The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี

9.7

เขียนโดย Jalando

วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.

  174 LV
  22 วิจารณ์
  142.17K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

171) เพลงดาบผ่านภา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เครดิตภาพจาก  https://wall.alphacoders.com

 

      มารร้ายรู้ดีว่าคลื่นแสงนี้ อันตรายกว่าที่เห็น จึงรีบเอี้ยวตัวหลบโดยเร็ว ทว่ามันก็ยังไม่อาจหลีกพ้น ด้วยมีคลื่นแสงอีกหลายวงพุ่งเข้ามา 

 

“ บัดซบ ” 

        

 

      มารร้ายหลบซ้ายหลีกขวาเป็นการใหญ่ เพราะไม่ต้องการให้ตัวเองถูกคลื่นพลังงานผ่าจนขาดกลาง แต่เทพศาสตราก็ยังระดมยิงเพลงดาบผ่าวารีมาเรื่อยๆ อมนุษย์จึงแก้เกมด้วยการกระโดดสูง หวังให้พ้นจากกระบวนท่าเด็ดแบบถาวร ทว่าผู้อาวุโสก็โดดตามขึ้นไปอย่างรวดเร็วจนค้ำหัวของอีกฝ่าย 

 

“ เฮ้ย! ” มารร้ายตะโกนดัง เพราะไม่คิดว่าเทพศาสตราจะจู่โจมด้วยวิธีนี้ และในวินาทีต่อมา เขาก็ปล่อยกระบวนท่าที่รุนแรงอย่าง......เพลงดาบผ่าพสุธา เป้าหมายคือศีรษะของอมนุษย์ 

 

“ เปรี้ยง ” เกิดเสียงดังสนั่น พร้อมประกายแสงสีทองแลบออกมาอีกวาระ สิ่งที่ตามมาก็คือ…..ร่างมารร้ายที่ร่วงหล่นลงมา 

 

“ โครม ” มารร้ายกระแทกกับพื้นเต็มเปา เป็นอีกครั้งที่ถูกเผ่าพันธุ์อ่อนแออย่างมนุษย์เล่นงานจนร่วงล้ม ทำให้มันเจ็บแค้นอย่างมากมาย 

 

“ กรอด…..ไอ้มนุษย์ ” มารร้ายรีบลุกขึ้นยืน ทันใดนั้นเอง อมนุษย์ก็รู้สึกมึนงง กายเล็กบางเริ่มโงนเงนไปมา คล้ายนักมวยที่กำลังเมาหมัด สร้างความประหลาดใจให้กับมันอย่างมหาศาล

 

“ ปะ….แปลกมาก ทำไมเราถึงได้เป็นแบบนี้ ” มารร้ายเฝ้าถามตนเอง แต่ไม่ทันได้คำตอบ ก็มีเสียงเฉลยที่ด้านหลัง 

 

“ สาเหตุที่เจ้ามึนงง เพราะถูกแรงปะทะจากเพลงดาบผ่าพสุธา ต่อให้แข็งแกร่งเยี่ยงเผ่ามาร ก็ต้องใช้เวลาซักนาที ถึงจะฟื้นตัว ” 

      

 

       มารร้ายรีบหันกลับไปมอง จึงพบกับเทพศาสตราเจ้าเก่า แต่ผู้อาวุโสไม่ได้ยืนเปล่า เขาง้างไม้ยาวไปข้างหลังในท่าเตรียมแทง ก่อนจะปล่อยกระบวนท่าต่อไป 

 

“ พันเข็มทิ่มแทง ” 

      

 

       ปลายไม้ท่อนยาวนับร้อยพุ่งเข้าใส่มารร้าย พร้อมแสงสีทองที่ฉาบไปทั่วอาวุธจำเป็น ทำให้ดูคล้ายพายุไลท์เซเบอร์ในเรื่องสตาร์วอร์ แต่ทิฐิมานะของอมนุษย์ผมขาวก็ไม่ธรรมดา มันจึงแก้เกมด้วยการรัวหมัดสวน 

 

“ ไม่ยอมหรอกน่า รับนี่ไป ย่า ย่า ย่า….. ”  

      

 

       หมัดจำนวนที่ใกล้เคียงกับปลายไม้ท่อนยาวถูกมารร้ายปล่อยออกมา สองพายุจู่โจมจึงปะทะกันอย่างรุนแรงจนบังเกิดประกายแสงสีทองและสีอำพันแลบแปล๊บๆอย่างต่อเนื่อง พร้อมเสียงดังสนั่นจนแก้วหูแทบแตก ไม่ต่างจากฝูงเครื่องบินรบทิ้งระเบิด 

 

“ ตูม ตูม ตูม……” 

       

 

      แม้ศึกเบื้องหน้าจะตึงมือ แต่เทพศาสตราก็แอบชื่นชมมารร้ายที่มีเซ็นท์ในการต่อสู้ขั้นดีเยี่ยม เพราะถ้ามัวแต่หลบหลีก ก็ต้องโดนกระบวนท่าอื่นเล่นงานชนิดไม่หยุดหย่อน ในที่สุด ย่อมพลาดท่าเข้าซักที ถึงตอนนั้น อมนุษย์คงไม่พ้นความปราชัย ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือ…..สวนกลับด้วยพลังทั้งหมด แต่แค่นี้หยุดเฒ่าผู้ชำนาญเพลงอาวุธไม่ได้ เขาจึงหยุดจู่โจม แล้วพลิกหลบพายุหมัดของอีกฝ่าย 

 

“ เฮ้ย! ” มารร้ายตะลึงงันอีกครั้ง ด้วยเทพศาสตราสามารถหลบพายุหมัดที่มันปล่อยออกมาอย่างง่ายดาย แถมการเคลื่อนไหวก็พริ้วสุดๆจนขยับมาอยู่ข้างหลังได้อีกครั้ง 

 

“ หน็อย…..ไอ้แก่ เจ้าช่างว่องไวและไหลลื่น ไม่ผิดกับเงาผี ” 

        

 

      ไม่รู้ว่าสิ่งที่มารร้ายพูดคือคำชมหรือประชดประชัน แต่ในทันทีที่อมนุษย์หันกลับไปมองเทพศาสตรา ก็พบกับบาทาเข้าเต็มท้อง 

 

“ อุ้ก…..” มารร้ายถึงกับตัวงอ ด้วยถูกแรงถีบระดับช้างสาร ทำให้ร่างเล็กบางลอยละลิ่วไปข้างหลังถึงสิบเมตร ก่อนจะตั้งหลักได้ 

 

“ ฮึ่ม ไอ้มนุษย์คนนี้บังอาจเล่นงานข้าอีกแล้ว ” มารร้ายคำรามดัง แต่ไม่ทันได้ระบายโทสะจนสมใจ มันก็เหลือบไปเห็นเทพศาสตราพุ่งเข้ามา แล้วปล่อยเพลงดาบผ่าพสุธาอีกครั้ง

 

“ เฮ้ย! จู่โจมมาอีกแล้ว จะดุไปไหนฟะ เจ้าแก่ ” มารร้ายโต้ตอบด้วยการด่า พร้อมยกสองแขนขึ้นมาป้องกัน

 

“ เปรี้ยง ” 

        

 

      ถึงมารร้ายจะป้องกันได้อย่างสมบูรณ์ แต่อมนุษย์ก็ต้องถอยหลังอีกครั้ง คราวนี้กระเด็นไกลถึงสิบก้าว ด้วยความเจนศึก มันจึงไม่ประมาทและรีบเงยหน้าขึ้นรับมือการจู่โจมครั้งต่อไป 

 

“ เข้ามาเลย อย่างเจ้าคงไม่พ้นยิงเพลงดาบผ่าวารีใส่ ” 

        

 

       เป็นไปตามที่คาด เทพศาสตราปล่อยคลื่นแสงรูปจันทร์เสี้ยวออกมาจริงๆ มารร้ายจึงเกร็งกำลังที่กำปั้นขวา ทำให้อวัยวะส่วนนั้นเปล่งออร่าสีอำพันออกมาอย่างรุนแรง 

 

“ กะอีแค่คลื่นแสงบางจ๋อย ข้าจะทุบมันให้แตกละเอียดไปเลย แหลกไปซะ ” มารร้ายคำรามดัง ก่อนจะยกกำปั้นขวาสูง เพื่อเตรียมฟาด ทันใดนั้นเอง ดวงตาของมันก็พลันเบิกโพลง เมื่อเหลือบไปเห็นร่างสูงโปร่งของเทพศาสตราที่พุ่งเข้ามา 

 

“ เฮ้ย! นี่เจ้า ” นั่นคือคำอุทานเดียวของมารร้ายที่หลุดจากปาก เพราะในเสี้ยววินาทีต่อมา เทพศาสตราก็เหวี่ยงไม้ท่อนยาวใส่คลื่นแสงรูปจันทร์เสี้ยว พร้อมประกาศชื่อกระบวนท่า 

 

“ เพลงดาบผ่าพสุธา ” 

 

“ ตูม………..” 

         

 

      เสียงระเบิดดังสนั่นอีกครั้ง คราวนี้ถึงขั้นทำให้แผ่นดินสะเทือน นับเป็นการโจมตีทางกายภาพที่รุนแรงสุดของวัน และเมื่อควันจาง ก็ปรากฏภาพที่น่าสะพรึง นั่นก็คือ……แขนขวาของมารร้ายที่ขาดสะบั้น โลหิตดำสนิทกระฉูดจากแผลสดขนาดใหญ่ 

 

“ เอ๊ะ! นะ….นี่มัน ” มารร้ายถึงกับนิ่งอึ้ง เพราะช็อคกับสิ่งที่เกิด เผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งและทรงภูมิปัญญาอย่างมันถูกยอดฝีมือชาวมนุษย์เพียงคนเดียวฟันแขนจนขาด แต่เทพศาสตราไม่ยอมปล่อยให้อริได้ทันตั้งตัว จึงพุ่งเข้ามาทิ่มแทงสลับฟาดฟัน 

 

“ อึก อัก อุ้ก…..” มารร้ายยกแขนซ้ายขึ้นปัดป้องและหลบเลี่ยง แต่ไม่อาจหยุดยั้งเพลงดาบที่รวดเร็ว จึงถูกไม้ท่อนยาวทำร้ายอยู่หลายครั้งจนเกิดแผลฟกช้ำตามร่างกาย 

       

 

       มารร้ายยอมรับว่าตนเริ่มตื่นตระหนกและทำอะไรไม่ถูก เพราะไม่คิดว่ายอดฝีมือชาวมนุษย์จะเชิงยุทธ์ที่สูงขนาดนี้ มันเหนือล้ำกว่าหมู่มารในระดับปรมาจารย์เสียอีก ทำให้สำนึกเสียใจที่ไปรับคำท้าของคู่ประลอง 

 

“ บ้าชะมัด เราไม่น่าไปหลวมตัวชิงชัยในด้านเพลงยุทธ์เลย นี่ถ้าใช้วิธีเว้นระยะห่าง และคอยยิงเวทใส่ ก็ชนะไปแล้ว กระนั้น ข้าก็ยังไม่จนหนทางง่ายๆหรอก ” 

      

 

      ทว่ามารร้ายก็สมเป็นเผ่าพันธุ์ที่อยู่นานนับพันปี จึงแก้ลำด้วยการเคลื่อนที่ไปรอบๆด้วยความเร็วสูง 

       

 

       เทพศาสตราชะงักนิดนึง เมื่อเห็นร่างของมารร้ายหายลับไปกับตา เขารู้ทันทีว่าอมนุษย์น่าจะวิ่งวนอยู่รอบตัว จึงเปลี่ยนจากกระบวนจู่โจมมาเป็นตั้งรับอย่างรัดกุม พร้อมสงบดวงจิต เพื่อจับสัมผัสของทุกสรรพสิ่งที่เข้ามาใกล้ แต่ก็ไม่วายได้ยินเสียงหัวเราะกร้าวของศัตรูผมขาว 

 

“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า มองไม่เห็นข้าล่ะสิ ทีนี้ เจ้าจะทำยังไง 

         

 

      เทพศาสตราไม่ตอบคำแต่ประการใด ดวงตาเรียวยาวแลสงบเยือกเย็น จิตภายในนิ่ง ประหนึ่งจะดำดิ่งสู่ภวังค์แห่งสำนึก 

        

 

       มารร้ายวิ่งวนไปรอบๆสุดฝีเท้า ดวงตาจับจ้องเทพศาสตราอยู่ตลอด แต่ไม่ว่าเพ่งมองซักเท่าใด ผู้เฒ่าชำนาญศึกก็ได้แต่ยืนสงบอยู่กับที่ ไม่มีวี่แววว่าจะขยับ แถมออร่ารอบตัวยังดับลงไปอีก ราวกับว่าเขาได้กลายเป็นรูปปั้นหินเป็นที่เรียบร้อย และเมื่อพินิจอีกที อมนุษย์ก็ตกตะลึงยิ่งกว่าเดิม ด้วยพบว่า……. 

 

“ เฮ้ย! เจ้าแก่นั่นหลับตาอยู่นี่หว่า ” 

        

 

      มารร้ายนึกสงสัยจนหัวแทบระเบิด เพราะมันไม่เคยเห็นใครหลับตาในการต่อสู้มาก่อน แต่ไม่ทันได้คำตอบ อมนุษย์ก็พบว่าเทพศาสตราลืมตาขึ้นมาอย่างฉับพลัน พร้อมออร่าสีทองที่พวยพุ่งอย่างรุนแรง ส่วนมือขวาก็เหวี่ยงไม้ท่อนยาวไปยังทิศทางที่มันสถิต 

 

“ เพลงดาบผ่านภา ” 

 

“ ซูม…..” ลำแสงสีทองเข้มข้นพุ่งมายังจุดที่มารร้ายกำลังวิ่งผ่าน ทำให้กระบวนท่าเด็ดปะทะกับยอดอกของอมนุษย์เต็มเปา ส่งผลให้ร่างบางกระเด็นไกลไปกระแทกกับไม้ใหญ่จนหักกลาง 

 

“ โครม…..” 

 

“ อั้ก……” มารร้ายกระอักเลือดสีนิลออกมากองใหญ่ พลังในร่างกายหดหายจนแทบลุกไม่ขึ้น 

 

“ บ้าน่า มันโจมตีโดนได้ยังไง มนุษย์ไม่น่ามองเห็นความเร็วระดับนี้ มิหนำซ้ำ เราเจอเข้าไปแค่ทีเดียว ก็ถึงกับสิ้นเรี่ยวแรง เป็นไปไม่ได้ กรอด……” มารร้ายกัดฟันแน่น พร้อมรวบรวมกำลังที่เหลืออยู่ทั้งหมด เพื่อรับศึก แต่ไม่ทันได้สัมผัสพื้นแบบเต็มเท้า มันก็พบกับเทพศาสตราที่ยืนค้ำหัว ดวงตาของผู้เฒ่าแลเยือกเย็นและแฝงแววคุกคามอยู่ในที 

 

“ จบแล้ว เจ้าโดนเพลงดาบผ่านภาเข้าไปเต็มๆ ไม่มีทางรวบรวมกำลังได้ในระยะเวลาอันสั้น กว่าจะฟื้นตัวได้ ก็ต้องรอซักสิบนาที ด้วยกระบวนท่านี้เน้นทำลายสิ่งชั่วร้ายโดยตรง ” 

 

“ หึ หึ หึ มิน่าเล่า ถึงทำให้ข้าง่อยกินในทีเดียว ว่าแต่เจ้าเห็นและคำนวณการเคลื่อนไหวของข้าได้ยังไง ” มารร้ายหัวเราะเบาๆ พร้อมไถ่ถามถึงประเด็นที่ติดค้างในใจ  

      

 

       เทพศาสตรามองมารร้ายที่นั่งแผ่หลาสิ้นท่าอยู่ตรงหน้า ในใจนึกนิยม ถึงอริจอมแสบจะเพลี่ยงพล้ำแค่ไหน ก็ยังรักษาความเยือกเย็นเอาไว้ได้ แต่นั่นยิ่งทำให้เขาอยากกำจัดให้เด็ดขาด จึงขยับไม้ท่อนยาวในมือ เพื่อปิดบัญชี 

 

“ จะปล่อยตัวอันตรายให้ลอยนวลไม่ได้ ” 

 

“ เฮ้ๆ เดี๋ยวก่อนสิ อย่าเพิ่งลงมือ ไหนๆข้าก็จะแพ้เจ้าอยู่แล้ว ช่วยตอบคำถามก่อน ” มารร้ายเริ่มร้องละล่ำละลัก สีหน้าแสดงออกถึงความหวาดกลัวอย่างชัดเจน สร้างความประหลาดใจให้แก่เทพศาสตรา 

 

“ เอ๊ะ! เมื่อครู่ มารตนนี้ยังดูสงบ ไหงตอนนี้ถึงตื่นกลัวจนเตลิดหนัก ” 

       

 

      เทพศาสตราไม่แน่ใจว่ามารร้ายตนนี้คิดอะไร มันอาจอับจนหนทางจริงๆหรือมีแผนในใจ สุดท้าย เขาก็เลือกที่จะคลายปมที่อมนุษย์สงสัย 

 

“ ข้ามองไม่เห็นและคำนวณการเคลื่อนไหวของเจ้าไม่ถูก แต่เพลงดาบผ่านภาคือกระบวนท่าที่ใช้โจมตีสิ่งชั่วร้าย สิ่งที่มองไม่เห็น ไม่มีตัวตน ประมาณว่าผู้ใช้ต้องมี…..” 

 

“ สัมผัสพิเศษ หรือเรียกอีกอย่างว่าซิกซ์เซนส์ ” มารร้ายรีบพูดแทรก เป็นเชิงเข้าใจ มุมปากเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน 

 

“ อืม…..” เทพศาสตราพยักหน้ารับคำ ในใจนึกงงที่มารร้ายรู้เคล็ดลับของวิชานี้

 

 

สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ

https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา