แค่อยากให้รู้ว่ารักเธอ

8.7

เขียนโดย ลันตนา

วันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 14.02 น.

  33 บท
  10 วิจารณ์
  30.73K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน พ.ศ. 2562 21.37 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

16) ตัดใจ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
บทที่ 16 ตัดใจ
 
            “ดอกไม้ของฉันเหรอ” ไอรินทร์ชี้นิ้วเข้าหาตัวเองทำหน้างงงันพลางจ้องมองเหล่าดอกไม้สีสดใสในช่องามอย่างสงสัย
                “ค่ะๆ ตอนกล้วยเดินไปปิดประตูเห็นมันนอนอยู่ข้างต้นไม้อะค่ะ สวยดีเลยหยิบขึ้นมาดูจึงเห็นชื่อคุณรินทร์ค่ะ”
                เจ้านายหญิงรับช่อดอกไม้มาแล้วพบว่ามีชื่อของตนเองอยู่จริงๆซึ่งเขียนด้วยลายมือ ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วมันคุ้นๆเหมือนลายมือของใครคนหนึ่ง เมื่อนึกออกจึงตัดสินใจไปหาเขาที่บ้านทันที
                “สวัสดีค่ะป้าพร พี่ก้องอยู่มั้ยคะ” หญิงสาวยกมือไหว้ผู้ใหญ่อย่างสุภาพนอมน้อม
                “ออกไปกรมสักพักแล้วจ๊ะ” หญิงสาวย่นคิ้วก่อนจะถามกลับไปเพื่อความแน่ใจ
“ไปกรมตอนหกโมงเย็นเหรอคะ”
                หญิงสูงวัยพยักหน้า “จ๊ะเห็นบอกว่ามีงานด่วนต้องรีบทำมีอะไรจะคุยกับพี่หรือเปล่า”
                “เอาไว้ให้พี่ก้องกลับมาก่อนก็ได้ค่ะ” หญิงสาวยิ้มก่อนจะยกมือขึ้นไหว้แล้วขอตัวกลับ
               
            ปัง! ปัง! ปัง! ...เสียงปืนดังกระหึ่มไปทั่วทั้งสนามยิงปืนของค่ายฝึก จังหวะการยิงรัวบ้างช้าบ้างตามอารมณ์ผู้ยิงที่กำลังปล่อยลูกกระสุน
                “โอยยยย ผู้กองครับกลับบ้านเถอะคร้าบบบ ผมหิวไส้จะขาดแล้ว” นายทหารผู้ดูแลสถานที่ลูบท้องป้อยๆพร้อมกับเรียกบอกนายทหารหนุ่มเมื่อถึงเวลาที่ต้องปิดสนามเสียที
                “อีกสิบนาที”
                ผู้ดูแลสถานที่ยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา “อีกสิบนาทีของผู้กองมาสี่รอบแล้วนะครับตอนนี้หนึ่งทุ่มแล้วกลับบ้านเถอะครับ”  
                ก้องภพสงสารคนที่มีอายุมากกว่าจึงเก็บอุปกรณ์การยิงทั้งหมดเข้าที่ คืนนี้ก้องภพไม่ได้กลับบ้านแต่เข้าพักที่บ้านพักในกรมแทนเพราะอยากทำใจสักพักก่อนจะกลับไปเผชิญหน้ากับความจริงที่ต้องยอมรับให้ได้
            ‘ที่ตรงนั้นมันไม่ใช้ที่สำหรับคนที่สาย...’
 
หนึ่งวัน สองวัน สามวัน... รอแล้วรออีกเขาก็ยังไม่กลับมาสักที มีเรื่องราวมากมายที่อยากพูดอยากจะถาม
“แกจะไปไหน” ญาณิศาที่เพิ่งมาร้องถามเมื่อเห็นเพื่อนสาวก้าวเท้าออกจากบ้านเตรียมจะเดินไปรถส่วนตัว
“ไปหาพี่ก้องที่กรม”
ญาณิศาย่นคิ้ว “ไปทำไม”
ไอรินทร์ไม่ตอบแต่เดินฉับๆไปที่รถปล่อยให้เพื่อนยืนงงก่อนจะวิ่งตามมาที่รถ “ฉันไปด้วย”
รถยี่ห้อดังแล่นมาเรื่อยๆ ภายในอาณาบริเวณของค่ายทหารแห่งหนึ่งไอรนิทร์รู้ทางได้เพราะก้องภพชอบพาเธอพาแวะเวียนที่นี้บ่อย และแล้วก็มาถึงที่ที่เธอต้องการจะมาพบใครคนหนึ่ง
“สวัสดีครับ ไม่ทราบว่ามาพบใครครับ” นายทหารคนหนึ่งส่งยิ้มทักทายหญิงสาวแปลกหน้าที่เดินเข้ามาในสถานที่ราชการแห่งนี้
“มาพบ ร.อ.ก้องภพค่ะ”
“วันนี้ผู้กองมีสอนครับ ไม่อยู่ทั้งวัน” รอมาหลายวันพอมาหาถึงที่ก็ติดภารกิจเสียอีกแต่ถึงยังไงก็อยากจะไปพบให้ได้อยู่ดี
“ตอนนี้กำลังสอนที่ไหนคะ”
ในตอนแรกนายทหารคนนี้ทำท่าทางอึกอักแต่โดนลูกอ้อนของหญิงสาวคนนี้เป็นต้องยอมบอกสถานที่ที่เธอต้องการจะไปพบหัวหน้าของเขาให้ได้
Mercedes Benz e class coupeสีขาวมุขแล่นมาตามทางที่คนควบคุมพวงมาลัยบังคับจนมาถึงสถานที่ที่ต้องการ เสียงปืนดังเป็นระยะบ่งบอกให้ผู้มาเยือนทราบว่ามาถึงที่หมายแล้ว สองเท้าน้อยเดินเข้ามาตามทางที่เคยเข้ามาบ้างแล้ว รูปร่างที่คุ้นเคยกำลังยืนสอนนักศึกษารักษาดินแดนจำนวนหนึ่งในการใช้ปืนอย่างเชี่ยวชาญ
“พี่ก้อง” เสียงหวานเอ่ยเรียกครูฝึกที่กำลังตั้งอกตั้งใจสอนนักเรียน เมื่อคนถูกเรียกได้ยินจึงหันมาตามเสียงนั้น
“มาที่นี้ทำไม” ครูฝึกผละออกจากกลุ่มนักเรียนหันมาสนใจหญิงสาวมาใหม่ ใบหน้าของเขาแสดงความสงสัยไม่น้อยเพราะการมาของเธอที่ไม่บอกไม่กล่าว
“มีเรื่องอยากจะคุยกับพี่ค่ะ” ชายหนุ่มพาเธอออกมากจากที่นั้นเล็กน้อยก่อนจะถาม
“ว่ามามีอะไรจะคุยกับพี่” ชายหนุ่มยืดอกพร้อมกับส่งยิ้มให้เธอแม้ว่าการยิ้มนี้จะไม่สามารถได้ยิ้มอย่างเต็มปากเต็มใจเหมือนที่ผ่าน ต้องเตือนตัว ต้องห้ามตัวเอง
“ขอบคุณสำหรับดอกไม้วันนั้นนะคะ”
“ไม่เป็นไร แค่นี้ใช่มั้ยพี่จะไปสอนต่อ” ยิ้มให้อีกครั้งก่อนจะหมุนตัวเดินกลับแต่ยังไม่ได้ก้าวไปไหนมือเล็กรั้งแขนไว้ก่อน เมื่อเห็นดังนั้นมือใหญ่จึงดึงมือเล็กออกเพราะถ้าเธอจับนานกว่านี้มันดูไม่ดีแน่
“ยัง พี่ก้องเป็นอะไรคะทำไมวันนี้พูดน้อยจัง”
“วันนี้พี่เหนื่อยถ้ารินทร์มีอะไรจะพูดกับพี่อีกเดี๋ยวกลับไปคุยกันที่บ้านนะ” ร่างสูงหมุนตัวเดินออกมาโดยไม่หันไปสนใจคนข้างหลัง
“เดี๋ยว...”
“พี่ต้องพานักเรียนลงสนามไว้ค่อยคุยกัน” แล้วร่างสูงก็เดินออกไปจนลับตาทิ้งให้คนข้างหลังมองตาปริบๆกับกิริยาที่เธอไม่เคยเห็น
“แกโอเคนะ” ญาณิศาแตะไหล่บางของเพื่อนสาวด้วยความเป็นห่วงเพราะตั้งแต่ออกมาจากค่ายเห็นเธอนั่งเงียบตลอดทางที่ขับรถ
“ฉันโอเค ขอบใจนะที่นั่งรถเป็นเพื่อน” ไอรินทร์ผืนยิ้มแม้ว่าข้างในจะไม่โอเค
“ฉันก็ขอบใจแกนะที่มาส่งที่บ้านขับรถกลับบ้านดีๆนะ” ญาณิศามองรถหรูที่วิ่งออกไปไกล... ‘ถ้าแกพูดออกมาบ้างมันคงดีกว่านี้’
 
... ‘เกิดอะไรขึ้นกับเขา ทำไมสายตาที่มองเราตอนนี้มันไม่เหมือนเมื่อก่อน ท่าทางและคำพูดก็ดูห่างเหิน เปลี่ยนไปเป็นคนละคน’...
สองเท้ามุ่งหน้าเดินไปยังบ้านของก้องภพเมื่อทราบว่าเขากลับบ้านแล้ว ทุกความสงสัย ทุกคำถามที่อยากถามมันหลั่งไหลออกมาจนอยากจะพูดเดี๋ยวนี้ ขาเรียวเดินมาได้เพียงประตูบ้านก็พบกับสาวใช้จำนวนหนึ่งที่กำลังทำความสะอาดบ้าน
“พี่ก้องอยู่มั้ยคะ” เสียงหวานเอ่ยถามสาวใช้หนึ่งในนั้น
“คุณก้องอยู่ข้างบนค่ะ” สาวใช้หนึ่งในนั้นหันมาตอบเธอ ไอรินทร์ไม่รอช้าสาวเท้าไปที่บันไดทันที
เมื่อเดินหาทั่งชั้นสองก็ไม่พบใครเธอจึงเลือกที่จะเดินไปห้องนอนของเขา คำถามากมายที่ต้องการคำตอบมันแทบจะทะลุอกออกมาแล้ว
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เคาะประตูสักครู่ก็ไม่มีใครเปิดเธอจึงถือวิสาสะบิดลูกบิด
‘ประตูไม่ได้ล็อค’
หัวใจดวงน้อยเต้นตึกตักด้วยความตื่นเต้นเธอเคยเข้ามาในห้องนี้แล้วก็จริงแต่นั้นมันตอนที่เธอยังสี่ห้าขวบแล้วตอนนี้เธอก็ยี่สิบสามจะให้ดีใจก็แปลกที่ย่องเข้าห้องผู้ชาย สองเท้าน้อยย่างก้าวด้วยความระมัดระวัง ดวงตาสองคู่สอดส่องไปมาเผื่อว่าจะพบคนที่ต้องการแต่ก็ไร้ซึ่งผู้คนสองเท้ายังคงเดินสำรวจในห้องเรื่อยๆจนเท้าข้างหนึ่งเหยียบบางสิ่ง เมื่อเก็บขึ้นมาก็พบว่ามีกระดาษแผ่นหนึ่งอยู่ใต้ฝ่าเท้า
กระดาษสีขาวพิมพ์ข้อความเกี่ยวกับรายละเอียดของการสั่งซื้อดอกไม้ของร้านขายดอกไม้แห่งหนึ่ง สายตาไล่อ่านข้อความบนแผ่นกระดาษไปเรื่อยๆจนมาถึงตำแหน่งที่ระบุวันที่ 23/08/25xx 17:21 ถ้าหากเป็นวันอื่นชื่อผู้รับคนอื่นเธอคงไม่ติดใจแต่วันที่ที่ระบุเป็นวันที่ครอบครัวจัดงานเลี้ยงให้แก่เธอ
‘พลั่ก!’ เสียงกระชากประตูทำคนที่ตกอยู่ในภวังค์ความคิดสะดุ้งโหยงยังไม่ทันตั้งตัวไม่ทันหาที่หลบคนข้างนอกก็เข้ามาเสียแล้ว
“เข้ามาทำไม” ชายหนุ่มเจ้าของห้องเอ่ยถามทันทีที่เห็นร่างของหญิงสาวที่คุ้นตายืนอยู่ในห้อง
“...ดอกไม้ที่รินทร์ได้รับในงานวันนั้นเป็นของพี่ใช่มั้ยคะ” บุคคลปริศนาคนนั้นคนที่คอยส่งสิ่งของต่างๆมาให้เธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาคือเขาใช่หรือเปล่า
“ไม่ใช่ แล้วทำไมต้องคิดว่าเป็นพี่ด้วยละ” ความพยายามทั้งหมดที่เคยทำมาต้องจบสิ้นลงเพียงเท่านี้เพราะเธอมีคนที่ดีกว่ารออยู่
“ชื่อในใบเสร็จมันบอกไงคะ” น้ำอุ่นๆ เริ่มคลอที่หน่วยตาเธอเกลียดกิริยาท่าทางเย็นชาและน้ำเสียงห่างเหินของเขาที่เป็นแบบนี้จริงๆ
“พี่อาจจะส่งให้คนอื่นก็ได้กลับบ้านไปได้แล้วที่นี้ไม่เหมาะกับรินทร์” เจ้าของห้องริบกระดาษจากในมือเธอคืนมาก่อนจะขยำทิ้งลงถังขยะแล้วเอาเอกสารในมือไปวางที่โต๊ะและทำเป็นไม่สนใจหญิงสาวที่ยืนในห้อง
“รินทร์คงจะคิดมากไปเองขอโทษนะคะที่มารบกวน” หยดน้ำอุ่นใสร่วงลงขณะก้าวเท้าจะเดินออกก้องภพตาไม่ฝาดเพราะเห็นเธอร้องไห้อยากจะดึงเธอมาปลอบแต่ก็ไม่สมควร
“เป็นอะไร” พีรพัฒน์เห็นน้องสาวกึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้ามาในบ้านและใช้หลังมือปาดใบหน้าจึงเรียกทัก
“เปล่านี่ค่ะ”  ไอรินทร์เช็ดหน้าลวกๆแล้วส่งยิ้มให้พี่ชายเพื่อปกปิดหลักฐาน
“เปล่าแล้วร้องไห้ทำไม” ผู้เป็นพี่ชายเดินตรงเข้ามาหาน้องสาวมองใบหน้าที่เปรอะไปด้วยคราบน้ำตา
“เอ่อ...คือ” ไอรินทร์ลดใบหน้าลงหัวสมองกำลังหาข้ออ้าง “อ้อ เมื้อไปดูซีรี่ย์บ้านเหมียวหนังมันเศร้ามากก็เลยร้องไห้” เสียงหวานสั่นเครือ พีรพัฒน์พยักหน้ารับคำตอบของน้องสาวและรู้สึกว่าเธอมีอะไรปิดปังแต่เก็บไว้ให้แน่ใจมากกว่านี้
 
ในวันนี้พีรพัฒน์มาหาก้องภพที่กรมเพราะอยากจะชวนเพื่อนหนุ่มไปร่วมวงอาหารมื้อเย็นที่บ้านปกติถ้าไม่ชวนก้องภพก็จะไปร่วมมื้ออาหารด้วยเสมอต่อให้งานห่อตัวจนมิดหัวก็ไปได้แต่วันนี้ก้องภพบอกว่าไม่ว่างซึ่งเป็นสิ่งที่พีรพัฒน์แปลกใจมาก และอีกอย่างตอนนี้เขารู้สึกว่าก้องภพจะดูห่างเหินกับไอรินทร์มากเห็นตอนแรกเช้าถึงเย็นถึงแต่หลังจากไอรินทร์ออกจากโรงพยาบาลก้องภพก็เริ่มทำตัวออกห่างซึ่งเป็นสิ่งที่พีรพัฒน์สงสัยว่าเกิดจากอะไร
อาหารมื้อเย็นถูกจัดวางอย่างมีระเบียบเพื่อรอสมาชิกวัฒธนเวชมารับประทานวันนี้อาหารมื้อเย็นมีมากเป็นพิเศษเพราะสมาชิกจากบ้านเปรมสุดามาร่วมรับประทานอาหารมื้อนี้ด้วย คุณสุภาพรคิดถึงไอรินทร์มากๆเพราะวันที่หญิงสาวกลับมาจากอังกฤษคุณสุภาพรก็ไม่ได้มาร่วมงานและล่าสุดได้ทราบว่าไอรินทร์เข้าโรงพยาบาลก็ไม่ได้มาเยี่ยม เมื่อคุณสุภาพรเห็นหญิงสาวก็ต้องตกใจไม่น้อยเพราะความเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายของเธอและมื้ออาหารนี้ญาณิศาก็มาด้วย
“ฉู่ฉี่ปลาของรินทร์อร่อยจังนายลองดูสิ” พีรพัฒน์เลื่อนจานเซรามิครองฉู่ฉี่ปลาทูให้ก้องภพ ชายหนุ่มมองจานอาหารสลับกับหน้าคนทำที่ตอนนี้กำลังลุ้นคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ ช้อนสั้นสแตนเลสตักเนื้อปลาที่ชุ่มด้วยเครื่องแกงมาใส่ในจานตัวเองก่อนจะยกช้อนสแตนเลสยาวมาตักอาหารเข้าปาก
“อร่อยดีนะ” นี่คือคำชมของก้องภพ
‘แค่นี้เองเหรอ’ ไอรินทร์คิดเศร้าๆ และในตอนั้นเสียงโทรศัพท์ของเธอดังขึ้น “ค่ะพี่โอ๊ต...จริงเหรอคะ...รินทร์ว่าพี่มาบอกคุณพ่อกับคุณแม่เองเถอะค่ะ...แล้วเจอกันนะคะ”
“จะบอกอะไรพ่อกับแม่เหรอลูก” คุณวิชัยถามเมื่อลูกสาววางสายจากโทรศัพท์แล้ว
“พี่โอ๊ตจะมาขอเหรอ” พีรพัฒน์พูดติดตลกแต่คนบางคนกำลังนั่งเครียดกับบทสนทนาเมื่อครู่
“ผมขอตัวกลับก่อนนะครับพอดีนึกขึ้นได้ว่ามีงานด่วน” ก้องภพลุกขึ้นเต็มความสูงแล้วปรายตาไปมองไอรินทร์ก่อนจะเดินออกไป นั่งอยู่ตรงนี้มันรู้สึกอึดอัดไปหมดยิ่งบทสนทนาเมื่อกี้มันจี้หัวใจจริงๆ                 ความรู้สึกหลากหลายผสมปนเปเวียนไปมาอยู่ในหัวสมองอากัปกิริยาทุกอย่างเปลี่ยนไปแบบไม่ใช่ก้องภพคนเดิมที่เธอเคยรู้จัก “อิ่มแล้วค่ะขอตัวนะคะ”
“กินแค่นิดเดียวเองกินอีกสิลูกวันนี้ป้าตั้งใจทำเลยนะ” เธอเองก็อยากทานอาหารต่อ แต่ความรู้สึกทุกอย่างมันทำให้กลืนอาหารไม่ลง
“ขอโทษนะคะแต่รินทร์อิ่มแล้วจริงๆ ค่ะ”
                เมื่อไอรินทร์เดินออกไปจากห้องแล้วพีรพัฒน์ก็เริ่มปิดประเด็น “ทุกคนว่าแปลกๆ มั้ยครับ” ทุกคนบนโต๊ะอาหารพยักหน้าเห็นด้วย
                “ตอนรินทร์อยู่โรงพยาบาลเห็นพี่ก้องยังพูดหวานๆอยู่เลยตอนนี้เป็นอะไรไม่รู้” ญาณิศาพูด
                “ใช่หลังๆมานี้ป้าเห็นก้องเงียบๆไม่สุงสิงกับใครไปทำงานแล้วก็กลับบ้านแค่นี้” คุณสุภาพรพูด
“เมื่อก่อนมารับเช้ามาส่งเย็นแต่หลังจากรินทร์ออกจากโรงพยาบาลก็ไม่ค่อยเห็นก้องเขามารับรินทร์เลย เดี๋ยวนี้ก้องเขางานมากเหรอครับพี่ภพ” คุณวิชัยถามคุณเกรียงภพ
“งานในกรมตอนนี้ก็มีไม่ได้ยุ่งมากนะแต่ของก้องก็จะมีสอนนักเรียนรด.นี้แหละที่มากอยู่” คุณเกรียงภพตอบ
“เป็นไปได้มั้ยคะว่าสองคนนี้อาจจะทะเลาะกันแล้วไม่เข้าใจกัน” ญาณิศาตั้งข้อสันนิฐาน
“แม่ว่าก็อาจจะเป็นไปได้นะ” คุณวรรณวิภาพูด
“ทุกคนอยากให้สองคนนี้คืนดีกันมั้ยครับ”
พีรพัฒน์นำเสนอความคิดทุกคนบนโต๊ะอาหารก็เห็นด้วยเพราะทุกคนต่างก็เห็นว่าชายหนุ่มหญิงสาวสองคนนี้มีความรู้สึกพิเศษต่อกันจึงอยากให้ทั้งคู่ได้ปรับความเข้าใจกัน ครอบครัวของทั้งสองฝ่ายต่างปรึกษาหารือกันว่าจะทำอย่างไรให้ชายหญิงได้หันหน้ามาคุยกันปรับความเข้าใจกันเพื่อจะได้ไม่เกิดช่องว่างระหว่างทั้งสองคนจนกลายเป็นแค่คนรู้จัก...

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา