MonsterHighSchool รักวุ่นๆของวัยรุ่นโรงเรียนปีศาจ

9.6

เขียนโดย DECOLOP

วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 15.41 น.

  7 บท
  8 วิจารณ์
  8,846 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2558 17.34 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) ด้วยเกียรติ แห่งเซนต์บาเรล

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
  ตอนนี้บรรยากาศในห้องหนังสือยังคงเคร่งเครียดไปด้วยเด็กหลุ่มนึงและอาจารย์แม่มดผู้ทรงคุณวุฒิ
  "แต่หนู..เป็นแค่เฮเลนนะคะ"
  เดเรนพูดกับอาจารย์อย่างหมดหวัง ทำให้ทุกคนหันมาสนใจเธอเป็นตาเดียว
  "หนูเป็นเพียงแค่ปีศาจที่มีดีแค่เลือดอร่อย แถมพลังเวทย์ก็น้อยมากจนแทบจะไม่มี.."
  "เจ้าเอาอะไรมายืนยันว่านั่นคือความจริงล่ะ หนูน้อย"
  "หมายความว่าไงคะ..?"
  เดนน่าสงสัยในคำพูดของอาจารย์ จะไม่เป็นความจริงได้ยังไงในเมื่อแม่ของเธอบอกเธอแบบนั้นมาตลอด
  "เฮเลนน่ะ เป็นปีศาจที่ได้รับขนานนามว่าเป็นแพทย์ที่แม้แต่พระเจ้ายังต้องการเลยนะ"
  "เอ่อ..คือยังไงเหรอคะ"
  "เฮเลนมีพลังเวทย์ด้านการโจมตีน้อยก็จริง แต่ด้านการรักษาปีศาจเผ่านี้ไม่มีใครมาทัดเทียมได้หรอก"
  "แล้วทำไม...หนูไม่เคยรู้"
  "ไม่ใช่แค่หนูที่ไม่รู้หรอกนะ คนยุคใหม่เดี๋ยวนี้ก็ไม่รู้หรอก เพราะนี่ถูกสั่งให้ปิดเป็นความลับมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว เป็นเรื่องภายในนิดหน่อยน่ะ"
  ไม่ใช่แค่เดนน่าที่อึ้งกับคำพูดของอาจารย์เดวาน่า ทุกคนในที่นี้ก็เช่นกัน พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าเฮเลน ที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากเลือดอร่อย มีความสามารถด้านการแพทย์มากกว่าปีศาจเผ่าใดๆ
  "ก่อนที่ข้าจะพูดอะไรต่อ ข้าคิดว่ามีแขกคนสำคัญอยากจะมาพบพวกเจ้าด้วย"
  "ใครเหรอครับ"เวลส์ถามด้วยความสงสัย
  "เดี๋ยวพวกเจ้าก็จะได้เห็นเอง"
  พูดจบ แม่มดเฒ่าก็เดินเข้าไปที่หน้าอะไรบางอย่างที่คลุมด้วยผ้าม่านสีดำก่อนจะกระชากมันออกมา เผยให้เห็นประตูบานใหญ่สลักด้วยลวดลายที่วิจิตรงดงาม
  "ผมรู้สึก..ถึงเวทย์มนต์ที่บานประตูแห่งนี้"
  แดเนียลขนลุกเกรียวขึ้นมาทันที่ที่อาจารย์เดวาน่ากระชากผ้านั่นออก เขาเป็นพ่อมดเลือดบริสุทธิ์ ย่อมรู้วสึกได้ถึงเวทย์มนต์ได้ดีกว่าใครๆ
  "ใช่แล้ว ประตูแห่งนี้มีเวทย์มนต์เชื่อมระหว่างห้องหนังสือแห่งนี้กับพระราชวัง"
  เธอพูดจบก็ค่อยๆสัมผัสที่บานประตูช้าๆ ก่อนที่มันจะเปิดออกแล้วปรากฏเป็นห้องโถงส่วนตัวของพระราชินี
  "อ้าว..มากันแล้วเหรอ เดวาน่า"
  ราชินีที่กำลังนั่งจิบน้ำชาค่อยๆลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามาหาพวกเขา
  "ท่านแม่!!"
  เวลส์มีท่าทีตกใจกับภาพตรงหน้า เขารีบวิ่งเข้าไปกอดแม่ของเขาที่ไม่ได้เจอกันมานาน
  "ท่านแม่หายไปจากวังนานมากแค่ไหนกัน ท่านรู้บ้างไหมว่าข้ากับท่านพ่อคิดถึงแค่ไหน"
  "แม่ขอโทษนะที่หายไปนาน แต่..แม่มีงานต้องทำจริงๆ" ราชินีเปลี่ยนสีหน้าเป็นเคร่งเครียดก่อนจะเชิญคนที่เหลือเข้าไปข้างใน
  "เอาล่ะ พวกเจ้าฟังให้ดีนะ ตอนนี้โลกปีศาจกำลังประสบกับวิกฤตอันใหญ่หลวง เพราะการรุกรานของจ้าวปีศาจที่คิดโลภมากอยากจะครอบครองโลกใบนี้ และพวกเจ้าทุกคน..คือวีรบุรุษในคำทำนายเล่มนี้"
  ราชินียื่นหนังสือให้อาจารย์เดวาน่าก่อนเธอจะเปิดมันออกแล้วเริ่มอ่านคำทำนาย
  "ยามโลกเข้าสู่วิกฤต คนชั่วคิดจะกลืนกินบ้านเมือง เมื่อนั้น วีรบุรุษเลือดบริสุทธิ์แห่งเซนต์บาเรลจะปรากฏตัวขึ้น หนึ่งนักฆ่า หนึ่งนักเวทย์ หนึ่งดาบ หนึ่งผู้รักษา พวกเขาคือผู้พิทักษ์ จงรวมเป็นหนึ่ง แล้วมุ่งสู่ชัยชนะ..."
  เมื่ออาจารย์เดวาน่าอ่านจบ เธอก็วางหนังสือเล่มนั้นลงขณะที่ราชินีเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
  "หรือว่าพวกเรา..คือคนที่คำทำนายหมายถึงเหรอคะ"เดนน่าพูดด้วยน้ำเสียงตกใจปนหวาดกลัวเล็กน้อย ไม่มีคนตอบจากราชินี เธอเพียงหลับตาลงแล้วพูดในสิ่งที่เธอกำลังเรียบเรียง
  "เวลส์ เจ้าคือนักฆ่าแห่งเบรอนดา แดเนียล เจ้าคือพ่อมดผู้มีสัมผัสด้านเวทย์มนต์และการใช้เวทย์อัคคีเป็นเลิศ เซเลีย นักดาบแห่งตระกูลฟาเรนเซียร์ที่สร้างตำนานมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง และเจ้าเดนน่า เจ้าคือเฮเลนตนสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่ ซึ่งเจ้าคงรู้แล้วว่าเฮเลนเป็นเลิศด้านการรักษามากแค่ไหน"
  เมื่อราชินีพูดจบ เธอก็ยืนขึ้นแล้วเดินไปที่หีบใบหนึ่งซึ่งเธอพยักหน้าให้อาจารย์เดวาน่าก่อนซึ่งกำลังหลับตาแล้วร่ายคาถา
  "ข้าแต่เทพแห่งสงครามเอ๋ย...ศาตราแห่งผู้พิทักษ์จงเป็นปรปักษ์กับความชั่วร้าย ร่วมมือกับพวกข้าแล้วจงทำลาย ความชั่วร้ายจะไม่มีสิทธิ์ได้ย่างกรายแม้แค่ก้าวเดียว!!!"
  สิ้นคำพูดของเดวาน่า หีบก็ได้ถูกเปิดออกก่อนจะมีลมอันมหาศาลพุ่งออกมาพร้อมกับอาวุธที่ลอยขึ้นสูงแล้วพุ่งไปหาเจ้าของของมัน
  "นี่..มีดของข้าเหรอ" เวลส์รับมีดสีทองแววาวที่พุ่งเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว
  "ไม้กายสิทธิ์ซีอุสนี่..มีอยู่จริงๆด้วย" แดเนียลพึมพัมกับไม้กายสิทธิ์ที่กำลังเปล่งประกายสีม่วงออกมารอบๆ
  "ดาบเงินนี่ช่างสวยงามอย่าบอกใครเชียว" เซเลียรับดาบที่พุงเข้าหาอย่างคล่องแคล่ว มันเป็นดาบที่เปล่งประกายสีเงินเหมือนไข่มุกแห่งท้องทะเลจริงๆ
  "เอ้ะ?! คฑา??"เดนน่ารับคฆาที่ปลายหัวของมันเป็นรูปเทพไนกี้หรือเทพแห่งชัยชนะนั่นเอง
  "ศาตราพวกนี้ ได้อาบเลือดของเทพเจ้า และเป็นอาวุธที่แข็งแกร่งและไร้เทียมทาน แต่ถ้าใช้ไม่เป็นก็ไร้ความหมาย เอาล่ะเดวาน่า ฝากจัดการที่เหลือทีนะ"
  "รับทราบเพคะ ราชินี"
  ราชินีเดินหายไปในห้องบรรทมก่อนที่อาจารย์เดวาน่าหันมาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
  "เอาล่ะ ต่อจากนี้ พวกเจ้าจะต้องย้ายไปศูนย์ฝึกหัดด่วนพิเศษซึ่งจะต้องไปฝึกให้คุ้นเคยกับอาวุธพวกนี้ที่นั่น"
  "แล้วพวกเราจะไปตอนไหนคะอาจารย์"เซเลีย
  "เดี๋ยวนี้แหละ..."
  พูดจบ เธอก็โบกมือไปมาเบาๆก่อนจะมีเขตเวทย์มนต์เป็นวงกลมสีม่วงใต้เท้าพวกเขา
  "พวกเจ้าทุกคน มีศึกใหญ่รออยู่ ขอให้ตั้งใจฝึกให้ดี..พวกเจ้าคือความหวังที่เซนต์บาเรลและโลกนี้ภาภภูมิใจนะ.."
  "ครับ!/ค่ะ!"
  "ขอให้โชคดี.."
  ทันใดนั้นที่พวกเขาถูกเคลื่อนย้ายด้วยเขตเวทย์มนต์ไปสู้สถานที่แห่งนึง สถานที่ที่เป็นศูนย์ฝึกที่เข้มงวดที่สุดในเบรอนดา..
 
 
 
     ตุ้บ!!
  ปีศาจสองตนร่วงลงมาจากวงแหวนเวทย์มนต์มาโผล่ในทุ่งหญ้ากว้างขวางแห่งนึง
  "โอ้ย?!"เสียงอุทานของเดนน่าที่ร่วงลงมาก่อนจะทับร่างของแวมไพร์หนุ่มเข้าอย่างจัง
  "อุก..!!" เสียงของเขาจุกอยู่ที่ลิ้นขณะที่โดนสาวร่างบางทับลงมาเต็มแรง
  "ข..ขอโทษ"เธอรีบขอโทษแวมไพร์หนุ่มที่หน้าเขาและเธอใกล้กันมาจนรู้สึกถึงลมหายใจของกันและกัน
  "ตัวหนักชะมัด..ยัยหมูสามชั้น"
  "นี่! ช่วยอย่าปากเสียซักเดี๋ยวได้ไหมยะ แล้วนี่เซเลียกับแดเนียลล่ะ"
  "ข้าก็ไม่แน่ใจ..ทำไมเหลือข้ากับยัยหมูตอนนี่อยู่สองคนล่ะเนี่ย"
  "หมูตอนบ้านนายสิ ฉันตัวเบากว่านายตั้ง!..."
  ครืนนนนนนนน....
  เสียงถล่มของอะไรซักอย่างดังมาจากอีกฝากนึงของทุ่งหญ้าทำให้พวกเขาสองคนจับอาวุธที่อยู่ในมือให้แน่นก่อนจะหันหน้าเข้าสู้กับสิ่งที่เหมือนกำลังคลืบคลานเข้ามาช้าๆ
  "เหมือนมันจะใกล้เข้ามาเรื่อยๆนะเวลส์"
  "ข้าก็รู้สึกได้..เจ้ามาหลบหลังข้าก่อน"
  "ไม่! ฉันจะสู้กับมันตรงๆนี่แหละ"
  "โธ่เอ้ย?! อย่าเพิ่งดื้อได้ไหม"
  พูดจบเขาก็กระชากแขนเล็กๆของเธอไปอยู่ข้างหลังขณะที่สิ่งที่พวกเขาสงสัยก็ปรากฏตัวขึ้น
  มันคือปีศาจร็อคเกรย์กอร์ เป็นปีศาจจิตวิญญาณของหินผาขนาดใหญ่ จะอาศัยอยู่ริมหน้าผา มันมีรูปร่างที่ใหญ่แต่เชื่องช้า
  "ฟังนะ เจ้าอยู่ตรงนี้ อย่าไปไหน! แล้วข้าจะเข้าไปบุกก่อน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น อย่าทำอะไรโง่ๆเด็ดขาด เข้าใจไหม!"
  เขาหันหลังมาปรามเธอที่กำลังยืนอึ้งเหมือนเห็นคลื่นยักษ์ขนาดใหญ่กำลังพุ่งเข้ามา
  "อ..อืม"
  พูดจบ เขาก็พุ่งเข้าไปหาปีศาจที่กำลังเดินมาอย่างเชื่องช้า แล้วเอามีดคู่ที่อยู่ในมือฟันลงไปที่หน้าของมัน แต่ไม่เป็นผล..ไม่ได้สร้างบาดแผลอะไรเลยกับปีศาจตนนี้ เขาลองหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ไม่สามารถจะทำความเสียหายอะไรได้เลยจนเริ่มรู้สึกเหนื่อยล้า
  "โธ่เอ้ย..ทำไมทำอะไรมันไม่ได้เลยล่ะเนี่ย!!"
  
 
 
  ในขณะเดียวกัน อีกฟากนึงไกลแสนไกลซึ่งเป็นทะเลทรายที่ร้อนระอุ เซเลียกับแดเนียลก็กำลังเดินฝ่าทรายที่เหมือนจะเผาพวกเขาให้ละลายไปยังไงยังงั้น
  "นาย...ฉันร้อนจนจะหายใจไม่ออกแล้ว"
  "เจ้าทนหน่อยนะ อย่าเพิ่งยอมแพ้สิ"
  เซเลียที่ทางเหมือนจะเป็นลมเข้าไปทุกทีกับแดดที่ไม่มีท่าว่าจะปราณีเธอเลยซักนิด แดเนียลก็ไม่สามารถจะเรียกใช้พลังอะไรได้เลยจากไม้กายสิทธิ์นี้
  "โธ่เอ้ย! ทำอะไรได้บ้างเนี่ย"
  เขาหงุดหงิดก่อนจะสะบัดไม้วิเศษไปมา ขณะนั้นเองที่เซเลียไม่อาจสู้แสงแดดที่กำลังแผดเผาเธอต่อไปได้ ทำให้เธอล้มลงไปกับกองทราย
  ตุ้บ..
  "เห้ย..เจ้าตั้งสติหน่อยสิ เซเลีย!! โธ่เอ้ย! ทำอะไรซักอย่างเถอะ"
  เขาบ่นกับไม้กายสิทธิ์ที่อยู่ในมือของเขาอย่างไม่พอใจที่มันไม่ตอบสนองอะไรเลย
  'เจ้ากับข้า รวมใจเป็นหนึ่งสิ'
  เสียงประหลาดของผู้หญิงดังก้องอยู่ในหูของเขา หรือว่า..มันคือเสียงของเจ้างั้นเหรอ ไม้กายสิทธิ์กำลังต้องการสื่อสารบางอย่างกับเขา
  'ถ้าใจของผู้ใช้ไม่เป็นหนึ่งเดียวกับอาวุธ แล้วเจ้าจะใช้มันได้ยังไง'
   เขาค่อยๆหลับตาลงช้าๆ แล้วพยายามสะกดสมาธิให้รวมเป็นหนึ่งเดียวกับมัน ก่อนจะค่อยๆร่ายคาถาชั้นสูงที่กำหนดสภาพอากาศได้
  "ภูติหิมะเอ๋ย เจ้าจงฟังข้า จงพัดลอยมา อราเซีย!!"
  สิ้นคำร่าย จากที่แดดร้อนจัดเหมือนจะแผดเผาพวกเขาให้กลายเป็นจุล ก็เปลี่ยนเป็นหิมะสีขาวบริสุทธิ์กำลังค่อยๆโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้าที่ปกคลุมด้วยเมฆครึ้ม 
  "สำเร็จ..เซเลีย! เซเลีย"
  เขายกหัวของเธอที่กำลังนอนหงายอยู่ขึ้นมาแล้วเรียกให้เธอคืนสติ และมันก็ได้ผล เธอค่อยๆปรือตาขึ้นช้าๆ
  "อืม...ทำไมหนาวจัง"
  "อ่าว แล้วกัน ฮ่าๆๆ"
  "ขำอะไรของนาย..."
  "เปล่าๆไม่มีอะไรหรอก เราไปกันต่อเถอะ"
  "เดี๋ยวๆ..ที่นี่ไม่ใช่ทะเลทรายหรอกเหรอ"
  "เถอะน่า ไปกันต่อได้แล้ว"
  เขาลากแขนของเซเลียที่มีท่าทางมึนงงเล็กน้อยกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปแบบปุบปับ
 
 
 
 
  อีกด้านนึงของทะเลทรายที่ได้ถูกเปลี่ยนเป็นสวนหิมะคือทุ่งหญ้าที่เวลส์กำลังต่อสู้กับปีศาจเกรย์กอร์ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถทำอะไรมันได้เลยแม้แต่น้อย
  "โอ้ย?!"
  เวลส์โดนกำปั้นที่ใหญ่เท่าจอทีวีอัดเข้าเต็มๆที่หน้าของเขา เขาร่วงลงไปกับพื้นทันทีที่โดนหมัดหนักๆนั่น 
  "เวลส์ เวลส์!! นายเป็นอะไรไหม? เวลส์"
  "เดนน่า..ฉันบอกให้เจ้าอยู่ตรงนั้นอย่าไปไหนไง"
  "อยุดพูดก่อนเถอะน่า เราต้องรีบหนีไปจาก...กรี้ดดดดดด!!"
  "เดนน่า!!!"
  เธอโดนปีศาจหินดึงด้วยอุ้งมือหยาบกระด้างนั่น 
  "เวลส์! อย่าสู้ต่อเถอะ นายรีบหนีไป กรี้ดด!หยุดนะไอ้ยักษ์ทุเรศ!!"
  ปีศาจหินแลบลิ้นสีม่วงของมันออกมาเลียลงไปที่ใบหน้าของเธอ ดูเหมือนว่าเลือดเฮเลนในตัวเธอจะไปกระตุกต่อมหิวของมันเข้าเสียแล้ว  
  ภาพที่เห็นตรงหน้าคือยัยนั่นโดนปีศาจน่าเกลียดเอาลิ้นทุเรศๆของมันเลียที่แก้มของเธอ มันทำให้เขาโกรธ..โกรธจนคอของเขาขึ้นเป็นเส้นเอ็นปูดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด เคี้ยวแวมไพร์ของเขายาวออกมาเลยริมฝีปากสีแดงสด
  'เปลี่ยนความโกรธเป็นพลังสิ'
  เสียงของผู้ชายน่าเกรงขามดังแว่วข้ามาในหูของเขา ก่อนที่มีดคู่นั่นจะเปล่งประกายเป็นสีทองออกมา ทำให้เขาหยิบมันขึ้นมาจับให้แน่นในมือก่อนจะพุ่งเข้าไปอัดใส่ปีศาจหินนั้นแบบไม่ยั้ง
  พั่บ! ฉั๊ว! ควับ! 
  หินบนตัวของมันค่อยๆแตกออกทีละนิดด้วยการโจมตีที่รุนแรงและรวดเร็วของเขา มันทำให้ปีศาจหินเริ่มทลายลงมาทีละส่วน
  มันเหวี่ยงหมัดเข้าหาแวมไพร์หนุ่มแต่เขากระโดดหลบและเอามีดแทงตรงลูกกลมๆเหมือนไข่มุกที่ฝังอยู่บนหน้าผากของมัน
    ฉั๊วะ!!
  เหมือนจะเป็นจุดอ่อน..มันพังทลายลงทันทีที่เขาชักมีดออก
  "ช่วยด้วย! เวลส์!!!"
  เขาวิ่งเข้าไปรับเธอที่ร่วงลงมาได้ทันท่วงที
     พลั่ก!  
  "อุ้ก!"
  "อ้ะ..ขอโทษ" เธอรีบลุกขึ้นจากท่าที่นั่งทับท้องของเขาไปเต็มๆ
  "เจ้ามัน..ดื้อจริงๆเลย"
  "ฮืออออออ"
  เธอน้ำตาไหลคลอเบ้าก่อนจะเข้าไปก่อนจะก้มลงกอดคอของแวมไพร์หนุ่มที่เต็มไปด้วยบาดแผลจากการสู้กับยักษ์หินนั่น
  "เจ้าทำข้าหายใจไม่ออกนะ...เดี๋ยวข้าก็ตายหรอก"
  "ตายๆไปเลย จะได้ไม่ต้องให้เป็นห่วงอยู่แบบนี้" คำพูดที่อยู่ในใจของเธอหลุดออกมาโดยไม่รู้ตัว ทำให้แวมไพร์หนุ่มใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก
  "ม..เมื่อกี้เจ้าว่าไงนะ"
  "ป..เปล่านี่ ฮึก ฮึก"
  เธอคลายอ้อมกอดออกแต่ยังคงสะอื้นอยู่ไม่หาย
  "เจ้าเป็นห่วงข้าล่ะซิ ใช่ไหมล่ะ"
  "บ้า ทำไมฉันต้องไปห่วงนายด้วย ไม่จำเป็น!!"
  เธอก้มมองสำรวจร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลและรอยขีดข่วนบนเสื้อผ้าของเขา
  "ฉันว่า ฉันคงจะได้ลองวิชาแล้วล่ะ ฉันจะรักษานายเอง!"
  "ข้าจะตายเร็วกว่าเดิมล่ะสิไม่ว่า.."
  "หุบปากแล้วนอนเงียบๆไปเลยนะ"
  เขาลอบยิ้มเบาๆที่มุมปาก ทำให้เธอชะงักไปเล็กน้อย...เขาแอบยิ้มเหรอ เขารู้สึกดีกับคำพูดของเธองั้นเหรอ ทำไมเธอถึงรู้สึกดีขึ้นมาซะดื้อๆเลยนะ
  ไม่ได้ๆ จะหวั่นไหวไปกับหมอนี่ไม่ได้ เธอต้องรีบฝึกวิชาแล้วรีบไปช่วยเมืองเอาไว้ เอาล่ะนะ
  เธอค่อยๆตั้งสมาธิแล้วรวบรวมพลังจิตไว้ที่ปลายไม้คฑา พยายามรวบรวมพลังเวทย์ที่มีเพียงน้อยนิด แต่จู่ๆ เธอก็รู้สึกเหมือนมีพลังอีกส่วนหนึ่งที่เธอไม่เคยรู้สึกมาก่อน พุ่งเข้ามาที่มือของเธอแล้วไปรวมที่หัวของคฑา เกิดลมอ่อนๆขึ้นรอบๆตัวเธอกับเวลส์ที่กำลังนอนหลับตานิ่ง 
  "นี่สินะ..พลังที่อาจารย์เดวาน่าหมายถึง"
  เธอพึมพำเบาๆก่อนจะหลับตาลงแล้วเอามือลูบที่หัวของเขาเบาๆ รอบๆมือของเธอส่องประกายสีเขียวก่อนจะไหลไปทั่วร่างของเขา และแล้วบาดแผลบนตัวของแวมไพร์หนุ่มจะค่อยๆจางหายไป
  เธอเอามือออกช้าๆก่อนจะอึ้งกับผลงานของตัวเอง เธอทำได้แล้ว เธอใช้พลังเวทย์ได้แล้ว!!
  "โอ้ะ หายเจ็บแล้วแฮะ"
  "กรี้ดด นายเห็นไหม ฉันใช้พลังเวทย์ได้แล้ว ยะฮู้!!"
  "เก่งมาก:)"
  เขายิ้มเบาๆก่อนจะเอามือหนาๆและนิ้วเรียวยาวที่เย็นเฉียบมาลูบหัวเธอเบาๆ ก่อนจะเริ่มเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ
  "นี่! ผมฉันยุ่งหมดแล้วนะ!!"
  "ฮ่าๆๆ"
  ไม่รู้ทำไม..แต่เธอเหมือนรู้สึกผูกพันธ์กับเขามากขึ้นเรื่อยๆ ถึงเธอกับเขาจะกัดกันตลอดแต่เขาก็เป็นคนที่คอยปกป้องและห่วงใยเธอเสมอ..เเบบนี้หรือเปล่านะ ที่เขาเรียกกันว่า ความรัก
 
 
  "เหวอออ!!"
     เคร้ง!! 
  แดเนียลร้องเสียงหลงเมื่อปีศาจโครงกระดูกพุ่งเข้ามาแล้วพยายามที่จะเอาดาบฟันเขา แต่เซเลียที่หันมาเห็นเข้าเลยช่วยเขาไว้ได้ทันเวลา
  "นายหลบไปก่อน"
  "ไม่! ข้าจะสู้เคียงข้างเจ้า" 
  "เซล์โลเคตั้นพวกนี้ เวทย์มนต์ทำอะไรมันไม่ได้หรอก.."
     เคร้ง เคร้ง!!
  เสียงดาบกระทบกันของผีโครงกระดูกที่โผล่มาจากด้านหลังกับดาบสีเงินที่ส่องประกายในมือของเธอ
  "แต่ว่า.."
  "ถอยไป!! ก่อนที่ฉันจะจับนายสับเป็นชิ้นๆแล้วแล่ให้พวกมันกินซะ!!"
  เซเลียตะคอกเสียงดังใส่แดเนียลที่ยืนอยู่ขางหลังเธอ ซึ่งมันก็ทำให้เขารู้สึกกลัวไม่ใช่น้อย
  "ค..ครับผม"
  "ย่าาห์!!"
    พลั่ก!!
  เธอใช้สันดาบทุบหัวกะโหลกตัวสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่
  "เรียบร้อย.."
  เธอพูดก่อนจะปัดมือสองสามทีแล้วใส่ดาบสีเงินเววาวลงในฝักข้างๆเอว แดเนียลอึ้งกับการจัดการฝูงปีศาจโครงกระดูกขนาดใหญ่อย่างรวดเร็วแบบนั้นได้ 
  "เธอ..คืออสุกายหรือเปล่าเนี่ย.."
  "อะไรนะ..."
  "อ่อ..คือเธอเก่งจังนะ ฮ่าๆๆ"
  เขาหัวเราะกลบเหลื่อนก่อนถอนหายใจเบาๆตอนที่เธอหันหลังไป เหมือนจะไม่ได้ยินที่เขาพูดไปสินะ เห้อ...
  "เห้!! พวกนายสองคน!!!"
  เสียงของเดนน่าตะโกนมาทำให้พวกเขาหันไปมองเจ้าของเสียงนั่น
  "เห้! เดนน่า เวลส์ ปลอดภัยดีใช่ไหม!!"แดเนียลตะโตนตอบ
  เดนน่าและเวส์เดินเข้าไปหาพวกเขาที่กำลังเดินเข้ามาเช่นกัน 
  "พวกนายเมื่อกี้มันมีปีศาจตัวเบ้อเริ่มเข้ามาทำร้ายพวกเราด้วยล่ะ น่ากลัวมากเลย" เดนน่า
  "เมื่อกี้ก็มีกลุ่มโครงกระดูกเข้ามาทำร้ายพวกเราเหมือนกัน"เซเลีย
  "ข้าคิดว่านี่เป็นการทดสอบที่อาจารย์เดวาน่าหมายถีงนั่นแหละ"เวลส์
  "แล้วเราจะทำยังไงต่อล่ะ" แดเนียล
  ทุกคนเงียบไปพักใหญ่ก่อนที่จะมีวงเวทย์วงใหญ่ปรากฏขึ้นล้อมพวกเขาไว้
  "ข้าคิดว่า..เจ้าคงได้คำตอบแล้วล่ะ"
  เมื่อเวลส์พูดจบ อาณาเขตเวทย์มนต์ก็ได้พาพวกเขากลับไปที่ปราสาท 
 
 
  ไฟกำลังลุกไหม้...ตอนนี้บ้านเมืองกำลังโดนไฟไหม้เป็นไปทั่ว ทุกคนกำลังหนีตายอย่างอลหม่าน กลุ่มควันสีดำขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้นบนท้องฟ้าบดบังแสงจันทร์จนหมดสิ้น มังกรขนาดใหญ่สองตัวกำลังทำลายปราสาทขณะพวกเขายืนดูเหตุการณ์อยู่บนยอดหอคอยที่ด้านหลังของปราสาท
  "นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่.."เดนน่าถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย
  "ดูเหมือนว่า พวกมันจะลงมือแล้วล่ะ" แดเนียลตอบขณะมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสับสน
  "ไปกันเถอะ.."
  เวลส์พุ่งนำหน้าทุกคนไปตามด้วยเซเลีย แดเนียล และเดนน่าคอยหนุนหลัง ในสถานการณ์นี้ ทุกคนยินดีที่จะตายเพื่อเกียรติแห่งเซนต์บาเรล
  "ตายซะเถอะ ไอ้พวกสวะ!!!" เวลส์
 
 
 
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
  
 
 
 
 
 
 
 
 
  
    
 
 
 
 
 
  
  
   
 
  
  
  
 
 
 
 
 
  
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา