Heart Project : ปริศนาความทรงจำ

10.0

เขียนโดย PnPn

วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 23.40 น.

  17 ตอน
  0 วิจารณ์
  15.61K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 มกราคม พ.ศ. 2562 23.07 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

17) ปี2 VS ปี4

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ตอนที่ 17
วันนี้ก็มาถึงแล้วสินะ
                วันนี้เราจะต้องสู้กับทีมที่มาจากรุ่นพี่ปี4 อีกทั้งยังเป็นทีมท็อปจากปีที่แล้วยังไม่พอเรายังขาดนาเดียกับนิสาที่เป็นคนช่วยเหลือข้างสนามด้วย ถึงยังไงเราก็จะไม่ยอมแพ้
                หลังจากพวกเราจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับสู้เสร็จก็ไม่ใช่เวลาที่ต้องถอยแล้ว
                ตามกติกางานแข่งจัดอันดับจะสามารถนำอุปกรณ์เข้าได้ไม่เกินคนละ 4 ชิ้น ยังไงก็เกือบทุกคนจะใส่พาวเวอร์สูทอยู่แล้วจึงทำให้ส่วนใหญ่ใช้อุปกรณ์คนละ 3 ชิ้น แต่ในกรณีแข่งทีมจะสามารถใช้อุปกรณ์ร่วมกันได้และเมื่อตัดที่ว่าใส่พาวเวอร์สูทแล้วทีมของเราจะใช้อุปกรณ์รวมกันได้ 9 ชิ้น
                ทั้งนี้อาวุธประจำตัวก็ถือว่าเป็นอุปกรณ์อย่างหนึ่งด้วยเช่นกัน เป็นต้นว่าทีมของเราชิตใช้ดาบของเขานับเป็น 1 ชิ้น ส่วนปืนคู่ของดรีมนับเป็น 2 ชิ้น(เปลืองเนื้อที่จริงๆ) แต่อย่างน้อยฉันไม่ได้มีอาวุธประจำตัวจึงตัดในส่วนของฉันไป ทำให้ทีมของเรามีที่ว่างสำหรับอาวุธหรืออุปกรณ์อีก 6 ชิ้น
                สำหรับชุดพาวเวอร์สูทของเราก็ได้อุปการคุณจากศาสตราจารย์อรชุนหัวหน้าศูนย์วิจัยอุปกรณ์ของวิทยาลัย ซึ่งดูยังไงก็โดนยัดเยียดให้มาทดสอบนั่นหละ แต่ก็ดีกว่าไม่มีใช้
                ส่วนอุปกรณ์เสริมนอกจากที่ได้มาจากศูนย์วิจัยอุปกรณ์แล้วยังได้ของดีจากตระกูลเรนฟอร์ชอีกด้วย แหม่ก็มีหลายชายหัวแก้วหัวแหวนลงแข่งด้วยทางตระกูลเลยจัดเต็มซะขนาดนี้ ถึงขนาดพี่ริวยังบ่นมาให้ฟังเลยว่าทีคราวตัวเองยังไม่ได้ของจัดเต็มขนาดนี้
                ครั้งนี้เราต้องสู้กับทีมขั้นโหดแถมยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายใช้พลังแบบไหนกันแน่ แม้พวกเราจะดูวิดีโอย้อนหลังการต่อสู้ของทีมนี้มาแล้วแต่ก็ยังมองไม่ออกอยู่ดีว่าใช้พลังรูปแบบใดเพราะจากที่ดูกันมาทีมนี้ใช้พลังที่หลากหลายมากรวมถึงการวางตำแหน่งของแต่ละคนก็สลับกันไปมาได้ ทำให้หาอุปกรณ์แก้ทางตรงๆไม่ได้จึงต้องใช้อุปกรณ์พื้นฐานแทน
                อุปกรณ์พื้นฐานที่พวกเราใช้นั้นมี อุปกรณ์ทำลายกำแพงแสงเป็นแหวนซึ่งให้กับชิตและดรีมคนละชิ้น  อุปกรณ์สลายการผนึกระดับสี่(ของเด็ดของดีจากตระกูลเรนฟอร์ช)ลักษณะคล้ายเกราะอกติดเสริมเข้ากับชุดเพาเวอร์สูทให้กับฉันและชิตคนละชิ้น ส่วนอีกสองชิ้นคือปืนลำกล้องสั้นน้ำหนักเบาถือมือเดียวได้ซึ่งได้มาจากศูนย์วิจัยอุปกรณ์ที่พี่ศรที่โยนมาให้ใช้ซึ่งชิ้นนี้ฉันจะพกไว้เองและชิ้นสุดท้ายเครื่องสร้างบาเรียมีลักษณะเป็นสร้อยคอซึ่งให้ดรีมไว้
                กลับมาที่สนามต่อสู้ เป็นสนามขนาดใหญ่มีอัฒจันทร์ล้อมรอบมีการสร้างบาเรียกั้นระหว่าคนดูกับเขตของสนามอีกทั้งยังเป็นสนามสำหรับใช่ในวันเปิดของงานจัดอันดับอีกด้วย อีกทั้งยังสามารถจุคนดูได้กว่า 50,000 คน
                วันนี้มีคนดูมากเป็นพิเศษด้วยเหตุผลหลายๆแต่หลักๆคือทั้งทีมของพวกเรากับทีมของรุ่นพี่ที่จัดได้ว่าเป็นตัวท็อปของรุ่นเลยก็ว่าได้ แทบจะมาดูกันทั้งมหาลัยเลยมั้งรวมถึงยังมีนักศึกษาจากมหาลัยข้างเคียงกับคนภายนอกมาดูด้วย
                “ตื่นเต้นหรอ” ฉันทักไปหาดรีมที่ยืนตัวสั่นผิดกับชิตที่ยืนนิ่ง
                “มันก็เหมือนๆกับตอนนิสาพาไปออกงานครั้งแรกนั่นหละ” ชิตเข้าไปตบไหล่ดรีม
                “ครั้งนั้นมันไม่เหมือนครั้งนี้นะ ครั้งนี้มีคนมาดูเยอะแยะเชียว” ดรีมพูดไปสั่นไป “แถมการแข่งรอบนี้ยังมีการถ่ายทอดสดในเว็บของมหาลัยอีก เชื่อเถอะป่านี้พวกคุณปูคงนั่งอยู่หน้าจอคอมแล้ว”
                จากนั้นก็ถึงเวลาแล้วพวกเราเดินออกทางประตูเข้าสนาม
                เราเดินไปยังกลาสนามที่ให้พบกับทีมอีกฝ่าย
                ท็อปปี4สามคนยืนอยู่ตรงข้ามกับทีมของเรา
                คนกลางเป็นผู้หญิงหนึ่งในสองคนของทีมและเป็นหัวหน้าทีมชื่อว่าบลู(น่าจะเป็นนามแฝง) เธอมีรูปร่างเล็กผมสีดำยาวมัดผมหางม้า เมื่อมองดีๆก็จัดว่าเธอหน้าตาดีเลยทีเดียว แต่สิ่งที่แปลกคือเธอจะทำหน้าที่เป็นแนวหน้าเสมอดูเหมือนว่าเธอจะใช้พลังประเภทเสริมกำลังเป็นหลักอาวุธของเธอคงเป็นสนับมือที่เธอสวมอยู่
                “ไม่คิดว่าในรอบสุดท้ายจะเจอทีมรุ่นน้องไฟแรง” รุ่นพี่บลู กล่าวทัก
                “ทางนี้ก็ยินดีเช่นกันครับ” ชิตตอบกลับไป
                “วันนี้ทีมของพวกเธอไม่มีฝ่ายสนับสนุนสินะ งั้นทางนี้เองของขอยกเลิกฝ่ายสนับสนุนเช่นกัน”
                 “จะดีหรอครับรุ่นพี่บลู”
                “ไม่เป็นไรหรอกแบบนี้สิดี ก็เท่ากับว่าเราทั้งสองทีมจะได้เท่าเทียมกันไง”
                แม้หัวหน้าทีมรุ่นพี่จะขอยกเลิกฝ่ายสนับสนุนไปแต่ลูกทีมทั้งสองคนก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร ทางด้านพวกเราเองก็คาดเดาได้ทันทีว่าทีมของรุ่นพี่เคยมีประสบการณ์จริงกับการต่อต้านสิ่งรุกราน
จากนั้นพวกเราก็เข้าจุดเข้าตำแหน่งซึ่งจะเป็นจุดเริ่มของแต่ละทีม
                การแพ้ชนะจะวัดกันที่ฝ่ายใดจะทำลายจุดเป้าหมายที่ติดไว้อยู่ที่กลางอกของทุกคนในทีมหรือทำให้อีกฝ่ายหมดสภาพการต่อสู้
                ในที่สุดสัญญาณเสียงก็ดังขึ้นและจุดเป้าหมายที่หน้าอกของพวกเราสว่างขึ้นซึ่งเป็นที่รู้กันว่าการต่อสู้ได้เริ่มตนแล้ว
ถึงสนามประลองจะเป็นที่โล่งกว้างแต่การต่อสู้เป็นทีมจะต้องมีกลยุทธ์ มีการวางตำแหน่ง สำหรับแผนในคราวนี้ฉันจะเป็นแนวหน้าบุกไปตรงๆ ชิตจะเข้าด้านหลังอีกฝ่าย ส่วนดรีมจะคอยโจมตีจากระยะไกล
                ทางทีมนั้นเหมือนว่าจะพุ่งเข้ามาตรงๆ ราวกับว่าจงใจเข้าสู่กับดักของเรา ดังนั้นฉันไม่ลังเลเรียกกระทิงไฟกับสิงโตน้ำแข็งเข้าจู่โจมทันที
                สิงโตน้ำแข็งกับกระทิงไฟหยุดนิ่งโดยรุ่นพี่บลูที่รับเขากระทิงไฟด้วยมือโดยใช้พลังที่คล้ายกำแพงหุ้มมือเอาไว้พร้อมเสริมกำลังกายด้วยพลังของตัวเอง ทางด้านสิงโตน้ำแข็งก็ถูกหยุดด้วยจอมเวทย์ของทีมรุ่นพี่และเขาถนัดเวทย์ประเภทธาตุไฟทำให้เขาสร้างบาเรียไฟมาต้านสิงโตน้ำแข็งไว้
                ชายผมสั้นรูปร่างสูงใหญ่ถือคทาเวทย์เป็นไม้กระบองยาวคาดว่านะจะทำจากวัสดุพิเศษที่ทนต่อความร้อน เขาใช้นามแฝงว่า‘เรด’ รุ่นพี่คนนี้ดรีมรู้จักดีเพราะเขาก็มาจากตระกูลของจอมเวทย์สายเพลิงบาเรียเพลิงเมื่อปะทะกับสิงโตน้ำแข็งก็ก่อให้เกิดเป็นม่านของหมอกคลุมไปทั่วร่างของจอมเวทย์ไฟคนนี้
                ทางด้านชิตที่เขาโจมตีจากด้านหลังก็ต้องเจอกับหญิงสาวผมสีเงินเทาที่ทำผมเป็นแกละสองข้างได้ใช้คาตานะเข้ามารับดาบของชิตเอาไว้ เธอมีนามแฝงว่า‘เกรย์’
                “ไม่คิดว่าจะมาเจอว่าที่อัศวินของเรนฟอร์ช”
                “ผมก็เหมือนกันครับ ว่ากันว่าวิชาดาบของรุ่นพี่ช่างลึกลับ โปรดชี้แนะด้วย”
                ทางด้านดรีมที่อยู่ด้านหลังเมื่อเห็นหมอกที่เกิดจากการปะทะของสิงโตน้ำแข็งกับบาเรียเพลิงจึงตัดสินใจยิงลำแสงเวทย์ไปที่หมอกนั้นทันที เนื่องจากสัตว์อัญเชิญของเอมเป็นกลุ่มก้อนของมานาจึงไม่ต้องห่วงว่าสัตว์อัญเชิญนั้นจะตายหรือบาดเจ็บจนร่วมสู้ไม่ได้เพราะเอมสามารถเรียกตัวใหม่ออกมาได้เรื่อยๆนั้นเอง
                ลำแสงเวทย์ที่อัดแน่นด้วยพลังทำลายพุ่งผ่านทะลุสิงโตน้ำแข็งจนเกิดระเบิดขึ้นจนทำให้สิงโตน้ำแข็งหายไป และเมื่อหมอกจางลงเกิดเป็นม่านสีรุ้งขึ้นมากันไว้ ดรีมไม่รอช้ายิงซ้ำเข้าไปอีกหลายนัดแต่ก็ถูกม่านสีรุ้งปัดออกไปได้ทุกนัด
                ถ้าพุดถึงไฟหรือเปลวเพลิงนั้นเกิดจากที่อิเล็กตรอนคายพลังงานออกมาแล้วย้ายชั้นออบิทอลซึ่งม่านรุ้งนี่เอกก็ใช้หลักกานนี้เช่นกันโดยให้อิเล็กตรอนคายพลังงานในช่วงคลื่นที่เหมือนกับลำแสงที่ยิงมาเพียงเท่านี้ก็จะได้ม่านพลังที่สมบูรณ์แบบสำหรับต่อต้านการโจมตีประเภทลำแสง
                แต่ประเด็นหลักคือผู้ใช้ม่านสีรุ้งจะรู้ได้ไงว่าต้องใช้ขนาดคลื่นเท่าใดซึ่งเป็นไปได้สองทาง ทางแรกเขาใช้อุปกรณ์เสริมสำหรับคำนวณคลื่นของลำแสงที่มาแต่ในปัจจุบันยังไม่สามารถมุอุปกรณ์มี่คำนวณได้รวดเร็วและแม่นยำขนาดนั้นรวมถึงรุ่นพี่เรดเองก็ไม่ได้มีอุปกรณ์คำนวณด้วย ดังนั้นในความคิดของดรีมความเป็นไปได้อย่างเดียวของรุ่นพี่เรดก็คือเขามีโพเทนซี่แบบเดียวกับชิต
                “Rainbow Curtain แค่นี้การโจมตีจำพวกบีมหรือลำแสงก็ใช้ไม่ได้ผลแล้ว”
                ทางด้านเอมเองก็คลายการอัญเชิญกระทิงไฟไม่สิ ต้องเรียกว่าเอากระทิงไฟมาแปลงสภาพแล้วสวมเป็นเกราะแขนด้านขวาแล้วก็ต่อยด้วยหมัดที่หุ้มด้วยเพลิงเข้าไปที่รุ่นพี่บลู แต่ก็ถูกรุ่นพี่บลูรับไว้ด้วยการแปลงสภาพของเกราะแสงมาหุ้มที่มือไว้ราวกับถุงมือ
                ตอนนี้เอมเองก็ไม่รอช้าสร้างเกราะแขนนกสายฟ้าที่ข้างซ้ายแล้ว จากนั้นก็สร้างกระแสไฟฟ้าจากมือปล่อยเขาไปหารุ่นพี่บลูแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้โดยถูกเกราะแสงกันไว้ได้อีกครั้ง
                แบบนี้ต้องใช้ไม้นี้แล้วละ เอมคลายเกราะที่แขนทั้งสองข้าง แล้วกระโดดถอยหลังออกมาพร้อมชักปืนลำกล้องสั้นแล้วยิงออกไปหารุ่นพี่บลู
                กระสุนพลาดเป้า...แต่นั่นคือสิ่งที่เอมจงใจเพราะที่ยิงออกไปไม่ใช่ลูกกระสุนแต่เป็นก้อนพลังขนาดเล็กไว้สำหรับอัญเชิญสัตว์ออกมาเมื่อก้อนพลังงานขนาดเล็กนี้พุ่งผ่านตัวรุ่นพี่บลูออกไปจะกลายเป็นสิงโตน้ำแข็งเข้ามาตะครุบรุ่นพี่บลู
                ทุกอย่างเป็นไปตามที่เอมต้องการ แต่ทันทีที่สิงโตน้ำแข็งจะถึงตัวรุ่นพี่บลูก็เกิดเป็นเกราะแสงมากันสิงโตน้ำแข็งไว้แล้วเกราะแสงนั้นก็แตกออกทันทีเกิดเป็นแรงดันดันสิงโตน้ำแข็งกระเด็นออกมาและก็สลายไป
                “WALL LIFE ใช้ได้ด้วยหรอ ผู้ใช้โซล!!”
                มาทางด้านดรีมที่ตอนนี้กลายเป็นการดวนกันของผู้ใช้เวทมนตร์โดยดรีมมาใช้เป็นเวทย์ระเบิดแทนการใช้ลำแสงที่ถูกลบล้างได้ ส่วนรุ่นพี่เรดจะใช้เป็นการปล่อยลูกไฟไปที่ดรีมซึ่งดรีมมีบาเรียที่ยังพอกับได้อยู่บ้าง ทั้งสองผลัดกันยิงผลัดกันหลบนับว่าเป็นการดวนผู้ใช้การโจมตีระยะไกลของทีมทั้งสอง
                ทางด้านชิตก็ไม่แพ้กัน ทั้งรุ่นพี่เกรย์กับชิตก็ดวนดาบได้สุดมันเป็นที่จับตามองของผู้ชมที่สนใจในสายการโจมตีระยะประชิด
                แต่ถึงอย่างนั้นก็คงไม่ลืมกันหรอกนะว่านี่คือการต่อสู้เป็นทีม เพราะในสนามได้เป็นการต่อสู้แบบตัวต่อตัวไปแล้วอีกทั้งยังเป็นการต่อสู้ที่สูสีกันทั้งสองฝ่าย ถึงฝ่ายหนึ่งเป็นแค่นักศึกษาปีสองแต่ฝีมือก็เทียบชั้นสูงได้เลยและอีกฝั่งเป็นถึงนักศึกษาปีสี่ที่ได้ชื่อว่าเป็นตัวท็อปของรุ่นก็แสดงฝีมือออกมาโดยไม่ต่อให้แม้แต่น้อย
                ตอนนี้ชิตกับดรีมต่างก็มองหน้ากันเหมือนเป็นนัยว่าจังหวะนี้หละที่จะต้องใช้แผนการบางอย่างในจังหวะที่คู่ต่อสู้นั้นกำลังตายใจ
                ถ้ามองจากมุมสูงของสนามจะพบว่าการเคลื่อนที่ของคู่ดรีมปะทะรุ่นพี่เรดและชิตปะทะรุ่นพี่เกรย์สองคู่นี้กำลังเข้าหากัน ใช่แล้วนี่คือแผนการของชิตและดรีม
                 และในจังหวะที่ชิตกับดรีมหันหลังเข้าหากันแผนการของทั้งสองก็เริ่มขึ้น ทั้งสองสลับตำแหน่งกันกลายเป็นว่ารุ่นพี่เรดต้องเจอกับชิตส่วนดรีบกลับต้องไปเจอกับรุ่นพี่บลู สำหรับคนที่มองอยู่ห่างจะคิดว่าเป็นการฆ่าตัวตายชัดๆที่ผู้ใช้เวทมนตร์ระยะไกลต้องมาเจอกับนักดาบระยะประชิด อีกทางคือนักดาบต้องสู้กับนักเวทย์จากระยะไกล
                 แต่นั่นหละแผนการหละชิตกับดรีมไม่ใช่แค่สลับตำแหน่งกันแต่ทั้งสองยังสลับอาวุธอีกด้วยโดยชิตมาถือปืนคู่ของดรีม ส่วนดรีมมาถือรัตนาวุธรูปแบบดาบของชิต สองคนนั้นกำลังทำอะไรกัน!!!!!
                 ทางรุ่นพี่เกรย์ที่เห็นว่าสองคนนั้นสลับตำแหน่งกันจึงไม่ลังเลยหวดคาตานะไปที่เป้าหมายตรงอกของดรีมอย่างเต็มแรงและรวดเร็ว....ผู้อ่านเองคงลืมไปแล้วว่าดรีมยังมีความสาสารถติดตัวอย่างหนึ่งนั่นคือโพเทนซี่ที่สามารถเปลี่ยนทิศทางของแรกที่มากระทำกับร่างกายได้
                ทันทีที่คาตานะสัมผัสไปที่จุดเป้าหมาย-ดรีมจงใจให้โดน แรงที่ส่งมาจากคาตานะก็สะท้อนเป็นแรงผลักให้รุ่นพี่เกรย์กระเด็นออกไประยะไกลพอสมควร ทั้งยังไม่พอดรีมยังแบ่งแรงบางส่วนไปผลักชิตให้พุ่งเข้าไปใกล้รุ่นพี่เรดทันที ถึงรุ่นพี่เรดจะสามารถมองแสงหรือออร่าที่แผ่ออกมาจากผู้ใช้พลังแบบเดียวกับชิตก็ตามแต่พลังการเปลี่ยนทิศของดรีมนั้นรวดเร็วมากต่อให้เห็นว่าใช้พลังจริงก็ทำอะไรไม่ได้
                บัดนี้ความได้เปรียบเสียเปรียบได้สวนทางกันเสียแล้ว เมื่อนักดาบจากระยะประชิดถูกดันออกมาระยะไกลแถมด้วยไม่สามารถโจมตีคู่ต่อสู้โดยตรงได้ อีกด้านคือผู้ใช้เวทมนตร์ที่กำลังถูกย่นระยะห่างจากนักดาบ
เดี๋ยวสิ ชิตถือปืนคู่ของดรีมไม่ใช่หรอ...ผิดแล้วปืนของดรีมนั้นสามารถเปลี่ยนรูปแบบเป็นดาบได้ หนึ่งในอาวุธที่ได้รับการพัฒนามาจากตระกลูเรนฟอร์ช
                  ดรีมไม่รอช้าก่อนรุ่นพี่เกรย์ที่กระเด็นออกไปจะตั้งตัวได้ก็ร่ายเวทมนตร์รอเอาไว้แล้ว-เนื่องจากดาบของชิตมีอัญมณีประดับอยู่ 5 ชิ้น ซึ่งแต่ละชิ้นจะคอยสนับสนุนการร่ายให้เร็วขึ้นและยังแปลงคุณสมบัติของเวทย์ที่ร่ายออกมาได้อีกด้วย
กว่าที่รุ่นพี่เกรย์ตั้งตัวได้ก็สายไปเสียแล้วลำแสงสีม่วงพุ่งออกมาจากดาบด้วยความรวดเร็ว ในจังหวะเดียวกันนี้ชิตที่พุ่งไปหารุ่นพี่เรดก็รวมรวมมานาไว้ที่ดาบเสริมความแรงแล้วก็ฟันไปที่รุ่นพี่เรดทันที ส่วนรุ่นพี่เกรย์ก็รับลำแสงเวทย์นั้นเข้าไปเต็มๆ แต่.............
                   การโจมตีของชิตกับดรีมก็ถูกหยุดไว้ด้วยเกราะแสงและเกราะแสงนั้นก็แตกออกทำให้ลำแสงสีม่วงนั้นหายไปทันที ส่วนชิตก็กระเด็นกลับมาทันที
                 “ชิต ดรีม พวกเขาเป็นผู้ใช้โซล กลับมารวมกลุ่มกันก่อน” เสียงของเอมตะโกนออกมา จากนั้นดรีมกับชิตก็มารวมกลุ่มกับเอม หรือก็คือรีบกลับมารวมกลุ่มเตรียมตั้งรับ สำหรับโซลแล้วเป็นพลังที่ไม่สามารถป้องกันได้ง่ายๆซึ่งจากคำบอกกล่าวของนิสาและไวท์บอกไว้ว่าการโจมตีจากโซลบางอย่างนั้นต้องใช้โซลป้องกัน
                 ทานด้านทีมรุ่นพี่เองก็มารวมกลุ่มสามคนเช่นกันและยืนเผชิญหน้ากันกับทีมของเอม ชิต ดรีม
                “เก่งจังเลยนะ รุ่นน้อง” รุ่นพี่บลูเริ่มพูดก่อน “ไม่คิดว่ารุ่นน้องจะรู้ถึงพลังนี้ด้วย”
                “ไม่ทราบว่ารุ่นพี่ได้พลังแบบนี้มายังไงคะ” เอมถามถึงที่มาของโซล ส่วนเหตุผลนั่นก็เพราะช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาพวกเอมต้องเจอกับองค์กรที่ต้องการนำพลังรูปแบบโซลมาใช้ในทางไม่ดี
                “ก็คงตอบว่า ‘เคยสิ้นหวังไปรอบนึง’ ได้มั้ง” รุ่นพี่เรดตอบ “แต่ว่าตอนนี้คือเวลาต่อสู้”
                 จากนั้นรุ่นพี่เรดก็พุ่งเข้าไปโจมตีเอม ชิต ดรีม !!!!! รุ่นพี่เรดโจมตีระยะใกล้อย่างนั้นหรอ
                “เสร็จละ” ดรีมพูดขึ้น เพราะด้วยความประมาทของรุ่นพี่เรดได้เข้ามาหากับดักของเขาแล้ว “ผนึก”
                ก่อนที่รุ่นพี่เรดจะถึงตัวเอม ชิ ดรีม ก็มีกรงโซ่สีม่วงมาหุ่มตัวของเขาไว้ โซ่ม่วงนี้ผนึกระดับ 5 จัดเป็นหนึ่งในผนึกที่แก้ยากที่สุดแบบหนึ่งถึงมองดูเผินๆจะเป็นแค่ผนึกโซ่ธรรมดา แต่จริงๆแล้วมีการใช้หลายเทคนิคผมเข้ากันเป็นผนึกนี้
                “จงเผาผลาญให้หมดสิ้น” สิ้นเสียงของรุ่นพี่เรดกรงโซ่ม่วงก้กลายเป็นลูกไฟขนาดใหญ่พุ่งเข้ามาหาเอม ชิต ดรีม ทั้งสามจึงต้องกระโดดหลบออกมาแยกกันไปคนละทิศคนละทาง
                “จงแยกออกตัวฉัน” สิ้นเสียงของรุ่นพี่เกรย์ ข้างหลังของเอม ชิต ดรีม ซึ่งอยู่คนละที่ของสนามประลองก็ปรากฏเป็นร่างของรุ่นพี่เกรย์
แต่กว่าที่ทุกคนจะรู้สึกตัวก็ถึงเกาะแสงที่รุ่นพี่เกรย์สร้างขึ้นดันพวกเขามาที่ตรงที่รุ่นพี่บลูยืนอยู่
                “จงดำดิ่งสู่ความสิ้นหวัง” สิ้นเสียงของรุ่นพี่บลูก็มีคลื่นบางอย่างออกมาจากตัวพี่บลู
                 เอม ชิต ดรีมรับคลื่นนั่นเขาไปเต็มทำให้ ชิต ดรีมและเอมทรุดตัวลงไปทันที แต่หนึ่งในสามคนนี้จะไม่ยอมล้มไปง่ายๆ เกือบไปแล้วๆ มาแบบนี้เลยหรอไง
                 เอมไม่ยอมล้มไปง่ายๆเธอแข็งใจลุกขึ้นยืนอีกครั้ง
                 “มันไม่ง่ายหรอน่า” เอมตะโกนสุดเสียงแล้วก็พุ่งตัวเต้าไปหารุ่นพี่บลู
                 “จงตอบรับจากเสียงรำร้องของฉัน” สิ้นสุดเสียงของเอมสัตว์อัญเชิญตัวที่ห้าของเธอก็ปรากฏตัวขึ้นเป็นมังกรสีขาวร่างกายใหญ่โต ดวงตาสีแดง ปีกสีขาวกางออก เสียงคำรามก้องกังวานไปทั่วสนาม
                 สัตว์อัญเชิญตัวนี้เอมแทนจะไม่เรียกออกมาเลยเพราะมันควบคุมไม่ค่อยได้ แต่ตอนนี้เอมมีพลังพอที่จะควบคุมได้แล้วนั่นคือโซลของเธอ
            “ลำแสงทำลายล้าง” แสงสีฟ้าปล่อยออกมาจากปากของมังกรพุ่งตรงไปที่รุ่นพี่บลู
                 รุ่นพี่บลูกระโดดหลบได้ทัน และในจังหวะนั้นเองรุ่นพี่เรดกับรุ่นพี่เกรย์ก็เข้าไปประชิดตัวเอมหวังทำลายจุดเป้าหมายที่หน้าอก
                 จังหวะที่คาตานะฟังลงก็มีดาบคู่มารับ จังหวะที่หมัดไฟต่อยเข้ามาก็มีม่านพลังมารับ
                 ดรีม กับ ชิต ยังไม่ได้สลบไปแต่อย่างใด
                 ชิตดันรุ่นพี่เกรย์ให้ออกห่างจากเอม ดรีมใช้ม่านพลังผลักรุ่นพี่เรดออกไป
                 “จงตอบรับจากจังหวะของฉัน” สิ้นสุดเสียงของชิตก็พุ่งเข้าไปหารุ่นพี่เกรย์ชิตฟันอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากรุ่นพี่เกรย์สามารถแยกตัวได้ทำให้รู้ว่าร่างที่ชิตฟันอยู่นั้นไม่ใช่ร่างจริง รุ่นพี่เกรย์แยกเป็น 7 ร่าง แต่ละร่างเข้าโจมตีเป็นจังหวะอย่างรวดเร็วจนแทบจะไร้ช่องโหว่ แต่ชิตก็สามารถหลบและรับการโจมตีได้ทุกครั้ง
                 โซลของชิตสามารถเห็นอนาคตล่วงหน้าได้ 2 วินาที โดยปรกติชิตมักจะทำนายการโจมตีจากการมองเห็นคลื่นพลังที่ออกมา แต่ด้วยโซลนี้ชิตจะเห็นเป็นภาพล่วงหน้าได้เลย
ตัดมาทางดรีมกับรุ่นพี่เกรย์
                 “จงยืนหยัดต่อทุกสรรพสิ่ง” สิ้นสุดเสียงของดรีม รอบตัวดรีมก็มีกระแสลมหอหุ้มร่างกายไว้จากนั้นดรีมก็ปล่อยบีบอัดลมเป็นก้อนจากนั้นก็ปล่อยให้ก้อนลมนั้นพุ่งไปหารุ่นพี่เรด ทางรุ่นพี่เรดก็สร้างบอลไฟที่บีบอัดความร้อนสูงเข้าไปแล้วปล่อยให้พุ่งไปหาก้อนลมนั้น แต่ไฟบอลนั้นก็ถูกก้อนลมกลืนกินหายไปแล้วก็ไปผสานกับก้อนลมเป็นพลังที่ย้อนกลับมาหาตัวเอง จนต้องกางกำแพงแสงกันก้อนลมไฟนั้น
                 โซลของดรีมสามารถควบคุมแรงในระยะที่ไกลกว่าเดิมได้และยังควบคุมแรงดึงดูดจากสิ่งของที่เคยสัมผัสได้
                 ในเวลาเดียวกันนี้ทางด้านเอมเองก็เปลี่ยนมังกรขาวให้กลายเป็นเกราะสีขาวหุ้มตัวไว้ทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า
           “รุ่นพี่คะ ตอนนี้พลังของเราก็เท่าเทียมกันแล้ว นะคะ”
           “นี่รุ่นน้อง ถ้าระดับพลังมันเท่ากัน ประสบการณ์จะเป็นตัวตัดสิน”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา