LOVE MISSIONS คุณหมอครับ มีรักมาเสิร์ฟ

-

เขียนโดย Feather

วันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 17.39 น.

  3 ตอน
  0 วิจารณ์
  4,513 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 กันยายน พ.ศ. 2560 18.32 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) หมาเป็นเหตุที่ทำให้(เรา)ได้เจอกัน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
           ตลอดคาบเช้า ซินวาเนอร์พยายามตั้งใจเรียน เพราะว่าตนเพิ่งจะเปิดเรียน summer ขึ้นเกรด 12 จึงทำให้ผมขยันเป็นเท่าตัว แต่มันไม่เป็นอย่างที่ผมคิดไว้เลย เนื้อหาวิชาเรียนของที่นี่มันทำให้ผมอยากจะป่วยตลอดเวลา เวลานั่งเรียนเหมือนมีกะทะทองแดงลนก้นทุกนาทีที่อาจารย์เอ่ยชื่อเรียกผม T-Y
 
       จนกระทั้งเรียนคาบเช้าเสร็จผมก็รีบเดินออกจากห้องเรียน ผมพยายามมองหาไอ้เบียร์แต่คนมันเยอะมากเกินทำให้ผมไม่สามารถมองหาเพื่อนสนิทได้ สุดท้ายก็ต้องหยิบมือถือออกมาก่อนจะโทรหาเบียร์ทันที
 
/ไอ้ซินน กูกำลังจะโทรหามึงอยู่พอดีเลย/   เสียงปลายสายกลับเป็นรูมเมทเขาแทนที่จะเป็นเบียร์
 
“แชมเปญ?  กูหามึงไม่เจอ ไหนบอกจะมาโรงอาหารวะ”เสียงปลายสายดูร้อนรนอย่างชัดเจนนั้นทำให้ผมขมวดคิ้วอย่างสงสัย
 
/เกิดรื่องขึ้นแล้วดิวะ มึงรีบมาโรงจอดรถเร็ว! ไอ้เบียร์แย่แล้ว!!/
 
“ok ”
 
ว่าจบผมก็กดวางสายทันทีก่อนจะรีบวิ่งตรงไปยังที่จอดรถหลังโรงเรียน ไม่กี่นาทีต่อมา ผมก็มาถึงโรงจอดรถขนาดใหญ่ที่มีรถ BM Z4 สีแดงเพลิงคันเก่งของผม แต่ผมกลับเดินเลยรถตัวเองไปก่อนจะหยุด เมื่อก้าวเท้ามาถึงรถสปอร์ต Mazda MX-5 สีเทา
 
“แปะเปี๊ย!!! อย่าเป็นไรน่ะลูกพ่อออ”
เสียงคราญปานจะขาดใจตายของเบียร์ดังขึ้น พร้อมกับผู้ชายสุดหล่อ 2 คนที่กำลังก้มหน้าก้มตาดูอะไรสักอย่างที่อยู่ในรถ ผมเดินเข้าไปหาสองคนนั้นพลางสะกิดไหล่เบียร์
 
“เบียร์เกิดไรขึ้น”
 
 “อยู่ดีๆ ลูกกูก็ตัวร้อนเหมือนไม่สบายเลยวะ!”
 
“ลูก?? อะไรว่ะ”
 
“เออ!! แปะเปี๊ยตัวร้อนมากเลยกูไม่น่าพาเขามาโรงเรียนเลยเว่ยยย ” 
ไอ้เบียร์ทำหน้าเศร้าพลางดึงแขนผมให้มาดูลูกชายของมัน เดี๋ยวนะเกิดเรื่องอะไรขึ้นเนี่ย ไอ้เบียร์มันไปมีลูกตอนไหนกันหรือว่ามันทำผู้หญิงท้อง  
 
 เฮ่ยยย!  
 
เฮ่ยยยยยยยยยยยยย!!!
 
 แต่ทว่าภาพตรงหน้าของผมคือลูกหมา อายุประมาณ 1-2 ปี พันธุ์ บีเกิ้ล นอนหลับอยู่ในเบาะรถด้านหลังรถ
 
“หมา คือ ลูกที่มึงพูดถึงเหรอ? ” ผมทำหน้าเรียบนิ่งหันไปที่พวกมันสองคนที่กำลังยืนร้องไห้
 
“ใช่ๆ มึงพาไปหาหมอทีดิว่ะ ” ไอ้เบียร์เอื้อมมือมาจับมือผม ส่วนแชมเปญก็พยักหน้า
 
“ไปได้ไงงง คาบต่อไปอาร์จารย์ติวสอบน่ะเว่ยยย!”
 
“เดี๋ยวกูเก็บชีทไว้ให้พวกมึงเอง มึงพาไอ้เบียร์ไปหาหมอเถอะ ดูมันทำหน้าจะร้องไห้แล้วเนี่ย” แชมเปญว่าพลางตบไหล่ไปที่เบียร์เบาๆ
 
“เฮ้อ  กูอุส่ารีบมานึกว่าพวกมึงเป็นไรกัน  สุดท้ายให้พาหมาไปหาหมอ  ” ผมถอนหายใจเบาๆ นึกว่าเกิดเรื่องใหญ่โต สุดท้าย…..มาดูผู้ชายอกสามศอกร้องไห้อ้อนวอนจะเป็นจะตายเพราะหมาไม่สบายย    = 0 =
 
“น๊า นะน่ะ น๊า ” เบียร์กอดแขนผมแน่กว่าเดิมพลางทำตาปริบๆ โอ๊ยย สยองงเว่ยย
 
“เออๆ โอเคคคคคคค” ผมเดินอ้อมไปตรงประตูที่นั่งข้างคนขับ ส่วนไอ้เบียร์ก็หันไปยิ้มให้แชมเปญแล้วเปิดประตูรถนั่งประจำที่คนขับ
 
 
 
 
                      --------------- 30 นาทีต่อมา ----------------------------------
 
 
   ผมพาแปะเปี๊ยลูกชายสุดที่รักของเบียร์ไปซักประวัติและอาการเบื้องต้นก่อนจะมานั่งรอคิวตรวจอยู่หน้าห้องตรวจ 2
 
“ซิลวาเดี๋ยวกูมาน่ะ กูปวดขี้ว่ะ” เบียร์พูดพลางเอาลูกชายมันมานอนที่ตักของผมทันที
 
“อ่าวว เดี๋ยวก็ถึงคิวเราแล้วนะเว่ย ”
 
“หรือมึงจะให้กูขี้ตรงนี้ล่ะ!!” มันแขวะผมเสร็จก็เดินออกไปทันที เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลเอกชนเลยไม่ต้องรอนาน ผมจึงลุกขึ้นเดินไปห้องตรวจ  
 
 
“น้องแปะเปี๊ยเป็นไรมาครับ  ”
 
 ผมยืนตะลึงตรงหน้าหมอ ร่างสูงโปร่งที่ใส่เสื้อกาวน์สีขาว ผมสีเทา ตาสีอเมทิสต์ ใบหน้าคมคายกำลังเตรียมใส่ถุงมืออยู่ เฮ่ยย นี่มันนน เทรย์เวอร์
 
“น้องเป็นไรมาครับ  นี่นายอีกแล้วเหรอ?”  
 
“เทรย์เวอร์”
 
“โชคร้าย  ทั้งวันเลยสิน่ะ ” หมอทำหน้าเซ็งใส่ผม ผมวางน้องหมาลงบนเตียงตรวจก่อนจะมองหน้าคนที่หาเรื่องผม   สงบสติอารมณ์ไว้ไอ้ซินวาเนอร์ตอนนี้นายต้องทำตามแผนการที่เตรียมไว้นะ คิดได้ดังนั้นผมก็ส่งยิ้มหวานไปให้หมอทันที
 
“ปากร้ายแบบนี้ ส่งสัยอยากโดนกัดปากอีกสินะครับ ^^ ”
 
“อยากตายหรือไงห๊ะ!”
 
“ผมล้อเล่นนะครับบหมอสุดหล่อ ^^”
 
“….”  เขาทำตาขวางใส่ผมแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ฮ่าๆ ถ้าไม่ใช่อยู่ที่โรงพยาบาลเขาคงด่าผมแล้วละฮ่ะ
 
“แปะเปี๊ยมีอาการน้ำมูกไหล ไม่ค่อยทานข้าว จะมีอาการไอ  ” ผมพูดพลางลูกหัวเจ้าตัวเล็กเบาๆ
    เขาเห็นผมเปลี่ยนเรื่องกระทันหันก็ทำหน้างงๆ ก่อนจะลงมือตรวจน้องหมาอย่างจริงจัง ผมมองเขาอย่างเงียบๆ
 
อืมม!
 
ผมไม่เคยเห็นเขาใส่เสื้อหมอแล้วก็ทำหน้ายิ้มแย้มเวลาพูดกับน้องหมาเลย  ถึงผมรู้อยู่แหละว่าเทรย์เวอร์เรียนสัตวแพทย์ (รูมเมทเป็นคนเล่าเรื่องให้ฟัง) แต่ไม่คิดว่าจะได้เจอเขาอีกครั้งกับบรรยากาศแบบนี้ เวลาเขาใส่ใจสัตว์เนี่ยยยยยยย 0=0  ดูมีเสน่ห์ น่ารักดีแฮ๊ะ ^_^ เฮ่ยยย      
 
 
        ‘ตึกตัก ๆ’   หัวใจบ้านี่ก็เลิกดังสักทีเว่ยยยย
 
“ลูกชายคุณไม่เป็นไรมากนะ” เขาเงยหน้ามองผมก่อนจะขำเบาๆเมื่อเห็นผมทำหน้างงๆ  “เป็นหวัดนะ  จะมีอาการไอ สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อ ทั้งเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย อาจติดเชื้ออย่างใดอย่างหนึ่ง หรือติดเชื้อร่วมกันก็ได้” เขาว่าพลางตรวจร่างกาย ฟังเสียงปอดแปะเปี๊ย  “เดี๋ยวหมอฉีดยาและให้ยากลับไปป้อนที่บ้านน่ะครับ” เขาเงยหลังจากตรวจเสร็จและยิ้ม ใช่ ยิ้มค้างแล้วก็ทำเป็นกลบเกลื่อน ฮ่าๆ สงสัยจะลืมตัวว่าอยู่ต่อหน้าผม
 
“เสร็จแล้ว” ผมอุ้มน้องหมาแล้วก็หันหลังเพื่อเดินออกจากห้อง แต่ก็ต้องสะดุดกึกกับคำพูดของเทรย์เวอร์เข้าอย่างจัง ผมหันไปหาเขา
 
“เฮ้อออ  ขอบคุณสักคำไม่มี เนี่ยน๊าคนเรา” เขายืนกอดอกพลางส่ายหน้าเบาๆ
 
“คุณนี่มันกวนประสาทจริงๆเลยน่ะ ”  
 
“ขอบคุณหรือยัง”
 
“ไม่!  แต่เปลี่ยนจากการขอบคุณเป็นให้ไลน์แทนได้นะครับคุณหมอ” ผมเดินเข้าไปหาเขาพลางยักคิ้วกวนๆ อ่อยเยอะๆๆ คิดเอาไว้เว่ยยยไอ้ซินวา
 
“ประสาท!!”
 
“คนมันชอบนี่น๊า ก็ต้องจีบดิครับ ^^”
 
"เชิญคนไข้ออกไปได้เเล้วครับ"
 
"นี่คุณจะคุยดีๆกับผมสักครั้งไม่ได้เลยเหรอ?"
 
"ไม่จำเป็น!"
 
"สงสัยจะไม่ประทับใจจูบคราวก่อนถึงได้อารมณ์เสีย"
 
“ผมว่านอกจากจะพาหมามาหาหมอ คุณน่าจะไปเช็คประสาทบ้างก้ดีนะ ใกล้บ้าเต็มทน” 
 
 
“ถึงบ้า ก็บ้ารักนะครับบบบบบ” การเห็นใบหน้าหล่อเหลานั้นหงุดหงิดได้นี้ทำให้ผมมีความสุขจังแฮะ  ผมคิดเเล้วเผลอยิ้มกว้างออกมา ยิ้มจนเห็นลักยิ้ม “งั้นผมไปก่อนนะครับ ”
 
“เชิญ”  เขาหันหลังให้ทันที ฮ่าๆๆ ยังไงเราก็ต้องกันอีกนั้นแหละครับคุณหมออ คุณหนีผมไม่พ้นหรอกก!! 0++++0
 
 
 
 
 
 
        “เสร็จแล้วเหรอวะ เป็นไงบ้าง”   
ไอ้เบียร์ทักผมทันทีที่เห็นผมเดินออกมาจากห้องตรวจแล้วอุ้มแปะเปี๊อไว้ในอ้อมอกทันที
 
“ไม่เป็นไรมากหรอก เดี๋ยวรอรับยาแล้วก็กลับได้” ผมหันไปบอกมัน “มึงไปรอที่รถก่อนเลยเดี๋ยวกูรับยาเอง” มันพยักหน้าแล้วเดินจากไป
 
ผมเดินตรงไปที่เคาร์เตอร์แล้วส่งยิ้มหวานสุดๆ ที่สาวๆเห็นแล้วต้องหลงรักหัวปักหัวปำให้คุณหมอสุดสวยที่นั่งอยู่
 
“ขอโทษนะครับ พอดีผมขอเบอร์โทรติดต่อคุณหมอเทรย์เวอร์ได้ไหมครับ ”
 
“ นี่ค่ะ ” คุณหมอสุดสวยยื่นนามบัตรให้ผมอย่างเขินๆ
 
“ขอบคุณนะครับบบบบบบบบบบบบ ^__^ ”   ผมก้มลงมองดูนามบัตรที่มีเบอร์ติดต่อก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมากดบันทึกเบอร์โทรและไม่ลืมที่จะส่งข้อความไปจีบคุณหมอทันที
 
 
 
 
          ‘ครั้งแรกที่เราเจอกันมันเป็นเรื่องบังเอิญ  ครั้งที่สองมันเป็นพรหมลิขิต
                              แต่ถ้ามีครั้งต่อไปอีก. . . เราเป็นแฟนกันนะ
                                             From… Silvaner  "’
 
 
ฮ่าๆ ผมหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อนึกถึงใบหน้าสุดหล่อทำหน้าตกใจ ผมก็เผลอยิ้มออกมาทันที  แหม๋ๆๆ ใครๆก็อยากได้อยู่แล้ววล่ะคร๊าฟฟฟ
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา