ก๊วนเทพวัยใสป่วนหัวใจให้ตกหลุมรัก

-

เขียนโดย เจ้าหนอน

วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 01.37 น.

  19 ตอน
  1 วิจารณ์
  14.68K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 17.24 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

9) ตอนที่ 8

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

              หลังจากที่เรื่องคดีนักเรียนหายจบลง ฉันที่สภาพจิตใจยังไม่ดีขึ้นเลยยังทำงานที่สภานักเรียนไม่ได้ แต่วันนี้ฉันต้องเข้าประชุมเพราะอาจารย์บอกว่ามีเรื่องด่วนซึ่งฉันเองก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร
             “ เอาล่ะ จากที่ผ่านมาทุกคนทำงานหนักกันมามาก ทางสภาอาจารย์จึงมีมติให้หาสมาชิกมาเพิ่มเพื่อช่วยพวกเธอในการทำงาน” ผอ. เปิดประชุม จะมีสมาชิกมาเพิ่มงั้นหรอ? หวังว่าคงไม่ทำให้ผิดหวังเหมือนคราวที่แล้วนะ
               “และสมาชิกใหม่ที่จะช่วยงานพวกเธอคือ……” ผอ.ผายมือไปทางประตู ก่อนที่ชายหนุ่มสองคนจะเดินเข้ามาในห้อง
              “คาราโมชิ โกเซน กับ โมงามิ โชตะงั้นหรอ” ฉันเอ่ยขึ้นเบาๆสองหนุ่มนี่จะไหวหรอ เห็นว่าเป็นเด็กใหม่ด้วย
              คาราโมชิ โกเซนส่งยิ้มทักทายมาให้ฉันที่ตีหน้านิ่งใส่เขาจนทำเอาเขาหุบยิ้มแทบไม่ทัน ส่วนโมงามิ โชตะก็ยังคงตีหน้านิ่งเหมือนทุกอย่างเป็นเรื่องปกติ
              “คาดว่าหลายๆคนคงรู้จักเขาสองคนแล้วในฐานะนักเรียนที่ย้ายเข้ามาใหม่เมื่อสามเดือนก่อน” ย้ายเข้ามาเมื่อสามเดือนก่อน เขาไม่เรียกว่าใหม่แล้วค่ะ ผอ. -_-^^
             “คาราโมชิ โกเซน กับ โมงามิ โชตะ” ฉันพูดขึ้น ทุกคนในสภาต่างหันมามองฉันเป็นตาเดียว อ้าว? ก็คนเขาเคยคุยกันนี่นา
              “คงมีแต่ควีนคนเดียวเท่านั้นแหละที่รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับทุกคนในโรงเรียน และผอ.คิดว่าสองคนนี้คงไม่เป็นกรณียกเว้น ใช่มั้ยควีน??”  ผอ.ถามและเปิดโอกาสให้ฉันได้พูด จะเอาให้ละเอียดเลย
              “ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ คุณคาราโมชิ โกเซน ฐานะทางบ้านปานกลาง เป็นลูกชายคนเดียวของตระกูล  ส่วนสูง 183 น้ำหนัก 53 กรุ๊ปเลือด B  เกิดวันที่ 16 มีนาคม  1994 มีงานอดิเรกคือม่อสาว หยอดคำหวานให้สาวตกหลุมรักเล่น ไม่ค่อยจริงจังกับสิ่งที่ทำสักเท่าไหร่ ชอบวิชาวิทยาศาสตร์ ไม่ชอบวิชาสังคม เก่งการต่อสู้ด้านคาราเต้ เทควันโด้ ส่วนการเรียนอยู่ระดับแนวหน้าของสายชั้น” ทุกคนมองฉันสลับกับคาราโมชิ โกเซนไปมาเหมือนกำลังจะถามว่าเราสองคนมีซัมธิงรองกันหรือเปล่า โดยเฉพาะเทสึที่ตาแทบทะลุออกมานอกเบ้า
                “ส่วนคุณโมงามิ โชตะ ฐานะทางบ้านปานกลาง และเป็นลูกชายคนเดียวเช่นกัน ส่วนสูง 182 น้ำหนัก 52 กรุ๊ปเลือด A  เกิดวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 1994 มีงานอดิเรกคือปิ้งบาร์บิคิวและดูดาว ชอบวิชาประวัติศาสตร์ ไม่ชอบวิชาดนตรี เป็นคนพูดน้อย เก่งเรื่องวางแผน รอบคอบและแน่นข้อมูลในทุกเรื่อง เก่งการต่อสู้ด้านดาบและปืน เป็นคนที่ชอบทำมากกว่าพูด ส่วนผลการเรียนก็จัดอยู่ในระดับแนวหน้าของสายชั้น” ทุกคนในที่ประชุมถึงกับอ้าปากค้าง เพราะข้อมูลที่ฉันพูดไปมันต้องสนิทกันจริงๆถึงจะรู้ แต่ฉันเจอเขาแค่ครั้งเดียวก็สามารถรู้ทุกอย่างได้แล้ว เพียงแค่มองตา
                ออ! ฉันลืมบอกไปอีกเรื่อง ความสามารถพิเศษอีกอย่างของฉันคือ แค่มองตาคนๆนั้นฉันก็สามารถรู้ได้เลยว่าประวัติของเขาเป็นยังไงและในแต่ละวันพวกเขาทำอะไรกันบ้าง
                 “สมกับเป็นควีนของMeitoka Giluku Senio  High ไม่มีใครทำแบบนี้ได้อีกแล้ว” ผอ.ที่ได้สติก่อนใครเอ่ยขึ้น บางทีอาจไม่ใช่แค่ฉันก็ได้เพราะเทสึอาจจะทำได้เหมือนกัน
                 “ถ้างั้นเราสองคนคงไม่ต้องแนะนำตัวแล้วมั้งครับ” คาราโมชิ โกเซนเอ่ยขึ้นพลางส่งยิ้มแห้งๆมาให้ ดูจากสายตาของเขาแล้วฉันก็รู้ว่าเขาอึ้งแค่ไหนว่าฉันรู้เรื่องพวกเขา
                 “ต้องขอโทษทั้งสองคนด้วยนะคะ ที่ฉันก้าวก่ายประวัติของพวกคุณมากเกินไป จนทำให้พวกคุณอึดอัด” ฉันโค้งขอโทษ ถึงแม้ฉันจะมีความสามารถพิเศษรู้ประวัติของคนอื่นเพียงแค่มองตา แต่การทำแบบนั้นมันก็ให้พวกเขาอึดอัดและไม่พอใจได้เช่นกัน
               “ไม่เป็นไรหรอกครับ” คาราโมชิ โกเซนบอกเหมือนเป็นเรื่องปกติ ความจริงฉันไม่ได้รู้แค่นั้นหรอกนะ ประวัติพวกเขามันมีมากกว่านั้น
               “เอาล่ะทุกคน สองคนนี้จะอยู่ในตำแหน่ง มือขวาและมือซ้ายของควีน ทุกคนไม่ใครคัดค้านนะ”
               “ผมขอคัดค้าน!!!” แต่คนข้างตัวฉันกลับคัดค้านซะงั้น
               “เหตุผลล่ะ?” ผอ.ถามเทสึที่ออกปากปฏิเสธ ถ้าเหตุผลไม่เข้าหูเขาก็จะโดนตำหนิ ส่วนฉันก็จะหัวเราะเขาแทน ฮะๆ ^O^!
               “เพราะพวกเขาเป็นสมาชิกใหม่ อาจจะมีความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ ทางที่ดีผมว่าน่าจะให้พวกเขาฝึกงานไปสักพักก่อน เพื่อเรียนรู้งานที่จะทำและเพื่อทดสอบด้วยว่าพวกเขามีความรับผิดชอบมากน้อยแค่ไหน”  ฉันอมยิ้มเมื่อฟังเหตุผลของเขาจบ หวงฉันก็บอกมาเถอะน่า
               “เป็นเหตุผลที่ดี มีใครเห็นด้วยกับคุณไอระบ้าง?” ผอ.ถามขึ้น ซึ่งฉันยกมือเป็นคนแรก ก่อนจะตามด้วยเหล่าสภาอาจารย์
               “เอาเป็นว่าตามนี่นะทุกคน พวกคุณไม่ว่าอะไรใช่มั้ยถ้าเราจะทำตามข้อเสนอของคุณไอระ” ผอ.หันไปถามสองหนุ่ม ซึ่งพวกเขาก็ไม่คัดค้าน เป็นอันว่าเทสึชนะ อุส่าคิดไว้แล้วเชียวว่าจะซ้ำเติมเขายังไง ผิดหวังอ่ะ 
               “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องขอความร่วมมือจากสภานักเรียนทุกคนช่วยฝึกงานให้พวกเขาด้วย ฝากด้วยนะควีน” ผอ.หันมาฝากฝังทั้งสองหนุ่มให้ฉันดูแล ซึ่งฉันก็พยักหน้ารับ
               “เป็นอันว่าผมขอจบการประชุมเพียงเท่านี้ ขอบคุณทุกคนที่มาประชุม” 

               หลังจากการประชุมจบลงหน้าที่แรกที่ฉันต้องทำคือพาสองหนุ่มมารู้จักกับสมาชิกสภานักเรียน ความจริงทุกคนรู้จักพวกเขากันหมดแล้วล่ะ ยกเว้นพวกเขาที่ยังไม่รู้จักใครนอกจากฉันกับเทสึ
             “อยากฝึกงานฝ่ายไหนก่อนล่ะ?” ฉันถาม เพราะงานสภานนักเรียนมีทั้งหมดสี่ฝ่ายคือฝ่ายบริหาร ฝ่ายวิชาการ ฝ่ายปกครองและฝ่ายการบัญชี ซึ่งฉันอยู่ฝ่ายบริหารส่วนเทสึอยู่ฝ่ายวิชาการ
             “ถ้าไม่ว่าอะไร ผมขอเป็นฝ่ายบริหารได้มั้ยครับ” ฉันน่ะไม่เป็นอะไรหรอก แต่ใครบางคนที่ออกปากเสนอให้พวกเขาฝึกงานต่างหากล่ะที่เป็น
               “ไม่ว่าอะไรนี่คะ แล้วคุณโมงามิล่ะ?” ฉันมองข้ามไหล่โกเซนไปถามโชตะที่ยังคงปิดปากเงียบ
              “โชตะหรอ?” โกเซนหันไปถามเพื่อนตัวเอง ก่อนคำตอบจะได้มาแม้เจ้าตัวจะยังไม่ได้ปริปากบอกก็ตาม
              “ของโชตะเป็นฝ่ายการบัญชีครับ” พวกนี้สื่อสารกันทางจิตหรือเปล่าว่ะ ทำไมรู้ว่าเขาอยากฝึกฝ่ายไหน?
               จู่ๆเทสึก็เดินตึงตังออกจากห้องสภาฯไป ฉันพอรู้อยู่หรอกว่าเป็นเพราะอะไรถึงไม่ได้ตามไป ปล่อยไว้คนเดียวคงไม่เป็นไรมั้ง อย่างหมอนั่นคงสงบสติอารมณ์ได้เร็วอยู่หรอก
               ฉันเริ่มสอนงานให้โกเซนซึ่งเจ้าตัวก็ดูจะลัลลากับการฝึกงานมาก เขาดูตั้งใจ เวลาไม่เข้าใจเขาก็ถาม ถ้าเป็นแบบนี้ได้ตลอดก็ดีไป
               “โอ๊ย!!!” ฉันกุมมือตัวเองเพราะรู้สึกเจ็บอย่างไม่ทราบสาเหตุ ให้ตาย!! เหมือนกับว่ามือฉันไปต่อยกำแพงมาเลยเจ็บ!!
               “เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ?” โกเซนถามขึ้นพลางดึงมือฉันไปดู ตอนนี้มันเริ่มแดงแล้ว แถมมีเลือดออกด้วย เจ็บอ่ะ T^T
              “ไม่เป็นไร” ฉันปฏิแสธก่อนจะชักมือกลับ เทสึกำลังระบายอารมณ์อยู่แน่ๆ
               ฉันวิ่งออกจากห้องสภาฯก่อนจะตรงมาที่สวนหลังโรงเรียน เป็นเพราะพันธะที่ฉันกับเทสึทำฉันถึงรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน
               แล้วก็เป็นอย่างที่ฉันคิด เทสึต่อยกำแพงไม่ยั้งเพราะความโกรธ หัดคิดถึงคนอื่นซะบ้างเซ่!!!
               “หยุดนะเทสึ!!” ฉันคว้าแขนเขาเอาไว้ก่อนที่เขาจะต่อยกำแพงอีกรอบ นายเจ็บฉันเองก็เจ็บนะ!!
               “มาทำไม!? ทำไมไม่อยู่ฝึกงานให้พวกนั้นต่อล่ะ!” เทสึหันมาถามเสียงแข็ง แล้วมันเพราะใครล่ะ!!??
              “มันก็เพราะนายไม่ใช่หรือไง! ฉันถึงต้องมาอยู่ตรงนี้น่ะ!!” ฉันตวาด เพราะเขาไม่ใช่หรือไงฉันถึงได้มายืนอยู่ตรงนี้น่ะ!
              “มันจะเป็นเพราะฉันได้ไง ฉันก็อยู่ของฉันดีๆมันจะไปเกี่ยวกับเธอได้ไง!!” 
             “นายเป็นบ้าอะไรไปแล้วน่ะ!! หัดใช้เหตุผลซะบ้างสิโอ๊ย!!” ฉันร้องเสียงหลงเมื่อเผลอกำมือที่เจ็บ เทสึเบิกตากว้างก่อนจะเอื้อมมาหมายจะดูว่าฉันเป็นอะไร แต่ฉันถอยหนี
              “ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายเป็นอะไร แต่อย่าทำแบบนี้สิ นายเจ็บฉันเองก็เจ็บนะ! จะทำอะไรก็คิดถึงคนอื่นเขาบ้าง” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นลง ถ้าทั้งฉันและเทสึต่างอารมณ์ร้อนใส่กัน เรื่องมันก็จะไม่จบง่ายๆ
              “ยัยสาหร่าย ยื่นมือมาเดี๋ยวนี้” เทสึพยายามกล่อมฉันให้ยื่นมือข้างขวาที่ฉันซ่อนเอาไว้ข้างหลัง แต่ถึงอย่างนั้นรอยเลือดก็ยังคงมีอยู่บนพื้น ให้ตาย! แผลฉันมันใหญ่กว่าเดิม!
              ฉันมองไปที่มือของเทสึที่มีสภาพไม่ต่างจากมือฉันสักเท่าไหร่ มือเขาแตกเลือดไหลเป็นทางยาวแม้แต่บนกำแพงก็ยังมีเลย นายนี่ชอบใช้กำลังมากกว่าสมองอีกแล้ว
              “นายไปทำแผลเถอะ ฉันไม่เป็นไรหรอก” ฉันบอกก่อนจะหันหลังกลับ แต่……
               พรึบ!! ตุ้บ!!
               ฉันเบิกตากว้างเมื่อเทสึจับฉันให้หันไปหาเขาก่อนที่เขาจะเหวี่ยงฉันลงบนพื้นหญ้า ส่วนตัวเขาเองก็ขึ้นคร่อมฉันเอาไว้ ไม่มีท่าอื่นจะทำแล้วหรอย่ะ!!
               “โอ๊ยยย!!” ฉันร้องเสียงหลงเมื่อเทสึดึงมือฉันไปดู แต่เขากลับจับที่แผลน่ะสิ! นายนี่ไม่มีความอ่อนโยนเอาซะเลย
              “มือเธอ……” 
              “ปล่อยนะ!! ฉันบอกให้ไงเล่า!! โอ๊ยย!!” เทสึบีบข้อมือฉันแน่นเมื่อฉันพยายามต่อต้านเขา น้ำตาไหลอาบแก้มช้าๆเพราะความเจ็บและความกลัว เทสึตอนนี้ดูน่ากลัวเกินไป เขาเปลี่ยนไป!
             “มือเธอไปโดนอะไรมาน่ะ บอกฉันมานะ” เทสึจ้องฉันเขม็ง ใครมันจะไปคิดออกฟร่ะ!!
             “ไปอัดกำแพงมา” ฉันตอบ อ้าว?ถึงฉันไม่ได้อัดจริงๆ แต่สาเหตุมันก็มาจากเทสึอัดกำแพงนั่นแหละ
             “เธออย่ามาโกหกฉันนะ เธอกลัวที่จะมีบาดแผลตามร่างกายมาก ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเธอไปอัดกำแพงมา บอกฉันมาโนริ เธอไปทำอะไรกับมือมา” จะให้บอกจริงๆหรอ?
            “ถ้าบอก…นายจะเชื่อหรือเปล่า?” ฉันเงยหน้าถามเขา ถ้าฉันบอกว่ามือฉันไปโดนอะไรมา เขาจะเชื่อหรือเปล่า
             เทสึพยักหน้าเหมือนเป็นการให้สัญญา แต่ยังไม่ยอมปล่อยมือฉันออก เฮ้อ~ถึงเวลาแล้วสินะ ที่ฉันควรจะบอกความจริงซะที เสียแผนหมด กะว่าจะปิดเป็นความลับตลอดไปนะเนี่ย ท่านพ่อ ท่านแม่ ถ้าเป็นไปได้ขอให้ใครก็ได้ช่วยมาขัดจังหวะตอนนี้ทีเถอะ เพี้ยง!!
             “เกิดอะไรขึ้น!! นั่นนายจะทำอะไรยัยโนริน่ะ ไอระ!!” สมปรารถนาซะด้วย ยัยคาเอเดะโผล่มาพอดี แต่จะดีกว่านี้ถ้าหล่อนไม่เอาแต่ยืนบื้ออยู่แบบนั้น มาช่วยกันหน่อยเซ่!!
              “แกอย่ามัวแต่ยืนดูสิ! มาช่วยฉันก่อน!” ฉันเรียกยัยคาเอเดะ ก่อนที่ยัยนั่นจะถลาเข้ามาช่วยฉัน
              “นี่มันเรื่องของฉันกับโนริ เธออย่ามายุ่ง!” เทสึกระชากฉันให้กลับไปหาเขา แถมอยู่ในมุมองศายังให้อีกด้วย เพราะทันทีที่ฉันหันกลับไป ฉันก็เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเทสึพอดีเป๊ะ แล้วมันใช่เวลามาสาธยายเรื่องนี้มั้ยเนี่ย!!
              “ปล่อยฉันนะ!” ฉันดิ้นพล่านไปมาในอ้อมกอดของเทสึ แต่หมอนั่นกลับอุ้มฉันพาดบ่า กรี๊ดดด!! เลือดมันไหลย้อนกลับอ่ะ! มึน @_@
              “ปล่อยฉันลงนะ! อีตาบ้า!!” ฉันดิ้นแต่หมอนี่ไม่มีท่าทีว่าจะวางฉันลงเลยสักนิด จนกระทั่งมาถึงลานจอดรถ
               ตุ้บ!!
               เทสึโยนฉันเข้าไปในรถพลางจะปิดประตูดังปัง! ก่อนที่เขาจะย้ายมาประจำฝั่งคนขับพร้อมกับคาดเข็มขัดให้ฉันอย่างเสร็จสรรพ นายจะพาฉันไปไหนนนนนน!!!???
               ภายในรถยังคงเงียบสงัด จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของฉันสอนให้รู้ว่าเวลาใดที่เทสึเงียบแสดงว่าเขากำลังอารมณ์ร้อนอยู่ อย่างเช่นในตอนนี้เป็นต้น
               รถของเขาถูกเลี้ยวเข้าสู่คฤหาสน์ไอระ ก่อนที่เจ้าของบ้านอย่างเขาจะเดินตึงตังลงจากรถแล้วอ้อมมาอีกฝั่งเพื่อลากฉันลง
               “เบาๆหน่อยสิ ฉันเจ็บแผลนะ!!” ฉันโวยวายเมื่อเทสึยังคงลากกึ่กจูงฉันเข้าบ้าน ก่อนจะตามด้วยลากขึ้นไปชั้นสองแล้วเปิดประตูพรวดพราดเข้าไปในห้องนอนของเขา
               ฟุ่บ!!
               เทสึเหวี่ยงฉันลงบนเตียงก่อนจะเดินไปอีกทางพร้อมกับถอดเสื้อนักเรียนออก กรี๊ดดดด!!นายจะทำอะไรฉันห๊ะ!! อีตาเทพขี้เก๊ก!!!
               เทสึหันมามองฉันที่ถอยไปอยู่หัวเตียงเป็นที่เรียบร้อยเพราะความกลัว ก็ดูสายตาหมอนี่สิ ปีศาจชัดๆ ท่านแม่~ลูกกลัว T^T
               เทสึสาวเท้ามาหาฉันด้วยความเร็วแบบเหลือเชื่อแค่กระพริบตาหมอนี่ก็คร่อมฉันเอาไว้แล้วอ่ะ ทำไมหมอนี่ถึงได้เคลื่อนไหวเร็วขนาดนี้เนี่ย!!
                เทสึยังคงจ้องฉันเขม็งเหมือนกับว่าฉันทำเขาโกรธเลย ความจริงฉันทำเขาโกรธนั่นแหละ แต่ใครจะไปคิดเล่าว่าเวลาเขาโกรธมันจะน่ากลัวขนาดนี้ แล้วอีกอย่างนี่เป็นครั้งแรกด้วยที่เห็นเทสึโกรธ ก็ปกติหมอนี่มันอารมณ์ดีจะตาย
               ฉันสะบัดหน้าหนีเมื่อเทสึโน้มหน้าลงมา เขาเลยพลาดจากริมฝีปากเป็นพวงแก้มฉันแทน
               “เล่าความจริงมาโนริ เธอไปทำอะไรกับมือมา?” เทสึถามชิดใบหู ลมหายใจร้อนๆของเขาเป่ารดใบหูทำเอาฉันหัวใจเต้นตึกตัก เป็นอะไรไปแล้วเนี่ยฉัน!
               “อะ…เอ่อคือว่า……..” ฉันตอบตะกุกตะกัก ฮื่อๆ ถึงเขาบอกว่าจะเชื่อก็เถอะ แต่มันก็ไม่กล้าอยู่ดี
               “ว่าไง?” คราวนี้ถามชิดริมฝีปากเลย ถ้าไม่ตอบฉันโดนหมอนี่ลงโทษอย่างถึงที่สุดแน่
              “สัญญาแล้วนะว่าจะเชื่อ” ฉันถาม ทุกครั้งที่เราพูดริมฝีปากเราจะขยับไปมา ตายแน่ๆ T^T
               เทสึพยักหน้า ลิ้นร้อนชื้นของเขาง้างปากฉันออกเหมือนเป็นการบังคับกลายๆว่าให้ตอบมา ถ้าไม่ตอบโดน!!
               “คือที่จริงแล้วฉัน…..อุ๊บ~OxO” ยังไม่ทันที่จะตอบเทสึก็ประกบริมฝีปากลงมาก่อน แผ่นลิ้นร้อนชื้นของเขาตวัดไปทั่วเหมือนจะเป็นการออกคำสั่งก่อนตอบว่าให้ตอบความจริงทั้งหมด
                เทสึถอนปากออกก่อนจะเปลี่ยนเป็นซอกคอขาวเนียนแทน เขาตวัดลิ้นไปทั่วก่อนจะถอดปากออก แล้วมาสบตากับฉัน
                “ฉันจะบอกอะไรให้นะโนริ ยิ่งเธอตอบเร็วเท่าไหร่ เธอก็จะรอดต่อการเป็นสมบัติส่วนตัวของฉันเร็วเท่านั้น”  จบคำเทสึก็ประกบริมฝีปากลงมาทันที นายจูบฉันแบบนี้ฉันจะตอบยังไงเล่า!!
                 “ความจริงแล้วฉันไม่ใช่มนุษย์” ฉันอาศัยจังหวะที่เขากำลังยุ่งวุ่นวายกับคอฉันตอบ โอ๊ยยย!!ฉันเริ่มต้านเขาไม่ไหวแล้วนะ เล่นรุกหนักขนาดนี้ใครเขาจะมีสติตอบกันเล่า ตาบ้า!!
                 “แล้วไงต่อ?” นับว่าเก่งมากที่เขาสามารถถามฉันได้ในขณะที่วุ่นวายอยู่กับเนินอกฉันน่ะ
                 “แล้วที่ฉันต้องเป็นแบบนี้เพราะนาย…..”  ฉันเริ่มต้านเขาไม่ไหว และดูเหมือนร่างกายฉันจะตอบสนองเขาด้วย อีตาบ้าใช้เวทย์ควบคุม!! เล่นขี้โกงหนิ!!
                 “ยังตอบไม่หมดเลยนะ หรือว่าเปลี่ยนใจไม่ตอบแล้ว” เทสึปลดกระดุมเสื้อนักเรียนเม็ดแรกของฉันออก ก่อนที่เขาจะเริ่มรุกหนักขึ้น มีสติหน่อยสิโนริ!!
                 “ฉันเป็นเทพแห่งน้ำ ชื่อวอลต์ สเทลลาส” อีตาบ้า!!ฉันยังตอบไม่จบเลยนะ!! แกปลดกระดุมเสื้อฉันอีกทามมมายยย!!!
                “ยังเหลืออีกสองข้อ แต่ไม่ต้องรีบหรอกนะเพราะวันนี้ฉันว่างทั้งวัน” มือแกร่งของเทสึลูบไล้ไปมาตามต้นขา กรี๊ดดด!!ฉันจะไม่ไหวแล้วจริงๆนะ!!
                 “แล้วฉันก็โดนจับทำพันธะกับนายที่เป็นเทพแห่งแสง ส่วนชื่อของนายคือ…….อื้อ~” ฉันครางออกมาเบาๆเมื่อเทสึลูบไล้ไปตามแผ่นหลัง ขาขวาของฉันถูกเทสึจับพาดเอวก่อนที่เขาจะลูบไล้ไปมา นี่เขากำลังทำให้ฉันตอบสนองเขาเพื่อลืมที่จะตอบข้อสุดท้ายงั้นหรอ!?
                 เทสึลากไล้ริมฝีปากลงต่ำเรื่อยๆส่วนกระดุมเสื้อก็ถูกปลดออกเรื่อยๆเช่นกัน ก่อนที่เขาจะโยนเข็มขัดนักเรียนฉันทิ้งไปอีกทางพร้อมกับของตัวเอง
                ฉันเชิดหน้าขึ้นเมื่อเทสึซุกไซ้ไปตามซอกคอ ลีลาแสนเร่าร้อนของเขาทำให้สติฉันหลุดลอยไปทีละนิด ทีละนิด
                “นายชื่อ …..ไลค์ สตาร์!” แต่สุดท้ายฉันก็สามารถตอบข้อสุดท้ายออกไปได้ รอดตาย
                 เทสึหยุดการกระทำทุกอย่างที่กำลังทำอยู่ ดูเหมือนเขาจะหัวเสียอยู่ไม่น้อยที่ฉันตอบทุกคำถามได้หมดก่อนที่ฉันจะตกเป็นของเขา
                 “เกือบสำเร็จแล้วเชียว รู้งี้ฉันรุกหนักกว่าเดิมก็ดีหรอก เสียดายชะมัด” จะมาเสียดายอะไรแถวนี้ ลุกออกไปเลย
                 “รู้แล้วน่า ฉันไม่ใช่คนชอบผิดสัญญาสักหน่อย” เทสึลุกออกไปแต่โดยดีแถมเอาผ้าห่มมาคลุมร่างฉันเอาไว้อีกด้วย จะมาเป็นสุภาพบุรุษเอาตอนนี้มันสายไปแล้วย่ะ!!
                 “เธอรู้นานหรือยังว่าฉันไม่ใช่มนุษย์?” เทสึหันมาถาม ดวงตายังคงฉายแววเสียดาย เลิกคิดเรื่องนั้นได้แล้ว!!
                “ทีแรกก็แค่เอะใจ แต่ถ้าถามรู้เมื่อไหร่ ก็รู้ตอนที่นายกำลังฝึกเวทย์ชั้นสูงอยู่ในห้อง” ฉันแต่งตัวให้เรียบร้อยพลางมองร่างสูงด้วยสายตามาสบอารมณ์ ฉันจะไม่พูดกับนายเลยคอยดู!!!
                “ถ้าเธอไม่ยอมคุยกับฉันจริงๆ ฉันจะให้คนมาทำร้ายตัวเองบ่อยๆฉันเจ็บ เธอก็จะเจ็บเหมือนกัน”  เทสึพูดดักคอ หนอยแก~
                 “แล้วนายรู้ได้ไงว่าฉันไม่มนุษย์?” ฉันถามกลับ สายตายังคงไม่สบอารมณ์เหมือนเดิม จนเทสึเริ่มเคือง
                “ทีแรกก็เอะใจเหมือนเธอนั่นแหละ แต่มารู้ความจริงตอนวันเกิดฉันน่ะ ตอนที่เธอวิ่งออกไปหลังบ้าน” เทสึสารภาพ
                “รู้ทั้งรู้ว่าเป็นฉัน นายยังกล้าจับฉันทำพันธะอีกหรอ!! อีตาบ้า!!” ฉันระเบิดอารมณ์จนเทสึสะดุ้ง หมอนั่นทำหน้าสำนึกผิดก่อนจะพูดเสียงอ่อย
                 “ก็ฉันเพิ่งมารู้เอาทีหลังนี่นาว่าถ้าได้ทำพันธะกับใครแล้วเรากับคนๆนั้นจะเป็นเหมือนคนๆเดียวกัน” 
                 “แล้วรู้หรือเปล่าว่าวิธีถอนพันธะทำยังไง” ฉันถามเสียงเย็นก่อนจะกลับร่างเทพเสร็จสรรพ ในมือมีคฑาคริสตัลที่ตอนนี้ถูกเปลี่ยนเป็นเคียวเล่มยักษ์ไปแล้วเรียบร้อย
                  “จะ ใจเย็นๆก่อนนะ วอลต์ ฉันไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้” เทสึที่กลับร่างเป็นไลค์ สตาร์รีบเอาคันธนูมากันทันทีเมื่อฉันตวัดเคียว อย่างนายไม่มีสิทธิ์มาเรียกฉันแบบนี้!
                   “ใครใช้ให้นายเรียกฉันแบบนั้นกันห๊ะ!!” เส้นอารมณ์ฉันขาดผึ่งลง ไม่ว่ายังไงฉันจะต้องฆ่าผู้ชายคนนี้ให้ได้!!!
การต่อสู้ระหว่างฉันกับไลค์ สตาร์เป็นไปดุเดือด โดยได้ทำการกั้นเขตแดนเป็นที่เรียบร้อย โลกนี้ต่อให้อัดกันรุนแรงแค่ไหนก็ไม่สะเทือนไปถึงข้างนอกหรอก และถ้ามีคนตายก็ไม่มีใครรู้ด้วย!!
                   “นายมันเลว!! นายทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง!!นายต้องตายยยย!!!” ฉันตวัดเคียวไม่ยั้งจนไลค์ สตาร์ต้องหาตัวช่วยเสริมเพราะเริ่มต้านฉันไม่ไหว
                     ไลค์ สตาร์ร่ายเวทย์แห่งพฤกษาออกมาจับตัวฉันไว้ แต่ขอโทษ ถ้าฉันอารมณ์เดือดเมื่อไหร่ ไม่ว่าอะไรก็หยุดฉันไม่ได้ทั้งนั้น!!!
                    ฉับๆๆ!!
                    เครือไม้ถูกฉันตัดออกเป็นชิ้นๆไลค์ สตาร์ยังคงหาหยุดฉันให้ได้ ถ้าอยากรู้จะบอกให้ก็ได้ว่าอะไรที่จะทำให้ฉันหยุดได้นั่นก็คือ….
                    ต้องฆ่าไลค์ สตาร์ให้ได้ยังไงล่ะ!! นี่แหละวิธีที่มีเพียงหนึ่งเดียวในการที่จะหยุดฉันได้!!
                   พรึบๆๆ!!!
                   จู่ๆลูกไฟจำนวนมากก็โผล่มาล้อมตัวฉันเอาไว้พร้อมกับร่างของใครบางคนที่ฉันจำได้เป็นอย่างดี
                   เบิร์น ฟินิกส์!!!!
                   “ทำแบบนั้นวอลต์จะตายนะ!!!” ไลค์ สตาร์พยายามเข้ามาช่วยฉัน แต่เพราะเปลวไฟที่มีมากเกินไปทำให้เขาเข้ามาไม่ได้
                   “ใจเย็นๆก่อนสิไลค์ สตาร์ ยัยนั่นสติแตกไปแล้ว!!!” เบิร์น ฟินิกส์ดึงไลค์ สตาร์ให้ออกห่างจากฉันที่กำลังเดือดจัด แต่ฉันลืมไปอย่างหนึ่ง
                   จุดอ่อนของฉันคือไฟ!!  ให้ตาย!นี่ฉันลืมจุดอ่อนของตัวเองได้ยังไงกัน!!
                   ร่างของฉันทรุดฮวบลงกับพื้นอย่างไม่อาจต้านทานเปลวเพลิงรอบตัวได้ ร่างกายไม่มีแรงเลยสักนิด  ร้อนนนนนน!!!!!!
                    พรึบ!!
                    เปลวเพลิงที่เคยลุกโชติช่วงตอนนี้ได้มอดดับลงแล้ว ไลค์ สตาร์ทิ้งธนูในมือก่อนจะรีบวิ่งมาประคองฉันที่ไม่มีแม้แต่แรงจะหายใจ
                     “ขอบใจนะ ที่หยุดฉันเอาไว้ได้น่ะ” ฉันหันไปขอบคุณเบิร์น ฟินิกส์ ถ้าไม่ได้เธอป่านนี้ฉันคงไม่มีแม้กระทั่งสติแล้วอาจจะพลั้งมือฆ่าไลค์ สตาร์แล้วก็ได้
                    “ไม่เป็นไรหรอก คราวหน้าก็ใจเย็นๆกันหน่อยละกัน” จบคำเบิร์น ฟินิกส์ก็หายด้วยไป แต่จะดีกว่านี้ถ้าหล่อนไม่ทิ้งเปลวไฟเฮงซวยไว้ด้วย จะไปแบบปกติไม่ได้หรอย่ะ!!
                     ทุกอย่างกลับเข้าสู่สภาวะปกติ กลายเป็นห้องนอนของไลค์ สตาร์เหมือนเดิม ไลค์ สตาร์วางฉันลงบนเตียงเบาๆก่อนจะร่ายเวทย์ฟื้นพลังพร้อมๆกับเปลี่ยนชุดให้ หมอนั่นนั่งลงข้างเตียงก่อนจะเท้าคางมองฉัน ด้วยสายตาสงสัยเต็มประดา
                    “มองอะไรไม่ทราบ” ฉันจ้องเขาเขม็ง แต่หมอนั่นไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด
                    “แค่สงสัยน่ะ ว่าทำไมเวลาเธอโกรธถึงได้ดูแข็งแกร่งกว่าปกติ” เขาเอ่ยขึ้น ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
                  “ไม่รู้สิ ฉันเองก็เป็นแบบนี้ตลอดเวลาที่โมโห เพราอะไรก็ไม่รู้” ฉันบอก มันเป็นมาตั้งนานแล้วล่ะ แต่ครั้งนี้ดูจะหนักกว่าเดิมหลายเท่าตัวเลย
                    ไลค์ สตาร์ขอตัวออกไปหาอะไรทานฉันเลยถือโอกาสใช้เขาไปในตัวโดยการเอาอาหารมาให้ทาน ใช้พลังงานไปเยอะมันก็ต้องหิวกันบ้างอะไรบ้าง
                     ฉันกลับร่างมนุษย์ก่อนจะตวัดขาลงจากเตียง ก่อนจะเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าของเทสึ หมอนี่ชอบเอาอะไรต่อมิอะไรมาใส่ไว้ในตู้ประจำ จนมันจะทะลักออกมาอยู่แล้ว
                     เมื่อเปิดออก สิ่งที่อยู่ข้างในก็ทำให้ฉันประหลาดใจนิดหน่อยเพราะมันดูสะอาดกว่าปกติ เสื้อผ้าถูกจัดเป็นระเบียบเรียบร้อยและผ่านการรีดทุกตัว แถมยังมีกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆอีกด้วย กลิ่นกุหลาบ…..กลิ่นประจำตัวของเขา
                     จู่ๆสายตาของฉันก็สะดุดเข้ากับอัลบั้มรูปสีขาวซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ที่เทสึจะมี ถึงหมอนั่นจะเป็นเทพแห่งแสงแต่สีโปรดของหมอนี่ก็คือสีดำล่ะ
                     ฉันดึงอัลบั้มรูปที่ว่าออกมาจากตู้ ก่อนจะถือไปวางที่เตียง อย่างเทสึเป็นคนที่รอบคอบอยู่พอตัวการจะเปิดอัลบั้มรูปนี้คงไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอัลบั้มรูปสีขาวแบบนี้
                       และก็เป็นอย่างที่ฉันคิด ฉันพยายามเปิดอัลบั้มรูปอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ ฉันว่าภาพข้างในต้องเป็นรูปที่เทสึหวงมากและรักมากๆเลยล่ะ ไม่อย่างนั้นคงไม่ร่ายเวทย์ล็อคไว้หรอก ว่าแต่รหัสมันคืออะไรล่ะ?
                      “ไอระ เทกะ” ฉันลองรหัสแรก ฉันว่าเทสึมันคงไม่บ้าเอาชื่อตัวเองเป็นรหัสผ่านหรอก ฉันเองก็โง่อยู่เหมือนกันนะเนี่ย
                      “ไลค์ สตาร์” ฉันลองชื่อเทพเขาบ้างแต่ผลก็ออกมาเป็นแบบเดิม หมอนี่มันใช้รหัสอะไรฟร่ะ!
                      ว่าแต่…..มันคงไม่ผิดใช่มั้ยถ้าฉันจะลองใช้ชื่อตัวเองน่ะ….
                      ฉันหายใจเข้าลึกๆก่อนจะจ้องมองอัลบั้มรูปในมือ ขอให้เปิดได้ทีเถอะ เพี้ยง!!
                       “เอนาริ เลมอน”
                      พรึบ!!
                      โอ้เยส!! เปิดได้อ่ะ!! ^O^!!
                      ฉันค่อยๆเปิดอัลบั้มรูปด้วยหัวใจที่เต้นตึกตักเหมือนจะระเบิดออก ก่อนที่รูปที่อยู่ในนั้นจะปรากฏสู่สายตาฉัน ซึ่งมันก็ทำให้ฉันถึงกับใบ้กินทันที เพราะรูปที่อยู่ข้างในคือ…..
                       รูปของฉันเอง!!! แถมมีทุกอิริยาบถด้วย! อีตาบ้าแกแอบถ่ายรูปฉ้านนนน!!!
                       ฉันมองรูปนับร้อยในอัลบั้มซึ่งมันเป็นรูปของฉัน มีทั้งรูปตอนที่ฉันได้รับเลือกให้เป็นควีน รูปตอนที่ฉันลงพื้นที่สืบคดี รูปตอนที่ฉันนั่งทำงานในห้องสภานักเรียน รูปตอนที่ฉันแสดงละคร แม้กระทั่งรูปที่ฉันหลับในห้องสภาฯ หมอนี่ไปเอาเวลาที่ไหนมาตามถ่ายรูปฉันเนี่ย! >//<
                       เอ๊ะ!!รูปนี่ใครกัน??
                       ฉันมองรูปใบหนึ่งที่ไม่ใช่รูปของฉันอย่างสงสัย มันเป็นรูปของผู้หญิงคนหนึ่ง เธอคนนั้นมีดวงตาสีน้ำตาล ผมยาวสีทองที่ยาวถึงกลางหลังยิ่งทำให้เธอดูโดดเด่น เธออยู่ในชุดเดรสแขนพองสีเงินที่ยาวถึงข้อเท้า บนศีรษะของเธอมีมงกุฏที่มีสัญลักษณ์ของดวงดาวประดับอยู่ซึ่งบ่งบอกได้อย่างดีว่าเธอคนนี้เป็นใคร ในมือขวาถือธนูมาสเตอร์คอลแห่งแสงเอาไว้ ข้างกายของเธอมีชายหนุมรูปงามราวเทพบุตรยืนอยู่ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน……ไลค์ สตาร์
                      ในรูปไลค์ สตาร์ยิ้มกว้างอย่างมีความสุข มือขวาของเขาโอบเอวเธอคนนั้นเอาไว้ รอยยิ้มนี้ฉันไม่เคยเห็นจากไลค์ สตาร์มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นร่างเทพหรือร่างมมนุษย์ เธอคนนี้ดูท่าว่าจะเป็นดวงใจของเขาสินะ
                     ฉันเอาอัลบั้มรูปไปเก็บไว้ที่เดิมเป็นจังหวะเดียวกับที่เทสึเดินเข้ามา
                    “ทำอะไรน่ะ?” เทสึถามก่อนจะวางถาดอาหารลง แววตาของเขาบ่งบอกเป็นอย่างดีว่ารู้สึกกระวนกระวายใจ ฉันรู้ว่าทำไม
                   “เปล่า แค่เปิดดูเฉยๆว่ามันจะรกเหมือนเดิมหรือเปล่า” ฉันเดินกลับมาที่เตียงก่อนจะนั่งทานอาหารเงียบๆ แต่ใครกันจะรู้ว่าฉันกำลังเจ็บปวดอยู่

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา