นายตัวร้ายกับสาวข้างบ้าน

-

เขียนโดย Annakan

วันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 13.35 น.

  2 ตอน
  0 วิจารณ์
  3,521 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 มกราคม พ.ศ. 2561 13.40 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) หนึ่งวัน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
        หนุ่มข้างบ้านของปุยฝ้ายชื่อแฟ้บ
        ชื่อจริงคือสายฟ้า นามสกุลพรหมคีรี อายุยี่สิบแปดปีเต็ม บ้านเกิดคือจังหวัดนครศรีธรรมราช ชื่อจริงไม่ต้องเดาใช่ไหมว่าเขาเกิดตอนไหนก็ตอนฟ้าผ่านะสิแม่ตกใจเลยเบ่งพรวดออกมา ชื่อเล่นก็ไม่มีอะไรมากสมัยที่แม่ท้องแม่รับซักผ้า วันๆ เจอแต่แฟ้บแล้วก็แฟ้บลูกชายคนโตเลยชื่อแฟ้บส่วนน้องสาวชื่อโฟม
        แฟ้บมาอยู่เมืองกรุงตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยแล้วก็ได้งานตามสาขาที่จบมาคือเป็นกราฟฟิคดีไซเนอร์ที่บริษัทแห่งหนึ่ง ชายหนุ่มรักบริษัทมากเพราะที่นี่ทำงานโดยไม่ต้องเข้าบริษัท แฟ้บจะเข้าไปแค่สัปดาห์ละครั้งสองครั้งและอีกกรณีที่ต้องเข้าบริษัทก็คือมีประชุมหรือนัดคุยงานกับลูกค้าแต่ก็ไม่ได้บ่อยอะไร
        เขานอนตาค้างมาตั้งแต่ตีสามจนตอนนี้เจ็ดโมงกว่าแล้วก็ยังคงกระสับกระส่ายไม่ยอมหลับเขาจึงยอมแพ้แล้วลุกไปชงกาแฟ ส่วนสายตาจับจ้องไปที่บ้านข้างๆ ตลอดเวลาเพราะอยากเห็นความเคลื่อนไหว
        “ไฟยังเปิดค้างไว้อยู่เลย แต่ก็นะ กลับมาตีสามคงยังไม่ฟื้นง่ายๆ หรอก” ชายหนุ่มคนกาแฟในแก้วแล้วกลับไปนั่งจ่อมจมที่โซฟาตัวโต เขาคิดกังวลแทนคนข้างบ้านว่าถ้าแฟนมาเห็นเธอในสภาพนี้จะโดนต่อว่าไหมเพราะไอ้หนุ่มผมเรียบคนนั้นต้องเจ้าระเบียบสุดๆ แน่ๆ แค่เห็นในระยะสามร้อยเมตรยังรู้เลย
        กิจวัตรประจำวันของคนข้างบ้านที่เขาเห็นจนชินตาก็คือเธอจะตื่นตอนหกโมงแล้วก็ออกมารดน้ำต้นไม้ทั้งที่ใส่ชุดนอน จากนั้นก็กลับเข้าบ้านแล้วก็ออกมาอีกทีตอนเจ็ดโมงครึ่งเป๊ะๆ ไม่ขาดไม่เกินด้วยชุดฟอร์มสีครีมเรียบกริบ ใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางพองาม ที่ชุดมีป้ายชื่อและตราโรงแรมชัดเจน
        เธอหยุดงานวันเสาร์กับวันอาทิตย์และกิจวัตรประจำวันหยุดก็คือ เช้าวันเสาร์ตอนเก้าโมงตรงรถยนต์สีดำคันงามของแฟนหนุ่มจะมาจอดหน้าบ้านแล้วเธอก็ขึ้นรถไปจะได้เห็นหน้าอีกทีก็ค่ำวันอาทิตย์หลังพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว
        “เก้าโมงครึ่งแล้ว แปลกแหะที่นายคนนั้นยังไม่มา” แฟ้บดูนาฬิกาแล้วก็อดแปลกใจไม่ได้เพราะปกตินายหัวเรียบไม่เคยมาสายเลยสักครั้ง
        “ชักจะยังไงๆ แล้วนะเนี่ย” ชายหนุ่มกระดกกาแฟหมดแก้วแล้วเติมอีกครั้ง จากนั้นจึงเปิดคอมพิวเตอร์แล้วนั่งเคาะงานเคาะแบบไปเรื่อยเปื่อยเพราะสมองยังไม่แล่นเท่าไหร่
        เมื่อกาแฟแก้วที่สองหมดลงแฟ้บก็รินแก้วที่สามให้ตัวเองแล้วกลับไปนั่งที่โซฟาอีกครั้ง ในหัวมีแต่คำถามมากมายเต็มไปหมดว่าเกิดอะไรขึ้นกับสาวข้างบ้านและแฟนหนุ่มของเธอ เกือบสามปีเขาก็แค่ส่งยิ้มให้ตามมารยาทไม่ค่อยได้พูดคุยกันนักแต่ถ้าจะบอกว่าไม่คิดอะไรเลยก็คงไม่จริง
        ผู้ชายที่ไหนจะไม่ชอบผู้หญิงน่ารักบ้าง…จริงไหม
        ก็แค่นั้นแหละมันก็เหมือนเราปลื้มดารานักร้องก็ได้แต่มองไปวันๆ ก็เธอมีแฟนอยู่แล้วแถมดูรักกันดีหมายถึงเธอดูรักไอ้หัวเรียบดี นายสายฟ้าจึงทำได้แค่มองเธออยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ มันมีอะไรเยอะกว่านั้นแต่ไว้เล่าทีหลังแล้วกัน ตอนนี้ทั้งง่วงทั้งปวดหัวแถมกลุ้มใจจะตายอยู่แล้ว
        “เยี่ยม!” ลืมตามาอีกทีก็บ่ายสาม แฟ้บรีบไปล้างหน้าล้างตาแล้วกลับมาส่องบ้านข้างๆ เหมือนเดิม
        “เหมือนไม่มีการเคลื่อนไหวเลยป่ะวะ” ชายหนุ่มถามตัวเองและเริ่มร้อนรนขึ้นทุกที เมื่อความอยากรู้อยากเห็นเข้าครอบงำจนถึงขั้นสุดแฟ้บจึงเดินไปดูให้เห็นกับตา
        “เยี่ยมมากครับ ล็อกข้างเดียว” ปุยฝ้ายไม่ได้คล้องแม่กุญแจกับประตูทั้งสองด้านเธอล็อกแค่ด้านเดียว! เธอนอนในบ้านทั้งที่ไม่ได้ล็อกประตูรั้วตลอดคืน
        “คุณ คุณโอเคไหม” แฟ้บไปยืนตรงหน้าต่างจึงเห็นว่าเธอนอนคว่ำอยู่บนโซฟาในชุดเดียวกับเมื่อคืนเป๊ะ
        “ก๊อกๆๆ คุณ ได้ยินไหม”
        “ปังๆๆๆๆ คุณ ตื่นเถอะ” จากที่เคาะก็กลายเป็นทุบและมันทำให้ว้าวุ่นใจขึ้นเรื่อยๆ นอนคว่ำแบบนั้นมันไม่เห็นจังหวะการกระเพื่อมของหน้าอก…ไม่ใช่ตายแล้วนะ!
        “คุณ เฮ้ย! เชื่อเขาเลย” แฟ้บหมุนลูกบิดประตูและมันก็เปิดออกอย่างง่ายดาย เขาย่องช้าๆ ไปหยุดตรงโซฟาแล้วพ่นลมหายใจพรวดออกมาด้วยความโล่งอก…เธอยังไม่ตาย
        “คุณ ตื่นเถอะจะเย็นแล้วเนี่ย” แฟ้บเขย่าแขนคนขี้เซาอยู่หลายนาทีกว่าเธอจะรู้สึกตัว ระหว่างที่เธอยังไม่ตื่นเขาก็แอบมองแล้วยิ้มออกมาเหมือนคนบ้า ก็ไม่เคยได้อยู่ใกล้กันขนาดนี้มาก่อนไม่ให้ดีใจได้ไง
        “อือ จะนอน อย่ามายุ่ง” ปุยฝ้ายปัดมือของคนที่เขย่าแขนออกด้วยความรำคาญ
        เดี๋ยวนะ! ใครมาเขย่าแขนฉัน!!!
        “เฮ้ย! คุณเข้ามาได้ไง” ปุยฝ้ายกระโดดขึ้นนั่งตัวตรงด้วยความตกใจและงุนงงเป็นที่สุด เธอมาโผล่ที่นี่ได้ไง ยัยกุ้งล่ะหายไปไหน
        “ใจเย็นๆ ก่อนคุณ อย่าโวยวาย เมื่อคืนคุณเมามากไม่ได้ล็อกบ้าน” แฟ้บรีบบอกรวดเดียวเพราะกลัวเธอจะแหกปากให้เพื่อนบ้านได้ยิน
        “คุณเห็นฉันกลับมาเหรอ”
        “ใช่ คุณกลับมาตีสาม ไขประตูอย่างดังแถมล้มด้วย ตายห่า!” เมื่อพูดมาถึงคำว่าล้มแฟ้บก็มองไปที่ขาของเธอ มันมีรอยถลอกและเลือดแห้งๆ ติดอยู่
        “ไม่เจ็บเหรอเนี่ย หลับไปได้ไงแถมนอนทับได้ตั้งครึ่งค่อนวัน”
        “เจ็บก็ตอนที่ถามนี่แหละ ฮือๆๆ ขาฉัน” ปุยฝ้ายปอดแหกขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นเลือด…เธอกลัวเลือดเห็นแล้วลมจะใส่ทุกครั้ง
        “เอ้า! เฮ้ย! เป็นอะไร” อยู่ๆ เธอก็นั่งคอพับคออ่อนเหมือนคนจะเป็นลม
        “ฉันกลัวเลือด”
        “กล่องปฐมพยาบาลมีไหม”
        “หลังตู้เย็น” ปุยฝ้ายตอบด้วยเสียงแหบแห้ง แฟ้บรีบเดินไปหยิบแล้วบังเอิญไปเห็นโหลแก้วที่บรรจุเหรียญและธนบัตรจนเกือบเต็ม
        “โอ๊ย แสบอ่ะ” เมื่อยาล้างแผลสัมผัสผิวหนัง ปุยฝ้ายก็ร้องลั่น
        “นิดเดียว อดทนหน่อยเดี๋ยวติดเชื้อจะรักษายากกว่านี้”
        “ซี๊ดด ขอโทรหาเพื่อนก่อนนะ” หญิงสาวครางให้กับความเจ็บแสบที่หัวเข่า เธออยากคุยกับเพื่อนเพื่อหันเหความสนใจไปทางอื่น แฟ้บทำแผลไปก็ฟังบทสนทนาไปและได้ข้อสรุปสั้นๆ ที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งก็คือเธอเลิกกับไอ้หัวเรียบแปล้แล้ว
        “เจ็บหน่อยนะ ต้องคีบเศษหินที่มันฝังอยู่” แฟ้บเตือนล่วงหน้าแล้วหยิบคีมพลาสติกขึ้นมา
        “โอ๊ย ฮือๆๆๆ เจ็บ หมดรึยัง ไม่ไหวแล้ว”
        “หมดแล้วๆ”  แฟ้บบอกแล้วรีบใส่ยาสมานแผลจากนั้นจึงปิดทับด้วยพลาสเตอร์ขนาดใหญ่
        “เสร็จแล้ว ขอโทษด้วยนะที่เข้ามาในบ้านคุณโดยไม่ขออนุญาตผมเห็นคุณไม่ออกมาตั้งแต่เช้าเลยเป็นห่วง คราวหน้าถ้าเมาอย่านั่งแท็กซี่คนเดียวมันอันตรายถ้าไม่มีใครจริงๆ โทรมาหาผมก็ได้ผมจะไปรับเอง”
        “ขอบคุณนะ คะ ฮึ ฮึก ฮือๆๆ” ปุยฝ้ายได้ยินถ้อยคำที่แสนเป็นมิตรจากเพื่อนบ้านที่เรียกว่าเป็นคนแปลกหน้าก็ไม่ผิดนักก็ซึ้งใจเป็นที่สุดและสิ่งที่ได้ยินมันสู้กับสิ่งที่สองตาเห็นไม่ได้เลย
        สายตาของเขาบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นห่วงจากใจไม่ได้เสแสร้ง น่าแปลกนักที่เธอเชื่อเขาหมดทุกคำเชื่อจากหัวใจว่ามันคือความห่วงใยที่แท้จริง และที่น่าแปลกยิ่งกว่าก็คือผู้ชายที่คบกันมาเจ็ดปีกลับไม่เคยมีสายตาห่วงหาลึกซึ้งแบบนี้ให้เธอสักครั้งเขามีแต่สายตาเหยียดหยันให้กับความบ้านนอกของเธอ
        “คุณ เจ็บขนาดนั้นเลยเหรอ เดี๋ยวก็หายนะ อดทนไว้” แฟ้บกลับไปนั่งที่พื้นเหมือนเดิม เขาปล่อยให้เธอร้องไห้คนเดียวไม่ได้หรอก
        “มันไม่หายง่ายๆ หรอก และฉันก็ไม่รู้ รู้ ว่า จะ จะ อดทนได้ไหม ฮือๆๆๆ”
        “ไม่ได้หมายถึงแผลที่ขาใช่ไหม” แฟ้บถาม
        “เขาทิ้งฉันไปแล้ว เมื่อวานวันครบรอบเจ็ดปีแล้วเขาก็บอกเลิกเขาบอกว่าเจอคนที่ดีกว่าเมื่อต้นปีแล้วก็บอกว่าไม่รักฉันแล้ว ฮือๆๆ ฉันผิดตรงไหน”
        “คุณไม่ได้ผิด ความจริงน่าจะดีใจนะที่ปล่อยคนเลวๆ ออกไปจากชีวิตจะเก็บไว้ทำไม”
        “คุณไม่เคยรักใครจะเข้าใจได้ยังไงล่ะ” ปุยฝ้ายฟูมฟายแบบไร้สติและไปสะกิดแผลอีกคนโดยที่ไม่รู้ตัว
        “โอเค ผมผิดเองที่ไม่เข้าใจคุณ ขอตัวนะแล้วก็ขอโทษที่พูดจาไม่ดี” แฟ้บบอกแล้วลุกขึ้นยืน
        “คุณ” ปุยฝ้ายใจหายวาบเธอลืมร้องไห้ไปชั่วขณะเมื่อได้สบตาเขา…แววตาที่แสนอบอุ่นเมื่อสักครู่หายไปไหน
        “มีอะไรครับ”
        “ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
        “ไม่เป็นไรครับ ขอตัวนะ”
        “คุณ อย่าทำแบบนี้ ฮือๆๆ ผู้ชายสองคนจะทิ้งฉันสองวันติดกันไม่ได้นะ”
        “โอเค” แฟ้บพูดและพยายามกลั้นหัวเราะเอาไว้ เขาไม่รู้ว่าเธอยังไม่สร่างเมาหรือเป็นคนตรงๆ แบบนี้จริงๆ
        “หิวไหม” หลังจากนั่งนิ่งๆ กันอยู่หลายนาทีแฟ้บก็ถามขึ้นมาเพื่อทำลายความเงียบ
        “พอถามก็หิวเลยอ่ะ แล้วก็  สภาพฉันคงอุบาทว์มากเลยใช่ไหม” ปุยฝ้ายเพิ่งนึกได้ว่าเธอกลับบ้านมาในสภาพไหนแถมเพิ่งตื่นนอน หน้ายังไม่ล้าง ฟันยังไม่แปรง ผมคงฟูแบบไม่ต้องสงสัย…ประทับใจสุดๆ
        “ก็ปกติของคนเพิ่งตื่น ไปอาบน้ำสิผมจะทำอะไรให้กินถ้าคุณอนุญาต”
        “ทำกับข้าวเป็นด้วยเหรอ”
        “ได้แค่ง่ายๆ แหละ ข้าวต้มไก่ดีไหม กินอะไรอุ่นๆ จะได้สบายท้อง”
        “ดีค่ะ”
        “ไปอาบน้ำเลย” ปุยฝ้ายเดินเข้าห้องไปแบบงงๆ บ้านของเธอเป็นบ้านชั้นเดียวเหมือนกับบ้านเขาทุกอย่าง ภายในมีหนึ่งห้องนอนพร้อมห้องน้ำ ด้านนอกมีห้องน้ำอีกห้องกับมุมครัวแล้วก็มุมห้องนั่งเล่น
        เธอล้างเครื่องสำอางออกเป็นลำดับแรกพอล้างเสร็จก็มาแง้มประตูแอบดูว่าเขาทำอะไรเขาก็ยังง่วนอยู่หน้าเตาแก๊สเหมือนเดิม
        “เสร็จพอดีเลย” แฟ้บบอกเมื่อคนในห้องเดินออกมาพร้อมกลิ่นสบู่หอมฉุย
        “ผมต้มไว้เยอะอยู่ เผื่อคุณอยากกินอีกตอนค่ำๆ ไปนะ”
        “คุณมีธุระที่ไหนรึเปล่า ถ้าไม่มีกินข้าวด้วยกันไหม”
        “ขอบคุณมากนะคะ คุณใจดีมากเลย” ปุยฝ้ายบอกเมื่อเขานั่งลงตรงข้ามเธอ
        “ไม่เป็นไรหรอกเราเพื่อนบ้านกัน มีอะไรช่วยได้ผมเต็มใจครับ” แฟ้บนั่งกินข้าวต้มฝีมือตัวเองแล้วก็คิดว่ามันอร่อยที่สุดตั้งแต่ทำกับข้าวมา อาจเพราะเขาตั้งใจเป็นพิเศษหรือจริงๆ แล้วอาจเป็นเพราะได้นั่งกินกับคนพิเศษ
       
 
 








นายตัวร้ายกับสาวข้างบ้าน


อัณณากานต์


www.mebmarket.com


เขา…ชายหนุ่มที่มีชีวิตอยู่บนความเป็นจริงเธอ…หญิงสาวคลั่งหมอดู❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀ เนื้อหาบางส่วน ❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀ วันแรกที่ย้ายเข้ามาเธอก็ไม่ถูกชะตากับคนข้างบ้านข้อแรกเลยเขามีรอยสัก ในความคิดของเธอพวกมีรอยสักคือนักเลงก๋ากั่นชอบตีรันฟันแทง ข้อสองเขาขี่บิ๊กไบค์ที่เธอโคตรเกลียดเพราะมันเสียงดังคันใหญ่เทอะทะ ข้อสามเธอไม่ชอบคนขี่บิ๊กไบค์เพราะส่วนมากมักขี้เก๊ก ข้อสี่เขามีรถกระบะอีกคันที่เสียงดังไม่แพ้ไอ้สองล้อน่าเกลียดและข้อสุดท้ายข้อห้า วันที่เธอขนของเข้าๆ ออกๆ บ้านเป็นสิบเป็นร้อยรอบเขาไม่แม้แต่จะทักทายสักคำ ไอ้หนุ่มข้างบ้านเอาแต่นั่งเหม่อมองไปที่สนามหญ้าช่างไร้มารยาทขาดมิตรไมตรีเป็นที่สุด นึกหน้าเขาไม่ออกใช่ไหม…เดี๋ยวอธิบายให้ฟัง อย่างแรกเลยคือเขาตัวสูงน่าจะร้อยแปดสิบได้ หน้าตาคล้ายๆ จีชางอุคในเวอร์ชั่นผิวสองสี ผมเซททรงยุ่งๆ หรือมันยุ่งของมันเองเธอก็ไม่รู้แต่พอรวมทุกอย่างเข้าด้วยกันเขาก็เป็นผู้ชายที่หล่อคนนึงแต่ยังไงเธอก็ไม่ชอบเขาอยู่ดี ก็เขาคือนายตัวร้าย…เที่ยวนอนกับผู้หญิงไปทั่วแถมยังเป็นตัวน่ารำคาญทำเสียงดังเอะอะได้ทุกคืน❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀









 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา