The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี

9.7

เขียนโดย Jalando

วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.

  174 LV
  22 วิจารณ์
  141.76K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

172) สถานการณ์ที่บีบคั้น

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เครดิตภาพจาก https://www.vectorstock.com

 

“ อืม…..” เทพศาสตราพยักหน้ารับคำ ในใจนึกงงที่มารร้ายรู้เคล็ดลับของวิชานี้ด้วย แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่ผู้อาวุโสจะยอมรามือ จึงยกท่อนไม้ขึ้นสูง เพื่อเตรียมเผด็จศึกขั้นเด็ดขาด 

 

“ เอาล่ะ เลิกพูดคุยกันซักที ถึงเวลาสิ้นชีพของเจ้าแล้ว ” 

 

“ โอ้ๆ ยะ…อย่าทำข้า ระ…เรายังต้องคุยกันก่อน ขะ…ข้ามีเรื่องจะถามอีก ” มารร้ายรีบยกแขนข้างที่ขาดขึ้นสูง กิริยาคล้ายร้องห้าม 

 

“ ไม่มีอะไรให้พูดคุยอีกแล้ว เตรียมใจซะ เจ้ามารร้าย ” กายของเทพศาสตราเปล่งแสงสีทองออกมาอีกครั้ง ส่วนท่อนไม้ยาวถูกยกขึ้นเหนือหัวในท่าเตรียมฟาด 

 

“ ยะ….อย่าทะ..ทำเลย ขะ…ขอร้อง ขะ…ข้ากลัวตาย สำนึกผิดแล้ว ต่อไปจะไม่ทำแบบนี้อีก ” ปีศาจร้ายเห็นท่าจะห้ามไม่ได้ จึงพยายามบีบน้ำตา ปากก็วิงวอน ขอความเห็นใจ 

       

 

       เทพศาสตรางุนงงเล็กน้อย แม้มารร้ายตนนี้จะโหดเหี้ยม อำมหิต คิดแต่เรื่องต่อสู้และทำลายล้าง แต่มันก็ไม่เคยแสดงทีท่าขี้ขลาด ทว่าในยามนี้ กลับร้องขอชีวิตแบบไร้ยางอาย นับว่าย้อนแย้งกับพฤติกรรมที่ผ่านมาโดยสิ้นเชิง 

 

“ เจ้านี่เป็นมารแบบไหนกันแน่ หรือมันจะเล่นเล่ห์อะไรอีก ” เทพศาสตราเริ่มสงสัย จึงลดท่อนไม้ยาวลง ทันใดนั้นเอง มือที่ขาดของมารร้ายก็พลันงอกออกมาโดยพลัน พร้อมแสงเลเซอร์สีอำพันที่พุ่งจากนิ้วชี้ 

 

“ ฉึก……” 

       

 

      แสงเลเซอร์สีอำพันวิ่งทะลุอกของเทพศาสตราเข้าอย่างจัง ส่งผลให้ผู้อาวุโสถึงกับลอยไปข้างหลัง จากนั้นก็ทิ้งตัวลงไปนอนหงาย แต่ไม่ถึงกับสิ้นชีวิต เพราะการโจมตีดังกล่าวไม่ได้เข้าจุดตาย ทว่าก็เฉียดหัวใจไปเพียงเซ็นต์เดียว 

 

“ อั้ก……” เทพศาสตรากระอักโลหิต ส่วนมารร้ายนั้นลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก เพราะเพลงดาบผ่านภาดูจะสร้างอาการบาดเจ็บให้กับมันพอสมควร และเมื่อได้เห็นสภาพร่อแร่ของผู้อาวุโส อมนุษย์ก็แสยะยิ้มเป็นเชิงสะใจ 

 

“ หึ หึ หึ เกือบไปแล้ว ถ้าพลิกเกมไม่ได้ ข้ามีหวังเน่าคาไม้ของเจ้าแน่ ” 

 

“ กะ….แกขะ…ขี้โกงนี่ ” เทพศาสตราพยายามยันกายขึ้นมา แต่เขาก็ขยับไม่ออก จึงได้กัดฟันกรอดใหญ่ เพราะเจ็บใจที่เสียรู้

 

“ ยอมรับว่าโกงจริง แต่นี่คือการต่อสู้นะโว้ย ไม่ใช่การประลองฝีมือบนเวทีปาหี่ที่พวกมนุษย์ชอบจัด ดังนั้น ไม่ต้องอ้างถึงกฎกติกาอะไร ข้าไม่สนใจทั้งนั้น ” มารร้ายโวยกลับ ท่าทางหัวเสีย เพราะตัวมันเองก็ไม่อยากใช้วิธีนี้เหมือนกัน แต่ถ้าไม่ทำ คงต้องพลีชีพตรงนี้อย่างแน่นอน 

 

“ ฮึ่ม…..บัดซบ ชนะแบบนี้ก็เหมือนแพ้นั่นแหละ แต่ต้องทำ เพราะมีเรื่องสำคัญกว่าให้สนใจ ว่าไปแล้ว เจ้าแก่นี่ก็นับว่าเป็นยอดคนเลยทีเดียว เพราะเมื่อครู่ เราเล็งไปที่หัวใจ แต่มันกลับเบี่ยงหลบนิดนึง จึงรอดพ้นจากความตาย ” ดวงตาของมารร้ายเปล่งประกายชื่นชม นับว่าเป็นมนุษย์คนแรกในรอบหลายพันปีที่มันยอมรับ แต่เพื่อความปลอดภัย จำต้องปิดเกมให้เด็ดขาด 

       

 

      มารร้ายยกมือข้างที่เคยขาดขึ้นมา ดูเหมือนมนต์ดำของมันจะมีประสิทธิภาพสูงล้ำ เพราะมองไม่เห็นร่องรอยของบาดแผลเลยซักนิด ทำให้เทพศาสตราได้คิด 

 

“ ทั้งหมดนั่นเป็นแผนของมารร้ายโดยแท้ เพราะมันสามารถรักษาแขนข้างที่ขาดได้ตลอด แต่กลับไม่ยอมทำ เพื่อวางกับดักให้เราตายใจ จากนั้นก็ฉวยโอกาสพลิกสถานการณ์ นับเป็นความอ่อนหัดของเราโดยแท้ ” เทพศาสตราหลับตาลง เขาพร้อมจะตายโดยไม่มีข้อกังขา เพราะในการต่อสู้ ไม่เคยมีคำว่า…ขี้โกง คู่ประลองต้องงัดทุกสิ่งออกมาใช้ เพื่อให้ได้รับชัยชนะ 

 

“ ยอมรับแล้วสินะ สมกับเป็นยอดนักสู้ของโลกมนุษย์ เพื่อเป็นเกียรติแก่เจ้า ข้าจะมอบความตายแบบไม่ต้องทรมาน ” มารร้ายเกร็งกำลังที่มือขวา ทำให้เกิดแสงสีอำพันขึ้นมา มันหวังใช้พลังทำลายนี้เผาร่างของเทพศาสตราให้เป็นจุณในทีเดียว แต่ก่อนจะได้กระทำ ก็มีเสียงใสๆดังแทรกเข้ามา 

 

“ อย่าทำแบบนั้น หยุดนะ เจ้ามารร้าย ” 

        

 

      มารร้ายหันมองตามเสียง จึงพบกับอากิเนะ เธอเป็นคนร้องห้าม ด้วยทนไม่ไหวที่ต้องเห็นท่านปู่ ผู้เป็นญาติเพียงหนึ่งเดียวต้องสิ้นลมหายใจ 

       

 

       แรกเริ่ม มารร้ายไม่คิดจะรับฟัง เพราะเทพศาสตราจัดเป็นตัวอันตรายที่สมควรกำจัดโดยเร็ว แต่ต่อมา มันก็เกิดความคิด 

 

“ เอ๊ะ! บางที อาจไม่ต้องฆ่าเจ้าเฒ่า เราน่าจะใช้ประโยชน์จากมันได้ ” ทันทีที่สิ้นความคิด มารร้ายก็ชี้นิ้วไปที่เทพศาสตรา แล้วยิงแสงสีอำพันออกมา 

 

“ ฉึก ฉึก ฉึก ” ลำแสงเวทสามเส้นพุ่งเข้าใส่แขนขวา ขาซ้ายและขาขวาของเทพศาสตรา ทำให้ผู้ชราเจ็บปวดจนต้องร้องโอย 

 

“ อั้ก……” เทพศาสตรากระอักโลหิตอีกครั้ง แม้การจู่โจมจะไม่เข้าจุดตาย แต่แรงปะทะก็แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ทำให้รู้สึกเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส ทว่าธาตุทรหดก็ยังคงอยู่ จึงเหลือบมองมารร้ายด้วยแววฉงน 

 

“ ทะ…ทำไม จะ…เจ้าไม่ฆ่าข้าโดยเร็ว ” 

 

“ หึ หึ หึ ตอนแรกก็คิดจะปลิดชีพเจ้า แต่….เวลานี้ เปลี่ยนใจแล้ว ข้าจะใช้เจ้าเป็นเครื่องกระตุ้นให้ท่านผู้นั้นตื่น ” มารร้ายหัวเราะเยือกเย็น

      

 

      แม้มารร้ายจะไม่ระบุโดยละเอียด แต่เทพศาสตราก็รู้ชัดว่าท่านผู้นั้นที่อมนุษย์พูดถึงก็คือ…อากิเนะ เพราะเขาเป็นคนเลี้ยงหลานสาวคนสวยมาตั้งแต่แบเบาะ จึงรู้ความเป็นมาของเรื่องราวเป็นอย่างดี เลยอดขัดไม่ได้ 

 

“ ในเมื่อรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของอากิเนะ แล้วทำไม ต้องปลดปล่อยนางออกมา  แม้เจ้าจะเก่งกว่านี้ซักสิบเท่า ก็เอานางไม่อยู่หรอก ” เทพศาสตรารีบห้ามปราม เพราะนี่คือความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทว่ามารร้ายกลับปฏิเสธอย่างบ้าคลั่ง 

 

“ ไม่ลอง จะไปรู้ได้ยังไง อีกอย่าง ข้าเองก็อยากต่อสู้กับผู้เป็นตำนานเหมือนกัน ดูสิว่า ผลจะเป็นยังไง แค่ชีวิตของตัวเองหรือชะตากรรมของโลกเป็นเรื่องที่ยอมเสียสละได้ ” 

        

 

       เทพศาสตราจนใจจะห้าม เพราะในหัวของมารร้ายตนนี้มีแต่เรื่องต่อสู้ ทำลายล้างและสงคราม จึงนิ่งอึ้งในบัดดล พร้อมปล่อยให้มารร้ายกระชากคอเสื้อจนตัวลอย 

 

“ หึ หึ หึ ข้าเด็ดแขนขาทั้งสี่หมดแล้ว เพราะไม่อาจปล่อยให้ขยับโดยสะดวก ด้วยเจ้าเป็นตัวอันตรายอย่างยิ่งยวด ” 

 

“ มารร้ายอย่าทำแบบนั้นเลย อย่าไปกระตุ้นอากิเนะ เพราะถ้านางหลุดออกมาได้ เจ้าจะไร้ทางสู้ ” เทพศาสตราวิงวอนอีกครั้ง มีไม่กี่ครั้งที่ผู้ยิ่งยงจะออกปากขอร้อง 

 

“ ยิ่งพูดแบบนี้ ยิ่งอยากลองของมากขึ้น ดังนั้น โทษทีนะ ” มารร้ายพูดจบ มันก็ต่อยเข้าไปที่ใบหน้าของเทพศาสตรา 

 

“ เปรี้ยง…..” 

       

 

       จากน้ำหนักหมัด ทำให้เทพศาสตรารู้เลยว่ามารร้ายไม่มีเจตนาจะปลิดชีพ เพราะมันพยายามลดพลังลงจนเกือบต่ำสุด แต่ก็ทำให้ร่างสูงเพรียวลอยละลิ่วอยู่ดี สุดท้าย ก็ลงไปนอนหงายตรงหน้าอากิเนะ 

 

“ อุ้ก….” เทพศาสตรากระอักเลือดอีกครั้ง เพราะบอบช้ำจากการลอยไกลนับสิบเมตร 

 

“ ท่านปู่…..” อากิเนะร้องเสียงหลง น้ำตาอาบสองแก้ม เพราะเจ็บใจที่ทำอะไรไม่ได้ ทว่าท่านปู่ ผู้แสนดีก็ยังหันมาปลอบโยน มุมปากแย้มยิ้มอย่างอบอุ่น 

 

“ อะ….อากิเนะ จะ…เจ้ายะ…อย่าเศร้าไปเลย เพราะความตายนั้นเป็นเรื่องธรรมดา ” 

 

“ ไม่ ท่านปู่ต้องไม่เป็นอะไร หลานจะช่วยท่านปู่เอง ” อากิเนะพูดจบ เธอก็เร่งพลังเวทในตัวให้สูงขึ้นจนบังเกิดเปลวเพลิงสีรุ้งแผ่ซ่านไปทั่วกาย ทว่าก็ไม่มากจะทำให้โซ่ดำที่ล่ามสองแขนขาดออก 

       

 

       แม้เทพศาสตราจะเป็นเพียงนักสู้ที่ชำนาญเพลงอาวุธ แต่เขาก็อยู่ในขั้นปรมาจารย์ จึงรู้ทันทีว่าพลังในระดับธรรมดาของอากิเนะ ไม่อาจสลัดพันธนาการเวทมนตร์ได้ ตัวหลานสาวแสนสวยก็รู้เช่นกัน เธอจึงพยายามรีดพลังให้สูงกว่าเดิม 

 

“ ออกมา พลังที่แฝงเร้นในตัวเรา จงเปล่งประกาย ” 

        

 

      ดวงตาของอากิเนะเริ่มแข็งกร้าว ออร่าเวทมนตร์สีรุ้งสดใสก็พลันหมองลง พร้อมระดับพลังที่สูงขึ้นแบบไม่มีขีดจำกัด ส่วนอมนุษย์ที่ยืนมอง รู้สึกยินดี เพราะมันอยากดวลกับตำนานของโลกมารมาตั้งนานแล้ว แต่ก่อนที่ทุกสิ่งจะเลวร้ายไปมากกว่านี้ เทพศาสตราก็ร้องตะโกน 

 

“ อย่า….อากิเนะ อย่าปล่อยตัวตนของเจ้าออกมา สิ่งนั้นอันตรายเกินไป มันจะทำลายโลก The Dark World ของพวกเรา ” 

 

“ เอ๊ะ!....” อากิเนะสะดุ้งตกใจ ดวงตากลับมาไร้เดียงสาอีกครั้ง

 

“ นะ…นี่เราเกือบจะปล่อยเจ้านั่นออกมาอีกแล้ว ตะ…แต่ถ้าเราไม่ทำ ท่านปู่คง…..” อากิเนะรู้สึกสับสน เพราะถ้าไม่พึ่งพลังประหลาด เธอคงไม่มีปัญญาหลุดจากโซ่เส้นโต

 

“ ชิ…บัดซบ เจ้าแก่คนนี้ปากมากอีกแล้ว ” มารร้ายรู้สึกหัวเสียเล็กน้อย เพราะอีกนิดเดียว อากิเนะก็จะกลายสภาพเป็นสิ่งมีชีวิตทรงพลัง ซึ่งมันรอคอยจะได้พบ เพื่อตัดสินแพ้ชนะ 

 

“ คราวนี้ เรามีสิทธิ์ชนะมากขึ้น เพราะสามารถรวมร่างกับเจ้าหนูหัวเขียวได้อย่างสมบูรณ์ จึงมีพลังมากกว่าเดิม แต่ถ้าปล่อยไปแบบนี้ เห็นทีว่าเจ้าแก่นั่นจะเข้ามาขวางอีก คงต้องออกแรงกันนิดหน่อย ” 

       

 

       เมื่อคิดได้ดังนั้น มารร้ายก็ลอยตัวไปหาสองปู่หลาน ไม่นาน มันก็มาหยุดยืนอยู่ข้างเทพศาสตราที่กำลังนอนหงาย 

 

“ แก….ปล่อยท่านปู่เดี๋ยวนี้นะ แกต้องการตัวข้าไม่ใช่เหรอ ” พออากิเนะเห็นมารร้าย เธอก็ตวาดใส่เสียงดัง แต่อมนุษย์กลับมีท่าทีเมินเฉย พร้อมตอบเนือย 

 

“ เข้าใจผิดแล้ว ข้าไม่ได้ต้องการท่านในสภาพนี้ แต่อยากพบท่านในร่างที่แท้จริงต่างหาก ” ทันทีที่มารร้ายพูดจบ ดวงตาแดงก่ำของมันก็เปล่งประกายแวววาว บ่งบอกถึงความปรารถนาที่รุนแรง

 

 

สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ

https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา