะข้า...).หยุดดก่อนนน!!
 

ลี รอยตื่นขึ้นมาเพราะเสียงของตัวเองที่ตะโกนดังลั่น ร่างอันล่ำสันนั้นเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ คิ้วชนกัน กัดฟันแน่น หายใจหอบถี่ความฝันที่ราวกับความจริงในทุกสัมผัส กับหญิงสาวนัยน์ตาสีม่วง ที่ที่ตนไม่รู้จักแม้กระทั้งชื่อวอลท์เน่อมังกรทองที่กำลังทำอะไรบ้างอย่างอยู่ด้านนอกชะโงกหน้าเข้ามาเอาพื้นตาสีขาวไร้แว่ว ทาบหน้าต่างห้องนอน ส่องเข้ามาดูลีรอย"ลีรอย ท่านเป็นไร เกิดอะไรขึ้น เสียงนั้นอีกแล้วเหรอ"ชาย หนุ่มที่ท่าทางแตกตื่นอยู่นั้น กลืนน้ำลายลง คอแห้งผากจากการตะโกนสุดเสียงเมื่อครู่ หอบหายใจระรัวยกมือขึ้นกุมหน้าอก รับรู้ได้ถึงเสียงหัวใจที่เต้นระทึก เขาพยายามสูดหายใจลึกๆเพื่อเรียกสติตัวเองให้กลับคืนมา"ข้าไม่เป็นไรก็แค่ฝันร้าย"ลี รอยหันมาพูดกับวอลท์เน่อ หัวเราะแห้งๆด้วยท่าทีไม่ค่อยสู้ดีใช้มืออีกข้างลูบไบหน้าที่เต็มไปด้วย เหงื่อมังกรทองรี่ตาลงถอนหายใจออกเบา เป็นลมพัดเข้าหน้าต่าง"ข้าก็หวังให้เป็นแค่เช่นนั้นลีรอย"มังกรทองพูดขึ้นพร้อมหันหน้ามองไปทางอื่น"ทำไมเหรอ...มีอะไรเจ้าก็พูดมาสิ""นี่ท่านยังไม่รู้ตัวอีกหรือ...น้ำที่อยู่บนใบหน้าท่านยามนี้คือน้ำตารู้รึไม่ไม่เคยเห็นท่านเป็นเช่นนี้มาก่อนโดยคำสาปรึไร?"ลีรอยยกมือขึ้นสัมผัสไปที่ใบหน้าตนในทันทีที่ได้ยินปาดเช็ดน้ำใสๆที่ไหลออกจากดวงตาสีเทาที่แดงก่ำ"ให้ตายสิข้านึกว่าเหงื่อซะอีก"
 
"เกิดอะไรขึ้น...จะบอกข้ามาตามความเป็นจริงได้รึยัง"
วอลท์เน่อ ตัดบทเ่อ่ยถามอีกครั้งเพื่อรับฟังความจริงชายหนุ่ม ที่ก้มหน้าลงมองน้ำตาตนไหลหยดลงบนผ้าห่มสีขาวอย่างช้าช้าด้วยอารมณ์กับร่างกายที่ไม่สมดุลกันนี้ ยากนักที่จะตอบแบบขอไปทีได้
 
"ข้าฝันถึงหญิงสาวคนหนึ่ง....หญิงสาวที่ไม่รู้จักกระทั่งชื่อภายในฝันนั้น...นางคือคนที่ข้า...อืม ไม่รู้สิคงจะต้องเรียกว่า ผูกพัน ละมั่งอืมข้าไม่แน่ใจแต่คำพูดของนาง....ไม่รู้สิข้าเองก็ไม่เคยรู้สึกแบบนี้เลยอธิบายให้ท่านฟังไม่ถูก
"
 
"มนุษย์นี่ช่างชับซ้อนยากเข้าใจยิ่ง ข้าอยู่กับท่านมาหลานร้อยปีก็ยังไม่เข้าใจเสียที"มังกรทองพูดแทรกขึ้นมาเสียงแผ่ว
 
"วอลท์เน่อท่านก็รู้......ชั่วชีวิตข้าผ่านการสู้รบมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนไม่ว่าจะโดนไฟกาลเผ่าทั้งเป็น รึถูกมนต์ตราน้ำแข็งจนหัวใจหยุดเต้นรึจะเป็นบาตแผลจากปลายหอกคมดาบ...แน่นอนมันเจ็บ...แต่ก็ไม่เคยร้าวไปถึงภายในได้ขนาดนี้คำพูดนาง....ก็ทำให้ข้าหายใจลำบาก...กระอักกระอวนแววตานางช่างห่างเหิน...มันเย็นชาเสียยิ่งกว่ามนต์ตราน้ำแข็งใดๆยิ่งกว่าถูกตรึงด้วยหนามแหลม...เจ็บปวดมาก...แม้ไม่มีเลือดออกทั้งที่ข้าเจ็บปวดปานนั้น...แต่ในทุกความรู้สึกก็ไม่อาจส่งไปถึงนางได้เลย"
 
 
"แสดงว่าท่านต้องรักนางมากหากไม่เป็นเช่นนั้นแล้วท่านคงไม่อยู่ในสภาพนี้"
 

 
"ไม่มีทาง!!หญิงแพศยาเช่นนางข้าไม่อยากชายตามองแม้ปลายผม!!! "
ลีรอยแผดเสียงตะหวาด ดังก้อง จนชายหนุ่มต้องรีบเอามือไปปิดปากตัวเองแน่นทั้งๆที่ดวงตาสีเทายังคงเปิดกว้างเต็มเปี่ยมด้วยความเคียดแค้น"โทษที ข้าเป็นอะไรไม่รู้ ควบคุมตัวเองไม่ได้เลย"ลีรอยลุกลี้ลุกล้นในวาจารุนแรงที่ตนพูดออกไปกีบสหาย"เอ่อ ไม่เป็นไร อย่าได้กังวน ข้าเองก็เพิ่งเห็นท่านมีเป็นแบบนี้ "วอลท์เน่อ เต็มใจรับคำขอโทษจากชายหนุ่มด้วยความเห็นใจ"เ่อ๊ะ ข้าว่าท่านรีบแต่งตัว และสงบสติอารมณ์ตัวเองดีกว่า""แต่งตัว?ทำไมมีอะไรรึ?"ชายหนุ่มสงสัยคำพูด ของเพื่อนมังกรที่เอ่ยขึ้นมาลอยๆ"มีคนมาหาท่านถึงที่นี่ อีกทั้งบอกว่าต้องการให้ท่านออกเดินทางไปกับเขา"มังกรทองตอบลีรอยที่ลุกขึ้นเดินไปหยิบเสื้อที่พาดกับเก้าอี้ขึ้นมาใส่"ไปกับเขา?ไปที่ไหนแล้วไปทำอะไร"ลีรอยถามต่อขณะกำลังติดกระดุมเสื้อ"ไม่รู้สิ แต่เขาต้องการให้ท่านไปพบ คนๆหนึ่งให้ได้"วอลท์เน่อตอบ พร้อมทอดสายตามองใครบ้างคนที่เข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้า"ผู้ใดรึ?ที่เขาอยากให้ข้าไปเจอ"ชายหนุ่มถาม ด้วยสีหน้าที่ครุ่นคิดและคว้าดาบยักษ์ที่วางบนโต๊ะใกล้หน้าต่างก่อนจะรับฟังคำตอบที่คาดไม่ถึงจากคู่หู
"Aquarius"

                                                         
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา