The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี

9.7

เขียนโดย Jalando

วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.

  174 LV
  22 วิจารณ์
  142.10K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

133) คู่ต่อสู้คนสุดท้าย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก

เครดิตภาพจาก  https://unsplash.com
 
      สีหน้าของเทพศาสตราดูสงบจนยากจะหยั่งถึง เวลาต่อมา ชายชราก็เอ่ยถาม 
 
“ กระบวนท่าพันเข็มทิ่มแทงเป็นหนึ่งในเพลงดาบเทพศาสตรา ซึ่งข้าเป็นคนบัญญัติขึ้น นั่นก็แปลว่านักดาบที่เจ้าเลียนแบบคือหนึ่งในลูกศิษย์ของข้า ใช่หรือไม่ ” 
             
 
       ทันทีที่ได้ยินคำถาม มาวินก็ขมวดคิ้วนิ่วหน้า เพราะเท่าที่อยู่ร่วมกับโจจี้มาสองอาทิตย์ เขาไม่เคยได้ยินหนุ่มผมทองพูดถึงดินแดนแห่งนี้เลย จึงกล่าวปฏิเสธ
 
“ ไม่น่าใช่ พี่ชายผมทองไม่เคยเล่าเรื่องที่เกี่ยวกับลุงแกนดัล์ฟเลย ชั้นว่ามันน่าจะไปฝึกกระบวนท่านี้มาจากคนอื่นมากกว่า ” 
            
 
       ทั้งเทพศาสตราและมาวินต่างนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ดูเหมือนทั้งสองจะมีสิ่งที่ต้องขบคิด แต่สุดท้าย ก็เป็นฝ่ายเด็กหนุ่มที่กล่าวตัดบท 
 
“ เอาล่ะ ลุงแกนดัล์ฟจะเอายังไงต่อ ชั้นว่าลุงน่าจะส่งคู่ต่อสู้คนสุดท้ายออกมาได้แล้ว ” 
 
“ อืม….. แล้วเจ้าล่ะ พร้อมรึยัง ท่าทางจะเสียกำลังไปกับการต่อสู้กับงุยโฮพอสมควร ” ชายชราผมขาวถามกลับด้วยสีหน้าที่ดูตายด้าน 
 
“ พร้อมซะยิ่งกว่าพร้อมอีก ส่งคู่ต่อสู้คนสุดท้ายออกมาได้แล้ว ชั้นจะได้เตะมันให้ไส้ไหล ” มาวินบิดกายไปมา เพื่อคลายความเมื่อยขบ ปากก็กล่าวข่มขวัญด้วยท่าทางที่ดูตลก 
            
 
        มุมปากของเทพศาสตราเชิดขึ้นเล็กน้อย คล้ายจะยิ้ม จากนั้นชายชราก็ประกาศนามคู่ประลองคนสุดท้าย 
 
“ โอคุยาสุ ศิษย์เอกของข้า เตรียมเข้าลานประลองได้ ”
       
 
       สิ้นคำประกาศ ก็เกิดเสียงฮือฮาในหมู่ลูกศิษย์ เพราะในดินแดนแห่งนี้ โอคุยาสุถูกจัดให้เป็นยอดนักดาบอันดับสอง เป็นรองเพียงเทพศาสตราเท่านั้น  
              
 
       โอคุยาสุลุกขึ้นยืน บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มเย็นๆที่ออกไปในทางสะใจ เพราะอยากกระทืบเด็กหนุ่มเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อได้รับไฟเขียวจากเทพศาสตรา มีหรือที่เขาจะปฏิเสธ 
             
 
        พออากิเนะรู้ว่าใครคือคู่ต่อสู้คนต่อไป เธอก็ตื่นตระหนกและหันกลับมาถามท่านปู่ 
 
“ ท่านปู่ให้พี่โอคุยาสุออกไปสู้แบบนี้ มันไม่หนักไปหน่อยเหรอคะ ” 
 
“ ไม่เลย เพราะเจ้าหนูนั่นหวังจะไปสู้กับอสูรร้าย “ซวงเย่” ซึ่งร้ายกาจกว่าโอคุยาสุหลายขั้น ดังนั้นถ้ายังผ่านศิษย์เอกของข้าไม่ได้ ก็ควรล้มเลิกความตั้งใจ ” เทพศาสตราตอบกลับอย่างเลือดเย็น แววตาพลันแข็งกร้าวชั่วขณะ 
 
“ อืม…. มันก็ถูกของท่านปู่นะ ตะ….แต่ว่า….” อากิเนะจับจ้องไปที่มาวิน ดวงตาแฝงแววห่วงใย 
            
 
        เมื่อโอคุยาสุก้าวเข้าสู่ลานประลอง มาวินก็ยิ้มให้หนุ่มรุ่นพี่เล็กน้อย พร้อมกล่าวทักทายเสียงใส 
 
“ ไง พี่ชายหน้าขาว นายเป็นคนสุดท้ายที่ออกมาให้ชั้นเชือดเหรอ ” 
            
 
        โอคุยาสุยิ้มตอบ พร้อมตอกกลับอย่างดุเดือด
 
“ อีกไม่กี่อึดใจ นายก็จะรู้ว่า….ใครเป็นฝ่ายถูกเชือด ” 
 
“ ปากเก่งจริงๆ ขอดูหน่อยซิว่าฝีไม้ลายมือจะเก่งตามปากมั้ย ” มาวินแยกเขี้ยวให้ ภายในใจนึกเหม็นขี้หน้าหน้าหล่อผู้นี้อย่างรุนแรง ซึ่งก็คงไม่แตกต่างจากโอคุยาสุ แต่ไม่ทันที่ทั้งสองจะได้ประคารม เสียงประกาศของเทพศาสตราก็ดังขึ้น 
 
“ เริ่มการประลองยกที่สี่ ” 
            
 
        โอคุยาสุหยิบดาบไม้เล่มหนึ่งขึ้นมา ท่าทางสุขุมสมกับเป็นจอมดาบอันดับสองของดินแดน ส่วนมาวิน เขาเริ่มเต้นยึกยักคล้ายฟุตเวิร์คของมวยสากล มือทั้งสองกระชับดาบไม้ไว้ข้างละเล่ม 
           
 
        ใบหน้าขาวนวลราวสตรีเพศของโอคุยาสุดูสงบนิ่ง ส่วนมาวินยังคงยิ้มเย้ย ครู่หนึ่ง ดวงตาของเด็กหนุ่มหัวเขียวก็พลันเบิกโพลง
 
“ รับมือ พี่ชายหน้าขาว ” 
          
 
       สิ้นคำกล่าว มาวินก็เป็นฝ่ายกระโจนเข้าใส่ ดาบสองมือถูกทิ่มแทงออกมาอย่างรวดเร็วจนดูเหมือนพายุร้ายที่สาดใส่ศัตรูอย่างดุดัน 
            
 
        แม้กระบวนท่าของมาวินจะดุเดือด แต่สีหน้าของโอคุยาสุยังคงสงบนิ่ง และในจังหวะที่พายุดาบเคลื่อนถึงกาย ชายหนุ่มก็สะบัดศาสตราในมือไปหนึ่งที เพื่อปัดป้องการโจมตีที่กระหน่ำเข้ามา 
 
“ เปรี้ยง ” 
             
 
         เสียงดาบไม้ปะทะกันดังสนั่นลั่นโรงฝึก ความแรงในการปัดป้องมีมากจนถึงขั้นทำให้มาวินถอยหลังไปถึง 10 ก้าว ส่วนดาบไม้ในมือหลุดหายไปไหนก็ไม่รู้ 
 
“ พลั๊ก ” 
 
“ อั้ก ” 
       
 
        มาวินล้มลงบนพื้น แต่ก็รีบยันกายลุกขึ้นนั่ง เขารู้สึกว่าโลกกำลังหมุนวนไปมา
 
“ อู้ย….นี่มันอะไรกัน ทำไมพลังในการฟาดดาบถึงได้รุนแรงขนาดนี้ มันหนักหน่วงซะจนทำให้ท่าพันเข็มทิ่มแทงเวอร์ชั่นดาบคู่ของเราย่อยยับในทีเดียว ” มาวินสะบัดศีรษะไปมา เพื่อคลายอาการมึนงง พร้อมบ่นพึมพำเบาๆ 
            
 
        ทันทีที่โอคุยาสุได้ยินน้ำคำของเด็กหนุ่ม เขาก็ยิ้มเหี้ยมๆ พร้อมตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าว 
 
“ เนี่ยน่ะเหรอ พันเข็มทิ่มแทง จะบอกให้นะ ท่าที่นายใช้ มันไร้พลังอย่างที่ควรจะเป็น สุดท้ายก็เป็นแค่การแทงดาบรัวๆด้วยสองมือเท่านั้นเอง ถ้างุยโฮไม่มัวแต่ตกใจ เขาก็รับมือได้อย่างสบาย ” 
 
“ ฮึ่ม.... ” มาวินรู้สึกโกรธจัดจนกัดฟันกรอดใหญ่ เขาอยากตะโกนบอกหนุ่มหล่อว่า…."ชั้นจะใช้กระบวนท่านี้ได้ยังไง ชั้นก็แค่ครูพักลักจำมาเท่านั้นเอง ไม่เคยได้ฝึกเป็นจริงเป็นจังเลย" ทว่าเขาก็ไม่ได้โต้ตอบ แต่เปลี่ยนเป็นตะโกนก้อง พร้อมพุ่งเข้าใส่โอคุยาสุสุดกำลัง
 
“ หน็อย….. อย่างนี้ ต้องเจอกระบวนหมัด ” 
            
 
        หมัดขวาสลับซ้ายของมาวินหวดใส่โอคุยาสุอย่างรวดเร็ว แต่ทุกดอกล้วนกระทบกับความว่างเปล่า เพราะก่อนที่กำปั้นจะสัมผัสกาย หนุ่มหล่อก็พลิ้วหลบได้ทุกที 
 
“ ย่ะ ย่ะ ย่ะ ” มาวินร้องตะโกน พร้อมรุกไล่อย่างต่อเนื่อง ส่วนทางด้านโอคุยาสุ เขาเพียงแต่หลบหลีกสลับถอยหนีจนแผ่นหลังกระทบกับกำแพง เด็กหนุ่มจึงยิ้มเหี้ยมๆ แล้วปลดปล่อยท่าไม้ตายออกมา 
 
“ แกถอยจนติดกำแพงแล้ว ดีล่ะ พยุหะกรงเล็บแมวป่า ” 
            
 
       กรงเล็บนับสิบพุ่งเข้าใส่โอคุยาสุ มันรวดเร็วจนมองตามไม่ทัน แต่ชายหนุ่มกลับทำในสิ่งที่ชวนให้ทุกคนประหลาดใจ เขาโยกหลบทุกฝ่ามือ โดยที่สองขาไม่ได้ขยับจากจุดที่ยืน 
 
“ เฮ้ย! นี่มัน…” มาวินอุทานดังด้วยความตกใจ และในฝ่ามือสุดท้ายที่กระแทกใส่ โอคุยาสุก็พลิกหลบได้อย่างง่ายดาย พร้อมฉากออกมายืนอยู่ด้านหลังของเด็กหนุ่ม 
 
“ ไอ้หมอนี่…” มาวินสบถ เขารีบหันกลับไปสู้ต่อ แต่ในจังหวะเอี้ยวตัว ดาบไม้ในมือของโอคุยาสุก็ทิ่มเข้ามา มันเสยไปที่ใบหน้าของเด็กหนุ่ม 
 
“ พลั๊ก ” 
 
“ อุ้ก ” มาวินเซไปติดกำแพง พอเด็กหนุ่มรู้สึกตัว ก็เริ่มตั้งการ์ด เพื่อเตรียมสู้ต่อ ในตอนนี้ เขาพบว่าตนได้มาอยู่ในมุมอับที่ไร้ทางถอย อันเป็นสถานการณ์เดียวกับที่โอคุยาสุเคยเผชิญ
 
“ อย่าบอกนะว่านั่นคือท่าเด็ดของนาย มันช่างอ่านทางได้ง่ายดายเสียเหลือเกิน ” โอคุยาสุเยาะเย้ยอีกคำรบ  
           
 
        มาวินจนด้วยเกล้า เพราะพยุหะกรงเล็บแมวป่าที่ปล่อยออกมานั้นค่อนข้างสมบูรณ์แบบ แต่การเคลื่อนไหวกับการอ่านทางของโอคุยาสุนั้นเหนือชั้นกว่า เลยทำให้กระบวนท่าเด็ดไม่อาจกระทบถูก
 
“ อืม…..เอาไงดีนะ ตอนนี้เราติดอยู่ที่มุมซะด้วย เสียเปรียบสุดๆ ” มาวินรู้สึกเครียดและกดดันจนเหงื่อชุ่มไปทั่วกาย 
            
 
        ท่าทางตึงเครียดของมาวินย่อมหนีไม่พ้นสายตาของโอคุยาสุ หนุ่มหล่อหน้ามนจึงแย้มยิ้มออกมา พร้อมทำสิ่งที่เหลือเชื่ออีกครั้ง ด้วยการเดินกลับไปที่กลางลานประลอง จากนั้นก็กวักมือเรียกเด็กหนุ่ม
 
“ มาสู้กันต่อซิ เข้ามาได้เลย นายจะได้รู้ซึ้งถึงคำว่า.....ความสามารถที่แท้จริง ”  
 
“ ฮ่าๆ สงสัยมันจะกลัวจนไม่กล้าสู้ต่อแล้วมั้ง อาจารย์โอคุยาสุ ” ลูกศิษย์บางคนโห่ร้องออกมา ทำให้หลายคนหัวเราะไปตามๆกัน
 
“ อุ้บ….. คิก….. ฮ่า ฮ่า ฮ่า ” 
             
 
       การดูหมิ่นดังกล่าว ทำให้มาวินหัวเสียสุดขีด แม้เขาจะไม่ใช่คนกล้าหาญนัก แต่ถ้าโดนเหยียดหยามขึ้นมาคราใด เป็นอันต้องรู้สึกห้าวทุกที
 
“ หน็อย…..อย่าบังอาจมาดูถูกชั้น ”
 
 
สามารถติดตามงานเขียน  ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดารค์ไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา