หิมะแรกในฤดูหนาว

-

เขียนโดย หมาบ้าน

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 เวลา 00.48 น.

  4 บท
  0 วิจารณ์
  4,102 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 01.23 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) บทที่2: ฉันจะตกหลุมรักผู้ชายไม่ได้!

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          เพียงไม่กี่วินาทีหลังจะประธานนักเรียนพูดจบนักเรียนที่นั่งอยู่ก็เริ่มแยกย้ายบ้างนั่งคุยต่อบ้างลุกขึ้น นัตสึโอะแทบจะกระโดดข้ามหัวเหล่านักเรียนรอบข้างให้รู้แล้วร็รอดเพื่อตรงดิ่งไปหาเบาะแสหนึ่งเดียวที่เขาพึ่งค้นพบหลังจากที่ตามหามาถึง10ปี

          “ว้าย! ขอโทษค่ะ” จู่ ๆก็มีเด็กสาวหน้าตาสะสวยคนนึงเด็กเข้ามาชนเขาอย่างจัง จากสายตาคนรอบข้างเพียงแค่ปลายมองก็รับรู้ได้แล้วว่าจุดประสงค์ของเธอนั้นคืออะไร เธอแนบหน้าอกอวบอั๋นของเธอกับร่างตรงหน้าอย่างยั่วยวนและส่งแววตาออดอ้อนทันที่ ‘ให้ตาย! น่าอิจฉาชะมัด! ’ พวกนักเรียนชายรอบ ๆจ้องมองกันอย่างอิจฉาตาร้อน

          “ไม่เป็นไรครับ”

          “ฉันอยู่ห้องเดียวนายชื่อ ฮานา…” เอ่ยยังไม่ทันจบประโยคเธอก็โดนมือใหญ่ผลักออก ก่อนเสียงทุ้มจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

          “ฉันกำลังรีบ” พร้อมส่งสายตาไม่เป็นมิตรไปให้ร่างเล็กตรงหน้า ถ้าเป็นตอนปกติเขาคงจะทำความรู้จักกับเธอไปแล้ว ผู้ชายคนไหนจะทนสาวหน้าอกสะบึมน่าตาหน้ารักได้หล่ะ แต่ตอนนี้เขากำลังเร่งรีบเพื่อที่จะสามารถคว้าเบาะแสนั่นเอาไว้ แถมถ้าพูดถึงความรักมันคงจะเป็นไปไม่ได้ เพราะหัวใจของเขานั้นได้ถูกมอบให้ใครบางคนไปตั้งแต่เมื่อสิบปีก่อนไปแล้ว

          “ขะ- ขอโทษค่ะ…” เธอรีบหลบทางให้ชายหนุ่มทันทีด้วยความเสียหน้า ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนปฏิเสธเธอมาก่อน เธอหมุนตัวออกไปอย่างเขินอาย ร่างสูงรีบพุ่งตัวเดินออกไปด้วยความรีบเร่ง เพียงคลาดสายตาเพียงแปบเดียวพอหันไปยังจุดที่เป้าหมายเคยนั่งอยู่ร่างนั้นก็หายตัวไปเสียแล้ว

          นัตสึโอะสอดส่องสายตาอย่างกระวนกระวาย พลันเหลือบไปยังทางออกหอประชุม สังเกตเห็นผิวสีขาวผมสีดำเงาก็รีบตรงเป็นทางนั้นทันที แต่ด้วยความที่นักเรียนทุกคนพร้อมใจกันลุกเดินออกมา กว่าเขาจะเดินออกมาจากประตูได้ คนๆนั้นก็ได้หายตัวไปอีกแล้ว

          ‘บ้าชิบ…หายไปไหนแล้ว!?’ เด็กหนุ่มคิดด้วยความหงุดหงิดนั้นเป็นเบาะแสเดียวเกี่ยวกับ‘เธอ’ที่เขาหาพบในตลอดระยะเวลาสิบปีเลยนะ! สิบปีเลยนะโว้ย! จู่ ๆรอบข้างก็รายล้อมรอบไปด้วยเหล่าเด็กหนุ่มกลุ่มหนึ่ง เขาจำได้ว่าเป็นกลุ่มคนที่นั่งข้างๆตอนประฐมนิเทศ เด็กหนุ่มคนแรกเอ่ยด้วยน้ำเสียงกวนประสาท “คิดว่ามีดีที่หน้าตาแล้วจะทำตัวอย่างไงก็ได้อย่างงั้นเหรอ? กล้าดียังไงถึงได้ทำร้ายจิตใจของสาวน้อยน่ารักได้ลงคอ!” คนอื่นที่เดินตามมาด้วยเริ่มส่งเสริมคำกล่าวนั้นพร้อมเริ่มพูดจาท้าทายหาเรื่อง

          ปั้กก! โดยที่ไม่คาดฝันร่างหนึ่งในนั้นกระเด็นล้มลงกับพื้นพร้อมร้องคางโอดโอ้ย เหล่านักเรียนชายที่เหลือกำลังใช้คำพูดอย่างคึกคะนองพลันเปลี่ยนสีหน้าซีดเผือก ‘ชิบหายแล้วไงไอ้นี่มันของจริงนี่หว่า…’ หนึ่งในนั้นที่พึ่งตั้งสติได้ค่อยๆหันตัวกลับแต่ไม่ทันเสียแล้ว มือใหญ่คว้าหมั่บเข้าไปที่ไหล่สั่นเทาก่อนจะเอ่ยเสียงที่เจือปนความหงุดหงิดอย่างไม่กั๊กออกมาช้า ๆ แทบจะทำให้เหล่าหมาหมู่ที่เข้ามาหาเรื่องล้มทั้งยืน

          “พวกแกมาได้จังหวะมาก ฉันกำลังหาที่ระบายอารมย์อยู่พอดี” กล่าวพลางยิ้มมุมปากด้วยสายตาดุดันแพ่รังสีอาคาตออกมาอย่างปิดไม่มิด หลังเสียงทุ้มกล่าวเสร็จก็เกิดความโกลาหลขนาดย่อมขึ้นหน้าประตูทางออก เสียงกรีดร้องและเสียงเอะอะโวยวายดังเข้าไปถึงด้านในของหอประชุมจนมีอาจารย์รักษาความปลอดภัยวิ่งออกมาจัดการความเรียบร้อย แต่ระหว่างที่ทุกอย่างเป็นไปด้วยความวุ่นวายสับสนเด็กหนุ่มต้นกำเนิดความหงุดหงิดก็กำลังเดินจากไปด้วยสีหน้าไม่รู้สึกรู้สาอะไร

          “วันนี้ทุกคนคึกคักกันดีจังแฮะ” เรียวเฮเอ่ยหลังจากได้ยินเสียงเอะอะโวยวายเบื้องหลัง เดินมาซักครู่หนึ่งก็เดินมาถึงหอพักจนได้ ชายหนุ่มวัยกลางคนนั่งอยู่ในห้องควบคุมความเรียบร้อยสังเกตเห็นทั้งคู่ ทานากะซังเดินออกไปทักทายเด็กหนุ่มทั้งสองด้วยน้ำเสียงสดใส

          “ฉันชื่อทานากะ เป็นคนดูแลหอพักแห่งนี้ เธอคงจะเป็นยุกิมูระคุงที่จะย้ายเข้ามาวันนี้สินะ นี่คือคีย์การ์ดของเธอ ถ้าจะออกจากหอไปไหนหลังสามทุ่มต้องแจ้งลุงที่นี่ก่อน สัมภาระของยุกิมูระคุงทุกอย่างได้ถูกส่งไปไว้ที่ห้องแล้ว รูมเมตของเธอชื่อว่าทาคาฮาชิ นัตสึโอะคุงอีกไม่นานก็คงจะได้พบกันแล้ว เวลาของโรงอาหารที่นี่จะมีตอนเช้าหกโมงถึงเจ็ดโมงครึ่ง ส่วนเวลาอาหารเย็นจะเปิดสี่โมงไปจนถึงหนึ่งทุ่ม อาหารกลางวันจะมีเฉพาะวันหยุดเท่านั้น เล่มนี้คือระเบียบของหอพักถ้ามีปัญหาหรือสงสัยอะไรสามารถมาหาลุงที่นี่ได้ เชิญจัดของได้ตามสบายฝากนากามุระคุงช่วยเขาด้วยล่ะของที่ส่งมาค่อนข้างเยอะทีเดียว” ชายวัยกลางคนร่ายยาวก่อนส่งกุญแจพร้อมระเบียบหอพักเล่มเล็กให้

          “รับทราบครับ! เชื่อมือผมได้เลย” เรียวเฮทำท่ายืนตัวตรงวันทยาหัตกล่าวด้วยน้ำเสียงร่าเริง ฟุยุกิส่งยิ้มรับคำทานากะซังก่อนทั้งคู่จะเดินเข้าไปยังร้านของชำใกล้ๆโรงอาหารเนื่องจากเวลาได้ร่วงเลยมาถึงตอนเที่ยงแล้ว ทั้งคู่ซื้อของง่าย ๆมากินก่อนที่จะขึ้นไปยังที่พักอาศัยใหม่ของยุกิมูระ ห้องใหม่ของเขาอยู่บนชั้นสี่ทั้งคู่ขึ้นลิฟต์ก่อนจะหาห้องเจออย่างไม่ยากเย็น ด้วยความบังเอิญเรียวเฮพบว่าห้องของยุกิมูระก็อยู่ถัดออกไปจากห้องตนอีกเพียงไม่กี่ห้อง

          “แปลกจังทำไมห้อง4/21ของนายถึงอยู่ใกล้กับห้อง4/07ของฉันได้เนี่ย”

          “คงเพราะโครงสร้างเป็นแบบตัวU อาคารฝั่งฉันคงพึ่งจะสร้างขึ้นมาใหม่” กล่าวเสียงเรียบก่อนจะใช้คีย์การ์ดเปิดประตูเข้าห้องไป จานที่ยังไม่ล้างยังคงแช่ไว้อยู่ในอ่างล้างจาน กลิ่นอาหารเช้าเจอจางบ่งบอกว่าเคยมีผู้อยู่อาศัยอยู่ในห้องนี้เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ลังกระดาษแข็งจำนวนหนึ่งวางประปรายอยู่ตามพื้นในห้องนั่งเล่น หอพักแบ่งออกเป็นสี่ส่วนใหญ่ๆ สองห้องนอน หนึ่งหน้าน้ำพร้อมห้องซักผ้า และอีกหนึ่งห้องนั่งเล่น

          “ว้าวห้องใหม่กว่าของฉันจริงด้วย ดูท่ารูมเมตของนายจะชอบทำอาหารด้วย ถึงกับพกกระทะไฟฟ้ามาไว้ที่นี่” ฟุยุกิไม่สนใจ เดินตรงไปเปิดหน้าต่างระบายอากาศและแกะลังกระดาษก่อนจะจัดของอย่างกะตือลือล้น ภายในลังกระดาษเกินครึ่งเป็นหนังสือที่เขาชอบอ่านและทำใจไม่ได้ที่จะอาศัยอยู่โดยขาดมันไป สองชั่วโมงผ่านไปเสื้อผ้าและหนังสือทั้งหมดก็ถูกจัดเรียงเข้าชั้นอย่างเป็นระเบียบ เรียงเฮได้แต่บ่นอุบอิบเพราะเขาได้ออกปากไปแล้วว่าจะช่วยจึงต้องแบกกองหนังสือหนักอึ้งไปมาอย่างช่วยไม่ได้ คนบ้าอะไรพกหนังสือมาเยอะขนาดนี้เนี้ย!!... เขาหมดแรงนอนหอบหายใจบนพื้นก่อนจะมองไปยังเจ้าของห้องที่ยืนด้านข้างกำลังเช็คของด้วยท่าทางสบาย ๆ นอกจากจะบ้าหนังสือแล้วกำลังกายยังเหลือล้นอีกด้วย ชั่วโมงก่อนหน้านั้นเจ้านี่แบกของเข้าห้องนู้นออกห้องนี้มากกว่าเขาอีกถึงสองเท่าทำไมถึงทำท่าทางสบาย ๆอย่างงั้นได้หล่ะเนี่ย

          “ของครบ” เสียงเรียบเอ่ยขึ้นพึมพำกับตัวเองก่อนจะเดินตรงไปยังพื้นที่มีเด็กโข่งนอนหมดแรงอยู่ พร้อมก้มลงไปมองหน้าอีกฝ่ายช้า ๆ

          “ขอบใจนายมาก” ฟุยุกิพูดพร้อมส่งยิ้มเล็กน้อยให้กับร่างใหญ่เบื้องล่าง โดยที่ไม่รู้เลยว่ารอยยิ้มนั่นทำให้เรียวเฮลืมหายใจไปเสียแล้ว

          “อะ- อืม…” ให้ตายเถอะปกติเห็นแต่ทำหน้าซังกะตายพอยิ้มแล้วดูดีชำมัดยาก ใบหน้าเด็กโข่งขึ้นสีแดงระเรือไม่รู้ว่ามาจากอาการเหนื่อยหรือความเขินอายกันแน่

          “สี่โมงกว่าแล้วโรงอาหารเปิดพอดี นายลุกไหวมั้ย?” ดวงตาสีฟ้าใสเหลือบมองนาฬิกาข้อมือก่อนจะส่งมือไปให้เด็กหนุ่มที่ทำตัวเป็นหมาบ้านตัวใหญ่ เรียวเฮกล่าวขอบคุณสั้นๆก่อนจะจับมือขาวให้ดึงตนขึ้นอย่างไม่ลังเล ให้ตายสิฉันจะตกหลุมรักผู้ชายไม่ได้นะ! จริงด้วย! คิดสภาพหมอนี่ในชุดเจ้าสาวสิสภาพคงดูน่าสมเพทจนรับไม่ได้แน่ ๆ! แต่แล้วเมื่อภาพในความคิดปรากฎ เขาก็ได้แต่ก้มหน้าหน้าแดงเดินตามยุกิโอะลงไปยังด้านล่างอย่างช่วยไม่ได้…

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

เป็นนิยายเรื่องแรกที่แต่งลงเว็ป ขอฝากไว้ในอ้อมอกด้วยนะค้าบ(>.....<)

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา