Stony รักไม่ยาก

9.0

เขียนโดย WAFFLE_W

วันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 11.05 น.

  34 ตอน
  1 วิจารณ์
  28.21K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 มกราคม พ.ศ. 2562 23.36 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

20) สุขสันต์วันเกิดเรื่อง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

               เสียงเอะอะดังมาจากบันไดวนหินอ่อนขัดเงา เจ้าของเสียงทั้งสามเดินเข้ามาในห้องอาหาร เพชรงามจูงมือหลานชายไปทั้งสองข้างๆ เธอบ่นกระปอดกระแปดมาตลอดทาง ก่อนหันไปหาผู้เป็นบิดา

                “พ่อคะ ดูสองคนนี้สิ แต่งตัวยังไม่เรียบร้อยเลย รีบอะไรก็ไม่รู้” บิดาพยักหน้ารับทว่าไม่ได้พูดตอบอะไรเพราะเสียงแจ้วจ้าวของเด็กชายทั้งสองดังขึ้นก่อน

                “เรียบร้อยแล้วครับ”

                “เรียบร้อยรุงรังน่ะสิ” คุณอาสาวว่าดุๆ เด็กทั้งสองพร้อมใจกันเบ้ปาก

                “ก็พวกเราไม่อยากไปโรงเรียนนี่ฮะ วันนี้วันเกิดพวกเรานะ”

                “ใช่ วันเกิดทั้งทีต้องอยู่รอรับของขวัญอยู่ที่บ้านสิฮะ”

                “ไม่ได้นะ ต้องไปโรงเรียนก่อน เมื่อเช้าก็ไปตักบาตรมาแล้ว เราสองคนต้องเป็นเด็กดีรู้ไหม” เพชรงามขยี้หัวหลานชายที่ทำท่างอแง

                “มาทานข้าวได้แล้ว” ฐานิชเอ่ยอย่างรำคาญ เพชรงามตีหน้านิ่งแล้วพาหลานไปนั่งบนโต๊ะทานอาหาร อาหารเช้าวันนี้คือข้าวผัดทะเล หญิงสาวหนึ่งเดียวบนโต๊ะอาหารเหลือบไปมองคนตัวเล็กที่เขี่ยผักพวกแครอท หอมหัวใหญ่ ถั่วลันเตา และผักชีออกไว้ข้างจาน

                “ทานผักด้วยสิครับ เดี๋ยวไม่แข็งแรงนะ” เธอบอกแกมขู่ขวัญ

                “มันไม่อร่อย ทิกเกอร์ไม่ชอบ”

                เพชรงามตักผักในจานของตัวเองแล้วทานให้ดูเป็นตัวอย่าง “อร่อยจะตาย มีประโยชน์ด้วย”

                “คุณพ่อก็ไม่กินผัก ยังแข็งแรงเลยฮะ” พิกเล็ทเปรียบเทียบ คุณพ่อและคุณอาสาวมองกันด้วยใบหน้านิ่งทั้งคู่ เพชรงามหลบสายตาออกก่อนเพราะเธอเกลียดสายตาของเขาที่มองมาอย่างเหยียดหยามเต็มที

                “ตั้งใจเรียนนะเจ้าแสบ วันนี้ปู่จะเตรียมงานวันเกิดให้เจ๋งๆ เลย” สิงห์ภพว่าด้วยรอยยิ้มละมุน

                “เย้ พวกเราจะตั้งใจเรียนแล้วรีบกลับบ้านเร็วๆ เลยครับ” พิกเลทชูมือโบกไปมาอย่างดีใจ

                “แล้ววันนี้ใครจะไปส่งพวกเราที่โรงเรียนฮะ” ทิกเกอร์ถามพลางตักข้าวคำโตไปใส่ในจานของแฝดผู้พี่

                “พ่อ/อา” สองเสียงตอบพร้อมกัน วิเชียรที่นั่งเงียบๆ มองพี่และน้องอย่างหวั่นๆ ในสายตาของทั้งสอง

                “งั้นวันนี้ไปกับพ่อแล้วกันนะ” เพชรงามหันไปบอกหลานชาย เธอยอมแพ้เพื่อถอยออกมาให้พ่อลูกได้อยู่ด้วยกัน วันนี้คือวันเกิดของเด็กทั้งสองและฐานิชก็คือคนที่ทำให้เด็กทั้งสองเกิดมาได้ ฉะนั้นเขาก็ควรได้รับสิทธิที่จะมีความสำคัญเหนือเธอ

 

                มานะเข้ามานอนเล่นบนโซฟาสีฟ้าอย่างเหนื่อยอ่อน เมื่อคืนกลับเข้าบ้านไปเขาก็ทะเลาะกับพ่อตามปกติเช่นเคย แต่ครั้งนี้ถึงง่วงแค่ไหนเขาก็หลับไม่ลงเพราะหลังจากที่พ่ออาละวาดกราดด่าแล้ว พ่อก็ไอออกมาเป็นเลือด ครั้นจะพาไปหาหมอก็ไม่ยอมไล่ตีเขาเพื่อไม่ให้เข้าไปยุ่งก่อนจะหายเข้าไปในห้องนอน เขากลัวว่าพ่อจะเป็นอะไรไปเลยนั่งเฝ้าที่หน้าห้องจนกระทั่งเช้า

                คนที่กำลังงีบหลับถูกปลูกให้ตื่นด้วยเสียงอันดังของการ์ดรุต

                “ไอ้โม่ มานอนอะไรตรงนี้วะ?” ว่าพลางวางกระเป๋าเอกสารลงบนโต๊ะ

                มานะสะลืมสะลือผุดตัวลุกขึ้นนั่งพลางใช้หลังมือเช็ดขอบปาก หันไปมองหญิงสาวที่มองมาที่เขาอยู่ก่อนแล้วพร้อมรอยยิ้ม ก่อนตอบคำถาม “มาหาเพื่อน”

                “มาหาฉันมีอะไร” รุตเอ่ยถาม

                “ไม่ได้มาหาพี่สักหน่อย” ช้อนตาฉ่ำไปมองหญิงสาวที่กำลังยื่นมือข้างหนึ่งไปจับลูกบิดประตู ส่วนมืออีกข้างถือแก้วกาแฟเย็นไว้

                “แถวนี้มีเพื่อนแกด้วย? หรือจะเป็นไอ้กบนี่วะ” ว่าติดตลก ยกกบแก้วที่ใช้ทับกระดาษขึ้นเย้ย

                “เปล่า ผมมาหา...”

                “เข้ามาพบฉันที่ห้องด้วย” เพชรงามเอ่ยขัดนิ่งๆ เพราะรู้ว่าเขาหมายถึงเธอ ไม่อยากให้รุตรู้ว่าเธอกับเขาเป็นเพื่อนกันเพราะขี้เกียจตอบคำถามร้อยแปดที่อาจตามมา รุตหรี่ตางงๆ แล้วเดินไปหา

                “ไม่ใช่นาย”

                ความงงของชายหนุ่มทวีขึ้นอีกเท่าตัว ถ้าไม่ใช่เขาก็ต้องเป็นไอ้แมสเซ็นเจอร์นี่ แล้วทำไมเพชรงามต้องให้มานะเข้าไปพบด้วย ความสงสัยประดังประเดชนปังเข้ามาจังๆ เต็มอก มันต้องมีอะไรแน่ๆ ระหว่างคนทั้งสอง ความลับบางอย่างที่เขาต้องรู้ให้ได้ แต่ขออย่างเดียว... ขออย่าให้เป็นแบบที่เขาคิดเลย

               

                “นายมีอะไร” ท่านประธานที่นั่งบนเก้าอี้ใหญ่หลังโต๊ะทำงานเอ่ยเสียงเรียบ ยกแก้วกาแฟขึ้นดูดแก้ง่วงยามสาย

                “ไม่มีอะไรหรอกครับ จะมีก็แค่ใจที่มันคิดถึง” ว่าพร้อมหมุนเก้าอี้เล่นด้วยรอยยิ้มกระจ่างใส สิ้นเสียงของเขาเสียงไอแค่กๆ ของคนสำลึกกาแฟก็ดังขึ้นทันที ชายหนุ่มกระวีกระวาดดึงกระดาษทิชชู่ในกล่องบนโต๊ะยื่นให้เธอเช็ดปางเช็ดคาง

                “เพื่อนเล่นเหรอ” เอ็ดตะโรด้วยเสียงขึ้นจมูกแก้เก้อ

                “ใช่” ตอบเต็มปากเต็มคำ “เพื่อนคิดถึงเพื่อนเป็นธรรมดาครับ” เขายิ้มขำๆ เมื่อเห็นสีหน้าของหญิงสาว

                “ฉันไม่อยากเป็นเพื่อนกับนายแล้ว” ว่าเสียงดุ เกลียดนักสายตาหวานเยิ้มเช่นนี้ ถ้าเป็นเพื่อนกันแล้วเขาทำสายตาแบบนี้ให้เธอตลอด เธอทนไม่ไหวหรอกนะ ลำบากที่ต้องบังคับให้หัวใจเต้นเป็นจังหวะปกติ

                “อยากเป็นมากกว่าเพื่อนละสิ” ส่งสายตาหวานเยิ้มมีเลศนัย “ตั้งใจทำงานนะครับ อย่ามัวแต่คิดถึงผมล่ะ”

ว่าจบก็เดินออกไป แค่ได้เห็นหน้าได้พูดคุย... แค่นี้ก็ทำให้หัวใจกระชุ่มกระชวยและมีกำลังในการทำงานแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ทุกวันเขายอมเป็นคนดีเลย

 

งานวันเกิดของเด็กแฝดถูกจัดขึ้นในสวนหย่อมหน้าบ้าน ต้นไม้ดอกไม้ประดับที่เจ้าของบ้านเฝ้าดูแลถูกตกแต่งด้วยไฟกระพริบสวยงาม เหล่าตัวการ์ตูนในเรื่องหมีพูห์ยกโขยงกันมาในรูปตุ๊กตาล้มลุกที่วางอยู่ทั่วพื้นที่สวน ลูกโป่งสีสวยวางอยู่เกลื่อนพื้นและบางส่วนก็มัดเชือกติดกับกิ่งก้านต้นไม้บรรยากาศร่มรื่นชื่นเย็น ตรงกลางสวนมีโต๊ะอาหารขนาดยาวตั้งอยู่ มีเก้าอี้มาวางร่วมยี่สิบตัว อาหารนั้นมีมากมายหลายชนิดให้เลือกรับประทานไม่จำกัดทั้งอาหารคาวและอาหารหวานมีน้ำดื่มหลากรสหลายสี ทั้งยังมีน้ำอัดลมและแอลกอฮอล์เข้ามาแทรกแซงอยู่ด้วยสำหรับเหล่าคุณลุงของเจ้าของวันเกิด โต๊ะตัวใหญ่ซึ่งวางอยู่ข้างโต๊ะอาหารมีของขวัญมากมายวางกองอยู่เท่าภูเขา

                ค่ำคืนนี้เป็นเสมือนวันครอบครัวใหญ่ สิงห์ภพนั่งตรงหัวโต๊ะพร้อมด้วยลูกชายลูกสาวทั้งห้า รวมทั้งลูกสะใภ้และหลานอีกโข นารีที่แม้จะเป็นอดีตลูกสะใภ้ก็มาร่วมงานของลูกชายด้วย

                เสียงพูดคุยอย่างสนุกสนานดังระงมไปทั่ว นานทีเดียวกว่าที่ทุกคนจะได้อยู่พร้อมตาพร้อมตากันเป็นครอบครัวใหญ่เช่นนี้ ความอบอุ่นของคำว่าครอบครัวฟุ้งกระจายไปทั่วอาณาบริเวณ

                “สิน เรียกอาไดมอนด์ตื่นสิ” พาณีบอกสินบดีที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเธอ

                “ไม่ได้หลับนี่” เด็กหนุ่มมองดูคุณอาข้างตัวที่ทอดสาบตามองเจ้าของวันเกิดด้วยสีหน้าเนือยๆ

                “อ้าวเหรอ” พาณีว่าพลางแสยะยิ้ม

                “นี่ๆ” สินบดีหันไปสะกิดคนที่กำลังหยิบลูกชุบสีสวยในถาดตรงหน้าเข้าปาก เขากัดน่องไก่ทอดในมือก่อนจะเอ่ยถาม “กับพี่โม่ถึงขั้นไหนกันแล้วอา”

                ลูกชุบรูปแครอทอันจิ๋วในมือเพชรงามถูกบีบจนเละเมื่อได้ยินคำถามของหลานชาย เธอหันไปส่งตาค้อนให้ทันที ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบโดนัทไส้แยมมากัดกินอย่างไม่สนใจ

                “ทำเป็นเมิน เขินล่ะสิ ผมรู้หรอกน่า” สินบดีคิดเองเออเอง แล้วเอ่ยแซวพร้อมรอยยิ้ม “ซุ่มมีแฟนไม่บอก”

                “หา น้องไดมอนด์มีแฟนแล้วหรือคะ” มารดาของสินบดีที่บังเอิญได้ยินลูกชายคุยกับน้องสะใภ้ถามขึ้นอย่างสนอกสนใจ เสียงของเธอดังพอที่จะทำให้คนรอบข้างได้ยินและหันมามองได้

                อุปาทานหรือไรที่เพชรงามรู้สึกว่าโดนัทรสชาติหวานนุ่มที่เคี้ยวอยู่ในปากจืดชืดไร้ความอร่อยขึ้นมา เธอกลืนมันลงไปอย่างยากเย็นเมื่อมีสายตาหลายคู่จับจ้องอยู่ หญิงสาวยิ้มแหยพลางรีบปฏิเสธละล่ำละลัก “เปล่าคะเปล่า  ไม่มีคะ”

                “วันๆ อยู่แต่บ้านกับบริษัทอย่างอาไดมอนด์หาแฟนได้ด้วยหรือคะ” พาณีลูกสาวคนสวยของสุริยาเอ่ยอย่างไม่ให้เกียรติผู้มีศักดิ์เป็นอาเท่าไร เพราะถือว่าอายุห่างกันไม่มาก

                “ได้สิพี่พิณ หล่อด้วยนะ” สินบดีตอบกลับให้เรียบร้อย เพชรงามนึกอยากวิ่งไปหาสก็อตเทปมาปิดปากของเขาเสียจริง

                “หมายความว่าไงยะ” ถามอย่างมีจริต

                “ก็...”

                “พิกเลท ทิกเกอร์” เพชรงามตะโกนเรียกหลานชายข้ามโต๊ะเสียงดัง “ร้องเพลงให้อาฟังหน่อยสิครับ”

                “ได้เลยครับ ป่ะทิกเกอร์ร้องเพลงกันดีกว่า” แล้วเด็กทั้งสองก็พากันไปยืนอยู่บนพื้นหญ้าแล้วแหกปากร้องเพลงพลางเต้นกระเด้งกระดึ๊บ

                “สินเล่าต่อดิ” พาณีเร่งเร้าอย่างไม่ยอมละเลิกกับการสอดรู้เรื่องคนอื่น

                “ก็...”

                “สินทาร์ตไข่นี่อร่อยนะ ชิมดูสิ” เพชรงามมือไวใจดีหยิบทาร์ตไข่ขึ้นป้อนหลานชายถึงปาก

                “มีพิรุธ” พาณีมองอาสาวอย่างจับผิด เพชรงามสะบัดผมทำหน้าซื่ออย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว ความจริงเธอก็ไม่มีอะไรต้องปิดบังอยู่แล้วนี่ แต่ที่ต้องคอยหยุดปากสินบดีไว้ก็เพราะกลัวว่าเขาจะพูดจาใส่ไข่จนเรื่องมันมีอะไรเกินกว่าที่มีอยู่จริง “นี่แอบมีแฟนแล้วจริงๆ เหรอ”

                สินบดีพยักหน้าหงึกหงักเนื่องจากปากยังไม่ว่างมาเปิดเผยความจริง

                “จะไปเชื่ออะไรกับสิน ไม่รู้เรื่องอะไรก็ปากพล่อยพูดมั่วไปงั้นแหละ” ว่าเสียงเรียบอย่างสุขุมเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ ก่อนจะชวนออกไปเข้าเรื่องอื่น “ว่าแต่เธอล่ะ เรียนใกล้จบหรือยัง”

                “เดือนหน้าก็รับปริญญาแล้วค่ะ” พาณีตอบเสียงโอ้ ทว่าก็ยังไม่คลายสงสัยเรื่องอาสาว

                “จบแล้วไปทำงานที่ไหนล่ะ”

                “ว่าจะไปสมัครเป็นแอร์ฯ”

                “เธอเรียนด้านภาษาเหรอ”

                “อือ”

                “ดีแล้วล่ะ ทำในสิ่งที่อยากทำ เป็นในสิ่งที่อยากเป็น จะได้ทำงานอย่างมีความสุข อาขอให้เธอได้งานเร็วๆ แล้วกันนะ”

                “ขอบคุณค่ะ” ว่าอย่างไม่ใส่ใจนักก่อนจะหันไปวกถามเรื่องเดิมกับสินบดีต่อ “ตกลงแฟนอาไดมอนด์มีจริงไหมเนี่ย?”

                “จริง” พยักหน้าหงึกหงัก

                “ใครกันที่ตาถั่วใจถึงมาชอบผู้หญิงแบบนี้”

                “บอกไปพี่ก็ไม่รู้จัก รู้แค่ผู้ชายคนนั้นหล่อลากและน่ารักมากก็พอ”

                “โม้เปล่า”

                “ไม่โม้ รับรองได้ด้วยเกียรติของรด. ปีสอง”

                “ไม่น่าเชื่อ โลกหมุนกลับด้านหรือเปล่าเนี่ย”

                “ก็แค่มีแฟน มันแปลกเว่อร์ขนาดนั้นเลยเหรอพี่พิณ”

                “ก็แปลกพอๆ กับแก้วหน้าม้าแต่งงานกับไกรทองนั่นละ”

                “ก็เข้าใจเปรียบนะ” เด็กหนุ่มหัวเราะเสริมทัพให้ลูกพี่ลูกน้อง

                เพชรงามนิ่งเงียบไม่ตอบโต้ใดๆ ปล่อยให้หลานชายหลานสาวกระแนะกระแหนกันให้หนำใจ ไอ้เด็กบ้าพวกนี้ครอบครัวมีปัญหาหรือไงถึงต้องมารวมหัวแกล้งคนอื่น สังคมเดี๋ยวนี้ก็เป็นแบบนี้แหละผู้คนมักจะสนุกสนานกับการได้แกล้งทับถมคนอื่น โดนเองแล้วจะรู้สึก

                อีกด้านหนึ่งของโต๊ะยาวชายหนุ่มสี่คนยกแก้วน้ำสีอำพันชนกันเป็นสัญญาณแห่งการแก้แค้นและเอาคืนเล็กๆ น้อยๆ พี่คนโตพยักหน้าพลางยิ้มมุมปากให้น้องชายคนที่สาม ความจริงภารกิจนี้พวกเขาต้องการให้น้องคนที่สี่ออกสื่อมากกว่าเนื่องจากมีความสนิทสนมกับเป้าหมายมมากกว่าใครเพื่อน ทว่าวิเชียรไม่ยอม หน้าที่นี้จึงตกไปอยู่ที่ฐานิช

                “ไดมอนด์ๆ” เขาเรียกน้องสาวเสียงดัง เจ้าของชื่อที่นั่งหน้านิ่งหันมามอง “ช่วยไปหยิบกล่องของขวัญในห้องน้ำข้างโรงครัวให้หน่อยสิ พี่เข้าไปล้างหน้าแล้วลืมไว้น่ะ”

                “ก็ไปเอาเองสิ”ตอบเสียงเรียบ มีแววประหลาดใจไม่น้อยที่ฐานิชพูดกับเธอดีๆ

                ฐานิชชูแก้วแอลกอฮอล์ในมือให้ดูพร้อมทำตาปรือ “พี่ไปไม่ไหวแล้ว ตาพร่าตามัวหมด พี่น้องกันหัดมีน้ำใจให้กันบ้างไม่ได้หรือไง”

                “ก็ได้” เพชรงามรับคำตัดรำคาญ ก่อนจะลุกขึ้นยืนพลางหาวหวอดใหญ่

                “ผมไปด้วย” สินบดีลุกขึ้นตาม

                “เจ้าสิน เจ้าพิณมาเต้นกับเจ้าภาพหน่อยเร็ว” สิงห์ภพที่เต้นหยองเหยงอยู่กับเด็กฝาแฝดเจ้าของงานเรียกหลานทั้งสองให้มาเต้นด้วยกัน

                “จัดไปปู่” สินบดีเดินตรงเข้าไปร่วมวงกับเด็กและคนชราทันที เพชรงามมองภาพนั้นแล้วยิ้มบางๆ ก่อนจะเดินตรงมุ่งไปยังห้องน้ำข้างโรงครัวทิ้งให้พี่ชายสี่คนมองตามแผ่นหลังไปอย่างสะใจ

                “สภาพไม่พ้นผีทะเลแน่นอน” สุริยาว่าพลางยกน้ำสีอำพันขึ้นจิบ

                “นึกภาพแล้วก็ขำว่ะ” ศิลาหัวเราะออกมาน้อยๆ

                “พวกพี่แกล้งน้องแรงไปนะ” อยู่ๆ วิเชียรก็แย้งขึ้นด้วยแววตาและน้ำเสียงที่แสดงความเป็นห่วงน้องสาวฐานิชตบไหล่น้องชายพลางเอ่ยว่า

                “อย่าซีเรียสน่า เอ้า ฉลองหน่อยพวกเรา”

 

                เพชรงามเดินเข้ามาในห้องน้ำที่มีอ่างล้างมือและชักโครกอยู่ด้านใน กวาดตาหากล่องของขวัญหากก็ไม่เห็นสักกล่อง เธอเดินเข้าไปก้มๆ เงยๆ หาตามซอกมุมต่างๆ เผื่อว่าของขวัญอาจเป็นกล่องเล็กแล้วตกหล่นไว้แถวนี้ ขณะที่เธอกำลังจะผลักประตูปิดเพื่อหาของขวัญหลังประตู น้ำถังใหญ่ก็สาดลงมาท่วมตัวจนหญิงสาวกรีดร้องด้วยความตกใจ ไม่เพียงแต่สภาพที่เปียกปอนเท่านั้น ยังมีกบและอึ่งอ่างรวมเกือบสิบตัวหล่นลงมาใส่ตัวเธอด้วย เพชรงามลนลานรีบตะกุยตะกายออกจากห้องน้ำ ทว่ามือเจ้ากรรมก็ดันปัดโดนขวดแก้วซึ่งใส่สบู่เหลวเอาไว้ตกลงมาแตก เศษแก้วกระจายเกลื่อนพื้นและด้วยความตื่นกลัวเธอจึงไม่ได้ระวังเป็นเหตุให้เหยียบลงบนเศษแก้วเต็มแรง เคราะห์ซ้ำกรรมเซาะเสียจริงเมื่อเมื่อหญิงสาวลื่นสบู่เหลวล้มหงายหลังกระแทกไปบนพื้น กบและอึ่งอ่างหลายตัวกรูกันไต่ขึ้นมาบนตัวเพชรงาม หญิงสาวที่ทั้งตัวซีดสนิททำหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวด ความกลัว และความขยะแขยง ก่อนจะหมดสติไปในที่สุด

 

                “น้องไดมอนด์ไปไหนคะ จะจุดเทียนเป่าเค้กแล้วนะ” นารีปักเทียนเล่มเล็กลงบนเค้กช็อกโกแลตก้อนโตที่เธอทำเองพลางเอ่ยถามหาน้องสะใภ้แสนรัก

                “ไม่รู้สิ” ฐานิชตอบอดีตภรรยาพลางยักไหล่ แล้วหันไปยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับพี่ชาย “ไม่ต้องรอหรอก ดึกแล้วลูกต้องรีบเข้านอน”

                “อย่างนั้นก็ได้ค่ะ”

                ไฟในบริเวณสวนหย่อมถูกลงจนมืดสนิทมีเพียงแสงจากจันทราที่ส่องสว่างลงมาจากบนท้องฟ้ากว้าง คืนนี้เป็นคืนเดือนเปิดทำให้บรรยากาศไม่มืดเกินไปนัก ทุกคนพร้อมใจกันร้องเพลงสุขสันต์วันเกิดจนก้องไปทั่ว

                “Happy birthday to you.Happy birthday to you. Happy birth...”

                “ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย คุณไดมอนด์!” เสียงพร่าหอบของจันทร์ดังขึ้นขัดเสียงร้องเพลงแห่งความสุข ทุกคนหยุดร้องฉับพลันด้วยความตระหนก หันไปมองเจ้าของเสียง “คุณไดมอนด์ ในห้องน้ำค่ะ เลือดท่วมเต็มเลย มีกบมีคางคก น่ากลัวมาก...”

                เสียงฝีเท้าของใครคนหนึ่งรีบวิ่งออกไปทันที ไม่อยู่ฟังให้สาวใช้พูดจบประโยค

                “อะไรนะ ไดมอนด์ทำไม บอกฉันอีกทีสิ” ในความเงียบสงัด เสียงทุ้มแหบของชายชราก็ดังขึ้นอย่างร้อนอกร้อนใจ เขาปรี่เข้าไปหาสาวใช้ที่พูดรัวเร็ว ติดขัด

                “คุณหนูนอนเลือดท่วมอยู่ในห้องน้ำค่ะ” จันทร์รายงานปากคอสั่น สิงห์ภพคอแห้งผากทันทีเมื่อนึกภาพของลูกสาวตามที่สาวใช้บอก เขาก้าวออกไปเพียงสองก้าวก็ล้มตึงลงไปทันที

                “ว้าย คุณท่าน!”

                “คุณพ่อคะ!”

                “คุณปู่!”

                คนงานหนุ่มรีบเข้าไปพยุงชายสูงวัยทันทีก่อนจะพากันเคลื่อนเข้าไปในตัวบ้านท่ามกลางความตกใจของทุกคน สินบดี พาณีและคนงานเกือบทั้งหมดรีบวิ่งตรงไปยังห้องน้ำที่เกิดเหตุทันที ปล่อยให้ลูกสะใภ้ทั้งหลายคอยอยู่ดูแลพ่อตาไป

                พี่น้องทั้งสี่มองเสี้ยวหน้ากันผ่านแสงเงาของดวงจันทร์ ทุกคนหน้าถอดสีเช่นเดียวกัน ใบหน้าที่เคยเปี่ยมสุขและสะใจกลับนิ่งสลดเมื่อแผนการมันเลวร้ายกว่าที่คิดไว้ พวกเขาเพียงแต่อยากให้เธอโดนน้ำที่มีกบและคางคกแช่อยู่ราดใส่ตัวแค่นั้นเอง...แล้วเลือดมันมาจากไหนกัน

                จากที่ทำเพียงแค่ต้องการความสนุกกลับต้องมาทุกข์หนักกับความสนุกนั้น

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา