HOT PLAYBOY ร้อนรัก ร้ายลึก

8.7

เขียนโดย TheDaziie

วันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2559 เวลา 22.28 น.

  9 CHAPTER
  0 วิจารณ์
  10.28K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 มกราคม พ.ศ. 2559 23.19 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) CHAPTER 5 [100%] :: HOT PLAYBOY

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก

 
CHAPTER 5
 
 
 
          มหาวิทยาลัย K
          หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จและพาโคลินไปส่งที่โรงเรียนตามคำสั่งของคุณย่าเรียบร้อยแล้ว ฉันกับโปสเตอร์ก็ตรงมายังมหาวิทยาลัยทันทีเพราะมีเรียนตอนเก้าโมงเช้า เมื่อขับมาจนถึงป้ายหินอ่อนขนาดใหญ่ซึ่งมีตัวอักษรสีทองเป็นคำว่า ‘คณะนิเทศศาสตร์’ เจ้าของรถ Porsche สีแดงเพลิง (บ้านมันรวยเลยมีรถหลายคัน) ก็ผ่อนเครื่องยนต์ลงจนจอดสนิทอยู่หน้าทางเข้า ฉันจึงเลื่อนสายตาไปมองซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับคนข้างๆ หันมาพูดกับฉันพอดี
          "แกลงตรงนี้แล้วกัน เดี๋ยวฉันเอารถไปจอดแล้วจะตามไป"
          "ที่ไล่ฉันลงเพราะนัดหญิงเอาไว้ก็บอกมาเถอะ ทำเป็นอ้างนั่นอ้างนี่"
          "เบื่อจริงพวกรู้ทัน! รีบลงไปเร็วๆ เลย" คนถูกจับได้ทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอแล้วยกมือขึ้นสะบัดลวกๆ เป็นการประกอบคำพูดเพื่อไล่ฉันลงจากรถ
          "อย่าเพลินจนลืมเข้าเรียนล่ะไอ้เพลย์บอย"
          "คนอย่างโปสเตอร์ถ้าไม่ถึงที่สุดก็ไม่หยุดหรอกนะ ฮี่ฮี่"
          "ทุเรศ!" ฉันรู้สึกขนลุกเมื่อได้ยินคำพูดสองแง่สองง่ามของโปสเตอร์ หนอย! ไอ้บ้านี่...พูดเปิดทางให้หน่อยไม่ได้ต้องโยงเข้าเรื่องลามกตลอด!
          นี่เขาเรียกว่า 'หมกมุ่น' เข้าขั้นโคม่าใช่ไหม?
          "ฮ่าๆๆๆ ฉันไปล่ะ"
          คนกะล่อนหัวเราะชอบใจพร้อมโบกไม้โบกมือให้ฉันก่อนขับรถออกไป ฉันจึงหมุนตัวเตรียมเดินเข้าไปในตึก แต่ก็ต้องชะงักฝีเท้าไว้อย่างนั้นเมื่อได้ยินเสียงของ 'ใครคนหนึ่ง' ดังอยู่ด้านหลัง
          "เฌอเอม!"
          "อ้าวพี่โอฬาร...สวัสดีค่ะ" ฉันยกมือไหว้รุ่นพี่ที่กำลังเดินเข้ามาหาอย่างมีมารยาท ร่างสูงพยักหน้าน้อยๆ ก่อนเอื้อมมือมาขยี้ผมฉันจนมันฟูฟ่อง "ตลอด! วุ่นวายกับผมเอมตลอดเลย!"
          "ฮ่าๆๆ ก็เห็นแล้วมันเขี้ยวนี่นา...แล้วนี่มีเรียนกี่โมง" พี่โอฬารยกมือออกจากกลุ่มผมของฉันแล้วเปลี่ยนมาแตะไหล่เบาๆ ให้เริ่มออกเดิน
          "เก้าโมงค่ะ แล้วพี่โอฬารมีเรียนกี่โมง" ฉันถามกลับขณะกำลังเดินตีคู่เข้ามาภายในตึกเรียนพร้อมกับคนตัวสูง โดยมีสายตาจากนิสิตหญิงหลายสิบคู่จ้องมองมาอย่างไม่เป็นมิตร
          ยัยพวกนั้นต้องก่นด่าฉันอยู่ในใจแน่ๆ เลย...ฉันสัมผัสได้~
          "เก้าโมงเหมือนกัน พี่เรียนห้องข้างๆ เอมด้วย"
          "จริงเหรอ! ทำไมเอมไม่เคยสังเกตเลยล่ะ"
          แอบตกใจเหมือนกันที่ได้ยินพี่โอฬารบอกว่าคลาสเรียนของเขากับฉันอยู่ห้องข้างๆ กัน เพราะปกติแล้วเวลามาเรียนฉันไม่ค่อยสนใจหรืออยากรู้อยากเห็นหรอกว่าปีไหนและเอกวิชาอะไรกำลังเรียนอยู่ในห้องนั้น
          ก็มันไม่ใช่เรื่องสำคัญหรือเป็นสิ่งที่ฉันควรจดจำให้ขึ้นใจเลยนี่นา...
          "งั้นทีหลังก็สังเกตกันบ้างนะ" คนตัวโตทำหน้าเหมือนไม่ค่อยพอใจกับคำถามของฉันสักเท่าไหร่ ฉันทำอะไรผิดกันเนี่ย! ก็คนมันไม่ได้สังเกตอ่ะ...แล้วฉันผิดตรงหนายยยยย
          "งั้นต่อไปนี้เอมจะจำให้ขึ้นใจเลยว่าพี่โอฬารเรียนอยู่ห้องข้างๆ โอเคไหม?" พอฉันพูดแบบนั้นร่างสูงก็พยักหน้าช้าๆ แสดงออกว่าพึงพอใจ ฉันจึงสบโอกาสรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที "เลี้ยงขนมเอมหน่อยสิ...นะๆๆๆ พี่เทคสุดหล่อ"
          คนถูกเรียกว่า 'พี่เทค' เลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งขณะมองใบหน้าฉันอย่างชั่งใจว่าจะตอบตกลงหรือปฏิเสธดี แต่สุดท้ายเขาก็พยักหน้าอีกครั้งเมื่อเห็นฉันทำหน้าออดอ้อนสุดฤทธิ์ อยากกินของฟรีก็ต้องหน้าด้านแบบนี้แหละ
          แล้วก็อย่างที่อ่านกันไปเมื่อครู่นี้...พี่โอฬารคือพี่เทคของฉันเอง เมื่อเกือบสามเดือนก่อนมีกิจกรรมจับสายเทคก่อนไปเข้าค่ายต่างจังหวัด ตอนนั้นลาวาได้คู่กับพี่เคย์ โปสเตอร์คู่กับพี่แนนนี่ ส่วนฉันก็คู่กับพี่โอฬาร...หนุ่มหน้าตี๋ดีกรีทายาทโรงเรียนนานาชาติชื่อดัง สาวน้อยสาวใหญ่พากันหลงใหลได้ปลื้มเขาไม่ต่างจากโปสเตอร์ แม็กม่า และพายุเลย
          แต่ทุกคนก็รู้ใช่ไหมว่าสามคนนั้นนิสัยเป็นยังไง (ถ้าได้อ่านเรื่อง ME & BAD BOY คงรู้กิตติศัพท์ดี) เพราะฉะนั้นหากฉันต้องเลือกใครสักคนระหว่างผู้ชายพวกนี้...ฉันขอเลือกพี่โอฬารอย่างไม่มีการลังเลใจใดๆ ทั้งสิ้น
          "เห็นพี่เป็นคลังเงินหรือไง เจอหน้าทีไรร้องให้เลี้ยงขนมตลอด" แม้ปากจะบ่นแต่ฉันก็เห็นว่าเขาหยิบแบงค์สีแดงจากกระเป๋าเงินส่งมาให้ฉันอย่างว่าง่าย
          มันต้องอย่างนี้สิพี่เทคสุดหล่อของฉัน!
          คว้าเงินมาไว้ในมือได้ปุ๊บฉันก็รีบวิ่งไปหยิบขนมในร้านค้าหลังคณะมาเต็มไม้เต็มมือจนเกือบจะทำมันตกพื้น โชคดีที่พี่โอฬารซึ่งเดินตามหลังมาติดๆ ช่วยแบ่งไปถือบ้างแต่ก็ไม่วายเปิดปากบ่นฉันอีกครั้ง
          "ซื้ออะไรเยอะแยะ จะกินหมดไหมเนี่ย"
          "ก็เอมเลือกไม่ได้นี่นาเลยหยิบมันมาทุกอย่างเลย"
          "กินของพวกนี้มากๆ เดี๋ยวก็อ้วนหรอก"
          "อ้วนแล้วไม่น่ารักเหรอ เอมเห็นคนอ้วนน่ารักๆ เยอะแยะไปนะ" ฉันยิ้มร่าเมื่อนึกภาพตัวเองตอนเป็นสาวเจ้าเนื้อ แก้มป่องๆ กับรูปร่างอวบๆ ก็ดูน่ารักไม่เบา และถ้าฉันจะลองขุนตัวเองให้มีเนื้อมีหนังมากกว่านี้ก็เป็นความคิดที่ดี
          แต่ปัญหาก็คือไม่ว่าฉันจะกินเยอะแค่ไหน น้ำหนักก็ไม่เคยขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้เลยน่ะสิ!
          "อ้วนก็น่ารัก แต่พี่ว่าเฌอเอมในแบบนี้ก็น่ารักอยู่แล้ว"
          "จริงอ่ะ! พี่โอฬารชอบแบบนี้เหรอ" ฉันแกล้งพูดหยอกล้อตามประสาพี่น้องคุยกัน แต่พอได้ยินคำพูดจากอีกฝ่ายพลันความรู้สึกแปลกๆ ก็เกิดขึ้น ทำเอาฉันเงียบปากไปเลยเพราะไม่รู้จะพูดอะไรกลับไปดี...
          "อื้ม พี่ชอบเอมแบบนี้แหละ"
          "เอ่อ..."
          "ไปจ่ายเงินค่าขนมเถอะ" อาจเพราะพี่โอฬารสังเกตเห็นว่าฉันเงียบไปหลังจากได้ยินเขาพูดแบบนั้นก็เลยกลัวว่าฉันจะอึดอัดใจจึงเป็นฝ่ายพูดขึ้นอีกครั้ง
          จริงๆ ฉันก็ไม่ได้อึดอัดใจอะไรหรอกนะ แค่รู้สึกว่าคำพูดและสายตาของพี่โอฬารดูแปลกๆ ไปก็เท่านั้น แต่ฉันอาจจะคิดไปเองก็ได้ เขาคงไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับฉันมากไปกว่าน้องเทคคนหนึ่งหรอก
          คงไม่ใช่และก็ขอให้ไม่ใช่...
 
 
          หลังจากจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วฉันกับพี่โอฬารก็หอบหิ้วขนมคบเขี้ยวหลายสิบถุงมายังโต๊ะม้าหินอ่อนด้านหลังคณะ โดยยังคงถูกเหล่านิสิตหญิงส่งสายตาจิกกัดมาให้จนร่างจะพรุนประหนึ่งโดนปืนกลรัวใส่ไม่ยั้ง และถึงฉันจะเริ่มคุ้นชินกับสายตาของพวกหล่อน แต่ยังไงซะฉันก็ไม่ชอบใจเวลามีคนมาจ้องมองแบบตาไม่กะพริบอยู่ดี...
          ความรู้สึกเหมือนเป็นดารานักร้องที่ถูกจับตามองจากพวกแฟนคลับอยู่ตลอดเวลายังไงยังงั้นเลย (ใช่เหรอ?)   
"แหมเฌอเอม! ถึงว่าโทรไปทำไมไม่รับ ที่แท้ก็มานั่งกินขนมอยู่กับพี่เทคนี่เอง" นั่งกินไปได้สักพักน้ำเสียงชวนหาเรื่องของผู้หญิงก็ดังขึ้นด้านหลัง ฉันจึงหันไปมองก็พบว่ายัยลาวากำลังเดินตรงเข้ามาหาก่อนหยุดยืนเท้าสะเอวอยู่ข้างๆ
          "อ้าว! แกโทรมาเหรอลาวา ทำไมฉันไม่ได้ยินเลย" ฉันรีบหันไปหยิบโทรศัพท์จากในกระเป๋าสะพายข้างขึ้นมาเช็คตามคำพูดของลาวาทันที และก็เห็นว่ามีสายโทรเข้าอย่างที่ยัยนี่ว่าจริงๆ
          "ก็มัวแต่ดี๊ด๊าอยู่กับผู้ชายไงเลยไม่ได้ยิน" พูดจบก็เบะปากเหมือนพวกนางร้ายในละครหลังข่าวใส่ฉันอีก
          ยัยนี่จะเป็นเพื่อนหรือศัตรูคู่อาฆาตของฉันกันแน่เนี่ย!
          "พูดบ้าอะไรของแก! ฉันไม่ได้ดี๊ด๊าสักหน่อย" พูดไปก็เหลือบสายตามองพี่โอฬารไปด้วย แล้วฉันก็เห็นว่าเขากำลังอมยิ้มน้อยๆ อยู่ด้วยล่ะ อะไรเนี่ย! อย่าบอกนะว่าเขาชอบอกชอบใจคำพูดของยัยลาวาน่ะ
          "กล้าพูดนะ ไม่ได้ดี๊ด๊าแล้วก่อนหน้านี้มันคืออะไร" ปากก็พูดจาจับผิดฉันไปสิ แต่มือนี่ยื่นมาคว้าถุงขนมในมือฉันไปกินหน้าตาเฉย ซ้ำยังนั่งลงบนม้านั่งข้างๆ ฉันด้วย เนียนเลยนะจ๊ะลาวา ฮึ!
          "ฉันก็แค่ดีใจที่ได้กินขนมฟรีเท่านั้นเอง" เพราะไม่อยากยื้อแย่งขนมกับลาวา ฉันก็เลยหยิบห่อใหม่ขึ้นมาแกะแทน ขณะเดียวกันพี่โอฬารก็เอาแต่นั่งฟังฉันกับลาวาถกเถียงกันอย่างเงียบๆ
          นี่เขาไม่คิดจะพูดอะไรสักคำเลยเหรอ...หรือเพราะกลัวจะเป็นการเสียมารยาทก็เลยขอนั่งเงียบๆ ดีกว่า?
          "ไม่ใช่เพราะได้นั่งกินกับผู้ชายเหรอ"
          "ไม่ใช่เว้ย! แกนี่ชอบพูดจาเลอะเทอะนะ" ฉันรีบพูดสวนขึ้นทันทีเพราะกลัวว่าพี่โอฬารจะเข้าใจผิดคิดว่าฉันอาจรู้สึกอะไรบางอย่างกับเขาหลังจากคำพูดของลาวาชวนให้คิดไปในทางนั้น ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าถุงขนมในมือของเพื่อนสนิทกลับมาไว้ในมือตัวเอง "เอามานี่! ไม่ให้กินแล้ว"
          "ขี้งกว่ะ ฉันไปบอกให้แม็กม่าซื้อให้กินก็ได้"
          "ก็ไปบอกสิ แต่ก่อนที่หมอนั่นจะซื้อขนมให้แกกิน ฉันว่า..."
          "ว่าอะไร พูดมาให้เคลียร์!" ฉันยิ้มกริ่มเมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวเริ่มจะหัวเสีย แต่เชื่อเถอะว่าถ้าหากได้ยินคำพูดต่อจากนี้ของฉัน ยัยลาวาจะแสดงปฏิกิริยาจากหน้ามือเป็นหลังมือเชียวล่ะ
          คิดได้ดังนั้นฉันจึงยื่นหน้าเข้าไปกระซิบข้างหูของลาวาเพื่อไม่ให้พี่โอฬารได้ยิน...
          "ฉันว่าแกคงถูกหมอนั่นจับกินก่อนน่ะสิ ฮ่าๆๆ" พูดจบฉันก็หัวเราะร่า ในขณะที่อีกฝ่ายเริ่มหน้าแดงขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะโวยวายใส่ฉันแก้เขิน
          "ไอ้เอม! ไอ้เพื่อนบ้า พูดอะไรเนี่ย!"
          "แกกำลังคิดภาพตอนตัวเองถูกแม็กม่าจับ 'กิน' อยู่ใช่ไหมลาวา"
          "ปละ...เปล่านะ! ไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย"
          "โกหก! หน้าแดงขนาดนี้แสดงว่าคิดชัวร์ๆ"
          ฉันยังคงพูดล้อลาวาอย่างสนุกปาก จนคนถูกล้อต้องลุกพรวดขึ้นจากม้านั่งแล้วยื่นมือมาหยิกไหล่ฉันอย่างนึกหมั่นไส้ที่ถูกแกล้งจนหน้าแดงไปถึงใบหู
          "เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าต้องไปถ่ายเอกสาร งั้นเดี๋ยวเจอกันในคลาสเรียนเลยนะ" ทำทีเป็นหยิบชีทออกมาจากในกระเป๋าสะพายข้างแล้วชูขึ้นให้ฉันดู แต่มีหรือที่คนอย่างเฌอเอมจะรู้ไม่ทัน...
          ท่าทางแบบนี้ คำพูดแบบนี้ก็เป็นเพราะยัยปากหมานี่กำลังเขินอยู่ต่างหากเล่า!
          "จะหนีล่ะสิ...เขินใช่ไหมพูดมา!" ฉันยังคงพูดแซวไม่หยุดจนลาวาต้องตะโกนใส่หน้าฉันด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ
          "ไม่ได้เขิน ไม่ได้หนี แต่จะรีบไปถ่ายเอกสารโว้ยยยยย!"
          "เขินก็บอกดิ"
          "ก็บอกว่าไม่ได้เขินไงเล่า!"
          พูดจบก็วิ่งหนีไปทางร้านถ่ายเอกสารของคณะแต่ก็ไม่วายหันมาทำท่าเตะขาใส่ฉันด้วย ดีนะที่ไม่ได้ยกขาขึ้นสูง...ไม่อย่างนั้นฉันคงได้เห็น 'ของดี' ที่แม็กม่าหลงนักหลงหนาของยัยลาวาแน่ๆ (ฉันเปล่าคิดลามกนะ)
          พอลาวาหายลับไปจากสายตาแล้วฉันก็หันกลับมามองผู้ชายที่นั่งตรงข้ามกันอีกครั้ง และก็ถึงกับสะอึกไปเลยเมื่อเห็นว่านัยน์ตาสีรัตติกาลมีเสน่ห์กำลังจ้องมองมาจนทำให้ฉันเริ่มรู้สึกอึดอัดและทำอะไรไม่ถูก
          ก็ร้อยวันพันปีพี่โอฬารไม่เคยจ้องมองฉันด้วยสายตา 'มีความหมาย' แบบนี้มาก่อนเลยนี่นา
          "มะ...มองอะไรคะ"
          "มองคนขี้แกล้ง...ไม่ยักรู้ว่าจะแสบขนาดนี้"
          "ก็แค่แกล้งกันตามประสาเพื่อนเท่านั้นเองค่ะ กับคนอื่นเอมไม่ทำหรอก"
          "แล้วพี่จะโดนเอมแกล้งด้วยไหมเนี่ย" ถามแล้วยกยิ้มมุมปากอย่างกวนๆ จนฉันนึกอยากพูดกวนใส่เขาบ้างก็เลยแกล้งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้พร้อมกับยักไหล่ขึ้นลงเบาๆ
          "ก็ไม่รู้สินะ อาจจะโดนแกล้งก็ได้ ระวังตัวเอาไว้แล้วกัน!"
          "ถ้าโดนแกล้งแบบลาวาขึ้นมาจะทำไงเนี่ย" พี่โอฬารทำท่าคิดหนักเหมือนกลัวว่าจะโดนฉันแกล้งเอาจริงๆ แต่ฉันรู้ว่าเขาไม่ได้กลัวอะไรหรอก แค่หาเรื่องกวนประสาทฉันเท่านั้นเอง
          "พี่โอฬารโดนแน่ๆ เอาแบบให้อับอายไปทั้งคณะเลยดีป่ะ ฮ่าๆๆ"
          "แต่ถ้าโดนแกล้งก็แสดงว่าพี่ไม่ใช่ 'คนอื่น' สำหรับเอม"
          "..."
          ตอนแรกฉันยังรู้สึกสนุกที่ได้แกล้งพี่เทคตัวเองอยู่เลย แต่พอได้ยินประโยคเมื่อกี้ของเขาจู่ๆ รอยยิ้มก็ค่อยๆ จางไปและกลับรู้สึกร้อนผ่าวบริเวณใบหน้าแทน มิหนำซ้ำความรู้สึกแปลกๆ ยังแล่นวาบเข้ามาทำเอาหัวใจฉันเต้นไม่เป็นจังหวะไปครู่หนึ่ง
          นี่ฉันเกิดเป็นบ้าอะไรขึ้นมากันเนี่ย!
          "ก็เพราะพี่เป็นพี่เทคของเอมเลยมีแนวโน้มจะโดนแกล้งสูง...ใช่ไหม"
          "เอ่อ...คงงั้นมั้งคะ"
          คงกลัวว่าฉันจะรู้สึกอึดอัดกับคำพูดของเขาเพราะฉันเงียบไปหลายอึดใจก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา พี่โอฬารก็เลยพูดเองเออเองทำเอาฉันต้องเงียบไปอีกครั้ง จริงๆ แล้วฉันไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไรหรอกนะ แค่รู้สึกไม่ค่อยชินกับคำพูดแบบมี 'นัยแฝง' ของเขาก็เท่านั้น
          แม้ว่าความจริงแล้วอาจจะไม่มีอะไรเลยในคำพูดของเขา แต่ฉันก็อดคิดไม่ได้ว่ามันอาจจะ 'มี'
          ฉันกับพี่โอฬารต่างคนต่างนั่งกินขนมโดยไม่พูดไม่จาอะไรกันเลยนานหลายนาที กระทั่งน้ำเสียงทุ้มต่ำของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นด้านหลัง และฉันก็คงจะไม่สนใจถึงขนาดหันกลับไปมองเลยถ้าเกิดว่าคนๆ นั้นไม่ได้เรียกชื่อฉันออกมา
          "เฮ้ยเฌอเอม!"
          แค่เพียงการเรียกแบบไม่ให้เกียรติกันด้วยการขึ้นต้นด้วยคำว่า 'เฮ้ย' ก็พอจะเดาได้อย่างแม่นยำแล้วว่าเจ้าของน้ำเสียงเมื่อครู่นี้คือใคร
 
 
TO BE CONTINUED...
 
 

ภาพประกอบจาก : www.tumblr.com , www.siamzone.com ฯลฯ 
 
The-Daziie's Talk
[24/02/2016] อุ๊ยยย พี่โอฬาร...พี่เทคของเฌอเอมออกตัวแรงเหมือนกันนะคะ มาแบบนี้ศัตรูหัวใจของอีโปสชัวร์ๆและดูเหมือนนางเอกของเราก็จะใจเต้นเบาๆ กับผู้ชายคนนี้ด้วย เปลี่ยนใจเชียร์พี่โอฬารแทoโปสเตอร์ดีกว่าเนอะ ฮิฮิ
[27/02/2016] อีก 50% ครึ่งหลังนี้มี 'ลาวา' สุดที่รักของแม็กม่าจาก ME & BAD BOY มารวมแจมด้วย ยังขี้โวยวายเหมือนเดิมเลยนะยัยปากหมา ตอนแรกก็จะแซวให้เฌอเอมอาย แต่โดนตอกกลับจนอายม้วนแทน แต่พอลาวาวิ่งหนีไปแล้ว คนที่โดนพี่โอฬารจู่โจมกลับกลายเป็นเฌอเอมแทนจ้า หยอดวันละนิดจิตแจ่มใสใช่ไหมคะ 55555
 
 
นักอ่านคนไหนสนใจสั่งซื้อนิยาย สอบถามได้ที่แฟนเพจ The-Daziie นะคะ โดยการเสิร์ชหาชื่อนี้ใน Facebook ได้เลย (จริงๆ ทำลิ้งค์ไว้แต่มันกดไม่ได้ ยังไงใครสนใจเสิร์ชหาชื่อแล้วกันเนอะ)
 
ตัวอย่างหน้าปกนิยายค่ะ
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา