ตลกร้ายใต้สะดือ

9.7

เขียนโดย Jalando

วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 15.03 น.

  45 ตอน
  9 วิจารณ์
  46.22K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 15.17 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

35) พี่ทนไม่ไหวแล้ว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ตอนที่ 35 พี่ทนไม่ไหวแล้ว
       บุญกอบเดินทางมาถึงหน้าห้องน้ำ พร้อมอาวุธร้ายที่ลากโทงเทงมาแต่ไกล ลมหายใจหอบถี่ ใบหน้าเหลี่ยมที่หล่อเหลาแบบภูธรดูแดงก่ำราวตำลึงสุก 
 
“ แฮ่ก……ตื่นเต้นชะมัดเลย ” 
            
 
        หัวใจของบุญกอบเต้นแรงจนแทบหยุดไม่อยู่ และยิ่งเข้าใกล้ห้องน้ำมากขึ้นเท่าไหร่ เสียงสาดน้ำก็ยิ่งทวีความแรงมากขึ้นเท่านั้น  
 
“ หึ หึ หึ แค่ได้ยินเสียงสาดน้ำ ก็รู้แล้วว่าคนข้างในต้องสวยแน่ๆ จะทำยังไงถึงจะแอบส่องความเป็นไปได้ ” 
           
 
        บุญกอบพยายามมองหาช่องว่างตามบานประตู เพื่อจะยลภาพสรวงสวรรค์ที่อยู่ภายใน แต่จนแล้วจนรอด เขาก็หามันไม่เจอ 
 
“ ฮึ่ม….ไม่รู้ว่าไอ้ประตูบานนี้มันจะดีไปถึงไหน ทำไมไม่ผุพังจนมีรูเล็กๆปรากฏขึ้นมาบ้างนะ ไม่สบอารมณ์เอาซะเลย ” 
           
 
         บุญกอบเริ่มหัวเสียที่อะไรๆมันไม่เป็นใจ เขานึกพาลจนโทษทุกอย่างรอบตัว ว่ากันตามตรงคนผิดที่แท้จริงน่าจะเป็นตัวบุญกอบเองซะมากกว่า เพราะเขาคือ….ผู้บุกรุก แต่ไม่ทันที่เขาจะสำนึกผิด เสียงสาดน้ำก็พลันหยุด 
 
“ เอ๊ะ! เสียงสาดน้ำหยุดไปแล้ว ท่าทางคนข้างในจะอาบน้ำเสร็จ ” 
             
 
        บุญกอบรู้สึกลังเลใจเป็นอย่างยิ่ง ใจหนึ่งเขาอยากวิ่งหนีจากตรงนั้น แต่อีกใจหนึ่งเขาอยากรู้ว่าสาวสวยในห้องน้ำนั้นเป็นใคร เพราะดูจากชั้นในที่สาวเจ้าสวมใส่ บอกได้ว่าสาวนางนี้น่าจะทรงดีมิใช่น้อย ทว่าจิตลึกๆกลับนึกแย้ง 
 
“ เอ…..และถ้าคนที่อยู่ในห้องน้ำเป็นหญิงเทียมแก่ๆหรือพวกช้างพังแป้นจากป่าดงดิบล่ะ ” 
           
 
        เมื่อคิดได้ดังนั้น บุญกอบจึงตัดสินใจที่จะหนี เขาย่องมาที่กลางห้อง เพื่อมองหากางเกงของตนเอง แต่ในขณะที่ควานหาอยู่นั้นเอง ประตูห้องน้ำก็พลันเปิดออก 
 
“ แอ๊ดๆ……” 
 
“ เฮ้ย!......ซวยแล้ว ยังหากางเกงไม่เจอเลย นี่กูต้องทนเปลือยท่อนล่างให้สาวพังแป้นมองหรือนี่ ” บุญกอบสะดุ้งโหยง สองมือยกขึ้นปิดความอุจาดโดยอัตโนมัติ 
           
 
       แต่เมื่อบุคคลข้างในก้าวเท้าออกมา ทุกมโนภาพที่ชวนหลอนก็พลันสลาย เพราะคนที่เพิ่งปรากฏตัวก็คือสาวทรงเสน่ห์ผู้มีนามว่า “น้องแหวว” นั่นเอง 
 
“ อ้าว…..นั่นมัน น้องแหววนี่นา…..” บุญกอบร้องเสียงหลง พร้อมจ้องมองหญิงสาวแน่วนิ่ง 
           
 
       เหตุที่ทำให้บุญกอบตาค้างเช่นนั้น เพราะเขาไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้เจอหญิงสาวในเวลานี้ อีกประการสาวสวยร่างเล็กนางนี้กำลังอยู่ในชุดผ้าขนหนูกระโจมอกที่ชวนวาบหวิว ผ้าผืนนั้นมันทั้งแนบเนื้อและบางเบาจนเผยให้เห็นเรือนกายที่ทรงสัดส่วนสมบูรณ์ แถมมันยังสั้นเต่อจนทำให้เขาได้เห็นขาอ่อนขาวเนียนแบบเต็มสองตา 
 
“ เฮือก…..” บุญกอบกลืนน้ำลายลงคอหลายเฮือกใหญ่ สายตาที่จับจ้องสอดส่ายไปทั่วเรือนกายอันเย้ายวน ความร้อนแรงของเจ้าหล่อน ทำให้บุญกอบรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วทั้งใบหน้า แต่ที่ทำร้ายจิตใจบุญกอบมากที่สุด เห็นจะไม่พ้น……ความแข็งเเกร่งที่กึ่งกลางกาย 
 
“ โอ้ว…..เหมือนเราจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งแล้ว ” บุญกอบร่ำร้องอยู่ในใจ เขารู้สึกถึงแก่นกลางกายที่ผุดผงาดขึ้นมาอย่างรุนแรง ความอวบใหญ่ของมันมีมากจนสามารถแทรกผ่านสองมือที่พยายามปกปิด และในทันทีที่อาวุธใหญ่ยาวพุ่งทะลุสองมือของบุญกอบ สาวเจ้าก็กรีดร้องเสียงหลง 
 
“ ว้าย!.....ทำอะไรน่ะ พี่บุญกอบ ทุเรศที่สุดเลย ”  
           
 
       แรกเริ่มบุญกอบตกใจจนเกือบจะวิ่งหนี แต่เมื่อพิจารณาสถานการณ์ดูอีกที เขาก็ยั้งเท้าเอาไว้ 
 
“ เอ๊ะ! เดี๋ยวนะ สังเกตจากน้ำเสียง เหมือนน้องแหววจะรู้สึกเขินอายมากกว่าโกรธเคือง แถมเรายังไม่รู้เลยว่าเรามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ” 
          
 
        เมื่อคิดได้ดังนั้น บุญกอบจึงเริ่มไถ่ถามด้วยน้ำเสียงที่สะท้อนถึงความมึนงง 
 
“ เอ่อ….พี่ก็ไม่ได้ตั้งใจจะมาปรากฏตัวต่อหน้าน้องแหววในสภาพแบบนี้ แต่พี่จำไม่ได้จริงๆว่า…พี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ” 
           
 
         เมื่อได้ฟังน้ำคำที่แสนซื่อของหนุ่มอีสานร่างล่ำ สาวเจ้าก็ถึงกลับหน้าเหลอหลาด้วยความสงสัย 
 
“ พะ…พี่บุญกอบจำเหตุการณ์เมื่อคืนไม่ได้จริงๆน่ะหรือ ” 
 
“ อ้อ…ใช่ พี่จำไม่ได้เลย ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น ” บุญกอบถามต่อ 
            
 
        สาวสวยดูลังเลที่จะบอกความจริง มันเป็นเรื่องน่าอายสำหรับหญิงสาวที่จะบอกว่า…..เมื่อคืนพี่เมามากจนขาดสติ พี่เลยแอบย่องเข้าห้อง เพื่อข่มขืนหนู  
 
“ เอ……เราจะบอกพี่บุญกอบยังไงดีนะ ” 
             
 
        สาวแหววได้แต่ทำท่าครุ่นคิด เธอโยกย้ายกายไปยังตู้เสื้อผ้าขนาดเล็กที่ทำมาจากพลาสติก แต่อนุสติส่วนใหญ่ของบุญกอบกลับไม่คิดคำนึงถึงคำตอบมากนัก เพราะเขาเพ่งความสนใจไปที่เรือนร่างขาวอวบที่อยู่ในชุดผ้าขนหนูกระโจมอกอันแสนวาบหวิวเสียมากกว่า 
 
“ โอ้…..ทำไมถึงได้….ขาวปานนี้ แถมทรวงอกก็ดูเต็มไม้เต็มมือ ดูสิ หายใจแต่ละที ถึงกลับสะท้านขึ้นลงเลย เฮือก…..” 
             
 
         ด้วยเรือนกายที่เซ็กซี่อย่างรุนแรง จึงทำให้แก่นกลางกายของบุญกอบผุดผงาดขึ้นมาอีกระดับ ในตอนนี้มันแข็งเกร็งจนแทบจะระเบิด 
            
 
         แม้สาวเจ้าจะพยายามคิดใคร่ครวญอย่างหนักว่าจะบอกความจริงแก่หนุ่มอีสานร่างล่ำยังไง แต่เธอก็สังเกตเห็นความยิ่งใหญ่ของบุญกอบ เธอยอมรับว่ามันดูน่าสะพรึงกลัวและเร้าอารมณ์อยู่ไม่ใช่น้อย 
 
“ โอ้ว…..อะไรมันจะใหญ่ได้ใจขนาดนั้น แหม…อยากให้มันมุดเข้ามาในตัวของเราจริงๆ ” 
            
 
        ถึงตรงจุดนี้ สาวแหววเริ่มรู้สึกถึงความเปียกแฉะที่อู่สวาทเข้าบ้างแล้ว มันชวนให้เธออยากเอื้อมมือไปลูบคลำ เพื่อบรรเทาความคันที่ซ่อนอยู่ภายใน แต่ด้วยความเป็นหญิงไทยใจงาม เธอจึงข่มความต้งการของตนเอง พร้อมบอกความจริงแก่บุญกอบ 
 
“ เมื่อคืนพี่เมา พี่เลยลอบเข้ามาข่มขืนหนู ” 
 
“ ฮ้า……ไม่จริงน่า ” บุญกอบร้องค้านเสียงหลง หูตาเหลือกลานด้วยความหวาดกลัว     
          
 
         ท่าทางตื่นตกใจของบุญกอบดูจริงจังจนหญิงสาวเกิดความเชื่อถือ เธอจึงกล่าวปลอบประโลมด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน 
 
“ พี่บุญกอบอย่ากลัวไปเลย มันเกิดขึ้น เพราะพี่เมาไม่ได้สติ หนูอภัยให้พี่ ” 
 
“ อะ….เอ่อ ตะ…แต่ว่า ” บุญกอบเริ่มอ้ำอึ้ง ความรู้สึกผิดมากมายเริ่มหลั่งทะลักออกมาจากใจ แต่ไม่ทันที่หนุ่มอีสานร่างล่ำจะพูดจบ สาวเจ้าก็พูดแทรกขึ้นมาโดยเร็ว 
 
“ หนูบอกว่าไม่ต้องกังวลไง หนูให้อภัยพี่จริงๆ คนที่เมาไม่ได้สติ จะไปถือโทษโกรธเขา มันไม่ถูกหรอก ”  
          
 
        สาวเจ้าพูดจบ เธอก็เดินเข้ามาหาบุญกอบ นั่นทำให้บุญกอบถึงกลับยืนตาค้าง เพราะสภาวะการเช่นนี้ มันไม่ต่างอะไรจากท้องฟ้าที่ยอมลดกายลงมาบนแดนดิน เพื่อให้เหล่าต้นหญ้าได้เชยชม 
 
“ เอ่อ…ไม่รู้ว่าน้องแหววคิดจะทำอะไร แต่เป็นแบบนี้ มันก็ดีเหมือนกัน ” บุญกอบรำพึงรำพันในใจ โสตนาสิกแว่วกลิ่นหอมกรุ่นจากกายบางของหญิงสาวอยู่ไม่ขาด 
           
 
         ทุกภาพ ทุกเสียง และทุกสัมผัสจากโสตนาสิกล้วนกระตุ้นเร้าอารมณ์สวาทของหนุ่มอีสานร่างล่ำอย่างมากมายจนเขาอยากจะกระโจนเข้าปลุกปล้ำซะให้รู้แล้วรู้รอด แต่สุดท้ายเขาก็ยั้งใจเอาไว้ได้ทัน 
 
“ ไม่ได้ ไม่ได้ เราจะรุ่มร่ามแบบนั้นไม่ได้ เราต้องเก็บอาการเอาไว้ ” 
            
 
        แม้บุญกอบจะพยายามทำตัวเป็นสุภาพบุรุษ แต่แก่นกลางกายกลับไม่เห็นด้วย มันเอาแต่ผุดผงาดและดันตัวให้ทะลุผ่านอุ้งมือที่ปิดกั้น ความยิ่งใหญ่ของมันดูน่าเกรงขามจนสาวแหววอดไม่ได้ที่จะกล่าวชมเชย 
 
“ ว้าว…..ทำไมของพี่บุญกอบถึงได้อวบใหญ่ขนาดนั้นล่ะ มีของดีแบบนี้ ทำไมต้องปกปิดด้วย เอามือออกเถอะค่ะ ” พูดจบสาวแหววก็เอื้อมมือมาแกะอุ้งมือของบุญกอบ เพื่อปลดปล่อยอาวุธร้ายให้เป็นอิสระ 
 
“ เอ๊ะ! จะทำอะไรน่ะ น้องแหวว ” บุญกอบร้องเสียงหลง แต่เขาก็ไม่ได้แข็งขืนมากนัก ส่งผลให้ท่อนลำอวบใหญ่ได้ผงาดอย่างอิสระ 
          
 
        การกระทำของสาวแหวว ทำให้บุญกอบรู้สึกตื่นตกใจเป็นอันมาก ทว่าสาวสวยยังไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้ วินาทีต่อมาเธอก็เอื้อมมือขวาไปจับที่กลางท่อนลำ พร้อมร้องถามเสียงหวาน 
 
“ ใหญ่เต็มไม้เต็มมือดีจริงๆ มันยังขยายตัวได้อีกมั้ยจ๊ะ ” 
          
 
       ทั้งน้ำเสียง รูปร่าง หน้าตาและท่าทางของหญิงสาว ล้วนกระตุ้นเร้าให้บุญกอบแทบกลายเป็นบ้า และเมื่อดีกรีทางอารมณ์ทะลุจุดอดกลั้น บุญกอบก็เกิดอาการตบะแตก 
 
“ เอาก็เอาวะ ยั่วซะขนาดนี้ มันต้องจัดหนักแล้ว ” 
          
 
       สิ้นความคิด บุญกอบก็พุ่งเข้าไปกอดรัดสาวสวย พร้อมผลักดันให้เธอถอยหลัง  
 
“ ว้าย! พี่บุญกอบ พี่จะทำอะไรหนู ปล่อยหนูเดี๋ยวนี้นะ ” 
           
 
        สาวแหววร้องห้ามเสียงแหลม แต่บุญกอบไม่คิดจะฟังเลยซักนิด เพราะยามนี้จิตของเขาเตลิดไกลจนกู่ไม่กลับแล้ว 
 
“ โครม ” 
           
 
         บังเกิดเสียงดังลั่นไปทั่วบริเวณ เนื่องจากสองหนุ่มสาวพากันล้มคว่ำลงไปบนกลางห้อง เหตุเพราะบุญกอบตรงเข้าไปปลุกปล้ำสาวสวยแบบหน้าด้านๆ
 
 
 สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจJalandoนักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณชอบนิยายเรื่องนี้แค่ไหน

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา