Heart Project : ปริศนาความทรงจำ

10.0

เขียนโดย PnPn

วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 23.40 น.

  17 ตอน
  0 วิจารณ์
  15.21K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 มกราคม พ.ศ. 2562 23.07 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

14) ตอนที่ 14

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 14

                เดือนธันวาคม ลมหนาวพัดผ่าน สาวมหาลัยส่วนใหญ่สวมเสื้อโค้ดแขนยาวทับชุดนักศึกษา

                แน่นอนเดือนธันวาคมมันก็ต้องคู่กับฤดูหนาว แต่ทำไงได้ก็ประเทศที่อยู่มันเขตร้อนนี่นา อย่าหวังกับหิมะตกเลย แต่ถ้าเกิดหิมะตกจริงๆ คงมีงานต้องทำกันถ้วนหน้าแน่ (ภาคกลางของประเทศไทยหิมะคงจะตกหรอก)

                นี่ก็อยู่ในสัปดาห์สอบแล้วทุกคนในกลุ่มของเอมต่างก็ตั้งใจกันอ่านหนังสือทั้งนี้คะแนนหรือผลสอบในปี2จะส่งผลต่อการเลือกสายงานในอาชีพซึ่งต่างคนก็อยากอยู่ในสาขาที่ตัวเองต้องการ อย่างเช่นเอมต้องการที่จะเลือกสาขาสัตว์อัญเชิญ ชิตที่อยากจะเป็นนักรบในแนวหน้าก็ต้องเลือกสาขาภาคสนามแนวหน้าซึ่งคนส่วนใหญ่หมายปอง ดรีมต้องการเข้าสาขาจู่โจมระยะไกล

                แต่ก็มีอยู่สองคนที่ดูไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับเรื่องสอบนี้เลยนั่นคือไวท์กับนิสา ถ้าเป็นไวท์ก็พอจะเข้าใจได้(ก็อยู่ต่างมหาลัยกับพวกเอม) กลับกันนิสานี่ทำตัวลั้นลาตลอดเวลาแต่ถึงอย่างนั้นนิสาเขาระดับเทพ เกรดก็สูงจะเข้าสาขาไหนก็ได้

                เอม ชิต ดรีม นิสา นาเดียนั่งติวหนังสือกันที่โรงอาหารของศูนย์วิจัยอุปกรณ์ อ้อ..พ่วงไวท์เข้าไปอีกหนึ่ง

ด้วยบรรยากาศที่เงียบเชียบรวมถึงทุกคนต่างก็ขมักเขม่นกันทบทวนบทเรียน
                ทำให้เอมที่ทนกับบรรยากาศแบบนี้ไม่ไหว ก็เริ่มเปิดประเด็นทันที
                “นาเดียกลับเมื่อไหร่นะ”

                “กลับสิ้นเดือนมกราเลย” นาเดียตอบกลับมา

                “ไม่ได้กลับสิ้นเดือนนี้หรอ” ดรีมถามกลับทันที

                “ขอยืดเวลามา ก็แค่อยากอยู่จนถึงสัปดาห์แรกของงานจัดอันดับพลังทั่วประเทศ”

                “นาเดียจังจะมาอยู่เชียร์ผมใช่ม้ายย...ดีใจจังเลย” ดรีมพูดพลางยิ้ม

นาเดียส่งสายตาไปหาดรีมราวกับมองขยะที่ถูกทิ้งไว้บนพื้นมาหลายวันโดยไม่มีทีท่าว่าจะมีใครหยิบไปทิ้ง

ดรีมถึงกับสะดุ้งเฮือก.....ส่วนไวท์ที่มองอยู่ก็ส่งแรงอาฆาตไปหาดรีม....

“จริงๆแล้วมันมีเรื่องนิดหน่อยนะถึงต้องอยู่ยาว แต่ก็ดีจะได้ไปหาท่านพ่อกับท่านแม่ในช่วงปีใหม่ด้วยเลย ท่านคงคิดถึงหนูมาเลยละเน๊าะ พี่จ๋า” นาเดียพูดขึ้น

“นั่นสิพวกท่านอยากกินข้าวฝีมือนาเดียด้วย ไปทำทำให้พวกท่านก็คงจะดี” ไวท์พูดเสริม

                “แล้วพวกเธอล่ะ ปีใหม่นี้ไปไหนกัน” นาเดียถามคนที่เหลือ

                “ผมต้องไปที่บ้านใหญ่นะสิ ไม่รู้เป็นอะไรช่วงนี้ที่บ้านใหญ่มีปัญหากันบ่อยมาก ไอเราก็จะไปไหนมาไหนไม่ได้เลย” ดรีมตอบคนแรก

                “ส่วนเราก็รับจ็อบไปเป็นบอดี้การ์ดให้กับดรีม ทางบ้านเราก็ไม่ได้ว่าอะไร อีกอย่างคุณเรนฟอร์ซพอเห็นฝีมือในหลายๆอย่างก็ตกลงรับ” ชิตตอบกลับเป็นคนที่สอง

                “นี่ชิตหารายได้พิเศษด้วยหรอ” นาเดียถามชิตด้วยความสงสัย

                “ก็นิดหน่อยหนะ” ชิตตอบกลับพลางยิ้มแบบเขิน

                “ความจริงก็แค่อยู่บ้านแล้วมันไม่ได้มีอะไรทำก็บอกมาเหอะ ชิต” เอมแซวขึ้นมา “นี่นาเดียจะบอกไรให้จริงแล้วบ้านของชิตอยู่ใกล้ๆกับบ้านใหญ่ของดรีมนั่นหละ แหม่เด็กติดบ้านอย่างชิตหรอจะทำงานพิเศษ”

                “เงียบไปเลยน่าเอม” ชิตเริ่มร้อนรน

                อยู่ๆนาเดียก็ขำออกมา “ฮาๆๆ เธอสองคนดูสนิทกันจังเลยนะ”

                ““ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น”” ““อุ๊บ!!”” เอมกับชิตพูดออกมาพร้อมกับและหันหน้าหนีออกจากกัน

                “แล้วเอมละ ปีใหม่ไปไหนหรอ” นาเดียหันไปถามเอม

                “ไม่ได้ไปไหนหรอก ก็คงอยู่ที่หอนี่ละ” เอมตอบกลับไป

                “ทำไมล่ะ” นาเดียถามต่อ
                “คุณป้าเขาไปต่างประเทศเลยไม่มีใครอยู่ที่บ้าน” เอมตอบกลับ

                ทันใดนั้นพี่ศรได้เดินเข้ามา

                “เอม ช่วงหยุดปีใหม่นี้ศูนย์นี่จะปิด จะปรับปรุงระบบยกใหญ่เลย เกรงว่าจะให้เธอยู่ไม่ได้” พี่ศรพูด

                “แล้ว...หนูจะไปอยู่ที่ไหนละคะ” เอมแสดงสีหน้าเศร้าออกมา

                “งันเอม มาอยู่บ้านฉันไหม” นิสาที่ฟังอยู่เลยอาสามา

                “จะดีหรอนิสา แบบว่าฉันเกรงใจ”

                “ไม่เป็นไรๆ ปีใหม่ยิ่งคนเยอะยิ่งดี”

                “ขอบใจน้า นิสา” เอมเข้าไปกอดนิสา

                “จะยังไงก็เถอะพวกเธอมีสอบกันไม่ใช่หรอ ทำไมไม่อ่านหนังสือกันต่อ” ไวท์พูดพลางมองมาที่พวกเอม จนพวกเอมที่กำลังจะเริ่มคุยกันต้องชะงักลงแล้วต่างคนก็กลับตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือตามเดิม

 

                ในที่สุดการสอบกลางภาคเทอม 2 ของนักศึกษามหาลัยปี 2 ก็จบลง              

                วันที่ 29 ธันวาคม

                เอม นิสา ไวท์ นาเดียมาที่เขต 15 เขตบ้านเกิดของนิสากับไวท์

                มันก็เป็นสถานที่คุ้นเคยสำหรับ นิสา ไวท์และนาเดีย แต่เอมก็ยังทำทางขวยเขินที่ดูออกว่ายงคงเกรงใจนิสาที่ต้องมาค้างช่วงวันหยุดสำหรับครอบครัวแบบนี้

                พอมาถึงหน้าบ้านนิสากับไวท์ ไวท์กับนาเดียก็แยกเข้าบ้านของพวกเขา ส่วนเอมกับนิสาก็เข้าบ้านของนิสา
                ที่บ้านของนิสา

                มีผู้หญิงหน้าตาสวยวัยกลางคน ทำตาดุตลอดเวลาจนเอมตัวสั่นทำให้เอมต้องไปหลบหลังของนิสา

                “สวัสดีค่ะ คุณแม่” นิสาทักทายด้วยน้ำเสียงเข้ม “คนนี้คือเอมค่ะ เพื่อนของเกลเองค่ะ”
                “แม่เองก็ได้รับข้อความมาแล้ว” คุณแม่ของนิสาตอบกลับด้วยท่าทีนิ่งเฉย “จะว่าไปหนูเอมเราเคยเจอกันมาก่อนไหมจ๊ะ” คุณแม่ของนิสาชะโงกมาหาเอมที่ยืนตัวสั่นอยู่
                เอมเองก็จำเป็นต้องมองหน้าของคุณแม่นิสาอย่างเลี่ยงไม่ได

                “ส..สะ..สวัสดีค่ะ เอมค่ะ” เอมกล่าวทักทาย “เอ๊ะ!! คุณพยาบาลเมื่อตอนนั้นนิ”

                “พยาบาล?? เอม แม่ของฉันไม่ได้เป็นพยาบาลสักหน่อย” นิสาแทรกขึ้นมา

                “นี่เกลแม่ของลูกเป็นนางพยาบาลแสนสวนน้าลืมกันได้ยังไง” แม่ของนิสาเข้าไปทำตาหวานใส่นิสาซึ่งบุคลิกแม่นิสาตอนนี้ต่างจากเมื่อครู่

                เอมเริ่มนึกได้เช่นกันว่าพยาบาลในตอนนั้นก็ไม่ใช่คนที่เข้มขรึมอะไร เอมจึงเข้าไปกระซิบข้างหูนิสา “เอ่อถ้าแม่เธอไม่ได้เป็นนางพยาบาลแล้วเป็นอะไรหรอ”

                “แม่ของฉันชอบใส่ชุดแปลกๆ ทำตัวแปลกๆมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว อย่าไปสนใจดีที่สุด” นิสาตอบเอม

                “จะว่าไปแม่ แล้วพ่อกับเบลละ” นิสาถามแม่ของเธอเมื่อสังเกตว่าสมาชิกในบ้านยังไม่ครบ

                “สองคนนั่นไปทำงานให้ส่วนกลางเหมือนว่าต้องไปตรวจสอบแถวเขต 25 เพราะมีพวกก่อกวนโผล่ขึ้นมาอีก อะไรประมาณนี้” คุณแม่นิสาตอบกลับมา “ยังไงก็เข้าบ้านกันก่อนดีกว่านะ”

                หลังจากที่ทั้งสองเข้าไปในบ้าน นิสาเลยพาเอมขึ้นห้องซึ่งก็คือห้องเดิมในตอนมาพักคราวที่แล้วเพื่อเก็บกระเป๋าสัมภาระ จากนั้นทั้งสองก็ถูกแม่ของนิสาเรียกตัวโดยให้ไปซื้อของสำหรับงานปาร์ตี้ในวันพรุ่งนี้

                ระหว่างที่เอมกับนิสาเดินไปย่านตลาดบริเวณใกล้

                “นิสา ฉันสงสัยปรกติถ้าเป็นช่วงนี้จะจัดพวกงานปาร์ตี้กันในวันที่ 31 ไม่ใช่หรอ แล้วทำไมบ้านของพวกเธอถึงจัดกันวันที่ 30 ละ”

                “ก็ไม่รู้สิมันเป็นเหมือนธรรมเนียมของบ้านฉันกับไวท์ไปแล้วว่าจะจัดกันในวันที่ 30 จะว่ามันเริ่มตั้งแต่ฉันเจอกับไวท์แรกๆเลยมั้ง ก็ตอนม.1เลยละ ไปๆมาๆก็จัดกันต่อเนื่องกันจนถึงตอนนี้”

                “แต่ว่ามีฉันเข้าร่วมแบบนี้จะไม่เป็นอะไรใช่ไหม”

                “ไม่เป็นไรๆ ยังไงๆทุกๆปีก็จะมีคนอื่นมาร่วมปาร์ตี้ด้วยกันอยู่แล้ว”

                “มีคนอื่นอีกด้วยหรอ แล้วเป็นใครบ้างหรอ”

                “นั่นสิใครบ่างหว่า ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ถ้าพรุ่งนี้เจอแล้วจะบอกนะ” นิสายิ้มกลับมา

                เอมเดินต่อไปด้วยความงุนงง

 

เช้าวันที่ 30 ธันวาคม

                เวลา 7.30 น.

                เสียงระเบิดดังมาจากบ้านของไวท์

                เอมสะดุ้งตื่นขึ้นทันที แต่ก็ไม่ได้มีท่าทีอะไรเพราะจากคราวที่แล้วที่มาพักบ้านนิสาก็คงเป็นเหตุการณ์เดียวกัน

                เอมเดินลงมาจากชั้นสองก็พบกับคุณแม่ของนิสากำลังจิบกาแฟยามเช้าอยู่

                “เออคุณน้า...” ทันใดนั้นเอมก็ถูกแม่ของนิสาชักสีหน้าใส่จนต้องเปลี่ยนคำพูด “เออคุณเบลล่าคะ อรุณสวัสดิ์ค่ะ”

                “อรุณสวัสดิ์จะ หนูเอม ว่าแล้วเชียวยังไงมันก็เป็นนาฬิกาปลุกชั้นดีเลยนี่เน๊าะ”

                “ค่ะ ตอนอยู่ที่หอพักก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน สามคนนั้นดูสนิทกันมากเลยนะคะ”

                “ถ้าเป็นเมื่อก่อนแรงระเบิดดังกว่านี้อีกนะ ยิ่งที่เกลเจอหตอนหนูนาเดียครั้งแรกถึงกับบ้านหายกันเลยละ” แม่นิสาตอบมาพร้อมเสียงหัวเราะ

                พูดไม่ทันขาดคำ ร่างของนิสาก็ลอยทะลุหน้าต่างเข้ามาแล้วก็มานั่งบนโซฟาข้างๆแม่ของเธอ

                “โย่ววว” เสียงทักทายออกจากปากนิสา

                ณ ตอนนี้สีหน้าของเอมกับแม่นิสาที่มองมาที่นิสาคือใบหน้าที่นิ่งเฉยแต่กลับมีออร่าสีดำออกมาจากคนทั้งสอง เพราะสภาพนิสาในตอนนี้มีแค่ผ้าขนหนูผืนเดียว......

                “นี่นิสา ถามจริงคนเป็นเพื่อนกันเขาจะมุดไปหาด้วยผ้าขนหนูผืนเดียวหรอ” เอมถามนิสาทันที

                “นี่เกล ต้องให้บอกกี่ครั้งกี่หนถึงลูกจะเข้าใจกันนะ”

                เอมมองไปที่แม่นิสา เพราะตอนนี้สีหน้าของเธอแสดงให้ถึงความโมโหสุดขีด

                “สภาพแบบนี้แล้วไปหาผู้ชายถึงห้องมันไม่เหมาะ” แม่นิสาตะโกนออกมาเสียงดัง เอมมองด้วยความหวังจะเหฌรนิสาถูกสั่งสอนบ้างสักที

                “ถ้าจะไปทั้งที....มันต้องไม่ใส่อะไรเลยสิถึงจะถูก...แม่จีบคุณพ่อก็วิธีนี้หละ” แม่นิสาตะโกนออกมาเสียงดัง

                “เอ๊ะ!!!!!!!!!!!!!!!”

เอมได้ยินถึงกับอึ้งทำอะไรไม่ถูก ราวกับโลกถูกบิดเบี้ยวไป แต่ก็ทำได้แค่จำยอมไปพร้อมกับการถอนหายใจยาวๆ

 

เวลา 9.00 น.

                สถานที่จัดปาร์ตี้คือสวนหลังบ้านของเอมและไวท์ที่ถูกเอารั้วออกทำให้สวนหลังบ้านทั้งสองหลังเชื่อมต่อกัน แต่ถ้าดูดีๆกำแพงเดิมมันเหมือนถูกทำให้พังลงมากกว่า จะยังไงก็ช่างมันเถอะมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับงานปาร์ตี้วันก่อนวันสินปีนักหรอก ถึงจะเกี่ยวแต่มันก็คงไม่สำคัญนัก

                เอม นิสากับแม่นิสาก็ได้ยกอาหารออกมาตั้งส่วนทางด้านบ้านไวท์ก็ได้จัดสถานที่ไว้แล้วทั้งโต๊ะ เก้าอี้ และการตกแต่งเล็กน้อยพองาม

                หลังจากที่วางอาหารเรียบร้อยแล้วซึ่งใช้เวลาไม่นาน แขกคนแรกที่เข้ามาในงานปาร์ตี้คือพี่ริวที่เป็นรุ่นพี่ของนิสาและเป็นคนในตระกูลของดรีมอีกด้วย

                “อ้าวนี่เพื่อนของรุ่นน้องเกลใช่ไหม” พี่ริวทักเอมด้วยรอยยิ้ม

และทั้งสองก็ได้คุยกันเล็กน้อย

                “จะว่าไปตระกูลของดรีมเขารวมตัวกันในวันปีใหม่ไม่ใช่หรอคะ” นิสาถามขึ้นมา

                “ก็ใช่นั่นหละ แต่ว่าพี่เองก็มีภารกิจของตระกูลด้วยนะสิเลยต้องออกมาแบบนี้” พี่ริวตอบกลับไป

                “แล้วเป็นภารกิจแบบไหนหรอคะ” เอมถามกลับ

                “ก็แค่จับตามองประมาณนี้ละมั้งแถมเป้าหมายก็ไม่ได้มีอะไรมากก็เลยวาปออกมางานนี้ได้” พี่ริวตอบกลับ

                จากนั้นพี่ริวก็เปลี่ยนไปคุยกับแม่ของนิสากับพ่อแม่ของไวท์ ซึ่งในสายตาของเอมพี่ริวดูจะเป็นผู้ใหญ่มากซึ่งต่างจากคู่สนทนาของพี่ริวที่ตัวตนจริงๆยังกับเด็ก...โลกนี้คงบิดเบี้ยวไปแล้วจริงๆในคามคิดของเอม

                ในเวลาต่อมาก็มีคนมางานปาร์ตี้เพิ่มอีกสองคนคนแรกเป็นผู้ชายสูงพอๆกับไวท์ผมสีออกดำน้ำตาลตัดสั้นมาในชุดของหน่วยงานระวังภัยของรัฐบาลสวมเสื้อเชิตสีขาวมีสัญลักษณ์ของหน่วยระวังภัยติดไว้บนอกและชื่อ สวมกางเกงขายาวสีน้ำตาลเข้มซึ่งสีชุดจะเปลี่ยนไปในแต่ละเขตและเมื่อดูจากยศที่ตรงไหล่ก็ถือว่าอยู่สูงพอควรอาจอยู่ในระดับพอๆกับหัวหน้าหน่วยได้เลย ส่วนอีกคนเป็นผู้หญิงมีผมดำยาวสลวยก็แต่ตัวแบบเดียวกันโดยจะใส่เป็นกระโปรงยาวถึงเขาแทน

                แขกทั้งสองที่มาเป็นรุ่นน้องที่โรงเรียนตอนม.ปลายเหมือนว่าจะรู้จักกันด้วยเหตุบางอย่างจากคดีในโรงเรียนเอกชนที่นิสากับไวท์อยู่ตอนม.ปลายและดูเหมือนว่าทั้งสองเรียนจบก็คงไปสมัครเป็นกองกำลังทหารทันที

                “นี่นิสาฉันสงสัย เธอไปทำอะไรให้รุ่นน้องของเธอกินดูเหมือนว่าจะเคารพเธอมากเลยนะ” เอมถามนิสา

                “ก็ไม่มีอะไรมากหรอกแบบว่าช่วงนั้นฉันชอบเล่นอะไรๆสนุกๆนะ” นิสาตอบเสร็จก็เดินไปคุยกับนาเดีย

                เอมก็ได้แต่คิดในใจว่าช่างมันเถอะมันคงเป็นเรื่องส่วนตัวของนิสา

                “ไงจ๊ะเอม” คุณแม่ของไวท์เข้ามาทักเอม “เป็นอย่างไรบ้างกับงานครั้งนี้”

                “ค่ะ ก็ดูสนุกดีนะคะ แต่ก็แปลกเหมือนกันตอนแรกคิดว่าเป็นงานเลี้ยงกันเฉพาะกันในสองบ้านเสียอีก” เอมตอบ

                “จ๊ะงานปาร์ตี้ที่ดีก็ต้องมีคนเยอะๆสิถึงจะสนุก” คุณแม่ของไวท์ตอบ “อ้ออีกอย่างรู้ไหมจ๊ะ ว่าแขกที่มาในงานนี้เราไม่ได้เชิญมานะ ใครจะมาก็มาได้นะยังไงก็ปีหน้าเอมก็มาอีกได้นะ ชวนเพื่อนๆที่มหาลัยมาด้วย”

                เอมรู้สึกแปลกใจกับคำพูดของแม่ไวท์แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก จากนั้นแม่ไวท์ก็เดินออกไปแล้วแขกชายหญิงที่เข้ามางานล่าสุดก็เดินเข้ามาทักทายเอมจากด้านหลัง

                “สวัสดีครับ” “สวัสดีค่ะ” เสียงของชายหญิงกล่าวทักทาย

                เอมรีบหันกลับมา “ค..ค่ะ..สวัสดีค่ะ...เอมค่ะ”

                “ครับ ภพครับ” “มะนาวค่ะ พวกเราเป็นรุ่นน้องของพี่เกลค่ะ”

                “เห็นว่าเป็นเพื่อนของรุ่นพี่เกล งั้นพวกของเรียกว่ารุ่นพี่เอมได้ไหมครับ” “ได้ไหมค่ะ”

                “ช..เชิญ...ค่ะ” เอมตอบด้วยท่าทางเขิน

                “เห็นรุ่นพี่เกลบอกว่ารุ่นพี่เอมเป็นผู้ใช้สัตว์อัญเชิญใช่ไหมครับ แล้วยังบอกอีกว่ายังเรียกได้มากกว่า 1 ตัวอีกด้วย”

                “ก็ประมาณนั้น แต่จะว่าไปที่บอกว่าเรียกได้มากว่า 1 ตัวนี้หมายความว่าไงหรอ น้องภพน้องนาว”

                “รุ่นพี่เอมค่ะ การเรียกสัตว์อัญเชิญประเภทใช้มานาเป็นตัวเลี้ยงพลังที่เคยเจอมาก็มีรุ่นพี่เกลคนเดียวเท่านั้นค่ะ”

                “โดยปรกติการใช้สัตว์อัญเชิญจะต้องใช้มานาในร่างกายสูงมาก และยิ่งตัวใหญ่ยิ่งต้องใช้มานามาก แต่โดยปรกติคนที่ใช้มานาเป็นสือเรียกเขามักจะมีอุปกรณ์เก็บมานาเพื่อใช้เรียกตัวที่สองกัน”

                “น้องนาวน้องภพ นี่มันความรู้ใหม่ของพี่เลยเลยนะเนี่ย” เอมพูดด้วยสีหน้าตะลึง “ถึงว่าละที่มหาลัยก็มีคนใช้สัตว์อัญเชิญเหมือนกันแต่พอตอนจะเรียกตัวที่สองก็ชอบหยิบของแปลกๆออกมาใช้ร่วม”

                “จริกพวกเราก็ยากให้รุ่นพี่เอมโชว์ออกมาเลย แต่เดี๋ยวก็ได้เห็นแล้ว”

                “เดี๋ยวก็ได้เห็นหรอ...หมายความว่าไง” เอมถามด้วยความสงสัย

                แต่ไม่ทันที่ภพกับมะนาวได้ตอบ พวกผู้ใหญ่ก็เรียกให้ทุกคนมานั่งที่โต๊ะ

                จากนั้นแม่ของนิสาก็กล่าวเปิดงานปาร์ตี้นี้และก็ได้เวลาทานอาหาร

                หลังจากทานไปได้สักพักพวกวัยรุ่นก็จับกลุ่มคุยกัน แยกตัวออกมาจากพวกผู้ใหญ่

                “งั้นพวกเรามาคุยเรื่องแปลกๆที่เกิดขึ้นในชีวิตที่ผ่านมาดีไหม” นิสาเริ่มพูดก่อน “งั้นเริ่มจากคนที่อายุเยอะที่สุดก่อนเลย พี่ริว”

                “พี่ก่อนเลยหรอ อืม...เรื่องอะไรดี...ได้ละ รู้จักตำนานเขต15เรื่องนี้หรือไม่” พี่ริวเริ่มเล่าเรื่อง “มันเป็นเรื่องตอนพี่สมัยอยู่ประถม ว่ากันว่าแถวตึกสภาเขต15เคยเป็นสุสารมาก่อน ในคืนนึงพี่ได้ไปเดิน....”

                “...ไปเดินที่หน้าตึกแล้วอยู่ๆก็โผล่ไปหลังตึกแต่เดินไปเรื่อยๆก็กลับมาอยู่หน้าตึก...จนมารู้ตอนหลังว่าเผลอไปเดินเข้าประตูวาปที่ใครไม่รู้เปิดอยู่...” ภพแทรกขึ้นมา

                “พวกนายรู้ได้ไงเนี่ย” พี่ริวสงสัย

                “...เรื่องนี้นิสาเราให้ฟังจนจำได้แล้วมั้ง...” เอมพูด

                “...เรื่องแบบนี้รุ่นพี่เกลเล่าให้ฟังจนเบื่อแล้วละ...” มะนาวพูด แล้วคนทั้งหมดก็พยักหน้าตาม

                พี่ริวก็ได้แต่ทำหน้าเศร้าน้ำตาคลอเบ้า

                “งั้นต่อไปขอทานนี้นะ” เอมเสนอตัวจะเล่าเรื่องต่อไป “เคยฝันกันไหม ฝันถึงเรื่องราวในอนาคต มีอยู่วันหนึ่งจำได้ว่าตอนนั้นช่วงใกล้จะจบ ม.6 แล้ว ฉันฝันประหลาดเป็นเรื่องที่ซ้ำไปซ้ำอยู่หลายรอบรอบนึงกินเวลาสองสัปดาห์ ประมาณว่าพอครบสองสัปดาห์ก็วนกลับมาที่เดิมซ้ำไปซ้ำมา ไม่หลุดจากฝันนั้นสักที”

                “...เป็นความฝันที่พิลึกดีว่าไหมนาย” พี่ริวหันไปคุยกับไวท์ แต่ท่าทีของไวท์กลับนิ่งไปราวกับเจอผีตัวเป็นๆ

                “กี่รอบ??” นิสาถามเอม ด้วยท่าทีราวกับเจอผีเหมือนกับไวท์

                “ถ้าจำไม่ผิดก็ 13 รอบมั้ง” เอมตอบนิสา

                “นี่นาเดีย ไวท์กัยนิสาเป็นอะไรไปหรอดูหน้าถอดสีเลย แถมรุ่นน้องภพกับรุ่นน้องนาวก็เงียบไปเลยด้วย” เอมถามนาเดีย

                “ความผิดมันย้อนเขาตัวละมั้ง” นาเดียตอบเอม โดยเอมก็ทำหน้างง

                “เอาเป็นว่าช่างมันเถอะ ยังไงก็ใกล้ถึงแวลาแล้วละ มาเตรียมตัวกันเถอะ” ไวท์ตัดบท

                “นี่นาเดีย  ใกล้ถึงแวลาอะไรหรอ” เอมถามนาเดีย

                “อ้อนี่เป็นครั้งแรกที่เอมมาปาร์ตี้นี้ใช่ไหม” นิสาตอบเอม แล้วก็อธิบายต่อ “ประมาณว่าพอเวลา 10.45 น.มันจะต้องมีเรื่องให้เขาทุกทีละน่า”

                “มีเรื่อง??” เอมสงสัย

                ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ของเอมก็ดังขี้นเป็นสายจากดรีม

                “ดรีม มีอะไรหรอ” เอมรับสาย

                “นี่ชิตเองนะ ตอนนี้อยู่กับใครบ้าง” เสียงของชิตท่าทางเหนื่อยดังมาแทนที่จะเป็นดรีมเจ้าของเบอร์

                “เออ ชิตหรอ ก็อยู่ที่งานปาร์ตี้กับไวท์และนิสานะ อ้อๆๆพี่ริวญาติของดรีมที่เคยเจอวันนั้นก็อยู่ด้วยนะ”

                “งั้นฝากบอกพี่ริวด้วยว่าฝากทางนั้นด้วย แล้วก็เอมระวังตัวด้วยนะ ไปก่อนละ............” เสียงของชิตก้ตัดสายไป

                เอมจึงไปหาพี่ริวที่คุยกับไวทืและนาเดียอยู่

                “พี่ริวคะ เมื่อกี่ชิตบอกว่า ฝากทางนั้น ด้วย”

                พี่ริวหันไปคุยกับไวท์ “ได้เวลาแล้วไวท์ คราวนี้ท่าทางจะมาถึงนี่เลย”

                “เอาจริงดิ” ไวท์พูดออกมา แล้วก็ตะโกนออกมาว่า “ได้เวลาแล้วทุกคน!!!”

                เอมก็ได้แต่นิ่งแต่ก็ยังคิดถึงคำพูดของชิตที่ให้ระวังตัว

                ทันใดนั้นเสียงระเบิดดังขึ้นที่บ้านของนิสากับไวท์ทำให้ทุกคนหันไปทางต้นเสียง แล้วก็มีบุคคลปริศนารวม 4 คนเดินพังกำแพงบ้านของนิสากับไวท์ออกมาจากนั้น

                “ไงไม่ได้เจอกันหายวันเลย” เสียงมาจากด้านหลังของทุกคน เป็นปีศาจแมงมุมที่คุ้นเคย กับอาร์มเมอร์เกราะ 2 ตัวที่หนีไปจากเมื่อตอนที่บุกศูนย์วิจัยอุปกรณ์

                “ต้องขอโทษด้วยที่อยู่ๆก็บุกมาแต่เราต้องการแค่...เรียกสินค้าที่ไม่สมประกอบ...คืน.....”

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา