The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี

9.7

เขียนโดย Jalando

วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.

  174 LV
  22 วิจารณ์
  142.15K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

144) การตัดสินใจของเด็กสาว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เครดิตภาพจาก  https://wallhere.com

 

…………………..

          

       ณ.ลานกว้างแห่งดินแดนลี้ลับ ที่แห่งนี้มีอาณาเขตประมาณครึ่งสนามฟุตบอล รอบข้างแวดล้อมไปด้วยบ้านไม้สไตค์ญี่ปุ่น เดิมทีถูกใช้เป็นสถานที่ประชุม หรือไม่ก็เป็นจุดรวมตัวในเวลาที่เกิดปัญหา

            

 

      ผู้คนกว่าร้อยชีวิตยืนจับกลุ่มที่กลางลานกว้าง มีทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้หญิงและคนชรา สีหน้าของพวกเขาฉายแววกลัดกลุ้ม 

            

 

       ขณะที่ทุกคนมัวแต่ไถ่ถามกันเองจนเกิดเสียงจอแจ ก็ปรากฏชายหนุ่มร่างล่ำสันคนหนึ่ง เขาประกาศให้หมู่สมาชิกได้ยินด้วยเสียงอันดัง 

 

“ ทุกคนจงอยู่ในความสงบ ข้า งุยโฮ ผู้เป็นศิษย์อันดับสอง ขอยืนยันว่า....เทพศาสตราสามารถหยุดความวุ่นวายที่กำลังเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน ” 

          

 

      แม้งุยโฮจะมีบุคลิกที่เหี้ยมหาญ น่าเชื่อถือ แต่ก็ไม่อาจสยบความวุ่นวาย เนื่องจากทุกคนได้ยินเสียงระเบิดกัมปนาทที่ดังกึกก้องเป็นระยะ อันบ่งบอกถึงการต่อสู้ที่รุนแรง 

 

“ เจ้าแน่ใจหรือว่า….เทพศาสตราจะหยุดภัยร้ายได้ แล้วทำไมท่านถึงไม่ออกมายืนยันด้วยตัวเองล่ะ ” ชายร่างใหญ่ล่ำสัน คล้ายชนชั้นกรรมกร ถามกลับเสียงดัง

 

“ อะ…เอ่อ ตอนนี้ท่านเทพศาสตรากำลังรับมือสิ่งนั้นอยู่ เลยไม่อาจปลีกตัวมาตอบ ” งุยโฮตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้ เพราะถึงจะศรัทธาเทพศาสตราเพียงใด ก็ไม่มั่นใจว่าอาจารย์ที่เคารพรักจะหยุดปีศาจร้ายตนนั้นได้

 

“ แล้วท่านโอคุยาสุอยู่ที่ไหนล่ะ ช่วยพาท่านออกมายืนยันอีกคนซิ พวกเราจะได้รู้สึกปลอดภัย ” ห้าสาวสวยในชุดกิมิโนเป็นฝ่ายเอ่ยถาม ดูจากสภาพของพวกหล่อน ถ้าไม่ใช่แม่ยก ก็ต้องเป็นแฟนคลับตัวยงของพ่อหนุ่มหน้าขาว

 

“ อะ….เอ่อ ท่านอาจารย์น้อยเองก็กำลังต่อสู้กับภัยร้ายเช่นกัน ” งุยโฮตอบตะกุกตะกัก เขาไม่รู้จะทำอย่างไร สถานการณ์เลวร้ายเข้าไปทุกที

       

 

        ขณะที่ทุกคนกำลังถกเถียง ก็เกิดแสงสีขาวขนาดเท่าตัวปรากฏตรงจุดที่อยู่ไม่ห่าง 

 

“ เอ๊ะ! นั่นมัน…..เวทเคลื่อนย้ายนี่นา ” หลายคนที่เชี่ยวชาญเวทมนตร์ เอ่ยทักพร้อมกัน สีหน้าตื่นตะลึง 

          

 

        แสงสีขาวสว่างได้ไม่นาน มันก็จางลงและดับไป หลังจากนั้น ก็ปรากฏกายของหนุ่มสาวคู่หนึ่ง พวกเขาคือ….อากิเนะและโอคุยาสุ 

         

 

       ทันทีที่กลุ่มคนเห็นว่าบุคคลที่โผล่มาคือใคร พวกเขาก็อุทานดัง โดยเฉพาะบรรดาแฟนคลับสาวๆ ถึงกับกรูกันเข้ามาแย่งประคองร่างโชกเลือดและอ่อนเปลี้ยของโอคุยาสุ ปากก็ร้องถามเสียงหลง 

 

“ ใครเป็นคนทำร้ายท่านโอคุยาสุ ทำไมถึงได้มีสภาพแบบนี้ ” 

 

“ พี่งุยโฮ ทุกคนเป็นยังไงบ้าง ” อากิเนะเดินเข้ามาถาม ท่าทางจริงจัง ผิดจากบุคลิกที่ผ่านมา 

 

“ เอ่อ….ทุกคนดูแตกตื่นขอรับ น้องหญิง ” งุยโฮพูดจบ ก็ทำท่าจะกล่าวบางอย่าง ซึ่งอากิเนะดูออกว่าหนุ่มรุ่นพี่ต้องการสื่ออะไร จึงตอบกลับทันควัน

 

“ พี่โอคุยาสุสู้ไม่ได้ ตอนนี้ท่านปู่กำลังรับมืออยู่ ”  

 

“ อืม…” งุยโฮรับคำสั้นๆ เขาดูกังวล ด้วยรู้ซึ้งถึงพลังที่เกินจินตนาการของมาวิน เพราะเขาเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่เพิ่งถูกปีศาจตัวนั้นอัดมา สิ่งเดียวที่ทำได้ก็คือ……ฝากความหวังไว้กับเทพศาสตรา ผู้เป็นอาจารย์ 

             

 

        ระหว่างที่ทั้งสองกำลังสนทนากัน โอคุยาสุก็ฝ่าวงล้อมสาวๆออกมา เพื่อขอร้องอากิเนะด้วยน้ำเสียงที่อ่อนล้า 

 

“ น้องหญิง ช่วยใช้เวทรักษาให้ที พี่จะได้กลับไปช่วยท่านอาจารย์ต่อสู้ ” 

         

 

        อากิเนะเหลือบมองโอคุยาสุที่โทรมไปทั้งตัว อาการของเขาหนักเกินกว่าจะกลับไปสู้ต่อ เด็กสาวจึงถอนหายใจเบาๆ แล้วตอบปฏิเสธ 

 

“ เฮ้อ….เวทมนตร์ของอากิเนะรักษาได้แต่บาดแผลบนร่างกาย แต่กล้ามเนื้อภายในยังคงบอบช้ำอยู่ อีกประการ พี่หมดทั้งพลังกายและพลังวิญญาณ จะเอาอะไรไปสู้กับ…..เอ่อ มาวิน ” อากิเนะพูดถึงตรงนี้ เธอก็ดูสลดลงถนัดตา ด้วยเด็กหนุ่มจอมแก่นได้กลายเป็นตัวอะไรไปแล้วก็ไม่รู้ 

         

 

        โอคุยาสุนิ่งอยู่อึดใจ เขารู้ดีว่าตนเองไม่เหลืออะไร การไปฝืนสู้กับปีศาจที่ทรงพลังขนาดนั้น เท่ากับการฆ่าตัวตายชัดๆ แต่จะให้ชายชาตินักรบถอยหนีไปแบบนี้  ยิ่งทำให้รู้สึกอดสู จึงกัดฟันกรอดใหญ่และตอบกลับอย่างเด็ดเดี่ยว 

 

“ ไม่เป็นไร ถึงพี่ไม่เหลืออะไร ก็จะสู้ แม้โจมตีมันไม่ได้ ขอเป็นโล่ให้ท่านอาจารย์ก็ยังดี ” 

         

 

        อากิเนะมองหน้าของโอคุยาสุ ในที่สุด เธอก็ถอนหายใจเบาๆ พร้อมส่ายหัวไปมา ท่าทางระอา

 

“ ห้ามพี่ไม่ได้แน่ๆ ถ้างั้นอากิเนะคงต้องตามใจแล้วล่ะนะ ” 

 

“ อืม…ขอบใจเจ้ามากที่รับฟังข้า น้องหญิง ” โอคุยาสุยิ้มมุมปาก ดวงตาเปล่งประกายมุ่งมั่นจนน่ากลัว 

        

 

        อากิเนะยกฝ่ามือเรียวและขาวผ่องขึ้นมาตรงหน้าของโอคุยาสุ พร้อมร่ายคาถา 

 

“ ข้าแต่เทพแห่งนิทรา จงกล่อมเกลาให้สายน้ำหยุดไหล สายลมหยุดพัด กาลเวลาหยุดนิ่ง….” 

 

“ เอ๊ะ! นี่มันไม่ใช่คาถาฟื้นพลังนี่นา น้องหญิง ” คิ้วของโอคุยาสุขมวดนิ่ว เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังจะโดนหลอก แต่ไม่ทันได้ทำอะไร อากิเนะก็ร่ายคาถาบทสุดท้าย 

 

“ นิทราเถิด ” 

          

 

        สิ้นเสียงของอากิเนะ แสงสีเขียวอ่อนจากมือบางก็พุ่งใส่ใบหน้าของโอคุยาสุ เมื่อหนุ่มหล่อโดนเวทนั้น เขาก็ทรุดฮวบลงไปนอนแน่นิ่งกับพื้น 

 

“ ท่านอาจารย์น้อย เป็นอะไรไปแล้ว ” งุยโฮรุดรีบรุดเข้ามาประคอง พร้อมกับแม่ยกอีกสี่ห้านาง 

 

“ กรี๊ด...... ท่านโอคุยาสุอย่าเป็นอะไรนะ ” 

         

 

        อากิเนะมองความโกลาหลเบื้องหน้าด้วยสีหน้าราบเรียบ ครู่หนึ่ง เธอก็กล่าวกับงุยโฮที่กำลังดูอาการของโอคุยาสุ

 

“ พี่โอคุยาสุแค่หลับไป อีกสามชั่วโมง ก็คงจะตื่น ฝากพี่งุยโฮดูแลที่นี่ด้วยนะคะ ” 

        

 

        งุยโฮรู้สึกโล่งอกที่โอคุยาสุแค่หลับไป แต่เมื่อได้ยินประโยคที่ว่า “ฝากดูแล” เขาก็นึกสงสัย แล้วเงยหน้าขึ้นไถ่ถาม

 

“ แล้วน้องหญิงจะไปไหน ทำไมถึงพูดแบบนั้น ” 

       

 

        อากิเนะแย้มยิ้มออกมา ท่าทางของเธอดูสดใสราวกับเด็กน้อย ปากก็ตอบเสียงระรื่น คล้ายไร้เรื่องราวอันใด 

 

“ อากิเนะจะไปหาท่านปู่ค่ะ ” 

 

“ บ้าน่า น้องหญิงอย่าไปเลย มันอันตรายมาก อยู่ที่นี่แหละ ขนาดท่านอาจารย์น้อยกับพวกข้าที่เป็นยอดนักสู้ยังเอาเจ้าปีศาจนั่นไม่อยู่เลย ” งุยโฮร้องห้ามเสียงหลง ใบหน้าคมเข้มดูซีดเซียวลงอย่างเห็นได้ชัด 

 

“ นั่นซิ เท่าที่ดู ท่าทางจะอันตราย หนูอากิเนะอย่าไปเลย ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของท่านเทพศาสตราเถอะ ” ชายชราในกลุ่มคนกล่าวทัดทาน 

        

 

        อากิเนะยิ้มน้อยๆ พลางเหลียวมองกลุ่มชาวบ้าน ครู่หนึ่ง เธอก็เดินไปหาเด็กชายตัวน้อยที่ยืนเกาะแขนแม่ สีหน้าของเจ้าตัวเล็กดูตื่นตระหนก หวาดกลัวและเสียขวัญ

        

 

        อากิเนะมองเด็กน้อยอยู่อึดใจ เธอรู้สึกว่าใบหน้าของเจ้าตัวเล็กดูคล้ายคลึงกับมาวิน สิ่งนี้ทำให้เด็กสาวเด็ดเดี่ยวยิ่งกว่าเดิม จึงก้มลงนั่งคุกเข่า พร้อมเอื้อมมือไปลูบหัวเยาวชนและปลอบประโลมด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น 

 

“ หนูน้อยอย่ากลัวไปเลย เดี๋ยวพี่สาวคนนี้จะไปจัดการกับสิ่งที่เจ้ากลัวเอง ” 

 

“ พะ….พี่จะช่วยผมและแม่ ใช่มั้ยครับ ” เด็กน้อยถามเสียงสั่น 

 

“ ใช่….พี่ขอสัญญา ” อากิเนะพยักหน้ารับคำและยิ้มสดใสให้หนูน้อย 

          

 

       ด้วยความอบอุ่น อ่อนโยนที่แฝงไปด้วยความกล้าหาญเกินตัว ทำให้เด็กน้อยและผู้คนในดินแดนสบายใจยิ่งขึ้น แต่ทุกคนก็ยังกังวลอยู่ดี เพราะไม่เชื่อว่าเด็กสาวเอวบางร่างน้อยจะสามารถหยุดปีศาจร้ายที่ทรงพลังขนาดนี้

          

 

       อากิเนะลูบหัวเด็กน้อยอีกครั้ง จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน แล้วหันหน้าไปยังทิศทางที่เทพศาสตราต่อสู้กับมาวิน กายบางเริ่มส่องแสงสีขาวที่แรงกล้าจนผู้คนแถวนั้นรู้สึกแสบตาไปตามๆกัน 

 

“ เฮ้ย! แสงนี่มัน…” 

         

 

       แสงนั้นสว่างอยู่หลายวินาที ไม่นานก็ดับลง พร้อมร่างบางที่หายไป ก่อให้เกิดเสียงอื้ออึงจากฝูงชน 

 

“ หนูอากิเนะจะไหวมั้ย น่าเป็นห่วงเหลือเกิน ” 

         

 

        ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย งุยโฮค่อยๆหยัดยืน เขาหันหน้าไปยังทิศทางที่เกิดการต่อสู้ แล้วนึกภาวนาอยู่ในใจ 

 

“ ขอให้รอดกลับมานะ น้องหญิง ”

 

 

สามารถติดตามงานเขียน  ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ

https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา