โอม ตอนที่ 1 แรงอาฆาต
เขียนโดย Jalando
วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 10.48 น.
แก้ไขเมื่อ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2561 19.32 น. โดย เจ้าของนิยาย
25) ณ.ที่แห่งหนึ่ง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 25 ณ.ที่แห่งหนึ่ง
...........................
ณ.สำนักงานตำรวจย่านชานเมืองแห่งหนึ่ง บรรยากาศภายในนั้นเต็มไปด้วยความอ้างว้างและวังเวงราวป่าช้าผีดิบเนื่องจากเวลาได้ล่วงเข้าไปถึงสามทุ่มเศษแล้ว
ที่ห้องรับแจ้งความภายในสำนักงานตำรวจแห่งนั้นมีจ่าสูงวัยนายหนึ่งนั่งหงอยเหงาอยู่ตามลำพังบนโต๊ะเก้าอี้เพียงผู้เดียว ใบหน้าเหี่ยวย่นของจ่าสูงวัยดูเบื่อหน่าย ดวงตาลึกโบ๋หรี่เล็กจนคล้ายจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่ ด้านหน้าของจ่าสูงวัยรายนี้มีทีวีจอแบนราคาถูกแขวนติดผนังในจุดที่สามารถรับชมได้สะดวก แม้ว่าตอนนี้ในทีวีจะฉายภาพยนตร์แนวบู๊ล้างผลาญที่ดุเดือดเผ็ดมันอยู่ก็ตามแต่ก็ไม่ทำให้ความง่วงซึมและไร้ชีวิตชีวาของนายตำรวจผู้นี้บรรเทาลงไปได้
“ ฮ้าวๆ ” นายตำรวจสูงวัยอ้าปากหาวพลางบิดกายไล่ความเกียจคร้านอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็กลับมาอยู่ในท่าเท้าคางแบบเซ็งๆตามเดิม ในใจนึกขบคิดว่าอยากให้เวลาเข้าเวรของตนเองผ่านไปอย่างรวดเร็ว จะได้กลับไปพักผ่อนนอนหลับที่บ้านซักที
ในระหว่างจ่าสูงวัยกำลังเบื่อหน่ายอยู่นั่นเอง เสียงโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะทำงานเบื้องหน้าของเขาก็ดังขึ้นอย่างรุนแรง
“ กริ้ง กริ้ง กริ้ง ”
“ เฮ้ยๆ! ” จ่าสูงวัยสะดุ้งตื่นจากภวังค์ในทันที จ่าสูงวัยสะบัดหัวไล่ความมึนอยู่สองสามที จากนั้นเขาก็เอื้อมมือไปรับโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว
“ ฮัลโหล ที่นี่ ส.น…….. ไม่ทราบติดต่ออะไรครับ ” จ่าสูงวัยเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงเครียดขึ้งเพราะความหงุดหงิดที่ถูกขัดขวางการเข้าสู่ภวังค์
“ จ่าเทพหรือครับ ผมหมวดเต๋อ พอดีผมกับจ่าชาญจับไอ้เส็ง มือปืนที่หนีคดีฆ่าได้โดยบังเอิญได้และกำลังจะนำตัวไปที่ ส.น. ที่นั่นมีใครอยู่บ้างครับ ” เสียงตอบมาตามสายด้วยน้ำเสียงรัวเร็วและร้อนรน
“ โหๆ หมวดนี่เฮงเป็นบ้า ไอ้เส็งนี่มันโคตรแสบเลย หนีเก่งอย่างกับผี ขนาดตำรวจหลาย ส.น. ร่วมมือกันไล่ตามจับมันตั้งหลายเดือนยังไม่เห็นแม้แต่เงาของมัน ถามจริงไปจับได้อีท่าไหนรึ หมวด ” จ่าสูงวัยนามว่า “เทพ” ตอบน้ำคำกลับในทันที น้ำเสียงของจ่าสูงวัยดูตื่นตะลึงไม่ใช่น้อย
“ อืมๆ ก็ออกแนวฟลุกนั่นแหละ พอดีพวกเราออกเวรแล้วชวนกันไปกินข้าวต้มรอบดึก บังเอิญไปเจอมันเมาอยู่กับลูกน้องของมันในร้านเหล้าแถวนั้น แล้วจ่ากล้าเกิดคลับคล้ายคลับคลาว่าเป็นมันเลยเข้าไปถามไถ่ ไอ้เส็งมันก็ตกใจจนพยายามหลบหนี พอจ่ากล้าตรงเข้าขวางมันก็อัดเข่าใส่จ่ากล้าจนกระดูกซี่โครงของจ่ากล้าหักไปหลายซี่ หลังจากนั้นพวกผมที่เหลืออีกห้าคนก็รุมเข้าล็อกตัวมัน แต่แรงมันเยอะบรรลัยกว่าจะจับมันอยู่เล่นเอาเหนื่อยกันไปตามๆกัน ” หมวดเต๋อสาธยายถึงเหตุการณ์แบบยาวเหยียดอย่างละเอียด
“ โห แล้วตกลง ไอ้กล้ามันเป็นไรมากเปล่า หมวด ” จ่าสูงวัยเอ่ยปากถามถึงอาการของเพื่อนรุ่นน้องด้วยความห่วงใย
“ ส่งตัวไปโรงพยาบาลแล้ว ไม่เป็นไรมากครับ เอ่อ ว่าแต่ตกลงที่ ส.น.มีใครเหลืออยู่บ้างครับ ” หมวดเต๋อตอบพร้อมถามคำถามเดิมต่อ
“ เหลือแค่ผมคนเดียวนี่แหละ เบื่อจะแย่แล้ว พาไอ้เสือร้ายนั่นมันเข้ามาเลย ผลงานชิ้นโบว์แดงเลยนะหมวด พวกเราได้หน้าไปตามๆกันเลย ฮ่าๆ ” จ่าเทพตอบพร้อมหัวเราะระรื่นด้วยความดีใจ
“ ครับๆ อีกครึ่งชั่วโมงเจอกัน ” หมวดเต๋อตอบสั้นพร้อมตัดสายไปในทันที
หลังจากที่สายตัดไป จ่าเทพก็นั่งอมยิ้ม ตาลอย ไปอีกหลายวินาที เนื่องจากการที่ ส.น.ของเขาสามารถจับกุมโจรใหญ่มีชื่อระดับนี้ได้นับเป็นความดีความชอบอย่างใหญ่หลวง ทำให้ความหวังในการเลื่อนสองขั้นในปีนี้มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม
“ เหอๆ กูมีหวังเป็นนายร้อยกะเขาในชาตินี้แล้ว ” จ่าเทพยิ้มหวานพลางพล่ามบ่นคนเดียวราวกับคนบ้า
…………………….
ครึ่งชั่วโมงผ่านไปไวเหมือนโกหก และแล้วเวลาแห่งการรอคอยของจ่าเทพ ผู้อาวุโสแห่ง ส.น……..ก็มาถึง เมื่อมีนายตำรวจหนุ่มวัยฉกรรจ์จำนวนห้านายคุมตัวผู้ร้ายรายหนึ่งเข้ามาใน ส.น.อย่างรวดเร็ว คนร้ายรายนั้นเป็นชายร่างสูงใหญ่ ผมดกดำ ผิวพรรณหน้าตาดูขาวผ่องและจืดชืดอันบ่งบอกว่าน่าจะเป็นพวกเชื้อสายมังกร แต่ทว่าในประกายตาของชายผู้นี้กลับดูแข็งกร้าวและอำมหิตราวดวงตาของพยัคฆ์ร้าย ทำให้ชายร่างสูงใหญ่นายนี้ดูสมศักดิ์ศรีโจรใหญ่เป็นอย่างยิ่ง
“ เฮ้ย ปล่อยข้านะโว้ย ” คนร้ายชายเชื้อสายจีนร่างใหญ่แผดเสียงตะโกนดังลั่น ส.น.ด้วยความโกรธเกรี้ยว
“ หุบปาก ไอ้เส้ง ยังไงวันนี้มึงก็หนีไม่รอดหรอก สงบเสงี่ยมเจียมตัวไว้เถอะมึง ” นายตำรวจหนุ่มร่างใหญ่พอๆกับไอ้เส็งขู่ตะคอกกลับพร้อมผลักไสคนร้ายร่างยักษ์ไปข้างหน้าอย่างรุนแรง
“ หน็อยแน่ะ ไอ้ตำรวจกิ๊กก๊อก ” ไอ้เส็งหันหน้ากลับมาขู่คำรามใส่ราวสัตว์ร้ายแต่มันก็ทำได้เท่านั้น ไม่กล้าพุ่งกายเข้าไปห้ำหั่นกับนายตำรวจคู่อริเนื่องด้วยติดขัดตรงกุญแจมือซึ่งถูกสวมใส่อยู่ที่ข้อมือทั้งสองของมัน
นายตำรวจหนุ่มผู้เป็นหัวหน้าทีมนามว่า หมวดเต๋อ ก้าวเดินเข้ามาหา จ่าเทพ ที่ยืนยิ้มกริ่มอยู่เบื้องหน้าอย่างสบายอารมณ์ นายตำรวจผู้นั้นร้องทักจ่าสูงวัยด้วยใบหน้ายิ้มละไม
“ นำตัวมันมาแล้ว จ่าเทพ ลงบันทึกการจับกุมได้เลย ”
“ ฮ่าๆ เยี่ยมมากเลย หมวด จับโจรใหญ่ได้แบบนี้ ปลายปีนี้รับรองได้เลื่อนขั้นอย่างน้อยคนละสองขั้นทั้ง ส.น. แน่ๆ ” จ่าเทพยกนิ้วโป้งให้ผู้หมวดหนุ่มก่อนพลิกกายไปหยิบบันทึกการจับกุมมาวางไว้บนโต๊ะพร้อมรับตัวนักโทษฉกรรจ์ที่ทางการต้องการตัว
“ ได้แน่ๆเลย จ่า แล้วปลายปีพวกเราค่อยเลี้ยงฉลองกัน ” หมวดเต๋อตอบกลับพร้อมเร่งรัดให้สี่นายตำรวจผู้ติดตามเร่งนำตัวคนร้ายมาลงบันทึกการจับกุม
การลงบันทึกเต็มไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากเสือร้ายนามว่า ไอ้เส็ง มักโยกโย้ไปมา ไม่ยอมให้ข้อมูลต่างๆโดยง่าย จนนายตำรวจทั้งหกต้องสลับกันเข้าไปทั้งขู่ทั้งปลอบเป็นการใหญ่จึงได้ข้อมูลที่ต้องการ และเมื่อถึงขั้นตอนการลงลายนิ้วมือก็เกิดปัญหาใหญ่ขึ้นอีกครั้ง…..
“ เฮ้ย จะให้กูลงลายนิ้วมือได้ไงวะ ในเมื่อมือของกูถูกล่ามด้วยกุญแจมือแบบนี้ ” ไอ้เส้งโวยวายพลางขัดขืนการเกาะกุมของนายตำรวจหนุ่มที่รายล้อม
“ เรื่องมากนักนะมึง คนอื่นๆเขาถูกล่ามกุญแจมือ เขายังลงลายนิ้วมือได้เลย แล้วมึงจะมามีปัญหาอะไรให้มากความวะ ” นายตำรวจร่างใหญ่ผู้เป็นคู่อริตะคอกใส่พร้อมทำท่าทำทีหมายจะเข้ามาทำร้ายร่างกาย แต่เสือร้ายอย่างไอ้เส็งไม่แสดงท่าทีเกรงกลัวแม้เพียงน้อย มิหนำซ้ำยังกระชากเสียงตอบกลับอย่างเด็ดเดี่ยวว่า………..
“ กูไม่ลง นิ้วมือกูใหญ่กว่าคนอื่น ถ้ามือกูต้องถูกผูกติดกันแบบนี้ กูจะลงลายนิ้วมือไม่ถนัด ”
“ หน็อย ไอ้เหี้….เส็ง ” นายตำรวจร่างใหญ่ผู้ซึ่งเป็นคู่อริเกิดอาการสติแตกจนผุดกายเข้ามาหวังทำร้ายเสือเส้ง แต่ก่อนที่นายตำรวจผู้นั้นจะถึงตัวของเสือเส้ง นายตำรวจหนุ่มอีกสองนายก็เข้าล็อกตัวนายตำรวจร่างใหญ่นั่นไว้ก่อน
“ ใจเย็นก่อน จ่าพร ผมเข้าใจว่าจ่าแค้นมันที่มันอัดเพื่อนเราซะกระดูกซี่โครงหัก แต่ขอให้จ่าใจเย็นก่อน ถ้าเราอัดมันเละตอนนี้ เวลาลงข่าวใหญ่พวกสื่อมวลชนมันจะเล่นเราได้ว่าพวกเราซ้อมผู้ต้องหา ยิ่งไอ้เวรนี่มันดังมากด้วยเเล้ว เรายิ่งจะซวยกันหนัก ” หมวดเต๋อ หัวหน้าทีมออกโรงพูดเตือนสติ
“ อืม… ครับ ผู้หมวด ” จ่าพรร่างใหญ่ดูเหมือนจะสงบลงได้ แต่ทว่าไอ้เส้งซึ่งเป็นคู่อริกลับราดน้ำมันลงไปในกองไฟอีกด้วยอาการถ่มน้ำลายลงพื้นพร้อมเค้นคอกล่าวเสียงกร้าว
“ ถุย นึกว่าแน่ ที่แท้ก็แค่หน้าตัวเมีย ”
“ หน็อย…….กูขอกระทืบมึงซักทีเถอะ ” จ่าพรเกิดอาการฮึดฮัดอีกครั้ง แต่ก่อนที่เขาจะเข้าถึงตัวของไอ้เส้ง เขาก็ถูกนายตำรวจอีกสองนายเกาะกุมตัวได้ก่อน
“ เอาล่ะๆ พอได้แล้ว จ่าพรออกไปรอนอกห้องก่อน ส่วนจ่าหมานถอดกุญแจมือให้ไอ้เส้งมันก่อน ” หมวดเต๋อร้องสั่งเสียงเด็ดขาด ดูเหมือนว่าผู้หมวดหนุ่มรายนี้จะเริ่มหัวเสียบ้างแล้ว
ทันทีที่จ่าพรได้รับฟังคำสั่งของผู้หมวดหนุ่ม เขาก็เริ่มตั้งสติได้อีกครั้ง จากนั้นก็ก้าวเดินออกจากห้องอย่างรวดเร็วเนื่องด้วยกลัวว่าตนเองจะลุแก่โทสะไปเล่นงานไอ้เส้ง ส่วนนายตำรวจหนุ่มกลางคนร่างผอมนามว่า จ่าหมาน ก็ก้าวเข้ามาไขกุญแจมือให้ไอ้เส้งตามคำสั่งของผู้หมวดหนุ่ม
“ เออ ก็แค่นี้ ” ไอ้เส้งสะบัดมือไปมาด้วยท่าทางยียวนกวนประสาท
“ เอาล่ะเลิกโยกโย้ได้แล้ว ไอ้เส้ง ลงลายนิ้วมือซะ ” จ่าหมานที่ยืนข้างกายกล่าวเครียดๆเพราะเริ่มจะสุดทนกับกิริยาสุดถ่อยของเสือร้ายบ้างแล้ว
“ ก็ได้ๆ ไหนล่ะกระดาษ ” ไอ้เส้งผายมือออกในท่าทียอมแพ้พร้อมกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงกวนๆ
“ เอ้า ไอ้ห่า ” จ่าเทพผู้สูงวัยวางกระดาษลงบนโต๊ะหน้าเสือเส้งพร้อมกระแทกเสียงอย่างรุนแรง
ไอ้เส้งปรายตามองไปรอบๆพร้อมยิ้มเล็กน้อยด้วยท่าทีสบายใจแบบคนเจนคุก จากนั้นมันก็ค่อยๆบรรจงกดนิ้วมือลงบนหมึกแล้วประทับตรงกระดาษตามช่องที่ระบุอย่างสมบูรณ์ทุกนิ้วมือ สร้างความโล่งอกโล่งใจแก่กลุ่มนายตำรวจ 5 นายที่อยู่ในห้องเป็นยิ่งนัก แต่ในจังหวะที่ไอ้เส้งกำลังจะลงลายนิ้วมือที่หัวแม่โป้งข้างขวาอันเป็นนิ้วสุดท้าย มันก็พุ่งทะยานเข้าหา จ่าหมาน นายตำรวจที่อยู่ใกล้ตัวมันที่สุดอย่างรวดเร็ว
“ เฮ้ย! ” จ่าหมานร้องได้คำเดียวก่อนที่จะถูกหมัดลุ่นๆของไอ้เส้งอัดเข้าไปใบหน้าอย่างแรงจนจ่าร่างผอมลงลงไปนอนนับดาวในหมัดเดียว
“ จับมันไว้ ” หมวดเต๋อร้องสั่งพรรคพวกเสียงหลงด้วยอาการตกใจ
สิ้นเสียงคำสั่งของผู้หมวดหนุ่ม นายตำรวจอีกสามนายก็กรูเข้าล็อกตัวไอ้เส้งอย่างรวดเร็ว แต่ทั้งสามไม่อาจจับเสือร้ายแดนมังกรได้อยู่ซักคนเดียวเนื่องด้วยไอ้เส้งทั้งแข็งแรงและสูงใหญ่ ไม่ช้าทั้งสามก็ถูกไอ้เส้งสะบัดจนหลุดไปตามๆกัน
หลังจากเสือร้ายหลุดจากการจับกุม มันก็พุ่งโผนทะยานออกจากห้องอย่างรวดเร็ว จุดมุ่งหมายของมันคือประตูทางออกของ ส.น. แต่ทว่าในระหว่างทางมันกลับเจอ จ่าพร นายตำรวจร่างใหญ่ซึ่งเป็นคู่อริเก่ายืนขวางทางอยู่
“ อ้าว เฮ้ย! มึงจะหนีไปไหนวะ ” จ่าพรร้องถามด้วยท่าทีตื่นตกใจ
ไอ้เส้งไม่ตอบคำ แต่มันกลับพุ่งกายเข้าไปตะบันหน้าของ จ่าพร อย่างรวดเร็วปานสายฟ้าฟาดแบบไม่ทันตั้งตัว ส่งผลให้จ่าพรรับหมัดที่หนักราวค้อนปอนด์เข้าไปแบบเต็มๆ ด้วยความหนักนั้นเล่นเอา จ่าพร ถึงกลับล้มทั้งยืน
เมื่อไอ้เส้งไร้คนขวางกั้นแล้ว มันก็รีบวิ่งไปที่ประตูทางออกในทันที แต่ทันใดนั้นเอง หมวดเต๋อก็รีบวิ่งติดตามมาติดๆจนเหลือระยะห่างเพียง 10 ก้าว หมวดเต๋อก็กระชากปืนพกประจำกายขึ้นเล็งหมายยิงเข้าไปที่ขาของเสือร้าย แต่ก่อนที่หมวดเต๋อจะลั่นไก เขาก็หยุดชะงักเมื่อเห็นชายหนุ่มร่างสูงได้สัดส่วนนายหนึ่งกำลังเดินสวนทางวิ่งของไอ้เส้ง ชายผู้นั้นสวมหมวกแก๊ปยี่ห้อไนกี้สีดำและสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์สีเทาแบบง่ายๆ สบายๆ
“ จับมันเร็ว สารวัตร ” หมวดเต๋อร้องตะโกนบอกชายหนุ่มผู้มาใหม่
ไม่รู้ว่าไอ้เส้งจะได้ยินเสียงร้องของหมวดเต๋อหรือไม่อย่างไร แต่มันเองก็พร้อมจะอัดทุกคนที่ขวางหน้ามันอยู่แล้ว เมื่อมันเห็นชายร่างสูงเดินสวนมา มันก็ง้างหมัดมาแต่ไกลหวังต่อยให้สลบเหมือดในหมัดเดียวเหมือนกับที่นายตำรวจรายอื่นๆโดน
“ หลบโว้ย ” ไอ้เส้งคำรามลั่นก่อนหวดหมัดขวาเป็นวงสวิงหวังให้วิ่งเข้ากกหูของชายหนุ่มรายนี้ แต่ทว่าแทนที่กำปั้นใหญ่ๆของมันจะเข้าเป้า ดันกลับหวดใส่อากาศที่ว่างเปล่าแทนเนื่องด้วยชายหนุ่มผู้นั้นไวทายาดพอที่จะก้มหัวหลบหมัดสวิงดอกนี้ได้อย่างง่ายดาย แต่ก่อนที่ไอ้เส้งจะได้ออกกระบวนท่าทีสอง มันก็รู้สึกได้ถึงความจุกเสียดที่หน้าท้องของมันอย่างรุนแรง
“ อุกๆ! ” เสือเส้งร้องเบาๆพร้อมงอตัว เมื่อมันก้มหัวลงมองก็พบว่าสิ่งที่กระทุ้งหน้าท้องของมันจนสร้างความจุกเสียดอย่างรุนแรงในยามนี้ก็คือเข่าซ้ายของชายหนุ่มร่างสูง จากนั้นไอ้เส้งก็ค่อยๆเซถอยหลังอย่างช้าๆ ทว่าสุดท้ายมันก็ไม่ทันที่จะได้ตอบแทนการออกอาวุธของชายร่างสูงเนื่องด้วยชายร่างสูงผู้นี้ได้ทำการยกเท้าขวาขึ้นตวัดเตะเข้าไปที่ต้นคอของมันอย่างรุนแรง
“ เปรี้ยง ” เสียงฝ่าเท้าที่อัดเข้าไปที่ต้นคอดังสนั่นสะท้านความเงียบยามราตรี และเมื่อสิ้นเสียงนั้น ชายร่างยักษ์อย่างไอ้เส้งก็ถึงกลับร่วงหลับไปในทันที ดวงตาของมันเหลือกค้างจนเหลือแต่ตาขาวบ่งบอกว่าหมดสติล้านเปอร์เซ็นต์
สิ้นภารกิจ ชายร่างสูงก็ปัดไม้ปัดมือเบาๆ ดวงตาคมภายใต้หมวกแก๊ปสีดำยี่ห้อไนกี้มองไปที่ไอ้เส้ง ไม่นานนักหมวดเต๋อก็วิ่งเข้ามาหาแบบตื่นๆ ในดวงตาของเขาส่อแววงุนงงอย่างเห็นได้ชัด
“ ขอบคุณมากครับ สารวัตร ” หมวดเต๋อร้องบอกด้วยความดีใจก่อนที่จะทรุดกายลงไปตรวจอาการของเสือร้ายอย่างร้อนรน
สารวัตรหนุ่มถอดหมวกไนกี้ออก และทันทีที่หมวกใบนั้นพ้นจากใบหน้ายาวเรียวก็พบว่าชายผู้นี้เป็นคนหนุ่มที่อยู่ในวัยซักประมาณ 30 ต้นๆ เขามีใบหน้าคมเข้มสมชาย ดวงตาเรียวคมราวเหยี่ยว จมูกโด่งเป็นสัน ปากบนบาง ปากล่างอวบเต็ม ผิวกายออกเหลืองกร้านๆคล้ายว่าเขาจะกรำแดดมาอย่างหนักแบบพวกสปอร์ตแมน ชายผู้นี้ก้มหน้าลงสบตากับหมวดเต๋อพร้อมเอ่ยปากถามเบาๆว่า
“ ตกลง นี่มันเรื่องอะไรกันครับ ”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้

รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ