The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี

9.7

เขียนโดย Jalando

วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.

  174 LV
  22 วิจารณ์
  141.67K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

131) เริ่มตั้งหลักได้

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เครดิตภาพจาก  https://wallpaperaccess.com

 

      แรงปะทะส่งผลให้เด็กหนุ่มไถลไปกับพื้นอีกสามเมตร จากนั้นร่างเพรียวบางก็แน่นิ่งไปนานสองนานจนน่าเป็นห่วง 

            

 

       งุยโฮปาดเหงื่อที่หลั่งไหลตามใบหน้า เขาดูตกใจและเหนื่อยอ่อน ครู่หนึ่งก็เริ่มเป่าปากระบายลม พร้อมกล่าวกับตัวเองเบาๆ 

 

“ เฮ้อ...... เจ้าหนูคนนี้ร้ายกาจมาก ถึงขนาดทำให้เราต้องงัดท่าไม้ตายออกมาใช้ ”       

            

 

        ในโรงฝึกเต็มไปด้วยบรรยากาศที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นตกใจ นิ่งอึ้งหรือขบขัน ส่วนโอคุยาสุ เขาอมยิ้มและกล่าวเยาะเย้ย

 

“ ไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ไม่ทันไรก็ม่อยกระรอก ฝีมือแค่นี้ ทำเป็นอวดเก่ง หึๆ ” 

             

 

        ทั่วทั้งโรงฝึกมีเพียงอากิเนะเท่านั้นที่ห่วงใยในสวัสดิภาพของมาวิน เธอหันมาถามเทพศาสตรา ท่าทางร้อนรน 

 

“ แย่แล้ว ท่านปู่ เจ้าหน้าลิง เอ๊ะ มาวินจะปลอดภัยมั้ย ” 

            

 

        เทพศาสตรายังคงยิ้มน้อยๆ จากนั้นก็ตอบหลานสาวสุดสวยช้าๆ ท่าทางใจเย็นสุดๆ

 

“ ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าหนูนั่น มันไม่เป็นอะไรหรอก ” 

 

“ เอ๊ะ ใครว่าหลานเป็นห่วง อากิเนะแค่กลัวว่าเจ้านั่นจะกลายเป็นผี แล้วเที่ยวก่อกวน กลั่นแกล้งคนในโรงฝึกต่างหาก เพราะขนาดไม่ตาย ยังบ้าบอได้ขนาดนี้ ” หลานสาวสุดสวยกระชากเสียง คล้ายโมโห ทั้งที่ในใจนึกกังวลในความปลอดภัยของมาวิน

 

“ หึๆ รับรองได้เลยว่าเจ้าหนูนั่นไม่ได้เป็นผีเฝ้าโรงฝึกอย่างที่เจ้าคาดแน่ คอยดูต่อไปเถอะ หลานข้า ” เทพศาสตรายืนยัน พร้อมเอามือลูบเครา ดวงตาแหลมคมจับจ้องไปที่มาวินซึ่งนอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้น 

            

 

        งุยโฮยืนนิ่งอยู่นานจนเริ่มอึดอัด สุดท้ายก็เงยหน้าขึ้นมองเทพศาสตรา เพื่อฟังผลการประลอง แต่จนแล้วจนรอด ชายชราผมขาวก็ยังไม่ประกาศซักที เขาจึงทนไม่ไหวและเป็นฝ่ายเอ่ยถาม

 

“ ท่านอาจารย์ สิ้นสุดการประลองรึยังครับ ” 

            

 

         เทพศาสตรามองมาที่งุยโฮ พร้อมตอบด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบดุจหุ่นยนต์

 

“ การประลองยังไม่จบ ” 

 

“ เอ๊ะ แต่….แต่ว่า….เจ้าเด็กนั่น มันสลบไปแล้วนี่ครับ…..ยังไงกัน! ” งุยโฮร้องค้าน ทว่าเทพศาสตรากลับนิ่งเงียบ 

           

 

        อากัปกิริยาของเทพศาสตรา ทำให้ชายร่างล่ำถึงกับไปไม่เป็น เขาจึงหันไปดูมาวินอีกครั้ง ซึ่งก็นับว่าเป็นโชคดีที่ตัดสินใจแบบนั้น เพราะในจังหวะที่ขยับกาย ก็เห็นเด็กหนุ่มหัวเขียวพุ่งทะยานเข้ามา

 

“ เฮ้ย! ” 

            

 

        สวิงขวาวิ่งเข้ามาแทนคำตอบ เป้าหมายคือ....ขมับซ้าย และในจังหวะที่งุยโฮกำลังจะถูกหมัดเด็ด เขาก็กระโดดถอยหลังโดยพลัน เพื่อหลบการจู่โจมที่ว่องไว 

 

“ ปัทโธ่โว้ย อีกนิดเดียวก็น็อคมันได้แล้ว ตาลุงแกนดัฟต์ไม่น่าไปใบ้ให้เจ้าแรมโบ้รู้ตัวเลย ” มาวินสบถออกมาดังๆด้วยความเสียดาย หลังรู้ว่าสวิงขวานั้นพลาดเป้า 

 

“ เฮ้ย ไม่เป็นอะไรได้….ยังไง กะ….แกโดนท่าไม้ตายของชั้นปะ….ไปเต็มๆเลยไม่ใช่เหรอ ” งุยโฮถึงกับสั่นสะท้านไปทั้งตัว เขาตกตะลึงเอามากๆที่เห็นท่าไม้ตายสุดยอดไม่อาจล้มเด็กหนุ่มหัวเขียวได้ 

            

 

        ทันทีที่มาวินได้ฟังคำของงุยโฮ เด็กหนุ่มก็เหมือนจะยิ้มน้อยๆ พร้อมตอบกลับมาแบบชัดถ้อยชัดคำ 

 

“ ท่าไม้ตายของนายนับว่าน่ากลัวมาก แต่ถ้าไม่เข้าเป้า มันก็ไร้ความหมาย ” 

 

“ ที่นายพูดแบบนี้ หมายความว่าไง ” แม้งุยโฮจะตั้งใจฟัง แต่ก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ด้วยเห็นอยู่เต็มสองตาว่าคลื่นแสงรูปกากบาทพุ่งปะทะกายของเด็กหนุ่ม แล้วจะบอกว่าไม่เข้าเป้าได้ยังไง ทว่ามาวินไม่รีรอให้อีกฝ่ายหาคำตอบได้ เขาวิ่งเข้าไปจู่โจมด้วยหมัดชุดซ้ายขวาที่รวดเร็วดั่งสายฟ้าแลบ 

 

“ เฮ้ย! เดี๋ยวก่อนซิ ” งุยโฮได้แต่ยกสองมือขึ้นปัดป้องเป็นพัลวัน เพราะยังงุนงงกับคำถามที่ไร้คำตอบ

            

 

       ทุกคนที่อยู่ในโรงฝึกถึงกับอึ้งกิมกี่ เพราะการประลองในยกที่สามพลิกไปพลิกมาหลายตลบจนปรับตัวไม่ทัน ไหนจะปริศนาที่ทำให้มาวินรอดพ้นจากท่าไม้ตายของงุยโฮ อันที่จริง มันไม่ใช่แค่หนีรอด แต่เหมือนกับว่าท่าไม้ตายนั้นจะทำอะไรเด็กหนุ่มหัวเขียวไม่ได้เลยด้วยซ้ำ 

             

 

        แม้อากิเนะไม่เข้าใจศาสตร์การต่อสู้ แต่ก็ฉลาดพอจะรู้ว่าท่านปู่เข้าใจเรื่องราวได้แบบทะลุปรุโปร่ง จึงตัดสินใจเอ่ยถาม เพื่อคลายความสงสัย 

 

“ อากิเนะไม่เข้าใจ ทำไมเจ้าหน้า..... เอ๊ะ มาวินถึงไม่เป็นอะไรเลย ทั้งที่โดนท่าไม้ตายของพี่งุยโฮไปเต็มๆ ” 

              

 

         เทพศาสตรามองอากิเนะ สีหน้าของชายชราดูอ่อนโยนลง ก่อนจะตอบกลับด้วยท่าทางที่คล้ายจะพอใจ

 

“ สาเหตุที่ไม่เป็นอะไรเลย เพราะในจังหวะที่คลื่นพลังกำลังจะระเบิด เจ้าหนูนั่นก็ไวพอจะกระโดดหนี มิหนำซ้ำยังมีปฏิกิริยาตอบสนองที่ดีเยี่ยมจนถึงขั้นยกสองแขนขึ้นป้องกันรังสีที่แผ่ออกมา ” 

 

“ อ้อ...... อย่างนี้นี่เอง เจ้าหน้า…เอ๊ะ มาวินก็พอมีฝีมือเหมือนกันนะ ” สีหน้าของอากิเนะดูระรื่น แต่ในใจนึกตำหนิตัวเองที่ชอบเรียกมาวินว่า…..เจ้าหน้าลิงอยู่เรื่อย ก็ทำไงได้ มันติดปากไปซะแล้ว

 

“ ผิดแล้ว เจ้าหนูนี่ไม่ได้พอมีฝีมืออย่างที่หลานว่าหรอก ” เทพศาสตราค้าน อึดใจต่อมา ชายชราก็กล่าวต่อไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นไหวเล็กน้อย 

 

“ แต่เข้าขั้นอัจฉริยะจนหาตัวจับยากเลยต่างหาก ถ้าเป็นเจ้าหนูคนนี้อาจฝึกฝนวิชานั้นสำเร็จก็เป็นได้ ” 

              

 

        สิ้นคำของเทพศาสตรา อากิเนะก็เกิดอาการขนลุกอย่างรุนแรง เพราะตั้งแต่เกิดมา เธอยังไม่เคยเห็นท่านปู่ชมใครมาก่อน นั่นทำให้ต้องหันไปพิจารณามาวินใหม่

 

“ เจ้าหน้าลิง เธอเป็นใครกันแน่นะ ” อากิเนะนิ่งคิดในใจ สายตาจับจ้องไปที่การต่อสู้เบื้องหน้า 

            

 

         มาวินรุกไล่ด้วยการจู่โจมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นหมัดสั้น หมัดยาว หมัดแย็บ หมัดครอส หมัดฮุค หมัดอัปเปอร์คัต แต่ไม่ว่าปล่อยอาวุธใดออกมา งุยโฮก็ยกสองแขนขึ้นปัดป้องได้ทุกคราว นั่นทำให้เด็กหนุ่มเริ่มหงุดหงิด 

 

“ บ้าชะมัด ทำไมถึงไวขนาดนี้ กันเก่งนักใช่มั้ย งั้นเจอนี่ ” 

             

 

        มาวินพูดจบ ก็เตะต่ำไปที่ขา การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน ทำให้งุยโฮตั้งตัวไม่ทันและโดนดอกนี้เข้าไปเต็มๆจนกายล่ำสันเซเล็กน้อย

 

“ ได้การล่ะ ” มาวินยิ้มในใจ ก่อนระดมเตะต่ำทั้งซ้ายขวาแบบรัวๆ 

           

 

        ทว่างุยโฮก็เริ่มตั้งหลักได้ เขายกเเข้งซ้ายขวาขึ้นกันเพลงเตะต่ำที่รัวเร็ว แม้มาวินจะเปลี่ยนไปเตะกลางลำตัวหรือเตะสูง ชายร่างล่ำก็ยังคงยกขาและแขนขึ้นปัดป้องได้ทุกจังหวะ บ่งบอกถึงพื้นฐานการต่อสู้ที่แน่นปึก 

 

“ หน็อย...... กันเก่งจริงโว้ย มันยังไม่จบแค่นี้หรอกเฟ้ย ” มาวินตวาดดัง พร้อมกระโดดหมุนตัวถีบสุดแรง  

 

“ เปรี้ยง ” 

            

 

         เสียงลูกถีบมหากาฬดังสนั่นไปทั่วโรงฝึก แน่นอนว่างุยโฮยังไวพอจะยกสองแขนขึ้นมากัน แต่ด้วยความรุนแรงของเพลงเท้า ทำให้ชายร่างล่ำถอยหลังไปถึงสามก้าว

 

“ แฮ่กๆ เจ้าบ้านี่ฝีมือดีชะมัด ขนาดเราโจมตีหนัก ยังเอามันไม่ลงเลย  ” มาวินหอบจนตัวโยน ปากก็บ่นพึมพำด้วยความเซ็ง 

            

 

         ระหว่างที่มาวินเริ่มท้อแท้ งุยโอก็หลุดพ้นจากอาการช็อก ประกายตากลับมาสดใสดังเดิม มือทั้งสองกระชับมีดสั้นอันทำมาจากไม้ แล้วเริ่มควงไปมา ปากก็กล่าวกับเด็กหนุ่มหัวเขียวด้วยน้ำเสียงที่แน่วแน่และมั่นคง 

 

“ จริงอยู่ที่ท่าไม้ตายเมื่อครู่นี้พลาดเป้า แต่ข้าจะใช้มันอีกครั้งและทุ่มกำลังเข้าไปสุดตัว เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดอีกต่อไป เจ้าหนู เตรียมรับมือได้เลย ดูซิว่ายังจะรอดอีกมั้ย ” 

             

 

       ทันทีที่มาวินได้ฟังประกาศิต ใบหน้าเรียวเล็กก็เริ่มซีดเผือด ริมฝีปากที่เคยแย้มยิ้มอย่างมั่นใจก็แปรเปลี่ยนเป็นยิ้มแหยๆที่ชวนหดหู่ 

 

“ ซวยล่ะซิ ตอนแรกกะจะอัดหนักๆให้ร่วงแบบไม่ทันตั้งตัว แต่ไม่สำเร็จ ตอนนี้มันกำลังจะใช้ท่าไม้ตายนั่นอีกครั้ง ไม่มั่นใจว่าจะรอดเลย ที่หลบได้ครั้งที่แล้ว น่าจะฟลุ๊คมากกว่า ให้หลบอีกที เห็นจะไม่ไหว เหอ เหอ เหอ ”

 

 

สามารถติดตามงานเขียน  ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดารค์ไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ

https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา