สลักใจจอมทัพ

-

เขียนโดย Xiaobei

วันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2562 เวลา 19.52 น.

  23 บท
  0 วิจารณ์
  16.53K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2562 11.50 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

18) บทที่ 4-4

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

การสั่นคลอนต่อเนื่องทำเอาทุกคนยืนไม่อยู่ ตัวเรือเริ่มเอียงทำให้ทั้งสองคนที่อยู่ใกล้ขอบเรือทรงตัวไม่อยู่ ค่อยๆ ร่วงลงทะเลสาบตามลำเรือที่เอียง

“ช่วยด้วย!” ตันโหรวอีร้องตะโกน จากนั้นก็ร่วงลงสู่ผิวน้ำ

“พี่รอง!” ตันกุ้ยตะโกนอย่างตกใจ เห็นพวกเขาทั้งสองร่วงลงทะเลสาบกับตา

จีสิบสองมองทั้งสองคนที่หายไปจากเรืออย่างตกใจเช่นกัน ทันใดนั้น ความรู้สึกหนาวเย็นก็พุ่งจากฝ่าเท้ามาถึงศีรษะ ความรู้สึกหนาวเย็นที่คุ้ยเคยนางจำได้อย่างแม่นยำ เพราะก่อนหน้านี้ไม่นานเพิ่งได้รับความรู้สึกเช่นนี้ จึงรีบมองรอบๆ กลับไม่พบอะไร

“เจ้ามัวทำอะไรอยู่ รีบหนีเร็ว!” ตันกุ้ยคว้ามือนางทั้งร้องตะโกน เวลาเดียวกันลากนางไปที่ท้องเรือ

นางตั้งสติกลับมาได้ทันที ตะโกนอย่างร้อนรนว่า “เดี๋ยวก่อน พี่รองของเจ้าและเสวี่ยหรั่นร่วงลงไปแล้ว รีบให้คนไปช่วยพวกนาง!”

ตันกุ้ยสีหน้าร้อนรน พูดโดยไม่หันกลับมาว่า “ตอนนี้พวกนางร่วงลงทะเลแล้วยังจะดีเสียกว่า ใกล้ๆ มีเรืออาจจะช่วยคนได้ แต่พวกเราควรช่วยตัวเองก่อน ต้องให้คนที่อยู่บนเรือทั้งหมดหนีไปให้ได้!”

จีสิบสองได้ยินก็เถียงไม่ออก ไฟลามขึ้นมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นบนฝั่งหรือเรือที่อยู่รอบๆ ก็น่าจะมีคนสังเกตเห็น จึงได้แต่อธิษฐานขอให้พวกนางที่ตกลงทะเลสาบถูกช่วยเอาไว้ทัน

วิ่งมาถึงท้ายเรือ ก็เห็นคนใช้จำนวนไม่น้อยกระโดดลงผิวน้ำก่อนแล้ว จีสิบสองถูกตันกุ้ยผลักมาที่ขอบเรือที่มีคนคุมเชือกหนา “รูดเชือกลงไปก็เป็นเรือเล็ก รีบลงไป”

สีหน้าของจีสิบสองขาวซีด ตอนนี้นางเข้าใจแล้วว่าความตายอยู่ใกล้ตัวเองขนาดไหน ไม่มีเวลาเป็นห่วงคนอื่นแล้วจริงๆ ต้องเอาชีวิตตัวเองให้รอดก่อน หลังจากให้คนผูกเชือกที่เอวตัวเองแล้ว ก็รูดลงมาตามลำเรือไปบนเรือลำเล็ก และตันกุ้ยก็ตามลงมาทีหลัง

ขณะที่เรือลำเล็กกำลังจะพายออกไปอยู่นั้น จีสิบสองพลันนึกขึ้นได้ว่ายังมีอีกคนหนึ่ง จึงร้องอย่างตกใจว่า “เป่าฉือ? สาวใช้คนนั้นล่ะ!” ความวุ่นวายเมื่อสักครู่จึงไม่มีใครสังเกตเห็น ค้นหาบนผิวทะเลสาบไปมากลับไม่เห็นเงาคน นางรีบจับตันกุ้ย “นางไปไหนแล้ว!” “ไม่รู้ ไม่แน่อาจจะยังหนีออกมาไม่ได้” ตันกุ้ยไม่มีกระจิตกระใจสนใจสาวใช้คนนี้ว่าจะเป็นหรือตาย สิ่งสำคัญที่สุดคือไม่รู้ว่ามีคนช่วยเหลือพี่รองแล้วหรือยัง

จีสิบสองคุกเข่านั่งลงบนเรือ สายตามองไปที่เรือลำใหญ่ที่ถูกเปลวเพลิงกลืนกิน...

 

ฝูงชนริมทะเลสาบสังเกตเห็นเรือที่อยู่กลางกลางทะเลสาบจู่ๆ ก็สั่นสะเทือนรุนแรง ในเวลาเดียวกันก็มีหญิงสาวสองคนร่วงจากเรือไปที่ทะเลสาบ เสียงตกใจและถอนหายใจจึงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในความวุ่นวายก็มีแต่อาศัยเรือที่อยู่ใกล้ๆ ไปช่วยคน แต่ตรงกลางทะเลสาบจิ้งสุ่ยก็ดันเป็นจุดที่น้ำลึกที่สุด ร่วงลงไปเช่นนี้ใช่ว่าจะช่วยได้ในทันที

ขณะที่ฝูงชนริมฝั่งกำลังร้อนรนทำอะไรไม่ได้อยู่นั้น คนตระกูลโม่ทั้งสองที่อยู่ในฝูงชนต่างก็ตกใจเช่นกัน โม่เหยียนเหงื่อตกจ้องเรือที่เสวี่ยหรั่นตกลงทะเลสาบ หวังว่านางจะรีบโผล่ขึ้นมาเพื่อให้รู้ว่านางไม่เป็นอะไร แต่จนถึงตอนนี้ไม่ใช่แค่ศีรษะแม้แต่เสื้อผ้ารองเท้าก็ไม่ลอยขึ้นมา เขาจึงพูดกับโม่ฉิงหลิงอย่างร้อนรนว่า “รีบไปช่วยนางเร็ว เจ้าว่ายน้ำเป็นไม่ใช่หรือ?”

“ข้าว่ายน้ำเป็น แต่ข้าเกรงว่าข้าคงจะถูกคนที่ร้อนรนเหล่านี้เบียดตายเสียก่อน” เขาพูดอย่างทำอะไรไม่ได้

“ถุย เจ้าคนไร้ประโยชน์!” โม่เหยียนจ้องเขา โมโหท่าทางที่ทำราวกับไม่ใช่เรื่องของตัวเองเช่นนั้น

ทั้งๆ ที่เขาเคยช่วยแม่นางคนนั้นครั้งหนึ่งยังถูกบอกว่าไร้ประโยชน์อีก  ช่างเจ็บปวดเสียจริง “วางใจเถอะ เมื่อครู่ข้าเห็นแล้ว”

“เห็น?” เขามองไปที่โม่ฉิงหลิง “เห็นอะไร?”

“เรือขององค์ชายเจิ้นก็อยู่ที่ข้างๆ เรือของตระกูลตัน เหมือนว่าจะเตรียมการเอาไว้ก่อนแล้ว” และเขาก็ชี้ไปทางเรือของตระกูลตันพูดอีกว่า “พอแม่นางเสวี่ยหรั่นตกลงไปที่ทะเลสาบเขาก็กระโดดตาม น่าจะช่วยขึ้นมาแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเขาช่วยคนเดียวหรือว่าช่วยทั้งสองคน”

โม่เหยียนได้ยินดังนั้นก็โล่งใจ แต่ก็อดเป็นห่วงแม่นางที่ตกลงไปในทะเลสาบอีกคนไม่ได้ เพราะตามนิสัยขององค์ชายเจิ้นแล้ว เขาน่าจะ...ไม่ช่วยกระมัง

โม่ฉิงหลิงกางพัดออก แล้วฉีกยิ้มอย่างสบายอารมณ์ “ช่างเถอะ เขาไม่ช่วยก็มีคนอื่นช่วย ตอนนี้ต้องตามหาแม่นางเสวี่ยหรั่นที่ถูกช่วยขึ้นมา ว่าอยู่ที่ใดเสียยังดีกว่า”

“เจ้าพูดถูก พวกเราไปกันเถอะ!” เขารู้สึกมีเหตุผล จึงลากโม่ฉิงหลิงออกจากฝูงชนไปตามหาคนอย่างร้อนรน และก็ไม่ได้สังเกตเรือเล็กตระกูลตันที่พายเข้าใกล้ฝั่งมีร่างงามที่คุ้นเคยในทันใด

หลังจากจีสิบสองถูกประคองขึ้นฝั่ง คนของทางการก็มาถึงจัดการเรื่องช่วยคนต่อ นางนั่งอยู่ริมฝั่งมองท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ปล่อยดอกไม้ไฟจนหมดในใจมีความรู้สึกซับซ้อน น่าจะเชื่อฟังพี่สี่รีบออกไปถึงจะถูก ถ้านางที่อยู่ที่นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจริงๆ จะต้องถูกพี่สามหัวเราะร่าหลายครั้ง พูดคำว่าโง่งมมาให้เป็นของขวัญกระมัง

ตันกุ้ยที่อยู่ข้างๆ ทำหน้าบึ้ง ในใจร้อนรนไม่หายหากพี่รองเกิดเรื่องอะไรขึ้นไม่ใช่แค่ประโยคเดียวก็จบเรื่องได้

โชคยังดีที่ไม่นานตันโหรวอีก็ถูกคนใช้เรือเล็กช่วยขึ้นมาที่ฝั่ง เห็นนางเปียกไปทั้งตัวยังหวาดผวาอยู่ แม้ท่าทางจะน่าสงสาร แต่ก็ทำเอาทุกคนผ่อนคลายลง

จีสิบสองพอเห็นนางขึ้นฝั่งแล้วก็ไม่มีคนอื่นอีก นางสูดหายใจเข้าลึกๆ สงบอารมณ์มองคนที่ถูกส่งขึ้นฝั่งอย่างต่อเนื่อง จนฝูงชนที่มุงดูค่อยๆ สลายไป เรือถูกเผาวอดเถ้าถ่านก็ยังไม่เห็นเสวี่ยหรั่นและเป่าฉือถูกช่วยขึ้นฝั่ง นางมีสีหน้าขาวซีดคว้าตันกุ้ยพูดว่า “จะหาคนไม่เจอได้อย่างไร ตันโหรวอีถูกช่วยขึ้นมาแล้ว เสวี่ยหรั่นและเป่าฉือจะหายได้อย่างไร?”

ตันกุ้ยมองนางไม่รู้จะพูดอะไร กลัวว่านางจะเสียใจ

“ไม่เห็นก็คือจมไปแล้ว” เสียงที่เหมือนไม่ใช่เรื่องตัวเองลอยมา คนทั้งสองมองไปที่ตันโหรวอีข้างๆ ที่เปียกไปทั้งตัวแม้จะเห็นนางตัวสั่นเทา ทว่าคำพูดที่ออกจากปากทำเอาความสงสารของจีสิบสองหายไปจนสิ้น

“นายหญิงน้อยพูดเช่นนี้ไร้ความเมตตาเกินไปแล้ว” ความรู้สึกโกรธทำเอานางไม่พูดไม่ได้

“แล้วเกี่ยวอะไรกับเจ้า?” นางเหลือบมองอย่างเย็นชา

เห็นท่าทางไม่ใช่เรื่องของตัวเองยิ่งทำเอานางโกรธมากขึ้น น้ำเสียงก็เดือดพล่านขึ้นมา “ชีวิตคนจะบอกว่าตายง่ายๆ ได้เช่นนี้หรือ อย่างน้อยพวกนางก็เป็นคนของตระกูลตัน” นางประเมินนิสัยของผู้หญิงคนนี้ต่ำไปจริงๆ นี่มันเกินไปแล้ว

ตันโหรวอีร้องหึอย่างเย็นชา “ในเมื่อเป็นคนรับใช้ของตระกูลตัน ต่อให้นางจะอยู่หรือตายคนอื่นก็ไม่มีสิทธิ์ยุ่ง มีแต่คนตระกูลตันถึงตัดสินได้  อีกอย่างทางการจะส่งคนมากมายค้นหาข้ารับใช้ตลอดเวลาได้อย่างไรกัน”

จีสิบสองรู้สึกโมโหมาก เกือบจะควบคุมตนเองไม่อยู่พุ่งเข้าไปตบนางทีหนึ่ง แต่นางก็ทนเอาไว้ เพราะอย่างไรนางก็ไม่ตบผู้หญิง นางสะบัดแขนเสื้อไม่อยากพูดคุยกับนางอีก พูดไปก็เท่านั้น ที่สำคัญคือต้องรีบหาคนให้เจอ นางหันไปจะเดินไปทางผู้ดูแลใหญ่สอบถามความคืบหน้าการค้นหา

แต่นางเพิ่งหันหลังไปก็ได้ยินตันโหรวอีพูดเย้ยหยันว่า “เจ้าคิดว่าตัวเองสำคัญแค่ไหนกันเชียว ข้าขอเตือนเจ้าก่อนว่ารีบไปเสียเถอะ อย่าคิดว่าตัวเองมีใบหน้างดงามแล้วจะมีคนมากมายยอมช่วยเจ้า” ตันโหรวอีเหลือบมองแผ่นหลังของนาง

“พี่รอง เลิกพูดได้แล้ว!” ตันกุ้ยเอ๋ยห้ามด้วยสีหน้าย่ำแย่

แต่ว่านางกลับไม่ได้น้อยใจอย่างที่ตันโหรวอีคิด นางแค่ยิ้มให้นางแล้วก็ไปหาผู้ดูแลใหญ่  ปล่อยให้นางยืนค้างอยู่กับที่

จีสิบสองกัดฟันด่าอยู่ในใจว่า แม่นางน่าชังผู้นี้ต้องถูกสั่งสอนสักรอบจริง!

นางเดินมาข้างผู้ดูแลใหญ่แล้วถามขึ้นอย่างร้อนรนว่า “เป็นอย่างไรบ้าง? หาคนเจอหรือไม่?” ผู้ดูแลใหญ่เห็นนางก็ส่ายหน้าทันที “ยัง ยังหาไม่เจอ”

ได้ยินเช่นนี้ นางจึงได้แต่ยืนรออยู่ข้างๆ ทำอะไรไม่ได้

“หวังว่าคุณชายใหญ่รู้แล้วจะไม่เดือดพล่าน” ได้ยินเสียงถอนหายใจของผู้ดูแลใหญ่ นางจึงถามด้วยความสงสัยอย่างอดไม่ได้ “คุณชายใหญ่เขาเป็นอะไรหรือ?”

เขาเข้าใกล้นางแล้วพูดเสียงเบาว่า “ความจริงแล้วในใจคุณชายใหญ่ชอบสาวใช้ที่ชื่อเสวี่ยหรั่นผู้นี้”

“จริงหรือ?” ข่าวนี้ทำเอานางตกใจไม่น้อย

ผู้ดูแลใหญ่พูดเสียงเบาว่า “เรื่องนี้รู้กันเพียงไม่กี่คน เป็นเรื่องสมัยคุณชายใหญ่ยังเยาว์วัย”

“เช่นนั้นก็เป็นเรื่องสมัยเด็ก ตอนนี้อาจจะไม่เหมือนเดิมแล้ว”

ผู้ดูแลใหญ่ส่ายหน้า “เพราะอุบัติเหตุที่เคยเกิดขึ้นในอดีต คุณชายใหญ่รู้สึกผิดจึงรักษาระยะห่างอยู่ตลอด”

“อุบัติเหตุ? อุบัติเหตุอะไร?” หรือว่าจะเป็นอุบัติเหตุที่ทำให้เสวี่ยหรั่นไม่ได้ยิน?

“มันเป็น...” ยังพูดไม่ทันจบก็เห็นตันกุ้ยเดินเข้ามา “เช่นนั้นเจ้าถามคุณชายกุ้ยเถอะ เขาก็น่าจะรู้เช่นกัน” พูดจบ เขาก็สั่งงานของเขาต่อ

“แม่นางจี ระวังเป็นหวัด” พูดพลางฉวยโอกาสเอามือพาดนางแล้วดึงนางเข้าใกล้ตัวเขา

จีสิบสองเห็นดังนั้น ก็หรี่ตาลงอย่างเย็นชาคิดจะแกล้งให้เขาล้มอย่างเงียบๆ แต่เพิ่งคิดแผนก็ได้ยินเขาพูดว่า “ ท้องฟ้าเริ่มมืดลงแล้ว ส่วนพี่รองให้คนส่งกลับบ้านไปก่อนแล้ว พวกเราจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย แล้วกลับกันเถอะ”

นางตกใจ พูดแย้งขึ้น “ได้อย่างไร ยังไม่ช่วยคนเลย”

“จะว่าเช่นนั้นก็ใช่ แต่ทุกคนล้วนเหนื่อยกันหมดแล้ว จะให้ทุกคนหาแบบนี้ต่อไปก็คงไม่ได้”

“แต่ว่า...”

“วางใจเถอะ ข้าสั่งคนเอาไว้แล้ว พวกเรากลับไปก่อนเถอะ” พูดจบ เขาก็จูงมือนางออกจากฝั่ง จีสิบสองขนลุกทั่วร่างทันที ตัดสินใจจะหนีจากบ้านตระกูลตันไปขอความช่วยเหลือจากพี่สี่

ระหว่างทางที่กลับบ้านตระกูลตัน จีสิบสองคิดถึงบทสนทนาของนางกับพี่สี่และเหตุการณ์ไฟไหม้ที่เกิดขึ้นกะทันหันอย่างอดไม่ได้ จึงมองริมฝั่งด้วยความกังวล ความรู้สึกกระวนกระวายใจก่อตัวขึ้นมา เหมือนกับอาการสั่นสะท้านที่จู่ๆ ก็รู้สึกบนเรืออย่างนั้น ทำเอาไม่นึกถึงไม่ได้

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา