ยัยตัวร้าย คุณนายรัฐมนนตรี

-

เขียนโดย มิลินท์1712

วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2562 เวลา 06.07 น.

  13 ตอน
  0 วิจารณ์
  12.44K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 มีนาคม พ.ศ. 2562 21.57 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

9) ครูติมสวยกว่า พวกเธออิจฉาล่ะสิ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
9.40 น. แล้ว กินเวลาคาบแรกไปสิบนาที ไม่รู้ว่าท่าน ผอ. จะคุยกับนักเรียนอะไรกันนักกันหนา สำหรับฉันที่สอนไม่ทันเพราะกิจกรรมเยอะชักอารมณ์เสียกับเวลาที่เสียไป กว่านักเรียนจะเข้าห้องน้ำ กว่าจะเดินเอ้อระเหยเข้าห้องเรียนได้ กินเวลาไปอีกสิบนาที
 
            “เอาการบ้านมาส่งไว้ค่ะ” ฉันบอกนักเรียนหลังจากทักทายกัน
 
            ใช้เวลาให้แค่ลายเซ็นไว้อย่างรวดเร็วระหว่างที่รอพวกช้า ฉันสอนรายวิชาฟิสิกส์ วิชาที่นักเรียนหลายคนเข็ดขยาด เรียกได้กว่ากว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นเกลียดมันเป็นแถบๆ
 
            “กิตติชัย...” เริ่นขานชื่อนักเรียนเป็นรายคน เป็นหนึ่งในการเตรียมพร้อมสำหรับการเรียน เพื่ออะไรน่ะเหรอ เพื่อสังเกตพฤติกรรมเบื้องต้นของนักเรียน สีหน้าท่าทางดูเป็นยังไง อีกอย่างเพื่อให้ครูจำชื่อนักเรียนได้นี่แหละ ฉันสอนนักเรียนชั้น ม.5 ทั้งหมด 4 ห้อง เฉลี่ยห้องละ 40 คน มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะจำชื่อนักเรียนให้ได้ทั้งหมดในวันเดียว “ภัทร์นรินทร์”
 
            “อยู่นี่ครับ...แม่นม” ท้ายประโยคเขาจงใจพูดไม่มีเสียง ก่อนจะเอียงคอมองฉันประมาณว่า ‘มีปัญหาเหรอ’
 
            “อ้าว! ครูนึกว่าวิญญาณ” เสียงเฮจากเพื่อนในห้อง เจ้าภัทรถึงกับตวาดสายตามองเพื่อน “ภีมรวี”
 
            “...” ยกมือแต่ไม่ขานตอบ ตั้งแต่รู้ว่าฉันเป็นเมียพ่อ เจ้าเด็กนี่มันทำหน้ายักษ์ใส่ฉันตลอดเลย
 
        “อชิระ” คนสุดท้ายขานรับเป็นอันว่าครบห้อง ม.5/4 “อีกสองเดือนเราก็จะสอบแล้วนะลูก กิจกรรมของโรงเรียนค่อนข้างเยอะ เทียบเวลากับเรื่องที่เหลือมีเวลาน้อยมาก ดังนั้นให้ตั้งใจไม่ว่าวิชาอะไร เรื่องอื่นเอาไว้ทีหลังก่อน อย่าลืมว่าอีกไม่นานเราต้องขึ้น ม.6 เดี๋ยวพวกเอ็งจะรู้ว่านรกมีจริง”
 
            “บ่นอยู่ได้ สอนๆ เถอะน่าอาจารย์” เจ้าภัทรเอ่ย
 
            “เมื่อเช้าทานอะไรมาจ๊ะภัทร์นรินทร์”
 
            “ก็ข้าวสิครับอาจารย์”
 
            “เหรอ... ครูนึกว่ากินอะไรเหลืองๆ ในห้องน้ำถึงได้หงุดหงิดแต่เช้าเชียว” มาดิ กัดมากัดตอบ กวินธิดาไม่โกงอยู่แล้ว “เอาละๆ มาเข้าเรื่องสักที วันนี้เราจะมาเรียนเกี่ยวกับความถี่ธรรมชาติและการสั่นพ้องของเสียง ครูจะให้พวกเราดูคลิปวิดีโอนี้แล้วตอบคำถามค่ะ”
 
            ฉันเปิดคลิปสะพานแขวนทาโคมาแนโรว์ที่ถูกออกแบบให้รับแรงลม 120 ไมล์ต่อชั่วโมง แต่ความเร็วลมในวันที่สะพานแขวนพังเพียงแค่ 40 ไมล์ต่อชั่วโมง อธิบายได้ว่า วัตถุที่แขวนอยู่มันจะมีความถี่ธรรมชาติอยู่ค่าหนึ่ง ถ้าวัตถุได้รับความถี่ตรงตามความถี่ธรรมชาติมันจะสั่นแรงขึ้นๆ จนทำให้สะพานขาด เปรียบเทียบกับการแกว่งชิงช้า มันจะแกว่งแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อคนผลัก ผลักให้ตรงกับรอบที่กำลังจะแกว่งอีกครั้ง ลักษณะนี้เราเรียกว่า การสั่นพ้อง (Resonance)
 
            เนี่ย! เป็นเรื่องชวนปวดหัวใช่ไหมล่ะ
 
            สอนไปใส่มุขไป เป็นวิชาที่ต้องใช้ทักษะอย่างมาก โดยส่วนมากรวมถึงที่นี่จะเน้นฟิสิกส์คำนวณ เน้นให้ทำข้อสอบได้เพื่อสอบแข่งขันในระดับสูงขึ้น ฉันมักจะใส่พวกการทดลองให้เยอะเพื่อความเข้าใจที่คงทน เน้นการปฏิบัติ การแก้โจทย์ปัญหา
 
            หลายครั้งถึงกับต่อต้านกับวิชาที่ตนสอน เรียนไปทำไมเยอะว้า เรียนไปก็ไม่ได้ใช้ทั้งหมดอยู่ดี คนทำหลักสูตรเขาต้องการอะไรเหรอ? ต้องการให้นักเรียนเป็นนักวิทยาศาสตร์ทุกคนเลยว่างั้น
 
            ไม่รู้ว่าสนุกหรืออะไร เวลาไม่ถึงสองชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว นักเรียนบอกทำความเคารพ น่าแปลกที่ตลอดการสอนเจ้าสองตัวนั่นไม่คั่นหรือขัดขวางฉัน ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ
 
 
            พักเที่ยง ฉันหอบสังขารอันอ่อนแรงลงมาจากอาคาร ตรงไปยังห้องหมวดวิทยาศาสตร์ซึ่งอยู่อีกอาคาร คนจัดชั่วโมงสอนก็ช่างไม่ดู สี่ชั่วโมงรวด เล่นเอาแรงของฉันที่มีหายไปหมด ข้าวเช้าก็ไม่ได้ทานเพราะความรีบ แต่ถึงจะไม่รีบก็ไม่รู้จะทำหน้ายังไงเวลาร่วมโต๊ะกับอิตารัฐมนตรีขี้เก็กนั่น
 
            “พี่เก้าคะ วันนี้ไปทานข้าวไหนดี” เพราะฉันรู้ว่าพี่เก้าเพื่อนรุ่นพี่ที่โรงเรียนสอนวิชาชีววิทยาว่างคาบนี้ ส่วนฉันเหรอ หมดคาบที่จะสอนแล้ว จะเหลือก็แต่เคลียร์งานอื่นๆ
 
            “ข้าวมันไก่หน้าโรงเรียนแล้วกัน ว่าแต่เมื่อเช้าอะ ทำไมมากับนักเรียนได้”
 
            “เดี๋ยวเล่าค่ะ” เล่าตรงนี้ได้ไงเล่า มีคนอยู่ไม่ต่ำกว่า 5 คน มันควรเป็นความลับเหอะ “ไปค่ะน้องป็อบน้องเล็ก วันนี้พี่เลี้ยงเอง” สองสาวนักศึกษาฝึกสอน ค่อนข้างสนิทกับรุ่นพี่อย่างฉันพอสมควร คบกันได้ไม่กี่คนหรอก นอกนั้นเหรอ หอกค่ะหอก แทงแล้วมันเจ็บ
 
            เดินลงมาเจอกับน้องๆ นักศึกษาและพี่โด่งครูจากห้องพละศึกษาจึงชวนกันอีก กลายเป็นว่าเราไปถล่มร้านเจ้อ้อยหน้าโรงเรียน ดีที่คิวไม่ค่อยแน่น ทั้งแกยังมีลูกมือเยอะจึงรอไม่นาน
 
“เล่ามาเลยนะ พี่ยังไม่ลืมง่ายๆ รู้ไหมว่าเด็กห้องพี่อะมันเม้าส์กันใหญ่” พี่เก้าเป็นที่ปรึกษาห้อง ม.6/7
 
“เด็กมันก็นินทาไปทั่วแหละค่ะ ไม่มีครูในโรงเรียนนี้ที่รอดจากการโดนนินทาหรอก” เป็นความชินที่ชาไปเอง
 
“มันว่าเธอกินเด็กน่ะสิ พี่เลยแซวๆ ว่า ครูติมสวยกว่า พวกเธออิจฉาล่ะสิ ตกลงมันยังไงกันแน่พี่ก็อยากรู้เหมือนกัน”
 
โต๊ะของเรามีแค่พี่เก้า น้องป๊อบ น้องเล็ก และพี่ฝ้าย ครูเอกภาษาอังกฤษ ทุกคนต่างรอคำตอบ เอาล่ะนะ
 

 
 
แม่จะเล่าแล้วน้า จะเล่าแว้วว
 
 
 
จิ้ม >> เพจมิลินท์ 
จิ้ม >>วิธีการซื้ออีบุ๊ค MEB
 
 



 




ยัยตัวร้าย คุณนายรัฐมนตรี


มิลินท์


www.mebmarket.com


เขาคือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการที่ฮอตสุดๆ ในเวลานี้ อายุ 37 ปี แต่หน้าตาเหมือนยี่สิบปลายๆ จะไม่ให้ฉันหวั่นไหวได้ยังไง วันแรกเขาก็จับฉันเข้าหอแบบไม่ทันตั้งตัว!









 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา