ดิษยาข้ามภพ

8.7

เขียนโดย Onnicha

วันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2561 เวลา 15.31 น.

  7 chapter
  2 วิจารณ์
  7,239 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 25 กันยายน พ.ศ. 2561 16.08 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) จากพิมพ์แพร....ถึงดิษยา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ตอนที่ 3
จากพิมพ์แพร....ถึงดิษยา
 
 
 
“หนูนา”
“ว่า?...โอ้ว ตรงนั้นแหละค่ะนวดแรงๆเลยค่ะ” หนูนาหลับตาปี๋ เมื่อพนักงานนวดกดไปตรงบริเวณที่เธอเมื่อยขบพอดี
“ฉันว่าเราไปบ้านที่อยุธยาอีกเถอะ”
“หะ? ยังไม่เข็ดอีกเหรอ ไหนว่าผีหลอกไง”
อาทิตย์กว่าๆแล้วที่ดิษยาไม่ได้กลับไปที่บ้านไม้อยุธยา หนึ่งคือเธอต้องไปงานของเครื่องสำอางค์ Nars ที่มัลดีฟส์ สองคือเธอกลัวว่าจะเจอเรื่องแบบเหตุการณ์ครั้งก่อนอีก แต่ไม่ว่าเรื่องผีหลอกนี่จะแย่แค่ไหน เธอก็ต้องมาทำสปาแล้วก็นวดตัวเพื่อบำรุงผิวพรรณเลือดลมของตัวเองให้ได้ แต่ก็ไม่ลืมที่จะลากหนูนามาเป็นเพื่อน เพราะเธอรู้ดีว่าหนูนาเป็นเวิร์คกิ้งวูแมนที่ทำงานหนักอย่างกับอะไรดี
หลังจากที่เธอเล่าให้ต้นน้ำกับหนูนาฟังเรื่องที่เธอตกเตียง แล้วลืมตาขึ้นมาอีกทีก็มานอนอยู่ในอ้อมแขนผู้ชายหน้าตาคมคายคนหนึ่ง แต่พริบตาเดียวที่เธอหลุดจากอ้อมแขนเค้า เธอก็หล่นมาที่พื้นเหมือนเดิม ความรู้สึกมันเหมือนกับตอนที่เธอเมามากๆแล้วภาพตัด ต่างกันที่เธอมีสติอยู่ ส่วนเพื่อนทั้งสองของเธอเล่าให้ฟังว่าฝันถึงผู้หญิงใส่สไบแบบในหนังย้อนยุคคนนึงกระโดดลงมาจากต้นไม้ แต่ยังดีที่มีผู้ชายคนนึงรับไว้ได้ ส่วนรายละเอียดอื่นๆก็จำไม่ได้แล้ว
มันน่าเหลือเชื่อที่ทั้งสามคนจะฝันเหมือนกัน แต่ของเธอเธอไม่มั่นใจนักว่ามันคือความฝัน และเธอก็ไม่ได้เห็นผู้หญิงใส่สไบแต่เธอตะหากที่เป็นผู้หญิงคนนั้น
“แกจำได้มั้ยว่าผู้หญิงหน้าตาเป็นยังไง เหมือนฉันมั้ย” ดิษยาถาม
“ไม่น่านะ แต่ก็จำไม่ค่อยได้นักหรอก” หนูนาตอบ ใจเธอไม่ได้จดจ่อกับคำถามของเพื่อนเท่าไหร่นัก ในหัวเธอตอนนี้คิดแต่เรื่องหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมา
‘คุณช่วยชวนคุณสยามาที่พูลปาร์ตี้โรงแรมนี้ได้มั้ยครับ ได้ยินมาว่าเธอชอบบรรยากาศของที่นั่น’ คุณแมตต์ไม่พูดเปล่ายื่นบัตรเข้างานให้สามใบ ‘เผื่อคุณจะชวนเพื่อนอีกคนไปด้วย’
คิดแล้วหนูนาก็ปวดสมอง ร้อยวันพันปีหนูนาไม่เคยเป็นฝ่ายชวนดิษยาหรือต้นน้ำไปเที่ยวเลยเพราะตัวเธอทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อต มีก็แต่สองคนนั้นที่เป็นฝ่ายชวน ถ้าอยู่ๆไปชวนต้องสงสัยแน่ๆ
“หนูนา ฟังอยู่รึเปล่า” ดิษยาเรียกเสียงดัง
“ฟังอยู่ ถ้าแกจะไปแกก็ชวนต้นน้ำไปสิ วันนี้กับพรุ่งนี้นางว่าง เห็นนางบอกอยู่...คืนนี้ฉันต้องบินไปทำงานที่ฮ่องกงกับคุณแมตต์”
“เหรอ ดีเลย ฉันเพิ่งทำคลิปแต่งหน้าของอาทิตย์นี้เสร็จ สามสี่วันนี้ก็ไม่มีงานด้วย” ว่าแล้วเธอก็บอกให้พนักงานนวดหยุดชั่วคราวก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไลน์หาดีเจต้นน้ำเพื่อชวนไปอยุธยาเป็นเพื่อน
 
Ditsaya saya: สุดหล่อ
Ton-H2O: เอาเท่าไหร่บอกมา
Ditsaya saya: ไปค้างที่อยุธยาเป็นเพื่อนหน่อยสิ เดี๋ยวฉันขับ
Ton-H2O: ยัง โดนผีหลอกแล้วยังไม่เจียม
 
“นางว่าไง?” หนูนาถาม เห็นดิษยาเงียบไป
“นางว่าโดนผีหลอกแล้วไม่เจียม” หนูนาหัวเราะ
Ditsaya saya: ก็ไม่เชิงว่าผีหลอก คราวนี้จะไปดูให้รู้แน่
Ton-H2O: ไม่ใช่ว่าติดใจผู้ชาย?
Ditsaya saya: จะบ้าเหรอ แล้วสรุปจะไปมะ
Ton-H2O: ไปก็ได้ แต่เอาของมาแลกนะ
ดิษยาทำจมูกย่น หันไปมองเพื่อนสาวข้างๆ
“อะไร?”
“นางว่าให้เอาของมาแลก”
“บัตรพูลปาร์ตี้ ดริ้งค์ฟรีตลอดคืน งานนี้ผู้ชายแซ่บ ฉันได้บัตรฟรีมาเอามะ” หนูนาถามลองเชิง
 
Ditsaya saya: บัตรพูลปาร์ตี้ ดริ้งค์ฟรีตลอดคืน ผู้ชายแซ่บ
Ton-H2O: บ่ายสองมารับฉันที่บ้าน
Ditsaya saya: โอเค
 
บ่ายสองโมงตรงดิษยาก็ขับรถสปอร์ตสีดำมาหยุดอยู่หน้าบ้านต้นน้ำ วันนี้เธอทากันแดดตัวใหม่ที่ได้มาจากแบรนด์ ไหนๆก็ต้องเดินทางไปต่างจังหวัด เธอกะว่าจะรีวิวประสิทธิภาพของครีมกันแดดตัวนี้ไปด้วยเลย หลังจากได้นวดตัวไปช่วงเช้า ดิษยารู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นเยอะ วันนี้เธอก็เลยเลือกใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าผ้าฝ้ายสบายๆ พร้อมการเกงยีนส์ขาดทรงบอย แต่ก็ไม่ลืมที่จะฉีดน้ำหอมของชาแนลกลิ่นที่เธอเพิ่งซื้อมาใหม่ได้ไม่กี่วัน
ไม่นานต้นน้ำก็เดินออกมาจากบ้านพร้อมด้วยกระเป๋าเป้ใบปานกลาง เพราะว่าคืนนี้เขาต้องไปค้างที่โน่นหนึ่งคืนตามที่ตกลงไว้กับดิษยา ที่จริงแล้วเขาก็ไม่ได้เห็นแก่บัตรฟรีหรืออะไร แค่หยอกเพื่อนรักเล่นไปอย่างนั้น ก็กะว่าจะไปเป็นเพื่อนอยู่แล้ว แต่ได้บัตรฟรีมาก็ถือว่าเป็นกำไร
“สยา แกหาอะไร” ตั้งแต่มาถึงที่บ้านเรือนไทย ดิษยาก็เอาแต่ค้นของในบ้าน
“หาพวกเอกสารอะแก เผื่อจะมีอะไรน่าสนใจ แล้วก็พอจะอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้น่ะ”
“ช่วยมะ?”
“เยสพลีส”
ผ่านไปสี่ชั่วโมง ดิษยาและต้นน้ำค้นทุกลิ้นชักทั้งในห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือแม้แต่ห้องหนังสือก็ไม่มีทีท่าว่าจะเจออะไร เจอก็แต่หนังสือที่คุณยายกับคุณแม่สะสมไว้
“ค้นจนหมดแล้วก็ไม่เห็นจะเจออะไร แกแน่ใจนะว่าไม่มีตู้ไหนให้ค้นแล้ว” ต้นน้ำเปิดขวดน้ำก่อนยกขึ้นดื่ม ก่อนจะปาดเหงื่อด้วยความเหนื่อย
“ค้นจนหมดแล้ว ถ้าจะเหลือมันก็เหลือ-” ดิษยาสะดุดกับความคิดตัวเอง ก่อนจะรีบรุดหายไปจากห้องนอนเก่าของคุณแม่
“เอ๊า?! สยาแกจะไปไหน!” ต้นน้ำกลืนน้ำที่กินไปแทบไม่ทันเมื่อเห็นเพื่อนอยู่ๆก็ลุกพรวดขึ้นไป
สยากึ่งวิ่งกึ่งเดินไปหยิบอุปกรณ์ที่ห้องเก็บของด้านล่าง
“บ้า แกจะเอาสิ่วกับค้อนมาทำอะไร?!” ต้นน้ำตาโต เมื่อเห็นของที่เพื่อนถือขึ้นมาบนบ้าน
“ถ้าใครซักคนในตระกูลฉัน จะกล้าทำลายแม่กุญแจนั่น คนๆนั้นก็ต้องเป็นฉัน” ดิษยาเดินไปที่ห้องนั่งเล่น ห้องที่มีหีบไม้โบราณวางอยู่
“แก จะดีเหรอฉันว่ามันดูเก่า แล้วก็ทรงคุณค่ามากเลยนะ” ต้นน้ำทำหน้าไม่สู้ดี ตัวเขาเองที่มาที่นี่ก็ไม่ได้กลัวผีหรืออะไร แต่เพื่อนเขานี่ชักจะทำเกินไปหน่อยแล้วล่ะมั้ง
“แต่ฉันรู้สึกว่าในนี้มันต้องมีอะไรซักอย่าง รู้สึกมานานแล้วด้วย วันนี้ฉันต้องเปิดให้ได้” ดิษยายกหบลงมาวางไว้ที่พื้นห้อง จับตะแคง แล้วเอาสิ่วเหล็กวางไปที่แม่กุญแจก่อนจะลงมือเอาค้อนทุบด้ามสิ่วเต็มแรง
ไม่นานกุญแจก็หักแล้วก็แตกเป็นสองส่วน ดิษยากลืนน้ำลายเอือกนึงก่อนจะเปิดดู
“กระดาษเก่าๆแผ่นเดียวเนี่ยนะ?” ต้นน้ำทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ เขาอุตส่าห์ตื่นเต้น คิดว่าด้านในจะมีสมบัติหรือไม่ก็หม้อเก็บวิญญาณหรืออะไรเทือกนั้น
ดิษยาหยิบกระดาษขึ้นมาอ่าน
“ถึงดิษยา” ดิษยาหันไปมองหน้าดีเจต้นน้ำ พลันทั้งสองเกิดขนลุกขึ้นมาซะอย่างนั้น
 
ถึง ดิษยา
ถ้าเธอเปิดหีบใบนี้และอ่านจดหมายนี้แล้วแปลว่าการเดินทางของเธอได้เริ่มขึ้นแล้ว บ้านหลังนี้เป็นเสมือนประตูแห่งกาลเวลาให้เธอได้เดินทางกลับไปในอดีต ไปใช้ชีวิตตัวเองแต่ทว่าในอีกชีวิตหนึ่งอีกช่วงเวลาหนึ่ง ชีวิตที่เธอตามหา ตอนนี้เธออาจจะไม่เข้าใจเท่าไหร่นัก แต่เมื่อเธอได้ก้าวข้ามกาลเวลา และเรียนรู้ ประสบพบเจอสิ่งต่างๆ เธอก็จะรู้เอง ฉันรู้ดีว่าเธอไม่ชอบการถูกสปอยหนังซักเท่าไหร่นัก เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะบอกเธอต่อไปนี้เป็นเพียงกุญแจสำคัญเท่านั้น นั่นคือ จงอย่าระมัดระวังมากไปนัก จงเดินเหินไปทุกที่ในบ้านนี้อย่างไม่ต้องกลัวอะไร และ เธอมีโอกาสเพียงแค่เก้าครั้งเท่านั้น ไม่สิ แปดแล้วล่ะ
จงสวยอย่างเป็นตัวเอง
พิมพ์แพร
 
ดิษยาอ่านออกเสียงจนจบจึงหันไปมองต้นน้ำ
'จงสวยอย่างเป็นตัวเอง' นี่คือสิ่งที่เธอมักจะพูดจบท้ายในคลิปวิดิโอสอนแต่งหน้าของเธอ อย่างกับว่าแม่พิมพ์แพรอะไรนี่รู้จักเธออย่างนั้นแหละ
“สยา แกไม่ได้อำฉันเล่นใช่มั้ย ไม่ใช่ว่ามีทีมงานมาเตรียมไว้ แล้วตั้งกล้องถ่ายหน้าเหวอๆของฉันหรอกนะ” ดีเจต้นพยายามมองไปรอบๆว่าแอบมีกล้องติดไว้ตรงไหนบ้างรึเปล่า
“ฉันตะหากที่ต้องถามแก แต่ฉันว่าไม่ใช่เรื่องอำกันเล่นหรอก”
“ทำไมแกถึงมั่นใจนัก”
“เพราะฉันเคยได้ยินชื่อผู้หญิงที่ชื่อแพรมาก่อน มันเป็นชื่อที่ผู้ชายคนนั้นเรียกฉัน...เรียกว่าแม่แพร”
“ชื่อโหลจะตาย อาจจะคนละแพรนะแก”
ดิษยาเอื้อมมือไปหยิบไอโฟนเอ็กซ์ออกมาจากกระเป๋า Coach ใบใหญ่ของเธอ ก่อนจะกดถ่ายรูปจดหมายฉบับนี้และส่งไปให้หนูนา ‘ดูสิ ฉันเจออะไร ขนลุกเลย’
หนูนายังไม่เปิดอ่าน เป็นไปได้ว่าอาจจะยังไม่ลงจากเครื่องบิน
 
กว่าจะเก็บของทุกอย่างที่ค้นออกมาเข้าที่ให้เรียบร้อยก็ปาไปสามทุ่มกว่า ทั้งสองคนหิวคนขนาดที่ว่าสามารถกินช้างได้ทั้งตัว แต่ก็มืดเกินกว่าจะอยากขับรถออกไปไหนแล้ว ดิษยาจึงโทรขอให้จุ๊บแจงแม่บ้านของเธอช่วยทำอาหารง่ายๆอย่างข้าวกระเพราไก่ไข่ดาวไม่สุก สำหรับเธอและไข่เจียวสำหรับต้นน้ำ
“เอาเบียร์สามขวด” ต้นน้ำสะกิดเพื่อนสาวที่กำลังสั่งแม่บ้านทางโทรศัพท์
“เอาเบียร์สามขวดจ้ะจุ๊บแจง แล้วก็นมกับกล้วย แล้วก็ขนมอะไรก็ได้ในเซเว่นสามสี่ห่อนะจ๊ะ” พอปลายสายตอบรับ เธอก็กดวางสาย
“ใจคอจะเมาทุกวันเลยรึเจ้าคะ”
“แหม อ่านจดหมายไปฉบับเดียวแค่นี้ อินขนาดนี้เลยรึเจ้าคะ เอ้ย! ขอรับ”
“เอ้า ก็เผื่อข้าจะต้องข้ามเวลาจริงๆดังจดหมายว่า จะได้ไม่โป๊ะไงเจ้าคะ”
“เออ ว่าแต่ ถ้าแกข้ามเวลาได้จริงๆ แกจะข้ามได้ยังไง...ถ้าครั้งที่แล้วแกข้ามไปแล้วครั้งนึงอย่างที่แกว่าจริงๆ”
“ตอนนั้นฉันตกเตียงว่ะ ลุกเร็วไปหน่อย” ดิษยาหัวเราะแหะๆ
“งั้นแกไปลองตกเตียงอีกรอบมะ” ดีเจต้นน้ำพูดเล่น แต่ดิษยาทำหน้าเหมือนกับว่าเป็นไอเดียที่ดี “เอาจริงดิวะสยา?”
ดิษยายักคิ้วแทนคำตอบ
 
“โอ้ย!”
“อ๊ายยยย!”
“โอ้ย!”
“กรี๊ดดด!”
ใบหน้าที่เคยขาวอมชมพู บัดนี้เลือดสูบฉีดเต็มที่เพราะเธอกำลังคาร์ดิโอทางอ้อมด้วยการขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วก็กลิ้งลงมา เธอลองมาหมดแล้วทุกท่า ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะตกเตียงด้วยตัวเองหรือลองให้เพื่อนผลักตก ผลที่ออกมาก็ยังเหมือนเดิม คือเธอไม่ได้ย้อนเวลากลับไป เธอได้แต่ก้นกระแทกพื้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“สยา แกแน่ใจนะว่าแค่ตกเตียงเฉยๆ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น”
“ก็เท่าที่จำได้ก็ตื่นเพราะพวกแกเรียกฉัน แล้วพอลุกพลาดก็ตกเตียงนี่แหละ....แปปนึงนะ จุ๊บแจงโทรมาละ” ดิษยาลุกขึ้นยืน “ฮัลโหล...ถึงละเหรอ...เดี๋ยวลงไปเอาๆ”
“ให้ฉันไปช่วยถือมะ”
“ไม่ต้อง แกนั่งอยู่นี่แหละ ของไม่เยอะหรอก” เจ้าตัวพูดก่อนจะเดินไปที่ประตูหน้าบ้านซึ่งตอนนี้จุ๊บแจงแม่บ้านของเธอมายืนรอยู่แล้ว
‘ไฟหน้าบ้านไม่ติดเหรอเนี่ย’ เธอพยายามเปิดปิดสวิตช์อยู่สามสี่ครั้งก็ไม่เป็นผล เลยตัดสินใจเดินต่อไปโดยอาศัยไฟในสวนที่ส่องเข้ามา
‘ตกเตียง ข้ามเวลา...’ ต้นน้ำพยายามเรียบเรียงความคิดในหัว ‘ไม่ต้องระวังเหรอ?’
“โว้ย ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว” เขาทึ้งหัวตัวเอง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ทุกอย่างที่นึกได้
‘เอาใหม่นะ โดนเรียก ไม่ระวัง ตกเตียง ข้ามเวลา...ในบ้านนี้น่ะเหรอ!’
“ใช่แล้ว คีย์ก็คือ เธอต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ...” ดีเจต้นรีบวิ่งตามดิษยาไปพร้อมตะโกนเรียกชื่อเธอด้วยความดีใจ ว่าเขานั้นคิดอะไรบางอย่างออกแล้ว “สยา!!! ฉันนึกออกแล้ว สยา!!!”
“สยา!!!” / “กรี๊ดดดดดด!!”
ดีเจ้ต้นน้ำวิ่งมาถึงทางลงบันได พร้อมทั้งเรียกชื่อเพื่อนสนิทที่กำลังค่อยๆก้าวลงบันไดทีละขั้นในความมืดสลัว แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ดิษยาก้าวพลาดและกำลังจะล้มลงมากระแทกบันได
ทั้งต้นน้ำและจุ๊บแจงที่ยืนมองอยู่ถึงกับตกใจ ทำอะไรไม่ถูก รู้แน่ๆว่าดิษยาจะต้องกลิ้งลงมาอย่างแน่นอน
ทว่า
“ขะ ขะ คุณสยาหายไปไหนแล้วคะคุณ?”
“....” ต้นน้ำอยากจะตอบจุ๊บแจงว่าดิษยาได้ข้ามเวลาไปแล้ว และการที่เห็นเธอหายไปต่อหน้าต่อตานี่ก็เป็นหลักฐานชั้นดี แต่ก็พูดอะไรมากไม่ได้
“เดี๋ยวคุณสยาก็กลับมา ไหนล่ะของที่ซื้อมา เดี๋ยวถือไปเองครับ” ต้นน้ำทำเป็นว่าเรื่องที่ดิษยาหายตัวไปต่อหน้าต่อตาเขาเองและจุ๊บแจงเป็นเรื่องที่แสนจะธรรมดา
“นี่เงินค่าของที่ซื้อมาวันนี้นะครับ เก็บเรื่องนี้เป็นความลับนะจุ๊บแจง”
“ตะ แต่คุณสยา หะ หาย”
“กลับไปก่อนจุ๊บแจง เดี๋ยวพรุ่งนี้มารับเงินเดือนด้วยนะ สิ้นเดือนแล้วนี่”
เมื่อได้ยินว่าสิ้นเดือน จุ๊บแจงก็เงียบไป เป็นแม่บ้านที่นี่งานไม่หนัก แถมได้เงินเดือนก็เยอะ แค่เจอเรื่องเจ้าของบ้านหายตัวได้นี่ก็คงไม่เท่าไหร่ เธอเองก็ไม่อยากหางานใหม่ เพราะงานสมัยยี้ก็หายากเหลือเกิน
“ค่ะคุณ” เธอหมุนตัวเดินกลับไปที่มอเตอร์ไซค์คันเก่าที่จอดไว้หน้าบ้านก่อนจะขี่ออกไป
‘สยา แกจะกลับมาตอนไหน แล้วฉันจะบอกยัยหนูนากับน้าของแกยังไงถ้าแกไม่กลับมา’ ต้นน้ำถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะถือถุงข้าวและเบียร์เข้าไปในบ้าน
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา