ตลกร้ายใต้สะดือ

9.7

เขียนโดย Jalando

วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 15.03 น.

  45 ตอน
  9 วิจารณ์
  46.23K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 15.17 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

20) ย่องเข้าห้องสาว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ตอนที่ 20 ย่องเข้าห้องสาว

 
…………………
( ณ.ซอยใหญ่แห่งหนึ่ง )
          
       ขณะนี้เป็นเวลาหัวค่ำ แต่ในกรุงเทพถือว่าเพิ่งเข้าสู่ช่วงเย็น มีผู้คนเดินขวักไขว่ไปมาอยู่เต็มซอย แต่คนที่เราจะกล่าวถึงในตอนนี้ก็คือสาวร่างเล็กนางหนึ่ง เธอซ่อนกายาอยู่ในชุดเสื้อ กางเกงสีเทาอันเป็นยูนิฟอร์มของสาวโรงงาน ใบหน้าเธอดูจิ้มลิ้ม น่ารักสไตค์ญี่ปุ่น เมื่อนำมาประกอบกับผิวที่ขาวละเอียด ก็ทำให้เธอใกล้เคียงกับเน็ตไอดอลจากแดนซามูไรได้โดยง่าย 
          
 
       สาวน่ารักนางนี้เดินผ่านวินมอเตอร์ไซด์หน้าปากซอยด้วยท่วงท่าที่มาดมั่น เธอไม่แยแสต่อสายตานับสิบคู่ของหนุ่มวินเลยแม้แต่น้อย เหตุเพราะเธอ…..มีผัวแล้ว 
         
 
       สาวน้อยหน้าใสเดินไปตามทางเรื่อยๆ จวบจนถึงท้ายซอย เธอก็พบกับตึกแถวชั้นเดียวที่แบ่งย่อยเป็นหลายสิบห้อง ตึกแถวแห่งนี้คือเคหสถานที่เธอพักอาศัย 
 
“ เฮ้อ…ถึงห้องพักซักที วันนี้รู้สึกเหนื่อยจัง ” 
          
 
        สาวน้อยร่างเล็กเดินไปยังห้องเลขที่……(ไม่บอกครับ ป้องกันคนชอบเล่นหวย ถ้าแทงผิดขึ้นมา เขาอาจจะมาด่าผมได้) เธอใช้เวลาไม่นาน เธอก็พาตัวเองมาหยุดยืนอยู่หน้าห้อง 
 
“ ฟู่…..” หญิงสาวเป่าปากระบายลม มือขวาก็ยกคอเสื้อขึ้นสะบัดเบาๆอยู่หลายที เพื่อขับไล่ความร้อนอบอ้าวซึ่งสุมอยู่ในภายใน และในจังหวะที่คอเสื้อสะบัด มันก็เหมือนจะเผยให้เห็นชั้นในสีชมพูอยู่รำไร 
 
“ เอ…..ถ้าห้องล็อคแบบนี้ สงสัยว่าพี่โมทย์น่าจะยังไม่กลับ ” สาวน้อยหน้าใสเหลือบมองสายยูขนาดใหญ่ที่คล้องประตู ก่อนคาดการณ์ 
          
 
        เมื่อเป็นดังนั้น เธอจึงควานหากุญแจในกระเป๋าถือ และใช้มันไขทุกแม่กุญแจที่ปิดผนึกห้องพัก จากนั้นก็ก้าวเข้าไปข้างในโดยลืมที่จะล็อคประตู 
         
 
        ภายในนั้นค่อนข้างคับแคบตามแบบฉบับห้องแถวทั่วไป ดีอย่างที่มีห้องน้ำส่วนตัว เธอมองไปยังกรอบรูปถ่ายที่ตั้งอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งราคาถูก ในภาพนั้นปรากฏร่างของผู้ชายสูงกำยำที่ยืนเคียงคู่เธอ ใบหน้าของฝ่ายชายดูทื่อมะลื่อและดำปานนิล จะว่าไปการที่ทั้งสองคบกันได้ นับเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกโดยแท้ 
          
 
         แม้ว่าแฟนหนุ่มของเธอจะไม่ได้เป็นคนรูปหล่อ ฐานะการเงินก็ไม่ดี แถมยังมีหน้าที่การงานเป็นแค่ ร.ป.ภ.ธรรมดาที่ภัตตาคารแห่งหนึ่ง แต่เธอก็ภาคภูมิใจในผัวคนนี้เอามากๆ เพราะเขาเป็นคนจริงใจ ขยันขันแข็ง ที่สำคัญไม่ดื่มเหล้า ไม่เจ้าชู้และ…..โคตรอึด 
 
“ อืม…เมื่อไหร่ พี่โมทย์จะกลับมาซักทีนะ ชักเริ่มคันหัวใจขึ้นมาแล้วสิ ” เพียงแค่คิดถึงความอึดของแฟนหนุ่ม ใจของเธอก็เริ่มหวั่นไหวแล้ว 
          
 
      เพื่อเป็นการระบายความรุ่มร้อนในจิตใจ เธอจึงตัดสินใจที่จะอาบน้ำชำระร่างกาย เธอปลดเสื้อออกช้าๆ ทันทีที่เสื้อเทาหลุดจากกาย ก็เผยให้เห็นร่างเพรียวที่ขาวผ่องแบบเต็มสองตา บนทรวงอกอวบใหญ่ประดับประดาด้วยชั้นในสีชมพูที่บางเบา 
          
 
       เจ้าของผิวงาช้างเริ่มปลดเปลื้องอาภรณ์ช่วงล่างอย่างไม่รีบร้อน เมื่อกางเกงขายาวหลุดออกจากกาย ก็ทำให้เรือนร่างที่ได้สัดส่วนปรากฏออกมา แน่นอนว่าจุดขายแรกก็คือความขาวระดับโอโม่ ส่วนจุดขายที่สองก็คือ…..เนินนาแปลงโตอันอวบอูมที่ซ่อนตัวตนอยู่ในอันเดอร์แวร์สีชมพู 
          
 
        ถึงจุดนี้ เจ้าของเรือนร่างสีงาช้างเหลือเพียงชั้นในบางที่ปิดบังกาย เธอจึงหยิบผ้าถุงส้มขึ้นมาคลุม เมื่อขมวดรัดผ้าถุงให้เข้าที่ เธอก็ทำการปลดเปลื้องชั้นในบางทั้งสองชิ้น 
          
 
        ทั้งยกทรงและกางเกงในค่อยๆหลุดออกจากกายหญิงสาวอย่างช้าๆ และเมื่อทุกชิ้นถูกปลดออก หญิงสาวก็เหลือเพียงผ้าถุงบางคลุมกาย  
          
 
        หญิงสาวกอบเศษชิ้นส่วนที่ปลดเปลื้องขึ้นมาไว้ที่วงแขน เธอเตรียมเอามันใส่ตะกร้า แต่ในจังหวะที่กำลังหย่อนอาภรณ์ลงไป เธอก็พลันรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง 
 
“ เอ๊ะ!.....นั่นใครน่ะ ” 
          
 
         หญิงสาวตวาดดัง สายตาเหลือบมองไปรอบๆ เธอรู้สึกเหมือนมีใครบางคนแอบดูเธออยู่ แต่ไม่ว่าเธอส่งสายตาสำรวจไปยังทิศทางใด เธอก็พบเพียง……ความว่างเปล่าเท่านั้น 
 
“ เอ……หรือว่าเราจะคิดมากไปเองนะ ”  
          
 
         หญิงสาวถอนหายใจแรง ก่อนผ่อนคลายอาการเกร็ง จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อชำระล้างร่างกาย 
 
“ ปัง….” 
          
 
         เสียงปิดประตูห้องน้ำดังไปทั่วบริเวณ ด้วยเธอไม่จำเป็นต้องเกรงใจใคร เพราะนี่คือห้องน้ำส่วนตัว หลังจากประตูห้องน้ำปิดไปได้ซักพัก ก็บังเกิดเสียงน้ำไหล ตามมาด้วยเสียงฮัมเพลงอย่างสบายอารมณ์ของหญิงสาว 
 
“ ซู่ๆ……” 
 
“ ลาๆ…ล้าๆ…ลาๆ...ลัลๆ….” 
            
 
         การอาบน้ำดำเนินไปได้ครู่หนึ่ง ประตูห้องพักก็ค่อยๆแง้มเปิด 
 
“ แอ๊ดๆ…..” 
           
 
         เสียงแง้มประตูดังแผ่วเบาและยาวนาน เพราะบานประตูค่อนข้างที่จะฝืด หลังจากประตูเปิดได้ครึ่งบาน ก็ปรากฏกายล่ำสันของหนุ่มหน้ามนคนหนึ่ง หนุ่มคนนั้นก็คือ…..บุญกอบ 
           
 
         ใบหน้าเหลี่ยมของบุญกอบแดงก่ำด้วยฤทธิ์สุราที่เพิ่งเสพ ดวงตาแลดูขวางและแข็งกร้าวราวสัตว์ป่า แน่นอนว่าคนที่ลอบมองหญิงสาวในตอนผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าก็คือเขา และจุดที่แอบมองก็คือรอยแยกเล็กๆตรงขอบหน้าต่าง นับว่าหญิงสาวร่างเล็กนางนี้มีสัมผัสที่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ 
 
“ หึ หึ หึ กำลังอาบน้ำอยู่หรือ ดีจริงๆ ” บุญกอบหัวเราะในลำคอ สายตากร้าวจับจ้องไปที่ประตูห้องน้ำ 
           
 
        เสียงฮัมเพลงยังคงดังอย่างต่อเนื่อง สาวร่างเล็กไม่รู้เลยซักนิดว่ามหันตภัยครั้งใหญ่กำลังมาเยือนเคหสถานของเธอ 
           
 
          บุญกอบย่างเท้าเข้าไปที่ห้องน้ำ เมื่อถึงหน้าประตู เขาก็เอื้อมมือไปเปิดประตูอย่างแผ่วเบา 
 
“ แกร๊ก….” 
            
 
         จากเสียงและสัมผัสที่ได้รับ ทำให้บุญกอบรู้ว่า….ประตูนั้นล็อค และนั่นทำให้หนุ่มอีสานร่างล่ำรู้สึกหัวเสีย 
 
“ ฮึ่ม…แม่งจะมาล็อคทำไมวะ ” 
           
 
         บุญกอบอยากจะกระแทกประตูให้พัง แล้วบุกเข้าไปปลุกปล้ำสาวสวยให้สมใจ แต่เขาก็ยังพอมีสติยั้งคิดอยู่เล็กน้อย เขาจึงปัดความคิดนั้นทิ้งแล้วหันเหความสนใจไปยังสิ่งอื่น และสิ่งที่เขาสนใจในลำดับถัดมาก็คือ……เสื้อผ้าของหญิงสาว 
            
 
        เขาเดินตรงมายังตะกร้าผ้าที่วางตรงมุมห้อง เขาค่อยๆหยิบเสื้อและกางเกงขึ้นเชยชม เขาพบว่ามันชื้นเล็กน้อย อันบ่งบอกได้ว่าสาวนางนี้น่าจะเป็นคนที่มีเหงื่อเยอะ 
 
“ หึ หึ หึ ถ้าเปียกแฉะขนาดนี้ ก็แปลว่าน่าจะหลงเหลือกลิ่นอยู่มิใช่น้อย ” 
            
 
        คิดได้ดังนั้น เขาจึงยกมันขึ้นดอมดม โสตนาสิกแว่วกลิ่นอับที่เหมือนจะหอมนิดๆ  
 
“ อืมๆ…..มีกลิ่นตามคาด ” 
          
 
        บุญกอบดอมดมอยู่ได้ระยะหนึ่ง เขาก็เริ่มรู้สึกร้อนผ่าว และเมื่อมันร้อนถึงจุดทะยานอยาก เขาก็เกิดความคิดใหม่ 
 
“ แค่กลิ่นจากเสื้อและกางเกงยังแรงขนาดนี้ ถ้ากลิ่นจากชั้นในจะแรงขนาดไหน เพราะสองชิ้นนั้นมันแนบชิดกับโฟกัสสำคัญของร่างกาย ” 
            
 
         ด้วยความคิดที่ชั่วช้าลามก ทำให้เขาตัดสินใจที่จะหยิบชั้นในบางสีชมพูขึ้นมาดอมดม 
 
“ ฟื้ดๆ…..อ้าๆ…..กลิ่นสาบสาวนี่มันหอมชื่นใจดีจริงๆ ” บุญกอบสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆจนรูจมูกทั้งสองบานสุดตัว 
           
 
         กลิ่นอับผสมกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วโสตนาสิกของบุญกอบ สิ่งนี้ทำให้อารมณ์ร้อนของหนุ่มอีสานร่างล่ำยิ่งปะทุแรง จนในที่สุดเขาก็เริ่มจะทนไม่ไหว 
 
“ อู้ว….ทนไม่ไหวแล้วโว้ย ขอระเบิดซักทีเถอะวะ ” 
           
 
         สิ้นเสียงคำรามของหนุ่มอีสานร่างล่ำ เขาก็ใช้มือขวาล้วงลงไปหยิบกางเกงในตัวจิ๋วในตะกร้าผ้า ส่วนมือซ้ายยังคงกระชับยกทรงไว้แน่น เพื่อดอมดมอย่างต่อเนื่อง 
           
 
         บุญกอบใช้เวลาไม่นาน ก็หากางเกงในตัวจิ๋วเจอ ดวงตาเเข็งกร้าวจับจ้องไปที่สิ่งนั้นนิ่งด้วยประกายแวววาวราวเห็นขุมทรัพย์ก้อนโต เขามองมันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจทำสิ่งที่ไม่เคยกระทำ 
           
 
         บุญกอบปลดกางเกงออกจากกายและนำกางเกงในผืนบางมาคลุมแก่นกลางกายที่แกร่งเกร็ง จากนั้นก็สาวมันด้วยอุ้งมือ เพื่อบำเรอความสุขให้ตัวเอง 
 
“ อู้วๆ….สุดยอดไปเลย น้องแพรว พี่อยากสนุกกับเธอมานานแล้ว ” บุญกอบพล่ามรำพันเป็นภาษาท้องถิ่น มือขวาก็เร่งระรัวในการรูดท่อนลำอวบใหญ่ เพื่อตะกายให้ถึงสวรรค์ที่ควานหา 
 
“ อ้าๆ….ซีดๆ….ดีจริงๆ น้องแหววของพี่….” 
           
 
         บุญกอบเร่งจังหวะในการรัวอุ้งมือให้เร็วขึ้นเรื่อยๆ ส่วนมือซ้ายก็ประคองชั้นในบางไว้ที่จมูกเพื่อสูดดม สมองจินตนาการไปต่างๆนาๆ ซึ่งก็คงไม่พ้นฉากการเสพสวาทกับสาวแหววด้วยท่วงท่าต่างๆ 
 
“ อ้าๆ…..ซี้ดๆ…..จะไม่ไหวแล้ว จะไม่ไหวแล้ว ” กายของบุญกอบสั่นแรง อุ้งมือขวารัวเร็วจนแทบมองไม่ทัน และเมื่อเรื่องราวดำเนินมาถึงจุดแตกหัก น้ำป่าก็ทะลักออกจากเขื่อน 
 
“ โอ้วๆ…..” บุญกอบอ้าปากครางยาว พร้อมกระตุกกายแรง เพื่อปลดปล่อยความทะยานอยากออกมาให้เต็มเหยียด แน่นอนว่าสายน้ำขาวขุ่นที่พุ่งพ่นออกมาค่อนข้างรุนแรง โชคยังดีที่มีกางเกงในผืนบางห่อหุ้มเอาไว้ มันเลยไม่กระเซ็นออกมามากนัก 
           
 
        บุญกอบเกร็งกาย กระตุกแรงอยู่หลายวาระ ปากก็พล่ามพูดเป็นภาษาพื้นบ้าน 
 
“ ข้อยทนบ่ไหวแล้ว อิแหววสุดจะแซบอีหลีเด้อ…..” 
           
 
         บุญกอบระเบิดความบ้าคลั่งอยู่นับสิบครั้ง พอเลยครั้งที่สิบ เขาก็เริ่มเกร็งกายน้อยลง สุดท้ายก็คลายตัว 
 
“ แฮ่ก…..” 
            
 
         บุญกอบหอบเหนื่อย สายตาเหลือบมองไปที่กางเกงในซึ่งฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำขาวขุ่นด้วยความรู้สึกพึงพอใจ 
 
“ เหอ เหอ เหอ สาแก่ใจดีจริงๆ รู้งี้ ทำอย่างนี้ตั้งนานแล้ว ” 
            
 
         ขณะที่บุญกอบกำลังชื่นชมผลงานของตัวเอง เขาก็ต้องพบกับเสียงกรีดร้องของหญิงสาว 
 
“ กรี๊ด….พี่บุญกอบ พี่กำลังทำอะไรน่ะ ทุเรศที่สุดเลย ” 
         
 
        ถ้าเป็นปกติ บุญกอบคงกลัวลนลานและรีบกล่าวขอโทษขอโพย แต่บุญกอบในเวอร์ชั่นนี้กลับไม่นึกเกรงกลัว มิหนำซ้ำยังหันมาจ้องเจ้าของเสียงด้วยแววตาถมึงทึง ซึ่งเจ้าของเสียงก็ไม่ใช่ใครอื่น นอกเสียจาก….น้องแหวว สาวร่างเล็กทรงโต
 
 
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจJalandoนักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณชอบนิยายเรื่องนี้แค่ไหน

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา