รอรักเคียงใจ

-

เขียนโดย 0ilz

วันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2561 เวลา 21.31 น.

  9 บท
  0 วิจารณ์
  8,603 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 เมษายน พ.ศ. 2561 21.44 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) ค่อยๆขยับเข้าไปในพื้นที่หัวใจเธอ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่ 4

ค่อยๆ ขยับเข้าไปในพื้นที่หัวใจเธอ

ทางที่ธีทัตพามาไม่ใช่ทางที่เธอขับรถมาเองในตอนแรก ธรรมชาติสองข้างทางงดงามจับตาต่างจากเนินเขาสลับกับหน้าผาและหุบเหวลึกที่เธอผ่านในตอนขามาราวกับอยู่กันคนละโลก ดอกนางพญาเสือโคร่งสีขาวสลับชมพูต้นใหญ่ที่ปลูกไว้ตามข้างทางกำลังเบ่งบานสะพรั่ง ปกติดอกไม้ชนิดนี้จะปลูกบนพื้นที่สูง สำหรับจังหวัดเชียงรายจะมีสถานที่ชมความงามดอกนางพญาเสือโคร่งที่ดอยแม่สลอง ดอยวาวีหรือไม่ก็ดอยช้าง แต่เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าที่นี่ก็ปลูกไว้เยอะเหมือนกัน เรียกได้ว่าตลอดเส้นทางที่ผ่านมาเกือบห้ากิโลเมตรแล้ว

ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มละไมอย่างมีความสุข นี่เป็นชั่วโมงแรกในรอบสัปดาห์เลยก็ว่าได้ที่จิตใจของเธอสงบและผ่อนคลายแบบนี้

ทำไมถึงมีดอกนางพญาเสือโคร่งเยอะจังคำถามที่ดังขึ้นลอยๆ ไม่ได้ต้องการคำตอบจริงจัง แต่เรียกให้คนที่กำลังตั้งใจขับรถหันมามองคนที่นั่งข้างๆ ก่อนจะไขข้อข้องใจให้

เห็นว่าทางเทศบาลเขามีนโยบายให้ปลูกมาหลายปีแล้ว คงอยากจะทดแทนต้นไม้ที่ถูกตัดไป

แล้วทำไมมันถึงโตได้ในพื้นที่แบบนี้ล่ะ

เป็นครูชีวะฯ เสียเปล่า ทำไมไม่รู้ว่าดอกนางพญาเสือโคร่งนอกจากเหมาะกับพื้นที่สูงอย่างพวกดอยช้าง ดอยผาตั้งแล้ว ยังเหมาะที่จะขึ้นในพื้นที่ที่ผ่านการทำไร่เลื่อนลอยมาก่อนด้วย เห็นไหมว่าข้างทางที่เราผ่านมามีแต่ไร่เลื่อนลอยทั้งนั้น แล้วดูท่าแถวนี้คงจะมีการตัดต้นไม้เยอะมาก เห็นมีข่าวดินถล่มทุกปี ทางเจ้าหน้าที่ก็เลยมีมาตรการให้ปลูกต้นดอกนางพญาเสือโคร่งในพื้นที่หลวง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการถางเพิ่มตามแนวไฟป่า

พริมมาดาพยักหน้าเมื่อเข้าใจในสิ่งที่ชายหนุ่มพูด แม้จะถูกเหน็บแนมเล็กๆ น้อยๆ ก็เถอะ ไร่เลื่อนลอยเป็นเกษตรกรรมบนที่สูงแบบตัด ฟัน โค่นและเผา ส่วนมากทำโดยชนกลุ่มน้อยหรือชาวเขา การเกษตรแบบนี้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งทางตรงและทางอ้อมหลายด้าน คงจะจริงอย่างที่ธีทัตพูด เพราะข่าวน้ำป่าไหลหลาก ดินถล่มมีให้เห็นอยู่ตลอด แต่ก็อดชื่นชมชายหนุ่มไม่ได้ที่มีความรู้เรื่องพวกนี้เหมือนกัน ทั้งที่ใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพเสียส่วนใหญ่

แหม...รู้ละเอียดขนาดนี้ถ้าไม่บอกว่าเป็นวิศวกรคงคิดว่าเป็นพวกเจ้าหน้าที่ป่าไม้แม้ในใจจะชื่นชมแต่ปากกลับพูดตรงข้าม ในเมื่อเขาเหน็บเธอก่อน เธอก็ทำเหมือนเขาบ้าง จะได้เท่าเทียมกัน

ดวงตาคมหันมาสบเธอแวบหนึ่ง เห็นเขาส่ายหน้าน้อยๆ เธอก็ยักไหล่อย่างไม่สนใจ ก่อนจะหันไปมองข้างทางที่มีอะไรน่าดูกว่าคนในรถตั้งเยอะ แต่แล้วประโยคต่อมาของเขาทำเอาเธอต้องหันกลับแทบจะทันที

ดอกไม้สวย อยากลงไปถ่ายรูปไหม

ได้เหรอคะเป็นอีกครั้งที่เธอถามราวกับไม่เชื่อหูตัวเอง ก็วันนี้เขาใจดีกับเธอแปลกๆ แค่ไปท้าแข่งรถเพื่อเอารถเธอคืนมาก็คาดไม่ถึงแล้ว นี่ยังจะมาเอาใจด้วยการพาแวะถ่ายรูปกับดอกนางพญาเสือโคร่งอีก บอกตรงๆ ว่าตั้งรับไม่ทัน

ทำไมจะไม่ได้ล่ะ รู้สึกว่าข้างหน้าจะมีจุดพักรถ แวะหากาแฟกินสักแก้วน่าจะดี

พี่ธีร์ไม่ค่อยได้กลับบ้านทำไมถึงรู้จักที่แถวนี้ดีจัง

จริงๆ พี่ก็กลับบ้านปีละสามถึงสี่ครั้งนะ แต่ใครบางคนไม่สนใจเองต่างหากถึงได้ไม่รู้

น้ำเสียงที่เหมือนจะตัดพ้ออยู่ในทีทำให้พริมมาดาต้องเสหลบสายตาคมปลาบที่เหลือบมองแต่ไม่ได้หันมาตรงๆ ประกายตาไหววูบด้วยความรู้สึกบางอย่างที่อยากจะลืมย้อนกลับมาเล่นงาน จนต้องประสานมือไว้บนตัก บีบมันไว้จนเกร็งไปทั้งตัว

ธีทัตเห็นอาการของคนข้างๆ ซึมลงก็รู้ทันทีว่าพูดกระทบใจหญิงสาวเข้าอย่างจัง แต่แทนที่เขาจะรู้สึกผิดกลับคิดว่านี่คือโอกาสที่จะได้เคลียร์กับคนแสนงอนขี้น้อยใจให้รู้เรื่องเสียที เขาไม่อยากทนกับการเป็นคนอื่นในสายตาของพริมมาดา ในขณะที่คนรอบข้างของเขาต่างได้เป็นคนสำคัญของเธอ

เขาอิจฉาปราณนต์ที่มักจะได้รอยยิ้มอ่อนหวานของเธอไปครอง อิจฉาปราณภพที่มักจะได้ยินเสียงหัวเราะสดใสจากเธอ และอิจฉาไอ้พวกแก๊งวิศวะกะล่อนที่มักจะได้รับความห่วงใยที่เธอไม่เคยมีให้เขาเลยตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมา

วันนี้เขาจะทวงทุกอย่างที่เป็นของเขาคืน รวมทั้งที่ยืนข้างๆ เธอด้วย

ทั้งหมดที่ผ่านมา...พี่ขอโทษ พริมเป็นคนสำคัญของพี่เสมอ ไม่ว่าจะเมื่อก่อนหรือตอนนี้น้ำเสียงหนักแน่นและมั่นคงทุกคำยามเอื้อนเอ่ย สะกดคนฟังให้นิ่งได้ราวกับโดนคาถานะจังงัง แต่ไม่นานริมฝีปากบางก็เหยียดยิ้ม ความรู้สึกทั้งหมดถ่ายทอดออกมาทางแววตา เป็นแววตาที่ทำให้หัวใจของธีทัตถึงกับกระตุกวาบ

พี่เลือกพลอย ต่อไปพี่อยากให้พริมอยู่ห่างๆ พี่ไว้ พี่ไม่อยากมีปัญหา ไม่อยากให้พลอยต้องร้องไห้เสียใจเพราะหึงพี่กับพริมอีก

คำพูดกับภาพในอดีตผุดขึ้นมาราวกับมันไม่เคยเลือนไปจากความทรงจำ ครั้งหนึ่งเขาเดินเข้ามาบอกว่าเขาไม่เลือกเธอ พร้อมกับผลักไสเธอออกจากชีวิต ความผูกพันสิบกว่าปีมลายหายไปราวกับไม่มีค่าใดๆ ให้จดจำ

แต่เธอก็ยังคอยมองเขาอยู่ห่างๆ แม้ความสัมพันธ์ต่อกันจะเริ่มห่างเหิน ถึงเธอจะไม่ใช่น้องน้อยที่เขาคอยตามปกป้องดูแลแล้ว แต่เธอก็ยังรักและหวังดีต่อเขาไม่เปลี่ยนแปลง

จนกระทั่งถึงวันที่เธอและเขาแตกหัก และเธอคิดว่ามันไม่มีทางจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีก

พี่ไม่คิดว่าพริมจะเป็นคนใจคอโหดร้ายขนาดนี้ พริมทำให้พี่ผิดหวังมาก

น้องสาวพี่เคยมีเหตุผล แต่พี่คงมองพริมผิดไป

คำพูดทุกคำที่ออกจากริมฝีปากหนา เป็นเหมือนเข็มน้ำแข็งนับร้อยที่พุ่งเข้าแทงหัวใจของเธอ เจ็บ...เจ็บจนชา เธอถูกตราหน้าให้กลายเป็นคนใจคอโหดเหี้ยมเพียงชั่วข้ามคืน เป็นคนเลือดเย็นที่ทำร้ายอดีตคนรักเขาจนพิการ ไม่ว่าใครจะมองอย่างไรเธอไม่เคยแคร์ หวังเพียงแค่เขาเชื่อใจและฟังเธอบ้าง เท่านั้นก็พอแล้ว

แต่ก็ไม่เลย เมื่อสบตากับเขา เธอพบแต่ความผิดหวัง เย็นชาและห่างเหิน...เขาตัดสินความผิดให้เธอโดยที่ไม่ถามความจริงสักคำ

เหตุการณ์ในครั้งนั้นถึงขั้นต้องขึ้นโรงขึ้นศาล เธอเกือบต้องเสียอนาคต เสียทุนที่ได้รับถ้าไม่มีผู้หวังดีส่งหลักฐานสำคัญให้เธอก็คงไม่ชนะคดี และทุกคนก็คงไม่รู้ความจริง

แต่ถึงทุกคนจะรู้ความจริง สายตาที่ใครๆ ต่างกล่าวหาเธอก็ได้สลักลงในหัวใจดวงนี้แล้ว มันเปลี่ยนให้เด็กผู้หญิงที่เคยอ่อนหวาน มองโลกในแง่ดีเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งขึ้น รอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่เคยมีให้กับทุกคนก็มลายหายไป

มือบางบีบไว้แน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ แต่กลับไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด เพราะตอนนี้ส่วนที่เจ็บที่สุดคือก้อนเนื้อที่กำลังเต้นอยู่ในอกข้างซ้ายต่างหาก

เขาไม่จำเป็นต้องสะกิดให้รอยแผลที่ยังไม่แห้งสนิทมันกลับมาอักเสบอีกครั้ง คำขอโทษของเขาไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกดี หากเขาหวังอยากให้ความสัมพันธ์ในวันวานกลับมาเป็นเหมือนเดิม เธอบอกได้เพียงแต่ว่า แก้วที่มันแตกแล้วถึงจะเอากลับมาหลอมใหม่ยังไงมันก็ไม่ใช่ใบเดิมอยู่ดี

พริมขอถามอะไรหน่อยได้ไหม?” พริมมาดาพยายามเปล่งเสียงด้วยความยากลำบาก รู้สึกว่ามันแหบแห้ง เบาหวิวเสียจนแทบไม่ได้ยิน

ได้สิ

พี่เคยเชื่อใจพริมบ้างไหม?” ถามเสร็จก็กลั้นใจรอด้วยใจระทึก แม้จะพร่ำบอกตัวเองว่าจะไม่สนใจ และพยายามไม่เข้าใกล้เขา แต่เมื่อเขาบอกว่าเธอเป็นคนสำคัญ สำคัญมาตลอด ใจเจ้ากรรมก็ดันไม่รักดี มันอ่อนยวบจนเธออยากถามออกไปให้แน่ใจ แม้คำตอบที่ได้จะเป็นคำโกหกก็ตาม

ชายหนุ่มเงียบไปนานเกือบนาที ตอนนี้เขาขับรถเข้ามาจอดบริเวณจุดพักรถที่มีร้านกาแฟน็อคดาวน์ให้บริการ รถจอดสนิทแล้วแต่ทั้งคนขับและคนข้างๆ ก็ยังไม่ขยับไปไหน ไม่มีคำตอบ มีเพียงเสียงลมหายใจที่คล้ายจะสะดุดเท่านั้น

พริมมาดาพยักหน้าน้อยๆ คิดว่าเข้าใจอะไรมากขึ้นแล้ว เธอไม่น่าถามให้ตัวเองต้องเจ็บเพิ่มเลย จึงตัดสินใจปลดเข็มขัดนิรภัยเพื่อลงจากรถ แต่แล้วคนข้างๆ ก็สูดลมหายใจเฮือกใหญ่แล้วให้คำตอบในสิ่งที่พริมมาดาคาดไม่ถึง

พี่เป็นคนส่งคลิปนั้นให้ทนายของคุณลุงเอง

ร่างบางชะงักค้างอยู่กับที่ มือเรียวสวยยกขึ้นมาปิดปากตัวเองเกรงว่าจะหลุดอุทานเสียงดังออกไป ไม่ต้องขยายความก็รู้ว่าคลิปไหน

หญิงสาวสะบัดหน้ากลับมาอย่างรวดเร็ว หัวคิ้วขมวดมุ่นด้วยความสงสัย ตอนนี้เธอมึนงงจนพูดอะไรไม่ออก รู้สึกเหมือนโลกหมุนคว้าง ในหัวมันตื้อและลิ้นก็พานจะแข็ง จึงได้แต่ส่งสายตาที่บอกว่าต้องการคำอธิบายไปให้เขาเท่านั้น

ชายหนุ่มเอื้อมมือมาจับมือบางที่ยังบีบกันไว้แน่นจนเกร็งพลางกระชับเอาไว้ก่อนจะเปิดปากบอกเล่าในสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจออกมา ถึงเวลาแล้วที่เขาต้องบอกเธอ

เจ็ดปีมันนานเกินพอแล้วกับโทษที่เขาต้องได้รับ!

พริมถามว่าพี่เคยเชื่อใจพริมไหม...บอกตามตรงว่าตอนนั้นที่พูดรุนแรงกับพริม มันเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ โมโหและผิดหวัง แต่พอพี่กลับมาทบทวน ถึงมั่นใจว่าพี่รู้จักพริมดีกว่าใครทั้งหมด พริมไม่มีทางทำอะไรแบบนั้นแน่

จะว่าไปตอนนั้นเขาก็อารมณ์ร้อน ไม่แม้แต่จะถามเธอสักคำว่าเกิดอะไรขึ้น มีแต่พ่นวาจาร้ายกาจใส่ กว่าจะรู้ตัวและทบทวนถึงความผิดพลาดของตัวเองก็สายเสียแล้ว คำพูดเมื่อออกจากปากไปแล้วไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้ หลังจากวันนั้นพริมมาดาก็หลีกลี้หนีหน้า ตัดขาดความสัมพันธ์ ก้าวออกไปจากชีวิตเขา ไม่แม้แต่จะให้เขาได้เอ่ยคำขอโทษ

นั่นคือสิ่งที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิต

เขาทำอะไรไม่ได้ เพราะทั้งบิดาของเธอและบิดาของเขาต่างก็กันเขาให้ออกห่าง สิ่งที่ดีที่สุดในตอนนั้นคือก้มหน้ารับผลกับความโง่เง่าของตัวเอง และยอมถอยเพื่อไม่ให้เรื่องเลวร้ายลงกว่าเดิม

เขาต้องอดทนกับคำว่ารอ รอและรอ...รอให้เวลาเยียวยาหัวใจดวงนี้ที่เขาทำให้เจ็บ รอให้เธอเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่พร้อมจะยอมรับฟังเหตุผลจากเขา และตอนนี้เขาก็พร้อมแล้วที่จะกลับมาขอให้เธออภัย หากเธอยังไม่ยอมยกโทษให้ เขาก็จะยังอยู่ตรงนี้ จะไม่ถอยเหมือนอย่างวันนั้นอีก

ละ...แล้วพี่ธีร์ไปเอาคลิปนั่นมาได้ยังไงคะพริมมาดาถามน้ำเสียงตะกุกตะกัก เธอยอมรับว่ายังตั้งรับไม่ทัน อยู่ๆ ก็ได้รับรู้ในสิ่งที่พยายามจะหาคำตอบมาตลอด ซึ่งแน่นอนว่าคว้าน้ำเหลวทุกครั้ง

เธอรู้ว่าบิดาของเธอทราบ เพียงแต่ท่านไม่บอกเธอ และพยายามบ่ายเบี่ยงทุกครั้งที่ถาม

คลิปที่ว่านั่นเป็นคลิปจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุในโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่ง หลังจากความวุ่นวายผ่านพ้นไปทางครอบครัวของฝั่งคู่กรณีแจ้งความดำเนินคดีกับเธอ ในข้อหาพยายามฆ่า ซึ่งเธอยอมรับว่าตอนนั้นมีปากเสียงกันจริง แต่ไม่ได้ผลักพลอยลดาจนตกบันไดทำให้เธอต้องพิการ ตำรวจชุดสอบสวนจึงเข้าไปขอหลักฐานจากกล้องวงจรปิดและพบว่าภาพเหตุการณ์ช่วงนั้นหายไป เหมือนไฟล์ถูกเขียนทับ

ความคลางแคลงใจในตัวเธอเหมือนจะมีเพิ่มมาอีกเมื่อภาพหลักฐานหายไป สถานการณ์มันบ่งชี้ว่า

เธอทำลายหลักฐาน!

เจ้าหน้าที่พยายามจะกู้คืนไฟล์เหล่านั้นกลับมา ใช้เวลาเพียงไม่กี่วันก็สำเร็จ พวกเขาสามารถกู้คืนมาได้ พริมมาดานึกขอบคุณอะไรก็ตามที่ทำให้หลักฐานเหล่านั้นปรากฏ เหมือนได้ต่อลมหายใจไปอีกวัน เพราะชีวิตนี้ไม่คิดว่าจะต้องมาแบกรับความกดดันจากการตกเป็นจำเลยในความผิดที่ตัวเองไม่ได้ก่อ

แต่แล้วก็เหมือนโลกถล่มลงมาตรงหน้า เมื่อไฟล์นั้นไม่สามารถเปิดได้ ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ไม่เป็นผล เธอต้องรอวันเดินขึ้นศาลด้วยหัวใจที่เจ็บปวด ทั้งที่รู้ผลอยู่แล้วว่าอย่างไรก็ไม่มีทางชนะคดี

ทางมหาวิทยาลัยก็พร้อมจะพิจารณาตัดสิทธิ์ทุนของเธอทันทีที่มีการพิพากษา

เด็กสาวอายุเพียงสิบเก้าปีที่เพิ่งจะก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยต้องเข้มแข็งแค่ไหนถึงผ่านมันมาได้?

จำไอ้เฟลมได้ไหม?” เขาตั้งคำถามพร้อมกับจ้องมองร่างบางตรงหน้า ความรวดร้าวที่ส่งผ่านมาทางแววตาทำให้หัวใจของธีทัตปวดแปลบไม่แพ้กันพี่ขอให้มันช่วยกู้ภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อมาเป็นหลักฐานสู้คดีให้พริม

เป็นอีกครั้งที่พริมมาดาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ หัวใจของเธอทำงานหนักมากในช่วงห้านาทีที่ผ่านมา มันกระหน่ำเต้นยิ่งกว่ารัวกลองออกรบเสียอีก

แลกกับอะไร

ไม่มากหรอก เพื่อพริมต่อให้หนักหนาแค่ไหนพี่ก็แลกได้แม้จะบอกว่าไม่มาก แต่พริมมาดารู้ดีว่ามันไม่ใช่

รอยยิ้มจากริมฝีปากหนาที่ระบายอ่อนๆ ทำให้หัวใจของพริมมาดาอุ่นวาบขึ้นทันใด ความร้อนพุ่งขึ้นสู่ขอบตาจนรู้สึกว่ากำลังจะมีน้ำไหลคลอ มันไม่ได้มาจากความเสียใจ หากแต่มาจากความซาบซึ้งใจ วินาทีนี้เธอรู้แล้วว่าเขาทำเพื่อเธอมากแค่ไหน

เฟลมหรืออนาวิน ถือว่าเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของธีทัตเลยก็ว่าได้ ทั้งคู่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่เด็ก แข่งขันขับเคี่ยวกันมาตลอด จนโตขึ้นความสัมพันธ์เหมือนจะยิ่งแย่ลง เธอรู้ว่าพวกเขาเกลียดกันมาก แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร การที่ธีทัตยอมบากหน้าไปขอความช่วยเหลือจากอีกฝ่าย แน่นอนว่าข้อแลกเปลี่ยนย่อมไม่ธรรมดา

เธอไม่รู้ว่าธีทัตต้องเอาอะไรแลกเพื่อให้ได้มาซึ่งความช่วยเหลือจากแฮกเกอร์มือฉมังอย่างอนาวิน และหากเขาไม่อยากบอก ต่อให้เธอถามอย่างไรก็ไม่มีทางได้คำตอบ จึงทำได้เพียงฉีกยิ้มกว้างกลับไปให้เขา แม้มันจะคละเคล้าไปด้วยหยาดน้ำตา แต่ก็เป็นยิ้มที่เต็มใจที่สุดในรอบเจ็ดปี เพราะมันกลั่นมาจากหัวใจของเธอจริงๆ

"ไม่ต้องทำซึ้งเลย พี่ไม่ชิน อีกอย่างร้องไห้แล้วขี้เหร่...อย่าทำ"

"โหย เสียบรรยากาศหมดเลย เบรกกันล้อไหมขนาดนี้ร้องไม่ออกแล้ว"ปากก็พร่ำบ่น มือก็ยกขึ้นเช็ดน้ำตาออกจากแก้มนวลไปด้วย แต่ไม่รู้ว่ายิ่งเช็ดยิ่งเลอะหรือเปล่า มือหนาจึงยั้งไว้ด้วยการจับมือเธอไว้ แล้วใช้อีกข้างที่ยังว่างไล้น้ำตาออกจากแก้มเธอแทน

ความร้อนจากนิ้วเรียวขาวผ่องทำให้พริมมาดารู้สึกอบอุ่นในหัวใจเมื่อตอนเด็กๆ เวลาเธอร้องไห้เขาก็มักจะเช็ดน้ำตาให้เธอแบบนี้ หญิงสาวไม่รู้ว่าตัวเองยิ้มเปลืองแค่ไหน รู้แต่ว่าความสุขที่เคยหล่นหาย เธอได้มันกลับคืนมาแล้ว

ยิ้มแบบนี้แสดงว่ายกโทษให้พี่แล้วใช่ไหม

ยัง

อ้าว...ธีทัตลากเสียงยาวทำท่ากระฟัดกระเฟียดราวกับเด็กโดนขัดใจ ซึ่งมันทำให้พริมมาดายิ่งหัวเราะกับท่าทางที่ไม่เข้ากันกับหน้าตาของเขา

แต่ก็น่ารักไปอีกแบบ

ต้องดูพฤติกรรมก่อน ต่อจากนี้ต้องห้ามดื้อ ห้ามขัดใจ ห้ามทำให้โมโห ถ้าทำได้เป็นอันผ่าน

พี่ไม่ใช่เด็กอายุสิบสามนะถึงจะมาใช้คำว่าดื้อ

ไม่รู้ล่ะ ถ้าไม่ตกลงก็จบ เลิกคุยแกล้งสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง พร้อมกับอมยิ้มจนแก้มป่อง

อาการที่คล้ายจะแง่งอนนั้นทำให้ธีทัตส่ายหน้าด้วยความหมั่นไส้ อย่างไรเสียก็เขาต้องตามใจเธออยู่แล้ว เขาจะชดเชยเวลาเจ็ดปีแห่งความเจ็บปวดให้เธอ อะไรที่ทำให้คนที่นั่งอยู่ข้างๆ ยิ้มได้และมีความสุข เขาก็ไม่ลังเลที่จะทำ

โอเคๆ ...น้อมรับบัญชาทุกอย่างเลยครับ

ดี ถ้าอย่างนั้นเย็นนี้พริมจะเลี้ยงฉลองที่เราเข้าใจกันแล้ว แต่พี่ธีร์เป็นเจ้ามือนะ

เรานี่มันจริงๆ เลย ได้ทีละเอาใหญ่ชายหนุ่มเอื้อมมือไปลูบศีรษะเล็กแล้วโยกด้วยความเอ็นดู ในที่สุดเขาก็ได้พริมมาดาคนเดิมคืนมา

วันนี้เป็นวันที่เขายิ้มได้กว้างที่สุดหลังจากที่ลืมเลือนไปนานแล้วว่ายิ้มเขาทำกันแบบไหน

ธีทัตขับรถเข้ามาจอดในไซต์งานก่อสร้างห้างสรรพสินค้าอีกครั้งในตอนเที่ยว ก่อนออกไปเขารีบจนลืมของไว้เลยต้องย้อนกลับมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะเป็นของสำคัญอีกทั้งต้องสั่งงานบางอย่างกับหัวหน้าคนงานด้วย เมื่อเช้าทิ้งงานไปแล้วให้วิศวกรประจำไซต์ดูแลแทนไม่รู้ว่ามีปัญหาอะไรบ้างหรือเปล่า

นายช่างครับเมื่อเช้าปั้นจั่นเหวี่ยงไปโดนคานชั้นสองพังทั้งแถบเลยครับ นายช่างช่วยไปดูหน่อยคนงานที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหาทันทีที่ธีทัตก้าวลงจากรถ

โซนไหน

โซนซีครับ

นั่นปะไรเล่า ธีทัตถึงกับกุมขมับด้วยความเครียด คนรับผิดชอบทิ้งงานกันไปหมดทั้งแก็ง พวกมันจะรู้บ้างหรือเปล่าว่าสัปดาห์นรกกำลังจะมาเยือน สิทธิพิเศษโอฟรีที่ไม่ปรารถนาจะได้วิ่งมาจ่ออยู่ตรงหน้าแล้ว...ให้ตายเถอะ!

มีใครไปดูหรือยัง

นายช่างเบียร์ไปดูแล้วครับ แต่ยังไม่กล้าทำอะไรมาก รอให้นายช่างกลับมาก่อน

อืม...เดี๋ยวผมตามไปสั่งการเสร็จร่างสูงใหญ่ก็เดินอ้อมมาอีกฝั่ง เปิดประตูแล้วดึงแขนคนที่นั่งอยู่ข้างในลงมาจากรถ

มีอะไรหรือเปล่าคะพริมมาดาถามด้วยความเป็นห่วง เธอเห็นคนงานชายคนนั้นวิ่งมาหาตั้งแต่รถจอดสนิท ใบหน้าแสดงอาการร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งก็คุยกันด้วยท่าทางเคร่งเครียด จึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากถามออกไป

งานมีปัญหานิดหน่อย พริมช่วยโทรตามไอ้สามคนนั้นกลับมาที บอกว่ามีเรื่องด่วนเขาจูงแขนเธอเดินมายังห้องทำงาน สั่งการพร้อมกับยัดโทรศัพท์มือถือของเขาใส่มือเธอ ก่อนทำท่าจะผละออกไปแต่แล้วก็หันกลับมาใหม่ รอพี่อยู่ในนี้ ห้ามไปไหน

แต่ตอนบ่ายพริมมีสอน

เดี๋ยวจะไปส่งพูดจบก็ก้าวฉับๆ ไปทันทีเป็นการตัดบทสนทนาที่พริมมาดาไม่สามารถโต้แย้งได้อีก ได้แต่ทำหน้ามุ่ยพูดกับตัวเองเบาๆ

ลืมไปหรือเปล่าว่าเอารถเค้ามา

พูดไปก็เท่านั้น เขาไม่ได้ยิน ตอนนี้ที่สำคัญต้องโทรตามพวกที่เกงานกลับมาก่อน ดูเหมือนจะเป็นเรื่องใหญ่พอสมควร เพราะเห็นความวุ่นวายเกิดขึ้นในทิศทางที่ธีทัตเดินไป

เมื่อต่อสายหาสามหนุ่มเรียบร้อย โดยทั้งหมดบอกว่าจะรีบกลับมาเธอจึงเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าแล้วเดินเข้าไปในตู้คอนเทนเนอร์ที่เคยมาเยือนแล้วครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้กับครั้งที่แล้วให้ความรู้สึกต่างกันลิบลับ เพราะเธอกับธีทัตเข้าใจกันแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีการยืนจ้องหน้าทำสงครามประสาทใส่กันอย่างแน่นอน

สวัสดีค่ะพี่พริม วันนี้พี่พอร์ชไม่เข้างานนะคะนับดาวทักทายด้วยรอบยิ้มพิมพ์ใจทันทีที่เห็นพริมมาดาเดินเข้ามา

วันนี้ไม่ได้มาหาพอร์ชหรอกจ๊ะ พอดีมากับพี่ธีร์ แล้วพี่ธีร์ไปดูงานก็เลยให้พี่เข้ามารอในนี้

อ๋อ...ค่ะผู้ช่วยธีทัตขานรับเบาๆ ในลำคอ พริมมาดาสังเกตเห็นอีกฝ่ายยิ้มเจื่อนลงพร้อมก้มลงหลบสายตาก็นึกแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย บางทีหญิงสาวอาจจะเครียดกับเอกสารที่กองอยู่ตรงหน้า ตำแหน่งผู้ช่วยหัวหน้าวิศวกรเหนื่อยน้อยเสียเมื่อไหร่ เพื่อนเธอที่ทำงานด้านนี้ต่างก็โอดครวญว่าใกล้ถูกรายงานทับตายอยู่รอมร่อ

ตายจริง ดาวมัวแต่ทำงานเพลินจนไม่ได้หาน้ำท่าให้พี่พริมกินเลย รอสักครู่นะคะร่างบางกุลีกุจอลุกจากเก้าอี้ ถลาเข้าไปเปิดตู้เย็นแล้วหยิบน้ำผลไม้มาเทใส่แก้ว นำมันมาวางไว้บนโต๊ะกระจกที่อยู่ตรงกลางระหว่างโซฟาตัวยาวที่พริมมาดานั่งอยู่

ขอบใจจ๊ะพริมมาดามองตามมือเรียวเล็กที่ถือแก้วน้ำวางลงตรงหน้า แสงวิบวับที่กระทบกับแสงแล้วสะท้อนเข้าตาเรียกให้หญิงสาวจ้องมองอย่างสนใจ มันคือแหวนที่อยู่บนนิ้วนางข้างซ้ายของนับดาว

ดาวแต่งงานแล้วหรือจ๊ะรอยยิ้มยินดีถูกส่งไปพร้อมคำถาม

ยังหรอกค่ะ แค่หมั้นกันไว้เฉยๆ

ตายจริง วันหลังต้องพาคู่หมั้นมาแนะนำให้พี่รู้จักบ้างนะพริมมาดาอุทานด้วยความตกใจ แต่ก็รู้สึกยินดีกับอีกฝ่าย แม้ว่าจะได้คุยกันแค่สองครั้ง แต่อีกฝ่ายก็เป็นน้องรหัสของน้องชายเธอ อีกทั้งกิริยาวาจาก็นุ่มนวลน่ารักทำให้เธอถูกชะตาด้วยตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ว่าแต่หมั้นกันนานหรือยังจ๊ะ

เจ็ดปีแล้วค่ะนับดาวตอบด้วยท่าทางเอียงอาย แก้มทั้งสองข้างแดงระเรื่อจนลามไปถึงกกหู และนั่นก็ทำให้พริมมาดาหัวเราะด้วยความชอบใจ ตั้งใจว่าจะแกล้งอีกฝ่ายสักหน่อย แต่ประตูห้องก็ถูกผลักเข้ามาด้วยมือแกร่งของธีทัตเสียก่อน

ไปเถอะ พี่จะไปส่งธีทัตคว้าข้อมือพริมมาดา ฉุดให้เธอลุกขึ้นอีกครั้ง อะไรกันตั้งแต่มาถึงที่นี่เธอโดนลากมาสองรอบแล้วนะ

เดี๋ยวสิคะ งานพี่ธีร์เสร็จแล้วเหรอ

อืม...ให้ไอ้พวกนั้นจัดการต่อ ไม่มีอะไรต้องห่วงแล้วไอ้พวกนั้นที่ว่าก็คือแก็งแสบสามสหายที่ต้องรับโอฟรียาวไปทั้งสัปดาห์ นึกแล้วก็อยากขำ อยู่ดีไม่ว่าดีหาเรื่องใส่หัวกันแท้ๆ

ถ้าอย่างนั้นพี่ไปก่อนนะจ๊ะดาวแม้แขนจะถูกกระตุกให้เดินตามร่างสูงออกไป แต่เธอก็รั้งตัวไว้โดยไม่ลืมที่จะหันกลับมาล่ำลากับสาวน้อยที่ยังนั่งอยู่บนโซฟา

นับดาวส่งยิ้มให้เธอแต่แววตาที่มองมากลับทำให้พริมมาดารู้สึกใจหายวาบ เธอเห็นแววอาฆาตในดวงตาคู่นั้น แต่เพียงแค่แวบเดียวมันก็หายไป เธอคงจะตาฝาด เพราะนอนดึกติดต่อกันหลายคืน หรือไม่ก็คิดไปเอง

ใช่...เธอต้องคิดไปเองแน่ๆ

หญิงสาวที่น่ารักอัธยาศัยดี พูดคุยกับเธออย่างเป็นมิตรจะมาอาฆาตเธอทำไม อีกอย่างเธอก็ไม่ได้ทำอะไรให้อีกฝ่ายไม่พอใจเสียหน่อย พริมมาดาพยายามสลัดความคิดฟุ้งซ่านออกไปจากหัวพร้อมกับเดินตามมือแกร่งที่จับจูงให้เดินไปขึ้นรถอย่างว่าง่าย

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา