สืบสู้ผี ภาค 1-2

8.7

เขียนโดย Jintanakorn

วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.18 น.

  73 ตอน
  3 วิจารณ์
  53.46K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2562 13.11 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

35) ถูกขังสองชั้น !

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

"พี่กสุมา... ทำอย่างนี้เพื่ออะไรคะ ?" ไอริณถามออกไป

 

"ก็เพื่อเป็นหลักประกันว่า พวกเธอจะหนีออกไปไม่ได้อย่างไรล่ะ ถูกขังไว้ในใต้ดินสองชั้นอย่างนี้ ค่อยทำให้พี่สบายใจหน่อย..." กุสุมาตอบยิ้มๆ

 

"แต่พวกเราคงไม่สบายกันเท่าไร... แล้วนี่เราก็ยังไม่ได้กินข้าวกันเลยนะ..." ผมพูด

 

"เอาเถอะ..." กุสุมามองหน้าผม "แล้วพี่จะให้บริวารของพี่นำอาหารมาส่งให้ รับรองว่าไม่ปล่อยให้พวกเธออดตาย จนกว่าจะได้พบกับเจ้านายของพี่หรอกน่า..."

 

"ม... แม่จ๋า นี่เราจะต้องมาติดคุกกันอยู่ที่ใต้ดินแบบนี้ โดยที่จะไม่ได้เห็นแสงตะวันกันอีกแล้วใช่ไม๊นี่... แม่จ๋าๆ เราจะทำยังไงกันดีล่ะเนี่ย...?" จันโอดครวญขึ้นมา

 

"ถึงกับเรียกหาแม่เลยเหรอจ๊ะจัน..." ไอริณจับแขนของจันเอาไว้ เมื่อเห็นเขาทำท่าเหมือนจะหมดแรงกองลงไปกับพื้น "ไม่เอาน่า ทำใจดีๆไว้สิจ๊ะ แล้วเราก็จะต้องหาทางออกไปจากที่นี่จนได้ล่ะน่า..."

 

"ผมเรียกหาเมียต่างหากล่ะครับพี่ไอริณ... เวลามีเหตุมีอะไรที่ทำให้ไม่สบายใจ ผมก็นึกถึงเมียไว้ก่อนล่ะครับพี่" จันอธิบาย แล้วก็พยายามตั้งหลักยืนให้ดี

 

แล้วกุสุมาก็ค่อยๆก้าวเข้ามาจนชิดลูกกรง

 

"พี่รับรองให้ว่า พวกเธอจะถูกขังกันอยู่ในนี้ไม่กี่วันหรอก นั่งๆนอนๆรอให้เจ้านายของพี่กลับมาก่อนเถอะนะ แล้วมาลุ้นชะตากรรมกันอีกทีว่าจะเป็นอย่างไร ฮิฮิ"

 

แล้วผมกับไอริณก็ค่อยๆพยุงร่างของนุชลงมาจากแท่นศิลา แม้ว่าผมจะรู้แล้วว่า ภายใต้ร่างของนุชนี้จะคือวิญญาณของชายที่ชื่อสิงห์ แต่ผมก็ไม่กล้าที่จะจับร่างนี้อย่างเต็มไม้เต็มมือสักเท่าไรนัก เพราะจะอย่างไรนี่ก็คือร่างของผู้หญิงคนหนึ่ง

 

"พอจะยืนได้ไหม..." ไอริณถามสิงห์ "ค่อยๆตั้งหลักยืนดีๆนะ ร่างนี้นอนนิ่งๆมานานหลายปี อาจจะไม่ค่อยมีแรงเท่าไร..."

 

สิงห์ในร่างนุชพยักหน้าโดยไม่พูดอะไร เพราะเขาคงจะเข้าใจแล้วว่า ถึงพูดอะไรออกมา เสียงพูดของเขาก็ไม่อาจจะดังออกมาได้ แม้ว่าจะอยู่ในร่างของนุช

 

"เจ้าสิงห์นี่มันไม่ใช่คนธรรมดาหรอกนะ..." กุสุมาว่า "เผ่าพันธ์ของพวกมันเกือบทั้งหมด ล้วนมีความแข็งแรงกว่าคนธรรมดาๆในภิภพนี้ แม้ว่ามันจะอยู่ในร่างของนังนุชนี่ พี่ก็ยังกังวลใจว่าพละกำลังของมันจะแฝงอยู่ในวิญญาณของมันด้วย หากพี่ไม่ควบคุมมันไว้ด้วยอาคม ก็จำเป็นจะต้องขังมันไว้ในกรงแบบนี้ เพื่อความสบายใจของพี่... ฮิฮิ"

 

"ถ้าอย่างนั้น..." ไอริณหันควับไปมองกุสุมา "พี่ก็สามารถถอนอาคม ให้สิงห์มีเสียงพูดได้ด้วยใช่ไหมคะพี่กุสุมา ?"

 

"โอ..." กุสุมาส่ายหน้าช้าๆ "พี่คงจะไม่ทำอย่างนั้นหรอกจ้ะน้องไอริณ ปล่อยให้มันเป็นใบ้อยู่อย่างนี้ล่ะดีแล้ว มันจะได้ไม่ปากเสียพูดอะไรมากมายเกินไป ฮิฮิ"

 

เมื่อสิงห์ในร่างของนุชได้ตั้งหลักยืนด้วยตัวเองอย่างมั่นคงแล้ว ผมก็ได้เห็นว่ารูปร่างของนุชนี้มีความสวยงามสมส่วนมาก เธออยู่ในชุดกระโปรงสีครีมฟ้าที่เข้ารูปกับร่างกายของเธออย่างลงตัว แต่ตรงชุดบริเวณเนินอกด้านซ้ายของเธอนั้นมีรอยขาดเป็นรูเห็นชัด และผมก็มานึกได้ทันทีว่า นี่คงจะเป็นรอยขาดจากการถูกระสุนปืนของไอ้โรจน์เมื่อครั้งที่เธอเอาตัวเข้าไปบังร่างของสิงห์เมื่อในครั้งอดีตนั้น

 

แล้วทันใดนั้น... ร่างของนุชก็ถลาเข้าไปทางกุสุมาที่ยืนอยู่หน้าลูกกรงอย่างรวดเร็ว...!!

 

มือไม้ของสิงห์ในร่างของนุชตอนนี้ ก็คว้ายื่นออกไปนอกลูกกรงราวกับจะจับร่างของกุสุมานั้นให้จงได้ทันที...!

 

แต่กุสุมาก็ไวปานลมกรด เธอได้ถอยห่างจากลูกกรงไปเสียก่อนที่มือคู่นั้นจะคว้าจับได้ทัน...!

 

แล้วเธอห็หัวเราะออกมา ด้วยสีหน้าขบขันซะเต็มประดา

 

เมื่อคว้าจับร่างของกุสุมาไว้ไม่ได้ สิงห์ในร่างของนุชก็จับลูกกรงไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง ราวกับจะดึงซี่ลูกกรงนั้นให้ฉีกแยกออกมาตรงหน้าให้ได้ โดยที่ปากนั้นก็ขยับไปมาราวกับเขากำลังส่งเสียงด่าหรือตะโกนอะไรออกมา แต่มันก็ไม่มีเสียงใดๆดังออกมาให้ได้ยินเลยแม้แต่นิดเดียว !

 

"โอๆ.." กุสุมาทำตาโตจ้องมองสิงห์ในร่างนุช "นี่ฉันคิดผิดหรือเปล่านี่ ที่ใช้อาคมดึงวิญญาณของนายให้ไปอยู่ในร่างนังนุชนี่ ฉันก็อุตส่าห์หวังดีกับนายแล้วนะเจ้าขนดก แต่ดูเหมือนว่า ถ้าฉันเผลอไผลไปหน่อยเดียว ฉันก็คงจะถูกนายเล่นงานเข้าแน่ๆ แหม... เราก็ได้อยู่ที่นี่เป็นเพื่อนคุยเพื่อนกัดกันมาราวสิบปีแล้วนะ ความจริงเราก็น่าจะคุยกันดีๆได้ต่อไปนะพี่ขนดกจ๋าาา... "

 

สิงห์ในร่างนุชยังคงขยับปากตะโกนคำพูดที่ไร้เสียงออกไปอีกหลายคำ แล้วกุสุมาก็ดูเหมือนจะเข้าใจคำพูดของสิงห์นั้นทั้งหมด แต่เธอกลับส่ายหน้าให้กับสิงห์ด้วยรอยยิ้มขันๆ

 

"ตอนนี้นายจะมาห่วงเรื่องนั้น มันก็สายเกินการแล้วล่ะมั้งเจ้าขนดก...?" กุสุมาว่า "เผ่าพันธ์ของนายยังไงก็ต้องทำตามความต้องการของเจ้านายฉันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนนายเองก็เคยถูกพวกพ้องเผ่าพันธ์เดียวกันหักหลังมาก่อน จงปล่อยให้พวกมันได้เผชิญชะตากรรมด้วยตัวเองกันบ้างเถอะนะ..."

 

ผมกับไอริณหันมามองหน้ากันอย่างงงวย เมื่อเราได้ยินคำพูดของกุสุมาที่ได้โต้ตอบกับคำพูดที่ไร้เสียงของสิงห์

 

เพราะจนบัดนี้ เราก็ยังไม่รู้ความต้องการที่แท้จริงของเจ้านายกุสุมาว่าคืออะไรกันแน่...? อีกทั้งคำพูดทั้งหมดที่สิงห์ตะโกนใส่กุสุมานั้น ก็มีแต่เพียงกุสุมาที่เข้าใจผู้เดียว

 

"พี่กิต..." ไอริณพูดกับผมเบาๆ "เราจะเข้าใจเรื่องราวทุกอย่างได้ชัดเจนก็ต่อเมื่อ สิงห์สามารถกลับมาพูดมีเสียงได้เหมือนเดิมเท่านั้นล่ะ..."

 

"อืม... แต่ดูเหมือนว่าแม่กุสุมาคนนี้ จะไม่ยอมถอนอาคมนั่นซะนี่ เออ... แล้วน้องริณน่ะ ไม่สามารถจะถอนอาคมนั่นได้หรอกเหรอ...?"

 

ไอริณส่ายหน้า "อาคมของริณอ่อนกว่าพี่กุสุมามาก เปล่าประโยชน์ที่จะทำอย่างนั้น แต่ถ้าเป็นพี่เมฆ... ถ้าเป็นพี่เมฆอาจจะแก้ได้อยู่นะริณว่า..."

 

"พี่เมฆ...?" ผมนึกถึงเขาทันที "พี่เมฆตอนนี้คงกำลังนอนซมสลบไสลลุกไม่ขึ้นไปแล้วล่ะมั้งน้องริณ...?"

 

"อืม... ช่างน่าเสียดายจริงๆ บางทีถ้ามีปาฏิหารย์บางอย่าง... ?"

 

ไอริณว่าไว้แค่นั้น แล้วเธอก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที

 

"อะไร... มีอะไรเหรอน้องริณ ?!" ผมรีบถาม เมื่อเห็นเธอทำหน้าแปลกๆ

 

"พี่กิต... มีอะไรอีกอย่างหนึ่งได้เข้ามาอยู่ในห้องใต้ดินนี้...?" ไอริณพูดแล้วก็เหลือบมองไปทางมุมเพดานห้องที่อยู่ด้านหลังของกุสุมา

 

เมื่อผมเหลือบตามองตามไอริณขึ้นไป ผมก็ได้เห็นเหมือนมีตัวอะไรสักอย่างเกาะอยู่ตรงนั้น

 

ตัวอะไรสักอย่างที่มันดูน่าเกลียดน่ากลัว....?!!

 

 

(โปรดติดตามในบทต่อไป เร็วๆนี้นะครับ)

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา