The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี

9.7

เขียนโดย Jalando

วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.

  174 LV
  22 วิจารณ์
  139.24K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

84) ชิงจังหวะ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เครดิตภาพจาก  https://coolwallpapers.me

 

……………………

           

      เสือร้ายวนเวียนรอบกาย สายตาจับจ้องมาวินอยู่ตลอด ท่าทางแสดงออกถึงประสงค์ร้ายอย่างชัดเจนชนิดที่ไม่จำเป็นต้องตีความให้มากมาย  

           

 

       มาวินยกสองแขนขึ้นตั้งการ์ด ท่วงท่าดูเข้มแข็ง ทั้งที่ความเป็นจริง เด็กหนุ่มรู้สึกอ่อนล้าจนแทบจะทิ้งตัวลงไปนอน

 

“ มอนสเตอร์ตัวนี้แข็งแกร่งมาก การโจมตีแบบธรรมดาไม่อาจทำอะไรได้ กระบวนท่าซึ่งมีพลังทำลายมากที่สุดก็คือ....เสือดาวไล่เหยื่อ แต่ถ้าไม่อยู่กับที่ ก็คงอัดไม่โดน จะหยุดการเคลื่อนไหวของมันด้วยวิธีใด” มาวินแสร้งยิ้มสบายใจ แต่ภายในรู้สึกร้อนรน เพราะคิดไม่ออกว่าจะเดินเกมต่อไปยังไง 

 

“ กรร........ ” เสือร้ายยังเดินวนเวียนต่อไป แต่เริ่มตีวงแคบเข้ามาเรื่อยๆ สายตาจับจ้องเด็กหนุ่มอยู่ตลอด ปากก็ขู่คำรามเบาๆ ประหนึ่งว่า…..มันเองก็น่าจะใช้ความคิดอย่างหนักเช่นเดียวกัน 

            

 

       ระหว่างที่หนึ่งคนกับหนึ่งตัวกำลังชิงไหวชิงพริบกัน เด็กหนุ่มก็เป็นฝ่ายคิดได้ก่อน คิ้วเรียวจึงเลิกสูง พร้อมสีหน้าที่ดูระรื่น

 

“ กรร ” เสือดาวขู่คำราม ร่างเพรียวผงะถอยหลังเล็กน้อย มันดูคล้ายแมวตกใจอย่างไม่มีผิดเพี้ยน 

            

 

        ทันทีที่มาวินเห็นท่าทางของเสือดาว เด็กหนุ่มก็เปิดยิ้มกว้าง พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงระรื่น 

 

“ ฮะๆ ในเมื่อชั้นช้าและอ่อนแอกว่านาย ก็ต้องเปลี่ยนมาใช้วิธีใหม่ ” มาวินยังคงยิ้มแฉ่ง ส่วนปลายเท้าช้อนก้อนหินขนาดฝ่ามือที่อยู่บนพื้น อึดใจต่อมา เด็กหนุ่มก็กระดกมันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ศิลาขนาดฝ่ามือลอยสูงระดับอก

 

“ โจมตีจากระยะไกล ” มาวินตะโกนดัง พร้อมใช้เท้าอีกข้างหวดเข้าไปที่เป้าหมายสุดแรง หินก้อนเขื่องจึงพุ่งปะทะใบหน้าของเสือดาวเข้าอย่างจัง 

 

“ เปรี้ยง ” 

 

“ โฮก..... ” เสือร้ายสะบัดหน้าหนี พร้อมคำรามด้วยความเจ็บปวด

 

“ เยี่ยม ” มาวินร้องอุทานด้วยความดีใจ แผนโจมตีระยะไกลได้ผลกว่าที่คิด เมื่อเป็นเช่นนี้ เด็กหนุ่มจึงใช้ปลายเท้างัดหินก้อนต่อไปให้ลอยขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง 

 

“ เอ้า รับไปอีก ไอ้หน้ายาว ” มาวินรัวเพลงเท้าใส่หินสามก้อนที่ลอยขึ้นมา ศิลาขนาดฝ่ามือพุ่งใส่เสือร้ายอีกชุดใหญ่ 

 

“ เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ”  

             

 

        กระสุนหินเข้าเป้าทั้งสามจุด มันกระทบหน้าผาก ลำคอ และสีข้างของเสือร้ายแบบเต็มๆ นับได้ว่าเด็กหนุ่มหัวเขียวมีเพลงเท้าที่แม่นยำและฉับไวพอสมควร (น่าจับไปเตะบอลเนอะ) 

 

“ โฮก...... ” เสือร้ายถอยหลังหนีถึงสามก้าว แม้กระสุนหินจะไม่อาจน็อคมันได้ แต่ก็สร้างความรำคาญอยู่ไม่ใช่น้อย 

 

“ หึ ทนนักนะ ” มาวินเคลื่อนที่ไปรอบๆ เพื่อค้นหากระสุนหินนัดต่อไป ทว่าเจ้าเสือร้ายไม่ยอมเปิดโอกาสให้ยิงได้ถนัด มันกระโจนใส่เด็กหนุ่มด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ

            

 

        จังหวะที่เสือร้ายกำลังจะเข้าถึงตัว รอยยิ้มจางๆก็ปรากฏบนใบหน้าเล็กเรียวของมาวิน

 

“ ดีล่ะ รอโอกาสนี้มานานแล้ว ” เด็กหนุ่มตะโกนสุดเสียง พร้อมพุ่งเข้าใส่เสือดาวอย่างดุดัน

        

 

       เมื่อหนึ่งมนุษย์ หนึ่งสัตว์เข้าถึงจุดแตกหัก เด็กหนุ่มได้เอียงกายหลบกรงเล็บของเสือดาว ก่อนจะเหวี่ยงหมัดซ้ายเข้าไปที่กกหูเต็มแรง

 

“ เปรี้ยง ” 

            

 

       เสียงปะทะดังสนั่นไปทั่วบริเวณ สิ่งที่ตามมาในลำดับถัดไปก็คือเสียงโหยหวนด้วยความเจ็บปวดของเดรัจฉานเขี้ยวยาว

 

“ โฮก...... ” 

          

 

       เสือร้ายถอยหลังไปอีกสามก้าวและสะบัดศีรษะไปมา เพื่อขับไล่ความมึนงง 

 

“ ฮะๆ โดนดอกนี้เข้าไป มึนมั้ยล่ะเพื่อน ” มาวินกำหมัดซ้ายแน่น แม้จะเข้าเป้าหมายอย่างสมบูรณ์ แต่เด็กหนุ่มก็รู้สึกว่ามือข้างนั้นน่าจะแหลกจนใช้งานไม่ได้แล้ว 

 

“ โฮก...... ” เสือร้ายคำรามอีกครั้ง คราวนี้กระแสของมันทั้งดังยาวและดุร้ายกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา 

 

“ ท่าทางจะโกรธเต็มที่แล้วล่ะมั้ง ” มาวินหน้าเสีย พลางเหลือบมองสองมือของตนเอง จึงพบว่ามันทั้งแดงก่ำและบวมช้ำ 

             

 

        เสือร้ายไม่พูดพร่ำทำเพลง มันพุ่งเข้าใส่มาวินอีกครั้ง แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร การเคลื่อนไหวของเด็กหนุ่มจึงช้าลงจนหลบกรงเล็บไม่ทัน

 

“ ผั้ว ” 

             

 

       กรงเล็บตบเข้าไปที่ขมับซ้ายของเด็กหนุ่ม ส่งผลให้ร่างบางกระเด็นไกลถึง 3 เมตร ก่อนจะไถลไปกับพื้นอีกหลายตลบจนฝุ่นคลุ้งไปทั่วบริเวณ 

 

“ กรร....... ” เสือร้ายแยกเขี้ยวใส่เด็กหนุ่ม กิริยาคล้ายสะใจที่สามารถตบมนุษย์ร่างเล็กได้เต็มอุ้งมือ

            

 

        มาวินนอนแน่นิ่งอยู่ครู่หนึ่ง อึดใจต่อมา เขาก็ค่อยๆยันกายลุกขึ้นมานั่งชันเข่า บนศีรษะปรากฏบาดแผลฉกรรจ์ เลือดแดงฉานไหลเป็นทางยาวและร่วงหล่นลงสู่พื้นดินข้างตัว ทว่าประกายตากลับเปล่งประกายแวววาวอย่างประหลาด ทันใดนั้นเอง เสียงของโจจี้ก็ดังขึ้น 

 

“ เฮ้ น้องชายผมเขียว นายน่าจะไม่ไหวแล้ว ถึงตอนนี้ ทางรอดเดียวก็คือ......ยอมแพ้ แล้วหนีออกจากดันเจี้ยน ”  

             

 

       มาวินนิ่งฟังด้วยอาการสงบ อันผิดกับนิสัยทโมนที่มีมาแต่กาลก่อน เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง เด็กหนุ่มก็กล่าวห้วนๆว่า.....

 

“ จะหนีจากที่นี่ยังไง ” 

 

“ ศาสตราจารย์จูนสัญญาณนาฬิกาของนายได้แล้ว เพียงกดปุ่มเขียวบนตัวเรือน นายก็จะวาร์ปกลับมา ” โจจี้รีบบอกโดยเร็ว 

 

“ ฮะๆ เป็นวิธีที่ง่ายจริงๆ แต่ขอโทษที ชั้นยังไม่คิดจะหนี ” มาวินหัวเราะเบาๆ พร้อมเซอร์ไพรส์ด้วยการกล่าวถึงสิ่งที่เหลือเชื่อ

 

“ หา.... เป็นบ้าไปแล้วเหรอ ถ้าโดนตบอีกทีเดียว นายต้องตายอย่างแน่นอน รีบกดปุ่มเขียวซักทีซิโว้ย ” โจจี้โวยหนักด้วยความเป็นห่วง

 

“ ฮะๆ ขอบใจมากว่ะ ไอ้พี่ชายผมทอง ” มาวินขอบคุณ แต่ยังไม่กดปุ่มเขียว เขารวบรวมพละกำลังที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด เพื่อลุกขึ้นยืนและตั้งท่าสู้

 

“ กรร.....โฮก..... ” เสือร้ายส่งเสียงขู่ จากนั้นก็คำรามใส่อย่างดุดัน ถ้าจะให้แปลเป็นภาษามนุษย์ก็น่าจะประมาณว่า…….น่วมขนาดนี้ ยังจะกำแหงอีกรึ เจ้ามนุษย์ตัวน้อย 

            

 

       ถึงเด็กหนุ่มจะได้ยินคำขู่ แต่เจ้าตัวกลับไม่แสดงท่าทีหวาดหวั่น มิหนำซ้ำยังหัวเราะร่า พร้อมกวักมือท้าทายแบบไม่คิดเกรงกลัว 

 

“ ฮะๆ อย่ามัวแต่ขู่อยู่เลยน่า ไอ้หน้ายาว นายรีบเข้ามาเถอะ ชั้นจะยืนรออยู่ตรงนี้แหละ ” 

          

 

       แม้เสือร้ายจะไม่เข้าใจภาษามนุษย์ แต่จากอากัปกิริยาและสีหน้าของมนุษย์เบื้องหน้าก็ค่อนข้างชัดเจนว่านี่เป็นการท้าทายอำนาจ สิ่งนั้นทำให้เจ้าป่ารู้สึกฉุนขาด

 

“ โฮก........ ” 

          

 

       สิ้นเสียงคำรามครั้งสุดท้าย ร่างเพรียวที่ปราดเปรียวก็พุ่งทะยานเข้าใส่มาวินสุดกำลัง หวังสังหารมนุษย์ร่างเล็กให้ม้วยมรณาในคมเขี้ยวเดียว แต่ก่อนที่เสือร้ายจะเข้าถึงตัว รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ปรากฏบนใบหน้าของเด็กหนุ่มอีกครั้ง

 

“ แจ่มมาก ชั้นรอจังหวะนี้มานานแล้ว ” 

          

 

       เสือร้ายรู้สึกเสียวสันหลังตามสัญชาตญาณระวังภัย แต่ไม่อาจฉุดรั้งตัวเอง เพราะกระโจนใส่อริสุดกำลัง และแล้ว ความระแวงก็เป็นจริง เด็กหนุ่มหัวเขียวทิ้งตัวไปข้างหลังอย่างฉับพลัน ทำให้หลบคมเขี้ยวได้อย่างหวุดหวิด มิหนำซ้ำในจังหวะที่หงายหลัง เขาก็ยกสองขาขึ้นถีบไปที่ลำตัวแกร่งของสัตว์ป่า

 

“ ไปตายซะ ” เด็กหนุ่มตะโกนดัง ก่อนกดแรงไปที่สองขาสุดกำลังจนกลายเป็นลูกถีบคู่ที่ดุดัน

 

“ โฮก.......” เสือดาวคำรามดัง แม้มันจะไม่บาดเจ็บจากการโจมตีเพียงแค่นี้ แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบว่าสิ่งที่รออยู่เบื้องหน้าคือ......เหวลึกที่สูงชัน 

 

“ โฮก....... ” เสือร้ายคำรามยาวอีกครั้ง กระแสดูแตกตื่นกว่าครั้งก่อน ดวงตาเรียวเหลือกพองด้วยความหวาดกลัว วินาทีต่อมา ร่างเพรียวก็ร่วงหล่นลงสู่ก้นเหวตามแรงโน้มถ่วงโลก นับว่าเป็นการต่อสู้ที่พลิกล็อคอยู่ไม่น้อย แน่นอนว่าสิ่งที่เจ้าป่าต้องเผชิญ ย่อมหนีไม่พ้นความตายที่น่าเวทนา

             

 

        มาวินนอนหงายบนพื้น ดวงตาเหม่อมองท้องฟ้าด้วยประกายสดใส ปากแย้มยิ้มออกมา ภายในนึกดีใจที่สามารถพิชิตชัยด้วยปัญญา สุดท้ายเขาก็ยื่นหมัดขวาไปที่นภา พร้อมให้สัญญากับตัวเอง 

 

“ ฮะๆ สำเร็จแล้ว ซักวันหนึ่ง ชั้นจะกลับไปหาเธอ ” 

           

 

        เด็กหนุ่มนอนนิ่งอยู่นานสองนาน เขารู้สึกเหนื่อยล้าและบอบช้ำจนแทบขยับตัวไม่ได้ ทันใดนั้นเอง เสียงโจจี้ก็ดังขึ้นมา

 

“ ไง เจ้าน้องชายหัวเขียว พอขยับตัวไหวมั้ย ถ้าไหวก็รีบคลานไปที่แท่นวาร์ตรงหน้า พวกชั้นจะได้พาตัวนายกลับมา ” น้ำเสียงของโจจี้ดูยินดีอย่างชัดเจน

 

“ ฮะๆ ว่าแล้ว....ซักพักนายต้องโฟนอินมาสั่งชั้นแบบนี้ แทงหวยไม่ผิดเลย ” มาวินตอบกลับด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ 

 

“ เออ......ดิ เอ๊ะ อะไรคือ…โฟนอิน แล้วไหนจะแทงหวยอีก ภาษาบ้านนายนี่มันพิลึกกึกกือจริงๆ ” โจจี้ตอบกลับ หางเสียงบังเกิดอาการมึน 

 

“ ฮะๆ โอเคๆ เดี๋ยวจะลุกขึ้นนะ ว่าแต่….ชั้นต้องเจอตัวอะไรอีกมั้ยเนี่ย คราวนี้หมดก๊อกจริงๆแล้ว ” มาวินหัวเราะเบาๆ พร้อมเถไปถามเรื่องอื่น 

 

“ อ้อ.... หมด ไม่มีตัวอะไรออกมาอีกแล้ว เพราะไอ้เสือดาวตัวนั้นคือบอสใหญ่ของดันเจี้ยนนี้ ” โจจี้ตอบกลับทันควัน 

           

 

       มาวินยิ้มระรื่น ซักพักเขาก็รวบรวมพละกำลังที่เหลืออยู่น้อยนิด เพื่อเดินโซซัดโซเซไปยังแท่นวาร์ปซึ่งอยู่ไม่ห่าง พอตะกายขึ้นไปยืนบนกลางแท่น โจจี้ก็ถามถึงสิ่งที่นึกสงสัย

 

“ ก่อนจะกลับ อยากจะถามว่า….ที่นายทำให้เสือดาวตกเหว มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือเป็นแผนการที่วาง ” 

             

 

       มาวินนิ่งไปหลายอึดใจ ก่อนตอบกลับมาแบบกวนๆ

 

“ แหงล่ะ นี่เป็นแผนที่มาจากมันสมองของชั้นล้วนๆเลย ” 

             

 

       พอมาวินพูดจบ แท่นทรงกลมก็เริ่มเปล่งแสงสีฟ้าออกมา แสงนั้นทวีความสว่างขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุด ก็แผดไปทั่วบริเวณ เวลาผ่านไปประมาณ 10 วินาที กระแสนั้นค่อยๆจางลง พอดับสนิท ก็ปรากฏว่าบนแท่นทรงกลมหลงเหลือแต่ความว่างเปล่า

 

 

สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ

https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา