The Witches : Red Witch

9.0

เขียนโดย Kyoso12

วันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 11.55 น.

  11 ตอน
  19 วิจารณ์
  12.30K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 11.32 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) การเปลี่ยนแปลงของหัวใจ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
                ในเช้าวันรุ่งขึ้นเราออกเดินทางกันต่อโดยในวันนี้เราจำเป็นจะต้องข้ามแม่น้ำที่เป็นที่อยู่อาศัยของเหล่านางเงือกทำเอาทหารแต่ละคนตื่นเต้นกันยกใหญ่พวกเค้าจะหารู้มั้ยว่านางเงือกไม่ได้มีแค่นางเงือกแสนดีแบบที่เรารู้จักกันหรอกนะ เพราะถ้าเป็นนางเงือกที่อยู่ทางทะเลใหญ่เพื่อจะข้ามไปยังถ้ำบาซิลิสนั้นเป็นนางเงือกดุร้าย
 
“ว่าแต่ลูอิสทำไมเราต้องไปทางแม่น้ำที่นางเงือกอาศัยอยู่ด้วย”
“เพราะว่ามันเป็นเส้นทางเดียวที่ทำให้เราไปยังถ้ำบาซิลิสได้เร็วที่สุด”
“ก็จริงนะ แต่ว่าพวกทหารพวกนี้อาจจะตายใจเพราะนางเงือกที่นี่ก็เป็นได้”
“นั่นสินะ แต่เอาเป็นว่าพอเราไปถึงยังแม่น้ำก็พักสักครู่หนึ่งให้เราได้วางแผนกันอีกครั้งก่อนที่พวกเราจะออกเดินทางกัน ข้าว่าท่านเมลิซ่าไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก” ลูอิสตบไหล่ของเพื่อเป็นเชิงให้กำลังใจ
“ว่าแต่พวกเอลฟ์ละ”
“ไม่ต้องห่วงข้าส่งจดหมายไปขอความร่วมมือเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวพวกเค้าจะตามมาสมทบทีหลัง”
“ขอบใจมากลูอิส”
“ไม่เป็นหรอก สำหรับท่านเมลิซ่าข้ายินดีช่วยท่านเสมอ ว่าแต่ท่านอาเธอร์ละ แลเค้าจะสนใจท่านมากเลยนะ”
“เค้าก็แค่เด็กที่ยังอยู่ในความฝันก็เท่านั้นแหละลูอิส”
“ระวังท่านเองจะโดนเด็กกินเอานะ”
“อย่าพูดแบบนั้นสิลูอิส”
“ช่างเหอะ ท่านเมลิซ่าเอาเป็นว่าเราพักกันสักครู่ที่นี่ดีกว่า” ลูอิสชี้ไปยังแม่น้ำซึ่งตอนนี้เหล่านางเงือกก็กำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน ทันใดนั้นเองก็มีนางเงือกคนหนึ่งหันมาทางเราและตะโกนขึ้น
“ท่านเมลิซ่า!!! ท่านลูอิส!!” นางเงือกนางนี้ เธอชื่อคาร่าเธอเป็นนางเงือกสาวที่มีนิสัยขี้เล่นน่ารัก เป็นน้องเล็กสุดในบรรดาพี่น้องสามคนของเธอ คาเรน แครร์รี่ คาร่า
“พวกนายดูสิ!! นางเงือกละ!!” พวกทหารต่างพากันดีใจกันยกใหญ่พร้อมกับวางสัมภาระและวิ่งกรูกันเข้าไปเพื่อไปพูดคุยกับเหล่านางเงือก ส่วนเมอร์ลินก็เหมือนจะรู้สึกเอือมระอาพอๆเซอร์เบดิเวียร์ที่ต่างพากันกุมหัวกับอาการของเหล่าทหารที่พามาด้วย ส่วนลูอิสก็เดินเข้าไปทักทายกับเหล่านางเงือกเช่นกัน
   ส่วนฉันก็ขอแยกตัวไปหามุมเงียบๆสงบๆคนเดียวเพราะว่าถ้าพักแถวๆนี้คงได้หนวกหูตายแน่ ฉันเดินแยกออกมาเข้าไปทางต้นไม้เพื่อจะหาเงาของต้นไม้ จะได้นั่งพักได้อย่างสบายใจ เมื่อได้ที่แล้วฉันจึงค่อยๆนั่งลงและพยายามหลับตาลงเพื่อทำใจให้สงบ
 
“แอบหนีมานั่งคนเดียวแบบนี้ ไม่กลัวโดนฉุดรึไง” จู่ๆอาเธอร์ก็มาอยู่ตรงหน้าฉันพูดขึ้นให้ตายสิจะหนีจากเค้าไม่ได้เลยรึไง
“ฉันอยากจะนั่งพักคนเดียวไม่ได้รึไง”
“ไม่ได้ ตราบใดที่ไม่มีผมอยู่ด้วย” อาเธอร์ยิ้มระรื่นพร้อมกับนั่งลงข้างหน้าฉัน
“เฮ้อ จะเอาอะไรจากฉันอีก”
“ก็เล่นเกมของคุณไง” ไม่รอช้าอาเธอร์ก็รีบใช้มือทั้งสองข้างกุมข้อมือของฉันไว้
“เดี๋ยวสิ!!”
“ทำไมละไม่ชอบแบบนี้หรอหรือว่าชอบแบบนี้ละ” อาเธอร์ขึ้นมาค่อมบนขาของฉันและจัดการไซร้ไปที่ต้นคออย่างดุเดือด
“อาเธอร์ ฉันบอกว่าไม่ไง!!!”
“ทำไมละ เห็นเมื่อคืนคุณก็ดูชอบนี่”
“ฉันไม่ได้ชอบ!!”
“ถ้างั้นผมก็คงต้องรุกต่อสินะ ผมจะทำแบบนี้จนกว่าคุณจะชอบ”
“ให้ตายยังไงฉันก็ไม่ชอบหรอกนะอาเธอร์ อีกอย่างฉันไม่ได้ต้องการคนที่คอยบังคับฉันให้ทำนู่นทำนี่หรอกนะ ฉันต้องการคนที่เข้าใจว่าฉันต้องการอะไร ถ้าขืนทำแบบนี้ฉันจะยิ่งเกลียดเธอรู้มั้ย”
“ขอโทษ” อาเธอร์ค่อยปล่อยข้อมือของฉันและถอยห่างออกมานั่งข้างๆฉัน
“...” ฉันเบือนหน้าหนีไปอีกทาง ส่วนอาเธอร์เองก็ดูเหมือนว่าเค้าจะไม่ละความพยายาม เค้าเอนตัวลงเพื่อนอนบนตักของฉัน
“นอนแบบนี้สบายดีเหมือนกันนะ”
“งั้นหรอ..”
“โอ๊ย!!!” ฉันแกล้งลุกขึ้นทำให้หัวของอาเธอร์กระแทกกับพื้น  ฉันจึงเดินหนีออกไปจากบริเวณนั้น ปล่อยให้อาเธอร์ร้องโอยครวญด้วยความเจ็บอยู่ตรงนั้น ช่วยไม่ได้เค้าเป็นคนเริ่มก่อนเอง และเมื่อฉันออกมาถึงจุดพักของพวกลูอิส ก็ต้องตกตะลึงเพราะทุกคนกำลังวุ่นวายกับการปรากฎตัวของยักษ์ไซครอป ส่วนพวกนางเงือกก็พากันหนีลงน้ำไป พวกทหารเองก็เตรียมพร้อมตั้งท่าจะสู้แต่ดูเหมือนยักษ์ไซครอปจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่จะจัดการด้วยง่ายอีกอย่าง ทหารพวกนี้ไม่เคยเจอยักษ์ไซครอปมาก่อน!!
“ทุกคนอย่าเข้าไปใกล้มัน!!!” ลูอิสตะโกนขึ้น ทำให้อาเธอร์ที่วิ่งตามออกมา ชักดาบเอ็กซ์คาลิเบอร์ของเค้าออกมาและยืนด้านหน้าของฉันเอาไว้ ราวกับว่าพยายามจะปกป้องฉันให้ได้ แต่ขอโทษด้วยนะพอดีว่าพลังเวทย์มนต์ของฉันมันมีมากพอที่จะปราบไซครอปได้อย่างสบาย ฉันจึงแตะไปที่ไหล่ของอาเธอร์และก้าวออกไปข้างเตรียมที่จะร่ายเวทย์มนต์
“ท่านเมลิซ่า ท่านอาเธอร์ระวัง!!!!” เมอร์ลินตะโกนขึ้น จากนั้นฉันก็รู้สึกได้ถึงแรงกระชากฉันให้ลอยเหนือพื้น ใช่ ทั้งฉันและอาเธอร์พวกโดนตัวอะไรบางฉุดขึ้น และเราบินออกไปจากที่ตรงนั้น
“กริฟฟอนงั้นรึ” ลูอิสกล่าว
“ไม่ต้องห่วงลูอิส!! ฉันจะหาทางกลับมาพบกับพวกเจ้าให้ได้!!!” ฉันตะโกนบอกลูอิสในขณะที่อาเธอร์พยายามใช้ดาบแกว่งไปแกว่งมาเพื่อจะจัดการกริฟฟอนให้แต่ก็ไม่เป็นผล
“อย่าทำแบบนั้นเลยอาเธอร์ เปล่าประโยชน์!!!”
“แล้วจะทำยังไงกันเล่า!!! ตอนนี้พวกเราถูกแยกจากพวกนั้นมาไกลมากแล้วนะ!!!”
“แต่นี่มันสูงเกินไป ถ้าเราล่วงลงไปเราก็ต้องตายทั้งคู่!!!!”
“แล้วจะทำยังไงละ!!!”
“ให้ฉันคิดก่อนได้มั้ย!!!” ฉันตะโกนบอกไปเพื่อให้อาเธอร์หยุดถามสักที ฉันต้องใช้สมาธิอย่างมากเลยข้อแรกกริฟฟอนเป็นสัตว์ที่เป็นมิตรไม่เคยทำร้ายใคร และสองกริฟฟอนตัวนี้น่าจะถูกควบคุมอยู่  ฉันจึงพยายามมองไปที่คอหรือลูกตาของกริฟฟอนตัวนี้ กริฟฟอนตัวนี้สีดำ
และนั่นไง!! ใช่!! ที่คอของกริฟฟอนมีสร้อยคออยู่และสร้อยเส้นนี้เป็นคริสตัลวิเศษที่สามารถใส่เวทย์มนต์เข้าไปได้ฉันขอเดาว่าลูเซียสต้องใช้คริสตัลควบคุมซึ่งถ้าฉันได้สร้อยนี่มาฉันอาจจะใช้ประโยชน์จากมันได้ ฉันจึงพยายามเอื้อมมือไปที่คอของกริฟฟอนตัวนี้แต่ก็ไม่ถึง
เมื่ออาเธอร์เห็นว่าฉันพยายามเอื้อมมือไปที่คอของกริฟฟอนเค้าจึงใช้ดาบของเค้าตัดสร้อยคอของกริฟฟอนออก!!! ทำให้กริฟฟอนตัวนี้ได้สติกลับคืนมาและดูเหมือนว่ามันจะตกใจมากทำให้เผลอปล่อยพวกเราให้ล่วงลงมา อาเธอร์จึงพยายามคว้าตัวฉันเข้ามากอดไว้
“ถ้าเราถึงพื้นเธอจะต้องรอดเมลิซ่า!!!”
“ไม่!!! เราจะต้องรอดทั้งคู่!!!” ฉันร่ายเวทย์มนต์ไปที่คริสตัลเพื่อสร้างโล่ป้องกันให้พวกเรา และดูเหมือนว่าโชคจะเข้าข้างเราคริสตัลสร้างโล่ป้องกันออกมาห่อหุ่มพวกเราสองคนเอาไว้ แต่ก็ไม่นานเพราะแรงเสียดทานที่มีมากเกินไป ทำให้คริสตัลแตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ ร่างของเราทั้งคู่กระแทกลงกับพื้นข้างล่าง ตัวฉันเองไม่เป็นอะไรมากส่วนอาเธอร์อาการแย่มากเพราะเค้าใช้ตัวเองรองรับฉันเอาไว้ ฉันตั้งสติและรีบเข้าไปดูอาการของเค้า
 
“อาเธอร์!!! ให้ตายสิทำไมต้องทำแบบนี้!!!” ฉันเข้าไปพยุงตัวเข้าเพื่อให้เค้าได้นั่งอิงกับต้นไม้
“ก็เพราะผมอยากให้คุณปลอดภัยไง”
“ใช่เรื่องมั้ยแบบนี้!! ฉันจะตายยังไงก็ได้!! แต่เธอเป็นกษัตริย์นะอาเธอร์ถ้าเธอตายขึ้นมาใครจะดูแลอาณาจักรของเธอละ อาเธอร์!!!”
“ไม่ว่าอะไรก็ไม่สำคัญเท่าคุณหรอกเมลิซ่า” เมื่ออาเธอร์พูดจบฉันจึงพยายามก้มหน้าเพื่อหลบตาของเค้าและใช้เวทย์มนต์ของฉันในการรักษาเค้า
“เมลิซ่า...”
“...”
“พูดกับผมหน่อย เมลิซ่า”
“ฉันไม่มีอะไรจะพูดและอีกอย่างช่วยเงียบระหว่างที่ฉันกำลังรักษาด้วย” ตอนนี้ฉันพยายามจะไม่พูดอะไรโต้ตอบอาเธอร์ เพราะฉันรู้ตัวเองดีว่าถ้าโต้ตอบออกไปเค้าจะอาจจะรู้ว่าในใจของฉันตอนนี้รู้สึกเป็นห่วงเค้าเหลือเกิน ฉันห่วงเค้าเพราะว่าต่อให้เกิดอะไรขึ้นฉันจะต้องให้เค้ารอดกลับไปเพราะไปช่วยเหลือน้องสาวของเค้า ปกครองอาณาจักรต่อไป และกลับไปอยู่กับหญิงที่คู่ควรกับเค้าอย่างเจเนวีฟ
“ผมรู้นะว่าตัวคุณเอง ก็เริ่มชอบผมแล้ว ผมอยากให้คุณเปิดใจยอมรับผมและปล่อยความรู้สึกของคุณออกมาเมลิซ่า แค่ตอนอยู่ที่นี่ก็ได้เมลิซ่า”
“ฉันไม่...” ยังไม่ทันจะได้พูดจบอาเธอร์ก็ใช้มือทั้งสองข้างกดหัวของฉันลงมาเพื่อจุมพิศอย่างอ่อนโยน ฉันรู้สึกได้ถึงลมหายใจอันร้อนแรงของเค้าและเสียงของหัวใจที่เต้นรัว มันจูบที่ทำให้ฉันอ่อนไหวได้โดยง่าย และหัวใจของฉันตอนนี้ก็เริ่มเต้นแรงเช่นกัน อาเธอร์ใช้มือทั้งสองข้างเลื่อนลงมาเพื่อกอดรัดฉันให้เข้าใกล้เค้ามากขึ้น และกอดรัดฉันเอาไว้ราวกับว่าฉันจะหายไปจากเค้า
   จากจูบที่อ่อนโยนเริ่มเปลี่ยนกลายเป้นจูบที่ร้อนแรงมากขึ้น มันทำให้สติของฉันเริ่มเลื่อนลอยไม่อาจจะต้านทานความรู้สึกนี้ได้ ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าเค้าจะเป็นคนที่ทำให้ฉันได้ลิ้มรสความรู้สึกอันหอมหวานนี้ได้ ความรักในแบบที่ฉันไม่เคยสัมผัส ไม่เคยคิดที่จะรับรู้เพราะฉันต่อต้านมันมาตลอดฉันรู้ว่ามันอาจจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆที่เราจะอยู่ด้วยกัน และฉันคิดว่าเพียงเท่านี้สำหรับแม่มดอย่างฉันก็เพียงพอแล้ว ฉันใช้มือทั้งสองข้างผละหน้าอกของเค้าออกเพื่อบอกให้คนที่ตรงหน้าพอได้แล้ว
“ขอต่ออีกนิดนึงได้มั้ย” อาเธอร์จ้องหน้าฉันด้วยสายตายั่วยวน
“ไม่ละ ฉันพอใจแล้วและก็อีกอย่างหนึ่งฉันต้องรักษาเธอให้หายก่อนนะ”
“ได้สิ” อาเธอร์นั่งมองฉันไปยิ้มไป และไม่พูดอะไรจนฉันรักษาเค้าจนเสร็จ ฉันยอมรับว่าตอนนี้ฉันเริ่มหลงรักเค้าแล้ว ไม่ใช่เพราะรูปร่างหรือหน้าตาแต่เป็นสิ่งที่เค้าทำให้กับฉันไม่ว่าจะเป็นการช่วยชีวิตฉันบนเรือหรือแม้กระทั่งพยายามปกป้องฉันจากกริฟฟอน และความอ่อนแอที่เค้าแสดงให้ฉันได้เห็น
“ว่าแต่เมลิซ่า”
“ว่า”
“คุณรักผมมั้ย”
“ไม่”
“ไม่สักนิดเลยหรอ”
“ไม่”
“ปากแข็ง”
“หึ” ฉันเบือนหน้าหนีไปอีกทาง แต่ดูเหมือนว่าอาเธอร์จะไม่ยอมอาเธอร์จับกดฉันให้นอนราบกับพื้นหญ้าและใช้มือทั้งสองข้างกดข้อมือของฉันเอาไว้
“ถ้าเป็นแบบนี้คุณจะยังกล้าปฎิเสธผมอยู่รึเปล่า” เมื่ออาเธอร์พูดจบ อาเธอร์จึงเริ่มไซร้ที่ต้นคอของฉัน
“อาเธอร์หยุด!!!” ฉันสั่งคนที่อยู่ตรงหน้าแต่ดูเหมือนว่าเค้าจะไม่ยอมหยุดเอาง่ายๆ เค้าเริ่มไซร้คออย่างรุนแรงจนฉันรู้สึกเจ็บที่ต้นคอไปหมด และยังไม่พอเค้ารวบมือทั้งสองข้างของฉันมารวมกันไว้และใช้มืออีกข้างหนึ่งลูบไล้ไปที่ต้นขาของฉัน
“อาเธอร์หยุด!!! ฉันบอกว่าให้ยุดไง!!!” ฉันถีบไปกลางอกของอาเธอร์จึงทำให้เค้ากระเด็นออกไปจากตัวฉัน
“มันเจ็บนะ!!!”
“แล้วเธอคิดว่าฉันจะไม่เจ็บบ้างรึไง!!”
“ขอโทษ.....ผมเผลอตัวไปหน่อย”
“ไม่มีครั้งที่สองแล้วอาเธอร์ ถ้าเธอยังทำแบบนี้อีกเธอจะไม่เห็นฉันอีกเลย” ฉันรีบลุกขึ้นและเดินต่อไปทันที ส่วนอาเธอร์ก็รีบลุกตามมาติดๆ
“แล้วคุณจะทำยังไงต่อ” อาเธอร์เดินมาประกบข้างๆฉัน
“ก็ไปตามทางเรื่อยๆกว่าจะได้เจอกับกลุ่มก็คงถึงถ้ำบาซิลิสก่อนนั่นแหละ เพราะระยะทางที่เราจะกลับไปหากลุ่มกับทางที่ไปถ้ำบาซิลิสมันก็พอๆกันเลย”
“อื้ม แล้วเรื่องเมื่อสักครู่ผมขอโทษนะ”
“ไม่ ฉันไม่รับคำขอโทษ”
“ทำไมละเมลิซ่า อันที่จริงคุณเองถ้าบอกว่าชอบผมตั้งแต่แรกก็ไม่โดนแล้ว” ทันที่อาเธอร์พูดจบประโยคฉันก็ตบไปที่หน้าของเค้าอย่างจัง
“โอ๊ยยยยยยยยย!!! เจ็บนะทำบ้าอะไรของคุณเนี่ย!!”
“ช่วยไม่ได้นี่”
“โธ่ เมลิซ่าเลิกปากแข็งเถอะนะ เราอยู่กันแค่สองคนตรงนี้ไม่จำเป็นอายใครหรอกน่า”
“เกมของเราพึ่งเริ่มได้ไม่นานเองอาเธอร์ เพราะฉะนั้นเลิกพูดและเดินตามมาซะ”
“ก็ได้...” อาเธอร์ทำหน้าไม่พอใจและเดินตามฉันมาแต่โดยดี
 
(ณ คฤหาสน์ลูเซียส)
                ในขณะนั้นลูเซียสกำลังครุ่นคิดบางอย่างเกี่ยวเมลิซ่าที่รอดจากแผนการของเขาไป มันทำให้เขาโมโหมาก จนแทบควบคุมสติไม่อยู่แต่ก็ต้องเล่าถึงประวัติของตัวลูเซียสเองเสียก่อน ลูเซียส เกิดในตระกูลของผู้ใช้เวทย์มนต์ดำ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาสามรถใช้เวทย์มนต์ดำได้อย่างชำนาญไม่นับรวมเวทย์มนต์ที่มีมากมายมหาศาลหลังจากที่เขาได้ทำสัญญากับปีศาจ โดยตัวลูเซียสเองนั้นก็มีพี่น้องทั้งหมดหนึ่งคนซึ่งเป็นน้องชายของเขา ชื่อของเขาก็คือ เฮดิส ซึ่งตัวนิสัยของเฮดิสเองก็แตกต่างจากพี่ชายของเขาอย่างสิ้นเชิง
  ลูเซียสมีนิสัยที่โหดร้ายและเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานสูงเขาต้องการสิ่งใดเขาก็ต้องได้ แต่ดูเหมือนว่ามันจะใช้ไม่ได้ผลกับเมลิซ่าซึ่งมันทำให้เขาโมโหเอามากๆ ส่วนเฮดิสเป็นคนฉลาด สุขุม ไม่หัวร้อนเหมือนกับลูเซียส ดังนั้นเฮดิสจึงเปรียบเสมือนคนให้คำปรึกษาแก่ลูเซียส
โครม!!!!!!!!
เสียงข้าวของที่กระจัดกระจายไปทั่วห้องเพราะความโมโหของลูเซียส ส่วนเฮดิสเองก็รู้สึกเอือมระอาในนิสัยของพี่ชายของตน
“พี่ข้า ข้าว่าท่านใจเย็นก่อนจะดีมั้ย”
“จะให้ข้าใจเย็นได้ยังไง!!! ก็นังแม่มดนั่น!!! มันหลุดมือข้าไป!!”
“ข้าว่าท่านประเมินนความฉลาดของนางต่ำไป อีกทั้งพลังของนางเองก็ไม่ใช่ว่าจะจัดการได้ง่ายๆ”
“แล้วจะให้ข้าจัดการอย่างไรเฮดิส!!!”
“ทำไมท่านถึงไม่หลอกล่อให้นางตายใจ แล้วก็ลักพาตัวนางมาที่นี่ละท่านพี่”
“หื่ม ทีแรกข้าก็คิดแบบนั้นแต่ดูเหมือนว่านางยังคงไม่ปักใจรักเจ้ามนุษย์นั่นเท่าไหร่” ลูเซียสเดินไปกระจกวิเษที่ใช้ดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเมลิซ่า
“แต่ว่าท่านพี่เส้นทางที่นางกำลังจะไปนี่มัน.....”
“ใช่แล้วน้องข้า เส้นทางที่นางกำลังไป มันจะนำทางไปที่ป่าแห่งภูติพรายซึ่งที่นั่นมันจะทำให้แผนของเราง่ายขึ้นเข้าไปอีก......”
“อย่าบอกนะว่าท่านจะ....”
“ก็อย่างที่เจ้าคิดนั่นแหละน้องพี่ ป่าแห่งภูติพรายแห่งนี้มันคือปฎิญาณรักของเหล่าหนุ่มสาวที่ต้องการจะครองคู่ไปจนตลอดนิรันดร์แม้ตายความตายก็ไม่อาจจะแยกพวกออกจากกันได้ แต่พวกเค้าอาจจะคิดผิดเพราะข้าสามารถเปลี่ยนชะตากรรมนี้ได้” ลูเซียสเหยียดยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย เพราะเขารู้สึกพึงพอใจกับแผนการของเขามาก ส่วนเฮดิสเองก็ไม่อาจจะห้ามปรามอะไรพี่ชายได้ เพราะถ้าเกิดเขาขัดขืนพี่ชายของเขาตัวเขาเองอาจจะต้องมีอันตรายถึงชีวิต

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา