The red artifact part 1 :เจ้าชายสุธนกับห้าอาณาจักร

7.2

เขียนโดย หน้ากากเหล็ก

วันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 18.25 น.

  5 ตอน
  0 วิจารณ์
  6,234 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 3 มกราคม พ.ศ. 2560 18.54 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ตอนที่ 3 มโนราห์

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
                พรานบุญเหวี่ยงบ่วงนาคโปร่งใสไปเบื้องหลัง รัดสตรีนางนึงได้ทันท่วงที 
               
                ไม่ช้าเธอแสดงอาการอ่อนระทวย  ค่อยๆล้มลงไปกับพื้น เปิดโอกาสให้พรานเห็นโฉมของเธออย่างชัดเจน
 
 
                 สตรีผิวขาวเปล่งปลั่ง ผมสีเทายาวสยายปีกด้ายเรืองแสงจากแผ่นหลัง  สวมใส่เกราะไทยลายวิจิตรศิลป์แวววาวดุจแก้ว
 
 
                ไม่ผิดแน่แม่นางผู้นี้แหละที่ข้าเห็นตอนนั้น แม้นจะราบรื่นเกินไปจนน่าระแวง ทว่าก่อนอื่นต้องเกลี้ยกล่อมให้นางยอมไปพบองค์ชายก่อน
                
             “ มะ แม่นาง.. ”                        
                
               ทว่า....
               
              “   คิก คิก ในบ่วงนั้นเป็นนกต่อต่างหากเล่า  ”
                
            เพียงเริ่มกล่าวกลับได้ยินเสียงขบขันสตรีอันเพราะพริ้ง  ก่อนจะไหวตัวทันสตรีในบ่วงกลับสลายไปเป็นอากาศธาตุ แล้วระเบิดออกมาเป็นสายลมอันรุนแรงพัดพาร่างพรานบุญลอยขึ้นไป
                
 
          สายลมอันรุนแรงนี้เป็นพลังของแม่นางหรือ  ระหว่างลอยไปกับสายลมพรานบุญรู้สึกสะพรึงในใจ
 
             ก่อนจะตั้งสติใช้บ่วงนาคบาศรัดต้นไม้ใกล้ตัวแล้วเหวี่ยงตัวเองขึ้นไปตั้งหลักบนกิ่งไม้
                
 
          “  ข้าใคร่รู้เสียแล้วสิว่าบ่วงอัศจรรย์นั้น เจ้าได้แต่ใดมา   ”   ตัวพรานยังไม่ทันได้ตั้งตัวดี กลับต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงสตรีอันคุ้นหู
                
 
             พอหันไปทางต้นเสียง ปรากฏนางคนเดิมแต่ครานี้มากด้วยนกนานาพันธุ์เกาะอยู่บนไหล่ของหล่อน
 
 
              พอบางตัวส่งเสียงให้ นางก็กล่าวตอบรับพวกมัน
                
 
            “ มะ แม่นางพูดคุยกับปักษาได้หรอกรึ  ” พรานบุญอึ้งจนตาโต
               
 
            “ ตอนที่เจ้าซุ่มในพุ่มไม้นกพวกนี้เป็นคนบอกข้าเอง  เดี๋ยวนะ  ข้าจำได้ล่ะ จะ เจ้า เจ้าคนนั้นที่บ่อน้ำแห่งนั้น พวกเจ้ามีจารีตในการทดแทนบุญคุณ ด้วยการพยายามใช้บ่วงจับอีกฝ่ายกระนั้นหรือ !?  ”
                
 
              พรานบุญอ้ำอึ้งครู่เดียว ส่วนสตรีถอนหายใจแล้วยิ้มมุมปาก
               
 
            "  ขบขันหน่อยสิเจ้า ถึงเราจะต่างวัฒนธรรมเพียงใดแต่น่าจะรู้ว่า ข้าหยอกเล่น  "
 
                
                ทว่าพรานมิได้คล้อยตามนาง เอ่ยด้วยทีท่าจริงจัง
             
 
              “ ข้ามีสาเหตุที่ต้องจับแม่นางให้ได้ ขออภัยด้วย!! ”   สิ้นคำพรานบุญก็เหวี่ยงบ่วงวิเศษหมายจับสตรีเบื้องหน้า
 
                ทว่าเธอกลับตอบรับด้วยรอยยิ้มขณะที่บ่วงกำลังจะโอบรัดตัวเธอ
               
 
                “  นามของตัวฉันคือมโนราห์ !  มิใช่แม่นาง ”
 
    
 
            บ่วงมนตราของพรานมิอาจสัมผัสร่างมโนราห์ได้ราวกับมีอะไรคุ้มกันนางอยู่แถมยังตรึงบ่วงไว้แน่นจนมิอาจดึงมันกลับได้ 
 
             กลับกลายเป็นพรานที่โดนพันธนาการเสียเอง บัดนี้เขาทำได้แค่เพียงมองหน้านางอัปสรเบื้องหน้า
        
 
          “ จงประจักษ์ถึงพลังแห่งจ้าวมนตราแสงกับวายุเสียมนุษย์ !!!   "
     
 
              เสี้ยววินาทีนั้นแสงสว่างวาบขึ้นมาจนพรานตาพร่ามัว ก่อนจะถูกสายลมก่อตัวเป็นเชือกพันธนาการทั้งกาย ห้อยต้องแต่งกลับหัวกลางอากาศราวกับดักแด้บนกิ่งไม้ 
 
        
          ไม่ว่าจะดิ้นรนเพียงใด พรานก็มิอาจหลุดจากพันธนาการได้ จากนั้นมโนราห์ทำท่านั่งลงบัลลังก์อากาศธาตุเรืองแสงจากนั้นเริ่มไต่สวนพราน
        
      “ บ่วงนั้นมิใช่พลังเวทมนต์ของเจ้าเป็นแน่ เจ้าได้แต่ที่ใดมา ?”  
 
       
       พรานบุญปิดปากเงียบเพราะคำมั่นกับราชานาค จนนางปักษามองออกจึงยิ้มกริ่ม บัญชาให้สายลมหมุนร่างพรานที่หัวชี้พื้นไปมาดังลูกข่าง แล้วสนทนากับนกรอบกายอย่างสบายอารมณ์ 
 
      ข้าผ่านการพำเบ็ญตนมาแล้วแค่นี้อย่าหวังว่าจะเปิดปากข้าได้แม่นาง พรานบุญครุ่นคิดในใจระหว่างที่โลกรอบตัวหมุนติ้วไปมาชวนให้เวียนหัว
 
        
     หลายชั่วโมงผ่านไปจนเที่ยงวัน ความตั้งใจของพรานบุญมิได้เสื่อมคลายแม้แต่น้อย
 
        จนนางอัปสรหยุดมนต์วายุด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า ปล่อยให้พรานร่วงลงมาพักหายใจในสภาพใบหน้าซีดเซียวทำท่าจะอาเจียนออกมา 
         
    
 
         “ ดูท่าเจ้าจะอดทนกว่าที่ข้าคิดไว้เสียอีกทว่า ... ”   พอกล่าวจบพญาอินทรีร่างใหญ่กว่าคนเป็นเท่าตัวบินมาโฉบร่างพรานด้วยกรงเล็บแล้วพาขึ้นไปท่องนภาโดยมีนางมโนราห์บินตามไป 
    
    
 
       สูงขึ้นไปบนยอดนภาจนแลเห็นพงไพรอันไพศาลเบื้องล่างเล็กกระจิดริดดุจฝูงมดอันขวักไขว่ มโนราห์สบตาแล้วกล่าวถามพรานบุญในอุ้งเท้าปักษายักษ์
 
    
 
        “ จงไตร่ตรองอย่างรอบคอบเสียมนุษย์  หากเจ้าไม่ย่อมเอ่ยความจริงก็จงดับสูญเป็นธาตุธุลี ณ เบื้องล่างเสียเถิด  “ 
 
    
 
          พรานบุญมิได้หวั่นไหว ส่งสายตาแข็งกร้าวใส่
  
 
            “ หากให้ข้าพรานบุญเสียสัตย์  ข้าขอสละชีวีอย่างสมเกียรติ์ดีกว่า !!! “ 
 
    
 
         “ สมพรปากเจ้า !!" ได้ยินเช่นนั้นมโนราห์ส่งสัญญาณให้เพื่อนของตนปล่อยพรานบุญตกลงไปยังปากประตูมัจจุราช
 
    
 
         “ !!!!! " นกอินทรีย์หันมามองมโนราห์แล้วส่งเสียงใส่ นางจึงหันมาตอบด้วยรอยยิ้ม
 
       “ ไม่ต้องห่วงหรอกจ้ะ ข้าทราบความจากพญางูล่ะแค่ต้องการทดสอบพรานบุญผู้นั้น  ไม่ปล่อยให้เขาม้วยมรณาหรอก ฮิ ฮิ ได้เวลาสนุกล่ะ ”  พอหมดคำพูดมโนราห์ได้สยายปีกแล้วดิ่งพสุธาลงไปด้วยความสนุกสนาน
    
         ทว่า .... ทันใดนั้นเอง
 
       ปรากฏลูกธนูลึกลับรวดเร็วเกินกว่ามนุษย์ทั่วไปจะยิงได้พุ่งมาเฉี่ยวเส้นผมยาวสีเทาอันยาวนุ่มสลวยของนางจนส่วนที่ขาดสลายเป็นอากาศธาตุไป 
 
    
 
        ปรากฏบุคคลลึกลับในเครื่องแต่งกายราชวงศ์อียิปต์ขี่หุ่นเหล็กไหลทองคำ
รูปสฟิงซ์โบยบินด้วยปีกจักรกล การเคลื่อนไหวของมันแลดูตะกุกตะกัก ลงมารับพรานบุญได้ทันท่วงที  
 
          ขณะเดียวกัน แว่วเสียงอันขึงขังจากอีกทิศนึง
 
        “  ด้วยบัญชาแห่งองค์ชายแห่งดินแดนนี้จงยอมจำนนแต่โดยดี มิฉะนั้นธนูดอกต่อไปจะไม่พลาดเป้าแน่ !!!  “ 
 
         
         องค์ชายสุธนแห่งอินดัสกำลังขี่กิเลน ม้าร่างยักษ์กำยำทว่า เหาะเหินเดินอากาศอย่างน่าอัศจรรย์
 
         ตามร่างเต็มไปด้วยเกล็ดงดงามกับเขาแหลมสง่าบนหัว ตกแต่งเครื่องทรงด้วยอานม้ากับเกราะอาชาแห่งราชวงศ์อินเดีย 
 
 
       เจ้าชายสายตาขึงขึง มือง้างลูกธนูพลังมนตราโปร่งใสด้วยคันธนูใหญ่เท่าตัวคน
 
  
          พอมโนราห์หันไปสบสายตาองค์ชาย ท่านก็ตกอยู่ในภวังค์ไปพักนึง 
 
          กว่าจะดึงสติกลับมาได้ นางปักษาก็พุ่งมากระแทกจนพลัดตกจากหลังกิเลนเสียแล้ว ก่อนจะดิ่งลงพสุธาไปด้วยกัน
 
  
         “ องค์ชาย !!! “
 
      
         “ สุธน !!!! “ 
 
    
 
          พรานกับบุคคลลึกลับบนหุ่นสฟิงซ์ตะโกนขึ้นมาอย่างตื่นตระหนก
 
    
 
    
    
      
 
     
 
    
 
    
 
        
                    
 
 
 
 
                                 
 
                

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา