สืบสู้ผี ภาค 1-2

8.7

เขียนโดย Jintanakorn

วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.18 น.

  73 ตอน
  3 วิจารณ์
  53.45K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2562 13.11 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

34) วิญญาณสลับร่าง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     "คงแปลกใจกันมากสินะ..." กุสุมาพูดยิ้มๆ " ว่าอยู่ๆ นังนุชนั่นกลายเป็นเจ้าผีขนดกไปได้ยังไง? "

แล้วไอริณก็หันกลับไปมองที่ร่างของนุชอีกครั้ง ก่อนจะหันกลับมาหากุสุมา

"พี่กุสุมาคะ... พี่หมายความว่า วิญญาณที่อยู่ในร่างของนุชนั่นก็คือวิญญาณของชายที่ชื่อสิงห์งั้นหรือคะ? "

"อะไรนะน้องริณ...?! " ผมแปลกใจกับคำพูดของไอริณ "นี่มัน... นี่มันยังไงกันล่ะเนี่ย? "

ไอริณไม่ตอบคำถามของผม แล้วกุสุมาก็หัวเราะฮิฮิขึ้นมาอีกครั้ง

"ถูกต้องแล้ว น้องคนสวย..." เธอพยักหน้า "ที่เห็นนอนลืมตาปริบๆ อยู่นั่น คือเจ้าผีขนดกจริงๆ ไม่ใช่นังนุชอย่างแน่นอน...! "

คำยืนยันของกุสุมาทำเอาพวกเราทั้งสามถึงกับตะลึงอึ้งกันไปอีกครั้ง!

และเมื่อพวกเราเหลียวกลับไปมองที่ร่างของนุชนั้นกันอีก พวกเราก็เห็นว่า ร่างที่กำลังนอนทำตาปริบๆ อยู่นั้น เหมือนกำลังจะดิ้นรนเพื่อให้ตัวเองขยับลุกขึ้นมาได้ แต่ก็เหมือนมีอะไรบางอย่างสะกดร่างนั้นไว้ไม่ให้เคลื่อนไหว ราวกับมีเชือกที่มองไม่เห็นมัดร่างนั้นไว้กับแท่นศิลา

แล้วผมก็สังเกตุเห็นไอริณขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะถามกุสุมาต่อไป

"พี่คะ... ถ้าในร่างของนุชนั่นเป็นวิญญาณของชายที่ชื่อสิงห์อย่างที่พี่กุสุมาว่า ก็แล้ววิญญาณของนุชเองล่ะคะ ตอนนี้ไปอยู่ที่ไหนกัน...? "

กุสุมาเงยหน้าขึ้นมองไปทางเบื้องบน "ขอย้อนกลับไปในเหตุการณที่หลังบ้านนี้เมื่อสิบปีที่แล้วก่อนนะ หลังจากที่เจ้าผีขนดกนั่นกำลังตระกองกอดร่างของนังนุชที่กำลังจะหมดลมหายใจ เจ้านายของพี่ก็ได้ปรากฏตัวขึ้น และยื่นข้อเสนอบางอย่างให้กับเจ้าผีขนดก ก่อนที่มันเองจะหมดลมหายใจตามนังนุชนั่นไปติดๆ ในข้อเสนอนั่น ทำให้ร่างของนังนุชและร่างของเจ้าผีขนดกได้ถูกนำมาเก็บไว้ที่นี่โดยได้ใช้เตียงศิลาน้ำแข็งดูแลร่างกายของทั้งคู่ไว้อย่างดี และวิญญาณของเจ้าผีขนดกนั่นก็ได้กลายเป็นผู้พิทักษ์ห้องใต้ดินนี้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แต่พี่ว่า ที่จริงแล้วเหมือนกับว่าทั้งร่างและวิญญาณของมันถูกขังอยู่ที่่นี่ โดยที่วิญญาณของมันก็มีอิสระเล็กน้อยในการที่สามารถจะเคลื่อนไหวไปมารอบๆ บริเวณบ้านนี้ได้ มันจะทำตัวเป็นผีไปหลอกใครแถวนี้ก็ได้ แต่มันจะไม่สามารถพูดกับใครได้ เพราะอาคมของเจ้านายพี่ได้สะกดมันไว้ให้อยู่ในความควบคุมตั้งแต่แรกแล้ว"

ผมฟังกุสุมาพูดถึงตรงนี้ก็สะดุดใจขึ้นมาทันที

"อา...! เข้าใจแล้วว่า ทำไมวิญญาณของชายที่ชื่อสิงห์ถึงไม่พูดอะไรออกมาเลยในเวลาที่เขาปรากฏตัวออกมา ที่แท้มันเป็นอย่างนี้นี่เอง..." ผมอดพูดออกมาไม่ได้

กุสุมายิ้มมุมปากอย่างเยาะหยันอะไรบางอย่างก่อนจะเล่าต่อไป

"กว่าที่มันจะรู้ตัวว่าตกเป็นเครื่องมืออันสำคัญของเจ้านายพี่มันก็สายเกินการณ์ เพราะความรักลุ่มหลงในตัวของนังนุชนั่นทำให้มันลืมตัวตนของตัวเองว่ามีความสำคัญต่ออนาคตของเผ่าพันธ์ของตัวเองมากแค่ไหน และมันนั้นก็อาจจะไม่รู้ตัวว่า อาจจะไม่มีวันได้พบกับวิญญาณของนังนุชนั่นอีกด้วยซ้ำไปอ่ะนะ ฮิฮิ"

"ทำไมล่ะคะพี่กุสุมา? " น้ำเสียงของไอริณสงสัยหนักขึ้น "หรือว่าวิญญาณของนุชนั่นไม่ได้อยู่ในที่แห่งนี้...? "

กุสุมาไม่ตอบทันที แต่เดินไปยังแท่นศิลาอันแรกที่มีร่างของชายที่ชื่อสิงห์นอนหลับตาอยู่ แล้วเธอก็ขึ้นไปนั่งบนแท่นศิลานั้น พลางเพ่งพิจน์ดูใบหน้าใต้กระจกใสนั้นอย่างยิ้มๆ

"เจ้าผีหน้าโง่ตัวนี้ ที่จริงหน้าตาของมันไม่เลวเลยนะ ถ้าร่างกายของมันไม่ได้ดูอัปลักษณ์สำหรับคนบนภิภพนี้..."

อารมณ์ของกุสุมาช่างดูแปลกไม่สิ้นสุด บางทีเธอก็ไม่ตอบคำถามออกมาตรงๆ แต่บางทีเธอก็กลับเล่ารายละเอียดออกมาเกือบทั้งหมด อย่างชนิดที่เจ้านายของเธอได้ยินแล้ว อาจจะเดือดดาลขึ้นมาทันทีก็ได้

ไอริณหันมาสบตากับผม ราวกับเธอจะบอกผมว่า เราคงต้องปล่อยให้กุสุมาเล่ารายละเอียดออกมาเองจะดีกว่าที่จะไปจี้ถามเธอกระมัง...?

แล้วกุสุมาก็หันหน้ากลับมาทางพวกเรา

"วิญญาณของนังนุชน่ะ มันอยู่ไกลแสนไกลจากที่นี่ หากแผนการใหญ่ของเจ้านายพี่ไม่ประสบความสำเร็จ ก็ยากที่เจ้าผีขนดกจะได้เจอกับวิญญาณของเธออีก! " เธอบอกเราออกมาด้วยรอยยิ้ม

"เฮ้อ... น่าสงสารเจ้าผีนี่อยู่เหมือนกัน พี่ก็เลยช่วยสงเคราะห์ให้วิญญาณของมันได้ไปนอนกอดอยู่ในร่างของนังนุชนั่นซะเลยยังไงล่ะ... ฮิฮิฮิ"

แล้วเสียงดังกึงๆ ก็ดังออกมาจากทางแท่นศิลาที่มีร่างของนุชนอนอยู่

พวกเราทั้งหมดต่างหันกลับไปมองกันทันที

"อะไรกันน้องริณ... ก็ร่างของนุชนี้ขยับไม่ได้ไม่ใช่เหรอ? " ผมกระซิบถามไอริณ

"นั่นสิพี่กิต... บางทีอาคมของพี่กุสุมาอาจจะอ่อนลง? " ไอริณกระซิบตอบ

กุสุมาลุกขึ้นมาจากแท่นศิลาอันแรก และเดินมายังกลางห้อง สายตาและรอยยิ้มของเธอดูเหมือนจะมีความสะใจอะไรบางอย่าง

"พูดแค่นี้ อารมณ์ขึ้นเลยเหรอเจ้าผีหน้าโง่...! อืม... หรือว่าเมื่อยขบจนอยากจะออกมาเดินด้วยร่างของนังนุชนั่นกันล่ะ... ถ้างั้น น้องทั้งสามหลบไปหน่อยสิ พี่จะถอนอาคมที่ควบคุมร่างของนังนุชนั้นไว้ไม่ให้ขยับตัวได้! "

ผมกับไอริณรีบขยับตัวหลบไปด้านข้าง โดยต้องดึงมือของจันที่ยังยืนงงๆ อย่างตะลึงๆ ตามมาด้วย

กุสุมาท่องคาถาบางอย่างอยู่ชั่วครู่ แล้วเป่าลมไปทางแท่นศิลานั้น

จากนั้นเสียงดังแคร๊กของฝากระจกในแท่นศิลาก็ถูกเปิดออกด้วยมือของนุชอย่างช้าๆ

เมื่อร่างของนุชลุกขึ้นมานั่งแล้ว ร่างนั้นก็หันหน้ามาทางผมกับไอริณ พร้อมๆ กับขยับปากเหมือนจะส่งเสียงพูดออกมา แต่ทว่าก็ไม่มีเสียงใดๆ ดังออกมาจากริมฝีปากคู่บางนั่นเลยแม้แต่น้อยนิด

ไอริณกับผมรีบถลาเข้าไปที่ร่างนั้นทันที

"สิงห์... สิงห์ใช่ไหม...?! " ผมถามออกไปเร็วปรื๋อ

ร่างนั้นพยักหน้าให้ผม และขยับปากส่งเสียงพูดอันไม่มีเสียงออกมาอีกหลายคำ

ผมหันไปมองหน้าไอริณ "เขากำลังพยายามจะพูดอะไรออกมาเหรอน้องริณ...? "

ไอริณมองริมฝีปากที่กำลังพยายามจะพูดอยู่นั้นอย่างตั้งใจ

"ริณกำลังแกะอยู่... เขาพูดว่า... รีบออกไป... จาก... ตรงนี้ ? "

ไอริณหันมามองหน้าผมทันที

"รีบออกไปจากตรงนี้... ใช่ไหมน้องริณ?! " ผมถามเสียงค่อนข้างดังอย่างลืมตัว

"ใช่แล้ว..." กุสุมาส่งเสียงตอบมาซะเอง "เขาพูดอย่างนั้นล่ะ แต่มัน คงสายเกินไป...! "

สิ้นเสียงกุสุมา ประตูลูกกรงเหล็กก็เลื่อนลงมาจากด้านบนกลางเพดานห้องนั้นทันที!

เสียงเคร๊งดังสนั่น เมื่อประตูลูกกรงได้เลื่อนลงมาจนจรดพื้นห้อง และแบ่งห้องให้กลายเป็นห้องสองฝั่งที่มีลูกกรงกั้นอยู่ตรงกลางพอดี

และขณะนี้กลายเป็นว่า เราทั้งสามและชายที่ชื่อสิงห์ที่อยู่ในร่างของกุสุมาได้ถูกขังอยู่ในห้องที่มีลูกกรงเหล็กอันแข็งแรงไปซะแล้ว!

พวกเราทั้งหมดต่างจ้องมองผ่านลูกกรงไปยังกุสุมาที่ยืนอยู่อีกฝั่งหนึ่งของลูกกรง

แต่กุสุมาก็แค่ยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยันมาทางพวกเรา...!

(โปรดติดตามในบทต่อไป เร็วๆ นี้นะครับ)

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา