[Lips's Blood Series] Charm Blood

8.0

เขียนโดย SunSpot

วันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 14.35 น.

  7 chapter
  7 วิจารณ์
  7,782 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 17.22 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) 재원Charm Blood 6

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

재원Charm Blood  6

 

@คอนโด

“นายน่ะอยู่เฉยๆก็พอเดี๋ยวฉันจัดการเองเข้าใจไหม“ ฉันบอกเขาไป

            “แล้วผมจะไว้ใจเธอได้ไงหะ!? “ หมอนั่นพูดพร้อมทำหน้าไม่พอใจใส่ฉัน

            “เฮ้ยใจๆหน่อย แค่นี้ทำมาเป็นกลัวเหรอ“ ฉันลองแหย่เค้าไป

            “ใครกลัว เธอก็แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ…ที่เป็นแวมไพร์“ เขาเบาเสียงลงเมื่อพูดคำว่าแวมไพร์

            “ไม่กลัวก็นั่งเฉยๆสิ ก็รู้แล้วนี่ว่าฉันเป็นอะไรยังจะกล้าหือเหรอ?? “

           

          “ไม่ก็ได้ รีบๆทำล่ะ“ เขาบอกก่อนที่จะนั่งนิ่งตามที่ฉันบอก เหอะทำมาเป็นพูดดีว่าไม่กลัวสุดท้ายก็กลัวเหมือนคนอื่นนั่นแหละน่า “นี่ผมไม่ได้กลัวหรอกนะ แค่….ถ้าให้ผมออกไปเจอผู้คนสภาพแบบนี้คงแปลกใช่ไหมละ ผมก็แค่ไม่อยากให้เสียชื่อผู้จัดการคนใหม่ของคิมแจวอนก็เท่านั้นแหละ อย่าเข้าใจผิดล่ะๆ“ เขาพูดออกมาพร้อมมองหน้าฉันอย่างตัดพ้อ ทำอย่างกับได้ยินความคิดฉันงั้นแหละ

            “อืม เอาที่สบายใจเถอะ มารีบๆทำให้จบได้แล้ว“ ฉันว่าไปพลางยกมือขึ้นประคองใบหน้าคมของเขาก่อนที่จะประทับจูบลงไป เขาทำท่าตกใจเล็กน้อยก่อนที่จะจูบตอบฉันกลับมาจูบนั่นช่างหอมหวานและนุ่มละมุนจนทำให้ขาฉันแทบหมดแรง

            “อื้ม….อือ“

ฉันละออกจากปากของเขาก่อนที่จะลืมตาแล้วก็ต้องพบกับสิ่งที่ทำให้ฉันตกใจสุดชีวิต

           

            “นี่เธอหลอกจูบผมเหรอ!! เป็นสาวเป็นนางมาทำแบบนี้ได้ยังไงo-o“ เขาพูดออกมาด้วยหน้าที่แดงระเรื่อย แต่นั่นไม่ใช่จุดที่ทำให้ฉันตกใจหรอกนะแต่มันอยู่ตรงที่……เขาไม่สลบไปน่ะสิ มีเพียงแค่แผลที่ปากของเขาหายไปและถ้าเขาไม่สลบนั่นหมายความว่าความทรงจำก็ยังคงอยู่….

            “หัดไปส่องกระจกดูบ้างนะ ฉันไม่ได้พิศวาสนายขนาดนั้นหรอกแล้วก็ดูด้วยแผลนายหายแล้ว- -“ ฉันพูดออกไปหน้าตาเฉย แต่ถึงยังงั้นในหัวฉันตอนนี้ก็มีคำถามมากมาย เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้จริงงั้นเหรอ ฉันไม่สามารถลบความทรงจำได้เนี่ยนะ??

            “ไหน อย่าให้รู้นะว่าเธอหลอกฉันน่ะ“ เขาพูดก่อนที่จะเดินไปส่องกระจกที่ห้องน้ำ

            “เหอะ…..“

            “โอ้ จริงด้วยมันหายไปแล้ว นี่เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อเลยนะเนี่ย“

           

           “งั้นก็ไม่ต้องเชื่อสิ“ ฉันตอบออกไปก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำเตรียมตัวจะไปอาบน้ำ

            “นี่….เธอจะทำอะไร“ เขาถามออกมาอย่างตะกุกตะกัก

            “ทำอะไรล่ะก็ไปอาบน้ำไง“ ฉันตอบไป

            “คือไอ้จะไปอาบน้ำน่ะรู้แต่ทำไม่ต้องมาถอดเสื้อข้างนอกด้วยเล่า!!!!!ดึงเสื้อลงเดี๋ยว              นี้!!!“  หมอนั่นตะโกนใส่ฉันขณะที่ยังเอามือปิดตาอยู่

            “นายนี่มันเด็กจริงๆ เข้าใจแล้วจะไปถอดข้างในให้ก็แล้วกัน“ ฉันบอกก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปแต่ก็ยังได้ยินเสียงหมอนั่นบ่นอยู่

            “ผู้หญิงอะไรไม่รักนวลสงวนตัวเลย -^-“

.

.

.

.

แกร๊ก

เห้อ….ได้อาบน้ำนี่มันดีจริงๆ รู้สึกโล่งสบายเลย วันนี้ก็หยุดทั้งวันด้วยสินะงั้นฉันคงต้องไปหาคำตอบหน่อยแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับพลังของฉันทำไมถึงลบความทรงจำไม่ได้กันนะ

            “อ้าว นี่นายยังอยู่ อยู่อีกเหรอ?? “ ฉันถามคนตรงหน้าไป

            “ก็วันนี้ผมจะอยู่กันเธอทั้งวันไง ลืมแล้ว?? “

            “อยู่ก็อยู่ไป ฉันจะออกไปธุระแล้วบาย“ ฉันว่าพร้อมกับหยิบกุญแจรถออกไป ถึงพวกเราจะวิ่งเร็วแต่บางทีก็ต้องใช้เครื่องทุ่นแรงกันบ้างละนะ ตอนนี้ฉันคิดแค่ว่าจะต้องรู้ให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตัวฉันกันแน่ และมีเพียงคนเดียวที่รู้ก็คือพ่อของฉันเอง อันที่จริงแล้วในโลกแวมำพร์ก็มีการแบ่งชนชั้นเหมือนกัน แบ่งตามพลังละนะ

ซึ่งตำแหน่งที่สูงสุดก็คือ

 

-Duke ดยุค  ตำแหน่งทางฝ่ายหญิง คือ Duchess ดัชเชส 

-Marquis มาร์ควิส ตำแหน่งฝ่ายหญิงคือ Marchioness มาร์ชั่นเนส  -Earl เอิร์ล   ฝ่ายหญิง คือ Countessเคาน์เตส 

-Baron บารอน ฝ่ายหญิง คือ Baroness บารอนเนส เป็นตำแหน่งที่ต่ำที่สุด

 

แวมไพร์ได้มีการแบ่งชนชั้นเหมือนกับในการแบ่งบรรดาศักดิ์ของพวกขุนนางนั่นแหละซึ่งพวกเราแบ่งตามพลัง ตำแหน่งบารอนนั้นส่วนใหญ่จะเป็นพวกแวมไพร์ที่กลายพันธ์หรือนั่นก็คือพวกมนุษย์ที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นแวมไพร์นั่นเอง แต่ส่วนชั้นนั้นก็ยังอยู่ในชั้นมาร์ชั่นเนสล่ะนะ ส่วนพวกคาลอสก็เป็นมาร์ควิส ยกเว้นเทเลอร์หมอนั่นน่ะเคยเป็นบารอนมาก่อนแต่ด้วยอะไรก็ไม่รู้หมอนั่นจึงสามารถมาอยู่ในชั้นมาร์ควิสได้ แต่ก็ช่างเถอะพ่อของชั้นก็คือดยุค แน่นอนว่าเขาจะต้องรู้แน่นอนว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับฉันกันแน่

 

@คฤหาสน์

 

          “ยินดีต้อนรับกลับค่ะคุณหนู“ แมรี่สาวใช้ที่คฤหาสน์กล่าวต้อนรับฉัน นานแล้วสินะที่ไม่ได้กลับมาที่นี่ เฮ้อถ้าไม่จำเป็นฉันก็ไม่อยากมาหรอกนะเพราะมันทำให้นึกถึงแต่เรื่องเก่าๆ

          “ท่านพ่อละ? “ ฉันถามออกไป

          “อยู่ที่ห้องทำงานค่ะ ให้ดิฉันขึ้นไปบอกท่านไหมคะว่าคุณหนูกลับมาแล้ว“ แมรี่เอ่ยขึ้น

          “ไม่ต้อง ฉันจะขึ้นไปหาท่านพ่อเลยพอดีรีบน่ะ“ ฉันบอกก่อนที่จะเดินขึ้นไปที่ห้องทำงานของท่านพ่อ

 

ก๊อกๆๆ

 

            “ใครน่ะ?? “ เสียงชายคนหนึ่งดังขึ้น และแน่นอนฉันคุ้นเคยกับเสียงนี้เป็นอย่างดี

            “ลูกเองท่านพ่อ พอดีมีเรื่องอยากจะมาปรึกษา“

            “อ้าว แกเองรึลิอาน่า เข้ามาสิ“ ท่านพ่อพูดด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉย เฮ้อต้องอีกที่100ปีนะพวกเราถึงจะเข้ากันได้สักที

            “เรียกหนูว่าแจวอนเถอะค่ะ นั่นคือชื่อหนู“ ฉันบอกออกไป อันที่จริงแล้วชื่อลิอาน่านั้น ท่านพ่อเป็นคนตั้งให้ส่วนชื่อแจวอนนั้นท่านแม่ของฉันเป็นคนตั้งให้ ท่านแม่ชอบประเทศเกาหลีมากและเคยบอกกับฉันว่าอยากให้ฉันได้ไปลองใช้ชีวิตที่นั่นดู ก็เลยเป็นเหตุผลที่ฉันทำงานที่เกาหลีล่ะนะ แม้ตอนนี้ท่านจะจากไปนานแล้ว….

          

            “มีอะไรก็รีบพูดมาเถอะ แกคงไม่ได้จะมาเพื่อมาทะเลาะกับฉันหรอกใช่ไหม“

            “ก็ไม่ได้กะจะมาชวนทะเลาะหรอกนะคะ คือพักนี้มีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นกับลูก เช่นแบบไม่สามารถลบความทรงจำได้ หิวบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้น ท่านพ่อพอจะรู้ไหมว่ามันเกิดมาจากอะไร“เมื่อฉันพูดจบท่านพ่อก็ทำหน้านิ่งไปสักพักก่อนจะพูดออกมา

            “เชื้อแม่แกคงออกแล้วสินะ…..“

            “ท่านพ่อหมายความว่าอะไร เชื้ออะไรของท่านแม่?? “ ฉันถามออกไปอย่างสงสัย ท่านแม่เกี่ยวอะไรด้วย

            “แกก็รู้ใช่ไหมว่าแวมไพร์ไม่ได้มีเผ่าเดียว ทั้งเผ่าเราที่ไม่ทำร้ายมนุษย์ และเผ่าที่จ้องจะฆ่ามนุษย์“ ท่านพ่อเอ่ยมาอย่างแผ่วเบา

           

           “ลูกรู้ แต่มันหมายความว่ายังไง“

            “แม่ของแกไม่ได้มีต้นกำเนิดมาจากเผ่าเรา แต่นางมาจากเผ่าอันตรายนั่นแม้จะเปลี่ยนชาติกำเนิดไม่ได้ แต่แม่ของแกก็พยายามที่จะเปลี่ยนตัวเองหักห้ามสัญชาติญาณฆ่ามนุษย์ที่รุนแรงของเผ่านั้นเอาไว้ และสุดท้ายแม่แกก็หนีออกมาจากเผ่านั้นในที่สุด“

            “……….“ ตอนนี้ฉันมีคำถามนับล้าน นี่มันเรื่องอะไรกันถ้างั้นก็หมายความว่าสัญชาตญาณสัตว์ร้ายแบบนั้นอยู่ในตัวฉันงั้นเหรอ

          “ฉันไม่ได้บอกแกเพราะคิดว่าแกคงรับไม่ได้กับเรื่องนี้ แต่ฟังจากที่แกเล่าแล้ว สัญชาตญาณนั้นคงกำลังเริ่มปะทุขึ้นมา ที่แกบอกว่ารู้สึกหิวบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้นก็คงเป็นเพราะสาเหตุนี้“

 

          “แล้วที่ลูกลบความทรงจำไม่ได้ล่ะ?? “ ฉันถามออกไปอย่างสงสัย

          “ที่ลบความทรงจำไม่ได้ก็เพราะเผ่าฆ่าคนไม่มีความสามารถในการลบความทรงจำไงล่ะ พวกนั้นดูดเลือดเหยื่อจนตายจึงไม่จำเป็นต้องมีความสารถที่เอาไว้ปกปิดซ่อนตัวแบบเรา“

            “นี่มันอะไรกัน แล้วลูกควรจะทำยังไงละ มีวิธีแก้ไหม!? “ ฉันถามออกไป ถ้าเกิดฉันฆ่าคนขึ้นมาล่ะ…..            “ก็คงมีแต่ตัวแก ที่ต้องหักห้ามสัญชาตญาณพวกนั้นเอาเอง เพราะเรื่องแบบนี้น้อยคนนักที่จะเจอ เลยไม่มีข้อมูลอะไรที่เกี่ยวกับวิธีแก้หรอก หรือบางที……“

            “บางทีอะไรท่านพ่อ!!ไม่ว่าวิธีไหนลูกก็จะทำ ถ้ามันทำให้เรื่องบ้าๆนี่มันหายไป“ ฉันเริ่มหงุดหงิดแล้ว เรื่องบ้าๆพวกนี้มันไม่ควรเกิดขึ้นกับฉันสิ

          

            “ช่างเถอะ เอาเป็นว่าช่วงนี้แกต้องอยู่ห่างจากพวกมนุษย์ไว้ ไม่งั้นแกอาจจะพลั้งมือฆ่าคนโดยที่แกไม่รู้ตัวก็ได้“ ท่านพ่อพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นและมีความบังคับอยู่ในนั้น

            “แล้วงานของลูกล่ะ ตอนนี้งานพวกนั้นมันหยุดไม่ได้นะ“ ฉันพูดออกไป ใช่งานพวกนั้นเป็นงานที่ฉันรักจะให้มันนั่งๆนอนๆเฉยๆไม่ได้หรอก

            “เฮ้อ แกนี่มันดื้อจริงๆ ฉันคิดไว้แล้วว่าแกต้องเป็นแบบนี้ เอานี่ไป“ ท่านพ่อส่งถุงที่ในนั้นมียามาให้

            “มันคือยาอะไรน่ะท่านพ่อ“ ฉันถามออกไป

            “ยาที่แม่เคยใช้ตอนที่กำลังเริ่มระงับสัญชาตญาณนั่นใหม่ๆ คงพอช่วยได้ถ้าหมดก็มาเอาที่ฉัน ฉันจะเตรียมไว้ให้แกละกัน แต่ว่า…“

            “แต่อะไรอีกล่ะท่านพ่อ?? “ ฉันถามออกไปอย่างุนงง

          

            “ยานั่นแกกินเองไม่ได้หรอก ต้องกินผ่านจุดที่แกดูดเลือด“

            “หา??หมายถึงต้องให้คนอื่นมาป้อนยาลูกโดยการจูบอ่ะนะ!? “ ทำไมยานี่มันต้องมีอะไรที่พิศดารแบบนี้ละเนี่ย

            “ฉันก็ทำให้แม่แกเหมือนกันนั่นแหละ -//-“ ท่านพ่อพูดพร้อมกับหน้าขึ้นสีนิดๆ

            “เดี๋ยวนะท่านพ่อนี่มันใช่เวลามาเขินเหรอ = =“ ฉันบอกออกไปอย่างเซ็งๆ

            “เออน่า อย่าลืมซะละ วิธีกินน่ะ“

         

             “รู้แล้วล่ะ ขอบคุณมากนะท่านพ่อ ตอนนี้ลูกต้องไปแล้วละ“ ฉันบอกก่อนจะลุกขึ้นเมื่อเหลือบมองนาฬิกาก็พบว่ามันเย็นมากแล้ว

            “เอาเถอะ ยังไงก็อยู่ให้ห่างจากเลือดมนุษย์มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เข้าใจไหม??“ ท่านพ่อพูดย้ำอีกรอบ ไอ้เราก็คนทำงานมนสังคมมนุษย์นะ จะให้อยู่ห่างมันก็เป็นเรื่องยากจริงๆนั่นแหละนะ

            “อืม……….“ ฉันตอบท่านไปเท่านั้นก่อนจะเดินออกมาจากคฤหาสน์

 

 ----------------------------------------------------------

SUNSPOT TALK

อันยองทุกคนน สนุกกันไหมเอ่ย ถ้าสนุกก็อย่าลืมคอมเมนท์ทิ้งไว้เด้อ มาคุยกับไรท์กันไรท์เหงา55555

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา