[My Love Is Idol] แฟนฉันเป็นไอดอล

10.0

เขียนโดย BettyLittle

วันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 22.49 น.

  5 ตอน
  0 วิจารณ์
  5,814 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2561 23.02 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) ติ่งที่ไม่ใช่ไส้ติ่ง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
     [เอลิออส]
 
 
     กรี๊ด!!!! กรี๊ด!!!! กรี๊ด!!!! เสียงกรีดร้องของสาวๆดังสนั่นฮอลแน่นอนเพราะผมคนนี้ยังไงละชายผู้เป็นไอดอลตั้งแต่อายุ18ปีจนตอนนี้อายุ21ปีแล้วแต่แฟนคลับของผมก็ไม่ลดน้อยถอยลงเลยแม้แต่นิดเดียว วันนี้ผมมาเปิดคอนเสิร์ตที่เกาหลีนี่เป็นครั้งแรกที่ได้กลับมาบ้านของพ่อเพราะปกติผมจะอยู่ที่ประเทศไทยหรือไม่ก็ไปอยู่ที่ปักกิ่ง ด้วยหน้าตาที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใครบวกกับบุคลิกและความเพอร์เฟ็คของหุ่นผมแล้วมันก็ไม่มีเหตุผลไหนจะเหมาะให้กับการเป็นไอดอลได้อีกแล้ว
 
     "hello everyone I will today is a good day for you"แน่นอน ผมหวังงว่าวันนี้จะเป็นอีกวันที่ผมสามารถทำให้ทุกคนมีความสุข ไม่นานเพลงที่เราเตรียมกันไว้ก็ดังขึ้น เป็นเพลงประกอบซีรี่ส์ของผมที่เพิ่งจบไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วซึ่งมีเรตติ้งถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ตลอดทั้งเรื่อง คงไม่ต้องบอกว่าผมดังแค่ไหน ทั้งการร้องและเต้นรวมทั้งแร็ปที่ผมเรียนมาไม่เคยทำให้ใครผิดหวังเลยแม้แต่นิดเดียวนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมมีงานเข้ามาแน่นเอี๊ยดไม่ขาดสาย
 
     [ไอริน]
 
     "แก! แก! แก! ดูเอลิออสสิแกเวลาอยู่บนเวทีนี่เขามีออร่ามากกว่าตอนที่อยู่ในจออีกนะแก"เสียงเพื่อนรักที่ติ่งคนหล่อไปซะทุกคนกำลังกรี๊ดกร๊าดหนุ่มไอดอลลูกครึ่งเกาหลี-จีนที่เคยมาเรียนแลกเปลี่ยนที่ประเทศไทยทำให้คล่องภาษาไทยสุดๆ ที่ตอนนี้กำลังแสดงความสามารถในฮอลที่เกาหลีซึ่งแน่นอนว่าฉันไม่สน
"ก็ปล่อยให้เขาหล่ออยู่บนหิ้งต่อไปเถอะ ฉันจะทำรายงาน"ฉันบอกปัดไปอย่างเสียอารมณ์เพราะวันนี้ฉันต้องทำรายงานสรุปผลการพัฒนาศักยภาพการสื่ออารมณ์ของนักแสดงคนหนึ่งเพื่อเอาไปนำเสนอที่ต้นสังกัดของเขาคนนั้น"ว่าแต่ ไอ้ที่เค้าเป็นแฟนคลับเนี่ยเรียกว่าอะไรนะต่งหรืออะไร"
 
     "ต่งท่ี่ไหนล่ะ ติ่งย่ะ ติ่ง!"วาเลนเซียพูดเน้นคำก่อนจะเชิดใส่ฉันและกลับไปทำตาหวานเยิ้มจ้องจอมือถือต่อ
 
     "เหมือนไส้ติ่งป่ะแก"ฉันพูดหยอดเขาอยากอดไม่ได้ทำให้วาเลนเซียหัวคิ้วติดกันด้วยความหงุดหงิด
 
     "แล้วแต่แกจะคิดเถอะ ถ้าเป็นไส้ติ่งก็จะหมายความประมาณว่าเค้าทำให้เราอยู่ครบสามสิบสองไงถ้าข่าดไปก็จะกลายเป็นคนที่ไม่ครบสามสิบสองไง เข้าใจยัง"ฉันเลิกคิ้วขึ้นสูงก่อนจะหันมาปั่นรายงานต่อฉันล่ะไม่เข้าใจว่าทำไมคนเราถึงต้องทำงานหนักเพื่อเอาเงินตัวเองไปให้คนที่เค้าจำแม้กระทั่งชื่อเราไม่ได้ด้วย แต่ก็นะ ช่างมันเถอะ ยังไงฉันคนนี้ก็คงไม่เข้าใจสถานการณ์นี้อยู่ดี
 
    ก๊ะตก!   ก๊ะตก!   เสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้นทำให้ต้องละจากแป้นพิมพ์เน็ตบุ๊คเพื่อดูข้อความนั้น
 
     [ไอรินวันนี้เธอเอารายงานมาส่งแล้วแวะเข้าไปที่ออฟฟิตส่วนกลางแล้วไปหยิบเอาแผ่นซีดีของฉันที่โต๊ะด้วยนะ ฉันอยากให้เธอดูซีรี่ส์เรื่องหนึ่งถึงเธอจะไม่อยากดูก็ตาม เพราะมันเกี่ยวกับงานชิ้นต่อไปของเธอ] ข้อความจากรองประธานทำให้ฉันต้องขุ่นมัวเพราะฉันไม่ชอบดูหนังหรือซีรี่ส์ที่มีแต่คนน่าตาดีเดินไปเดินมาเต็มไปหมด แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว แต่นี้ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนั้นเพราะอีกไม่ถึงชั่วโมงฉันก็ต้องเอารายงานไปส่ง เฮ้อ ชีวิต
 
     20นาทีต่อมา~~
 
     "เห้อ!!" ในที่สุดฉันก็ปั่นงานจนเสร็จวาเลนเซียขอกลับบ้านไปก่อนเพราะต้องไปช่วยงานพ่อที่บริษัทส่วนฉันที่ไม่มีบริษัทก็ต้องบากบั่นกับงานตรงหน้า ฉันรีบเก็บของและแผ่นซีดีที่ไลท์งานใส่ไว้ด้วยความรีบก่อนจะวิ่งออกมาจากตึกคณะของมหาลัยและรีบวิ่งไปที่หน้ารั้วเพื่อเรียกแท็กซี่ ดีที่บริษัทที่ฉันจะไปแอยู่ไม่ไกลจากมหาลัยมากนักทำให้ไม่ต้องนั่งรอรถติดนานลุงคนขับเป็นคนวัยกลางคนขับรถได้เร็วมากเหมือนกำลังซ้อมหนีเมียไปกินเหล้าประมาณนั้น ไม่นานฉันก็มาถึงที่นี่เป็นตึกที่ใหญ่และสูงมากและที่สำคัญคือสะอาดและเป็นที่ส่วนบุคคลมากเพราะที่นี่จะมีห้องพักของดาราไอดอลหลายคนอยู่ทำให้เป็นพื้นที่ก่อนได้รับอนุญาต
 
     "อ้าวหนูไอริน วันนี้มาส่งรายงานหรอครับ" ลุงยามที่เฝ้าหน้าประตูเข้ามาทักฉันที่กำลังจ้องตึกบริษัทด้วยความอยากได้
 
     "ค่ะ วันนี้หนูต้องเอางานมาส่งค่ะ ต้องรีบแล้วล่ะค่ะ" ฉันมองนาฬิกาที่ข้อมือก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปในบริษัทเพื่อรีบขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น12เพื่อส่งงานที่โต๊ะรองประธานผู้ใจดี ที่นี่เป็นที่พักของไอดอลก็จริงแต่ก็ใช่ว่าจะเจอตัวง่ายๆเพราะบางทีพวกเขาก็ซื้อของมาตุนไว้เพื่ออยู่ในห้องเป็นเดือนแบบไม่ออกมาเจอมนุษย์โลกเลยก็มี
  
     ฉันมาถึงชั้น12ด้วยความปลอดภัยและด้วยความรีบฉันต้องรีบไปที่ห้องรองประธานอย่างรวดเร็ว
 
     "อ้าวน้องไอริน"เสียงเลขาคนสวยของรองประธานเรียกทักฉันที่กำลังวิ่งหน้าตื่นไปที่ห้องรองประธาน
 
     "อ้าว พี่เลขาคนสวย วันนี้ไอเอารายงานมาส่งค่ะ กำลังจะหมดเวลาแล้วด้วย ส่งช้าเดี่ยวเจ้านายพี่ก็ดุไออีกอ่ะค่ะ" ฉันรีบพูดก่อนจะวิ่งเข้าไปที่ห้องรองประธาน ผลัก! ฉันรีบเปิดประตูเข้าไปและตรงเข้าไปที่โต๊ะรองประธานอย่างรวดเร็วเพราะฉันต้อส่งงานก่อนที่เขาจะประชุมเสร็จซึ่งมีเวลาเหลืออีกแค่ห้านาทีเพราะเขาเป็นคนเนี๊ยบเจ้าระเบียบมาก "เห้อ...ส่งเสร็จแล้ว ต้องไปต่อที่ออฟฟิตส่วนกลางสินะ" ฉันเดินออกมาจากห้องของรองประธานอย่างสบายใจและก็เดินตรงดิ่งไปที่ออฟฟิตส่วนกลางซึ่งอยู่ตรงข้ามห้องของประธานไม่ไกล 
 
     วันนี้ออฟฟิตเงียบมากคงเป็นเพราะวันนี้บริษัทต้องประชุมใหญ่แต่แปลกที่เลขาของรองประธานไม่ไปประชุมด้วยแต่ก็ดีเหมือนกันเพราะเวลาที่ฉันมาที่นี่ทีไรต้องเจอคนเยอะๆเผื่อจะทักทายเสร็จก็เล่นเอาเหนื่อย ที่นี่เงียบจริงๆเพราะไม่มีคนเลยมีแต่ห้องเงียบๆกับโต๊ะและกระดาษที่กองเต็มไปหมด ฉันรีบเดินไปที่โต๊ะส่วนตัวของรองประธานซึ่งเป็นที่ๆท่านรองประธานจะเอางานมาไว้แทนโต๊ะที่ห้อง มีแผ่นซีดีวางไว้อยู่จริงด้วย ฉันเดินเข้าไปเอาแผ่นซีดีมาใส่ใว้ในกระเป๋าก่อนจะเดินออกมาจากห้องนั้นและขึ้นลิฟต์ลงไปที่ชั้นล่าง จากนี้ก็รอแค่เงินโอนเข้าบัญชีซะก็จบงาน แต่ว่าทำไมต้องให้ฉันเอาซีรี่ส์กลับไปดูด้วยไม่รู้สิ แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะช่วงนี้อาจารย์ไม่ได้สั่งงานอะไรมากมายเพราะมีแค่ให้ถ่ายรูปที่พักมานำเสนอระบบนิเวศน์แค่นั้น  
 
     ไม่นานฉันก้กลับมาถึงบ้านเป็นมรดกอย่างเดียวที่พ่อแม่เหลือทิ้งไว้ให้แล้วท่านก็จากไปพร้อมกันเพราะอุบัติเหตุเมื่อตอนฉันยังเด็กซึ่งเงินในบัญชีมีอยู่ราวๆสี่ร้อยล้านบาทแต่ฉันยังใช้ไม่ได้ต้องรอให้อายุ25ก่อนตามพินัยกรรมซึ่งก็ไม่เข้าใจเงื่อนไขนี้เหมือนกันวาาทำไต้องรอให้อายุ25ก่อน เห้อ!!!ชีวิตรันทด ฉันรีบจ้ำอ้าวไปที่ห้องและเอาแผ่นซีดีเปิดใส่เน็ตบุ๊คเพื่อดูหนังเรื่องนี้ เป็นหนังรักโรแมนติกปนดราม่านิดๆ 
 
     "เอ้า ไอ้โง่ ทำไมไม่ตามไปง้อนางเองเล่า" ฉันก็ไม่คิดว่าตัวเองจะอินอะไรกับมันเพราะเป็นซีรี่ส์ที่ฉันบอกกับตัวเองทุกวันว่าไม่ชอบ  แต่จะดูๆไปแล้วเวลาเห็นคนหล่อๆทำอะไรแบบนี้มันดีต่อสายตาจริงๆ
 
     [ฉันขอโทษนะ ฉันรักเธอจริงๆแต่เรื่องของเรามันเป็นไม่ได้] พระเอกสารภาพออกมาแล้วว่ารักนางเอกแต่เพราะเหตุผลทางด้านฐานะเขาจึงคบกันไม่ได้[สำหรับนายฉันมันไม่มีค่าอะไรเลยใช่มั้ย งั้นต่อไปนี้เราอย่าเจอกันอีกเลย]
 
     "ฮือ~~~ ฮือ~~~"อยู่ๆฉันก็ดันร้องไห้กับซีรี่ส์เรื่องนี้เพราะพระเอกต้องปกป้องนางเอกจากแม่ตัวเองเลยต้องปล่อยนางเอกไป ทำไมเวลาคนหล่อร้องไห้มันถึงทำร้ายจิตใจฉันอย่างนี้ล่ะ ฉันนั่งร้องไห้กับซีรี่ส์เรื่องนี้อยู่นานก่อนจะเริ่มรู้สึกผูกพันธ์แเขาทำอะไรอยู่อยากรู้เขาชอบอะไรอยู่ที่ไหนละอยากจะรู้จักกับพระเอกมากขึ้นมากขึ้นอยากจะรู้ว่าตอนนี้เขาทำอะไรอยู่ที่ไหนกับใครชอบอะไรไม่ชอบอะไร และในที่สุดก็เริ่มเข้าใจว่าตอนนี้ซีรี่ส์เรื่องนี้ได้ดูดวิญญาณฉันไปแล้วเรียบร้อย
 
     วันต่อมา...
 
     "ไอริน! ไอริน!"เสียงของวาเลนเซียตะดกนชื่อฉันที่ข้างหูทำให้สติที่หลุดลอยของฉันกลับเข้าร่าง
 
     "หือ ว่าไง"
 
     "แกเป็นอะไรเนี่ย เหม่ออะไรของแกหรืองานเมื่อวานไม่เสร็จ"
 
     "เปล่าหรอก ไม่มีอะไร" ฉันจะบอกไม่ได้ว่าบ้าดาราไอดอลเพราะเมื่อก่อนฉเันเคยดูถูกยัยเวาเลนเซียเอาไว้ว่าไร้สาระไม่ร้จักทำอะไรเอาแต่ดูผู้ชายเอาแต่คิดเรื่องผู้ชายเปย์เค้าแบบไร้ประโยชน์ โอ้ยฉันนี่มันบ้าไปแล้วแน่ๆ เพิ่งร้ว่าการปลื้มใครสักคนมันเหมือนมีแรงบรรดารใจมากมายเข้ามาและที่สำคคืออะไรที่เป็นเค้าฉันก็อยากจะมีไว้เป็นของตัวเอง นี่สินะเหตุผลที่พากันไปซื้อบั้มซื้ออะไรมากมาย และที่สำคัญคือฉันดันอ่านตัวหนังสือภาษาเกาหลีไม่ออกเลยไม่รู้ว่าเค้าชื่ออะไร
 
     "แกดูนี่ มีข่าวออกมาว่าเอลิออสจะมาเก็บตัวที่ไทยอ่ะแก" วาเลนเซียพยายามยื่นดทรศัพท์มาให้ฉันดูแต่เสียใจฉันกำลังนึกถึงชายในฝันของฉันอยู่ฉันเลยต้องปัดมือเธอออก
 
     "ดูไปเถอะ หรือแกจะไปอยู่กับเค้ารึไงถ้าเค้ามาไทยอ่ะ"
 
     "เค้ามาพักที่บริษัทต้นสังกัดที่แกไปทำพาร์ทไทม์เว้ย"วาเลนเซียยัดเยียดโทรศัพท์ของเขาให้ฉันเพื่อให้ดูหน้าของเอลิออสเพราะจะให้ฉันไปสืบมาว่าเขามาพักที่ห้องไหนของตึกฉันรับโทรศัพท์มาจากมือเขาเพื่อดูโบกหน้าของชายที่ชื่อเอลิออสและนั่นคือสิ่งที่น่าตกใจที่สุดเพราะฉันกำลังตามหาเขาอยู่
     
     "เขาเป็นใครนะแก"ฉันถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
 
     "ก็เอลิออสคนที่แกบอกว่าต่อให้เกิดมาเป็นพ่อแกแกก็จะไม่ชอบไง"
 
     "ฉันเคยพูดแบบนั้นด้วยหรอ ไม่มั้ง"ฉันกำลังรำลึกถึงความหลังกับเหตุการณ์ที่วาเลนเซียพูดถึง นี่ฉันเคยพูดแบบนั้นจริงๆสินะ
 
     "ฉันสาบานว่าฉันจำได้...ทำไมหรือแกเห็นหน้าเค้าแล้วแกก็หลงเค้าเลยรึไง"
 
     "เห้ย บ้า ฉันมันคนพูดคำไหนคำนั้นอยู่แล้วล่ะแก"
 
     "ตามใจ ไปสืบมาให้ฉันเร็วๆเลยนะ"วาเลนเซีย เพื่อนไม่ได้ตั้งใจจะโกหกเลยนะ จริงๆ T^T
 
        
     วันนี้เลิกคลาสเร็วและแต่ฉันต้องรีบไปที่บริษัทเพราะรองประธานเรียกให้เข้าพบด่วนฉันเลยต้องรีบหน้าตั้งอีกตามเคย
 
     "มาเร็วดีจังเลยนะครับคุณไอริน"รองประธานหน้าหล่อซึ่งอายุน้อยกว่าฉันพูดทักทายเมื่อเหฌนฉันเปิดประตูเข้ามาในห้องของเขาด้วยหัวที่ฟูฟ่อง
 
     "มีเรื่องด่วนอะไรคะ"ฉันเปลี่ยนเนื้อหาบทสนทนา
 
     "มานั่งตรงนี้ก่อนครับ"รองประธานเดินไปนั่งที่โซฟารับแขกและผายมือไปที่โซฟาตัวตรงข้ามกับเขา ฉันจึงเดินไปนั่งที่ตรงนั้น"ผมมีไอดอลคนหนึ่งที่อยากจะให้คุณช่วยดูแลและฝึกให้เขาอินกับบทที่แสดงครับ"เป็นงานที่ฉันทำอยู่ประจำเพราะที่นี่ส่วนมากจะให้ฉันเป็นสตั้นท์แมนเฉพาะจอนมีคิวถ่ายแต่นักแสดงดันติดงานอีเว้นทหรืองานอื่นๆ
 
     "ได้อยู่แล้วค่ะ ฉันทำงานแบบนี้มาตั้งปี1แล้ว คงไม่ยากหรอกค่ะ"
 
     "ครับ ผมก็เคยไว้ใจให้คุณเป็นคนดูแลเขาคนนั้นครับ แต่ที่มันจะยากหน่อยก็คือเขามีพรสวรรค์หลาอย่างแต่เรื่องอารมณ์เขาดันทำได้ไม่ดีเลยเพราะเขาบอกว่าเวลาคนอารมณ์ดีๆจะให้มาร้องไห้เพราะบทคงไม่ได้ ประมาณนี้"
 
     "ฉันคิดว่าฉันทำได้ค่ะ แต่อาจจะต้องใช้เวลานานกว่าปกติ"
 
     "ไม่มีปัญหาครับเพราะตอนนี้ไอดอลคนนั้นเขาจะเดินทางมาพักกับเราพรุ่งนี้และเขาก็มีแค่งานถ่ายแบบงานเดียวเพราะผู้จัดการของเขาcancleงานทั้งหมดเพื่อให้เขาได้มาฝึกกับคุณที่นี่ครับ"
 
     "ค่ะ ว่าแต่เคาเป็นใครคะ"
 
     "คุณจำซีรี่ส์ที่ผมให้คุณเอาไปดูได้มั้ยครับ เอลิออสพระเอกซีรี่ส์เรื่องนั้นจะมาเป็นลูกศิษย์การเทรนนิ่งของคุณครับ"
 
     "ค่ะ..."ฉันคุ้นๆชื่อนี้จัง เดี๋ยวนะพระเอกเรื่องนั้น"เอ๋!!!!...ห้ะ!!!!!"ฉันจะโกนออกไป้วยควา่มตกใจเพราะงานนี้ฉันอาจจะฟินตายก่อนงานเสร็จหรือไม่เมื่อจบงานอาจจะไปบวชทดแทนคุณโชคชตะที่พาเขามาให้ฉันเจอหรือไม่ฉันอาจจะต้องซื้อรีอัลบั้มของเขามาสิบชุดถวายพระแม่พระพ่อทั้งหลายเป็นการเส้นขอบพระทัยพระมหากรุณาทิคุณโอ้ย สติฉัน สติฉัน สติฉ้านนน!!!!!!!!!

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา