สยบรักเมียบำเรอ

7.2

เขียนโดย Phaky

วันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 15.23 น.

  41 ตอน
  3 วิจารณ์
  36.05K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 มกราคม พ.ศ. 2561 13.12 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

18) ขวางหูขวางตา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก

 
 
 
“เอาหมวกนี่ไปใส่นะคะหนูอัญชัน นี่ยาดมเอาติดตัวไว้เผื่อเวียนหัว ถ้าร้อนไม่ไหวก็นั่งพักนะคะ อย่าฝืน ถ้ารู้สึกไม่สบายให้…”
“จะล่ำลากันอีกนานไหม ได้เวลาเข้างานแล้ว”
เสียงเข้มห้วนตะคอกจากด้านหลังทำเอาป้าเนียมที่กำลังสั่งเสียช่ออัญชันก่อนออกไปทำงานในไร่ตอนเช้าสะดุ้งโหยง แม้แต่ช่ออัญชันเองยังผวาจนไหล่โยน ยิ่งเมื่อเงยหน้าขึ้นแล้วเห็นอาชาวินยืนกอดอกทำหน้าบึ้งตึงอยู่ด้านหลังของป้าเนียมหญิงสาวก็ยิ่งหวาดกลัวจนมือบางที่ป้าเนียมจับอยู่สั่นระริก เนื้อตัวเย็นเฉียบจนน่าเป็นห่วง
ก่อนหน้านี้ที่ช่ออัญชันไม่สบาย หญิงสาวได้รับอนุญาตให้หยุดงานจนกว่าไข้จะหายเพราะเป็นคำขาดของคุณหมอปาล์มไม่ใช่เพราะความเห็นใจจากอาชาวินแต่อย่างใด ใช้เวลานานถึงสี่วันอาการของช่ออัญชันจึงดีขึ้น เดินเหินได้สะดวกและไม่มีอาการหน้ามืดเหมือนวันแรกๆ วันนี้หญิงสาวจึงเตรียมตัวมารวมกลุ่มอยู่หน้าโรงอาหารเพื่อเข้าไร่เฉกเช่นคนงานคนหนึ่ง ถึงจะพยายามยืนยันว่าเธอหายดีแล้ว แต่ป้าเนียมก็ยังเป็นห่วง คุณป้าใจดีเตรียมหยูกยามาให้พร้อมหมวกสานสีแสบตาใบโตเอาไว้กันแสงแดด แถมยังพร่ำเตือนให้ดูแลตัวเองอีกมายมายด้วยความเป็นห่วง
“ไปขึ้นรถสิ! คนอื่นเขาขึ้นไปหมดแล้วไม่เห็นรึไง ชักช้าเสียเวลาทำงานทำการชะมัด”
“ขอโทษค่ะ อัญไปก่อนนะคะป้าเนียม”
ช่ออัญชันก้มใบหน้าซีดเผือดมองพื้นพลางเอ่ยขอโทษเสียงแผ่วด้วยความรู้สึกผิด หญิงสาวยกหมวกขึ้นสวมบนศีรษะ ผูกเชือกรัดที่ปลายคางกันหลุด แล้วรีบเดินจ้ำอ้าวไปยังรถกระบะที่มาจอดรับคนงานเข้าไปในไร่ เมื่อขึ้นไปบนรถก็แทรกตัวไปยืนอยู่ข้างๆรถไม่กล้าเงยหน้ามองสบตาใคร พอรู้มาบ้างว่าข่าวลือเรื่องที่เธอตั้งใจเข้ามาจับอาชาวินทำสามีกระฉ่อนไปทั่วไร่ ไหนจะเรื่องที่เธอถูกนายน้อยของไร่เขี่ยทิ้งแล้วพาผู้หญิงคนใหม่เข้ามาเหยียบหัวถึงในบ้าน ทำให้มีสายตาหลายคู่มองมาที่เธอด้วยความหมั่นไส้ สมเพช บ้างก็รังเกียจ
เหมือนอย่างตอนนี้ที่มีสาวๆสามคนซึ่งน่าจะอยู่กลุ่มเดียวกันกำลังมองจ้องมาที่เธออย่างต้องการให้รู้ไปเลยว่าไม่ชอบขี้หน้า เรียวปากของผู้หญิงทั้งสามคนบิดเบ้ดูแคลน ดวงตาทั้งสามคู่เหยียดมองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แต่ช่ออัญชันไม่รู้ว่าทั้งสามสาวเกลียดขี้หน้าเธอด้วยเรื่องอะไร หญิงสาวจึงเลือกที่จะอยู่เฉยๆไม่เข้าไปตอแยเพราะไม่อยากมีปัญหา โดยหารู้ไม่ว่าการที่ช่ออัญชันนิ่งเฉยไม่สนใจยิ่งกระตุ้นให้คนงานสาวทั้งสามเกิดความไม่พอใจเพราะคิดว่าช่ออัญชันทำเชิดหยิ่งใส่พวกตน
“อาชาขา จะไปทำงานแล้วเหรอคะ”
“ครับโรส ว่าไงครับ ทำตัวน่ารักแบบนี้ จะอ้อนเอาอะไรหรือเปล่า”
เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยถามเมื่อสองแขนเรียวของเรนุกาโอบกอดเขาจากทางด้านหลังระหว่างที่รอคนงานขึ้นไปบนรถกระบะให้เรียบร้อย ปลายคางมนเกยไว้บนไหล่กว้างทำท่าออดอ้อนอาชาวินไม่อายสายตาคนงานหลายสิบคนที่มองอยู่ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีช่ออัญชันรวมอยู่ด้วย คนงานทุกคนต่างเห็นเหมือนกันว่าอาชาวินกำลังลูบแก้มเนียนของเรนุกาอย่างเอ็นดู สองหนุ่มยืนคลอเคลียกันกระหนุงกระหนิงเหมือนคู่รักที่กำลังหวานชื่น นั่นยิ่งตอกย้ำให้คนงานในไร่รู้ว่าช่ออัญชันก็แค่ผู้หญิงที่อาชาวินไม่ต้องการจึงไม่มีใครคิดจะให้ความนอบน้อม
“ไม่นึกอยากได้อะไรเลยค่ะ โรสแค่อยากมาส่งอาชาก่อนไปทำงาน”
“ขอบคุณครับ ผมกำลังจะเข้าไร่แล้ว โรสขึ้นบ้านเถอะ เดี๋ยวแดดแรงจะไม่สบาย”
“เลิกงานแล้วกลับบ้านเร็วๆนะคะ โรสคิดถึง”
“ครับผม ถ้าไม่ติดว่าต้องส่งผลไม้ให้แม่ค้า ผมคงไม่ปล่อยให้โรสอยู่คนเดียวเย็นนี้ผมจะพาไปทานข้าวนอกบ้าน แต่งตัวสวยๆรอผมนะครับ”
“อาชาของโรสน่ารักที่สุดเลย จุ๊บตั้งใจทำงานนะคะ”
เรนุกายิ้มหวานเมื่อได้ยินที่อาชาวินบอก เพราะเธอรู้สึกเบื่อเหลือเกินที่ต้องมาอยู่ในไร่ไร้แสงสี มองไปทางไหนก็มีแต่ต้นไม้น่าเบื่อกับคนงานแต่งตัวสกปรกแต่ก็ต้องเก็อาการ นี่หากไม่ติดว่าอาชาวินรวยมาก เธอคงไม่ยอมเก็บกระเป๋าตามมาอยู่กับเขาง่ายๆ
“เจอกันตอนเย็นครับ”
ล่ำลาด้วยการหอมแก้มสลับกันไปมาเหมือนตั้งใจโชว์หวานให้ใครสักคนประจักษ์ จากนั้นอาชาวินจึงยกหมวกปีกกว้างขึ้นสวมและขับรถกระบะคู่ใจตามหลังรถกระบะของคนงานเข้ามาในไร่ ซึ่งเป็นไร่ที่ช่ออัญชันเป็นลมล้มพับไปเมื่อหลายวันก่อน งานวันนี้ไม่ใช่การถอนหญ้าเถาวัลย์กลิ่นฉุน เพราะวัชพืชพวกนั้นถูกคนงานใช้สารเคมีฉีดจนตายไปหมดแล้วไม่ต้องเสียเวลานั่งถอนอย่างที่อาชาวินสั่งให้เธอทำ แต่งานที่ต้องทำวันนี้คือใส่ปุ๋ยขี้แพะ บนรถหกล้ออีกคันที่มาถึงไร่ก่อนหน้ามีกระสอบปุ๋ยขี้แพะกลิ่นฉุนหลายร้อยกระสอบ คนงานแต่ละคนต้องแบกกระสอบปุ๋ยไปเทในแปลงที่ไถเรียบร้อยเพื่อสร้างปุ๋ยให้ดิน ซึ่งช่ออัญชันก็ไม่ได้รับการยกเว้นแม้จะตัวเล็กนิดเดียวและเพิ่งหายไข้ หรือกระทั่งมีนามสกุลพ่วงท้ายชื่อว่า แมคคานน์ หญิงสาวก็ต้องทำเหมือนคนอื่นๆ
“ยกไหวไหม เดี๋ยวพี่ยกไปวางไว้ให้ แล้วเธอเป็นคนตักหว่านก็ได้”
“ขอบคุณมากค่ะ”
แต่ด้วยความที่ความสูงของช่ออัญชันมีจำกัด และกระสอบปุ๋ยมีขนาดใหญ่ ถึงแม้มันจะไม่หนักมากเท่าปุ๋ยเคมี แต่การที่ผู้หญิงตัวเล็กๆเตี้ยๆคนหนึ่งต้องแบกกระสอบปุ๋ยพาดบ่าก็เป็นเรื่องที่ดูจะยากเกินไปหน่อย ชิต คนชายที่อายุน่าจะมากกว่าช่ออัญชันสักสี่ห้าปีท่าทางเป็นมิตรจึงขันอาสาด้วยความสงสาร เพราะเท่าที่เห็น ดูเหมือนว่าหญิงสาวกำลังจะถูกกระสอบปุ๋ยทับซะมากกว่าที่จะยกมันขึ้น
“สบายไปไหมแม่คุณ!” แค่นี้ทำเป็นยกไม่ขึ้นต้องอ่อยให้ผู้ชายมายกให้!
ช่วยกันขนไปได้สักสี่ห้ารอบ โดยมีชิตคนงานรุ่นพี่ใจดีเป็นคนแบกปุ๋ย ส่วนช่ออัญชันเป็นคนแก้มัดปากถุงแล้วใช้ที่ตักตักขี้แพะหว่านไปบนแปลงดินที่จะใช้เพาะปลูก เสียงเข้มห้วนที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นจนปลายประสาทในร่างกายกระตุกเฮือกเรียกสายตาของช่ออัญชันกับชิตให้หันไปมองตามเสียงและก็เจอกับอาชาวินที่ยืนกอดอกมองอยู่ ไม่เว้นแม้กระทั่งคนงานคนอื่นๆที่อยู่ใกล้เคียงก็ยังแอบเหล่มองด้วยความอยากรู้อยากเห็นเช่นกันว่านายน้อยของพวกเขาเป็นอะไร ทำไมชายหนุ่มถึงได้ดูเหมือนคนไม่สบอารมณ์เช่นนั้น
“จะไปไหน!”
“ไปยกปุ๋ยค่ะ”
ทำไมจะไม่รู้ว่าอาชาวินต้องการต่อว่าเธอ ช่ออัญชันไม่อยากมีเรื่องให้ถูกว่ามากไปกว่านี้เพราะกลัวชิตจะถูกดึงเข้ามาเดือดร้อนด้วย หญิงสาวจึงตัดสินใจเดินไปยกกระสอบปุ๋ยด้วยตัวเองเป็นการตัดปัญหา
“คุณอาชา! จะทำอะไรคะ”
“อย่าแรด อย่าร่าน ให้มันมากนัก ทุเรศ!”
ร่างบางถูกกระชากเข้ามากระแทกกับอกกว้างแข็งกระด้างของอาชาวินอย่างแรงจนรู้สึกจุก อีกทั้งชายหนุ่มยังตวัดแขนโอบรัดเอวเล็กเอาไว้จนสองร่างแนบชิดกันท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นของคนงานหลายสิบชีวิตที่ลอบมอง ช่ออัญชันพยายามดันตัวออกห่างแต่เหมือนจะเสียแรงเปล่าเพราะอาชาวินไม่คิดปล่อย ยิ่งดึงตัวหนี อ้อมแขนของชายหนุ่มก็ยิ่งรัดแน่นขึ้นจนใบหน้านวลร้อนผ่าวอับอายสายตาของคนงานที่มองอยู่
‘อย่ายุ่งกับเมียกู!’
คนถูกกอดกลางสาธารณะก้มหน้างุดไม่กล้ามองใคร หญิงสาวจึงไม่เห็นสายตากราดเกรี้ยวที่อาชาวินตั้งใจมองชิต ก่อนตวัดสายตามองไปยังคนงานชายคนอื่นๆ สายตาเข้มๆของอาชาวินต้องการประกาศกร้าวว่าผู้หญิงในอ้อมแขนเป็นของเขา ผู้ชายคนอื่นอย่าได้แหยม ทำเอาพวกคนงานที่แอบมองหลบตาวูบกันเป็นแถว
“คุณอาชา ปล่อยฉันเถอะค่ะ”
“สั่งใคร!”
อาชาวินดึงใบหน้ากลับมามองคนในอ้อมแขนแล้วตะคอกถามเสียงดังลั่นจนคนถูกถามสะดุ้งเฮือก สายตาแข็งกร้าวเจือเปลวเพลิงมองจ้องจนช่ออัญชันต้องก้มหน้าอีกครั้งด้วยความหวาดกลัว นึกขัดหูขัดตาชะมัดยามเห็นว่ามีผู้ชายคนอื่นอยู่ใกล้ยายตาใส ทำไมช่ออัญชันถึงได้ดูเป็นธรรมชาตินักยามที่ช่วยกันใส่ปุ๋ยกับชิต เขาแอบมองตั้งแต่ที่หญิงสาวเริ่มทำงานแล้ว รู้สึกหน้าตึงเปรี๊ยะตั้งแต่เห็นชิตเข้ามาพูดคุยด้วย และเหมือนความอดทนมันสิ้นสุดเมื่อเห็นทั้งสองช่วยเหลือกันแลดูสนิทสนม แต่ทีกับเขาล่ะเห็นเป็นหลบ อยู่ใกล้เป็นต้องหน้าซีดตัวสั่น จนอดรนทนมองไม่ไหวต้องออกมาขัดจังหวะ
และตอนนี้สิ่งที่อาชาวินต้องการทำมากที่สุดคือแสดงตัวตอกย้ำสิทธิ์ในตัวช่ออัญชันที่เขามีเพียงคนเดียวให้คนงานทุกคนรับรู้เมื่อบังเอิญหันไปเจอว่าชิตแอบเหล่มองมายังช่ออัญชันด้วยแววตาอ่อนแสงอาลัยอาวรณ์ ทั้งที่ในความเป็นจริงชิตแค่รู้สึกผิดและอยากขอโทษช่ออัญชันที่เขาเป็นสาเหตุทำให้หญิงสาวถูกนายน้อยใส่อารมณ์ เพราะผู้ชายด้วยกันดูออกอยู่แล้วว่าสาเหตุที่ทำให้นายน้อยโมโหอยู่ตอนนี้เป็นเพราะเหตุใด
จุ๊บ!
ร่างเล็กถูกกอดรัดแน่นจนตัวลอย ใบหน้าอ่อนใสถูกมือใหญ่ดันปลายคางให้แหงนเงย ดวงตากลมโตขลาดกลัวสบตากับอาชาวิน เสี้ยววินาทีก็เบิกกว้างหัวใจดวงน้อยกระตุกวูบเมื่ออยู่ๆริมฝีปากสีซีดถูกประกบด้วยเรียวปากรุมร้อนของคนขี้โมโหท่ามกลางแสงแดดจ้า เรียวปากได้รูปบดเบียดทาบทับหนักหน่วงเจ็บแปลบจนช่ออัญชันน้ำตาคลอ มือบางพยายามดันอกกว้างออกห่างแต่ไม่เป็นผล กำปั้นกลมๆจึงทุบลงบนไหล่แข็งเพื่อหยุดการกระทำอุกอาจของนายน้อยเอาแต่ใจ
“จะทุบทำไม! รังเกียจฉันมากรึไง ฮะ!”
เรี่ยวแรงน้อยนิดของคนในอ้อมแขนไม่ได้ทำให้รู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างใด แต่อาชาวินแค่รำคาญและโมโห โมโหที่ช่ออัญชันทำเหมือนรังเกียจไม่อยากให้เขาแตะต้อง จนพาลคิดไปว่าหญิงสาวไม่ต้องการให้เขาจูบไม่อยากให้เขากอดเพราะแคร์ไอ้ชิต กลัวไอ้ชิตมันเห็นแล้วเข้าใจผิด อารมณ์กรุ่นโกรธพาลพาโลจึงพุ่งปรี๊ดแตะเพดาน ความรู้สึกเคยเป็นที่หนึ่งเสมอมาเหมือนถูกผู้หญิงจรจัดในอ้อมแขนเหยียบย่ำจมธรณี รู้สึกเสียหน้ายิ่งนักที่โดนเมียปฏิเสธต่อหน้าคนงาน
“ฉันปละ…”
ช่ออัญชันอยากบอกนักว่าเธอไม่ได้คิดแบบนั้น ความหวาดกลัวเกรงขามเธอมีให้เขาเต็มเปี่ยมก็จริง แต่ความรังเกียจกลับไม่เคยปรากฏอยู่ในต่อมความรู้สึก ไม่รู้ทำไมเหมือนกันทั้งที่ถูกเขารังแกดูถูกดูแคลนหลายต่อหลายครั้ง ส่วนเหตุผลที่ดิ้นรนร้องขอให้อาชาวินปล่อยเธอตอนนี้เป็นเพราะเธออับอายสายตาหลายสิบคู่ที่เพ่งมองกันหน้าสลอนนั่นต่างหาก เขาอาจไม่แคร์ แต่ผู้หญิงที่ไม่เคยใกล้ชิดผู้ชายคนไหนอย่างเธอรู้สึกกระดากเหลือเกิน ลำพังแค่ถูกเขาดึงมากอดเธอก็ขัดเขินอับอายจนหัวใจแทบหยุดเต้น แล้วสิ่งที่อาชาวินกำลังทำมันร้ายแรงมากกว่ากอดหลายเท่า เธอจึงไม่สามารถปล่อยให้เขาจูบเธอได้ตามใจชอบต่อหน้าผู้คนมากมายแบบนี้
“รังเกียจฉันนักใช่ไหม ฉันก็รังเกียจเธอไม่แพ้กันหรอก ไอ้ที่จูบนี่ไม่ได้พิศวาสอะไรเลย ฉันแค่อยากเตือนว่าอย่าร่านอ่อยผู้ชายคนอื่นให้มากนัก มันทุเรศ!”
ช่ออัญชันยังไม่ทันได้แก้ไขความเข้าใจผิด ท่อนแขนแข็งแรงก็ผลักร่างเล็กในอ้อมแขนทันควันคล้ายรังเกียจ ทำให้ช่ออัญชันที่ไม่ทันระวังตัวล้มลงไปกระแทกกับพ้นดินแข็งๆรู้สึกจุกและเจ็บที่สะโพกจนน้ำตาคลอหน่วย ทั้งเจ็บทั้งอายที่ถูกอาชาวินทำแบบนี้ต่อหน้าคนงานคนอื่น แต่ยังไม่ทันจะได้ลุกขึ้น มือหนาก็กระชากดึงแขนเรียวเล็กขึ้นมากระแทกกับอกแกร่งอีกครั้งอย่างไร้ความปรานี คราวนี้ความเจ็บยิ่งทบทวีคูณจนหยดน้ำตาใสๆรินไหล
“มานี่! ฉันจะทำให้เธอดูว่าฉันไม่เคยพิศวาส ไม่อยากแตะต้องผู้หญิงสกปรกๆอย่างเธอให้เป็นเสนียดติดตัวสักนิด แค่ต้องใช้อากาศหายใจร่วมกับเธอฉันยังสะอิดสะเอียนจนอยากจะสำรอก ต่อไปนี้จงอยู่ห่างๆฉัน อย่าเอาความต่ำตมของเธอมาแปดเปื้อนตัวฉันเด็ดขาด!”
ร่างบางถูกกระชากหลุนๆไปยังรถกระบะของอาชาวินที่จอดอยู่ไม่ไกล เมื่อเดินไปถึงอาชาวินก็จับร่างเล็กยกขึ้นแล้วโยนใส่กระบะท้ายรถไม่ออมแรงเหมือนโยนสิ่งของไร้ชีวิต ไม่สนใจว่าร่างเล็กจะชอกช้ำสักเพียงไหน จากนั้นคนขี้โมโหจึงขึ้นประจำหน้าที่คนขับกระชากเกียร์แรงๆจนร่างบางของช่ออัญชันที่นอนกองอยู่พื้นกระบะด้วยความเจ็บและจุกกลิ้งไปกระแทกกับขอบกระบะ ตัวรถแล่นไปด้วยความเร็วตามอารมณ์ร้อนๆของคนขับไม่คิดหลบหลุมบ่อบนถนนลูกรังขรุขระจนฝุ่นตลบกลบหน้าคนอยู่ด้านหลัง ความเจ็บปวดร่างกายที่ถูกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีกระทำทำให้ช่ออัญชันน้ำตาไหลพราก ร่างเล็กนอนตะแคงตัวแนบใบหน้าซบพื้นกระบะร้องไห้สะอึกสะอื้นจนเนื้อตัวสั่นสะท้าน ความรู้สึกปวดร้าวเกาะกุมที่อกด้านซ้าย อดสูใจยิ่งนักที่เธอกลายเป็นตัวเสนียดน่าขยะแขยงในสายตาของอาชาวิน
****************************************************
 
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา